Friday, 14 February 2025
NEWS FEED

สตูล ศรชล.จังหวัดสตูล/นก.พตต.ศรชล.ภาค 3 เป็นผู้แทนทัพเรือภาคที่ 3 เยี่ยมทหารผ่านศึกที่พิการทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่

(31 ม.ค.68) พลเรือโท สุวัจ ดอนสกุล ผู้อำนวยการ ศรชล.ภาค 3/ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 มอบหมายให้ นาวาเอกแสนย์ไท บัวเนียม รองผู้อำนวยการ ศรชล.จังหวัดสตูล /ผบ.นก.พตต.ศรชล.ภาค 3 เป็นผู้แทน ทัพเรือภาคที่ 3 พร้อมด้วย เรือเอกอมรพงศ์ ด่านปาน ผบ.เรือ ต.114 เรือเอกพงศธร พุ่มวงศ์สำเนียง ผบ.เรือ ต.273 และ เรือโทสุโภชน์ ทองย้อย รองผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศยาน และรักษาฝั่งที่ 452 เดินทางไปเยี่ยม จ่าเอกยูสุบ มรรคาเขต อายุ 63 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 45 หมู่ที่ 2 ต.ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง จังหวัดสตูล

ซึ่งทุพพลภาพร่างกายขาด้านขวาจากการถูกผู้ก่อการร้ายลอบวางระเบิดขณะปฏิบัติหน้าที่ พร้อมทั้งให้กำลังใจและมอบกระเช้าและเงินช่วยเหลือให้กับกำลังพลทหารผ่านศึกที่ทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่ ในส่วนของกองทัพเรือ 

จากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย ส่งผลให้กำลังพลกองทัพเรือที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้บาดเจ็บ ทุพพลภาพ และเสียชีวิต ซึ่งกระทบต่อการดำเนินชีวิตของกำลังพลและครอบครัว แม้ว่ากองทัพเรือได้มอบเงินเพื่อช่วยเหลือตามระเบียบกองทัพเรือแก่กำลังพลและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว แต่ยังมีจำนวนไม่เพียงพอต่อความต้องการของกำลังพล ด้วยเหตุข้างต้น กองทัพเรือจึงได้จัดตั้ง “กองทุนน้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และพื้นที่รับผิดชอบกองทัพเรือ” เพื่อช่วยเหลือกำลังพลและครอบครัวของกองทัพเรือที่บาดเจ็บ ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และพื้นที่รับผิดชอบกองทัพเรือ ตลอดจนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้แก่กำลังพล ที่ปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติอย่างกล้าหาญดีเยี่ยม ทั้งนี้กองทุนน้ำใจไทย ฯ ได้ดำเนินการการช่วยเหลือกำลังพลกองทัพเรือและครอบครัวอย่างต่อเนื่องจวบจนปัจจุบัน โดยการมอบเงินช่วยเหลือและทุนการศึกษาแก่กำลังพลกองทัพเรือและทายาทของผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการชายแดน

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือได้มีความห่วงใย และให้ความสำคัญกับการดูแลคุณภาพชีวิตของกำลังพลในกองทัพเรือทุกระดับ จึงได้มอบกระเช้าของขวัญพร้อมกับเงินช่วยเหลือให้แก่ทหารผ่านศึกที่ทุพพลภาพ จากการปฏิบัติหน้าที่ในส่วนของกองทัพเรือ เพื่อสร้างขวัญ กำลังใจ ส่งเสริมคุณภาพชีวิต และช่วยเหลือกำลังพลกองทัพเรือและครอบครัวให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีเกียรติในสังคม ตลอดจนเพื่อให้บุตรของกำลังพลมีทุนในการศึกษา โดยจัดกิจกรรมเยี่ยมเยียน มอบเงินช่วยเหลือ และสิ่งของให้กับกำลังพลทหารผ่านศึกที่ทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่เป็นประจำทุกปีเหตุด่วน เหตุร้าย ภัยทางทะเล ต้องการความช่วยเหลือทางทะเล โทร. 1465 แจ้ง ศปก.ศรชล.ภาค 3 หรือ โทร. 1696 แจ้ง ศปก.ทรภ.3

‘โตโยต้า มอเตอร์’ จัดแข่งแบดมินตัน ‘ปริ๊นเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2025’ ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา

(1 ก.พ. 68) บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แถลงจัดแข่งแบดมินตันรายการ ‘ปริ๊นเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2025’ ระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 300 ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พร้อมเงินรางวัลรวม 240,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 8,286,000 บาท

ฤดูกาลแข่งขันของสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) ในปี 2025 ประเทศไทยได้รับสิทธิเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันแบดมินตัน รายการ ‘ปริ๊นเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2025’ ระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 300 ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พร้อมเงินรางวัลรวม 240,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 8,286,000 บาท ณ อาคารกีฬานิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ ระหว่างวันที่ 28 มกราคม - 2 กุมภาพันธ์ 2568 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา อีกทั้งเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้พี่น้องประชาชนคนไทยโดยเฉพาะเยาวชน ให้หันมาสนใจชม เชียร์ และเล่นกีฬาแบดมินตัน ยกระดับฝีมือและมาตรฐานของนักแบดมินตันไทยให้ก้าวสู่ระดับนานาชาติ รวมถึงเพื่อประโยชน์ด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยอีกด้วย

นายณัทธร ศรีนิเวศน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในฐานะผู้สนับสนุนหลักของรายการ โตโยต้ามีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อน และพัฒนาวงการกีฬาแบดมินตันไทยให้ประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่อง โดยโตโยต้าเชื่อมั่นว่าการจัดการแข่งขันในประเทศไทยครั้งนี้ จะเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่นักกีฬาไทยจะได้แสดงศักยภาพ สร้างสรรค์ผลงานที่ยอดเยี่ยม สร้างความสนุกเร้าใจ และความสุขให้กับแฟนกีฬาแบดมินตันไทย อีกทั้งยังสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนไทยให้หันมาสนใจเล่นกีฬาแบดมินตันให้มากยิ่งขึ้น และ ผมขอขอบคุณ การกีฬาแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่ได้ให้โอกาส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ในการเป็นผู้สนับสนุนหลักสำหรับการจัดการแข่งขัน ‘ปริ๊นเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2025’ ครั้งนี้

ร่วมเชียร์นักตบขนไก่ไทย พร้อมต้อนรับนักกีฬาแบดมินตันระดับโลก ระหว่างวันที่ 28 มกราคม - 2 กุมภาพันธ์ 2568 ที่อาคารกีฬานิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ

นายณัทธร ศรีนิเวศน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วย คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ นายปรีชา ลาลุน รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ร่วมแถลงข่าวจัดการแข่งขันแบดมินตันรายการ ‘ปริ๊นเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2025’

‘เอกนัฏ’ เอาจริง!! เดินหน้า ‘ถอนรากถอนโคน’ สั่งหยุดกิจการ พร้อมยึดใบอนุญาต โรงงานพลาสติกเถื่อนสมุทรสาคร ที่เกิดเพลิงไหม้ ผงะ!! พบของกลางกว่า 170 ล้าน

(1 ก.พ. 68) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ส่ง ‘ทีมสุดซอย’ ขยายผลตรวจโรงงานรีไซเคิลพลาสติกเถื่อนสมุทรสาคร ที่เกิดเหตุไฟไหม้ ผงะพบเปลือกหุ้มสายไฟหลอมเป็นเม็ดพลาสติกมูลค่ากว่า 170 ล้านบาท สั่งหยุดกิจการ พร้อมยึดใบอนุญาต ฟันข้อหาตั้ง-ประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต

จากกรณีเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บพลาสติกรีไซเคิล เมื่อวันที่ 29 ม.ค.68 พบข้อมูลทางทะเบียน ‘บริษัทมหาโชค มหาชัย เทรดดิ้ง’ จดทะเบียนบ้านที่ 111/11 ม. 6 ต.ยกกระบัตร อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร โดยมีรายงานว่าบริษัทที่ปรากฏชื่ออยู่ในโกดังที่เกิดเหตุเพลิงไหม้มีความเชื่อมโยงกับบริษัทที่อยู่ในละแวกเดียวกันทั้งหมด

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ ชุดปฏิบัติการสุดซอย กระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงาน รมว.อุตสาหกรรม, นายเอกนิติ รมยานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม, นายสุนทร แก้วสว่าง รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม, เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม, สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ลงพื้นที่โกดังที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว เพื่อตรวจสอบสาเหตุที่เกิดเพลิงไหม้ ป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ รวมไปถึงตรวจสอบกรณีการขออนุญาตประกอบกิจการไม่ถูกต้องด้วย 

นายเอกนัฏ กล่าวต่อว่า ได้รับรายงานจากชุดปฏิบัติการสุดซอยว่า เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม ร่วมกับตำรวจ บก.ปทส. ได้ขอหมายค้นจากศาลจังหวัดสมุทรสาครเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และบริษัทใกล้เคียงที่พบว่ามีความเกี่ยวพันกันได้แก่ บริษัท เอ็ม ซี ที รอยัล วูด จำกัดและ บริษัท บีเค รีไซเคิล จำกัด ที่ตั้งอยู่ห่างกันเพียง 100 เมตร จากการตรวจค้นทั้ง 2 บริษัท และโกดังที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ พบกองพลาสติกเปลือกหุ้มสายไฟจากต่างประเทศที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการหลอมเป็นเม็ดพลาสติกรวมแล้วกว่า 6,900 ตัน ซึ่งสามารถนำไปหลอมเป็นเม็ดพลาสติกใหม่ได้มูลค่ากว่า 170 ล้านบาท 

“ทีมสุดซอยเข้าตรวจค้นพบการเปลี่ยนแปลงจากบริษัท เอ็ม ซี ที รอยัล วูด จำกัดและ บริษัท บีเค รีไซเคิล จำกัด เป็น บริษัท เถิงต๋า พลาสติก แอนด์ เมทเทิล จำกัด และ บริษัท ปวริศาแอสเสท จำกัด ภายในโรงงานพบการประกอบกิจการผิดประเภทมีการตั้งโรงงานบดย่อยหลอมพลาสติก เป็นการตั้งโรงงานและประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่ทราบที่มาของวัตถุดิบ“ นายเอกนัฏ กล่าวระบุ 

รมว.อุตสาหกรรม กล่าวต่อว่า อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร จึงได้ออกคำสั่งให้ระงับการกระทำที่ฝ่าฝืนทันที และจะเพิกถอนใบอนุญาตของ บริษัท เอ็ม ซี ที รอยัลวูด จำกัด และ บริษัท บี.เค. รีไซเคิล จำกัด พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมายกับทั้ง 2 บริษัท รวมทั้งเจ้าของที่ดินที่ตั้งโรงงาน ในข้อหาตั้ง และประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต  ซึ่งหากพบผู้กระทำผิดเพิ่มก็จะดำเนินคดีร่วมกันกระทำผิดเพิ่มเติมจนถึงที่สุด ทั้งนี้หากประชาชนพบปัญหาเกี่ยวกับภาคอุตสาหกรรม สามารถแจ้งเรื่องร้องเรียนผ่าน ‘แจ้งอุต’ https://landing.traffy.in.th?key=wTmGfkav หรือไลน์ไอดี ‘traffyfondue’ เพื่อทางกระทรวงฯ จะเร่งส่งทีมสุดซอยลงจัดการปัญหาหรือส่งต่อให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป

ภาค 2 กดดันหนักตัดวงจรโจรออนไลน์ ซีลชายแดนอรัญฯ ช่วยล่าม – หญิงไทยถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์บอสจีน ขัง ซ้อมทรมาน พบอีก 'ช่องทางลับ' ขนบัญชีม้า - แอดมินเว็บพนันข้ามแดน บุกบ้าน 'เจ๊ ม.' คิดค่าหัวผ่านทางเปิดบ้านพาเลาะไปปอยเปต

(1 ก.พ.68) พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2) เปิดเผยความคืบหน้า ยุทธการ 'อรัญฯ 68 SEAL BORDER' ตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มิจฉาชีพออนไลน์ โดยหลังจาก กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 (บก.สส.ภ.2) นำกำลังสืบสวนเกาะติดเส้นทางชายแดนไทย - กัมพูชา ฝั่งอำเภออรัญประเทศอย่างเข้มข้นตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม ที่ผ่านมา ได้ทำการสืบสวนสอบสวนจับกุมผู้กระทำผิดได้หลายราย อาทิ จับกุมชายชาวกัมพูชาที่ลักลอบขนโทรศัพท์มือถือจำนวนมากจากไทยข้ามแดน ได้ช่วยเหลือล่ามภาษาจีนที่ถูกซ้อมทรมาน และช่วยคนไทยที่ถูกพาข้ามช่องทางธรรมชาติ ไปเป็นบัญชีม้าสแกนหน้า และถูกขังอยู่ฝั่งปอยเปต ส่วนอีกรายสืบภาค 2 ได้แฝงตัวรับงานแอดมินเว็บพนัน ทำให้จับกุมขบวนการนำพาข้ามแดนทางช่องทางธรรมชาติ ผ่านบ้าน 'เจ๊ ม. - ตา ท.' ซึ่งจากการสืบสวนพบว่าคิดค่าหัวเปิดช่องข้ามแดน หัวละ 7,000 บาท และพบช่องลับที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์นำพาบัญชีม้า และแอดมินหลอกลวงไปทำงานให้บอสคนจีน

ผบช.ภ.2 กล่าวว่า จากการเปิดยุทธการที่ผ่านมาตรวจพบคนจีนเดินทางเข้าไทย ผ่านช่องทางธรรมชาติ ที่ อ.ตาพระยา อ.อรัญประเทศ จว.สระแก้ว ปลายทางต้องการไปทำงานเป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์ในเมียนมา โดยผ่านทางชายแดนอีกฝั่งหนึ่ง นอกจากนี้ยังคุมตัวล่ามแปลให้คนจีน หนีข้ามแดนเข้าทาง อ.โคกสูง จว.สระแก้ว หลังถูกซ้อมทรมานจนหลบหนีออกมา 

พล.ต.ท.ยิ่งยศ กล่าวอีกว่า ขณะที่ตำรวจสืบภาค 2 เปิดยุทธการ อรัญฯ 68 SEAL BORDER  พบหญิงบัญชีม้ารายหนึ่งขอความช่วยเหลือหลังถูกกักขัง อยู่ในออฟฟิศคอลเซ็นเตอร์ฝั่งปอยเปต จึงประสานงานทางการฝั่งปอยเปตช่วยเหลือมาได้ มาสอบสวนอย่างละเอียด พบข้อมูลออฟฟิศบัญชีม้าสแกนหน้า และช่องทางลับขบวนการพาคนข้ามแดนทำงานให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ 

ด้าน พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 กล่าวเพิ่มเติมว่า มีหญิงสาวรายหนึ่ง อยู่ กทม. พบว่าถูกชวนไปทำงานให้เช่าบัญชี เพื่อทำเว็บพนันโดยแจ้งว่าทำงานในตลาดโรงเกลือในฝั่งไทย มีขบวนการมารับจาก กทม. พาไปเปิดบัญชีในห้างดังย่านลาดพร้าว  ก่อนนำพาไป จว.สระแก้ว แต่พอหลวมตัวเข้าไปทำงาน กลับพาข้ามแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้านผ่านช่องทางลับ เป็นช่องทางธรรมชาติใกล้ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง มีขบวนการนำพาเป็นทอด ๆ มีคนกัมพูชามารับพาไป ส่งให้คนอินเดียที่ฝั่งปอยเปต อยู่ระหว่างการขยายผลดำเนินคดี จากการสืบสวนสอบสวนพบว่าเมื่อไปถึงฝั่งเพื่อนบ้านจะพาไปที่ออฟฟิศพักคอย พาไปเปิดบัญชีคริปโต พาไปเป็นม้าสแกนหน้า และถูกกักขัง เมื่อบัญชีถูกนำไปก่อเหตุ หลังถูกผู้เสียหายแจ้งความทำให้บัญชีถูกบล็อก ต้องถูกปล่อยกลับ แต่ขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับไม่ปล่อยให้กลับ จนต้องขอความช่วยเหลือ โดยบัญชีม้ารายนี้ได้เงินตอบแทนกลับมาเพียง 10,000 บาท แต่ต้องเปิดบัญชีม้าถึง 4 บัญชี  

ผบก.สส.ภ.2 กล่าวว่า อีกรายพบขบวนการพาพนักงานออฟฟิศไปทำงาน โดยอ้างว่าเป็นแอดมินเว็บพนัน จึงส่งสายลับชุดสืบสวน บูรพา 491 บก.สส.ภ.2 เข้าไป พร้อมกำลังตำรวจสืบสวนติดตาม พบว่ามีขบวนการนำพาช่องทางลับอีกหนึ่งจุด จุดนัดพบใกล้ห้างสรรพสินค้าอีกแห่งหนึ่ง ใน อ.อรัญประเทศ เมื่อพาไปใกล้หน้าด่านพรมแดนคลองลึก จะมีรถเก๋งมารับขับพาไปตามถนนเลาะแนวชายแดนไทย-กัมพูชา แล้วพาผ่านด่านทหารพรานเข้าไป มาถึงบ้านเจ๊ ม. และ ตา ท. ที่มีพฤติการณ์เปิดช่องทางธรรมชาติให้คนข้าม โดยคิดค่าผ่านทาง หัวละ 7,000 บาท เมื่อเข้าไปจะมีคนเปิดประตูให้ พาเข้าถนนลูกรังมุ่งหน้าทางคลองพรมโหดซึ่งเป็นคลองที่กั้นเขตแดนระหว่างไทย - กัมพูชา ตำรวจภาค 2 จึงบุกเข้าจับกุมได้ทั้งหมด คุมตัวเจ๊ ม. และ ตา ท. ทำประวัติ เพื่อขยายผลต่อไป

“จากการสอบสวนกรณีนี้พบคนขับรถที่พาไปเป็นชายไทย ชาวอำเภออรัญประเทศ จว.สระแก้ว จากการซักถามยอมรับว่า ได้รับว่าจ้างจากชาวกัมพูชา ให้มารับคนพาข้ามแดนที่บริเวณดังกล่าว โดยได้ค่าจ้างหัวละ 50 บาท  บก.สส.ภ.2 อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนขยายผลหารายละเอียดและผู้เกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าว อย่างไรก็ตามตำรวจภูธรภาค 2 จะปฏิบัติการนี้อย่างเข้มข้นร่วมกับทุกหน่วยงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อจับกุมและขยายผลอย่างเด็ดขาด รวมถึงกดดันและตรวจตราช่องทางธรรมชาติ ไม่ให้เอื้อต่อการลักลอบข้ามแดนไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และเว็บพนันต่าง ๆ” ผบก.สส.ภ.2 กล่าว

ศาลเจ้าไต้ฮงกง มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดพิธีจุดเทียนเปิดงานเทศกาลตรุษจีน (ชิวสี่) ประจำปี 2568 สวดชัยมงคลคาถา (พะเก่ง) เฮง เฮง เฮง ตลอดปีมะเส็ง

(1 ก.พ.68) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ที่ปรึกษาประธานกรรมการ ดร.สุทัศน์ เตชะวิบูลย์ รองประธานกรรมการ นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ คณะกรรมการ ผู้ช่วยกรรมการ และผู้บริหารมูลนิธิ ร่วมในพิธีจุดเทียนเปิดงานเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2568 ในวันชิวสี่ หรือวันที่สี่ของเทศกาลตรุษจีน  ซึ่งเป็นวันที่ประกอบพิธีอัญเชิญ (รับ) เทพเจ้าลงจากสวรรค์ และเริ่มประกอบพิธีสงฆ์สวดชัยมงคลคาถา (พะเก่ง) สะเดาะเคราะห์ แก้ปีชง เสริมโชคลาภ เสริมดวงชะตา โดยคณะสงฆ์ฝ่ายอนัมนิกาย ณ ศาลเจ้าไต้ฮงกง มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ

เทศกาลตรุษจีน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ประจำปี 2568 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 มกราคม - 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 โดยขอเชิญชวนศิษยานุศิษย์ และสาธุชนทุกท่าน “สักการะหลวงปู่ไต้ฮง” ขอพรเนื่องในเทศกาลตรุษจีนเพื่อความเป็นสิริมงคลต้อนรับปีใหม่ ลงชื่อสวดชัยมงคลคาถา หรือ “พะเก่ง” เพื่อสะเดาะเคราะห์ ขอให้ครอบครัวมีสุข เสริมโชคลาภ เสริมดวงชะตา เสริมความมั่นคงสถาพร ตลอดปี พร้อมรับประทาน สาคูสิริมงคล เพื่อความกลมเกลียวและอยู่เย็นเป็นสุข รับฮู้ (ยันต์) ของหลวงปู่ไต้ฮง  ติดหน้าบ้าน หรือพกติดตัวเพื่อคุ้มครอง เคาะระฆังทอง ให้ก้องกังวานเพื่อให้ชีวิตสดใส การงานรุ่งเรืองระบือไกล และร่วมขอพรเทพยดาฟ้าดินเนื่องในวันประสูติ (ทีกงแซ) ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 ขออำนาจฟ้าดินเป็นที่พึ่ง ขอให้หลวงปู่ไต้ฮง และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนนับถือ ช่วยดลบันดาลให้ประสบโชคดีตลอดปีใหม่ โดยในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเปิดบริการโต้รุ่งให้แก่ผู้มีจิตศรัทธาได้เข้าสักการะ ทำบุญตลอดคืน

สำหรับท่านที่สะดวกการทำบุญออนไลน์  พิธีสวดชัยมงคลคาถา [พะเก่ง] มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดให้มีการลงชื่อสวดชัยมงคลคาถา ทำบุญพะเก่งออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ได้ตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2568 ที่ www.pttfny.net/cnny ให้ผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านได้ร่วมพิธีเพื่อสริมความมั่งมีศรีสุขตลอดปีมะเส็ง ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418

** เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทย เกิดสถานการณ์ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก [PM2.5] เกินมาตรฐานอันเป็นวิกฤตการณ์ที่ศาลเจ้าไต้ฮงกง มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ตระหนัก และบูรณาการการจัดการเรื่อยมา ไม่ว่าจะเป็นการลดกระถางธูปสักการบูชา การงดการเผากระดาษชุดเครื่องสักการะที่ศาลเจ้าฯ การติดตั้งเครื่องบอกค่า PM2.5 อัตโนมัติ รวมถึงติดป้ายรณรงค์ขอความร่วมมือผู้มีจิตศรัทธางดจุดธูป-เทียน และการจัดเก็บธูป-เทียนที่จุดแล้วเร็วขึ้น รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่ออกแจกจ่ายหน้ากากอนามัยแก่ประชาชนในพื้นที่ประสบภัย ด้วยความห่วงใย และ ตระหนักถึงสุขภาพประชาชนผู้มีจิตศรัทธาและสิ่งแวดล้อมส่วนรวม รวมถึงจัดให้มีมาตรการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อไวรัสทุกวันหลังปิดทำการในแต่ละวัน และจัดจุดปฐมพยาบาลเพื่อดูแลและอำนวยความสะดวกแก่ผู้มีจิตศรัทธาที่มาร่วมงาน **

ชมภาพบรรยากาศ และรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และเฟชบุ๊ก แฟนเพจ facebook.com/atpohtecktung หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418

‘ดร.สังศิต’ เผย!! การพนันเสี่ยงโชค มีมานานกว่า 4,000 ปี ในประเทศจีน ชี้!! บ่อนไม่กลัว ‘นักพนันที่เก่ง’ แต่กลัว ‘นักพนันที่เลิกเล่น’ มากกว่า

(1 ก.พ. 68) รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา นักวิชาการที่ศึกษาติดตามเรื่องเศรษฐกิจนอกกฎหมาย เผยแพร่บทความเรื่อง ‘อย่าปลุกปีศาจการพนันให้ตื่น’ มีเนื้อหาดังนี้

มีการขุดพบลูกเต๋าซึ่งเป็นเครื่องเล่นการพนันชนิดหนึ่งที่มีอายุราว 4000 ปีในประเทศจีน นั่นแสดงว่าคนจีนน่าจะมีประสบการณ์ในการเล่นการพนันหรือมีการเสี่ยงทาย หรือเสี่ยงโชคมาเป็นเวลายาวนานแล้ว นอกจากนี้ยังพบว่าในประเทศที่มีอารยธรรมเก่าแก่เช่นอินเดียก็มีการเล่นการพนันกันมาเป็นเวลาช้านานแล้วเช่นเดียวกัน จากหลักฐานที่ปรากฏแสดงว่าการพนันไม่ได้เกิดขึ้นด้วยตัวของมันเอง แต่เกิดจากมนุษย์เป็นคนสร้างมันขึ้นมา แต่เมื่อเวลาผ่านไป การพนันกลับมีอิทธิพลอยู่เหนือมนุษย์จนอาจกล่าวได้ว่า ในปัจจุบันมนุษย์ผู้สร้างเกมส์การพนัน แต่กลับไม่มีความสามารถที่จะมีอิทธิพลเหนือเกมส์การพนันได้ ในทางตรงกันข้าม การพนันต่างหากที่กลับมีอิทธิพลเหนือชีวิตและการตัดสินใจของมนุษย์ และมันเป็นฝ่ายที่ครอบงำสังคมมนุษย์จนยากที่ มนุษย์จะหลุดพ้นออกจากการเสพติดการพนันได้

มีคำถามว่ามนุษย์เข้าไปเกี่ยวข้องกับการพนันได้อย่างไร ? มีทฤษฎีที่อธิบาย เรื่องนี้โดยโยงใยกับเรื่องการผลิตในยุคโบราณของมนุษย์ ว่าเนื่องจากการผลิตของมนุษย์มีความไม่แน่นอน เพราะต้องพึ่งพาธรรมชาติแต่เพียงอย่างเดียว ดังนั้น มนุษย์จึงได้นำเรื่องของการเสี่ยงทายผลผลิตโยงเข้ากับเรื่องของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ความลี้ลับเหนือธรรมชาติที่ มนุษย์มองไม่เห็นและอธิบายไม่ได้ การเสี่ยงทายที่มีความไม่แน่นอนนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของ การพัฒนาจนเป็นเกมส์การพนันของมนุษย์ในเวลาต่อมา

สรุปได้ว่าการพนันไม่ได้ตกจากฟ้า ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่มนุษย์เป็นผู้สร้างการพนันขึ้นมา ด้วยเหตุผลเพื่อความสนุกสนานและการบันเทิงของชุมชนในยามว่างจากฤดูกาลผลิต

แต่ต่อมา มนุษย์ได้สร้างกฎเกณฑ์กติกาต่าง ๆ ของเกมส์การพนันขึ้น เพื่อให้ผู้เล่นทุกคนที่เข้าร่วมการเสี่ยงโชคจากการพนันยอมรับว่ากฎกติกาเหล่านั้นว่าเป็นสิ่งที่ผู้เล่นทุกคนต้องให้การยอมรับตั้งแต่เริ่มต้น

อย่างไรก็ดีเราต้องไม่ลืมว่าประการแรก ผู้ที่สร้างกฎกติกา ทั้งหมดขึ้นมาตั้งแต่แรกเริ่มเป็น ‘เอกชน’ ไม่ใช่รัฐหรือรัฐบาลที่อาจทำหน้าที่อย่างเป็นกลางได้ดีกว่าเอกชน

การพนันซึ่งแต่เดิมน่าจะเป็นเพียงการละเล่นเพื่อความสนุกสนาน และการบันเทิงเป็นหลัก ในเวลาต่อมา เมื่อเศรษฐกิจได้พัฒนาจนเกิดการใช้ ‘เงิน’ เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนแทนสิ่งของ การค้าของมนุษย์จึงเกิดการขยายตัวของการแลกเปลี่ยนมากยิ่งขึ้น และการพนันได้พัฒนาไปเป็นธุรกิจการค้าประเภทหนึ่งด้วย เมื่อการพนันได้กลายเป็นการค้าเสียแล้ว จึงไม่มีวันที่ผู้ประกอบธุรกิจการค้าคนใดจะสร้างกฎกติกาที่ให้ความยุติธรรมอย่างเท่าเทียมกันของสองฝ่าย คือระหว่างฝ่ายผู้เล่นกับเจ้ามือ ในเมื่อมันกลายเป็น ธุรกิจการค้า เจ้ามือจึงต้องกำหนดกติกาที่ทำให้ตัวเองมีโอกาสได้เปรียบและได้กำไรจากการทำธุรกิจการค้านั้นๆ จากบรรดานักการพนันทั่วไป เสมอ

ประการที่สอง เพราะเหตุว่า มนุษย์เป็นผู้สร้าง หรือผู้ ประดิษฐ์คิดสร้างเกมส์การพนันขึ้นมา ดังนั้น เพื่อให้ผลลัพธ์ของเกมส์การพนันที่คิดขึ้นเกิดประโยชน์ให้แก่เจ้ามือได้มากที่สุด เกมส์การพนันจึงต้องสร้างความตื่นเต้นให้แก่ผู้เล่นการพนันให้ได้มากที่สุด แต่เกมส์การพนันดังกล่าวต้องใช้เวลา ในการตัดสินแพ้ชนะให้เร็วที่สุด ด้วย เพราะความเร็วในการตัดสินแพ้ชนะของเกมส์คือผล ตอบแทนหรือผลกำไรของเจ้ามือนั่นเอง

ประการที่สาม เจ้ามือหรือผู้สร้างเกมส์การพนันจำเป็นต้องค้นหาวิธีให้ผู้เล่นหลงใหลกับเกมส์การพนัน และสถานที่เล่นการพนันให้มากที่สุด ดังนั้นการจัดสถานที่เพื่อให้ผู้เล่นรู้สึกผ่อนคลาย จนลืมเวล่ำเวลาของการเล่นการพนันไป ดังนั้นโดยทั่วไป หากไม่มีกฎหมายห้าม สถานคาสิโนมักอนุญาตให้ผู้เล่นสามารถสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ได้ คาสิโนบางแห่งมีการบริการอาหารชั้นเลิศจากพ่อครัวฝีมือเยี่ยม และบริการ เครื่องดื่มและแอลกอฮอล์ฟรี สำหรับแขกวีไอพีสามารถสั่งอาหารนานาชาติตามที่ตัวเองต้องการได้ด้วย

สำหรับสถานคาสิโนแล้วมีคำกล่าวว่า “ คาสิโนไม่เคยกลัวนักการพนันที่เก่งและเฮง แต่คาสิโนกลัวนักการพนันที่เฮงแล้วเลิกเล่นมากกว่า” จากสถิติของสถานคาสิโน พบว่านักการพนันที่เก่งและเฮง หากยังเล่นต่อไปเรื่อย ๆ แล้ว ในที่สุดก็จะหมดตัวเหมือนกันทุกคน

ประการที่สี่ สถานคาสิโนต้องการนักการพนันวีไอพีมากกว่านักการพนันทั่วไป เพราะนักการพนันวีไอพีเล่นได้เสียครั้งหนึ่งเป็นจำนวนเงินค่อนข้างสูง สถานคาสิโนที่เป็นสโมสรปิดที่มีผู้เล่นระหว่าง 15 - 30 คนในแต่ละคืนมียอดเงินที่เล่นได้เสียสูงกว่าคาสิโนทั่วไปที่มีคนเล่นหลายร้อยหรือหลายพันคนด้วยซ้ำไป

สรุปก็คือ สถานคาสิโนทั่วโลก ต้องการนักเล่นการพนันที่มี คุณภาพ หรือนักการพนันอาชีพที่กระเป๋าหนักมากกว่าจำนวนของนักเล่นการพนันในคาสิโน เพราะ นักการพนันอาชีพช่วยสร้างรายได้ให้แก่คาสิโนได้ดีกว่ามาก

ผมเคยติดตามคณะผู้เล่นวีไอพี ชาวไทยที่ไปสถานคาสิโนที่อังกฤษเมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้ว พวกเราได้รับการต้อนรับอย่างดี ตั้งแต่ได้พักในโรงแรมอย่างดีฟรี มีรถโรลสรอยส์มารับส่งถึงที่หน้าโรงแรม เป็นประจำทุกคืน มีอาหารไทย จีนและอิตาเลียนชั้นเลิศต้อนรับ นักเล่นแต่ละคนเฉลี่ยแล้วใช้เงินในการเล่นแต่ละทริประหว่าง 30 -50 ล้านบาท

ผมยังได้รับการบอกเล่าจากเพื่อนคนไทยในคณะด้วยว่า เวลาพวกเขาไปเล่นที่ลาสเวกัส ทางคาสิโนจะส่งเฮลิคอปเตอร์มารับถึงสนามบินเลยทีเดียว

ประการที่ห้า การเกิดขึ้นของคาสิโนที่ถูกกฎหมายเป็นครั้งแรกที่ลาสเวกัสเป็นปรากฏการณ์ ช็อกความรู้สึกของคนอเมริกันทั่วประเทศ เพราะมันเป็นการ แสดงให้เห็นถึงสถานการณ์ที่อิทธิพลของทุนนิยมพร้อมแตกหักกับคำสอนของศาสนาคริสต์แล้ว มันเป็นการแสดงให้เห็นถึงความโลภ ความตระกะตระกราม และการแสวงหาความมั่งคั่งอย่างไม่มีที่สิ้นสุดของนายทุนกับบรรดาพระคริสต์ที่ยึดมั่นคำสอนมาตั้งแต่โบราณว่าการพนันเป็นสิ่งต้องห้าม เป็นบาป แต่บทสวดและคำสอนของศาสนาไม่สามารถยับยั้งกระแสของอเมริกันชนที่หลั่งไหลไปเล่นการพนันในคาสิโนที่ถูกต้องตามกฎหมายได้เลย

คาสิโนที่ลาสเวกัสแตกต่างจากการเล่นการพนันตามประเพณีนิยมทั่วไปที่เกิดขึ้นตามประเทศต่างๆ ทั่วโลก เพราะการเล่นพนันตามประเพณีนิยมมักมีเกมส์การแข่งขันน้อยประเภท โดยทั่วไปก็มีเพียง 1-2 ประเภท เท่านั้น แต่คาสิโนที่ลาสเวกัสนำเสนอประเภทการพนันที่มากประเภทกว่า มีจำนวนโต๊ะการพนันที่มากกว่า และสามารถรวมศูนย์ผู้เล่นการพนันจำนวนมากมาไว้ในสถานที่เดียวกันได้ มันจึงมีความสนุกสนาน และบันเทิงเริงรมย์มากยิ่งกว่าการละเล่นการพนันตามประเพณีนิยมทั่วไป

ประการที่หก คาสิโนที่ลาสเวกัส เป็นเครื่องมือของกลุ่มนายทุน ที่กระตุ้นผู้ที่ชอบเล่นการพนันที่มีอยู่ทั่วไปในสหรัฐ ผู้ที่หวังร่ำรวยทางลัด โดยไม่ต้องทำงานหนัก ผู้ที่เชื่อว่าตัวเองเป็นคนโชคดีจากการพนันมากกว่าคนอื่น พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือคาสิโนเป็นเครื่องกระตุ้น “ด้านมืดของ มนุษย์ “ ให้แสดงออกมาได้อย่างเต็มที่และอย่างถูกต้อง ตามกฎหมาย โดยไม่ต้องแอบเล่นการพนันแบบหลบๆ ซ่อนๆ ตำรวจเหมือนในอดีตอีกต่อไป คนจำนวนมากในคาสิโนมีความรู้สึกเหมือนตัวเองได้รับการปลดปล่อยออกจากพันธนาการของกฎหมาย หรือหลุดพ้นจากการต้องเก็บกดพฤติกรรมที่ต้องหลบซ่อนมาเป็นเวลาช้านาน เพราะพฤติกรรมการพนันในอดีตถูกประณามว่าเป็นสิ่งผิดศีลธรรม ของสังคม ดังนั้น คาสิโนจึงกลายเป็นที่รวมพลของคนที่เคยถูกประณามว่าเป็นคนชั่ว คาสิโนจึงเป็นสถานที่ให้มนุษย์ได้สามารถปลดปล่อยปีศาจที่สิงอยู่ในตัวมนุษย์ ออกมาแสดงให้เห็นได้อย่างเต็มที่เป็นครั้งแรก โดยไม่ต้องมีการปิดบังซ่อนเร้นอีกต่อไป พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือคาสิโนเป็นสถานที่ฟอกขาวให้ ” คนบาป“ กลายเป็นคนปกติ ฟอกสิ่งที่ผิดศีลธรรมให้กลายเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นการปล่อยผีหรือปีศาจ การพนันที่สิงอยู่ในตัวของมนุษย์ มาช้านาน หรือด้านมืดของมนุษย์ให้ออกมาอยู่ในโลกมนุษย์ได้แล้ว

ประการที่เจ็ด เมื่อปีศาจการพนันถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา หรือ ได้รับอนุญาตให้แสดงออกได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายที่ลาสเวกัส คนจากทุกมลรัฐทั่วสหรัฐต่างพากันหลั่งไหลเข้าสู่ลาสเวกัสเหมือนสายน้ำ เศรษฐกิจของลายเวกัสจึงเจริญรุ่งเรืองขึ้นอย่างรวดเร็ว สร้างความอิจฉาตาร้อนให้แก่มลรัฐต่างๆ จนเกิดการเรียกร้องให้มีการตั้งคาสิโนในมลรัฐของตัวเองบ้าง ปัจจุบันทั่วทั้งสหรัฐมีคาสิโนเกิดขึ้นแล้วประมาณ 2000 แห่ง

เมื่อนิวซีแลนด์เปิดคาสิโนขึ้นเป็นครั้งแรก ปรากฏว่าคนจากออสเตรเลียต่างพากันหลั่งไหลไปเล่นการพนันที่นิวซีแลนด์จนแน่นขนัด เพื่อแก้ปัญหาเงินทุนไหลออกนอกประเทศเป็นจำนวนมาก รัฐบาลออสเตรเลียจึงต้องตัดสินใจให้มีการตั้งคาสิโนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งประเทศขึ้นเพียง 1 แห่ง แต่โชคร้ายที่เมื่อปีศาจการพนันถูก ปลดปล่อยหรือถูกปลุกให้ตื่นขึ้นในที่แห่งหนึ่ง ปีศาจการพนันจากที่อื่นๆ ที่มีจำนวนมากกว่า จะพากันเรียกร้องขอรับการปลดปล่อยให้พวกตนตามไปด้วยเสมอ

ดังนั้นเมื่อรัฐต่าง ๆ ในออสเตรเลียต่างพากันเรียกร้องสิทธิขอให้รัฐบาลจัดตั้งคาสิโน ในรัฐของตนเองบ้าง ในท้ายที่สุด รัฐบาลจึงต้องกำหนดให้มี นโยบาย 1 รัฐ 1 คาสิโน ทั่วประเทศออสเตรเลีย มันเป็นประชานิยมสำหรับปีศาจการพนันอย่างทั่วถึงทั้งประเทศ

ดังนั้นเมื่อรัฐต่าง ๆ ในออสเตรเลียต่างพากันเรียกร้องสิทธิขอให้รัฐบาลจัดตั้งคาสิโน ในรัฐของตนเองบ้าง ในท้ายที่สุด รัฐบาลจึงต้องกำหนดให้มี นโยบาย 1 รัฐ 1 คาสิโน ทั่วประเทศออสเตรเลีย มันเป็นประชานิยมสำหรับปีศาจการพนันอย่างทั่วถึงทั้งประเทศ

ประสบการณ์จากต่างประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก สหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย แสดงให้เราเห็นว่าการปลุกปีศาจคาสิโนให้ตื่นขึ้นมา รัฐบาลจะไม่มีวันควบคุมปีศาจตนนี่ให้อยู่ในพื้นที่ ที่ทางรัฐบาลกำหนดไว้แต่แรกได้เลย ไม่ช้าปีศาจการพนันจากทั่วทุกหัวระแหงในประเทศจะลุกขึ้นตามมาสมทบ จนกระทั่งรัฐบาลหมดหนทางแก้ไขปัญหาได้

'นายกฯ อิ๊งค์' เตรียมเยือน!! จีน คุย 'ปธน.สี จิ้นผิง' เจริญสัมพันธไมตรี ครบ 50 ปี ขับเคลื่อน!! ความร่วมมือในทุกมิติ ‘การค้าการลงทุน – เศรษฐกิจ – สังคม’

(1 ก.พ. 68) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงบ่ายของวันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ จะออกเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ณ กรุงปักกิ่ง โดยในเช้าวันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ นายกรัฐมนตรี และคณะ มีกำหนดการเข้าประชุมหารือกับ นายสี จิ้นผิง (H.E. Xi Jinping) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน นายจ้าว เล่อจี้ (H.E. Mr. Zhao Leji) ประธานสภาประชาชนแห่งชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน และนายหลี่ เฉียง (H.E. Mr. Li Qiang) นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อขับเคลื่อนความสัมพันธ์และความร่วมมือในทุกมิติ ทั้งการค้าการลงทุน เศรษฐกิจ และสังคมของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ปี 2568 นี้ เป็นปีทองแห่งมิตรภาพไทย - จีน ครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต

นายจิรายุ กล่าวว่า จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะวางพวงมาลาที่อนุสาวรีย์วีรชน ที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน โดยในช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมพิธีตรวจแถวสวนสนามภายในศาลามหาประชาชน และเข้าพบปะหารือร่วมกับนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีนและคณะ จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะเป็นสักขีพยานในการลงนามข้อตกลงต่าง ๆ ระหว่างไทย - จีน ทั้งในเรื่องเศรษฐกิจการค้าการลงทุน และ ข้อตกลงต่าง ๆ ระหว่างรัฐบาลของทั้งสองประเทศที่ได้บรรลุข้อตกลงระหว่างกัน โดยในช่วงค่ำรัฐบาลจีนโดยนายกรัฐมนตรีจีนและคณะผู้บริหารของรัฐบาลจีนได้จัดงานเลี้ยงรับรองคณะนายกรัฐมนตรีและคณะ

นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า จากนั้นในวันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ ช่วงเช้านายกรัฐมนตรีพร้อมคณะจะออกเดินทางจากกรุงปักกิ่งไปยังเมืองฮาร์บิน ในมณฑลเฮย์หลงเจียง ซึ่งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศจีน ตามคำเชิญของรัฐบาลจีน โดยในช่วงเที่ยงวันดังกล่าวประธานาธิบดี สี จิ้นผิง จะเป็นประธานเลี้ยงต้อนรับผู้นำของแต่ละประเทศ และเชิญ นางสาวแพทองธาร เข้าร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว ครั้งที่ 9 อย่างเป็นทางการ นอกจากในส่วนของการต้องรับของรัฐบาลจีนแล้ว นายกรัฐมนตรีจะพบกับนักกีฬาไทยที่ประสบความสำเร็จในการแข่งขันในงานแสดงศิลปะแกะสลักน้ำแข็ง หรือ Harbin Ice and Snow World โดยในปีนี้จะร่วมทำการแข่งขันอีกด้วย

นายจิรายุ กล่าวว่า ทั้งนี้ คณะของนายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางประกอบไปด้วย 1.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 2.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 3.นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 4.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม 5.นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ 6.นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 7.นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 8.นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ 9.นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง

รรท.ผบก.ตม.3 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ตม.จว.จันทบุรี กำชับ 7 มาตรการ ผบ.ตร.

วันนี้ (31 ม.ค. 68) เวลา 14.30 น. พล.ต.ต.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ ผบก.ส.4 รรท.ผบก.ตม.3,พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รอง ผบช.ตชด., พ.ต.อ.หฤษฎ์ เอกอุรุ รอง ผบก.ตม.3 พร้อมคณะฯ ได้เดินทางยังจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด ตม.จว.จันทบุรี เพื่อกำชับการปฏิบัติตาม 7 มาตรการแก้ไขปัญหาคนต่างด้าวตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้แก่ กรณีลักลอบเข้าเมือง, ประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย, ถูกหลอกลวง และอาชญากรรมข้ามชาติ และนโยบายค่านิยมหลัก 4 ส. (CORE VALUES) : 4 S สะดวก สมดุล สากล สร้างความประทับใจ ของ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์
ผบช.สตม. พร้อมทั้งมอบสิ่งของบำรุงขวัญแก่ข้าราชการตำรวจในสังกัด

โดยมี พ.ต.อ.วีรยศ การุณยธร รอง ผบก.ตม.2 รรท.ผกก.ตม.จว.จันทบุรี และข้าราชการตำรวจในสังกัดให้การต้อนรับ ทั้งนี้ พ.ต.อ.พรชัย แช่มช้อย ผกก.ตชด.11, น.อ.นพโรจน์ สิริปริยพงศ์ ผบ.ฉก.นย.จันทบุรี และ น.อ.สุรศักดิ์ ศรีเผือก หน.ชค.ทพ.นย.4ฯ ได้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วยโดยเน้นย้ำความร่วมมือระหว่างหน่วยงานเพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามสั่งการของผู้บังคับบัญชา และให้มีผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม 

ซึ่งที่ผ่านมา ตม.จว.จันทบุรี และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ได้ร่วมกันป้องกันและปราบปราม อาชญากรรม
ที่เกี่ยวกับการลักลอบเข้าเมือง, ประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย, ถูกหลอกลวง และอาชญากรรมข้ามชาติโดยมีผลการจับกุมมาโดยตลอด และจะเพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติตามสั่งการของผู้บังคับบัญชาต่อไป

ตำรวจหารือร่วมกับทูตนานาประเทศ ตอบรับเข้าร่วมศูนย์ประสานงานระหว่างประเทศ ปราบอาชญากรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ออกมาตรการเข้มป้องกันการลักลอบข้ามแดนของต่างชาติ 

(31 ม.ค.68) เวลา 13.30 น. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนต์ต่อต้านการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (จตช./ผอ.ศตคม.ตร./ผอ.ศปอส.ตร.) เป็นประธานการประชุมหารือความร่วมมือระหว่างประเทศปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและอาชญากรรมออนไลน์ โดยมีเอกอัครราชทูตและผู้แทนจากนานาประเทศ ได้แก่ ศรีลังกา อินโดนีเซีย ลาว เมียนมา แทนซาเนีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย จีน บราซิล สหรัฐอเมริกา โมร๊อคโค อินเดีย เคนยา ยูเครน บังกลาเทศ รัสเซีย และผู้แทนจากสำนักงานป้องกันยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) , กระทรวงการต่างประเทศ , การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เข้าร่วมประชุมร่วมกับผู้แทนหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาทิ พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลน์ ผบช.ภ.6 , พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รอง ผบช.ทท. , พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ รอง ผบช.ก. ณ ห้องศรียานนท์ อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาคนต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย คนต่างด้าวตั้งกลุ่มแก๊งกระทำความผิดหรือประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย และอาชญากรรมข้ามชาติ อย่างเต็มกำลัง เพื่อขจัดปัญหาเหล่านี้ให้หมดไปโดยเร็ว รวมทั้งการช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกหลอกลวง เช่น กรณีที่ตำรวจไทยช่วยเหลือนายหวังซิง นักแสดงชาวจีน ซึ่งการแก้ไขปัญหาดังกล่าว พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ออก 7 มาตรการ อย่างเข้มงวด ได้แก่ มาตรการก่อนคนต่างด้าวเดินทางเข้าประเทศไทย , มาตรการ ณ ท่าอากาศยาน และด่านตรวจคนเข้าเมือง (ชายแดน) ,  มาตรการตั้งจุดตรวจตามเส้นทาง , มาตรการตรวจสอบที่พัก พื้นที่ท่องเที่ยว และสกัดกั้นพื้นที่ชายแดน , มาตรการเชิงรุกในการตรวจสอบเส้นทางและจุดพักคอย , มาตรการเข้มข้นในพื้นที่ชายแดน และมาตรการประสานงาน ให้ความช่วยเหลือ และสืบสวนขยายผล นอกจากนี้ ยังได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งในระดับประเทศ และหน่วยงานระดับสากล เพื่อร่วมมือในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม

ในการประชุมครั้งนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงได้เชิญผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตนานาประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือในการประสานความร่วมมือในการป้องกันแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติและอาชญากรรมออนไลน์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และเข้าร่วมในการจัดตั้งศูนย์ประสานงานระหว่างประเทศ ซึ่งมี พล.ต.อ.ธัชชัยฯ เป็นหัวหน้าศูนย์ประสานงานดังกล่าว ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตทุกประเทศยินดีอย่างยิ่งในการให้ความร่วมมือกับไทย มีเป้าหมายร่วมกันเพื่อพัฒนามาตรการป้องกันการลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมายของชาวต่างชาติ การบังคับใช้อย่างเข้มงวดต่อการเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ตลอดจนเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพ โดยศูนย์ประสานงานดังกล่าวจะทำให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูล ติดต่อประสานงานกันอย่างรวดเร็ว ได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง 

พล.ต.อ.ธัชชัยฯ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความยินดีที่ได้รับความร่วมมือจากสถานเอกอัครราชทูตนานาประเทศ ในการเข้าร่วมศูนย์ประสานงานระหว่างประเทศ ในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพื่อยุติปัญหาดังกล่าวให้หมดสิ้นไปโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการเตรียมการจัดตั้งศูนย์ประสานงานระหว่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมีการประชุมติดตามประเมินสถานการณ์ทุกวัน ในเวลา 08.30 น. โดยเริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นต้นไป

นราธิวาส-ผู้ว่าฯ นราธิวาส มอบกระเช้าเยี่ยมให้กำลังใจและมอบเงินช่วยเหลือเยียวยา แก่เจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ อำเภอระแงะ 

วันนี้ (31 ม.ค. 68) ที่ ตึกประชารักษ์ ชั้น 1 โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อำเภอเมืองนราธิวาส ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วย นายอำเภอระแงะ ,หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือเยียวยาฯ จังหวัดนราธิวาส ,รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 ,คณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาส และผู้อำนวยการโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมมอบกระเช้าเยี่ยม อส.ทพ.มะรือซู มะดีเย๊าะ อายุ 29 ปี เจ้าหน้าที่ทหารพราน สังกัด ร้อย ทพ.4511 ซึ่งได้รับบาดเจ็บ จากเหตุคนร้ายไม่ทราบชื่อและจำนวน ลอบวางระเบิดศาลาสำนักสงฆ์บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 5 หมู่ที่ 9 ตำบลบองอ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อเวลา 09.55 น. วันที่ 23 ม.ค.68 ที่ผ่านมา ทำให้ได้รับบาดเจ็บมีแผลบริเวณขาทั้งสองข้าง แผลที่รักแร้ข้างซ้าย ไม่สามารถเดินได้ โดยรวมรู้สึกตัวดี  

จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสและคณะ ได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 17/2 ม.1 ตำบลโคกเคียน อำเภอเมืองนราธิวาส เพื่อมอบกระเช้าเยี่ยมให้กำลังใจ อส.ทพ.ศรนรินทร์ นันทจันทร์ อายุ 25 ปี เจ้าหน้าที่ทหารพราน สังกัด ร้อย ทพ.4511 ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากเหตุการเดียวกัน ทำให้มีบาดแผลจากสะเก็ดระเบิดบริเวณสะโพกซ้าย, ศรีษะ, ไหล่ซ้าย-ขวา, อวัยวะเพศ  และมีอาการแน่นหน้าอก ล่าสุดอาการโดยรวม ของเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 นาย ดีขึ้น ตามลำดับ

ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้เยี่ยมสอบถามอาการและมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาฯ แก่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 รายๆ ละ 30,000.- บาท และคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาส มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาจากเหตุการณ์ความไม่สงบฯ ของสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาส รายละ 3,000.- บาท ด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top