Monday, 19 May 2025
ECONBIZ

'สุริยะ' ดัน DIPROM Community ชุบชีวิต ศก.ฐานราก ชี้!! ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยเพิ่ม 7 พันล้านบาท

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มอบนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนผ่านการ Kick Off พัฒนาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้ชุมชนดีพร้อม สั่งการอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมมุ่งเป้าการพัฒนาชุมชนเปลี่ยนผ่านจากยุคที่ 3 หมู่บ้าน CIV ก้าวไปสู่ยุคที่ 4 “ชุมชนดีพร้อม หรือ DIPROM Community อย่างเต็มรูปแบบทั่วทุกพื้นที่ในประเทศไทย คาดกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจมากกว่า 7,000 ล้านบาท

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด19 เป็นวิกฤติการณ์ระดับโลกที่ก่อให้เกิดผลกระทบในทุกมิติ โดยเฉพาะมิติด้านเศรษฐกิจ ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนัก รัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงได้ให้ความสำคัญกับการลดความเหลื่อมล้ำ และการสร้างเศรษฐกิจชุมชนให้เข้มแข็ง โดยมุ่งเน้นการพัฒนาและส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากโดยเฉพาะในระดับชุมชน ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ

นายสุริยะ จึงได้สั่งการให้ดีพร้อม ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน ดำเนินโครงการเพื่อเร่งฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยเน้นอุตสาหกรรมที่เป็นเศรษฐกิจฐานราก ภาคเกษตรอุตสาหกรรม, ภาคการผลิตสินค้า และภาคบริการของชุมชน ให้สามารถฟื้นตัวกลับมาสู่ปกติโดยเร็ว ผ่านนโยบายในการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนที่เน้นการปรับรูปแบบการดำเนินงานให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของการใช้ชีวิตวิถีใหม่ เพื่อมุ่งเป้าการพัฒนาชุมชนก้าวไปสู่ยุคที่ 4 

โดยพัฒนาจาก “หมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ หรือ หมู่บ้านซีไอวี (CIV)” ในยุคที่ 3 สู่กลไกใหม่ในยุคที่ 4 “ชุมชนดีพร้อม หรือ DIPROM Community” ซึ่งเป็นชุมชนที่มีความเข้มแข็งและสามารถสร้างรายได้อย่างยั่งยืน ซึ่งมีการพัฒนาที่ครบถ้วนใน 7 มิติที่ดีพร้อม ทั้ง แผนชุมชน, คนชุมชน, แบรนด์ชุมชน, ผลิตภัณฑ์ชุมชน, เครื่องจักรชุมชน, ตลาดชุมชน และเงินหมุนเวียนในชุมชน 

ถือเป็นการ “เปลี่ยนวิถีใหม่ ปรุง 7 วิธี ปั้นชุมชนดีพร้อม” เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนให้ดีพร้อมอย่างเต็มรูปแบบทั่วทุกพื้นที่ในประเทศไทย คาดกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจมากกว่า 7,000 ล้านบาท 

“อลงกรณ์” หารือ ”เวียดนาม” ผนึกความร่วมมือ 2 ชาติยกระดับราคาข้าว หวังเพิ่มอำนาจต่อรองในตลาดโลก พร้อมเสนอเพิ่มเส้นทางขนส่งสินค้าเกษตรผ่านท่าเรือไฮฟองและท่าเรือหวุ่งอ๋างแก้ปัญหาด่านผลไม้ติดขัด 

รายงานข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แจ้งวันนี้ว่า ตามที่ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มอบหมายให้ นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเทคโนโลยีเกษตร 4.0 และประธานคณะกรรมการบริหารศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (AIC:Agritech and Innovation Center) กล่าวปาฐกถาเปิดงาน “เทคโนโลยีเกษตรและพืชสวนแห่งเอเซีย 2022 (Agritechnica Asia & Horti Asia 2022) ณ ศูนย์ประชุมไบเทค บางนา

ในการนี้ ดร. ทรัน ทานห์ นาม (H.E. Mr. Tran Thanh Nam) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามได้หารือกับนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างไทยและสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ในโอกาสที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามได้เดินทางมาร่วมงาน “เทคโนโลยีเกษตรเอเซียและพืชสวนเอเซีย 2022 (Agritechnica Asia & Horti Asia 2022) ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมสนับสนุนร่วมกับ German Agriculture Society (DLG)

ทั้งนี้ ดร. ทรัน ทานห์ นาม (H.E. Mr. Tran Thanh Nam) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ได้กล่าวขอบคุณประเทศไทยที่ให้การต้อนรับ และหารือความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ได้แก่ 

1) ความปลอดภัยด้านอาหาร เพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตผลทางเกษตร 
2) การสร้างความเข้มแข็งให้แก่สหกรณ์การเกษตร ซึ่งฝ่ายเวียดนามเห็นว่าประเทศไทยมีสหกรณ์การเกษตรที่เข้มเข็งและมีชื่อเสียงด้านผลิตภัณฑ์ OTOP จึงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่มาดูงานด้านสหกรณ์ในประเทศไทย 
3) การสนับสนุนให้เกษตรกรใช้เครื่องมือทางการเกษตรแทนแรงงานคน 
4) การอบรมเกษตรกร 
5) ความร่วมมือด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช (Sanitary and Phytosanitary: SPS)

คณะพัฒนาสัมพันธ์เครือข่ายความมั่นคงฯ กอ.รมน.จ.ฉะเชิงเทรา เยี่ยมชม โรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนและบริษัท แอ๊บโซลูท แอสเซมบลี จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในกลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ 

เมื่อวันที่ (25 พ.ค.65) ที่บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด นิคมอุตสาหกรรม ฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยพันเอก ประคอง ปิ่นพาน รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดฉะเชิงเทรา (ทหาร) และคณะพัฒนาสัมพันธ์เครือข่ายความมั่นคงระดับผู้บริหารของ กอ.รมน.จ.ฉะเชิงเทรา เข้าเยี่ยมชมบริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด โรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน และบริษัท แอ๊บโซลูท แอสเซมบลี จํากัด 

ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในกลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ โดยมีนายชาญยุทธ ฉายาวัฒนะ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด และนางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทราบลูเทคซิตี้ ให้การต้อนรับ พร้อมบรรยายสรุปและนำเยี่ยมชม โรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนและระบบกักเก็บพลังงาน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle) และการนำพลังงานหมุนเวียนที่มีเสถียรภาพเข้ามาใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนและระบบสำรองไฟฟ้าแห่งนี้ ของกลุ่มพลังพลังงานบริสุทธิ์ (EA) ภายใต้ชื่อ บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด มีกำลังการผลิตเริ่มต้น 1 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี 

ส่งตรงสินค้าประมงสู่ผู้บริโภค! "เฉลิมชัย" เปิด "Fisherman Shop" พร้อมกัน 77 สาขาทั่วประเทศ กระจายผลผลิตจากชาวประมงและผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำส่งตรงถึงผู้บริโภค ด้วยตราสัญลักษณ์ "ประมงธงเขียว"

เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2565 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดร้าน Fisherman Shop @ Bangkhen โดยมี นายประยูร อินสกุล นายสมชวน รัตนมังคลานนท์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง และผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม ณ กรมประมง กรุงเทพมหานคร

นอกจากนี้ ยังเปิด Fisherman Shop พร้อมกันอีก 76 สาขาทั่วประเทศ เพื่อตั้งเป็นจุดจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำให้กับพี่น้องชาวประมงและเกษตรกรส่งตรงถึงผู้บริโภค โดยการันตีคุณภาพมาตรฐานด้วยตราสัญลักษณ์ "ประมงธงเขียว" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงการการันตีคุณภาพของสินค้าและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำที่นำมาจำหน่ายภายใน "Fisherman shop" ที่ได้ผ่านการรับรองคุณภาพมาตรฐานจากกรมประมง เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่น 5 ประการ ได้แก่ 

1) สด วัตถุดิบที่สดใหม่ 
2) สะอาด ผ่านกระบวนการผลิตที่ถูกสุขลักษณะ 
3) ได้มาตรฐาน เป็นไปตามมาตรฐานการเลี้ยง การผลิต และผลิตภัณฑ์ 
4) ปลอดภัย ได้รับการตรวจคุณภาพและผ่านเกณฑ์มาตรฐานความ ปลอดภัยต่อผู้บริโภค 
และ 5) ใส่ใจสิ่งแวดล้อม มาจากการทำประมงและการเพาะเลี้ยงอย่างยั่งยืน ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

โดย นายเฉลิมชัย กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพของพี่น้องชาวประมงและเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เนื่องจากขาดช่องทางในการจัดจำหน่ายผลผลิตได้ตามปกติ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงมีนโยบายให้กรมประมงเร่งหาแนวทางช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น ด้วยการจัดหาพื้นที่สำหรับให้ชาวประมงและเกษตรกรสามารถจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำไปสู่ผู้บริโภคได้โดยตรง พร้อมให้การสนับสนุนองค์ความรู้ที่มุ่งเน้นการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาช่วยยกระดับมาตรฐานสินค้าประมง 

รวมทั้งเพิ่มทักษะทางด้านการจำหน่าย การแปรรูป การบรรจุภัณฑ์ ที่จะช่วยส่งเสริมการผลิตสินค้าและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และปลอดภัย โดยให้เครื่องหมายในการรับรองเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค เกิดความจดจำและมั่นใจในตัวสินค้าและผลิตภัณฑ์ประมงมากยิ่งขึ้น รวมทั้งพัฒนาช่องทางการตลาดในรูปแบบใหม่ๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์เพื่อให้การกระจายสินค้าสัตว์น้ำสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ง่ายและกว้างขวางมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้การส่งเสริมในการประกอบกิจการของชาวประมงและเกษตรกรครบวงจร สามารถผลิตได้ ขายได้ อย่างยั่งยืน และหวังว่าร้าน Fisherman Shop ในทุกสาขาของทุกจังหวัดจะเป็นที่พึ่งทั้งของผู้ผลิตและผู้บริโภคในการจำหน่ายผลผลิตที่มีคุณภาพ ราคายุติธรรม

EA เปิด 'อมิตาฯ' อาณาจักรเทคโนโลยีด้านพลังงาน พร้อมโชว์ศักยภาพ ป้อนสังคมสะอาดสู่ไทยในเร็ววัน

คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เยี่ยมชมบริษัทอมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จํากัด และบริษัท แอ๊บโซลูท แอสเซมบลี จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในกลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ 

(24 พ.ค.65) ที่ บริษัทอมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จํากัด อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดน ไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร และคณะฯ เยี่ยมชมกิจการของบริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จํากัด และบริษัท แอ๊บโซลูท แอสเซมบลี จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในกลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ โดยมีนายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ให้การต้อนรับ

นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จํากัด และบริษัท แอ๊บโซลูท แอสเซมบลี จํากัด บริษัทย่อยในกลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานของคนไทย ที่เริ่มต้นจากธุรกิจไบโอดีเซล และขยายสุ่ธุรกิจพลังงานทดแทน ทั้งไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม 

Tesla ส่งสัญญาณบุกตลาด EV ไทย หลังจดทะเบียนตั้งบริษัทลูกในไทย ทุน 3 ล้านบาท

Tesla ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าชื่อดัง แจ้งจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทฯ ในประเทศไทย ใช้ชื่อ “เทสลา (ประเทศไทย) จำกัด” คาดเตรียมพร้อมลุยทำตลาด EV ในไทย

จากการสำรวจบริษัทจดทะเบียนใหม่ของกระทรวงพาณิชย์ มีการพบชื่อบริษัท เทสลา (ประเทศไทย) จำกัด จดทะเบียนก่อตั้งบริษัทฯ เพื่อทำธุรกิจในประเทศไทย โดยระบุประเภทธุรกิจเป็น การขายรถยนต์ใหม่ชนิดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถกระบะ รถตู้ และรถขนาดเล็กที่คล้ายกัน มีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 3,000,000 บาท

ส่วนวัตถุประสงค์ในการดำเนินกิจการระบุไว้ว่า “ประกอบกิจการขายรถยนต์ไฟฟ้า ระบบเก็บพลังงานแบบติดตั้งและอุปกรณ์ที่ใช้กับระบบเก็บพลังงานแบบติดตั้ง ระบบผลิตพลังงานและอุปกรณ์ที่ใช้กับระบบพลังงาน” ซึ่งทั้งหมดนี้คือ การขายรถยนต์และระบบโซลาร์เซลล์ที่เกี่ยวเนื่องกับการชาร์จไฟฟ้า ของเทสลา นั่นเอง

คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เยี่ยมชมบริษัทอมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จํากัด และบริษัท แอ๊บโซลูท แอสเซมบลี จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในกลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ 

วันที่ 24 พ.ค. 65 ที่บริษัทอมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จํากัด อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร และคณะ เยี่ยมชมกิจการของบริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จํากัด และบริษัท แอ๊บโซลูท แอสเซมบลี จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในกลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ โดยมีนายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ให้การต้อนรับ

นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จํากัด และบริษัท แอ๊บโซลูท แอสเซมบลี จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในกลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานของคนไทย ที่เริ่มต้นจากธุรกิจไบโอดีเซล และขยายสุ่ธุรกิจพลังงานทดแทน ทั้งไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม ซึ่งบริษัทเล็งเห็นถึงประโยชน์ของพลังงานสะอาดที่มีประโยชน์ทั้งด้านเศรษฐกิจ ลดการนําเข้า เชื้อเพลิง และด้านสิ่งแวดล้อมที่ลดปัญหามลพิษ และลดภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นเทรนด์ของโลก ในปัจจุบัน ที่ทุกประเทศหันมาให้ความสําคัญต่อการแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศ ประกอบกับ การเปลี่ยนผ่านในเทคโนโลยียานยนต์แบบเดิมที่ใช้น้ํามันในการขับเคลื่อนมาเป็นยานยนต์ไฟฟ้า บริษัทฯ จึงลงทุนในโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน และระบบกักเก็บพลังงาน เพื่อจะนํามา เพิ่มเสถียรภาพของโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน เพิ่มประสิทธิภาพในระบบผลิตและจําหน่ายไฟฟ้าของประเทศ 

‘สุริยะ’ ชี้!! อุตสาหกรรมไมซ์ภาคเหนือคึกคัก หลัง ‘ดีพร้อม มอเตอร์ โชว์’ สำเร็จเกินคาด

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เผยผลสำเร็จการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งเชิงพื้นที่และภูมิภาคให้คึกคักขึ้นกว่าเดิม หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดย ดร.ณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้จัดงาน “ดีพร้อม มอเตอร์ โชว์” (DIPROM MOTOR SHOW 2022) ที่จัดขึ้น ณ จังหวัดลำปาง ส่งผลให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจในพื้นที่ได้กว่า 225 ล้านบาท พร้อมเตรียมเดินหน้าผลักดันศูนย์กลางอุตสาหกรรมไมซ์ในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อรองรับการจัดกิจกรรมต่างๆ สอดรับกับนโยบาย “ดีพร้อมแคร์” ที่ต้องการขยายผลด้านธุรกิจและเครือข่ายพันธมิตรไปสู่ระดับภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศให้เดินหน้าได้อย่างแข็งแกร่ง

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ท่านนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้แต่ละกระทรวงไปจัดทําแผนงานต่างๆ เพื่อมอบ ‘ของขวัญปีใหม่ 2565’ ให้กับประชาชน โดยดําเนินการภายใต้นโยบายทั้งหมด 4 ด้าน ได้แก่ 1) อำนวยความสะดวกและลดต้นทุนผู้ประกอบการ 2) เสริมสภาพคล่องทางธุรกิจ 3) ยกระดับผู้ประกอบการ และ 4) ดูแลเกษตรกรและประชาชน จึงได้มอบหมาย ดีพร้อม (DIPROM) หรือ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้ขานรับนโยบายดังกล่าว ในการจัดมหกรรมแสดงสินค้า DIPROM MOTOR SHOW 2022 จําหน่ายรถยนต์รถจักรยานยนต์ และเครื่องจักรกลการเกษตรเพื่อกระตุ้น ฟื้นฟูเศรษฐกิจและลดภาระให้ผู้บริโภค รองรับการเปิดประเทศหลังปิดประเทศเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 และเป็นของขวัญให้กับประชาชน

ดร.ณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า ดีพร้อม จึงได้พัฒนาศูนย์ประชุมและแสดงสินค้าอุตสาหกรรมภาคเหนือของดีพร้อม ที่เรียกว่า DIPROM Meeting Industrial Conference and Exhibition Center หรือ DIPROM MICE CENTER ณ จังหวัดลำปาง ให้รองรับการจัดประชุมนิทรรศการ หรือ อุตสาหกรรมไมซ์ (MICE) ให้เป็นพื้นที่ในการจัดงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรม ตลอดจนสินค้าชุมชน และสินค้าของเอสเอ็มอี รวมถึง DIPROM MICE CENTER นี้ จะเป็นพื้นที่ในการจัดประชุมสัมมนา หรือเจรจาธุรกิจในภาคเหนือ สำหรับผู้ประกอบการจากทั่วประเทศไทย จึงจะมีบทบาทช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภูมิภาค ทั้งธุรกิจโรงแรม ธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจบริการต่างๆ ให้มียอดการเข้าพักและใช้บริการเพิ่มขึ้น ควบคู่ไปกับการยกระดับการเติบโตของอุตสาหกรรม ทั้งในระดับพื้นที่จังหวัดลำปาง ระดับภูมิภาคในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ และในระดับประเทศ

‘ดร.สมเกียรติ’ เผยผลไม้ส่งออกไทยสดใส เชื่อ!! อนาคตขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งโลกแทนชิลี

ดร.สมเกียรติ โอสถสภา อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงสถานการณ์ส่งออกผลไม้ไทย ผ่านตัวเลขส่งออกของทุเรียนไว้ว่า... 

ไทยส่งออกทุเรียนไปตลาดจีนปี 2560 มูลค่า 7,300 ล้านบาท 

ปีนี้เป้าหมายส่งออกมูลค่าเกินแสนล้าน

คำถามขยายตัว ปีละกี่ %?

ยังมีคนจีนที่ยังไม่ได้กินทุเรียนอีกเยอะมาก

ไทยจะเป็นประเทศผู้ส่งออกผลไม้รายใหญ่ อันดับหนึ่งของโลกแทนชิลี

เมืองไทยมีความมหัศจรรย์เสมอมา 

ต่อไปชาวโลกจะคิดถึงไทยในฐานะเมืองแห่งผลไม้ของโลก เมืองอันดับหนึ่ง

นอกจากเรื่องส่งออกผลไม้แล้ว ผู้หญิงไทยสวยกว่าผู้หญิงทั้งละตินอเมริกาด้วย


ที่มา: https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=5316453168410653&id=100001380665898 

SME D Bank เติมวงเงิน 'สินเชื่อ 3D' อีก 4 พันล้าน หนุนผู้ประกอบการขยายโอกาสรับเปิดประเทศ

SME D Bank อัดฉีดวงเงิน “สินเชื่อ 3D” เพิ่มอีก 4,000 ล้านบาท รวมเป็น 19,000 ล้านบาท หนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุน เดินหน้าธุรกิจได้เต็มที่ รับกำลังซื้อที่จะเพิ่มขึ้นจากนโยบายเปิดประเทศ แถมขยายหลักเกณฑ์ เปิดกว้างกู้ได้ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล หากหลักประกันไม่พอ สามารถใช้ บสย. ค้ำประกันได้

น.ส.นารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ธนาคารเพื่อเอสเอ็มอีไทย เปิดเผยว่า ทางธนาคาร เดินหน้าสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนขานรับนโยบายเปิดประเทศของรัฐบาล โดยเพิ่มวงเงิน “สินเชื่อ 3D” อีก 4,000 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งไว้ 15,000 ล้านบาท รวมเป็น 19,000 ล้านบาท รวมถึงขยายเกณฑ์เปิดกว้าง กู้ได้ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล หากหลักประกันไม่พอสามารถใช้ บสย. ค้ำประกันได้

สำหรับ “สินเชื่อ 3D” ครอบคลุมทุกความต้องการของทุกกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี วงเงินกู้สูงสุดถึง 50 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 4.5% ต่อปี ผ่อนนานสูงสุด 10 ปี ประกอบด้วย...

ผักผลไม้อาหารฮาลาลไทยกระหึ่มซาอุดีอาระเบีย ทีมไทยแลนด์จับมือ “ลูลู ไฮเปอร์มาร์เก็ต” เปิดเทศกาลอาหารไทยในกรุงริยาด

“อลงกรณ์” ตั้งเป้าขยายตลาดผักผลไม้อาหารฮาลาลไทย พร้อมผนึกเครือข่ายห้างยักษ์ “ลูลู” เดินหน้าวางสินค้าไทยกว่า 2.5 พันรายการปูพรม 241 สาขาในซาอุดีอาระเบียและตะวันออกกลาง

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ. ในฐานะประธานคณะกรรมการส่งเสริมสินค้าเกษตรมาตรฐานฮาลาลและประธานคณะทำงานแก้ไขปัญหาผลไม้ล่วงหน้าในคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) เปิดเผยวันนี้ว่า ในระหว่างการเยือนซาอุดีอาระเบีย (15-19 พ.ค) ได้สำรวจตลาดผัก ผลไม้และอาหารฮาลาลพบว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงมีรายได้ต่อหัว (Per capita) 46,000 ดอลลาร์ และกำลังเร่งรัดพัฒนาทางด้านการท่องเที่ยว การเกษตร อุตสาหกรรมอาหารและเทคโนโลยีภายใต้วิสัยทัศน์ซาอุดีอาระเบีย 2030

จึงได้หารือกับผู้บริหารของห้างลูลูไฮเปอร์มาร์เก็ต (Lulu Hypermarket) ในการขยายจำหน่ายผัก ผลไม้ ผลิตภัณฑ์การเกษตรและอาหารมาตรฐานฮาลาลของไทยซึ่งทางลูลูพร้อมที่จะร่วมมือโดยพร้อมวางจำหน่ายสินค้าไทยกว่า 2,500 รายการ ใน 241 สาขาที่ตั้งอยู่ในซาอุดีอาระเบียและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคตะวันออกกลาง เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โอมาน การ์ตา บาห์เรน จอร์แดน เป็นต้น เท่าที่สำรวจตลาดพบผักผลไม้ไทยเกือบทุกชนิดเช่นทุเรียน มังคุด ลำไย เงาะ ลองกอง มะม่วง ขนุน มะขามหวาน มะพร้าวน้ำหอม กระชาย ผักบุ้ง คะน้า ขิง ตะไคร้ 

ปธ.สภาหอฯ โว นำคณะเยือนซาอุฯ ดีเกินคาด  เผย จับคู่ธุรกิจสุดปัง เชื่อเห็นผลดีเร็วๆ นี้

ปธ.สภาหอฯ ชี้นำคณะเยือนซาอุฯ ดีเกินคาด จับคู่ธุรกิจสุดปัง เชื่อเห็นผลดีเร็ว ๆ นี้

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวหลังเสร็จสิ้นการจัด Saudi-Thai Investment Forum ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นระหว่างการร่วมคณะเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการกับนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศว่า รู้สึกตื่นเต้นที่มีการจัดเวทีดังกล่าวขึ้นที่กรุงริยาด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของภาครัฐและเอกชนซาอุฯ รวมถึงความจริงใจอย่างมากไม่ว่าจะเป็นจากนายคาหลิด อับดุลอะซีซ อัลฟาลิฮ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลงทุน หรือนายอัจลาน บิน อับดุลอะซีซ อัล อัจลาน ประธานสภาหอการค้าริยาด และยังไม่คาดคิดว่าจะให้เกียรติการประชุมโดยเชิญเจ้าชายฟัยศ็อล บิน ฟัรฮาน อัลซะอูด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เสด็จฯ มาร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ระหว่างสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยกับสภาหอการค้ากรุงริยาดด้วย

นายสนั่นกล่าวว่า ในการจัดพบปะเพื่อจับคู่ภาคธุรกิจก็มีความพิถีพิถันมากชนิดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ทำแบบตั้งใจมากฝ่ายไทยนำคณะผู้แทนจาก 38 บริษัท รวม 60 กว่าคนเดินทางมา ขณะที่ฝ่ายซาอุฯ ภาคเอกชนที่เข้าร่วมงานก็เป็นการคัดเลือกผู้ประกอบการตัวจริงที่มีขนาดใหญ่กว่า 130 บริษัท แต่ละบริษัทที่มาก็ได้มีการหารือกันอย่างเป็นกิจลักษณะ และยังมีการตั้งเป้ารวมถึงตั้งความหวังว่าจะมีการดำเนินการกันได้เมื่อไหร่อีกด้วย

“หลายคนที่พูดคุยไม่รู้จักทุเรียนไทย ดังนั้นจึงเป็นโอกาสดีที่จะเชิญสมาชิกสภาหอการค้ากรุงริยาดให้เดินทางไปเยือนประเทศไทย ซึ่งจะมีการจัดคณะชุดแรก 40-50 บริษัทเดินทางไปในไตรมาสที่ 3 นี้” นายสนั่นกล่าว และว่า หลังจากนี้ไปคงมีการจัดเวทีบิสซิเนสฟอรั่มระหว่างกันต่อเนื่องปีละ 2 ครั้ง ทั้งให้ภาคธุรกิจไทยไปซาอุฯ และให้ซาอุฯ มาประชุมที่ไทย

เมื่อถามว่าผลของการจับคู่ภาคธุรกิจเป็นอย่างไร นายสนั่นกล่าวว่า สิ่งที่เห็นผลคือภาคอาหารและผลไม้มีการตอบกลับว่าสนใจอยากซื้อสินค้าจากประเทศไทยทันที ขณะที่วัสดุก่อสร้างก็ได้รับความสนใจเช่นกัน และยังมีความต้องการที่จะหาทางประสานงานกับภาคการท่องเที่ยวและการโรงแรมของไทยด้วย ในกลุ่มโรงแรมทราบว่าทั้งดุสิตธานีและไมเนอร์ก็รับแขกจนไม่มีเวลา เช่นเดียวกับในส่วนของโรงพยาบาลตั้งแต่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ สมิติเวช กล้วยน้ำไท และปิยะเวทก็มีผู้ให้ความสนใจที่จะพาครอบครัวไปตรวจสุขภาพหรือไปรักษาตัว เช่นเดียวกับชีวาศรมก็มีคนสนใจมากเช่นกัน ในส่วนของภาคยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ก็มีความประสงค์ที่อยากจะเข้าไปดูโรงงานในประเทศไทย

“หลังจากที่มีการลดระดับความสัมพันธ์ การเดินทางไปหามาหาสู่กันก็ยากลำบากถึง 32 ปี ในครั้งนี้รู้สึกว่าทุกคนตื่นเต้นมาก และรู้สึกแปลกใจมากที่คนซาอุฯ รักเมืองไทย มีจิตใจที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นมาก เหมือนเขาเจอคนไทยแล้วรู้สึกถูกชะตา คิดว่าจากวันนี้ไปคงจะได้เห็นผลที่ดีเร็วมาก” นายสนั่นกล่าว

รอทำไม? หากหยุดใช้รถน้ำมัน 10,000 คัน แล้วลดก๊าซเรือนกระจกได้ 220,454 ตันต่อปี

คำถามปลายเปิด ที่แทบไม่ต้องรอคำตอบปลายปิด ในยุคที่พลังงานน้ำมันแพง กอปรกับกระแสความแรงของการรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่กำลังเข้ามาเปลี่ยนโลก รวมถึงประเทศไทย!!

อย่างไรก็ตาม แม้กระแสพลังงานไฟฟ้าที่จะเข้ามาไหลเวียนในพาหนะยุคต่อจากนี้ จะพยายามเร่งสปีดเข้ามาใกล้ชิดกับชีวิตคน โดยเฉพาะคนไทยมากยิ่งแค่ไหน แต่ก็ต้องยอมรับว่าในแง่ของราคาและความเชื่อมั่นในประสิทธิภาพ ยังคงอยู่ในระดับของการเฝ้าดูจากผู้บริโภคส่วนใหญ่เสียมาก 

กลับกันแนวคิดในการสนับสนุนยานพาหนะในหมวดขนส่งสาธารณะ หรือ ‘รถโดยสาร’ ให้เป็นพลังงานไฟฟ้าทั้งหมด ดูจะมีความเป็นไปได้และได้รับแรงหนุนกระแสลดการปล่อยมลพิษของประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้ดีกว่า สอดคล้องกับรายงานของ Electric Vehicle Outlook ของ Bloomberg ที่คาดว่า ตลาด ‘รถโดยสารไฟฟ้า’ (e-Buses) จะถูกปรับเปลี่ยนให้อยู่ในสัดส่วนมากกว่า 67% ของรถโดยสารทั่วโลกภายในปี 2040

เหตุผลหลัก เพราะ ‘รถโดยสารไฟฟ้า’ เป็นยานพาหนะที่สามารถเข้าถึงคนได้เป็นจำนวนมาก ยิ่งถ้าพัฒนาระบบการขนส่งสาธารณะที่ดีควบคู่ได้ ก็จะช่วยให้คนลดการใช้รถส่วนตัว (น้ำมัน) ลดปัญหามลพิษ, ลดปัญหาโลกร้อน ตลอดจนลดปัญหาทางด้านการจราจร ก่อนทั้งโลกจะเปลี่ยนผ่านจากเครื่องสันดาปสู่ไฟฟ้าเต็มตัว 

และนี่แหละ คือ เหตุผลว่าทำไม ‘รถโดยสารไฟฟ้า’ (รถบัส) อาจจะเป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่ช่วยสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านยุคแห่งพลังงานและช่วยลดการปล่อยมลพิษของประเทศต่างๆ ทั่วโลกให้ถึงเป้าหมายได้เร็วยิ่งขึ้น

ว่าแต่!! พอหันกลับมาดู ประเทศไทย ซึ่งมีการจดทะเบียนรถโดยสารเพื่อการพาณิชย์ หรือ ‘รถโดยสาร’ ในแต่ละปีเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10,000 คันนั้น

ก็พลันให้เกิดคำถามว่า ถ้าเราเริ่มเปลี่ยน ‘รถโดยสาร’ ที่มีอยู่ให้กลายเป็น ‘รถโดยสารไฟฟ้า’ ได้ จะช่วยลดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมได้เพียงใด? (ปัจจุบันประเทศไทยมี ‘รถโดยสารไฟฟ้า’ จาก EA หรือ บมจ.พลังงานบริสุทธิ์)

...220,454 ตันต่อปี คือ ผลลัพธ์จากการช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก (GHG Emission Reduction) 

...233,333,333.33 ลิตรต่อปี คือ ตัวเลขการใช้น้ำมันดีเซลที่ลดลง ซึ่งเดิมปริมาณตัวเลขนี้ สามารถปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 629,701.80 ตันต่อปีกันเลยทีเดียว (หมายเหตุ: คำนวณจากจำนวนรถ 10,000 คัน ระยะทางการวิ่งรถ 200 กิโลเมตรต่อวัน เป็นระยะเวลา 350 วันเท่ากัน)

ติดปีกนวัตกรรมไทย EA ส่ง ‘กรีน เทคโนโลยี รีเสิร์ช’ เซ็น MOU สอวช. ร่วมปั้นนวัตกรรมล้ำตอบโจทย์อุตสาหกรรม BCG

EA ส่ง บ.ย่อย ‘กรีน เทคโนโลยี รีเสิร์ช’ เซ็น MOU กับ สอวช. ‘โครงการ บพข. - GTR’ ร่วมวิจัยพัฒนา ‘ปาล์มน้ำมัน’ สร้างมูลค่าเพิ่มด้วยเทคโนโลยีเป็นมิตรสิ่งแวดล้อมสอดรับนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรม Bio-Circular-Green Economy (BCG) ของไทย

บมจ. พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ส่ง บจก.กรีน เทคโนโลยี รีเสิร์ช จำกัด (GTR) หรือบริษัทย่อย ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ กับสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) โดยหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ร่วมมือโครงการ บพข. - GTR เพื่อวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันอุตสาหกรรม ภายใต้การนำองค์ความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สอดรับนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรม Bio-Circular-Green Economy ของประเทศไทย

10 อันดับแรก ‘เจ้าสัวไทย’ ปี 2022 ใครรวยสุดไปดูกัน

10 อันดับแรก ‘เจ้าสัวไทย’ ปี 2022 ใครรวยสุดไปดูกัน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top