Friday, 24 January 2025
THE STATES TIMES TEAM

อย่าเฉาฉุ่ย!! ‘แจ็ค หม่า’ ถูกเชือด!! บทเรียนต้องรู้ หากคิดจะทำธุรกิจในแผ่นดิน ‘จีน’

'เฉาฉุ่ย' เป็นคำจีนแต้จิ๋ว แปลตรงตัวว่าปากเหม็น ใช้ในความหมายว่าปากเสีย พูดอะไรไม่เป็นมงคล ซึ่งมักจะเป็นกิริยาที่ผู้ใหญ่เอาไว้ตำหนิเด็กหรือผู้โอ้อวด

สัปดาห์กว่า ๆ ที่ผ่านมา ความเฉาฉุ่ย ที่ออกมาจากปากมหาเศรษฐีแห่งโลกค้าปลีกออนไลน์อย่าง แจ็คหม่า ทำให้เขาต้องเจ็บตัวหนัก และเป็นบทเรียนที่คงต้องจำไปจนตาย

หลังจากบริษัทลูกของเขาที่ชื่อว่า ANT Group ต้องถูกระงับการเข้าตลาดหุ้นในเซี่ยงและฮ่องกงแบบกะทันหัน...เกิดอะไรขึ้นกับแจ็คหม่า?

แจ็คหม่า ผู้ก่อตั้ง Alibaba ได้มีการบริษัทลูกที่ชื่อ ANT Group ซึ่งเป็นบริษัทการเงินแบบดิจิทัลที่ปล่อยเงินกู้ผ่านออนไลน์ สามารถกู้ได้ทุกประเภท ในวงเงินที่จำกัดหรือไม่ตามนโยบายของ ANT

การเข้ามาของ ANT ในจีน ทำให้ผู้คนใช้บริการเยอะมาก เพราะแค่เปิดแอปพลิเคชัน ใส่ข้อมูล บัตรประชาชน รายได้ บริษัทที่ทำงาน แล้วขอกู้ เท่านี้ระบบก็พร้อมจะอนุมัติเงินให้ได้ทันที

เพราะการที่ ANT ทำแบบนั้นได้ มาจากการใช้ระบบ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ เพื่อคำนวณความเป็นไปได้ของผู้กู้ว่าควรให้มากน้อยแค่ไหน ถ้าประเมินข้อมูลแล้ว ผ่านเกณฑ์ประมาณ 70% ก็ให้กู้ได้ทันทีเลย

ตรงนี้ทำให้ประชาชนไม่ต้องเสียเวลาไปธนาคารทำธุรกรรม ยื่นกู้ หาหลักฐาน และประเมินจากบุคคลให้เสียเวลา จนกลายเป็นความสะดวกสบายที่ทำให้บริษัทนี้เติบโตใหญ่มาก

และความนิยมนี้ ก็เริ่มทำให้ระบบการเงินการธนาคารในจีนต่างหวาดกลัว เพราะอย่างที่ทราบกันดี คือ ธนาคารส่วนใหญ่ในจีนนั้น ล้วนเป็นของรัฐบาลจีนทั้งสิ้น

เมื่อ ANT ได้เข้ามาพลิกโฉมวงการการเงินในจีน จนเป็นที่มั่นใจแล้วว่าไปรอด แจ็คหม่า ก็ตัดสินใจที่จะนำ ANT เข้าตลาดหลักทรัพย์ในตลาดเซี่ยงไฮ้และฮ่องกง (เพื่อเสนอขายหุ้นใหม่ให้ประชาชนหรือ IPO)

ตัวเลขที่น่าตกใจของ ANT ที่คาดว่าจะได้หลังปล่อยขาย IPO คาดว่าจะเป็นการทุบสถิติ IPO ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยมูลค่าถึง 37,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 1.12 ล้านล้านบาท ยิ่งใหญ่มากกว่าครั้งที่บริษัท ‘อารัมโก’ บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของประเทศซาอุดีอาระเบีย เคยเอาเข้าตลาดหลักทรัพย์ทาดาวัล ด้วย IPO มูลค่ารวม 25,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

แล้วถ้าหาก ANT ได้เข้าตลาดหลักทรัพย์ จะยิ่งดันให้ทรัพย์สินส่วนตัวของ แจ็คหม่า ที่มีอยู่แล้วมากมาย เพิ่มขึ้นไปอีกทันทีอีกถึง 17,000 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ดูเหมือนเส้นทางที่ดูราบรื่นของแจ็คผู้เคยล้มยักษ์ จะไม่สวยหรู!!

นั่นก็เพราะก่อนหน้าวันที่ ANT จะเริ่ม IPO แค่ 48 ชั่วโมง แจ็คหม่า ถูกเรียกเข้าไปพบในห้องประชุมลับของคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ และคณะกรรมการผู้ควบคุมกฎระเบียบเรื่องการเงินของจีน

หลังจาก แจ็คหม่า ออกมาจากห้องประชุม ทาง ANT, ตลาดหลักทรัพย์ทั้งเซี่ยงไฮ้ และฮ่องกง ประกาศให้ยุติ ANT เข้าสู่ตลาดทันที เหตุผลโดยภาพที่ปรากฎลงบนหน้าสื่อ คือ ANT ทำผิดระเบียบหลายข้อ และต้องกลับไปแก้ไขใหม่

...แต่มีการวิเคราะห์ว่า ‘ฟางเส้นสุดท้าย’ ที่ทำให้ ANT อดเข้าตลาดหลักทรัพย์ มาจากความเฉาฉุ่ยของ แจ็คหม่า เอง

เฉาฉุ่ยยังไง เขาไปปากหมาตอนไหน?

ถ้าใครที่ติดตาม แจ็คหม่า จะรู้ดีว่าเขาเป็นคนชอบพูด ชอบขึ้นเวที และวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนั้นเรื่องนี้ เพื่อทำให้ตัวเองเป็นพระเอกในเวทีโลก และว่ากันว่า...คนจีนที่เป็นข้าราชการ เคยพูดถึงเขาว่าเป็นคนโคตร ‘ปากเสีย’ ชนวนเหตุเรื่องความปากหมาของแจ็คหม่า ถูกขุดคุ้ยขึ้นมา โดยในช่วงที่ ANT กำลังรุ่งโรจน์ เขามักจะชอบวิพากษ์วิจารณ์ธนาคารกลางและผู้คุมกฎการธนาคารจีนในทางลบ

.

เขามักจะชอบตำหนิตามหน้าสื่อและเวทีสาธารณะว่า...

- จีนไม่มีระบบบริหารความเสี่ยงด้านการเงินที่ทันสมัย

- คนในระบบสถาบันการเงินจีนนั้มีความคิด ‘ล้าสมัย’ ไม่ทันยุคดิจิทัล

- รัฐเอาแต่การควบคุมด้วยมาตรการที่ไม่ได้คำนึงถึงความต้องการของผู้บริโภค

- ANT ควรถูกปฏิบัติในฐานะของบริษัทเทคโนโลยี แทนที่จะเป็นบริษัทการเงินที่ถูกคุมอย่างเข้มงวด

- คิดแบบเดิมเลยไม่เกิดการพัฒนานวัตกรรมเท่าที่ควร เช่น FinTech หรือ นวัตกรรมด้านการเงิน

- และควรทิ้งแนวคิดแบบ ‘โรงรับจำนำ’ ไปเสียที

.

ความวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้ กลายเป็นกระแสร้อนแรงในโลกการเงิน และโลกออนไลน์ของจีน เขาถูกตำหนิว่าชอบพูดให้ตัวเองดูดี ดูเท่ห์ ชอบใช้คำคมให้ตัวเองดูเก่งกาจ

แต่ดูเหมือนความปากพล่อยของแจ็คหม่าครั้งนี้ จะไม่ได้จบแค่การถูกตำหนิ เพราะเขากำลังเจอบทเรียนที่เจ็บปวด แบบที่ต้องเสียทั้ง ‘เงิน’ และ ‘โอกาส’ ภายในพริบตา

เพราะหลังการประกาศระงับ ANT เข้าตลาดหลักทรัพย์ในนาทีสุดท้าย ได้ทำให้หุ้นของ Alibaba ในตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงไป 10% คิดเป็นเงินเท่ากับ 76,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยก็เหนาะๆ ที่ 2.3 ล้านล้านบาท เรียกว่าเงินเก่าก็หาย เงินใหม่ที่จะได้ก็อด!!

ฉะนั้นหากจะบอกว่าเรื่องนี้ ‘พัง’ เพราะปากของ แจ็ค หม่า จึงไม่ผิดนัก เพราะอย่าลืมว่า เดิมทีอิทธิพลจากธุรกิจของ ANT ก็เริ่มสร้างความไม่สบายใจต่อกลุ่มผู้นำเหล่าพรรคคอมมิวนิสต์ ที่กำลังจะเป็นบ่อนทำลายอำนาจสถาบันการเงินรัฐ แถม ANT ยังไม่มีคู่แข่งในจีน และยังไม่ได้ขึ้นกับผู้คุมกฎการเงินของจีนเลยด้วย ซึ่งที่ผ่านมา รัฐบาลจีน ก็ไม่ได้ไปกีดกัน

เพราะจีนมีความตั้งใจที่จะปล่อยให้ธุรกิจจีนไปเติบโตที่ไหน หรือร่ำรวยเพียงใดก็ได้ แต่ขอแค่อย่างเดียว คือ ภาคธุรกิจไม่ควรก้าวเข้ามา ‘เล่นการเมือง’ ซึ่งการตำหนิธนาคารจีนและผู้คุมกฎของแจ็คหม่า ถือเป็นการเล่นการเมืองแบบหนึ่งที่ถูกจับไต๋ได้ชัด

นี่คือการสั่งสอนจากรัฐบาลจีน และช่วยอธิบายบทบาทของรัฐบาลจีนที่มีต่อวงการธุรกิจที่อยู่ใต้ผืนแผ่นดินจีนได้ดีทีเดียว...

.

ที่มา: sondhitalk

https://www.youtube.com/watch?v=TK--_LgqmNA

ส.ว. คนแรก ลงมติรับหลักการร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับไอลอว์

วันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563  ที่รัฐสภาในการประชุมร่วมรัฐสภาที่มี นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาเป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาลงมติรับหรือไม่รับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว ตั้งแต่เวลา 13.00 น. เลขาธิการรัฐสภาได้เริ่มขานชื่อสมาชิกรัฐสภาเรียงลำดับตามตัวอักษร ก่อนที่สมาชิกแต่ละคนจะขานมติว่า รับ-ไม่รับ-งดออกเสียง ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแต่ละร่าง ตั้งแต่ร่างที่ 1 - 7

ทั้งนี้เมื่อการลงมติผ่านไปได้ 200 คน สมาชิกรัฐสภา ทางฝั่งรัฐบาล และส.ว. ส่วนใหญ่ ลงมติรับหลักการ ร่างที่ 1 - 2 ตามที่ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล และส.ส.ฝ่ายค้านเสนอและในส่วนของร่างอื่นๆ ลงมติงดออกเสียงณะที่ ส.ส.ฝ่ายค้าน ลงมติรับหลักการทั้ง 7 ร่างตามที่ได้แสดงจุดยืนร่วมกันไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งสำหรับทางฝั่งส.ว.นั้น พบว่า นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ส.ว. ลงมติรับหลักการร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับไอลอว์

หนูพร้อม...พี่ก็พร้อม!!

เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ.2563 เวลา 15.30 น.​ เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมโล่ห์บางส่วน​ เริ่มมีการจัดตั้งแถว​ เพื่อรอรับมือม็อบราชประสงค์เย็นนี้ ตรงบริเวณหน้าอาคารนิมิตบุตร​ สนามกีฬาแห่งชาติ

ศบค.ไฟเขียวต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 45 วัน !

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ.2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธินโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.แถลงผลประชุมศบค.ชุดใหญ่ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมเห็นชอบขยายเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ในทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักรเป็นครั้งที่ 8 เป็นเวลา 45 วัน โดยจะขยายเวลาคร่อมช่วงเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ.2563 - 15 มกราคม พ.ศ.2564 โดยมีเหตุผลว่าเพื่อเป็นการควบคุมตามมาตรการทางสาธารณสุข และในช่วงเวลาดังกล่าวตะมีการแข่งขันกีฬาแบดมินตันโลก ที่จะมีผู้เดินทางเข้ามาในประเทศจำนวนมาก จึงต้องดูแลให้ครอบคลุม

บาดเจ็บ 55 ปะทะ เมื่อวาน

ศูนย์เอราวัณรายงานผู้บาดเจ็บม็อบหน้าสภา 55 คน ด้าน ประธานสภา แจงเอ่ย "ขอบคุณ" ทุกฝ่ายไม่เลือกปฏิบัติ ขอให้เชื่อสภายังเป็นพึ่งของปชช.

 

เมื่อเวลา 11.45 น. ที่รัฐสภา นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมนายแทนคุณ จิตต์อิสระ เลขานุการคณะทำงานประธานสภาผู้แทนราษฎร ร่วมกันแถลงถึงภาพรวมการชุมนุมเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ.2563

 

โดย นพ.สุกิจ กล่าวว่า ประธานสภามีความห่วงใยต่อผู้ชุมนุมโดยเฉพาะผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการชุมนุมเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ.2563 ที่ผ่านมา และได้มอบหมายให้ตนและทีมงานให้ติดตามดูแลให้การช่วยเหลือต่อผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ

 

โดยรายงานผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการชุมนุมของศูนย์เอราวัณ มีผู้บาดเจ็บรวม 55 คน ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากแก๊สน้ำตา 32 คน, ถูกยิง 6 คน, มีอาหารป่วยขณะชุมนุม 4 คน และบาดเจ็บอื่น ๆ 13 คน ซึ่งได้กระจายรักษาตัวตามโรงพยาบาลต่าง ๆ

 

ซึ่งตนและทีมงานได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลที่ผู้บาดเจ็บเข้ารักษาส่วนมากจากแก๊สน้ำตาและได้เดินทางกลับบ้านแล้ว ส่วนรายที่บาดเจ็บสาหัสจากการถูกยิงที่โคนขาซ้ายตอนที่ตนไปก็กำลังเข้ารับการผ่าตัดอยู่

 

ด้านนายแทนคุณ กล่าวว่า "เมื่อวานตนได้มีโอกาสตามนายชวน หลีกภัย ไปดูแลในพื้นที่โดยรอบของรัฐสภา ขอยืนยันว่านายชวนได้มีความเป็นห่วงเป็นใยทุกฝ่ายทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ เจ้าหน้าที่สภา ตำรวจ รวมทั้งผู้ชุมนุมด้วย ได้ตั้งทีมให้ไปดูแลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บนั่นก็สะท้อนถึงความเป็นห่วงเป็นใยอย่างไม่เลือกปฏิบัติ

 

และคำว่าขอบคุณที่ท่านกล่าวนั้น ท่านกล่าวว่าขอบคุณทุกฝ่ายที่ได้ทำหน้าที่ของตนเองอย่างสมบูรณ์ ซึ่งก็สะท้อนกลับมาที่สภาว่าจะต้องทำหน้าที่ของตนเองให้ดีในเมื่อเจ้าหน้าที่ ประชาชนได้ทำหน้าที่ของตนเองแล้ว ไม่ได้เป็นการกล่าวขอบคุณฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือเป็นการสนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายเดียว และได้กำชับให้ดูแลทุกฝ่ายให้ดี"

 

นายแทนคุณ กล่าวอีกว่า "เป็นความไม่สบายใจของพวกเราที่ทำงานในสภา ที่เหตุการณ์ชุมนุมใช้อาวุธที่รุนแรงซึ่งเข้าใจว่าการชุมนุมกับการดำเนินวิถีประชาธิปไตยเป็นของคู่กัน เราเองเข้าใจในสิทธิเสรีภาพแต่ก็มีความเป็นห่วง และโชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิต ครั้งนี้เป็นการชุมนุมที่มีการกระทบกระทั่งกันแต่โชคดีที่เรามีสื่อมวลชนคอยจับตา ทำให้เราเห็นภาพหลักฐานว่าใครทำอะไรอย่างไร

 

ทั้งนี้ในวันนี้จะมีการโหวตร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตนอยากให้ประชาชนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยได้เชื่อมั่นและเคารพในกติกาในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งจะนำมาสู่การแก้ไขปัญหาโดยใช้รัฐสภาที่เป็นภาษีของประชาชนได้เกิดประโยชน์สูงสุดและไม่นำไปสู่ความขัดแย้ง แตกแยกทางการเมืองโดยเฉพาะประเด็นเรื่องการจาบจ้วงสถานบัน ตนมองว่าเป็นประเด็นที่แหลมคมและนำมาซึ่งความเจ็บซ้ำน้ำใจของแต่ละฝ่าย ขอให้ระมัดระวังในท่าทีหรือถ้อยคำซึ่งเป็นสิ่งที่ประธานสภามีความห่วงใยว่าอยากให้สื่อสารว่าสภายังเป็นที่พึ่งที่หวังโดยเฉพาะนายชวนยังเป็นเสาหลักของประชาธิปไตยในขณะนี้

'จอน' เชื่อ ร่าง 'ไอลอว์' จอด

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ.2563 ที่รัฐสภา นายจอน อึ๊งภากรณ์ ผอ.โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมาย ประชาชน (ไอลอว์) กล่าวถึงภาพรวมการพิจารณาร่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญในสภาเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ.2563 ว่า ตนพอใจกับการทำหน้าที่ของส.ส.ส่วนใหญ่ แต่ไม่ค่อยพอใจกับการทำหน้าที่ของส.ว.บางคน


ซึ่งมีลักษณะกล่าวหาใส่ร้ายองค์กรที่ตนภูมิใจนั้นก็คือไอลอว์ เพราะเราเป็นองค์กรที่ทำทุกอย่างถูกต้องโปร่งใส หากท่านไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของภาคประชาชนเรายินดี เพราะเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย แต่มาใส่ร้ายกล่าวหาว่าทุจริตบ้าง ได้เงินจากแหล่งทุนบ้าง โดยไม่มีข้อพิสูจน์ใด ๆ ตนถือว่าไม่แฟร์ เมื่อถามว่าจะชี้แจงอย่างไรกรณีที่ว่าแหล่งทุนนั่นเป็นแหล่งทุนเดียวกับการให้ม็อบฮ่องกง นายจอน กล่าวว่า "ตนไม่ทราบว่าแหล่งทุนใดให้ทุนกับม็อบฮ่องกง แต่ถ้าเป็นการให้ทุนกับองค์กรที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยตนถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา"
 

เมื่อถามว่าหากวันนี้ร่างของไอลอว์ถูกตีตกจะดำเนินการอย่างไรต่อ นายจอน กล่าวว่า "คาดอยู่แล้วว่าจะตีตก ตนเชื่ออย่างนั้น ตนคิดว่าซีกหนึ่งของสภานี้ไม่ได้ติดอยู่กับความเป็นจริงของสังคมที่ประเทศไทยกำลังเปลี่ยนแปลงคนรุ่นใหม่กำลังมาเรียกร้องประชาธิปไตย ถ้าสภาส่วนหนึ่งไม่ตื่นตัวกับเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องหน้าเศร้า เพราะจะทำให้สถานการณ์แย่ลง"

18 พฤศจิกายน ค.ศ.1993…รำลึกคอนเสิร์ตร็อกที่เนียนที่สุดในโลก

หากจะหาอัลบั้มเพลงที่ขายดีตลอดกาล หรือถูกพูดถึงข้ามยุคข้ามสมัย ฟันธงฟันทิ้งไปเลยว่า หลายคนต้องนึกถึง ‘อัลบั้มบันทึกการแสดงสด MTV Unplugged ของวง Nirvana’

Nirvana คือวงดนตรีแนวกรั๊นจ์ร็อกที่โด่งดังสุดๆ ในช่วงปี ค.ศ.1987-1994 โอ้ว! เรื่องมันก็นานมาแล้ว แต่อย่างที่บอก ทุกวันนี้ยังมีคนพูดถึง Nirvana กันอยู่เลย

Nirvana มีมือกีต้าร์-นักร้องนำที่ชื่อ เคิร์ท โคเบน เปรียบเสมือนศาสดาแห่งดนตรีกรั๊นจ์ ซึ่งตัวอัลบั้ม Nirvana MTV Unplugged เกิดขึ้นในช่วงที่ดนตรีแนว Unplugged หรือการแสดงสดที่ไม่ใช่เสียงสังเคราะห์จากไฟฟ้า กำลังเป็นที่นิยม ทางวงเลยจัดการบันทึกการแสดงสดงานอัลบั้มชุดดังกล่าวนี้แบบ Unplugged ณ โซนี่สตูดิโอ เมืองนิวยอร์ก

และทันทีที่ผลงานดังกล่าวถูกปล่อยออกไป ยอดขายก็ถล่มทลาย ไม่มีใครคาดคิดว่า วงดนตรีที่มีซาวน์เพลงแสบสันต์รูหูอย่าง Nirvana จะมาแสดงสดด้วยสไตล์ที่ดูดีมีคลาสเช่นนี้ ผลงานนี้ทำลายแทบทุกสถิติ ติดทุกชาร์ตทุกโพล และถึงวันนี้ผ่านไป 27 ปี ก็ยังถูกพูดถึงกันอยู่เลย

แม้ว่า เคิร์ท โคเบน จะเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 5 เมษายน ค.ศ.1994 แต่ชื่อของวง Nirvana ก็ไม่ได้ตายตามเขาไป บทเพลงยังคงถูกหยิบมาเปิด และที่สำคัญ ผลงานของพวกเขายังส่งต่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักดนตรีรุ่นใหม่ในวันนี้อย่างมากมาย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top