Wednesday, 15 May 2024
THE STATES TIMES TEAM

ทัวร์นอกบุกไทย...เท่าไรละ?

สถานการณ์ท่องเที่ยวไทยเริ่มฟื้นตัวกลับมาบ้างแล้ว หลังจากรัฐบาลออกมาตรการผ่อนคลายให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทยได้มากขึ้น  

แล้วตอนนี้จำนวนคนที่เข้ามามีมากน้อยแค่ไหน?

 

ส่องซีรีส์...ที่ดวงจันทร์

เคยแอบคิดแบบเพ้อ ๆ ว่า…

ถ้าวันหนึ่งอยากจะเปลี่ยน Feel ไปส่องซีรีส์เกาหลีที่มี ‘หลัว’ แห่งชาตินั่งส่งตาหวานให้ จนอิชั้นอดยิ้มหวานให้เหงือกเปิดไม่ได้

มันจะมีที่ไหนที่ทำให้ฉีกหนีไปแอบฟินได้แบบไม่ต้องอาย เวลาปะป๊า หม่าม้า หรือน้องชายตัวแสบแว่บมาแซวจนหุบเหงือกไม่ทัน

เอาให้สุด!! ก็อยากหนีไปนอกโลกเลยมะ (555+) เอาแบบมีวิวเป็นโลก แล้วมีดวงจันทร์เป็นที่เอนกาย นี่อาจจะเป็นไอเดียเพ้อ ๆ แต่เด๋วก่อน!! ถ้าเกิดมีใครกำลังคิดจะช่วยให้พฤติกรรมแบบนี้เกิดขึ้นได้จริงล่ะ!!

ในระหว่างที่ อิลอน มัสก์ วางแผนยึดดาวอังคาร เพื่อเป็นฐานที่มั่นใหม่ของมนุษยชาติทาง NASA ก็ได้ตั้งโครงการ Lunex เพื่อวางแผนให้มนุษยชาติไปตั้งรกรากนอกโลก โดยเลือกปักหมุดไว้ที่ ‘ดวงจันทร์’

ในปี 2024 NASA ได้วางแผนจะส่งมนุษย์ไปเยือนดวงจันทร์อีกครั้งหลังปล่อยโปรเจ็กต์เว้นว่างมาหลายปี NASA ต้องการที่จะทำให้คนเริ่มอยู่อาศัยบนดวงจันทร์ได้ภายในปี 2028 โดยมีการทุ่มเงินกว่า 370 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท)

เงินก้อนนี้ถูกจ้างให้บริษัทไอทีชั้นนำ เพื่อไปคิดระบบที่จะทำให้คนอยู่ใช้ชีวิตอยู่ได้จริง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสร้างพลังงานระยะไกล และกลไกสำหรับการลงจอดอย่างปลอดภัย (ของกระสวยอวกาศ) แต่สิ่งหนึ่งที่ดูมีความเป็นไปได้มากที่สุด คือ การนำระบบเครือข่ายสัญญาณ 4G นำร่องไปก่อน เพื่อใช้เป็นตัวช่วยสื่อสารจากดวงจันทร์กลับมาที่โลก

อันที่จริงแล้ว มาตรฐานที่ยอมรับในการสื่อสารสำหรับนักบินอวกาศ คือ คลื่นวิทยุ (Radio) แต่การนำเทคโนโลยี 4G มาแทนที่จะช่วยให้นักบินอวกาศสามารถสื่อสารได้อย่างราบรื่นกว่าและไกลกว่าเมื่อเทียบกับคลื่นวิทยุ

ที่สำคัญในทางทฤษฎีเครือข่าย 4G บนดวงจันทร์น่าจะมีความเสถียรและดีกว่าเครือข่ายบนโลกมนุษย์ เพราะไม่มีต้นไม้ สถานที่ และระบบรบกวนคลื่น เช่น คลื่นสัญญาณทีวีและวิทยุ

แล้วใครรับหน้าที่พัฒนาเครือข่าย 4G บนดวงจันทร์?

NASA ได้ประกาศให้ Bell Labs เป็นผู้ผลิตที่จะเข้ามาสร้างและวางระบบ 4G บนดวงจันทร์ ซึ่ง Bell Labs เป็นบริษัทวิจัยและพัฒนาเครือข่ายสัญญาณอินเตอร์เน็ตของ ‘Nokia’ ที่ได้รับเงินทุนไปพัฒนากว่า 14.1 ล้านเหรียญ

โดยตัวส่งสัญญาณ 4G ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้ความทนทานเหนือล้ำกว่าอุปกรณ์บนโลกมากมายหลายเท่า

ข้อดีมาก ๆ คือ ตัวส่งสัญญาณของทาง Bell Lab จะมีขนาดเล็กว่าเสาส่งสัญญาณบนโลก สามารถขนส่งไปกับยานอวกาศได้และสามารถอัพเกรดเป็น 5G ได้ด้วย

แต่ข้อเสียก็คือไม่สามารถส่งสัญญาณได้ไกลเหมือนตัวส่งสัญญาณทั่วๆ ไป แต่ก็เพียงพอต่อความต้องการของการตั้งรกรากบนดวงจันทร์แล้วแหละ

เห็นความเอาจริงเอาจังของการคิดใหญ่ไปตั้งถิ่นฐานนอกโลกชัดขึ้นเรื่อยๆ ก็ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าฝันเพ้อๆ อาจะกลายเป็นเรื่องจริงได้แบบไม่ทันตั้งตัวกันเลยทีเดียว...

.

ที่มา: Unbox your thinking

อ้างอิง: https://www.nokia.com/about-us/news/releases/2020/10/19/nokia-selected-by-nasa-to-build-first-ever-cellular-network-on-the-moon/

ที่มาภาพ: https://see.news/nasas-surprising-4g-network-development-on-moon-with-nok/

วันเสาร์...เราไปคลองโอ่งอ่าง ว่าแต่มันอยู่ตรงไหน?

หลายคนอาจะเคยผ่านหูผ่านตาข่าวการปรับภูมิทัศน์ ‘คลองโอ่งอ่าง’ ที่ทำน้ำในคลองให้ใสขึ้น และปรับให้ทางเดินสองข้างทางดูสะอาดสะอ้าน รวมไปถึงพาศิลปินรุ่นใหม่มาเพ้นท์ภาพสวย ๆ แนวสตรีทอาร์ตตามกำแพงเก่า

ล่าสุดตอนนี้ ‘คลองโอ่งอ่าง’ ฮิตมากนะเธอว์จ๋า โดยก่อนหน้านี้ ทางกทม. นำโดยท่านผู้ว่ากทม. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เป็นโต้โผให้มีการจัดงานในช่วงเทศกาลลอยกระทงที่ผ่านมา ช่วงค่ำ ๆ มีการประดับประดาไฟสวยงามเชียวแหละ

และผลตอบรับก็ดีเกินคาด จนทำให้ตอนนี้ทุกวันศุกร์ - เสาร์ - อาทิตย์ จะมีกิจกรรมถนนคนเดิน มีการแสดงดนตรี มีร้านค้าขายของ และมีการแต่งคอสเพลย์สร้างสีสัน วันหยุดเสาร์ -อาทิตย์นี้ใครไม่มีแผนไปเที่ยวไหน ตกเย็นลองมาเดินชิลๆ กันได้นะ

ว่าแต่ ‘คลองโอ่งอ่าง’ อยู่ตรงไหน? ก็ตั้งอยู่ย่านสะพานหัน สำเพ็ง กินพื้นที่ยาวไปถึงตีนสะพานพระราม 7 (ปากคลองตลาด) ถามต่อว่า แล้วไปยังไง? ง่ายมาก ขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ลงสถานีสามยอด เดินไม่ไกลก็มาถึงแล้ว ช่วงนี้อากาศเย็นด้วย ใครมาเดินที่คลองโอ่งอ่างแล้ว

เผลอไผลคิดว่าเป็นคลองชองเกซอนที่เกาหลีใต้ อันนี้ก็อย่าลืมหันไปพูดกับคนข้างๆ ที่มาด้วยกันว่า ‘พี่ชาย ฉันหนาววววววว’

ใจเย็นก่อน ขอทีละเรื่อง

เมื่อวันที่ 12 พฤษจิกายน พ.ศ. 2563 ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวถึงความคืบหน้าในการบรรจุญัตติของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ขอให้รัฐสภามีมติส่งร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งหมด 3 ฉบับ ไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ

เพื่อวินิฉัยว่ามิชอบด้วยกฏหมายหรือไม่ เนื่องจากวันที่ 11 พฤษจิกายน พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมาจากการประชุมหารือกับวิปทั้ง 3 ฝ่าย ว่า ถ้าหากต้องการประชุมตามปกติต้องบรรจุระเบียบวาระตามเรื่องที่เข้ามาไปเป็นลำดับ

แต่เนื่องจากเมื่อผลประชุมออกมา ทั้ง 3 เห็นว่าให้นำเฉพาะเรื่องรัฐธรรมนูญก่อน และในวันที่ 17 - 18 พฤษจิกายน พ.ศ. 2563 จะบรรจุเฉพาะเรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้วและร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ในส่วนญัตติของนายไพบูลย์ และร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ จะบรรจุหลังวันที่ 18 พฤษจิกายน พ.ศ. 2563

ทัวร์ลงกับเป๊ก!

แฮ่! เป็นข่าวฮอตเว่อร์เลยเชียวล่ะ กรณีหนุ่ม"เป๊ก - ผลิตโชค อายนบุตร" ไปเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับโครงการของแบรนด์ร้านสะดวกซื้อยักษ์ใหญ่ งานนี้ถูกเชื่อมโยงไปเรื่องการเมืองซะได้ จนเกิดกระแสในทวิตเตอร์ #แบนเป๊กผลิตโชค

เรียกว่า "ทัวร์ลงเป๊ก" ซะอย่างนั้น แต่โดยส่วนตัว เป๊กเขาก็ชอบออนทัวร์นะฮะ ที่ผ่านมา หากเข้าไปดูในอินสตาแกรมของเจ้าตัว เขาออนทัวร์ เที่ยวนู่นนี่เป็นประจำ สถานที่ที่เจ้าตัวชอบไปบ่อย ๆ คือ ประเทศญี่ปุ่น หรือบางทริปในประเทศ เจ้าตัวก็เคยไปเป็นทูตบ้าง พรีเซนเตอร์บ้าง ให้กับโครงการแนว CSR ของหลาย ๆ องค์กร

เช่น ครั้งหนึ่งเคยพาแฟนคลับไปเก็บขยะตามชายหาดที่ชลบุรี หรือไปเก็บขยะ - ปลูกป่าชายเลนที่บางตะบูน จังหวัดเพชรบุรี และอีกหลายต่อหลายที่ ยืนยันนั่งยันนอนยันเลยว่า เจ้าตัวชอบทัวร์ลง เอ้ย! ลงทัวร์เจง ๆ

แต่ลักษณะเป็นทัวร์ดีนะฮะ ไม่สร้างมลพิษ ไม่มีพิษมีภัย อันนี้ก็โปรดเข้าใจด้วย และโปรดเข้าใจให้มากกว่านั้น โครงการที่กำลังเป็นกรณีเดือดนี้ ที่มีชื่อโครงการว่า #อิ่มคุ้มอิ่มบุญกับคุณหลวง ก็เป็นโครงการที่เปิดให้ทุกคนช่วยกันซื้อข้าวกล่อง เพื่อนำเงินส่วนหนึ่งไปช่วยเหลือน้อง ๆ มูลนิธิเด็กทั่วประเทศ ให้ได้อิ่มท้องด้วยเช่นกัน

เอาเป็นว่า ก่อนจะไปทัวร์ลงกับใคร ก็ย้อนดูสิ่งที่เขาทำกันบ้าง ที่สำคัญ เราอ่ะทำดีสู้เขาได้บ้างหรือยัง?

ม็อบไม่กลัว....กลัวไม่แก้

เมื่อวานนี้ (วันที่ 13 พฤษจิกายน พ.ศ. 2563) นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การออกเสียงประชามติในฐานะเป็นกฎหมายปฏิรูปประเทศว่า ได้ส่งร่างดังกล่าวไปที่รัฐสภาแล้วและได้พิจารณาแล้วว่าเป็นกฎหมายปฏิรูปประเทศ

ซึ่งต้องพิจารณาในที่ประชุมรัฐสภา โดยได้บรรจุระเบียบวาระแล้ว แต่ตามขั้นตอนการพิจารณากฎหมายประชามติต้องนำไปหารือกับวุฒิสภาก่อนว่าพร้อมเมื่อไหร่

ในส่วนรัฐสภาจะพิจารณาให้เสร็จ 3 วาระในคราวเดียวหรือไม่ขึ้นอยู่กับมติของของที่ประชุมรัฐสภาโดยนายชวนยังได้กล่าวอีกว่า ในการประชุมร่วมรัฐสภาวันที่ 17 - 18 พฤษจิกายน พ.ศ. 2563 จะมีเพียงการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเท่านั้น

ซึ่งได้เตรียมความพร้อมสำหรับการลงมติแล้ว รวมไปถึงการรองรับผู้ชุมนุมที่จะมาติดตามการประชุมรัฐสภาด้วย เพราะทางส.ว. มีความกังวลในเรื่องนี้ แต่อย่างไรก็ตามไม่ได้มีการกำชับเป็นพิเศษเพราะทางสภาฯดำเนินการอยู่แล้ว ส่วนเรื่องข้างนอกสภาฯก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องดูแล

จับตาสภาฮ่องกง ใต้เงาปักกิ่ง

สถานการณ์การเมืองในสภาฮ่องกงวันนี้ กลับมาร้อนแรงขึ้นอีกครั้ง เมื่อมีคำสั่งจากรัฐบาลกลางปักกิ่ง ปลด สส. ฝ่ายค้าน จำนวน 4 คน เนื่องจากหมดคุณสมบัติการเป็นผู้แทน ตามระเบียบของกฏหมายความมั่นคงใหม่ของฮ่องกง ที่เพิ่งมีผลบังคับใช้ไปเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ.2563 ที่ผ่านมา

สมาชิกฝ่ายค้านทั้ง 4 คน ที่โดนคำสั่งเด้งฟ้าผ่าได้แก่

1.) Alvin Yeung หัวหน้าพรรค Civic Party ฝ่ายค้านดาวรุ่ง ที่ยอมยกเลิกสิทธิ์การได้เป็นพลเมืองแคนาดา เพื่อมาลุยงานสภาที่ฮ่องกงโดยเฉพาะ และเพิ่งได้รับเลือกตั้งเข้าสภามาเมื่อปี ค.ศ.2016 นี้เอง นับเป็นสมัยแรกของเขา

2.) Dennis Kwok หนึ่งในผู้ก่อตั้งพรรค Civic Party และเป็น สส. ที่กล้าวิพากษ์วิจารณ์ตัวแทนจากรัฐบาลจีนอย่างเผ็ดร้อน

3.) Kenneth Leung อดีตที่ปรึกษาด้านภาษีอาวุโส หนึ่งในสมาชิกกลุ่ม Pro-Democracy ที่ได้รับคัดเลือกจากสภาวิชาชีพ และเป็น สส. มาตั้งแต่ปี ค.ศ.2012

4.) Kwok Ka-ki แพทย์เฉพาะทาง ที่เคยได้รับเลือกเข้าสภาจากกลุ่มแวดวงวิชาชีพ ปัจจุบันสังกัดพรรค Civic Party เช่นเดียวกัน และกลายเป็นหนึ่งใน สส. ที่ถูกขับออกจากสภาจากกฏหมายความมั่นคงใหม่

พอมีประกาศออกมาจากสภานิติบัญญัติฮ่องกง โดยที่ไม่มีรายละเอียดใด ๆ ว่า ทั้ง 4 สส. มีคุณสมบัติข้อใดที่ขัดกับกฏหมายความมั่นคง แต่สื่อฮ่องกงก็คาดเดาว่า น่าจะเป็นเรื่องที่ ทั้ง 4 คนเป็นสมาชิกคนสำคัญของกลุ่ม Pro-Democracy หรืออีกนัยยะหนึ่งคือ ฝ่ายที่ต่อต้านนโยบายจากรัฐบาลจีนที่เป็นหนึ่งในแกนนำ

เรื่องนี้สร้างความไม่พอใจกับสมาชิกฝ่ายค้าน จึงได้ประกาศตบเท้า ลาออกจากสภาฮ่องกงตามเพื่อนไปอีก 15 คน เป็นการประท้วงคำสั่งจากรัฐบาลจีน

เลยทำให้บรรยากาศการเมืองระหว่างจีน และ ฮ่องกงเริ่มกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง

สภานิติบัญญัติฮ่องกง หรือ ที่เรียกชื่อย่อว่า สภา LegCo จะมีผู้แทนทั้งหมด 70 คน ส่วนในสภาชุดปัจจุบันนี้ มีสมาชิกฝ่ายค้านมีอยู่ทั้งหมด 21 เสียง จากจำนวน 70 ที่นั่ง หลังจากที่โดนปลดไป 4 และลาออกไป 15 ก็จะเหลือฝ่ายค้านเหลือเพียง 2 เสียง ซึ่งก็เหมือนไม่มีอยู่แล้ว

และสภาชุดนี้ มาจากการเลือกตั้งทั่วไปตั้งแต่ปี 2016 ที่เสียงส่วนใหญ่เป็นฝ่ายที่สนับสนุนจีนมากกว่าฝ่ายเสรีนิยม ที่มักถูกเรียกกว่ากลุ่ม Pro-Democracy

แต่หลังจากเกิดกระแสการประท้วงกฎหมายผู้ร้ายข้ามแดน ครั้งใหญ่ในฮ่องกงเมื่อปี ค.ศ.2019 จนบานปลายกลายเป็นการต่อต้านรัฐบาลจีน และเรียกร้องขอปลดแอกเป็นอิสระจากการปกครองของจีน ที่ทำให้กลุ่ม Pro-Democracy ได้รับการสนับสนุนจากชาวฮ่องกงเป็นจำนวนมาก

ภาพสะท้อนที่ชัดที่สุด ที่ส่งเสียงดังสนั่นถึงปักกิ่งนั้นมาจากผลการเลือกตั้งสภาท้องถิ่นในปี ค.ศ.2019 ที่ฝ่ายเสรีนิยมได้รับคะแนนเสียงถล่มทลายที่สุดในประวัติศาสตร์ฮ่องกง

โดยสามารถชนะการเลือกตั้งใน 17 เขต จากทั้งหมด 18 เขตเลือกตั้ง กวาดที่นั่งในสภาท้องถิ่นไปถึง 388 นั่ง เหลือที่นั่งให้กับฝ่ายสนับสนุนจีนแผ่นดินใหญ่ไปเพียง 62 ที่นั่ง

และ ผู้แทนจากสภาท้องถิ่น ก็จะมีผลต่อการเลือก ผู้บริหารสูงสุดแห่งเกาะฮ่องกงในอนาคตด้วย เนื่องจากจะมีการคัดเลือก สมาชิกจากสภาท้องถิ่นบางส่วนเข้าไปนั่งเป็นคณะกรรมการคัดเลือกหัวหน้าผู้บริหารเกาะฮ่องกงในลำดับต่อไป

ด้วยเหตุนี้ ชาวฮ่องกงจำนวนมากจึงใจจดใจจ่อรอที่การเลือกตั้งใหญ่ในสภา LegCo เป็นอย่างมากที่มีกำหนดจะต้องจัดการเลือกตั้งไปแล้วตั้งแต่กลางปี ค.ศ.2020 แต่ทว่า นางแครี่ ลัม ผู้บริหารสูงสุดของเกาะฮ่องกงคนปัจจุบัน ได้เลื่อนการเลือกตั้งทั่วไปออกไปจนกว่าจะถึงปีหน้า เพราะผลพวงจากการระบาดของ Covid-19

จึงทำให้หลายคนไม่พอใจ เพราะเชื่อว่าหากทางการฮ่องกงได้จัดเลือกตั้งตามกำหนด หรืออย่างน้อย ก่อนการมาถึงของกฎหมายความมั่นคงใหม่ของจีน ฝ่ายเสรีนิยมจะสามารถกวาดที่นั่งในสภา LegCo ได้อย่างถล่มทลายแน่นอน อย่างน้อยที่สุดก็ครึ่งสภา

ว่าแต่ทำไมถึงมีโอกาสแค่ครึ่งสภา?

เนื่องจากที่นั่ง สส. ในสภา LegCo จำนวน 70 ที่นั่งมีที่มาจาก 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่มาจากการเลือกตั้งทั่วไปที่ชาวฮ่องกงสามารถลงคะแนนเลือกผู้แทนได้โดยตรงจำนวน 35 ที่นั่ง

ส่วนอีกครึ่งหนึ่ง เป็นการเลือกผู้แทนพิเศษตามกลุ่มสายอาชีพ 27 สาย โดยมีคณะกรรมการในสาขาวิชาชีพนั้น ๆ เลือกผู้แทนมาสายละ 1 คน ยกเว้นภาคแรงงานที่จะได้ผู้แทน 3 คน

ถึงแม้ว่าการเลือกผู้แทนครึ่งสภามาจากคณะกรรมการในแต่ละสาขาอาชีพ ที่ส่วนมากมักได้รับอิทธิพลจากรัฐบาลปักกิ่ง จะมีชาวฮ่องกงหลายคนไม่เห็นด้วยกับระบบนี้

แต่อย่างน้อย สมาชิกอีกครึ่งสภาก็มาจากเสียงของชาวฮ่องกง ที่คาดว่าในสมัยหน้า หากวัดจากผลการเลือกตั้งท้องถิ่นที่ผ่านมา ก็น่าจะมีฝ่ายที่สนับสนุนการเรียกร้องประชาธิปไตยเข้ามาได้ท่วมท้นเต็มสภาแน่นอน

เพียงแต่ตอนนี้ ต้องรอไปจนถึง 5 กันยายน ค.ศ.2021

และด้วยกฎหมายความมั่นคงใหม่ของจีน ที่ระบุข้อห้ามชัดเจน 3 ข้อว่า ห้ามปลุกระดม ห้ามสมคบคิดกับต่างชาติ และห้ามล้มล้างการปกครองเพื่อแยกประเทศ

หากใครที่เคยกระทำการที่เกี่ยวโยงกับความผิดใน 3 ข้อนี้ ก็อาจจะโดนดำเนินคดี ซึ่งรวมถึงการถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง

ดังนั้น คำสั่งเขย่าสภาฮ่องกงด้วยการปลด 4 สส. ฝ่ายค้าน เป็นเพียงจุดเริ่มต้นในการสกัดดาวรุ่ง กลุ่มแกนนำฝ่ายต่อต้านรัฐบาลจีน ที่คาดว่าน่าจะโดนอีกหลายคนก่อนที่จะมีการเลือกตั้งทั่วไปในปีหน้า

สิ่งหลายคนกำลังจับตานับจากนี้ อาจจะไม่ใช่แค่การเลือกตั้งครั้งต่อไปในฮ่องกง แต่เป็นกระแสแรงต้านที่อาจทำให้ชาวฮ่องกงต้องออกมาส่งเสียงดังถึงปักกิ่งอีกครั้งบนท้องถนนใจกลางเมืองฮ่องกงอย่างเมื่อปีที่ผ่านมา

รวมถึงบทบาทของสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีคนใหม่ ว่าจะกระโดดเข้ามากดดันจีนแบบไหนในสมรภูมิที่เกาะฮ่องกงแห่งนี้

.

ข้อมูลอ้างอิง

BBC

https://www.bbc.com/news/world-asia-china-54900174

Channel News Asia

https://www.channelnewsasia.com/news/asia/hong-kong-pro-democracy-lawmakers-to-resign-en-masse-13516730#cxrecs_s

The Standard Hong Kong

https://www.thestandard.com.hk/breaking-news/section/4/158916/Empty-seats-left-behind

Wikipedia

https://en.wikipedia.org/wiki/Legislative_Council_of_Hong_Kong

https://en.wikipedia.org/wiki/2019_Hong_Kong_local_elections

PS5 ฮอตเว่อร์! ขายดีเหมือนเชื้อไวรัสระบาด!!

ขึ้นต้นหัวข่าวอย่างนี้ ฟังดูเวอร์จริงไรจริง แต่นี่เรื่องจริง ขนาด BBC.com ยังใช้คำอ้างอิงว่า Pandemic Launch

สืบเนื่องจากเมื่อวานนี้ (12 พฤศจิกายน พ.ศ.2563) เป็นวันแรกที่มีการวางจำหน่ายเครื่องเพลย์สเตชั่น 5 (PS5) ในประเทศสหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น, แคนาดา, เม็กซิโก, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และเกาหลีใต้ ผลปรากฎว่า กระแสการตอบรับดีชนิดที่ต้องเปรียบด้วยคำว่า Pandemic Launch อารมณ์คล้ายๆ การแพร่ระบาดยังไงยังงั้น

จากการรายงานบอกว่า PS5 เครื่องใหม่นี้ ปรู๊ดปร๊าดรวดเร็วกว่าเดิม แถมกราฟิกก็สวยงามกว่าเดิม และมีรายละเอียดที่ตอบสนองนักเล่นเกมมากกว่าเดิม ซึ่งทั้งหมดนี้ จะมาเพิ่มประสบการณ์ของนักเล่มเกมได้ดีกว่าเดิมชัวร์ๆ

ราคาเปิดตัว PS5 อยู่ที่ประมาณ 450 ปอนด์ (ราว 18,000 บาท) แต่สำหรับที่เมืองไทยในเวลานี้ แม้จะยังไม่มีการยืนยันว่าจะมีการเปิดตัวจำหน่ายกันวันไหน แต่ตอนนี้ก็มีประเภท "เครื่องหิ้ว" เข้ามาขายกันแล้ว สนนราคาจะอยู่ที่ 35,000-40,000 บาท (เอื้อก!)

ส่วนเรื่องเกมที่มีคนแอบสงสัยว่า PS5 จะเป็นยังไง ทางต้นสังกัดโซนี่แจ้งว่า นอกจากเกมใหม่เจ๋งๆ ที่เตรียมเปิดตัวแล้ว ยังมีเกมยอดนิยมมากมายจาก PS4 ที่จะมาต่อยอดในเครื่อง PS5 ได้สบาย

ก่อนจะได้สัมผัส PS5 กันจริงจัง ย้อนกลับไปในเครื่องเวอร์ชั่นก่อนๆ อย่างเครื่อง PS4 รุ่นก่อนหน้านี้ ก็ทำยอดขายไปได้ทั่วโลก มากกว่า 112 ล้านเครื่อง เพราะฉะนั้น ไม่ต้องสืบเลยว่า เครื่อง PS5 ตัวล่าสุดนี้ จะ "โกย" ไปเท่าไร

ช่วงนี้ถ้าคนใกล้ตัวเราจะเพ้อลอยๆ ออกมาว่า "เพลย์ห้า เพลย์ห้า" ก็โปรดเข้าใจเขาหน่อยแล้วกันนะ

.

อ้างอิง: https://www.bbc.com/news/newsbeat-54889795

ข้าราชการการเมืองคนใหม่ ทำไมหน้าคุ้น ๆ

เมื่อวันที่ 11 พฤษจิกายน พ.ศ. 2563 เวลา 09.40 น. ณ ทำเนียบรัฐบาล "นายวิษณุ เครืองาม" รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ในกรณีคณะรัฐมนตรี แต่งตั้ง นางสาวธนพร ศรีวิราช ภรรยา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นข้าราชการการเมืองในตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สามารถทำได้หรือไม่

นายวิษณุ ได้กล่าวว่า "ทำไมจะทำไม่ได้ การแต่งตั้งข้าราชการการเมืองเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีในการเสนอแต่งตั้ง และนำเข้าครม.ไม่ใช่อำนาจของ ร.อ.ธรรมนัส

โดยตนไม่ทราบว่าใครเป็นผู้เสนอขึ้นมา ในส่วนที่สังคมตั้งข้อสงสัยว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ในการแต่งตั้งภรรยาหรือญาติเข้ามาทำงาน"

นายวิษณุได้ให้เหตุผลว่า "ไม่ได้ผิดอะไร เพราะไม่ได้เข้าไปทำงานที่กระทรวงเกษตรฯและในด้านกฎหมายก็ไม่ได้ห้าม หากฎหมายห้ามหรือผิดคุณสมบัติก็ต้องแจ้งหรือตัดออกไป"

นายวิษณุยังทิ้งท้ายด้วยว่า "ส่วนตัวไม่รู้จัก นางสาวธนพร แล้วทำไมถึงมาถามตน มาทราบข่าวจากสื่อด้วยซ้ำไปว่าเกี่ยวดองอะไรกัน"

ประวิตรยิ้มอรุ่ม! ม็อบบางตา

เมื่อวันที่ 11 พฤษจิกายน พ.ศ.2563 ณ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) รายงานในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรื่องความเคลื่อนไหวของผู้ชุมนุมกลุ่มราษฎร ที่มวลชนกลุ่มราษฎรนั้นมีความอ่อนแรงลงไปมาก

จึงมีการสอบถามเพิ่มเติมว่ามีการส่งคนไปเจรจากับทางผู้ชุมนุมหรือไม่ แต่ไร้วี่แววคำตอบจาก พล.อ.ประวิตร นอกจากการส่ายหน้าแทนคำตอบเท่านั้น เมื่อถามถึงความเห็นต่อจำนวนผู้ชุมนุมที่น้อยลง จึงได้คำตอบว่า "ก็ดี ดี"

เมื่อถามถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มอบหมายให้ไปพูดคุยกับ ส.ส. พรรคพปชร. เพื่อถอนชื่อญัตติรัฐสภา มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210(2) พล.อ.ประวิตร จึงตอบเพียงว่า "ใครให้ถอน ไม่ได้บอกผม"

อีกทั้งเมื่อถามถึงเรืองที่นายกฯ ขอให้พูดคุยกับส.ส.พรรคพปชร. ที่แสดงท่าทีไม่เหมาะสมต่อนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และอดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "บอกไปแล้ว" เมื่อถามย้ำว่าจะถึงขั้นตัดเงินสนับสนุนหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top