Wednesday, 2 July 2025
THE STATES TIMES TEAM

ปตท. ยังท็อปฟอร์ม โกย ‘DJSI’ 9 ปีติด โตทั้งกำไร ได้ใจทั้งสังคมและสิ่งแวดล้อม

กลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เสียแล้วขององค์กรธุรกิจทั่วโลก ที่จะต้องคำนึงถึง ‘การดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม’ โดยธุรกิจในยุคนี้จำเป็นต้องสนใจคำ 3 คำ คือ สิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และ บรรษัทภิบาล (Governance) หรือย่อๆ ว่า ‘ESG’

เพราะ ESG จะช่วยกรองให้ธุรกิจดำเนินไปโดยใส่ใจกับผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวเนื่องกับ 3 คำที่ว่ามา ไม่ใช่แค่ดีต่อมวลรวม แต่การให้ความสำคัญกับ ESG ขององค์กร ยังดีต่อใจของนักลงทุนที่จะตัดสินใจได้ง่ายในการเข้าไปร่วมลงทุนหรือถือหุ้นในธุรกิจนั้น ๆ

แต่ ESG ก็ไม่ใช่ว่าจะแค่ทำไปตามแต่ใจ เพราะตามเกณฑ์มาตรฐานสากลโลก ได้มีการออกดัชนี หรือตัวชี้วัดในการประเมินองค์กรที่ให้ความสำคัญกับประเด็นเหล่านี้อยู่

โดยหนึ่งในนั้น คือ ดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ หรือ ‘DJSI’ (Dow Jones Sustainability Indices) ที่จัดทำโดย RobecoSAM และ S&P Dow Jones Indices ดัชนีนี้มีการคัดเลือกจาก 2,521 บริษัทในตลาดทุนทั่วโลก และ 802 บริษัทในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (ข้อมูลปีพ.ศ.2561)

มีการประเมินผลการดำเนินงานในมิติเศรษฐกิจ บรรษัทภิบาล สิ่งแวดล้อม และสังคม เพื่อคัดเลือกบริษัทที่มีความโดดเด่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยให้กองทุนต่าง ๆ ทั่วโลกใช้พิจารณาประกอบการลงทุน แน่นอนว่าการจะรักษาสถานะตัวเองให้อยู่ในลิสต์ DJSI ต่อไปเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก!!

หลายคนอาจจะเข้าใจว่า ESG เหล่านี้ ก็แค่ไปปลูกป่า ลดมลพิษโรงงาน และบลา ๆ ที่พร้อมจะบอกว่าองค์กรนั้น ๆ Go Green แต่นั่นแค่เรื่องผิวเผิน เพราะที่พูด ๆ กันเขาเรียกว่า CSR!!

ในความเป็นจริงแล้ว การจะก้าวเข้าไปอยู่ใน DJSI ได้ ต้องยกระดับกระบวนการทางธุรกิจ เอาแบบว่าทั้งองค์กรต้องร่วมมือกันแบบเครือทั่วถึง จะเรียกว่าเป็นจิตวิญญาณขององค์กร ต้องร่วมกันทำเพื่อให้ตอบสนองต่อทุกผู้มีส่วนได้ส่วนเสียแบบพัฒนาใจมาได้ระดับหนึ่งตั้งแต่ผู้บริหารไปจนถึงพนักงานตัวเล็ก ๆ

ส่วนในเชิงโครงสร้างก็ต้องปรับตัวอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้ ESG ของตนเท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเทคโนโลยี และนวัตกรรม รวมถึงรูปแบบธุรกิจ ตรงนี้จะเป็นอีกส่วนสำคัญที่ทำให้บรรดานักลงทุนเกิดความมั่นใจ อยากมาร่วมลงทุน โดยไม่ได้มองแค่ผลกำไรขององค์กรนั้น ๆ เป็นที่ตั้งเพียงอย่างเดียว

สรุปเลยก็คือ ธุรกิจเดินหน้ามีกำไร แถมยังต้องโปร่งใส มีธรรมาภิบาล ใส่ใจต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม หูยย...ยากเหลือล้น

ทั้งนี้บริษัทไทยที่ผ่านการคัดเลือกเป็นสมาชิกดัชนี DJSI เป็นครั้งแรก คือ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ที่ได้ในปีพ.ศ.2547 หลังจากนั้น ก็มีบริษัทไทยทยอยคว้ารางวัลนี้กันมากขึ้น เช่น ในปีพ.ศ.2561 ที่มีบริษัทไทยถึง 20 บริษัท ที่ได้รับการคัดเลือกเป็นสมาชิกของดัชนี เช่น KBANK, SCB, PTTEP, PTT, CPALL, THBEV, PTTGC, SCC และ CPN

ล่าสุดในปี พ.ศ.2563 บริษัท ปตท. เป็นอีกรายที่ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI) สำหรับปตท. กวาดรางวัลนี้มาแล้วต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 ในกลุ่มดัชนีโลก (World Index) และดัชนีตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market Index) โดยปตท.ได้คะแนนสูงสุดเป็น Industry Leader ในกลุ่ม Oil & Gas Upstream & Integrated (OGX) นอกจากนี้ บริษัทในกลุ่ม ปตท. ประกอบด้วย...

.

- บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)

- บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)

- บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน)

- และบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (จีซี)

.

ยังได้ผ่านการประเมินเป็นสมาชิก DJSI ต่อเนื่องครบทุกบริษัท โดย ไทยออยล์ ได้คะแนนสูงสุดเป็น Industry Leader ในกลุ่ม Oil & Gas Refining & Marketing (OGR) และ จีซี ได้คะแนนสูงสุดเป็น Industry Leader ในกลุ่ม Chemicals (CHM) อีกด้วย

ยาต้านซึมเศร้า...รักษาโควิด-19?

อ่ะจริงดิ?! มีรายงานข่าวออกมาว่า กลุ่มนักวิจัยทางการแพทย์ได้ทำการทดลองใช้ยาต้านซึมเศร้าในผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งปรากฎว่าได้ผลดีเกินคาด!

งานวิจัยครั้งนี้ ถูกเผยแพร่ออนไลน์ในวารสารสมาคมการแพทย์อเมริกัน (JAMA) เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ.2563 ที่ผ่านมา โดยเป็นการศึกษาเบื้องต้นของคณะวิจัยจากคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยวอชิงตัน ในเมืองเซนต์หลุยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขาได้ทดลองใช้ยาฟลูวอกซามีน (Fluvoxamine) ซึ่งเป็นยารักษาโรคซึมเศร้า กับผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ที่อาสาเข้าร่วมโครงการนี้จำนวนกว่า 152 ราย

ปรากฎว่า ในช่วงระยะเวลากว่า 2 สัปดาห์ คณะวิจัยได้โทรศัพท์สอบถามติดตามอาการอย่างใกล้ชิด และพบว่า ผู้ป่วยกว่า 80 คน ไม่มีผู้ใดมีอาการทรุดหนักลงหลังผ่านไป 15 วัน ส่วนที่เหลืออีก 72 ราย ก็พบแค่เพียง 6 รายที่มีอาการป่วยขั้นรุนแรง โดย 4 ใน 6 คน จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน

คณะวิจัยได้ให้เหตุผลถึงผลการทดลองที่เป็นไปในทิศทางบวกนี้ว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะยาฟลูวอกซามีน เป็นยาที่มีประสิทธิภาพในการลดทอนจำนวนการผลิตโมเลกุลที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ จึงส่งผลต่ออาการของผู้ป่วยโควิด-19 ด้วยเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ยังเป็นเพียงการวิจัยเบื้องต้นเท่านั้น แต่ภายในสัปดาห์ต่อ ๆ ไป คณะวิจัยจะขยายผลการทดลองนี้ไปทั่วคลีนิคในสหรัฐอเมริกา ซึ่งหากว่า ผลการทดลองเป็นไปด้วยดี คาดว่าจะมีการยกระดับและศึกษารายละเอียดถึงความเป็นไปได้ในการใช้ยานี้ต่อไป

.

อ้างอิง: https://newsroom.uvahealth.com/2020/11/13/antidepressant-may-prevent-severe-covid-19-clinical-trial-finds/

ผู้ป่วยหนีออกจากโรงพยาบาลที่รัฐปีนัง​ ล็อคดาวน์ยาวไปโควิดทำมาเลเซียวุ่นไม่พอ!

คอลัมน์​ "สายตรงจากเคแอล"

ผู้ป่วยโควิด-19 หนีออกจากโรงพยาบาลที่กักตัวในรัฐปีนัง โดยผู้ป่วยชายรายนี้แอบตัดสายรัดข้อมือสีชมพู แล้วหนีออกจากโรงพยาบาลซึ่งเขาเดินเท้าไปไกลถึง 25 กิโลเมตร

จนในที่สุดเจ้าหน้าที่สามารถตามตัวพบที่บริเวณหน้าตึกแถวอาคารพาณิชย์ซึ่งเป็นย่านค้าขายในรัฐปีนัง และในตอนนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าตลอดทางที่เขาหลบหนีมาได้เจอใครหรือสัมผัสอะไรไปบ้าง

สถานการณ์โควิด-19 ในมาเลเซียตอนนี้ยังคงน่าเป็นห่วง ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังคงอยู่ในหลักพันกว่าติดต่อกันเป็นเวลาหลายวันแล้ว โดยทางรัฐบาลได้ประกาศล็อคดาวน์รอบสองตามมาตราการควบคุมการเดินทางแบบมีเงื่อนไข (CMCO) ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน - 6 ธันวาคม พ.ศ.2563 ไปเกือบทั่วประเทศมีเพียง 3 รัฐเท่านั้นที่ไม่ถูกล็อคคดาวน์คือ รัฐเปอร์ริส, กลันตัน และปาหัง

โดยตัวเลขสถานการณ์ล่าสุดวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ.2563

.

มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,103 คน

ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 48,520 คน

ยอดผู้เสียชีวิต 313 คน

รักษาหายกลับบ้าน 35,606 คน

ยังคงรักษาตัวอยู่ 12,601 คน

.

Cr.Photo & Story https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1745015925676110&id=223545897823128

Cr. Kementerian Kesihatan Malaysia.

.

ผิงกั่ว

สาวเมืองชล ตั้งรกรากชานกรุงกัวลาลัมเปอร์​ ตามสามีคนจีนมาเลย์​ ชีวิตท่ามกลางคนจีน​ แขกมาเลย์​ และแขกอินเดีย​ พหุวัฒนธรรม​ ส่องมุมมองจากประเทศเพื่อนบ้านด้านล่างแผ่นดินแม่​ มาเล่าสู่กันฟัง

ล้อมได้ ล้อมไป!!

วันที่ 17 พฤษจิกายน พ.ศ. 2563 บริเวณรอบรัฐสภา เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องกีดขวางมาติดตั้ง ตั้งแต่เวลา 2.00 น. ซึ่งประกอบไปด้วยลวดหนามหีบเพลง แท่งปูนแบริเออร์ และรถเมล์ มาเป็นเครื่องมือกีดขวางถนน

เนื่องจากในวันนี้มีการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญและมีผู้ชุมนุมนัดชุมนุมปิดล้อมรัฐสภา จึงได้มีการวางเครื่องกีดขวางไว้ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้มีการปิดทางเข้าไปยังแยกเกียกกาย เลยแยกบางโพ

ก่อนถึงสะพานข้ามไปยังแยกเกียกกาย มีการปิดเพื่อตั้งด่านตำรวจและด่านความมั่นคง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรถประจำทางปรับอากาศสีเหลือง ปิดทาง แล้ววางรั้วกั้น โดยเจาะพื้นถนนเพื่อยึดแผงรั้ว

ในส่วนท่าเรือเกียกกายก็ได้มีการนำรถเมล์ปิดกั้นทางเข้าออกทั้งหมด ตลอดเส้นทางหน้ารัฐสภามีรถตู้ตำรวจจอดกว่า 30 คันและตั้งเต็นท์กว่า 6 จุด

โดยทางเข้าออกสภาเปิดให้ใช้เพียง 1 ช่องทาง เพื่อให้ ส.ส. สามารถเข้ามาประชุมสภาได้ เมื่อเข้าไปทั้งหมดแล้วเจ้าหน้าที่จะปิดทางเข้ารัฐสภาก่อนทั้งหมด หากยังมีบุคคลเข้าไปไม่หมดเจ้าหน้าที่จะคัดกรองเป็นบุคคลไป

พิธีการรับปริญญาใน'บรูไน' ประเทศที่ปกครองด้วยระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์

คอลัมน์ "เสียงจากเกาะบอร์เนียวตอนเหนือ บรูไน"

กษัตริย์บรูไน สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านฮัสซานัล โบลเกียห์ มอบปริญญาแก่ผู้จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย University of Brunei Darussalam (UBD) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยแห่งชาติของประเทศบรูไน ดารุสซาลาม ประเพณีนี้รับสืบต่อมาจากอดีตเจ้าอาณานิคมอังกฤษ เหมือน ๆ กับประเทศในเครือจักรภพหลาย ๆ ประเทศ

ซึ่งเป็นเกียรติสูงสุดของบัณฑิตทุก ๆ คนในประเทศบรูไน เช่นเดียวกับในประเทศไทย ที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ มอบให้แก่บัณฑิต แม้กระทั่งในมหาวิทยาลัยเอกชน ก็มอบหมายให้องคมนตรีหรือผู้แทนพระองค์

ในประเทศไทยพิธีพระราชทานปริญญาบัตรครั้งแรก มีขึ้นที่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ.2473 หรือราว 90 ปีที่แล้ว โดยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จมาพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตผู้สำเร็จการศึกษาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และถือว่านี่คือต้นแบบประเพณีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จไปในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ จนกระทั่งทุกวันนี้

มหาวิทยาลัยแห่งชาติบรูไนเป็นมหาวิทยาลัยที่ติด Times Higher Education(THE) World University Ranking ครั้งแรกในปีนี้

มหาวิทยาลัยแห่งนี้ยังให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนไทยจาก 3 ชายแดนภาคใต้ทุก ๆ ปี ตั้งแต่ระดับปริญญาตรี ยัน ปริญญาเอก ค่าใช้จ่ายทุกอย่างทางรัฐบาลบรูไนสนับสนุน ใครมีผลการศึกษาดี ทางมหาวิทยาลัยจะสนับสนุนให้เป็นอาจารย์ของมหาวิทยาลัยอีกต่างหาก

https://borneobulletin.com.bn/2020/11/his-majesty-to-graduates-maintain-integrity-faith/

.

อะมีนะห์

สาวไทยมุสลิม เกิดใจกลางกรุงเทพ ชีวิตผกผันแต่งงานกับหนุ่มบรูไน ตั้งรกรากปากกัดตีนถีบแต่มีความสุขดี ยังชีพกับการเผยแพร่อาหารไทย มีความรักผูกพันบ้านเกิดทุกลมหายใจ เลี้ยงลูกสองคน วันนึงจะพาลูกมารู้จักแผ่นดินที่เเม่เกิดให้มากขึ้น แนะนำเพื่อนบ้านบรูไนจากกรุงเสรีเบการ์วันให้คนไทยรู้จักมากขึ้น

อัสลามมุอะลัยกุม​ ริมทางถนนคาราโครัมไฮเวย์

GB Election 2020

วันนี้วันสุดท้าย ที่ทุกคนมีโอกาสหาเสียง พรุ่งนี้วันเลือกตั้ง พรรค PPP ขึ้นคะแนนความนิยมมาอันดับ 1

(ผู้นำพรรคคือ บิลลาวาล บรุตโตร ตระกูลนักการเมืองที่แท้จริง)

คุณมาเรียม นาวาส บุตรสาวของคุณนาวาส ชารีฟ ตอนนี้พ่อหนีคดีอยู่ลอนดอน นายกเก่าโดนจับฐานคอรัปชั่น รอบนี้ส่งลูกสาวมา พรรคอื่นจะชอบดิสเครดิตเธอด้วยคำว่า พ่อมันเป็นโจร มันก็เป็นลูกโจร ยังจะเลือกมันมาอีก!!!

การหาเสียงที่นี่​ ดุเดือดเลือดพล่าน​ การเมืองทั่วโลก ก็เป็นแบบนี้แหละ เปิดตา เปิดใจมองนะคะ ส่วนนายกฮิมราน ข่าน อยู่พรรค PTI ปีนี้คะแนนตกฮวบ ๆ เนื่องจากของแพงทุกอย่าง และแก้ไขเรื่อโควิดทางเหนือได้แย่ แต่ที่บ้านเชียร์ท่านนายกนะคะ ท่านสนับสนุนการท่องเที่ยว และของแพงเพราะท่านอยากยกระดับปากีสถาน น้องชายของเรา อิสรา น้องแท้ๆ ลงเลือกตั้งเขตพาสสุ ไคเบอร์ กุลมิต จัลราบัด

สามีเรามีน้องอยู่พรรค​ PPP (พรรคของบิลลาวาล บุตโต )มารอลุ้นพรุ่งนี้ ว่าแกจะได้เป็นผู้แทนหรือไม่ นโยบายขายฝันหรือประชานิยมของที่นี่​ ก็มีมากมาย เช่น แจกแป้งทำโรตีฟรี (ส่วนนายกปัจจุบัน​ไม่แจกฟรี จ่ายกระสอบละพัน)

ผู้สนับสนุนการท่องเที่ยวมีแค่นายก กับบิลลาวาล นอกนั้นอาจจะไม่สนใจหรือไม่แคร์เลย

พวกเราคนทางเหนือยังชีพได้ด้วยการท่องเที่ยว​ เราจึงสนับสนุนคนที่ช่วยเหลือและนำพานักท่องมา​ GB มากที่สุด การเลือกตั้ง​ของที่นี่จะต่างกับหลายประเทศ​ อาจจะเพราะเหตุผลประเทศกว้างใหญ่​ และการสัญจรลำบาก​ เวลาเลือกตั้งแต่ละรอบเลยไม่ตรงกัน​ แต่ รอบนี้เป็นของโซน​ GB​หรือทางเหนือของประเทศ

รายงานจากเมือง​พาสสุ​ เมืองเล็กๆทางตอนเหนือของประเทศใกล้กับพรมแดนจีน​ -​ ปากีสถาน​ เมืองนี้อยู่ในรัฐกิลกิตบาติสถาน ​(Gilgitbaltistan)

ยืนยันว่าหนูเป็นคนไทยคนเดียวบนถนนคาราโครัมไฮเวย์​ในเวลานี้ ถนนนี้ในอดีตคือเส้นทางสายไหม​ และเป็นถนนที่สูงที่สุดในโลก หนูนอนหนาวท่ามกลางอุณหภูมิ​ติดลบทุกคืน​ โอ๊ย​หนาวจัด

.

.

.

.

.

.

.

.

.

กุลไลล่า

ไกด์สาวชาวไทย​ สะใภ้​ปากี​สถาน จากหัวหิน​พบรักหนุ่มปากีเชื้อสายวาคี อาศัยอยู่เมืองพาสสุ​ ดินแดนเหนือสุดของประเทศปากีสถาน ปัจจุบันเปิดร้านอาหารริมถนนคาราโครัมไฮเวย์​ ถนนที่ได้รับการขนานนามว่าสูงที่สุดในโลก​ หรือเส้นทางสายแพรไหมในอดีต​

คอยต้อนรับแขกที่ผ่านทางมา​ แวะกินอาหารไทย​และชิมชา​ เบเกอรี่ชื่อดัง​ ทางเหนือของปากีสถานได้​ พร้อมให้บริการท่องเที่ยวปากีสถาน​หลังโควิด​-19 ผ่านไป

17 พฤศจิกายน ค.ศ.1970...50 ปี มี ‘เมาส์’

มีอุปกรณ์มากมายที่ประกอบกันขึ้นมาเป็น ‘คอมพิวเตอร์’ แต่หนึ่งในอุปกรณ์ที่มีความจำเป็น เหมือนเกิดมาคู่กัน นั่นคือ ‘เมาส์’

เมาส์ ไม่ใช่ปาก แต่เมาส์ทำหน้าที่คล้ายๆ ปาก คือคอยคลิ๊กคำสั่งการ เพื่อให้โปรแกรมต่างๆ ปฏิบัติงานได้ตามใจเรา หากย้อนกลับไปวันนี้เมื่อ 50 ปีก่อน หรือเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน ปี 1970 ถือเป็นวันที่มีการจดสิทธิบัตรเจ้าอุปกรณ์ที่เรียกว่าเมาส์ ขึ้นเป็นครั้งแรกของโลก

‘US3541541’ คือรหัสสิทธิบัตรของมัน แต่คงไม่จดจำเท่าที่มาของการประดิษฐ์อุปกรณ์ชิ้นนี้ ถูกเริ่มสร้างขึ้นมาในช่วงปี 1963 โดยนักประดิษฐ์ที่ชื่อ ดร. ดักลาส อิงเกิลบาร์ต ณ สถาบันวิจัยสแตนฟอร์ด (Stanford Research Institute) ประเทศสหรัฐอเมริกา

แรกเริ่มเดิมที มันถูกออกแบบเป็นเฟือง 2 ตัววางในลักษณะตั้งฉากกัน และเคลื่อนที่ไปแบบ 2 มิติ ก่อนที่ต่อมาจะแทนที่ล้อหมุนด้วยลูกบอล จึงทำให้สามารถหมุนไปได้รอบทิศทาง

เมาส์ กลายเป็นอุปกรณ์ที่มาช่วยอำนวยความสะดวกร่วมกับคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ และกลายเป็น ‘ของที่ต้องมี’ บนโต๊ะคอมพิวเตอร์ทุกบ้าน วันนี้เมาส์มีอายุ 50 ปี ก็สุดจะเดาว่า อีก 50ข้างหน้า เมาส์จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร หรือไม่...มันอาจจะเป็นอะไรที่มากกว่าเมาส์ไปแล้วก็ได้เมื่อถึงวันนั้น

อ้างอิง: th.wikipedia.org/wiki/เมาส์

"นิวนอร์มอล" รับปริญญา ในรัฐปะหัง ประเทศมาเลเชีย มาแล้ว

คอลัมน์ "สายตรงจากเคแอล" 

รับปริญญาแบบ new normal - มหาวิทยาลัยในประเทศมาเลเซีย University College of Yayasan Pahang (UCYP) ในรัฐปะหัง นำร่องจัดพิธีรับปริญญาบัตรแบบใหม่โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการตัดต่อเสมือนจริง

ผู้สำเร็จการศึกษาเหมือนได้ร่วมรับพระราชทานปริญญาบัตรกับสมเด็จพระราชินี รายา ประไหมสุหรี (Her Majesty Raja Permaisuri Agong Tunku Hajah Azizah Aminah Maimunah Iskandariah binti Almarhum Al-Mutawakkil Alallah Sultan Iskandar Al-Haj.) พระองค์จริง

เนื่องจากมาเลเซียยังอยู่ในช่วงล็อคดาวน์ประเทศจากการระบาดของโรคโควิด 19 ดังนั้นพิธีการต่างๆจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนเพื่อสอดคล้องตามมาตรฐาน (SOP) ของรัฐบาลมาเลเซีย

ซึ่งการรับปริญญารูปแบบใหม่นี้ ทางมหาวิทยาลัยจัดขึ้นทั้งหมด 3 ครั้งคือ ตั้งแต่วัน 9 - 11 ตุลาคม , 16 - 18 ตุลาคม และ 23 - 25 ตุลาคม ทั้ง 3 ครั้งจัดขึ้นในปีนี้ (ค.ศ.2020) ที่ผ่านมา ซึ่งการจัดงานดำเนินไปด้วยดีมีผู้สำเร็จการศึกษา 376 คน

Cr: houseofpahang

.

ผิงกั่ว 

สาวเมืองชล ตั้งรกรากชานกรุงกัวลาลัมเปอร์​ ตามสามีคนจีนมาเลย์​  ชีวิตท่ามกลางคนจีน​ แขกมาเลย์​ และแขกอินเดีย​ พหุวัฒนธรรม​ ส่องมุมมองจากประเทศเพื่อนบ้านด้านล่างแผ่นดินแม่​ มาเล่าสู่กันฟัง

8 ปีที่รอคอย!! ไทยเข้า ‘ตี้’ RCEP หุ้นส่วนเศรษฐกิจ 15 ชาติสะเทือนโลก

ประเทศไทยปิดดีล RCEP เรียบร้อย หลังการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ RCEP ที่ยาวนานกว่า 8 ปี จบลงโดยมี 15 ชาติพันธมิตรเข้าร่วม หากนับตั้งแต่ปีพ.ศ.2555 ก็เรียกว่าผ่านมาเนิ่นนานร่วม 8 ปี ของการเจรจา RCEP!!

RCEP คืออะไร?

RCEP มีชื่อย่อมาจาก Regional Comprehensive Economic Partnership หรือ ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค เป้าหมายของการก่อตั้ง RECP ก็เหมือน ๆ กับการตั้ง EU ในยุโรปนั่นแหละ เพราะเป็นการรวมกลุ่มเพื่อยกระดับเศรษฐกิจ การค้า และให้แก่ทุกประเทศที่เข้าร่วม

โดยอยู่ภายใต้ระบบการค้าเสรีที่ใช้กฎระเบียบเดียวกันของผู้มีส่วนใน RCEP (ภาคี) ที่มีทั้งหมด 15 ประเทศ แบ่งเป็รนชาติอาเซียน (รวมไทย) 10 ประเทศ และประเทศคู่เจรจาอีก 6 ประเทศ ได้แก่ จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ การรวมตัว RCEP จะทำให้เกิดภาพอะไรขึ้น?

- ประชากรในประเทศสมาชิก RCEP จะครอบคลุมคนถึง 2.2 พันล้านคน หรือเกือบ 30% ของประชากรโลก

- คาดจะเกิดมูลค่าการค้ารวมกว่า 10.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 326 ล้านล้านบาท) หรือคิดเป็นเกือบ 28% ของมูลค่าการค้าโลก

- และสร้างตัวเลข GDP รวมกันกว่า 26.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 817.7 ล้านล้านบาท) หรือ 30% ของ GDP โลก

.

จะเรียกว่าความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาครอบนี้ กลายเป็นเรื่องใหญ่ของโลกเลยก็ได้ เพราะ RCEP จะเหมือนกับ 1 ประเทศใหญ่ที่คิดเป็นมูลค่าเศรษฐกิจได้ถึง 1 ใน 3 ของโลกกันเลยทีเดียว เมื่อทั่วโลกเห็นภาพแบบนี้ จะมีใครไม่อยากมาลงทุน พอมาลงทุน เม็ดเงินก็ไหลเวียนในระบบประเทศสมาชิก เกิดตลาดงานใหม่ โครงการใหม่ ๆ เกิดการสะพัดทางเม็ดเงินเศรษฐกิจแบบต่อเนื่อง สรุปประเทศรวย ประชาชนก็สบาย

ฉะนั้นทุกประเทศที่อยู่ในการเจรจา RCEP ต่างพยายามให้ข้อตกลงนี้ลุล่วง

แล้วก็เป็นข่าวดีมาก ๆ โดยเฉพาะกับไทย เพราะร่วมปิดดีลนี้ได้แล้ว!! โดยรัฐบาลไทยที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้เข้าร่วมประชุม RCEP รอบนี้ และมี จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เป็นผู้ลงนาม RCEP กันทางออนไลน์ไปเป็นทีเรียบร้อย

จากนั้นคาดว่า เมื่อแต่ละประเทศให้สัตยาบัน ก็น่าจะเริ่มเปิดเสรี RCEP ทางการค้าและเงื่อนไขทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ได้ในช่วงครึ่งหลังปี พ.ศ.2564

ผลบวกที่ 15 ชาติ RCEP รอคอย?

- RCEP นั้นจะทำให้ประเทศสมาชิกสามารถซื้อขายสินค้าและบริการได้อย่างเสรี ‘ไร้กำแพงภาษี’ ใน 15 ประเทศ RCEP

- RCEP ในส่วนของอาเซียน อาจจะได้อานิสงค์จากประเทศจีน ที่ถือเป็นประเทศแรกๆ ของโลกที่ฟื้นตัวจากวิกฤต COVID-19 ได้สำเร็จ

- การลงนามในข้อตกลง RCEP จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้เศรษฐกิจอาเซียนฟื้นตัวได้เร็วขึ้น โดยเชื่อมเศรษฐกิจอาเซียนเข้าสู่เศรษฐกิจโลกได้ง่ายยิ่งขึ้น

.

ทั้งนี้ RCEP ได้ถูกยกให้เป็นเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประเทศสมาชิกประกอบไปด้วยอาเซียน 10 ประเทศ และประเทศคู่เจรจาอีก 6 ประเทศ ได้แก่ จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, อินเดีย, ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ แต่อินเดียได้ถอนตัวออกไปก่อนหน้านี้ จึงเหลือแค่ 15 ประเทศ เพราะอินเดียกลัวปัญหาสินค้าราคาถูกจากจีนทะลักเข้าประเทศ

แม้จะขาดตลาดใหญ่อย่างอินเดีย แต่ก็เชื่อว่าประเทศสมาชิกใน RCEP ที่ว่ามาก็ยังสร้างระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่ได้อยู่ดี

ความลุล่วงของ RCEP ในช่วงเวลานี้ จึงนับเป็นข่าวดีอย่างมากของเศรษฐกิจไทย!!

เพราะในจังหวะที่ทั่วโลกยังเจอปัญหาโควิด-19 แต่ไทยเราสามารถรับมือได้ จะเป็นแต้มต่อที่ผสมกับแรงหนุนใหม่ที่มี 15 ชาติ RCEP ผลักให้ฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยได้ไวกว่าเดิม...

การเมืองที่ไม่จบลงแค่ ‘ ม็อบ ’

“ ศิลปะ “ เป็นสิ่งที่อยู่ควบคู่กับมนุษย์ สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นไปในสังคม วัฒนธรรม รวมไปถึงเรื่องการเมือง ศิลปะจึงเป็นกระบอกเสียงของประชาชนที่สะท้อนความเห็นผ่านการเรียกร้องอย่างมีชั้นเชิงจากความสร้างสรรค์ในศิลปะ เมื่อเห็นแบบนี้แล้วม็อบก็คงไม่ใช่ทางออกเดียวที่จะแสดงความเห็นหรือแสดงจุดยืน

.

The States Times จึงได้รวม 4 ผลงานศิลปะที่สะท้อนภาพทางการเมืองที่ไม่ได้มีเพียงแค่ ‘ ม็อบ ’ จากศิลปินสุดเจ๋งที่ใช้ศิลปะมาแสดงออกอย่างแสบสันและสร้างสรรค์

.

.

A Show of Hands - Htein Lin
ศิลปะร่วมสมัยของศิลปินชาวพม่า สื่อสารผ่านปูนปลาสเตอร์ที่หล่อจากมือของอดีตนักโทษทางการเมือง สะท้อนให้เห็นถึงความโหดร้ายที่รัฐบาลพม่าได้หยิบยื่นให้กับอดีตนักโทษเหล่านี้
.
Credit : https://www.albrightknox.org/art/exhibitions/htein-lin-show-hands

.

.

Israeli & Palestinian Pillow Fight- Banksy
ผลงานจากศิลปินชื่อดังระดับโลกที่ฝากผลงานเสียดสีแสนเจ็บแสบไว้ตามผนังตึกบ้านเรือนต่างๆเป็นส่วนใหญ่ เช่นเดียวกับผลงาน Israeli & Palestini-an Pillow Fight ภาพสะท้อนของสงครามที่มีเพียงกำแพงกั้น ของสงครามอิสราเอลและปราเลสไตล์
.
Credit : Facebook Banksy

.

.

Politicians' Lies - Marco Melgrati
ผลงานสุดกวนจากศิลปินอิสระชาวอิตาเลียน
ผู้เสียดสีการเมืองผู้จิกกัดนักการเมืองผ่านภาพวาดที่ว่าด้วยคำโกหกต่างๆที่ออกมาผ่านฉากหน้าที่อยู่ในรูปแบบนักการเมือง
.
Credit : Facebook Marco Melgrati

.

.

Carcass - Petr Pavlensky
ศิลปะแสดงสดจากศิลปินชาวรัสเซีย ที่ทุ่มสุดตัวด้วยการนอนเปลือยกายในลวดหนามเพื่อแสดงให้เห็นถึง จุดยืนในการต่อต้านนโยบายที่จำกัดเสรีภาพของประชาชนจากรัฐบาลของรัฐเซีย
.
Credit : https://www.saatchigallery.com/art/art-riot.php


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top