อย่าเฉาฉุ่ย!! ‘แจ็ค หม่า’ ถูกเชือด!! บทเรียนต้องรู้ หากคิดจะทำธุรกิจในแผ่นดิน ‘จีน’

'เฉาฉุ่ย' เป็นคำจีนแต้จิ๋ว แปลตรงตัวว่าปากเหม็น ใช้ในความหมายว่าปากเสีย พูดอะไรไม่เป็นมงคล ซึ่งมักจะเป็นกิริยาที่ผู้ใหญ่เอาไว้ตำหนิเด็กหรือผู้โอ้อวด

สัปดาห์กว่า ๆ ที่ผ่านมา ความเฉาฉุ่ย ที่ออกมาจากปากมหาเศรษฐีแห่งโลกค้าปลีกออนไลน์อย่าง แจ็คหม่า ทำให้เขาต้องเจ็บตัวหนัก และเป็นบทเรียนที่คงต้องจำไปจนตาย

หลังจากบริษัทลูกของเขาที่ชื่อว่า ANT Group ต้องถูกระงับการเข้าตลาดหุ้นในเซี่ยงและฮ่องกงแบบกะทันหัน...เกิดอะไรขึ้นกับแจ็คหม่า?

แจ็คหม่า ผู้ก่อตั้ง Alibaba ได้มีการบริษัทลูกที่ชื่อ ANT Group ซึ่งเป็นบริษัทการเงินแบบดิจิทัลที่ปล่อยเงินกู้ผ่านออนไลน์ สามารถกู้ได้ทุกประเภท ในวงเงินที่จำกัดหรือไม่ตามนโยบายของ ANT

การเข้ามาของ ANT ในจีน ทำให้ผู้คนใช้บริการเยอะมาก เพราะแค่เปิดแอปพลิเคชัน ใส่ข้อมูล บัตรประชาชน รายได้ บริษัทที่ทำงาน แล้วขอกู้ เท่านี้ระบบก็พร้อมจะอนุมัติเงินให้ได้ทันที

เพราะการที่ ANT ทำแบบนั้นได้ มาจากการใช้ระบบ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ เพื่อคำนวณความเป็นไปได้ของผู้กู้ว่าควรให้มากน้อยแค่ไหน ถ้าประเมินข้อมูลแล้ว ผ่านเกณฑ์ประมาณ 70% ก็ให้กู้ได้ทันทีเลย

ตรงนี้ทำให้ประชาชนไม่ต้องเสียเวลาไปธนาคารทำธุรกรรม ยื่นกู้ หาหลักฐาน และประเมินจากบุคคลให้เสียเวลา จนกลายเป็นความสะดวกสบายที่ทำให้บริษัทนี้เติบโตใหญ่มาก

และความนิยมนี้ ก็เริ่มทำให้ระบบการเงินการธนาคารในจีนต่างหวาดกลัว เพราะอย่างที่ทราบกันดี คือ ธนาคารส่วนใหญ่ในจีนนั้น ล้วนเป็นของรัฐบาลจีนทั้งสิ้น

เมื่อ ANT ได้เข้ามาพลิกโฉมวงการการเงินในจีน จนเป็นที่มั่นใจแล้วว่าไปรอด แจ็คหม่า ก็ตัดสินใจที่จะนำ ANT เข้าตลาดหลักทรัพย์ในตลาดเซี่ยงไฮ้และฮ่องกง (เพื่อเสนอขายหุ้นใหม่ให้ประชาชนหรือ IPO)

ตัวเลขที่น่าตกใจของ ANT ที่คาดว่าจะได้หลังปล่อยขาย IPO คาดว่าจะเป็นการทุบสถิติ IPO ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยมูลค่าถึง 37,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 1.12 ล้านล้านบาท ยิ่งใหญ่มากกว่าครั้งที่บริษัท ‘อารัมโก’ บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของประเทศซาอุดีอาระเบีย เคยเอาเข้าตลาดหลักทรัพย์ทาดาวัล ด้วย IPO มูลค่ารวม 25,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

แล้วถ้าหาก ANT ได้เข้าตลาดหลักทรัพย์ จะยิ่งดันให้ทรัพย์สินส่วนตัวของ แจ็คหม่า ที่มีอยู่แล้วมากมาย เพิ่มขึ้นไปอีกทันทีอีกถึง 17,000 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ดูเหมือนเส้นทางที่ดูราบรื่นของแจ็คผู้เคยล้มยักษ์ จะไม่สวยหรู!!

นั่นก็เพราะก่อนหน้าวันที่ ANT จะเริ่ม IPO แค่ 48 ชั่วโมง แจ็คหม่า ถูกเรียกเข้าไปพบในห้องประชุมลับของคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ และคณะกรรมการผู้ควบคุมกฎระเบียบเรื่องการเงินของจีน

หลังจาก แจ็คหม่า ออกมาจากห้องประชุม ทาง ANT, ตลาดหลักทรัพย์ทั้งเซี่ยงไฮ้ และฮ่องกง ประกาศให้ยุติ ANT เข้าสู่ตลาดทันที เหตุผลโดยภาพที่ปรากฎลงบนหน้าสื่อ คือ ANT ทำผิดระเบียบหลายข้อ และต้องกลับไปแก้ไขใหม่

...แต่มีการวิเคราะห์ว่า ‘ฟางเส้นสุดท้าย’ ที่ทำให้ ANT อดเข้าตลาดหลักทรัพย์ มาจากความเฉาฉุ่ยของ แจ็คหม่า เอง

เฉาฉุ่ยยังไง เขาไปปากหมาตอนไหน?

ถ้าใครที่ติดตาม แจ็คหม่า จะรู้ดีว่าเขาเป็นคนชอบพูด ชอบขึ้นเวที และวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนั้นเรื่องนี้ เพื่อทำให้ตัวเองเป็นพระเอกในเวทีโลก และว่ากันว่า...คนจีนที่เป็นข้าราชการ เคยพูดถึงเขาว่าเป็นคนโคตร ‘ปากเสีย’ ชนวนเหตุเรื่องความปากหมาของแจ็คหม่า ถูกขุดคุ้ยขึ้นมา โดยในช่วงที่ ANT กำลังรุ่งโรจน์ เขามักจะชอบวิพากษ์วิจารณ์ธนาคารกลางและผู้คุมกฎการธนาคารจีนในทางลบ

.

เขามักจะชอบตำหนิตามหน้าสื่อและเวทีสาธารณะว่า...

- จีนไม่มีระบบบริหารความเสี่ยงด้านการเงินที่ทันสมัย

- คนในระบบสถาบันการเงินจีนนั้มีความคิด ‘ล้าสมัย’ ไม่ทันยุคดิจิทัล

- รัฐเอาแต่การควบคุมด้วยมาตรการที่ไม่ได้คำนึงถึงความต้องการของผู้บริโภค

- ANT ควรถูกปฏิบัติในฐานะของบริษัทเทคโนโลยี แทนที่จะเป็นบริษัทการเงินที่ถูกคุมอย่างเข้มงวด

- คิดแบบเดิมเลยไม่เกิดการพัฒนานวัตกรรมเท่าที่ควร เช่น FinTech หรือ นวัตกรรมด้านการเงิน

- และควรทิ้งแนวคิดแบบ ‘โรงรับจำนำ’ ไปเสียที

.

ความวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้ กลายเป็นกระแสร้อนแรงในโลกการเงิน และโลกออนไลน์ของจีน เขาถูกตำหนิว่าชอบพูดให้ตัวเองดูดี ดูเท่ห์ ชอบใช้คำคมให้ตัวเองดูเก่งกาจ

แต่ดูเหมือนความปากพล่อยของแจ็คหม่าครั้งนี้ จะไม่ได้จบแค่การถูกตำหนิ เพราะเขากำลังเจอบทเรียนที่เจ็บปวด แบบที่ต้องเสียทั้ง ‘เงิน’ และ ‘โอกาส’ ภายในพริบตา

เพราะหลังการประกาศระงับ ANT เข้าตลาดหลักทรัพย์ในนาทีสุดท้าย ได้ทำให้หุ้นของ Alibaba ในตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงไป 10% คิดเป็นเงินเท่ากับ 76,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยก็เหนาะๆ ที่ 2.3 ล้านล้านบาท เรียกว่าเงินเก่าก็หาย เงินใหม่ที่จะได้ก็อด!!

ฉะนั้นหากจะบอกว่าเรื่องนี้ ‘พัง’ เพราะปากของ แจ็ค หม่า จึงไม่ผิดนัก เพราะอย่าลืมว่า เดิมทีอิทธิพลจากธุรกิจของ ANT ก็เริ่มสร้างความไม่สบายใจต่อกลุ่มผู้นำเหล่าพรรคคอมมิวนิสต์ ที่กำลังจะเป็นบ่อนทำลายอำนาจสถาบันการเงินรัฐ แถม ANT ยังไม่มีคู่แข่งในจีน และยังไม่ได้ขึ้นกับผู้คุมกฎการเงินของจีนเลยด้วย ซึ่งที่ผ่านมา รัฐบาลจีน ก็ไม่ได้ไปกีดกัน

เพราะจีนมีความตั้งใจที่จะปล่อยให้ธุรกิจจีนไปเติบโตที่ไหน หรือร่ำรวยเพียงใดก็ได้ แต่ขอแค่อย่างเดียว คือ ภาคธุรกิจไม่ควรก้าวเข้ามา ‘เล่นการเมือง’ ซึ่งการตำหนิธนาคารจีนและผู้คุมกฎของแจ็คหม่า ถือเป็นการเล่นการเมืองแบบหนึ่งที่ถูกจับไต๋ได้ชัด

นี่คือการสั่งสอนจากรัฐบาลจีน และช่วยอธิบายบทบาทของรัฐบาลจีนที่มีต่อวงการธุรกิจที่อยู่ใต้ผืนแผ่นดินจีนได้ดีทีเดียว...

.

ที่มา: sondhitalk

https://www.youtube.com/watch?v=TK--_LgqmNA