Sunday, 15 June 2025
Hard News Team

นายกฯ ญี่ปุ่นชี้หนี้สาธารณะพุ่งเกิน 260% ของ GDP เปรียบเทียบวิกฤตคล้ายกรีซแต่เลวร้ายยิ่งกว่า

(19 พ.ค. 68) นายกรัฐมนตรีชิเกรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่น เปิดเผยว่าสถานการณ์การคลังของประเทศอยู่ในภาวะที่ย่ำแย่กว่าของกรีซ โดยหนี้สาธารณะของญี่ปุ่นสูงถึง 260% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่สูงที่สุดในบรรดาประเทศพัฒนาแล้ว

อย่างที่ทราบกันดีว่า กรีซเคยประสบวิกฤตการคลังรุนแรงในช่วงปี 2009–2015 จากหนี้สาธารณะที่พุ่งสูงกว่า 180% ของ GDP รัฐบาลขาดความสามารถในการชำระหนี้ ต้องพึ่งพาเงินช่วยเหลือจากสหภาพยุโรปและ IMF รวมมูลค่ากว่า 260,000 ล้านยูโร พร้อมมาตรการรัดเข็มขัดเข้มงวด ส่งผลให้เศรษฐกิจถดถอย ประชาชนว่างงานสูงและเกิดความไม่สงบในประเทศอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี นายกอิชิบะได้ออกมาปฏิเสธข้อเสนอจากพรรคร่วมรัฐบาลบางกลุ่มและสมาชิกฝ่ายนิติบัญญัติที่เรียกร้องให้มีการลดภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เขายืนยันว่าฐานะทางการเงินของประเทศในปัจจุบันอยู่ในจุดที่ไม่สามารถรองรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลดรายได้ของรัฐได้อีกต่อไป โดยชี้ว่าหากดำเนินการลดภาษีในขณะนี้จะยิ่งทำให้ภาระหนี้สาธารณะของประเทศเพิ่มขึ้นอย่างไม่ยั่งยืน

ด้านนักเศรษฐศาสตร์เตือนว่าหนี้สาธารณะที่สูงของญี่ปุ่นอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะหากอัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้ภาระดอกเบี้ยของรัฐบาลเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นยังมีข้อได้เปรียบที่หนี้ส่วนใหญ่ถือโดยนักลงทุนภายในประเทศ และรัฐบาลมีการควบคุมสกุลเงินของตนเอง ซึ่งแตกต่างจากสถานการณ์ของกรีซที่พึ่งพาหนี้จากต่างประเทศและใช้สกุลเงินยูโร

ศูนย์ฝึกทหารใหม่ ต้อนรับคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ศึกษาดูงานการฝึกอบรมทหารใหม่ของกองทัพเรือ 

(19 พ.ค.68) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ศึกษาดูงานการฝึกอบรมทหารใหม่ ในส่วนของกองทัพเรือ โดยมี พล.ร.อ.ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ เสนาธิการทหารเรือ (เสธ.ทร.)พล.ร.ท.ประสงค์ สังข์ทอง เจ้ากรมกำลังพลทหารเรือ (จก.กพ.ทร.) พล.ร.ต.สมริทธ์ งามสวย รองเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารเรือ (รอง จก.ยศ.ทร.) และนาวาเอก ทิวา อ่อนละออ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ (ผบ.ศฝท.ยศ.ทร.) พร้อมด้วยคณะผู้บังคับบัญชา ให้การต้อนรับและนำชมการฝึกอบรม การปกครองดูแลทหารใหม่ การบรรยายสรุปและตอบข้อซักถาม ณ ศฝท.ยศ.ทร. ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

โอกาสนี้ เสนาธิการทหารเรือ ได้กล่าวต้อนรับคณะกรรมาธิการการทหารฯ สรุปได้ว่า "การที่ทุกท่านได้ให้เกียรติเดินทางมาศึกษาดูงาน ณ ศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ในวันนี้ นับเป็นโอกาสอันดีที่จะทำให้ทุกท่านรับทราบและเข้าใจรูปแบบการพัฒนากำลังพล ความต้องการกำลังพล และทหารกองประจำการของกองทัพเรือ นโยบายการฝึกและการดูแลทหารกองประจำการ ให้มีความปลอดภัย ตลอดจนการศึกษาและสวัสดิการต่างๆ รวมทั้งภารกิจหน้าที่ ในการฝึก การดูแลทหารกองประจำการของศูนย์ฝึกทหารใหม่ ซึ่งในภาพรวมเป็นไปตามมอตโตของ ผู้บัญชาการทหารเรือ "Navy-Safety 2025" หรือปีแห่งความปลอดภัยของกองทัพเรือ

หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในการศึกษาดูงานในครั้งนี้ คณะกรรมาธิการการทหารทุกท่าน จะได้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกองทัพเรือ ในการฝึกอบรมทหารใหม่อย่างเป็นมืออาชีพ มีมาตรฐานตามหลักการและแบบแผน ซึ่งกองทัพเรือ ได้ยึดแนวทางปฏิบัติตามกรอบแนวคิดการฝึก และข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อให้ได้ทหารกองประจำการ ที่มีคุณธรรม จริยธรรม และมีความเป็นทหารอาชีพ อันจะส่งผลไปยังการเป็นลูกหลานที่ดีขึ้นของพ่อแม่ ผู้ปกครองและญาติ รวมถึงการเป็นพลเมืองที่ดีมีคุณภาพ เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป"

ทั้งนี้ ภายหลังการศึกษาดูงานเสร็จสิ้น ประธานคณะกรรมาธิการการทหารฯ กล่าวชื่นชมในมาตรฐานการฝึก และการดูแลทหารใหม่ ที่มีมาตรฐานสมกับการเป็น “โรงเรียน” ในการฝึกทหาร ซึ่งนายทหารทุกนายมีความเป็น “ครู” ที่เอื้อเฟื้อต่อ “นักเรียน” อีกด้วย

เป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารเรือในการดูแล ปกครองทหารใหม่ให้มีความปลอดภัยทุกด้านสมกับเป็นปีแห่งความปลอดภัยของกองทัพเรือ “Navy-Safety 2025”
นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน 0909535645

#หล่อหลอมกายใจรับใช้ชาติ
#เทิดทูนสถาบัน_ป้องกันรัฐ_พัฒนาชาติ_ราษฎร์ศรัทธา 
#Monarchy_Country_Government_People  
#กองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ  
#NAVYSAFETY2025 
#ศูนย์ฝึกทหารใหม่_กรมยุทธศึกษาทหารเรือ  
#RTC #Recruit_Training_Center

‘อรรถวิชช์’ เผยร่าง กม.ส่งเสริมอุตฯปาล์มน้ำมันเสร็จแล้ว ดูแลจัดการทั้งระบบตั้งแต่ชาวสวนถึงอุตสาหกรรมการผลิต

‘อรรถวิชช์’ เผย ยกร่างพ.ร.บ.ส่งเสริมอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันเสร็จแล้ว ชู "สำนักงานอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน" ดูแลโครงสร้างแบบครบวงจร ช่วยเกษตรกร-ผู้ประกอบการ มีรายได้อย่างมั่นคงเป็นธรรมทุกฝ่าย 

(19 พ.ค. 68) ดร.อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ประธานคณะกรรมการยกร่างกฎหมายส่งเสริมปาล์มน้ำมัน เปิดเผยว่า ตนได้รับมอบหมายจากนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้เป็นประธานยกร่างกฎหมายส่งเสริมอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน โดยนายพีระพันธุ์ และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้รับเป็นที่ปรึกษาและผู้ให้ความเห็นเกี่ยวกับร่างกฎหมายฉบับนี้

ซึ่งล่าสุดตนได้ดำเนินการยกร่างกฎหมายเสร็จสิ้น และส่งมอบต่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยขั้นตอนหลังจากนี้จะเป็นการเตรียมเปิดรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาสังคม ก่อนนำร่างกฎหมายดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.) และสภาผู้แทนราษฎร ให้พิจารณาเห็นชอบร่างกฎหมายเพื่อบังคับใช้ต่อไป

ดร.อรรถวิชช์ กล่าวถึงสาระสำคัญของร่างกฎหมายส่งเสริมอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน ว่า จะบัญญัติให้มีสำนักอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน ที่จะเป็นหน่วยงานหลักในการควบคุมดูแลร่างกฎหมายนี้และอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ซึ่งจะใช้ระบบแบ่งปันผลประโยชน์ โดยเกษตรกร จะได้ผลประโยชน์จากการขายผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มที่แปรรูป ทั้งจะมีระบบประกันรายได้และการสร้างระบบซื้อขายอย่างเป็นธรรม ที่สำคัญ จะทำให้เกษตรกรไม่ต้องเร่งขายปาล์มที่ยังไม่สุกเต็มที่ควบคู่ไปกับมีการควบคุมการชั่งน้ำหนัก คำนวณเปอร์เซ็นต์น้ำมันปาล์มอย่างเป็นธรรม ซึ่งถือได้ว่าจะช่วยสร้างผลประโยชน์ให้กับเกษตรกรอย่างทั่วถึงและเป็นธรรมโดยแท้จริง

ส่วนผู้ประกอบการก็จะมีการควบคุมจำนวนของผู้ประกอบการ การสร้างมาตรฐานที่เท่าเทียม มีระบบส่งเสริม รวมทั้งการได้วัตถุดิบชั้นดี โดยไม่ต้องแย่งกันซื้อปาล์ม แต่ก็ยังได้ปาล์มสุก มีคุณภาพ ได้น้ำมันสูง

“ตนใช้ระบบการกำกับคล้ายกับพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย ที่ยึดนโยบายหลักที่ว่า อุตสาหกรรมนำเกษตร มาเป็นหัวใจหลักในการพัฒนาและขับเคลื่อน อันจะสร้างผลประโยชน์ที่เป็นธรรมได้ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ที่สำคัญเกษตรกรและผู้ประกอบการสามารถเติบโตไปพร้อมกันได้อย่างมั่นคงและเป็นธรรม โดยไม่มีใครถูกเอาเปรียบด้วย” ดร.อรรถวิชช์ กล่าวทิ้งท้าย

‘โจ ไบเดน’ ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมาก ชนิดรุนแรง ขณะที่แพทย์ตรวจพบลุกลามเข้าสู่กระดูกแล้ว

(19 พ.ค. 68) สำนักงานส่วนตัวของโจ ไบเดน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดเผยว่าไบเดนได้รับการวินิจฉัยเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ชนิดรุนแรง เมื่อวันศุกร์ (16 พ.ค.) โดยมีลักษณะตามคะแนนกลีสัน (Gleason) ที่ 9 (กลุ่มระดับ 5) ซึ่งจัดอยู่ในขั้นรุนแรง และได้ลุกลามเข้ากระดูกแล้ว

รายงานระบุว่าก่อนหน้านี้ไบเดนมีอาการผิดปกติในระบบทางเดินปัสสาวะ นำสู่การที่แพทย์ตรวจพบ "ตุ่มเนื้อขนาดเล็ก" บริเวณต่อมลูกหมาก โดยแม้เป็นมะเร็งชนิดรุนแรง แต่ยังตอบสนองต่อฮอร์โมน จึงสามารถดำเนินการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งไบเดนและครอบครัวกำลังหารือทางเลือกร่วมกับทีมแพทย์

อนึ่ง ไบเดน อายุ 82 ปี ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระหว่างเดือนมกราคม 2021-มกราคม 2025 โดยเป็นประธานาธิบดีที่มีอายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ

นายกฯ รับรายงานอินโดฯจับเรือประมงขนยาเสพติด ด้าน ศรชช. ยันเรือ 'Aungtoetoe99' ไม่ใช่เรือไทย

นายกฯ รับทราบรายงานเรือประมง ‘Aungtoetoe99’ โดนจับขนยาเสพติดที่อินโดฯ ศรชล. ยันไม่ใช่เรือไทย ย้ำรัฐบาลร่วมมือกับทุกประเทศจัดการกับผู้กระทำความผิดในทุกมิติ

(19 พ.ค. 68) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ได้รับรายงานจาก พลเรือเอกจิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะรองผู้อำนวยการ ศรชล. และ พลเรือตรีจุมพล นาคบัว โฆษก ศรชล. ว่า ตามที่มีข่าวกองทัพเรืออินโดนีเซียจับกุมเรือประมงต่างชาติที่ลักลอบขนยาเสพติด จำนวน 1.9 ตัน ในเขตน่านน้ำอินโดนีเซีย ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ได้ประสานศูนย์ข่าวสารทางทะเล และศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ

โดยได้รับแจ้งจากสำนักงานผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารอินโดนีเซียว่าเมื่อวันที่ 13 พ.ค. 68 กองทัพเรืออินโดนีเซีย ได้เข้าจับกุมเรือประมงต่างชาติชื่อ Aungtoetoe99 ตามข่าวสื่อมวลชนในอินโดนีเซีย รายงานข่าวอ้างว่าเป็นเรือประมงไทย ในเขตน่านน้ำ Salat Durian หมู่เกาะเรียวของประเทศอินโดนีเซีย และค้นพบยาเสพติด 1.9 ตัน มูลค่า 428 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (USD) และจับกุมผู้ควบคุมเรือ โดยกล่าวอ้างว่าเป็นชาวไทย 1 คน ลูกเรือชาวเมียนมา 4 คน ทุกคนไม่มีเอกสารประจำตัว

นายกรัฐมนตรีได้รับรายงาน จากศูนย์ปฏิบัติการของศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศปก.ศรชล.) ซึ่งได้ตรวจสอบฐานข้อมูลเรือประมงไทยแล้ว ไม่ปรากฏชื่อเรือดังกล่าวอยู่ในระบบข้อมูลเรือประมงของไทย จึงได้ประสานการตรวจสอบกับหน่วยงานต่างประเทศ และหน่วยงานภายในประเทศ ว่าเรือประมงดังกล่าวมีสัญชาติใด และสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงจาร์กาตา กำลังประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศ อินโดนีเซียว่าผู้ควบคุมเรือเป็นชาวไทยจริงหรือไม่ เนื่องจากมีความไม่ชัดเจนเรื่องสัญชาติของไต้ก๋งเรือ เพราะกรมข่าวทหารของไทยค้นหาชื่อ “บ่าวพร กิ่งแก้ว” ในระบบทะเบียนราษฎร์ไม่พบ ว่ามีการจดทะเบียนแต่อย่างใด และล่ามแจ้งข้อมูลมาว่า ไต้ก๋งให้การว่าเกิดที่เมียนมา มีพ่อหรือแม่เป็นคนเมียนมา แต่พักอาศัยอยู่ที่ระนอง โดยมีบัตรประชาชนของทั้งเมียนมาและไทย

“นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญสูงสุดต่อการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายและแรงงานภาคการประมง (IUU Fishing) โดยเฉพาะในกรณีที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดข้ามชาติ ไม่ว่าจะเป็นการลักลอบขนยาเสพติด การค้ามนุษย์ จะดำเนินการตามกฎหมายโดยขั้นเด็ดขาด ไม่มีการละเว้น เพื่อไม่ให้ประเทศไทยถูกใช้เป็นฐานในการกระทำความผิดทางทะเล และจะร่วมมือกับทุกประเทศเพื่อสกัดกั้นขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติที่ใช้ประโยชน์จากช่องทางทางทะเลอย่างเข้มงวด” โฆษกประจำสำนักนายกฯ ระบุ

คณะจัดทำหนังสือ "เมื่อรบต้องชนะ" ประชุมหารือรวบรวมข้อมูลเรื่องราวเหตุการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในอดีต

(19 พ.ค. 68) พล.ร.ท.สนธยา น้อยฉายา อดีต ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เป็นประธานการประชุม คณะจัดทำหนังสือชื่อเรื่อง "เมื่อรบต้องชนะ"  ได้มีการพบปะประชุมหารือเกี่ยวกับการรวบรวมข้อมูลเรื่องราวเหตุการณ์ การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อสมัยอดีด ณ ห้องประชุมครัว coffee wars ริมถนน 331 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จว.ชลบุรี โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมหารือ จำนวน 10 คน ได้แก่ พล.ร.ท.สนธยา  น้อยฉายา ประธานการประชุมฯ น.อ.พิชัย รอดกวี น.ท.เกรียงไกร แสงอุทัย  น.ต.สำเริง บ้านพวน น.ต.สุวัช แสงสว่าง น.ต.ชาลี กัลปะ ร.ท.อยู่  ปานเกษม ร.ท.สุระชัย ขันคำ ร.ท.กฤษณ์ แผลงเดช และ ร.ต.ปัญญา

โดยการประชุม เป็นแบบพบปะ เสวนาแบบเป็นกันเอง ผลัดเปลี่ยนกันเล่าประสพการณ์จริง เสนอแนะ เพื่อพิจารณานำข้อมูลให้ฝ่ายเรียบเรียงทำเป็นหนังสือ โดย ร.ท.กฤษ แผลงเดช ผู้จดบันทึก ใช้เวลาพบปะหารือ ประมาณ 7 ชม. ตั้งแต่เวลา 11.30 - 18.00 

หนังสือ "เมื่อรบต้องชนะ" จะเป็นเรื่องราวบอกเล่าถึงสถานการณ์จริงเกี่ยวกับการสู้รบ ในพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา โดยได้ยกตัวอย่างเหตุการณ์สู้รบที่สำคัญๆ ในหลายพื้นที่ เช่น เหตุการบ้านโขดทราย เหตุการณ์บ้านชำราก เป็นต้น

โดยมี ร.ท.กฤษ แผลงเดช อดีดผู้เคยอยู่ในเหตุการณ์จริง เป็นผู้ริเริ่มการประสานงานรวบรวมข้อมูล เพื่อจัดทำหนังสือดังกล่าว ซึ่งปัจจุบัน สามารถรวบรวมข้อมูลได้ ประมาณ 70% แล้ว

โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดทำ เพื่อให้เยาวชนรุ่นหลังได้เรียนรู้และรับทราบสถานการณ์และเหตุการณ์จริง รวมทั้งรวบรวมรายชื่อ วีรกรรมเกี่ยวกับการสู้รบในอดีต

ซึ่งบทวิเคราะห์ หนังสือดังกล่าว น่าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง สำหรับบุคคลไทยโดยทั่วไป รวมทั้งเยาวชนรุ่นหลัง ไม่มากก็น้อย 

นิราช ทิพย์ศรี รายงาน 0909535645

ลำปาง-ผบ.มทบ.32 นำกำลังพลจิตอาสาฯ ร่วมบริจาคโลหิต “70 พรรษา 70 ล้านซีซี” เฉลิมพระเกียรติฯ 

เมื่อวันที่ (19 พ.ค. 68) เวลา 11.30 น. พลตรี วิชาญ ศรีภัทรางกูร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32/ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานมณฑลทหารบกที่ 32 พร้อมด้วยคณะผู้บังคับบัญชา และจิตอาสา 904 หลักสูตรพื้นฐานภาค 3 รุ่นที่ 1/65 ตลอดจนกำลังพลจิตอาสาพระราชทานมณฑลทหารบกที่ 32 จำนวน 22 นาย ได้ร่วมบริจาคโลหิต ณ บริเวณลานกิจกรรมชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลำปาง ทั้งนี้โดยความร่วมมือกับ รพ.มะเร็งลำปาง มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ที่จำเป็นต้องการใช้โลหิต และส่งต่อโลหิตเพื่อนำไปใช้ช่วยชีวิตผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องใช้โลหิตในการรักษาตามโครงการ “70 พรรษา 70 ล้านซีซี เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี” เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ ทรงเจริญพระชนมายุ 70 พรรษา 2 เมษายน 2568 

ในการนี้ นางสุรีรัตน์ พวงสายใจ รองผู้อำนวยการด้านการพยาบาล โรงพยาบาลมะเร็งลำปาง เป็นผู้แทนผู้อำนวยการฯ พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ร่วมให้การต้อนรับ ซึ่งกำลังพล มทบ.32 สามารถบริจาคโลหิตได้จำนวน 15 นาย ได้โลหิตจำนวน 6,000 ซีซี นอกจากนั้นยังมีพี่น้องประชาชนที่เข้าไปใช้บริการในศูนย์การค้าเซ็นทรัลลำปางร่วมบริจาคอีกด้วย 

ภาวินันท์ บุตรหล้า รายงาน

ตำรวจพัทยาเจ๋ง “ผบช.ภ.2” ชมปิดจ๊อบไว รวบ 2 อดีตช่าง คิดสั้นเป็นโจร ตระเวนลักทรัพย์พูลวิลล่า 12 วัน ก่อ 5 คดี สุดท้ายหนีไม่รอด

(19 พ.ค. 68) ผบช.ภ.2 ชื่นชม “ตำรวจพัทยา” ปิดจ๊อบไว สร้างความเชื่อมั่น สืบพัทยาปิดฉาก 2 โจรแสบอดีตช่างตกแต่งต่อเติม ตระเวนย่องเบา 12 วัน ก่อ 5 คดี ลักทรัพย์บ้านพูลวิลล่านักท่องเที่ยวกลางดึก รวบได้คาบ้านเช่า ยึดของกลางอื้อกว่า 100 รายการ สารภาพหาเงินใช้หนี้ เสพยา สุดท้ายไม่รอด

เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เปิดเผยว่า ชื่นชมตำรวจ สภ.พัทยา ที่ปิดจ๊อบคดีคนร้ายตระเวนลักทรัพย์นักท่องเที่ยวในบ้านพักแบบพูลวิลล่าได้อย่างรวดเร็ว สืบสวนเกาะติดจนจับกุมคนร้ายได้พร้อมของกลาง สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว 

พล.ต.ท.ยิ่งยศ เผยว่า เมื่อเวลา 01.06 น. วันนี้ (19 พฤษภาคม 2568) พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.อรุษ สภานนท์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองพัทยา พร้อมกำลังชุดสืบสวน เข้าจับกุม นายอธิป หรือ “อาร์ม” อายุ 31 ปี และนายกุน อายุ 22 ปี สัญชาติกัมพูชา ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ ซอยเขามะกอก ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมของกลางนับร้อยรายการ ทั้งเงินสด ของแบรนด์เนม อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ โดยการจับกุมครั้งนี้เนื่องนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ เข้าแจ้งความว่าถูกลักทรัพย์ขณะเข้าพักบ้านพักแบบพูลวิลล่าในพื้นที่พัทยา โดยเกิดเหตุต่อเนื่อง 5 ครั้งในบ้านพัก 5 แห่ง ตั้งแต่วันที่ 5 -17 พฤษภาคม 2568 ฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองพัทยา จึงเร่งสืบสวน ตรวจสอบกล้องวงจรปิด จนพบชายต้องสงสัย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์วนเวียนในพื้นที่ก่อนเกิดเหตุซ้ำ ๆ ตามแกะรอยจนจับกุมได้พร้อมของกลางจำนวนมาก

ผบช.ภ.2 เผยด้วยว่า จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้งสองรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง รับว่าเคยทำงานเป็นช่างต่อเติมบ้านพักพูลวิลล่าหลายแห่งจึงรู้ทางเข้าออก ซอกมุมลับ และจุดอ่อนของบ้านแต่ละหลังอย่างดี ก่อนเฝ้าดูบ้านที่มีนักท่องเที่ยวเข้าพัก รอจังหวะที่เหยื่อดื่มหนักจนเมาหลับ ก็ย่องเข้ากวาดทรัพย์สินหลบหนี ของกลางที่ยึดมาได้ ประกอบด้วยนาฬิกาแบรนด์หรู กระเป๋าแบรนด์เนมโทรศัพท์มือถือ เครื่องเล่นเกม บัตรต่าง ๆ รวมถึงเงินสดทั้งสกุลบาทและต่างประเทศ กว่า 100 รายการ โดยผู้ต้องหาอ้างว่าทรัพย์สินที่ลักมาแบ่งกันนำไปขายใช้หนี้ และซื้อยาเสพติดบางส่วนแล้ว จึงแจ้งข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น” พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนของกลางจะเปิดให้ผู้เสียหายนำหลักฐานมาติดต่อขอรับคืนต่อไป

“ขอชื่นชมในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทุกนาย โดยเฉพาะทีมสืบสวน ที่ใช้ทั้งความสามารถ ความมุ่งมั่น และความอดทน แกะรอยคนร้ายจนสามารถจับกุมตัวได้ครบทีมพร้อมของกลาง ถือเป็นผลงานที่สมบูรณ์แบบ สร้างความมั่นใจให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวอย่างแท้จริงนี่คือภาพของตำรวจมืออาชีพ ที่ไม่ยอมปล่อยให้คนร้ายลอยนวล ทุกคดีต้องมีคำตอบ ความปลอดภัยของประชาชนต้องมาก่อน เพราะ “ทุกความปลอดภัยของประชาชน คือความสำเร็จของตำรวจ” การป้องกันเหตุได้ เมื่อเกิดเหตุจับกุมคนร้ายได้ เป็นความภาคภูมิใจของตำรวจ ขอให้รักษามาตรฐานแห่งความเป็นตำรวจไทย โดยเฉพาะพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก หน้าที่ของตำรวจต้องสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว ” ผบช.ภ.2  

พล.ต.ท.ยิ่งยศ ฝากเตือนผู้ประกอบการบ้านพักพูลวิลล่า และนักท่องเที่ยวทุกคน ว่า ให้เพิ่มความระมัดระวัง ตรวจสอบระบบล็อก ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด ติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อเป็นการป้องกันเบื้องต้น และช่วยเหลือการสืบสวนในภายหลัง  และหากมีเหตุด่วนเหตุร้ายให้โทรแจ้งตำรวจที่เบอร์ 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมเข้าไปดูแล 

BYD ตั้งศูนย์กลางยุโรปแห่งใหม่ในฮังการี ดันเป็นฐานผลิต-ทดสอบรถ EV ครบวงจร

(19 พ.ค. 68) BYD บริษัทรถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ของจีน ประกาศแผนจัดตั้งศูนย์กลางยุโรปแห่งใหม่ในประเทศฮังการี โดยซีอีโอและประธานบริษัท หวัง ฉวนฝู เปิดเผยในงานแถลงข่าวร่วมกับนายกรัฐมนตรีฮังการี วิกเตอร์ ออร์บาน ที่กรุงบูดาเปสต์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

CEO หวังระบุว่า ศูนย์กลางแห่งใหม่นี้จะสร้างงานกว่า 2,000 ตำแหน่ง และจะมีบทบาทสำคัญ 3 ด้าน ได้แก่ การเป็นศูนย์กลางด้านการขายและบริการหลังการขาย การทดสอบผลิตภัณฑ์ และการพัฒนาเวอร์ชันของรถยนต์ที่เหมาะสมกับความต้องการของตลาดในยุโรป โดยโครงการนี้ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ BYD ที่จะขยายฐานในทวีปยุโรปอย่างจริงจัง

ก่อนหน้านี้ BYD ได้เปิดโรงงานแห่งแรกในยุโรปเมื่อปี 2016 ที่เมืองโคมารอม ทางตะวันตกเฉียงเหนือของฮังการี โดยเน้นการประกอบรถโดยสารไฟฟ้าเป็นหลัก ปัจจุบันบริษัทกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงานแห่งที่สองในประเทศ ซึ่งจะเน้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับผู้บริโภคทั่วไป ซึ่งถือเป็นการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคนี้

ทั้งนี้ ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีออร์บัน ฮังการีได้กลายเป็นพันธมิตรด้านการค้าและการลงทุนที่สำคัญของจีนในยุโรป แตกต่างจากบางประเทศในสหภาพยุโรปที่เริ่มถอยห่างจากจีน ออร์บานเริ่มกระชับความสัมพันธ์กับปักกิ่งตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในปี 2010 และนโยบายดังกล่าวได้นำไปสู่กระแสการลงทุนจากจีนในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่และรถยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศอย่างต่อเนื่องในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา

ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชื่นชมตำรวจจราจรไหวพริบดี "จับ 2 หนุ่มขนยาบ้าซุกหลังเก๋ง 1.88 แสนเม็ด"

วันนี้ (19 พ.ค. 68) พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา ในฐานะหัวหน้าคณะทำงาน เสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ได้รับรายงานกรณีเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 03.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการ 1 กองกำกับการ 1 (สายตรวจ) กองบังคับการตำรวจจราจร ขณะตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ เพื่อลดและป้องกันการเกิดอุบุัติเหตุทางถนน บริเวณหน้าปั๊มน้ำมันชถนนสุวินทวงศ์ เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร ได้เรียกตรวจรถยนต์ยี่ห้อเชฟโรเลต ทะเบียนจังหวัดราชบุรี ภายในรถพบชายสองคน ลักษณะท่าทางมีพิรุธ จึงได้ขอตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชน พบว่าทั้งสองมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ทางภาคใต้ ซึ่งมีความขัดแย้งกับป้ายทะเบียนรถที่ขับขี่ ประกอบกับไม่สามาถตอบคำถามเกี่ยวกับรถยนต์ที่ขับขี่มาได้ ชุดปฏิบัติการจึงทำการตรวจค้น พบยาบ้า จำนวน 188,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่บริเวณในกระโปรงท้ายรถ

จากการสอบสวนในเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสอง ยอมรับว่ายาเสพติดดังกล่าวเป็นของตนเอง โดยได้ร่วมกันเดินทางไปรับมาจากพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งมีผู้นำยาเสพติดมาทิ้งไว้ริมถนน และตนจะนำไปส่งต่อยังจุดนัดหมายในพื้นที่เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ส่งพนักงานสอบสวน สน.สุวินทวงศ์ เพื่อขยายผล และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ท.นิธิธรฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้กล่าวชื่นชมไปยังยังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่โดยใช้ไหวพริบในการสังเกตพฤติกรรมต้องสงสัย จนนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำความผิดได้ ซึ่งหากยาเสพติดดังกล่าวหลุดรอดแล้วถูกนำไปจำหน่ายในพื้นที่ จะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของเยาวชน ที่เป็นลูกหลาน เป็นอนาคตของชาติ อีกทั้งยาเสพติดทุกชนิด เป็นภัยต่อความมั่นคงต่อการพัฒนาประเทศ และส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชน จึงขอชื่นชมการปฏิบัติงาน และให้ตำรวจจราจรทุกนายถือเป็นแบบอย่าง ขอให้หมั่นทบทวนฝึกฝนยุทธวิธีในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อความปลอดภัย

หากประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน พบเหตุต้องสงสัย หรือ สอบถามข้อมูลเส้นทางเพิ่มเติม  แจ้งอุบัติเหตุจราจรและ ขอความช่วยเหลือด้านการจราจร สามารถติดต่อสายด่วนกองบังคับการตำรวจจราจร 1197 , ตำรวจทางหลวง 1193 และสายด่วน 191 ตำรวจทั่วประเทศได้ตลอด 24 ชั่วโมง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top