Monday, 29 April 2024
THESTAESTIMES

'อ.เจษฎ์' ไขข้อสงสัย หากนิวเคลียร์ตกกลางกรุงเทพ คาด ปชช. ดับด่วนร่วม 2 แสน ผลกระทบตามหลังอื้อ!!

รศ.ดร. เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ หรือ "อ.เจษฎา" อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ โพสต์ถึงผลลัพธ์หากระเบิดนิวเคลียร์มาตกกลางกรุงเทพฯ ว่า ...

"ถ้ามีระเบิดนิวเคลียร์ มาตกกลางกรุงเทพฯ จะเกิดอะไรขึ้น ? "

เมื่อกี้ นักข่าวสัมภาษณ์ความเห็นเกี่ยวกับเรื่อง "อันตรายจากอาวุธนิวเคลียร์ และสารกัมมันตรังสีปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม" ซึ่งคำถามหนึ่งที่น่าสนใจ คือ สงครามในยูเครน-รัสเซีย คงยังไม่ถึงขั้นใช้ระเบิดนิวเคลียร์ และคงยังไม่กระทบกับไทยโดยตรง (หวังว่า) แต่ถ้าเกิดล่ะ ถ้าบังเอิญมาระเบิดนิวเคลียร์มาลงที่ไทยด้วย จะเป็นยังไงบ้าง !?

ก็ไปเจอกับเว็บ NukeMap นี้ (https://nukemap.org/nukemap/) ที่เค้าจำลองผลของการเกิดระเบิดขึ้นของอาวุธนิวเคลียร์ ที่ใดก็ได้ ระดับใดก็ได้ ว่าจะมีผลกระทบอย่างไร เป็นรัศมีกว้างแค่ไหน

เลยตั้งค่าว่า ถ้าลงกลางกรุงเทพฯ แถวอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย (กรุงเทพฯ เป็นจุดหมายหลักแน่ๆ ถ้าเกิดสงครามขึ้น) โดยให้เป็นจรวดขีปนาวุธข้ามทวีปของเกาหลีเหนือ ขนาด 150 กิโลตัน (10 เท่าของที่ฮิโรชิมา) ให้ระเบิดบนผิวดิน และมีกระแสลมพัดไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 

ผลที่ได้ก็ออกมาดังรูป คือ มีคนตายทันที 2.35 แสนคน มีคนบาดเจ็บทันที 6.3 แสนคน และภายใน 24 ชั่วโมง จะมีคนตายรวม 1.9 ล้านคน

ส่วนระดับความรุนแรงของการระเบิดก็ขึ้นกับระยะห่างจากจุดศูนย์กลางการระเบิด ตามระยะของวงสี (โดนบ้านใครบ้างเนี่ย) แบ่งเป็น 6 ระดับ คือ 

1.) Fireball รัศมี 0.59 กิโลเมตร - อะไรที่อยู่ในรัศมีนี้ จะถูกความร้อนของลูกไฟทำให้ระเหิดการเป็นไอ ไปหมด

2.) Heavy blast damage รัศมี 1.16 กม. - อาคารคอนกรีตใหญ่ๆ จะเสียหายอย่างหนัก หรือถล่มทลายลงมา คนจะตาย 100% 

3.) Radiation รัศมี 1.94 กม. - มีกัมมันตภาพรังสีรุนแรง ซึ่งถ้ามีผู้ที่รอดชีวิตมา 15% จะตายด้วยมะเร็งใน 1 เดือน

4.) Moderate blast damage รัศมี 2.43 กม. - อาคารบ้านเรือนส่วนใหญ่จะถล่มลงมา คนจะบาดเจ็บกันถ้วนหน้า และจะมีคนเสียชีวิตเป็นวงกว้าง มีโอกาสสูงที่จะเกิดไฟไหม้อาคารต่างๆ 

5.) Thermal radiation รัศมี 4.67 กม. - คนที่รอด จะบาดเจ็บจากการที่ผิวหนังไหม้ระดับ 3 แต่มักจะไม่รู้สึกเจ็บปวดเพราะมันทำลายระบบประสาทรับความรู้สึกเจ็บไปแล้ว จากนั้นจะเกิดแผลเป็นรุนแรง หรือพิการ หรือจำเป็นต้องตัดแขนขาทิ้ง

และ 6.) Light blast damage รัศมี 6.25 กม. - กระจกหน้าต่างน่าจะแตกหมด ทำให้หลายคนบาดเจ็บ ถ้ายังอยู่ใกล้กระจกหลังจากที่เห็นแสงวาบของการระเบิด (แสงระเบิด เดินทางเร็วกว่าคลื่นแรงกด ที่ตามมา) 

‘ทักษิณ’ อ่านศึกสงคราม รัสเซีย - ยูเครน ‘ปูติน’ หวั่นถูกรุกฆาต - ผู้นำยูเครนไม่เจรจาแต่แรก

วันที่ 1 มีนาคม 2565 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือ โทนี่ วู้ดซัม กล่าวในรายการ CARE Talk x CARE ClubHouse ในหัวข้อ “ไทยแลนด์แสนวิกฤต โควิดยังไม่ซา เอาอีกแล้วหว่ารัสเซีย-ยูเครน” โดยวิเคราะห์ตั้งแต่ประวัติศาสตร์มาถึงสถานการณ์ล่าสุด และมองในมุมที่ไทยควรแสดงท่าทีต่อวิกฤตการณ์นี้

ทักษิณ กล่าวว่า เดิมทียูเครนเป็นหนึ่งในสหภาพโซเวียตที่มีรัสเซียเป็นพี่ใหญ่ แต่แตกออกมาเป็นประเทศต่างๆ ช่วงสงครามเย็น นายบอริส เยลต์ซิน ประธานาธิบดีรัสเซียตอนนั้น เป็นคนพานายวลาดิมีร์ ปูตินเข้ามาสู่การเมือง ดังนั้นปูตินย่อมเข้าใจความรู้สึกของนายบอริส จึงเดินเกมให้อดีตสหภาพโซเวียตเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับรัสเซีย แต่บางประเทศ เช่น จอร์เจียไปอยู่กับทางอเมริกา

วันนี้ยูเครนอยากอยู่ในสหภาพยุโรปและเป็นสมาชิกนาโต้ การที่ยูเครนจะเป็นสมาชิกนาโต้จะทำให้ตะวันตกเอาอาวุธ-จรวดมาตั้งไว้ในยูเครนได้ ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามรัสเซีย

ขณะที่สวีเดนและฟินแลนด์เก่าแก่กว่ายูเครน แต่ไม่เป็นสมาชิกนาโต้ เพราะไม่อยากให้รัสเซียมองว่าเป็นภัยคุกคาม แต่ยูเครนเลือกที่จะเป็นสมาชิกนาโต้ ทางรัสเซียจึงคิดว่าน่ากลัว และต้องการให้ยูเครนเลิก แต่ยูเครนไม่ยอม

ปูตินโกรธ-ยูเครนใฝ่นาโต้
ถ้าจะอ่านรัสเซียหรืออ่านปูตินโดยเฉพาะ คือคนรัสเซียชอบเล่นหมากรุก สอนกันตั้งแต่เป็นเด็กอนุบาล ดังนั้นรัสเซียจะเดินทุกอย่างแบบมีกลยุทธ์ คิดแบบมีการวางแผน นี่คือนิสัยของคนรัสเซีย

ปูตินเป็นเคจีบีมาก่อน เคยอยู่เยอรมนี ดังนั้นยังมีความคิดเรื่องของสงครามเย็น และมีความคิดว่ากำลังจะถูกรุกฆาต ทำให้รู้สึกว่าไม่ได้แล้วต้องลุย เมื่อพูดกันไม่รู้เรื่องต้องลุย

ถ้านายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ไม่เลือกเป็นสมาชิกนาโต้ โดยไปพบปูตินแล้วคุยเลยว่าถ้าไม่เป็นสมาชิกนาโต้ จะให้ปลอดภัยอย่างไร เราต้องเป็นมิตรกันนะ มันก็จะไม่เป็นไร แล้วก็ไปเป็นแค่สมาชิกอียู

แต่ประธานาธิบดียูเครนเลือกที่จะเดินหน้าไปเป็นสมาชิกนาโต้ ทำให้ปูตินโกรธ ความที่เป็นนักเดินหมากรุก ความที่เป็นเคจีบีเก่า ฝังใจเกี่ยวกับเรื่องของสงครามเย็นอยู่ก็ถือว่ารบเป็นรบ ไม่กลัว นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้

ส่วนประธานาธิบดียูเครนก็ฉลาดพลิกวิกฤติเป็นโอกาส เริ่มจากเซ็นใบสมัครสมาชิกอียู ขอทางลัดให้เป็นเลยได้ไหม เพราะจะกลับไปหารัสเซียก็คงไม่ไว้ใจแล้ว สองคือ จะออกบอนด์สงคราม ซึ่งมีคนมาช่วย มีคนใช้คริปโตจ่ายสนับสนุน เช่น บริษัทไบแนนซ์ บริษัทใหญ่ด้านคริปโต ก็บริจาคให้ 10 ล้านเหรียญ และกำลังจะระดมเพิ่มอีก 20 ล้านเหรียญ

แต่ในที่สุดเริ่มมีการเจรจารอบแรกแล้ว จากนั้นกลับไปเมืองหลวงเพื่อดูว่าจะว่าอย่างไรต่อ ขณะเดียวกันรัสเซียก็ส่งกำลังทหารบุกเข้าไปอีก ต่อให้เจรจาก็ขอยึดไว้ก่อน

ผู้นำนักแสดงช่วยได้เยอะ
วันนี้มีคนคิดกันว่าสมัยอิรัก ทำไมอเมริกาเข้าไปยึดอิรักและเปลี่ยนระบอบผู้ปกครองได้ ในเมื่ออเมริกาทำได้ รัสเซียก็ทำบ้าง จริงๆ แล้วทุกประเทศต้องยึดกฎบัตรสหประชาชาติ เหมือนกับว่าเรามีกติกา แต่คนตัวใหญ่บอกว่าฉันจะทำอะไรก็ได้ ฉันไม่กลัวใคร แบบนี้ก็ไม่ถูก

วันนี้หลายประเทศทางตะวันตกและเป็นพันธมิตรกับอเมริกากับยุโรป ก็ประณามรัสเซียเรื่องการใช้ความรุนแรง และการใช้ทหารบุกเข้าไปในประเทศยูเครน แม้แต่สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นประเทศเป็นกลางมา 200 ปี ไม่เคยเข้าข้างใครเลย ก็ยืนยันที่จะแซงก์ชั่นรัสเซีย สิงคโปร์ ในฐานะพันธมิตรสหรัฐ ก็ประณาม

สำหรับยูเครน ทักษิณมองว่า การที่ประธานาธิบดีเป็นนักแสดง ถือว่าแสดงได้ดี ดูรู้ว่าเป็นคนฉลาด พวกดาราตลกจะหัวไว ไม่อย่างนั้นจะตลกต่อเนื่องไม่ได้ จะพลิกตัวเองตลอดเวลา ยอมรับว่าการเป็นนักแสดงช่วยได้เยอะ

แต่น่าตำหนิว่าตอนที่ปูตินขู่มาแล้วทำไมไม่ไปคุยกับเขา ถ้าเป็นตน ตนจะวิ่งไปคุยกับปูตินเลยว่าจะไม่ไปเป็นสมาชิกนาโต้ แต่ขอไครเมียคืนได้ไหมที่คุณยึดไป ให้เป็นประเทศเท่ๆ เหมือนเดิม แล้วเรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน อาจจะไปเป็นสมาชิกอียูเพื่อเศรษฐกิจ แต่ไม่ยุ่งเรื่องการเมือง แต่ปรากฏว่าเขาไม่ทำ

เมื่อปูตินบุกเข้ามา เขาก็แสดงได้ดีให้ตะวันตกเห็นใจว่าคนตัวเล็กโดนคนตัวใหญ่รังแก และวันนี้ชวนนางงาม แชมป์มวยมาถือปืนเข้าสู้ แล้วก็ถ่ายรูปลงสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์ก แล้วก็สมัครสมาชิกอียู ตรงนี้ถือว่าเขาเก่ง แต่ที่ควรจะคุยก่อนกลับไม่ไปคุย

‘เพื่อไทย’ ห่วง ‘บิ๊กตู่’ ไม่เข้าใจสถานการณ์ศก. หลังรัสเซียบุกยูเครน ชี้ต้นทุนพลังงาน - เงินเฟ้อ พุ่งแน่

‘เพื่อไทย’ ห่วง ‘บิ๊กตู่’ ไม่เข้าใจสถานการณ์เศรษฐกิจหลังรัสเซียบุกยูเครน ชี้เคยเตือนนานแล้วทั้งเงินเฟ้อ หนี้ครัวเรือนพุ่ง แนะออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนดีกว่าซื้อเรือดำน้ำ

นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดหนองคาย อดีตรองเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สภาพัฒน์ฯ ได้แสดงความเป็นห่วงปริมาณหนี้เสียที่เพิ่มขึ้น ภาวะเงินเฟ้อ และหนึ้ครัวเรือนที่พุ่งสูง ซึ่งคณะทำงานเศรษฐกิจได้เตือนไว้นานแล้ว และยังมีแนวโน้มที่จะแย่ลงไปอีก จากผลกระทบของสงครามรัสเซียบุกยูเครน ดังนั้นจึงห่วงว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ จะไม่เข้าใจความรุนแรงของผลกระทบในหลายด้านทั้งราคาน้ำมันและราคาก๊าซที่พุ่งสูง รวมถึงราคาปุ๋ย และราคาอาหารสัตว์

อีกทั้งยังจะมีผลกระทบถึงการส่งออกและการท่องเที่ยวของไทย เพราะขนาดเศรษฐกิจไทยในปี 64 ฟื้นตัวได้ต่ำเตี้ยเพียง 1.6% หลังจากปี 63 เศรษฐกิจไทยทรุดหนักติดลบไปถึง -6.2% แต่พลเอกประยุทธ์กลับบอกว่าพอใจทั้งที่เป็นความล้มเหลว ทั้งนี้ เชื่อว่าอีกไม่นานธนาคารแห่งประเทศไทยจะต้องปรับการคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2565 นี้ต่ำลงอีก โดยเฉพาะปัญหาเงินเฟ้อที่จะเกิดจากราคาน้ำมัน และภาวะเงินเฟ้อของโลกจะส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ทั้งนี้ อยากให้พลเอกประยุทธ์ได้ทราบว่า รัสเซียผลิตน้ำมันวันละ 9.8 ล้านบาร์เรล เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯ และส่งออกน้ำมันวันละ 4.7 ล้าน บาร์เรลเป็นอันดับสองของโลกเช่นกัน รองจากซาอุดีอาระเบีย และยังเป็นประเทศที่มีก๊าซธรรมชาติเป็นอันดับ 1 ของโลก โดยส่งให้ทั้งยุโรป ประเทศหลักๆ ของยุโรปต่างต้องพึ่งพาก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียเช่น เยอรมนี พึ่งพาถึง 49% อิตาลี 46% และฝรั่งเศส 24% ดังนั้นจะเห็นได้ว่าสงครามรัสเซียและยูเครนจะมีผลกระทบต่อราคาพลังงานอย่างมาก โดยเฉพาะที่ยุโรปอาจจะต้องแซงชั่นรัสเซียในการกระทำดังกล่าว ก็หมายความว่าก๊าซธรรมชาติและน้ำมันจะราคาเพิ่มขึ้นอีกมาก

โดยบริษัท Vitol เทรดเดอร์น้ำมันใหญ่ที่สุดในโลก คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันจะสูงกว่า $100 อีกอย่างน้อย 6-9 เดือน และถึงแม้ไม่มีสงครามดีมานด์ที่สูงกว่าซัพพลายของน้ำมันก็ยังคงจะทำให้น้ำมันสูงขึ้นและราคาน้ำมันอาจจะสูงขึ้นไปอีกได้ ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับที่คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยได้คาดการณ์และเตือนไว้แล้วเช่นกัน

ห้องเรียนใหญ่ที่สุดในโลกของในหลวง ร.9 แหล่งเรียนรู้ที่มีชีวิต 4,800 แห่งทั่วประเทศ

อย่างที่ทราบกันดีว่า ปัญหาสิ่งแวดล้อม ดิน น้ำ ป่า อากาศ โลกร้อน และพลังงานทดแทน นับเป็นปัญหาใหญ่ของโลกในปัจจุบัน ซึ่งหลายๆ ประเทศ และหลายหน่วยงาน ต่างรณรงค์ เพื่อปลูกจิตสำนึกให้ทุกคนตระหนัก และร่วมกันแก้ปัญหา

ทั้งนี้ ปัญหาสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจากการกระทำของมนุษย์ ซึ่งส่งผลสะท้อนกลับมายังความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวัน อาทิ ปัญหาโลกร้อนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกวัน ดังนั้นการตระหนักรู้และจัดการดูแลเพื่อรักษาธรรมชาติไม่ให้ถูกทำลาย และสร้างสมดุลเพื่อความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมเป็นหน้าที่ของทุกคน ที่จะต้องมีส่วนร่วมในการหันมาอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้คงอยู่สืบต่อไป การเปลี่ยนแนวคิดและสร้างวิถีชีวิตแห่งความยั่งยืนจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องดำเนินการไปพร้อมๆ กัน

ที่ผ่านมา บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกับศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) มูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และมูลนิธิธรรมดี จัดทำโครงการ ทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา โดยได้คัดเลือกครูอาจารย์จากทั่วประเทศมาร่วมกิจกรรม ซึ่งจัดไปแล้ว 15 ครั้ง 

สำหรับ ครั้งที่ 15 จัดขึ้น ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเพชรบุรี โดยในครั้งนี้เป็นการรณรงค์สร้างจิตสำนึกการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ปรับวิถีชีวิตสู่สมดุลด้วยนวัตกรรมศาสตร์พระราชา ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ตำบลสามพระยา อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี เป็นศูนย์ศึกษาการพัฒนาป่าไม้อเนกประสงค์ มุ่งหมายศึกษารูปแบบการพัฒนาเกษตรกรรมควบคู่ไปกับการปลูกป่า เพื่อฟื้นฟูสภาพธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พัฒนาแหล่งน้ำเพื่อใช้ในการเกษตรและปลูกป่า จัดสรรที่ทำกินให้กับราษฎร ที่ได้เข้ามาบุกรุกทำกินอยู่แต่เดิมให้ได้เข้าอยู่อาศัย และให้ความรู้กับราษฎร ให้ทำการเกษตรอย่างถูกวิธี รวมทั้งให้มีส่วนร่วมในการปลูกป่า ดูแลรักษาป่า ตลอดจนให้ได้รับประโยชน์จากผลผลิตของป่า เพื่อที่ราษฎรจะได้ไม่บุกรุกทำลายป่าอีกต่อไป เป็นการดูแลทรัพยากรที่สำคัญ ทั้งคนและสิ่งแวดล้อม

ศูนย์นี้เคยประสบกับปัญหาพื้นที่ป่าไม้ถูกทำลาย ดินขาดการบำรุงรักษา ทำให้ธรรมชาติขาดความสมดุล เกิดความแห้งแล้ง ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล มีปริมาณฝนลดลง และเมื่อเวลามีฝนตกฝนจะตกหนัก เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดการชะล้างพังทลาย หน้าดินถูกกัดเซาะเป็นร่องลึก เนื่องจากไม่มีพืชคลุมดินเป็นสิ่งกีดขวางการไหลบ่าของน้ำ  

“หญ้าแฝก” จึงเป็นพืชที่เหมาะสมในการนำมาปลูกเพื่อพัฒนาพื้นดินบริเวณนี้ เพื่อการใช้ประโยชน์ในด้านการอนุรักษ์ดินและน้ำ ชะลอและเก็บกักน้ำให้ดินชุ่มชื่น ตลอดจนการดูแลสิ่งแวดล้อมในด้านการช่วยบำบัดน้ำเสียได้อีกด้วย ซึ่งคณะครูอาจารย์ก็ได้ร่วมลงมือทำกิจกรรมปลูกหญ้าแฝก เพื่อเป็นการเรียนรู้และสร้างประสบการณ์การอนุรักษ์ธรรมชาติด้วยการลงมือปฏิบัติจริง

พ.ต.อ.พันศักดิ์ สมันตรัฐ ผอ.ศูนย์ฯ กล่าวว่า “นอกเหนือจากการดูแลรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแล้ว การดูแลประชาชนในพื้นที่ก็เป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกัน ดังนั้น ความรู้ด้านการตลาดก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชาวบ้าน” ซึ่งได้ยกตัวอย่างการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ที่ชาวบ้านเพาะปลูก อาทิ การแปรรูปน้ำอ้อย จากเดิมที่การขายเป็นลำอ้อย ให้ปรับมาขายเป็นแก้ว ที่ได้ราคามากกว่า หรือการเพาะปลูกอย่างไร เพื่อให้ได้ผลผลิตเก็บเกี่ยวออกมาขายได้ทุกวัน อย่างเช่นการปลูกผักบุ้งที่มีการวางแผนการปลูกอย่างเป็นระบบ เป็นต้น

“หลักการที่สำคัญในการบริหารจัดการและการดูแลชาวบ้านเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพและอยู่อย่างมีความสุข คือการร้อยเรียงเรื่อง การบูรณาการด้านวิชาการ โดยมีภูมิปัญญาท้องถิ่น และการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่” ให้สอดคล้องไปด้วยกัน ผอ.ศูนย์สรุป

การทำกิจกรรมที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทราย อันเนื่องมาจากพระราชดำรินี้ ดร.ดนัย จันทร์เจ้าฉาย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) มูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด และประธานมูลนิธิธรรมดี ให้ความเห็นอย่างน่าสนใจว่า “ที่ศูนย์นี้ ถือเป็นห้องเรียนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยพื้นที่กว่า 20,000 ไร่ ที่เป็นพื้นที่ป่าธรรมชาติ ป่าชายหาด และป่าชายเลน เป็นสมบัติของโลกใบนี้ที่เราควรต้องช่วยกันดูแลรักษาฟื้นฟูอนุรักษ์ธรรมชาติ ทั้งดิน น้ำ ลม ไฟ ช่วยให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดี การพยายามออกจากห้องเรียนสี่เหลี่ยมจะช่วยให้เราได้เข้าถึงธรรมชาติและสามารถเรียนรู้จากธรรมชาติได้ทุกเรื่อง ไม่ใช่เฉพาะเรื่องของการเกษตรเท่านั้น แต่ยังบูรณาการไปถึงเรื่องเศรษฐกิจ การตลาด เชื่อมโยงไปถึงอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงการท่องเที่ยว ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับประชาชนในท้องที่ได้อีกด้วย”

'วิษณุ' ชี้คดีแตงโมไม่ต้องถึงมือดีเอสไอ เชื่อตำรวจคลี่คลายได้ ไม่มีอะไรซับซ้อน

'วิษณุ' ชี้คดีแตงโม ไม่ต้องถึงมือดีเอสไอเป็นคดีพิเศษ เชื่อประจักษ์พยานและสิ่งแวดล้อมตำรวจสามารถคลี่คลายได้

2 มี.ค. 65 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีคดีการเสียชีวิตของแตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ นางเอกสาวชื่อดังที่จมน้ำเสียชีวิต และเกิดปัญหาคดีมีความซับซ้อนและอยู่ในความสนใจของประชาชนสามารถนำเข้าพิจารณาเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ว่าไม่ทราบ เพราะโดยทั่วไปก็ไม่น่าเข้าหลักเกณฑ์ แต่มีอยู่ข้อหนึ่งคือคดีที่อยู่ในความสนใจ และเกรงว่าจะมีความสลับซับซ้อน ก็อาจจะส่งเรื่องไปเข้าคณะกรรมการสั่งให้เข้าเป็นคดีพิเศษได้ แต่โดยทั่วไปโดยรูปการณ์ไม่มีอะไรซับซ้อนมาก

‘ออริจิ้น’ เปิดแผนธุรกิจ 3 ปี ปั้นบริษัทลูก ดันเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ สร้างอาณาจักรแสนล้าน

‘ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้’ เปิดแผนธุรกิจ 3 ปี โตแบบพหุจักรวาล ‘Origin Multiverse’ ชู 3 ขั้นตอน Expanding-Growing-Connecting ปั้นธุรกิจโลจิสติกส์ เฮลท์แคร์ ประกันภัย พลังงาน การเงิน ร้านอาหาร กัญชง ดันบริษัทลูกเข้าจดทะเบียน ตลท. สร้าง Market Cap แสนล้านในปี 68 

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI กล่าวว่า ในปี 65 นี้ บริษัทเตรียมสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้วยแผนการดำเนินงานภายใต้แนวคิด ‘ORIGIN MULTIVERSE’ หรือแผนการเติบโตแบบพหุจักรวาล ซึ่งประกอบด้วย 3 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การขยายธุรกิจใหม่ ซึ่งเป็นการต่อยอดการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ไปสู่ธุรกิจใหม่ 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย กลุ่มธุรกิจสร้างรายได้ประจำ กลุ่มธุรกิจบริการ และกลุ่มเมกะเทรนด์ระยะยาว โดยทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจนี้ ประกอบด้วย ธุรกิจย่อยที่ทยอยเปิดตัวตั้งแต่ปีที่ผ่านมา เช่น โลจิสติกส์ เฮลท์แคร์ ประกันภัย พลังงาน การเงิน ร้านอาหาร กัญชง และยังอาจมีจักรวาลย่อยๆ และจะทยอยเพิ่มขึ้นในอนาคต

ขั้นตอนที่ 2 คือแยกกันเติบโตแบบคู่ขนาน เพื่อให้ทุกบริษัทย่อยมีเส้นทางการเติบโตแบบคู่ขนานในธุรกิจของตัวเอง ผ่านการจัดทัพผู้บริหารมืออาชีพในธุรกิจนั้นๆ และยังมีแผนจะผลักดันให้บริษัทลูกเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยในปีนี้จะนำร่องเข้าจดทะเบียนด้วย บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด และบริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด บริษัทร่วมทุนกับบริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้นำบริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) เข้า IPO ไปแล้วในช่วงปลายปี 64 คาดว่าภายในปี 68 ออริจิ้นและทุกบริษัทที่เข้าจดทะเบียนจะกลายเป็นอาณาจักรที่มีมูลค่าตลาดรวมกันมากกว่า 1 แสนล้านบาท

‘วิโรจน์’ หวั่น!! รัฐชิงต่ออายุสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้า ก่อนจะมีการเลือกตั้งผู้ว่า กทม.

2 มี.ค. 65 วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล เดินทางมายังศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เพื่อขอให้คุณอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนปัจจุบัน รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เปิดเผยรายละเอียดข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

“ผมกังวลว่ารัฐบาลจะชิงต่ออายุสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าให้จบก่อนจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เพราะตอนนี้แคนดิเดตผู้ว่ากรุงเทพมหานครทุกคนแสดงจุดยืนตรงกันว่าหากได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯ จะไม่ยอมให้มีการต่อสัญญาสัมปทานได้โดยง่ายอย่างแน่นอน”

วิโรจน์ แสดงความกังวลต่อความไม่โปร่งใสนี้ว่า ข้อมูลเกือบทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าถูกปิดไว้เป็นความลับ ประชาชนทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงได้ แคนดิเดตผู้ว่า กทม. ทุกคนที่ต้องการออกแบบนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาค่าโดยสารรถไฟฟ้าก็ไม่สามารถเข้าถึงได้เช่นเดียวกัน 

ไทย เคยทดลองใช้รถเมล์สองชั้น เมื่อ 34 ปีก่อน วอน ผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ พิจารณา นำกลับมาใช้อีกครั้ง

เพจเฟซบุ๊ก รถเมล์ไทยแฟนคลับ Rotmaethai แชร์เรื่องราวของรถเมล์สองชั้น ที่เคยวิ่งในกรุงเทพฯ เมื่อ 34 ปีก่อน เนื้อหาระบุว่า...

26 กุมภาพันธ์ 2531 
ขสมก. เปิดการทดลองเดินรถเมล์สองชั้นยี่ห้อเลย์แลนด์ ในสาย 29 52 95 138 เป็นเวลา 6 เดือน

===ออมนิบัส 2 ชั้น ชั้นละ 2 ล้าน===
นับตั้งแต่ต้นปี 2531 ขสมก. มีความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจหลายประการ ที่ได้รับการกล่าวถึงมากที่สุดคือรถใหม่สีขาวคาดแดงจำนวน 900 คัน เก็บค่าโดยสารระบบหยอดเหรียญ อัตราค่าโดยสาร 3 บาท แพงกว่ารถแบบเก่า 1 บาท โดย ขสมก. ให้เหตุผลว่ารถใหม่ให้บริการดีกว่ารถเก่า ซึ่งถึงทุกวันนี้ก็คงรู้ซึ้งกันดีแล้วว่าบริการดีกว่ากันขนาดไหน

ความเคลื่อนไหวอีกประการหนึ่ง ที่ได้รับความสนใจมากพอสมควรเหมือนกันคือ การนำรถเมล์ 2 ชั้นมาทดลองวิ่งให้บริการประชาชน

รถเมล์สองชั้นชนิดนี้ ผลิตโดยบริษัทเลย์แลนด์แห่งประเทศอังกฤษ ทาง ขสมก. ได้ทำข้อตกลงกับบริษัทเลย์แลนด์ว่า ขอนำรถโดยสารสองชั้นนี้มาทดลองวิ่งบริการประชาชนในกรุงเทพมหานครเป็นเวลา 6 เดือนแบบฟรีๆ หากเป็นที่นิยมของประชาชน หรือสามารถแก้ไขปัญหาการขาดทุนของ ขสมก. ได้ ก็จะเปิดให้เอกชนมาเป็นผู้ลงทุนซื้อรถโดยสารสองชั้นนี้ วิ่งในเส้นทางของ ขสมก.

ส่วนทางด้านบริษัทเลย์แลนด์ก็เสนอเงื่อนไขให้ว่า หากมีการซื้อรถเมล์สองชั้นจำนวน 740 คัน ทางรัฐบาลอังกฤษซึ่งสนับสนุนโครงการผลิตรถสองชั้นอยู่ ก็จะสนับสนุนด้านการเงินให้กับ ขสมก. ฟรีๆ ทันที 900 ล้านบาท

รถที่บริษัทเลย์แลนด์จัดหามาให้ ขสมก. ใช้ฟรีนี้ มีจำนวน 1 คัน เมื่อแรก ขสมก. ตั้งใจจะให้บริการย่านชุมชน แต่ปรากฏว่ามีอุปสรรคในการเดินรถมาก เช่น ลักษณะถนนในกรุงเทพมหานครไม่ราบเรียบเสมอกัน บางช่วงโค้งเป็นหลังเต่า บางช่วงมีสะพานที่สูงชัน บางถนนมีสายโทรศัพท์พาดข้ามถนน บางถนนมีต้นไม้ที่อาจจะทำให้ละกับหน้าต่างรถชั้นบนได้ 

ขสมก. จึงตกลงใจให้นำมาวิ่งในสาย 29 (รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยฯ) โดยมีเส้นทางจากรังสิต ผ่านมาตาม ถ.วิภาวดีตลอดสาย เลี้ยวเข้าสามเหลี่ยมดินแดง เข้าอนุสาวรีย์ชัยฯ จอดด้านห้างโรบินสัน (เกาะดินแดง) สลับกับเส้นทางสาย 95 จากรังสิต ดอนเมือง วิภาวดี หลักสี่ รามอินทรา บางกะปิ สุดทางที่ ม.รามคำแหง เก็บค่าโดยสาร 2 บาทตลอดสาย ขสมก. เป็นผู้จ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสาร

เมื่อทดลองครบ 6 เดือนแล้ว จะนำรายได้มาหักค่าใช้จ่าย เงินที่เหลือจากรายได้ จะนำขึ้นทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ

ลักษณะของรถ ตัวถังสีขาว มีแถบสีน้ำเงินพาดเฉียงๆ ที่ข้างรถ ขนาด 2 เพลา ความยาว 10 เมตร สูง 4.5 เมตร สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 140 คน มีประตูเปิดปิดอัตโนมัติ ขึ้นทางประตูหน้า ลงทางประตูกลาง มีเครื่องยนต์อยู่ท้ายรถ จึงไม่มีเสียงรบกวนผู้โดยสาร

ห้องโดยสารชั้นล่างมีเก้าอี้นั่งน้อย (ให้ยืนชั้นล่าง) เพราะออกแบบมาเพื่อให้สะดวกต่อผู้โดยสารที่จะขึ้นชั้นบน โดยมีบันไดเวียนอยู่ซีกขวาตรงกลางตัวรถ ออกแบบมิดชิดให้ผู้โดยสารที่เป็นสุภาพสตรีเดินขึ้นได้อย่างสะดวกใจ หน้าต่างเป็นแบบบานเลื่อน จำนวนไม่มากนัก เพราะเป็นรถที่ออกแบบไว้ใช้ในประเทศหนาวอย่างอังกฤษ ชั้นบนมีเก้าอี้ที่นั่งมากกว่า จำนวนหน้าต่างมากกว่า เหมาะสำหรับนั่งชมวิวทิวทัศน์สองข้างทางเป็นอย่างยิ่ง

ราคาตกคันละ 4 ล้านบาท และถ้าติดแอร์ ราคาจะเพิ่มเป็น 6 ล้านบาท เท่ากับซื้อรถธรรมดาได้ 6 คัน ดูจากข้อมูลและตัวเลขต่างๆ ที่กล่าวมา ก็คงพอจะสรุปได้ว่า หลังจากทดลองครบกำหนดเวลา ผลจะออกมาอย่างไร

กล่าวคือรถเมล์สองชั้นแบบนี้มีข้อดีที่ค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าจ้างพนักงานขับรถ กระเป๋า ค่าน้ำมัน ค่าบำรุงรักษา อยู่ในระดับใกล้เคียงกับรถธรรมดาทั่วไป แต่มีความสามารถในการบรรทุกผู้โดยสารได้เป็นสองเท่าของรถธรรมดา ซึ่งหมายความว่า ถ้านำรถชนิดนี้มาใช้ ขสมก. จะสามารถทำกำไรได้มากขึ้น เป็นการลดภาวะขาดทุนลง

10 เทคนิคสร้างสุขให้ชีวิต หลัง 'เกษียณ' สไตล์ ‘สมคิด จิรานันตรัตน์’

1.) ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ลดเกลือ น้ำตาล ไขมัน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทุกวันนี้ผมออกกำลังอย่างน้อยวันละ 30 นาที เน้นสร้างกล้ามเนื้อ การเคลื่อนไหวที่ยืดหยุ่น และ cardio

2.) หางานอดิเรกที่ชอบ และท้าทายตัวเอง จะได้มีเรื่องสนุกๆ ทำ ผมเริ่มกลับมาตีกอล์ฟ และตั้งเป้าว่าจะลด score ลง 10 stroke (จาก 92 เหลือ 82) ในปีนี้ (555 ลองดู ไม่ได้ก็ไม่เสียหลาย)

3.) สร้างสัมพันธ์ที่ดีขึ้นในครอบครัว คิดถึงคนอื่นมากขึ้น เห็นใจคนมากขึ้น (เมื่อก่อนตอนทำงาน คิดแต่เรื่องตัวเองกับเรื่องงานเป็นหลัก ใช้ไม่ได้เลย)

4.) เลิกทำงานแบบเต็มเวลา หาเวลาสนุกสนาน ท่องเที่ยวบ้าง (ช่วงนี้ติดโควิด ก็เลือกสถานที่ไปหน่อย)

5.) เป็นที่ปรึกษา ที่ไม่ใช่งานเต็มเวลา จะได้มีเรื่องให้คิดบ้าง ลดโอกาสเป็นอัลไซเมอร์

‘อุ๊งอิ๊ง’ จัดเวิร์กช็อปสร้างนวัตกรรมทางการเมือง ชี้ต้องเข้าใจปัญหาให้ถึงแก่น สร้างนโยบายที่ตอบโจทย์

‘อุ๊งอิ๊ง’ จัดเวิร์กช็อปคิด-เปลี่ยน-โลก สร้าง นวัตกรรมทางการเมือง ชี้ต้องเข้าใจปัญหาให้ถึงแก่น สร้างนโยบายตอบโจทย์ประเทศ แก้ปัญหาปชช.

เมื่อวันที่ 2 มี.ค. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดกิจกรรมเวิร์กช็อปในหัวข้อ ‘คิด-เปลี่ยน-โลก สร้างโลกที่ดีกว่าและแก้ปัญหาด้วยความคิดเชิงนวัตกรรม’ บรรยายโดยนายชาคริต จันทร์รุ่งสกุล ผู้ก่อตั้งบริษัท Fire One One และที่ปรึกษาด้าน Business Transformation เพื่อแลกเปลี่ยนและระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับกระบวนการคิดเชิงนวัตกรรม (Innovative Thinking) สำหรับนำไปปรับใช้กับการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน โดยมีนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค กรรมการบริหารพรรค ส.ส. และสมาชิกพรรค เข้าร่วมรับฟังจำนวนมาก 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top