‘ออริจิ้น’ เปิดแผนธุรกิจ 3 ปี ปั้นบริษัทลูก ดันเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ สร้างอาณาจักรแสนล้าน

‘ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้’ เปิดแผนธุรกิจ 3 ปี โตแบบพหุจักรวาล ‘Origin Multiverse’ ชู 3 ขั้นตอน Expanding-Growing-Connecting ปั้นธุรกิจโลจิสติกส์ เฮลท์แคร์ ประกันภัย พลังงาน การเงิน ร้านอาหาร กัญชง ดันบริษัทลูกเข้าจดทะเบียน ตลท. สร้าง Market Cap แสนล้านในปี 68 

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI กล่าวว่า ในปี 65 นี้ บริษัทเตรียมสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้วยแผนการดำเนินงานภายใต้แนวคิด ‘ORIGIN MULTIVERSE’ หรือแผนการเติบโตแบบพหุจักรวาล ซึ่งประกอบด้วย 3 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การขยายธุรกิจใหม่ ซึ่งเป็นการต่อยอดการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ไปสู่ธุรกิจใหม่ 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย กลุ่มธุรกิจสร้างรายได้ประจำ กลุ่มธุรกิจบริการ และกลุ่มเมกะเทรนด์ระยะยาว โดยทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจนี้ ประกอบด้วย ธุรกิจย่อยที่ทยอยเปิดตัวตั้งแต่ปีที่ผ่านมา เช่น โลจิสติกส์ เฮลท์แคร์ ประกันภัย พลังงาน การเงิน ร้านอาหาร กัญชง และยังอาจมีจักรวาลย่อยๆ และจะทยอยเพิ่มขึ้นในอนาคต

ขั้นตอนที่ 2 คือแยกกันเติบโตแบบคู่ขนาน เพื่อให้ทุกบริษัทย่อยมีเส้นทางการเติบโตแบบคู่ขนานในธุรกิจของตัวเอง ผ่านการจัดทัพผู้บริหารมืออาชีพในธุรกิจนั้นๆ และยังมีแผนจะผลักดันให้บริษัทลูกเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยในปีนี้จะนำร่องเข้าจดทะเบียนด้วย บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด และบริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด บริษัทร่วมทุนกับบริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้นำบริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) เข้า IPO ไปแล้วในช่วงปลายปี 64 คาดว่าภายในปี 68 ออริจิ้นและทุกบริษัทที่เข้าจดทะเบียนจะกลายเป็นอาณาจักรที่มีมูลค่าตลาดรวมกันมากกว่า 1 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ จากการขยายการลงทุนในภาคธุรกิจอื่นๆ จะทำให้ในระหว่างทางนับตั้งแต่ปี 65 เป็นต้นไป ออริจิ้นฯ จะมีรายได้รวมขยายตัวเพิ่มขึ้น ไปพร้อมกับมูลค่าธุรกิจในมือ โดยในปี 65 นี้ ออริจิ้นฯ จะมีเป้ารายได้รวมอยู่ที่ 17,500 ล้านบาท และจะเติบโตขึ้นในปี 66 โดยคาดว่าจะมีรายได้รวมที่ 20,000 ล้านบาท ขณะที่ในปี 67 บริษัทจะมีรายได้รวม 23,000 ล้านบาท และขั้นตอนที่ 3 คือ อีโคซิสเต็ม เชื่อมโยงทุกธุรกิจกลับมาดูแลผู้บริโภคร่วมกัน เป็นการสร้าง Multiverse of Happiness ที่ครอบคลุมการดูแลและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร

นายพีระพงศ์ กล่าวว่า แม้จะมีการเติบโตในธุรกิจใหม่ๆ แต่บริษัทจะยังคงรักษาระดับการเติบโตในธุรกิจอสังหาฯ อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 65 นี้ บริษัทตั้งเป้าว่าจะทำ All Time High ในทุกด้าน เริ่มต้นเป้าเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้น 31 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 42,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 137% จากปีก่อน แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 12 โครงการ มูลค่า 13,400 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม 19 โครงการ มูลค่า 28,600 ล้านบาท โดยคอนโดจะเติบโตในทุกเซกเมนต์ และมีแบรนด์ใหม่ๆ เกิดขึ้น เช่น แบรนด์ ออริจิ้น เพลย์ ออริจิ้น เพลส ซึ่งพร้อมจะขยายลงทุนทำเลใหม่ เช่น ฝั่งธนบุรี โดยปี 65 นี้จะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ในย่านทองหล่อ ภายใต้ชื่อ ‘ออริจิ้น ทองหล่อ เวิลด์’ มูลค่าโครงการ 15,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ ออริจิ้นฯ ยังตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 35,000 ล้านบาท และตั้งเป้ารายได้รวม 17,500 ล้านบาท หลังจากปี 64 สามารถสร้างผลงานเติบโตในทุกด้าน และสร้าง New High ยอดโอนรวมกว่า 16,157 ล้านบาท และมีรายได้รวม 15,943 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปี 63 กว่า 43% และมีกำไรสุทธิ 3,194 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 20% ดังนั้น บริษัทจึงเตรียมจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นงวดสิ้นปี 64 ในอัตรา 0.42 บาทต่อหุ้น


ที่มา : https://mgronline.com/stockmarket/detail/9650000020687