Monday, 29 April 2024
THESTAESTIMES

แห่ชื่นชม ‘คำตอบของพ่อ’ ที่ไม่ทำลายความฝันเด็ก หลังลูกสาวบอกโตขึ้นอยากเป็น ‘พนักงานทำความสะอาด’

คลิปวิดีโอ เผยบทสนทนาสุดประทับใจของพ่อและลูกสาว หลังลูกสาววัย 4 ขวบ ของคุณพ่อท่านหนึ่งในนครกว่างโจว เมืองเอกของมณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) ทางตอนใต้ของจีน บอกกับพ่อว่า โตขึ้นเธออยากเป็นพนักงานทำความสะอาด จนกลายเป็นไวรัลบนโลกออนไลน์

ในขณะคุณพ่อ แซ่เฉิน กำลังก้มหน้าป้อนข้าวลูกสาวคนเล็กวัย 9 เดือนอยู่นั้น ลูกสาวคนโตวัย 4 ขวบที่กำลังนั่งอ่านหนังสือเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมกลับพูดขึ้นมาว่า 

“พ่อคะ โตขึ้นหนูอยากเป็นพนักงานทำความสะอาดค่ะ” ด้านนายเฉิน ได้ยินประโยคดังกล่าวถึงกับชะงัก 

เงยหน้าขึ้นมาถามลูกสาวด้วยความสงสัยว่า “ทำไมหนูถึงอยากเป็นพนักงานทำความสะอาดหล่ะ?”

ลูกสาวตอบอย่างมั่นใจว่า “เพราะพนักงานทำความสะอาดต้องกวาดพื้น ดังนั้น หนูหวังว่าจะได้ใช้ความสามารถที่มี ทำให้โลกใบนี้สะอาดมากขึ้น” นายเฉินได้ยินคำตอบดังกล่าวก็ชื่นใจเป็นอย่างมาก

นายเฉิน ได้แนะนำลูกสาว ถึงคุณสมบัติของการเป็นพนักงานทำความสะอาดที่ดี และยังสอนลูกอีกว่า

“อาชีพพนักงานทำความสะอาดเป็นอาชีพที่ต้องทำงานหนัก ดังนั้นลูกจะต้องฝึกทำงานหนัก ค่อยๆ ฝึกฝนไป และกินอาหารให้เยอะๆ จะได้โตไวๆ ลูกจะได้โตขึ้นเป็นพนักงานทำความสะอาดที่ดีอย่างที่ลูกตั้งใจในอนาคต”

พม่า ปล่อยตัวนายแบบดัง ‘ไป่ ทาคน’ แล้ว หลังถูกตัดสินจำคุก จากเหตุเรียกร้องประชาธิปไตย

ไป่ ทาคน นักแสดง นักร้องและนายแบบชื่อดังชาวเมียนมา วัย 25 ปี ที่ถูกตัดสินจำคุกจากการสนับสนุนการประท้วงเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย ได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำแล้ว

ทนายความของไป่ ทาคน เผยวันนี้ว่า ไป่ ทาคน ได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำและเดินทางถึงบ้านพักแล้ว แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม ขณะที่รัฐบาลทหารเมียนมาระบุในแถลงการณ์ยืนยันว่า ไป่ ทาคน ได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำ พร้อมกับนักแสดงชาวเมียนมารายอื่นๆ ได้แก่ ลู มิน, ปเย ติ อู และเอ็งดรา จอ ซิน เพื่อให้บุคคลเหล่านี้ออกไปมีส่วนร่วมในการสร้างชาติด้วยศิลปะการแสดง

กนอ. เผย ญี่ปุ่น ไม่ทิ้งฐานการผลิตในไทย!! พร้อมทุ่มลงทุนอีอีซีต่อเนื่อง มุ่งอุตฯ ยานยนต์ไฟฟ้า

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ได้ร่วมประชุมกับองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) ซึ่งมีการนำผลการสำรวจแนวโน้มทางเศรษฐกิจของบริษัทร่วมลงทุนญี่ปุ่นในประเทศไทยของหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพ (JCCB) มาหารือ พบว่า อุตสาหกรรมที่บริษัทญี่ปุ่นสนใจลงทุนในพื้นที่ของนิคมอุตสาหกรรมและเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) มากที่สุดถึง 49% คือ ยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์สมัยใหม่ 

นอกจากนี้ 37% ยังระบุด้วยว่า สนใจที่จะลงทุนต่อไป แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่มีอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ค่าดัชนีแนวโน้มเศรษฐกิจ (Diffusion Index) ของ JCCB ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 ที่ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 41 จากเดิมช่วงครึ่งหลังของปี 2564 ที่อยู่ที่ 14 โดยขึ้นสูงสุดในรอบ 9 ปี ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น (Minister of Economy, Trade and Industry) หรือ เมติ ได้เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เพื่อหารือถึงแนวทางการลงทุนใหม่ๆ โดยญี่ปุ่นมีแผนการสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งรัฐบาลได้ประกาศส่งเสริมการใช้และผลิตรถยนต์อีวี ปักหมุดการเป็นตลาดระดับโลก รวมถึงเป็นฐานการลงทุนขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ที่ทันสมัย

ย้อนรอยเหตุลอบสังหาร อดีตนายกรัฐมนตรี ‘ทักษิณ ชินวัตร’

หากย้อนกลับไปเมื่อ 21 ปีที่แล้ว หนังสือพิมพ์ทุกฉบับต่างเสนอข่าวอย่างครึกโครม เมื่อในวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2544 เครื่องบินโบอิง 737 ของการบินไทยเกิดระเบิดขึ้นที่ลานจอด แต่ความน่าสนใจที่มากกว่านั้นคือ 1 ในรายชื่อของผู้โดยสารเครื่องบินลำดังกล่าวคือ ‘พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร’

โดยในวันเกิดเหตุเครื่องบินลำดังกล่าว เที่ยวบินที่ 114 โบอิง 737-4D7 ของการบินไทย ซึ่งเป็นเที่ยวบินที่จะเดินทางจากท่าอากาศยานดอนเมืองไปยังท่าอากาศยานเชียงใหม่ในเวลา 14.48 น. หากแต่ว่าก่อนเวลากำหนดการบิน 35 นาที เครื่องบินลำดังกล่าวกลับระเบิดขึ้น ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งขณะเกิดเหตุนั้นยังไม่มีผู้โดยสารอยู่บนเครื่อง มีเพียงเจ้าหน้าที่จำนวน 8 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิต 1 คน

โดยหลังเกิดเหตุ ทักษิณ แถลงว่าการระเบิดครั้งนี้เป็นการก่อวินาศกรรมเพื่อหวังลอบสังหารตนเอง โดยฝีมือของผู้เสียผลประโยชน์ชาวต่างชาติ (ว้าแดง) เนื่องจากนโยบายปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาล หลังจากที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานของไทยตรวจพบหลักฐานที่เชื่อว่าอาจเป็นร่องรอยของระเบิดซีโฟร์หรือเซมเท็กซ์ (Semtex) และช่วงหนึ่งของคำแถลงนั้นระบุว่า

“เป็นการปองร้าย ไม่ใช่การก่อการร้าย ไม่ทราบว่าปองร้ายใคร ส่วนคนที่ทำนั้นสิ้นคิด ไม่ต้องทำกับนายกรัฐมนตรี ทำกับใคร ประเทศชาติก็เสียหาย”

ไทยเอาด้วย!! เสียงโหวตท่วมท้นหนุน ยูเอ็น ประณามรัสเซีย พร้อมเรียกร้องให้ถอนทหารจากยูเครนทันที

ที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยพิเศษ (ยูเอ็นจีเอ) ที่ได้มีการหารือกันถึงกรณีที่รัสเซียรุกรานยูเครนมาตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ได้ลงมติประณามการกระทำดังกล่าวของรัสเซียแล้ว ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงท่าทีของโลกที่ไม่เห็นด้วยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ชาติสมาชิกยูเอ็นได้ลงมติสนับสนุนการประณามรัสเซีย 141 ชาติ มี 5 ชาติที่โหวตคัดค้าน และงดออกเสียง 35 ชาติ ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่าประเทศไทยก็ลงมติสนับสนุนมติประณามดังกล่าวเช่นกัน

หลังจากผลการลงคะแนนดังกล่าวปรากฏขึ้นบนหน้าจอในที่ประชุม ทำให้ผู้แทนชาติสมาชิกบางประเทศลุกขึ้นยืน เพื่อแสดงความยินดีต่อมติที่ออกมา ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก

ข้อมติดังกล่าวยังเรียกร้องให้รัสเซียทำการถอนทหารทั้งหมดออกจากดินแดนของยูเครน ภายใต้พรมแดนที่ได้รับการรับรองโดยประชาคมระหว่างประเทศทันที ให้มีการถอนทหารออกทั้งหมด และโดยปราศจากเงื่อนไข

ถึงแม้ข้อมติดังกล่าวจะไม่มีผลผูกพันชาติสมาชิกในทางกฎหมาย แต่ถือว่ามีน้ำหนักในทางการเมืองเพราะสะท้อนถึงจุดยืนร่วมของประเทศส่วนใหญ่ แม้จะยังคงมีข้อสงสัยว่าจะช่วยเปลี่ยนแปลงการรุกรานทางทหารของรัสเซียในยูเครนได้หรือไม่ก็ตาม

‘หมอยง’ ไขข้อสงสัย ฉีดวัคซีนโควิดกี่เข็มถึงเพียงพอ ชี้ อย่างน้อยต้องมีเข็ม 3 ให้ร่างกายได้รู้จักเชื้อ

หมอยง เผย การฉีดวัคซีนโควิด 3 เข็ม ยังจำเป็นช่วยลดอาการของโรค และสร้างความจำให้ร่างกายได้รู้จักโควิด แนะสิ่งสำคัญคือต้องดูแลร่างกายให้แข็งแรง - อยู่แบบวิถีชีวิตใหม่

เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 65 ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า โควิด-19 วัคซีน จะฉีดวัคซีนกี่เข็มพอ

เราเริ่มเรียนรู้มากขึ้น วัคซีนที่เราให้ เพื่อป้องกันลดความรุนแรงของโรค ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้

ไวรัสโควิดมีระยะฟักตัวสั้น และมีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์มาโดยตลอด

วัคซีนที่ใช้ ใช้สายพันธุ์ดั้งเดิมตั้งแต่อู่ฮั่น ถึงแม้ว่าจะใช้สายพันธุ์ใหม่ ไวรัสมีการเปลี่ยนแปลง ประสิทธิภาพก็ไม่ได้แตกต่างจากเดิม

การติดเชื้อในธรรมชาติ เมื่อวัดภูมิต้านทานต่อหนามแหลม ก็ไม่ได้สูงมาก วัคซีนที่ทำมาจากจำเพาะหนามแหลม สร้างภูมิต้านทานที่สูงมาก ก็ยังไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้

ภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นจากวัคซีน ที่มีความจำเพาะต่อหนามแหลม จะขึ้นสูงมากก็จริง แต่ก็จะลดลงตามกาลเวลา จึงไม่มีวัคซีนเทพ สูงมากก็ลงเร็วมาก เป็นกฎเกณฑ์ของร่างกาย

การฉีดวัคซีนจะกี่เข็มก็ตาม ยี่ห้ออะไรก็ตาม ขึ้นสูงก็ลงเร็ว ขึ้นน้อยก็ลงช้า ประสิทธิภาพของวัคซีนจึงสูงสุดเมื่อ 14 ถึง 28 วัน หลังจากนั้นก็จะลดลงอย่างรวดเร็ว

สายพันธุ์โอมิครอน สามารถติดต่อได้ง่าย แต่ความรุนแรงของโรคลดลง ประกอบกับการมีภูมิต้านทานเป็นบางส่วน จากการที่เคยติดเชื้อมาก่อนหรือได้รับวัคซีน เป็นส่วนประกอบให้ความรุนแรงของโรคลดลง

เมื่อความรุนแรงของโรคลดลง และติดต่อได้ง่าย โดยเฉพาะมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ที่มีอาการน้อยหรือไม่มีอาการ ก็สามารถแพร่โรคได้โดยไม่รู้ตัว ก็คงหนีไม่พ้นจากการรับเชื้อโดยไม่รู้ตัว การสืบสวน Time Line เมื่อมีการติดเชื้อจำนวนมาก ก็จะไม่มีการพูดถึงแล้ว

ในปัจจุบัน อายุของการติดเชื้อลดลงมาอย่างมาก ลงมาสู่วัยเด็ก โดยที่มีอาการน้อย และในอนาคตเด็กต้องไปโรงเรียน ถึงแม้ว่าเด็กฉีดวัคซีนแล้ว ก็มีโอกาสติดเชื้อได้

ตำรวจ เตือนหยุดแพร่ภาพศพ 'แตงโม' ชี้ มีโทษอาญาถึงขั้นติดคุก - ปรับเงิน

3 มี.ค. 65 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. ได้กล่าวถึง กรณีโซเชียลได้นำภาพศพนักแสดงสาว "แตงโม" น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ ที่เสียชีวิตจากการตกเรือ มาแชร์และเผยแพร่ต่อ รวมถึงการถ่ายทอด (Live) ผ่านช่องทางต่างๆ นั้น

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝากเตือนไปยังผู้กระทำดังกล่าวเข้าข่ายการกระทำความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 366/4 ระบุว่า “ผู้ใดกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามศพ ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ” ดังนั้น การกระทำใดๆ ที่เข้าลักษณะหรือองค์ประกอบการดูหมิ่นศพ ต้องถือว่ามีความผิดทางอาญาที่จะต้องรับโทษ

FTI Poll เผย ‘ปรับขึ้นค่าไฟ-ก๊าซ’ หวั่นกระเทือนเศรษฐกิจ ดันราคาสินค้าพุ่ง กระทบต้นทุนธุรกิจ-วิถีชีวิต ปชช.อ่วม

นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจ FTI Poll ครั้งที่ 15 ในเดือนมีนาคม 2565 ภายใต้หัวข้อ ‘ปรับขึ้นค่าไฟ-ก๊าซ กระทบเศรษฐกิจแค่ไหน’ พบผู้บริหาร ส.อ.ท. มองว่า กรณีภาครัฐจะมีการพิจารณาปรับอัตราค่าไฟฟ้าและราคาก๊าซฯ ขึ้นต่อเนื่องนั้น จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และยังเป็นการซ้ำเติมปัญหาให้แก่ผู้ประกอบการที่ต้องแบกรับภาระต้นทุนการผลิตที่อยู่ในระดับสูงในขณะนี้ จนทำให้ผู้ประกอบการมีความจำเป็นจะต้องปรับราคาสินค้าขึ้นตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะกระทบต่อภาระค่าครองชีพของประชาชน 

ดังนั้น จึงเสนอขอให้ภาครัฐพิจารณาคงอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) ในรอบเดือนพฤษภาคม - สิงหาคม 2565 เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบดังกล่าว นอกจากนี้ ผู้บริหาร ส.อ.ท. ยังได้แนะให้ภาคอุตสาหกรรมเร่งปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อประหยัดพลังงาน และหันมาผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนใช้เองภายในโรงงานอุตสาหกรรม 

ทั้งนี้ จากการสำรวจผู้บริหาร ส.อ.ท. (CEO Survey) จำนวน 150 ท่าน ครอบคลุมผู้บริหารจาก 45 กลุ่มอุตสาหกรรม และ 76 สภาอุตสาหกรรมจังหวัด มีสรุปผลการสำรวจ FTI Poll ครั้งที่ 15 จำนวน 6 คำถาม ดังนี้…

1.) ปัจจุบันค่าไฟฟ้าและพลังงานคิดเป็นสัดส่วนกี่เปอร์เซ็นต์ของต้นทุนการผลิต
อันดับที่ 1 : 10 - 20% >> 38.7%
อันดับที่ 2 : น้อยกว่า 10% >> 25.3% 
อันดับที่ 3 : 20 - 30% >> 20.7% 
อันดับที่ 4 : มากกว่า 30% >> 15.3%

2.) กรณีภาครัฐมีการปรับค่าไฟฟ้าและราคาก๊าซฯ* ขึ้นต่อเนื่อง จะกระทบต่อเศรษฐกิจในระดับใด
อันดับที่ 1 : มาก >> 56.7% 
อันดับที่ 2 : ปานกลาง >> 34.7%
อันดับที่ 3 : น้อย >> 8.6%

3.) ผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าและราคาก๊าซฯ* ในเรื่องใด ที่ภาครัฐควรให้ความสำคัญ 
อันดับที่ 1 : ราคาสินค้าปรับตัวเพิ่มขึ้นจากต้นทุนพลังงานที่อยู่ระดับสูง >> 87.3%
อันดับที่ 2 : ภาระค่าครองชีพของประชาชน >> 82.0%
อันดับที่ 3 : เร่งอัตราเงินเฟ้อให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น >> 51.3%
อันดับที่ 4 : กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัวหรือหยุดชะงัก >> 41.3%

เชื่อฝ่ายไหนดี?!! ‘เซเลนสกี’ อ้างทหารรัสเซียแล้วตายกว่า 9 พัน แต่มอสโกบอกแค่ 498 แถมปลิดชีพฝ่ายยูเครน 2.8 พัน

ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ระบุในวันพุธ (2 มี.ค.) คุยโวว่าประเทศของเขาได้ทลายแผนการต่างๆ ของรัสเซีย และรู้สึกภาคภูมิใจกับ "เหล่าวีรชน" ที่ช่วยกันต้านทานการรุกรานของมอสโก พร้อมอ้างว่าเวลานี้มีทหารรัสเซียสังเวยชีวิตไปแล้วกว่า 9,000 นาย สวนทางกับมอสโกที่บอกว่าพวกเขาสูญเสียกำลังพลไปในการสู้รบเพียง 498 นาย

เซเลนสกี กล่าวในวิดีโอที่โพสต์ลงบนเทเลแกรม ว่า "เราคือประเทศที่ทำลายแผนของศัตรูใน 1 สัปดาห์ แผนที่เขียนกันมานานหลายปี แผนลับๆ ล่อๆ เต็มไปด้วยความเกลียดชังประเทศของเรา ประชาชนของเรา"

ประธานาธิบดีรายนี้ระบุต่อว่า เขาชื่นชมด้วยความจริงใจ "พวกชาวบ้านวีรชนตามเมืองต่างๆ" ที่ต่อต้านขัดขืนการรุกคืบของกองกำลังรัสเซีย

เขาอ้างอีกว่ามีทหารรัสเซียราว 9,000 นายเสียชีวิตนับตั้งแต่ปฏิบัติการรุกรานเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน แต่เป็นคำกล่าวอ้างที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้

จากนั้น เซเลนสกี ได้โพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ เผยว่าเขาได้พูดคุยกับ จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา และขอบคุณเขาสำหรับการเป็นแกนนำในการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อต้านรัสเซีย "เน้นย้ำถึงความจำเป็นต้องยกระดับมาตรการจำกัดต่างๆ ให้หนักหน่วงขึ้น การทิ้งระเบิดใส่ประชาชนในยูเครนต้องหยุดลงในทันที"

‘นักวิชาการ’ เปิดข้อมูล 'ใครยืนข้างใคร' ในสงครามยูเครน ชี้ ประเทศไม่คว่ำบาตรรัสเซียเป็นคนกลุ่มใหญ่ของโลก

3 มี.ค. 65 ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "ใครยืนอยู่ข้างใคร ณ เวลานี้?" โดยระบุว่า... 

ประเทศที่คว่ำบาตรรัสเซียมี ๒ กลุ่ม กลุ่มแรกคือชาตินักล่าอาณานิคม ซึ่งมักเรียกตนเองว่าเป็นผู้นำโลก (World Leaders) หลักๆ ก็คือพวกอียู ผมได้อธิบายแล้วว่าพวกนี้ เป็นพวกชนกลุ่มน้อย เมื่อรวมประชากรแล้ว มีอยู่ประมาณ ๙๐๐ กว่าล้านคนเท่านั้น https://www.youtube.com/watch?v=Du2qqfzFwIw

กลุ่มที่ ๒ คือประเทศบริวารของกลุ่มแรก มีทั้งประเทศที่เคยเป็นเมืองขึ้นหรือแพ้สงครามอย่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ เป็นต้น

ส่วนชาติที่ไม่คว่ำบาตรรัสเซีย มีมากกว่าครับ คือ
ก.กลุ่มประเทศ BRICS ได้แก่ อินเดีย, จีน, แอฟริกาใต้ แค่นี้ก็คิดเป็น ๔๑% ของประชากรโลกทั้งหมดแล้ว
ข.กลุ่มประเทศ OSC ได้แก่คาซักสถาน,เบลารุส, ทาจิกิสถาน, อาร์เมเนีย และคีร์กีซสถาน
ค.กลุ่มประเทศลาตินอเมริกา ได้แก่คิวบา, เวเนซุเอลา, นิคารากัว, แม็กซิโก, อาร์เจนตินา, กัวเตมาลา, โคลัมเบีย, ชิลี, เปรู
ง.กลุ่มประเทศเอเชีย ยกเว้นสิงคโปร์
จ.กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ได้แก่ซีเรีย, อิรัก,อิหร่าน, อียิปต์, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, ซาอุดีอาระเบีย
ฉ.กลุ่มประเทศบอลข่าน คือ เซอร์เบีย, บอสเนีย, เฮอเซโกวินา
ช.ประเทศในกลุ่มอียู ได้แก่ ฮังการี
ซ.ประเทศเอเชียที่มีเอกราชอื่นๆ เช่น เกาหลีเหนือ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top