ย้อนรอยเหตุลอบสังหาร อดีตนายกรัฐมนตรี ‘ทักษิณ ชินวัตร’

หากย้อนกลับไปเมื่อ 21 ปีที่แล้ว หนังสือพิมพ์ทุกฉบับต่างเสนอข่าวอย่างครึกโครม เมื่อในวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2544 เครื่องบินโบอิง 737 ของการบินไทยเกิดระเบิดขึ้นที่ลานจอด แต่ความน่าสนใจที่มากกว่านั้นคือ 1 ในรายชื่อของผู้โดยสารเครื่องบินลำดังกล่าวคือ ‘พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร’

โดยในวันเกิดเหตุเครื่องบินลำดังกล่าว เที่ยวบินที่ 114 โบอิง 737-4D7 ของการบินไทย ซึ่งเป็นเที่ยวบินที่จะเดินทางจากท่าอากาศยานดอนเมืองไปยังท่าอากาศยานเชียงใหม่ในเวลา 14.48 น. หากแต่ว่าก่อนเวลากำหนดการบิน 35 นาที เครื่องบินลำดังกล่าวกลับระเบิดขึ้น ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งขณะเกิดเหตุนั้นยังไม่มีผู้โดยสารอยู่บนเครื่อง มีเพียงเจ้าหน้าที่จำนวน 8 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิต 1 คน

โดยหลังเกิดเหตุ ทักษิณ แถลงว่าการระเบิดครั้งนี้เป็นการก่อวินาศกรรมเพื่อหวังลอบสังหารตนเอง โดยฝีมือของผู้เสียผลประโยชน์ชาวต่างชาติ (ว้าแดง) เนื่องจากนโยบายปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาล หลังจากที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานของไทยตรวจพบหลักฐานที่เชื่อว่าอาจเป็นร่องรอยของระเบิดซีโฟร์หรือเซมเท็กซ์ (Semtex) และช่วงหนึ่งของคำแถลงนั้นระบุว่า

“เป็นการปองร้าย ไม่ใช่การก่อการร้าย ไม่ทราบว่าปองร้ายใคร ส่วนคนที่ทำนั้นสิ้นคิด ไม่ต้องทำกับนายกรัฐมนตรี ทำกับใคร ประเทศชาติก็เสียหาย”

โดยในวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2544 คณะกรรมการความปลอดภัยในการขนส่งแห่งชาติของสหรัฐฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกับพบว่าไม่พบร่องรอยของวัตถุระเบิด และว่ากรณีนี้คล้ายกับการระเบิดของเครื่องโบอิง 737 ของสายการบินฟิลิปปินส์ เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2543 ซึ่งเกิดจากความบกพร่องของถังน้ำมันเชื้อเพลิง

หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวก็ทำให้สายการบินต่างๆ กำหนดมาตรการอย่างรัดกุม และเป็นที่รู้กันดีว่าถ้าคนใดจะเดินทางโดยสารด้วยเครื่องบิน อย่าเผลอพูดคำเหล่านี้เด็ดขาด เพราะถ้าหลุดพูดไปแล้วนั้น จากที่จะได้เที่ยวอย่างสบายใจ แต่กลับต้องไปโรงพักเพราะมีโทษกำหนดอยู่


ที่มา : https://thai.ac/news/show/493878


ติดตามผลงานอื่นๆ ของ THE STATES TIMES ได้ที่
TikTok > https://www.tiktok.com/@thestatestimes