Monday, 17 June 2024
ElectionTime

'พปชร.' ฟุ้ง!! คนแห่ร่วมงานระดมทุนพรรคล้น เหตุกระแส 'พรรค' ดี ชี้!! มีแต่คนคุณภาพไหลร่วม

(30 ม.ค. 66) นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงการจัดงานระดมทุนของพรรคพลังประชารัฐ ที่จะจัดขึ้นที่ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ในวันที่ 30 ม.ค. 2566 ว่า เรื่องการระดมทุนของพรรคพลังประชารัฐได้ดําเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งพรรคพลังประชารัฐได้รับการสนับสนุนจากองค์กรต่าง ๆ ที่มีผู้แสดงความจํานง ซื้อโต๊ะร่วมกิจกรรมครั้งนี้ ประมาณ 170 โต๊ะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  

นายสันติ กล่าวต่อว่า อีกนัยยะหนึ่ง การสนับสนุนในครั้งนี้ หมายความว่า อย่างน้อยที่สุดก็จะมีพี่น้องประชาชน และนักลงทุนหลายส่วนให้การสนับสนุนถึง 1,700 คนขึ้นไป ก็ต้องถือว่าพรรคเป็นที่ชื่นชม และเป็นความมั่นใจของนักเศรษฐกิจ นักลงทุน นักวิชาการ ตลอดจนพี่น้องประชาชน ที่พร้อมให้การสนับสนุนในการทำงานของพรรค

‘ลุงหนู’ ลั่น ‘บุญจง’ พร้อมชิงพื้นที่โคราช มั่นใจ!! นโยบายพรรคเรียกความเชื่อมั่น ปชช. ได้

(30 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 10.20 น. ที่ทําเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ กลับมาร่วมงานกับพรรค ภท. ว่า นายบุญจง จะลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.นครราชสีมา แทนนายอภิชา เลิศพชรกมล ที่ลาออกไป โดยนายบุญจง ถือเป็นผู้ที่ร่วมก่อตั้งพรรค ภท. มาตั้งแต่ 10 กว่าปีที่แล้ว เคยเป็นรมช.มหาดไทย สมัยนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคคนเก่า เป็นรมว.มหาดไทย และในพื้นที่นครราชสีมา ตนเป็นหัวหน้าทีมเองร่วมกับ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภท. จะช่วยกันดูแล เนื่องจากนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล หัวหน้าทีมคนเดิมแจ้งว่ามีปัญหาเรื่องสุขภาพ และลาออกจากการเป็นรัฐมนตรี ในโควตาของพรรคภท.

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรค ภท. พร้อมรับมือกับคู่แข่งในพื้นที่ดังกล่าว หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า อย่าไปมองว่าใครเขาจะส่งหรือไม่ส่งลงสมัคร เพราะในทางการเมืองยังไม่เคยเจอเขตพื้นที่เลือกตั้งไหนที่ไม่มีคู่แข่ง หากคนนี้ไม่ลงแข่งก็ต้องลงแข่งกับคนนั้น เป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งที่สำคัญคือทำอย่างไรให้คนของเราแข็งแรงมากที่สุด และลงไปใกล้ชิดทำความเข้าใจกับชาวบ้าน แม้แต่ตนยังเดินทางตลอดเวลา หมดเวลาราชการวันศุกร์ วันเสาร์ อาทิตย์ ก็ต้องอยู่ต่างจังหวัด เพราะการเลือกตั้งใกล้เข้ามาเต็มทน

เมื่อถามว่ากฎหมายลูกสองฉบับประกาศมีผลบังคับใช้แล้ว พรรค ภท.จะมีการปรับแผนอะไรในการหาเสียง หรือทำงานการเมืองอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า การหาเสียงเลือกตั้งมีแผน มีกำหนดการ มีวิธีการนําเสนอนโยบาย มีการประชุมวางกลยุทธ์ทุกอย่างตลอดเวลา และช่วงนี้พรรคได้นำเสนอทีมงานใน กทม.ที่จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับชาวกทม. สมัยก่อนเราเอาผู้ที่ประสงค์จะลงสมัครมาสมัคร ส.ส. แต่ในครั้งนี้ทีมงานที่พรรคนําเสนอ เป็นอดีต ส.ส. อดีตรัฐมนตรี ที่ทำงานได้ต่อเนื่อง เป็นบุคคลที่ลาออกแล้วย้ายมาอยู่กับพรรคภท.แสดงว่าเขามีความมั่นใจในพรรคและนโยบาย จึงลาออกจากส.ส.มาอยู่กับเรา เป็นมาตรการวัดให้เห็นว่านโยบายของพรรค ที่ทำให้คนระดับส.ส.เชื่อมั่นและตัดสินใจมาร่วมงานด้วย

'บิ๊กน้อย' ยก 'บิ๊กป้อม' เหมาะนั่งนายกฯ คนที่ 30 เป็นคนเสียสละ ตั้งใจให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าได้

(30 ม.ค. 66) ที่ทําการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตหัวหน้าพรรครวมแผ่นดิน ให้สัมภาษณ์ถึงการกลับเข้ามาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า สำหรับตน ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็ทำงานในหน้าที่ให้ดีที่สุด ตรงไหนที่เป็นส่วนรวมที่เราทำประโยชน์ให้กับประเทศและประชาชนได้ก็จะทํา ไม่สำคัญว่าอยู่ที่ไหนตนจะต้องอยู่ที่ไหน หรือตำแหน่งอะไร อยู่ที่การกระทำของเรา วันนี้มาเพื่อช่วยทำงานให้บ้านเมืองและประชาชน

ผู้สื่อข่าวถามว่า กลับมาแล้วจะสามารถทำงานร่วมกันได้ ใช่หรือไม่ พล.อ.วิชญ์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ไม่มีความขัดแย้ง เพราะไม่เคยเป็นศัตรูกับใคร ทุกคนมีผิดพลาดได้ ไม่มีใครดี 100 เปอร์เซ็นต์ ฉะนั้นถ้ามาขอโทษเรียบร้อยแล้วทุกอย่างก็จบ ไม่ติดใจอะไร ถ้าติดใจก็ไม่ต้องทำอะไรแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะมาแตกแยกกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้จะช่วยดูพื้นที่ใดบ้าง พล.อ.วิชญ์ กล่าวว่า ทุกพื้นที่ที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ลงพื้นที่

‘จิรวัฒน์’ ปลุก ปชช. เข้าคูหากา ‘เพื่อไทย’ สกัดอำนาจ ส.ว. เลือก ‘ประยุทธ์’ นั่งนายกฯ

(30 ม.ค. 66) นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม.เขตทวีวัฒนา พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการล้มวาระแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ ที่เสนอให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตรา 159 และมาตรา 272 ที่เสนอโดยพรรคเพื่อไทยว่า การเสนอแก้รัฐธรรมนูญ 2 มาตรานี้เป็นความพยายามแก้ไขเพื่อให้นายกฯ ต้องเป็น ส.ส. และตัดอำนาจ ส.ว.ไม่ให้มีอำนาจโหวตเลือกนายกฯ การล้มมติดังกล่าวเป็นการขับเคี่ยวกันทางการเมือง ซึ่งฝ่ายประชาธิปไตยได้ยื่นแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญนี้มา 7 ครั้งแล้ว แต่ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมประมาณ 25 ฉบับกลับถูกตีตก ผ่านเพียงฉบับเดียวคือกฎหมายเลือกตั้งซึ่งเปลี่ยนระบบแก้ไขเรื่องของบัญชีรายชื่อแล้วก็เขตเลือกตั้งเท่านั้น เหตุการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงเจตนาของฝ่ายอนุรักษ์นิยม ที่จะยังคงต้องการสืบทอดอำนาจ คสช.ต่อไปอย่างชัดเจน

นายจิรวัฒน์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีความพยายามโดย ส.ว.บางคน ที่หยิบยกประเด็นดังกล่าวโยนหินถามทางในเวทีการเมือง เพื่อจะใช้กลไกและเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญอุ้มนายกฯ ที่ชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่ออายุของพล.อ.ประยุทธ์ ไปให้มากกว่าแปดปี ทั้งนี้ ประชาชนสามารถหยุดยั้งกระบวนการต่าง ๆ เหล่านี้ได้โดยการเลือกตั้งอย่างมียุทธศาสตร์ เพื่อไม่ให้พล.อ.ประยุทธ์มีโอกาสเป็นนายกฯ ต่อ เชื่อว่าหากพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ต่อ จะมีการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อปลดล็อกกรอบเวลา 8 ปีอย่างแน่นอน และอาจจะมีการแก้ให้รัฐธรรมนูญให้ ส.ว.คงอำนาจในการโหวตเลือกนายกฯ พร้อมต่ออายุของส.ว.จากห้าปีต่อไปอีกก็เป็นไปได้

‘บิ๊กป้อม’ อ้าแขนรับ ‘2 กุมาร-บิ๊กน้อย’ กลับพรรค ชี้ ช่วยเศรษฐกิจ-การเมือง

(30 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 14.38 น. ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เดินทางเข้าที่ทำการพรรค พปชร. ถ.รัชดาภิเษก จากนั้น พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา หัวหน้าพรรครวมแผ่นดิน รวมถึงนายอุตตม สาวนายน และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ที่เดินทางตามหลังขบวนรถพล.อ.ประวิตร มาติดกัน มีนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค และนายสกลธี ภัททิยกุล หัวหน้าทีม กทม.ได้ให้การต้อนรับ พร้อมขึ้นไปยังห้องทำงานพล.อ. ประวิตรทันที เพื่อยื่นใบสมัคร โดยพล.อ.ประวิตร ลงนามใบสมัครด้วยตัวเอง ก่อนที่จะสวมเสื้อพรรคให้นายอุตตม และนายสนธิรัตน์ ก่อนที่ทั้งหมดจะลงมาแถลงข่าวร่วมกัน

ต่อมาเวลา 15.10 น. พล.อ.ประวิตร พร้อมนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และเลขาธิการพรรค นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค ร่วมกันแถลงเปิดตัว พล.อ.วิชญ์ นายอุตตม และนายสนธิรัตน์ 

โดยพล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นที่น่าดีใจที่เราได้ต้อนรับทั้ง 3 คน คนแรก พล.อ.วิชญ์ คนที่สอง คือ นายอุตตม และคนที่สามคือ นายสนธิรัตน์ ถือเป็นเกียรติกับ พปชร.เป็นอย่างยิ่ง ตนพูดไม่เก่ง แต่ฟังเก่ง แล้วฟังรู้เรื่องด้วย อยากจะฝากบอกกับทุกคนว่าพรรคของเราเป็นพรรคที่เรารวมกัน ก้าวข้ามความขัดแย้งทั้งหมด ฉะนั้น ทั้งสามคนจะมาช่วย พปชร.ในการดำเนินการกิจกรรมการเมืองและเศรษฐกิจ เพื่อที่จะให้พรรคมีความเข้มแข็ง เราต้องขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจกันทั้งสามคน เราได้สองหัวหน้าพรรค กับหนึ่งเลขาธิการพรรคนับว่าเป็นเกียรติกับ พปชร.เป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้นายอุตตมจะมาช่วยดูแลเรื่องเศรษฐกิจ นายสนธิรัตน์จะช่วยดูเศรษฐกิจและการเมืองด้วย ส่วนพล.อ.วิชญ์ ช่วยทั้งพรรค

ผู้สื่อข่าวถามว่า การกลับมาของทั้งสามคน จะทำให้ได้เป็นนายกฯ คนที่ 30 หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องประชาชนเลือก คุณถามอย่างนี้ผิดนะ จะให้ตนเป็นนายกฯ คนที่ 30ได้อย่างไร ประชาชนต้องเป็นคนเลือก ถ้าไม่ได้เลือกจะเป็นได้อย่างไร 

เมื่อถามว่า ตอนนี้แคนดิเดตนายกฯ ในพรรค มีแค่คนเดียว ไม่มีคนอื่นแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ถ้าตอบว่าตนไม่รู้ จะหาว่าตนไม่รู้อีก 

เมื่อถามย้ำว่า แล้วที่นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ระบุจะเข้ามาและเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค พล.อ.ประวิตร ย้อนถามว่า ใครบอก ถ้านายมิ่งขวัญบอกเองก็ต้องไปถามนายมิ่งขวัญ แต่ยืนยันว่านายมิ่งขวัญยังอยู่กับพรรค และช่วยด้านเศรษฐกิจ เพราะในพรรคมีงานให้ทำเยอะแยะ ไม่ต้องห่วง 

เมื่อถามอีกว่า แล้วจะให้ใครเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นทั้งหมดเลยครับ ไม่เป็นไร หัวหน้ามีได้หลายคน

เมื่อถามว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย จะตามมาร่วมงานหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ต้องถามนายสมคิด จะถามตนได้อย่างไร เพราะไม่ได้คุยกันเลย 

เมื่อถามว่า จะป้องกันปัญหาเรื่องความขัดแย้งอย่างไร เพราะก่อนหน้านี้ที่นายอุตตม และนายสนธิรัตน์ออกไปจากพรรค เพราะมีเรื่องความขัดแย้ง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีความขัดแย้ง ออกไปก็ไม่ได้ขัดแย้ง 

ด้านนายอุตตม กล่าวเปิดใจถึงสาเหตุที่กลับมา พปชร. ว่า เรื่องสำคัญสุดคือ การสร้างปรองดอง ต้องขอบคุณหัวหน้าพรรคที่ได้เชิญชวนพวกตนมาทำงานร่วมกันในเวลาที่ประเทศชาติต้องการเดินหน้า พล.อ.ประวิตรแสดงอุดมการณ์มุ่งมั่นชัดเจนที่จะรวบรวมผู้คนจากหลาย ๆ ฝ่ายมาทำงานด้วยกัน อีกเหตุผลหนึ่งคือ พวกตนเคยเป็นสมาชิกในบ้าน สมาชิกเก่าในบ้านหลังนี้ มีส่วนร่วมริเริ่มสร้าง พปชร.มา มีส่วนในการคิดและผลักดันนโยบายส่วนหนึ่งขึ้น เช่น บัตรประชารัฐ ที่พวกเราช่วยกันทำมา หัวหน้าพรรค พปชร.ประกาศชัดเจนแล้วว่าจะนำพรรคขับเคลื่อนนโยบายสำคัญเหล่านี้ เรายินดีที่จะทำงานร่วมกับทุกคนที่มีอุดมการณ์ร่วมกัน ก้าวข้ามขัดแย้งได้แล้ว

‘บังเลาะ’ เด็กปั้น ‘นิพนธ์’ มั่นใจแจ้งเกิด ปักธงช่วยประชาธิปัตย์เข้าวิน เขต 2 ยะลา

‘บังเลาะ’ ลั่นลงสนาม ส.ส.พิสูจน์ฝีมืออีกครั้งในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง ลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคประชาธิปัตย์ เขต 2 ยะลา เหมือนเดิม หลังจากการเลือกตั้งปี 2562 พ่ายให้กับ ‘ซูการ์โน มะทา’ พรรคประชาชาติ

“การเลือกตั้งครั้งที่แล้วผมมีเวลาเตรียมตัวน้อย เพียงไม่กี่วัน แต่คราวนี้เราเตรียมตัวมา 4 ปี จึงมีความพร้อมมากกว่า จากการสัมผัสชาวบ้านรู้สึกได้ว่าเขาอิ่มตัวกับนักการเมืองเก่า ต้องการเปลี่ยนบ้าง” บังเลาะ หรือ อับดุลย์เล๊าะ บูวา กล่าว

สำหรับเขต 2 ยะลา น่าจะประกอบด้วย อ.เมืองยะลา (เฉพาะ ต.บุดี เปาะเส้ง และ ต.บันนังสาเรง) อ.รามัน ยะหา (ยกเว้นต.ยะหา ตาชี และ ต.บาโงยซิแน) อ.กาบัง ปัจจุบันมีซูการ์โน มะทา จากพรรคประชาชาติ เป็น ส.ส.อยู่

อับดุลการิม เด็งระกีนา อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) คราวที่แล้วลงสนามพร้อมสวมเสื้อพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ของลุงกำนัน (สุเทพ เทือกสุบรรณ) แต่พ่ายให้กับซูการ์โน มะทา จากพรรคประชาชาติ (ปช.) น้องชาย วันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ นักการเมืองมุสลิม และ แกนนำ ‘กลุ่มวาดะห์’ ซึ่งตัวซูการ์โนเคยเป็นผู้ช่วย ส.ส. เป็นรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ยะลา 2 สมัย เคยเป็น ส.ส.สังกัดพรรคพลังประชาชน ในการเลือกตั้งปี 2550 และได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.คนเดียวของพรรคในพื้นที่ ภาคใต้ โดยปี 2554 ซูการ์โนได้ลงสมัครในสังกัดพรรคเพื่อไทย (พท.) เขตเลือกตั้งที่ 2 แต่พ่ายให้กับ อับดุลการิม เด็งระกีนา จากพรรคประชาธิปัตย์ในขณะนั้น

อย่างไรก็ตาม ยังมองข้ามอีกคนหนึ่งในเขตนี้ไปไม่ได้ นั่นคือ ริดวาน มะเต๊ะ จากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีดีกรีเป็นอดีต ส.อบจ.เขต อ.รามัน และมีบิดาชื่อ มะโซ๊ะ มะเต๊ะ เป็นอดีตกำนันคนดังแห่ง ต.ตะโละหะลอ อ.รามัน และในอดีตยังเป็นหัวคะแนนให้กับ อดีต ส.ส.ในพื้นที่มาแล้ว แต่คราวที่แล้วเขายังเดินไปไม่ถึงฝั่งฝัน

กล่าวสำหรับ ‘บังเลาะ-อับดุลย์เล๊าะ บูวา’ ยังคงมุ่งมั่นกระโดดเข้าสู่การเมืองระดับชาติ ทั้ง ๆ ที่ปัจจุบันเป็นรองนายกเทศบาลตำบลโกตาบารู อ.รามัน จ.ยะลา

บังเลาะ เข้าศึกษาต่อในตลาดวิชา มหาวิทยาลัยรามคำแหง ด้วยระบบการศึกษาแบบ ‘แพ้คัดออก’ เข้าร่วมทำกิจกรรม ร่วมกับ ชมรมมุสลิม ม.รามคำแหง และกลุ่ม PNYS ซึ่งเป็นกลุ่มนักศึกษามุสลิมที่มีพลังมากในรามคำแหง บังเลาะสนใจการเมืองมาตั้งแต่ต้น จึงเข้าร่วมกับพรรคนักศึกษาฝ่ายก้าวหน้า คือนักศึกษา 7 คณะ พรรคสานแสงทอง เช่น กิจกรรมออกค่ายอาสา กิจกรรมอบรมทางวิชาการ กิจกรรมรณรงค์การเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย และอื่น ๆ อีกมากมาย

หลังจบการศึกษาเข้าทำงานที่บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย จำกัด ทำงานที่เนชั่น 24 ปี ตำแหน่งสุดท้ายคือ หัวหน้าซับเอดิเตอร์ หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ที่เนชั่น ได้เรียนรู้ถึงข้อมูลข่าวสารและแนวทางการวิเคราะห์ ทั้งทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม รวมทั้งได้เผชิญกับวิกฤติการเมือง เศรษฐกิจ มาหลายยุคหลายสมัย เมื่อถึงเวลาอิ่มตัวกับงาน จึงตัดสินใจเก็บเสื้อผ้าเดินทางกลับบ้านเกิด หมายมั่นทำงานการเมืองรับใช้บ้านเกิด

“ออกจากเนชั่นด้วยความคิดที่ได้ตั้งปณิธานไว้ว่าสักวันจะต้องกลับสู่บ้านเกิด สิ่งที่จะทำคือการได้มีโอกาสในการใช้ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ เพื่อนำไปพัฒนาในพื้นที่ รวมทั้งเป็นสื่อกลางในการประสานงานระหว่างท้องถิ่น กับ หน่วยงานภาครัฐ เพื่องานจะได้คล่องตัวและราบรื่น”

บังเลาะ กล่าวว่า การเล่นการเมืองระดับท้องถิ่น คือ เป็นการทำงานช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่แคบ ๆ และจำกัด แต่การเมืองระดับชาติ ถือ เป็นงานใหญ่ที่จะได้ช่วยเหลือชาวบ้านอย่างกว้างขวาง ซึ่งในพื้นที่เขต 2 ที่รับผิดชอบจะมีนักการเมืองที่เกือบจะผูกขาดมาอย่างยาวนาน แต่ไม่ได้ทำอะไรกับประชาชนพอสมควร ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้โอกาสคนรุ่นใหม่ จะได้ช่วยกันพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิม

อับดุลย์เล๊าะ บูวา มั่นใจว่า การเลือกตั้งรอบใหม่นี้ ผมมีความหวังเต็ม 100 ที่จะได้รับการเลือกตั้ง โดยการเข้าถึงชาวบ้านในระดับรากหญ้าอย่างแท้จริง โดยได้รับเสียงสะท้อนจากชาวบ้านว่า ถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนสักที และด้วยนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ในครั้งนี้ โดนใจชาวบ้านอย่างที่สุด เช่น การประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ปาล์ม เป็นต้น รวมทั้งการเร่งรัดเดินสำรวจออกโฉนดและให้สิทธิ์ทำกินในที่ดินของรัฐ ถือเป็นหัวใจหลักที่ได้เสียงตอบรับจากชาวบ้านเป็นอย่างมาก

บังเลาะ กล่าวทิ้งท้ายว่า ยะลาเป็นเมืองเกษตรกรรม มีผลไม้มากมาย ทั้งทุเรียน เงาะ มังคุด เป็นต้น รัฐจะต้องเข้ามาส่งเสริมอย่างจริงจัง อนาคตเราจะเสนอให้ยะลาเป็น ‘เมืองฮับทุเรียน’

เลือดใหม่ประชาธิปัตย์ ‘อับดุลย์เล๊าะ บูวา’ ที่ ‘นิพนธ์ บุญญามณี’ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จูงมือมาลงสมัคร และหมายมั่นปั้นมือจะปั้นให้แจ้งเกิดให้ได้

ข้อมูลเคียงข่าว

จังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส มีพืชทางเศรษฐกิจอย่างน้อย 4 ชนิด ทุเรียน  ลองกอง เงาะ และมังคุด โดยไม้ผลที่ปลูกมากที่สุด คือ ลองกอง มีพื้นที่ปลูก 157,300 ไร่ รองลงมาเป็น ทุเรียน มีพื้นที่ปลูก105,135 ไร่ มังคุด มีพื้นที่ปลูก 39,630 ไร่ และ เงาะ มีพื้นที่ปลูก 39,446 ไร่ ตามลำคับ

ส่วนไม้ผล ที่เป็นที่รู้จักและนิยมของผู้บริโภคมากที่สุด คือ ลองกอง โดยฉพาะลองกองตันหยงมัส อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส เนื่องจากเป็นลองกองที่มีรสชาติทวาน หอม และอร่อย

นอกจากนี้ ทุเรียน ชายแดนใต้ นับว่าเป็นพืชเศรษฐกิจอีกชนิด ที่ได้รับความนิยมเพิ่มการปลูกมากขึ้น ด้วยปัจจัยจากราคา ทำให้ทุเรียน ออกสู่ตลาดมากยิ่งขึ้นตามไปด้วย

‘โรม’ ดักคอ ‘กกต.’ อย่าเนียนแบ่งเขตเลือกตั้งพิสดาร ชี้ ควรมีรายงานผลเรียลไทม์ ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

(31 ม.ค.66) นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวว่า ขอเรียกร้องไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้มีความชัดเจนต่อการแบ่งเขตเลือกตั้งอย่างสมเหตุสมผล และไม่บ่ายเบี่ยงในการสร้างระบบรายงานผลการเลือกตั้งแบบเรียลไทม์ หลังพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง 2 ฉบับ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ว่าเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งเป็นหนึ่งในบทเรียนสำคัญที่สุดจากการเลือกตั้งปี 2562 เป็นการแบ่งเขตเลือกตั้งแบบพิสดารที่ไม่ส่งผลดีทั้งต่อประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และนำไปสู่ข้อครหาเรื่องความไม่โปร่งใส

นายรังสิมันต์กล่าวว่า ทำให้เกิดคำถามว่าการแบ่งเขตเลือกตั้งสะท้อนพื้นที่ประชากรอย่างถูกต้องหรือไม่ และเป็นการแบ่งเขตเลือกตั้งเพียงเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อพรรคการเมืองบางพรรคหรือไม่ ดังจะเห็นได้ว่าในหลายเขตเลือกตั้งที่มีการแบ่งออกมาครอบคลุมพื้นที่ห่างกันมาก จากสุดเขตฝั่งหนึ่งไปถึงอีกสุดเขตฝั่งหนึ่ง บางแห่งห่างกันถึง 200 กิโลเมตรก็มี คำถามคือการแบ่งเขตแบบนี้สมเหตุสมผลหรือไม่ โดยเฉพาะการทำหน้าที่ของผู้แทนที่จะต้องเดินทางไปพบปะประชาชนตามการแบ่งเขตเช่นนี้จะมีประสิทธิภาพได้อย่างไร ดังนั้น จึงขอเรียกร้องให้ กกต.ทำการแบ่งเขตในการเลือกตั้งปี 2566 ที่จะถึงนี้อย่างเป็นธรรม สอดคล้องกับธรรมชาติของพื้นที่ ไม่ใช่ตัดแบ่ง หรือรวมตำบลต่าง ๆ ออกเป็นเขตเลือกตั้งตามฐานเสียงของพรรคการเมืองบางพรรคเป็นสำคัญ

“ผมไม่อยากให้ประเทศมีข้อครหาว่าการเลือกตั้งที่กำลังจะถึงกลายเป็นการเลือกตั้งที่สกปรกอีกครั้งเหมือนปี 2562 สังคมไทยผ่านการเลือกตั้งมาหลายครั้ง มีแบบอย่างการแบ่งเขตที่สอดคล้องกับพื้นที่มากมายให้นำมาเป็นบทเรียนได้ สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ที่มีอยู่ 400 เขต ประเทศไทยก็เคยผ่านมาแล้ว หากแบ่งเขตได้อย่างเป็นธรรมก็จะทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ได้รับการยอมรับมากขึ้น” นายรังสิมันต์กล่าว

นายรังสิมันต์กล่าวถึงกรณีการรายงานผลคะแนนแบบเรียลไทม์ ซึ่ง กกต.อ้างว่าไม่อาจทำได้ เพราะใช้งบประมาณมากเกินไป โดยรังสิมันต์กล่าวว่า ที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีก็ได้อนุมัติงบประมาณให้ กกต.ถึงเกือบ 6 พันล้านบาท เป้าหมายหนึ่งก็เพื่อให้การจัดการเลือกตั้งเป็นไปอย่างโปร่งใสที่สุด หากการประกาศผลการเลือกตั้งสามารถเป็นไปแบบเรียลไทม์ได้ การทุจริตด้วยวิธีการต่าง ๆ แบบที่เคยทำกันมา ไม่ว่าจะเป็นไฟดับระหว่างนับคะแนน การแอบสลับหีบ ย้ายหีบ หรือการทุจริตในรูปแบบอื่น ๆ ก็จะทำได้ยากขึ้น เพราะประชาชนจำนวนมากจะเห็นผลการเลือกตั้งไปพร้อม ๆ กัน

‘พุทธิพงษ์’ หนุนนโยบาย ทำสงครามกับยาเสพติด ยัน!! ‘ภูมิใจไทย’ มีแนวทางสะสางต้นตอปัญหา

(31 ม.ค. 66) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ หัวหน้าทีม กทม. พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวปราศรัยเดินหน้าประกาศสงครามกับยาเสพติดที่ใต้ทางด่วนชุมชนวัดมะกอกส่วนหน้า เขตพญาไท นั้นว่า ตนฟังอยู่ตลอด และคิดว่าเป็นเจตนาที่ดี เชื่อว่าร้อยทั้งร้อยประชาชนทุกคนเห็นด้วยแน่นอน โดยชาวชุมชนวัดมะกอกเองก็บอกว่าดีใจ และขอให้มีการปราบปรามอย่างจริงจัง ควบคู่ไปกับการให้ความรู้ประชาชนและบำบัดรักษาผู้ที่ติดยาเสพติดด้วย ส่วนเรื่องการออกหลักเกณฑ์ผู้เสพผู้ค้ายาบ้าใหม่จำนวนกี่เม็ดนั้น เป็นเรื่องของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด กระทรวงสาธารณสุข ที่ยังต้องเสนอให้ ครม. พิจารณา ต่อไป

‘นิพิฏฐ์’ โว พปชร. มีทีมเศรษฐกิจที่ดีที่สุด พร้อมแก้ปัญหาปากท้อง รอ ปชช.เลือกเข้าทำงาน

(31 ม.ค. 66) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ ทีมเศรษฐกิจที่ดีที่สุด มีรายละเอียดดังนี้

ตอนอยู่ ‘พรรคสร้างอนาคตตไทย’ ผมเคยพูดว่า พรรคสร้างอนาคตไทย มีทีมเศรษฐกิจที่ดีที่สุด และตอนนั้นพรรคสร้างอนาคตไทย ได้เริ่มผลิตนโยบายออกมา เช่น ‘ปุ๋ยคนละครึ่ง’ และ นโยบายอื่น ๆ ที่รอการประกาศออกมา ซึ่งน่าสนใจอย่างยิ่ง

ตอนผมย้ายมาอยู่พรรคพลังประชารัฐ อยากนำนโยบายบางเรื่องที่รอประกาศมาใช้ที่พรรคพลังประชารัฐ แต่หากทำอย่างนั้น เท่ากับเราเอาเปรียบพรรคสร้างอนาคตไทย ที่เขาอุตส่าห์คิดนโยบายขึ้นมา ผ่านการวิเคราะห์มาเป็นปี ๆ ผมจึงไม่เสนอนโยบายเหล่านั้นต่อพรรคพลังประชารัฐ

เมื่อ ดร.อุตตม สาวนายน และ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ และทีมเศรษฐกิจของดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ จากพรรคสร้างอนาคตไทยย้ายมาพรรคพลังประชารัฐ ผนวกกับคุณมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ที่ย้ายมาก่อนแล้ว ผมจึงดีใจ และพูดได้เต็มปากว่า พรรคพลังประชารัฐ มีทีมเศรษฐกิจที่ดีที่สุดกว่าทุกพรรคแล้ว

‘บิ๊กตู่’ เตรียมปราศรัยใหญ่โคราช 18 ก.พ.นี้ วางคิว ‘สักการะย่าโม’ เอาฤกษ์เอาชัยก่อนเลือกตั้ง

(1 ก.พ. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ว่า หลังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ประเดิมขึ้นเวทีปราศรัยแรกที่จ.ชุมพร ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยที่มีรายข่าวตอนแรกว่า เตรียมเป็นที่ จ.เพชรบุรีนั้น ล่าสุด ได้มีการเปลี่ยนไปเป็นที่จ.นครราชสีมา โดยจะให้เป็นเวทีรวมไทยสร้างชาติสู่อีสาน จากครั้งแรกใช้เวทีจ.ชุมพร เป็นประตูรวมไทยสร้างชาติสู่ภาคใต้ 

นอกจากนี้ ที่สำคัญจ.นครราชสีมา ถือเป็นบ้านเกิดของพล.อ.ประยุทธ์ด้วย โดยกำหนดการเบื้องต้น วันเสาร์ที่ 18 ก.พ.66 พล.อ. ประยุทธ์ แกนนำ ผู้บริหารพรรค ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา และในพื้นที่ภาคอีสาน จะเดินทางไปสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองจ.นครราชสีมา ก่อนขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top