Wednesday, 26 June 2024
ElectionTime

‘อนุทิน’ ชี้ หาเสียงด้วยวาทกรรม ไม่ได้ช่วยขับเคลื่อนประเทศ ลั่น!! ขอทำการเมืองสร้างสรรค์ ไม่แบ่งแยก คำนึงถึงประโยชน์ ปชช.

‘อนุทิน’ ชี้ โค้งสุดท้าย สาดวาทกรรม คนไม่เกี่ยวการเมือง จุ้นจนวุ่นวาย สร้างความแตกแยกไม่จบสิ้น เหน็บ บางพรรค ทำงานเหมือนบริษัท สั่งซ้ายหันขวาหัน ดักคอ พวกจับขั้วก่อน ถามประชาชนหรือยัง

(8 พ.ค. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการเลือกตั้งล่วงหน้า ว่า ตน ไม่ได้สนใจเรื่องนอกพรรคเลย เดินทางขึ้นเหนือล่องใต้จนจำไม่ได้แล้วว่าไปไหนบ้าง ตอนนี้ลงพื้นที่อย่างเดียว ไม่ได้ติดตามข่าวอื่น ซึ่งในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ลูกพรรคไม่ได้ติดต่อเรื่องใดๆ มาที่ตน ว่าพรรคภูมิใจไทยจะมีความได้เปรียบเสียเปรียบอย่างไร วันนี้คงไม่คิดเรื่องอย่างนี้แล้ว เพราะต้องคิดอย่างเดียวว่า จะต้องทำให้ประชาชนมั่นใจและเลือกเขาเข้ามา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายนี้พรรคภูมิใจไทยมีหมัดเด็ดในการหาเสียงอย่างไร หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เรานำเสนอนโยบาย ที่มั่นใจว่าเป็นประโยชน์กับประชาชน และพยายามทำให้ประชาชนเห็นว่า พรรคภูมิใจไทยยึดมั่นของการเป็นพรรคการเมือง ที่ไม่เน้นความแตกแยก เราไม่ชอบความแตกแยก ไม่แบ่งฝ่าย ตั้งใจทำงาน เพื่อเอาประเทศไทยออกจาก ประเทศที่ไม่มีความสามัคคีของคนในชาติ ให้เร็วที่สุดให้ได้

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีกระแสข่าวแบ่งแยก และมีขั้วเก่าขั้วใหม่เกิดขึ้น นายอนุทิน กล่าวว่า “กระแสมันมีคนสร้างขึ้นมา กระแสถูกสร้างโดยคน ผมคิดว่าประชาชนแยกแยะออกว่า ไปเชื่อในข้อมูลใดแล้ว เขาได้ประโยชน์อะไรหรือไม่ หรือทำให้เสียประโยชน์อะไร เขาแยกแยะออก ตอนนี้มันเหมือนไม่ใช่เรื่องของการเมือง คนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ก็เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองเยอะแยะไปหมด ไม่รู้เข้ามาทำไม เพราะมันเป็นเรื่องของการเมือง เป็นเรื่องของนักการเมือง เป็นเรื่องของผู้สมัคร ก็ควรที่จะต้องจำกัดวงผู้เล่นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผู้สมัครแต่ละคนที่เข้ามา ก็ต้องถือว่าผ่านคุณสมบัติเข้ามาแล้ว ซึ่งตรวจคุณสมบัติ โดย กกต.ว่า ผู้สมัครคนนั้นมีประวัติไม่ดีอะไรหรือไม่ หรือมีประวัติอาชญากรรมหรือไม่ ถ้ามีก็เข้ามาสมัครไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็ต้องถือว่าเขามีคุณสมบัติครบถ้วน มันไม่ใช่หน้าที่ของคนที่ไม่เกี่ยวข้อง และมาเที่ยวว่ากล่าวให้ร้าย ก็จะทำให้ความแตกแยกไม่จบไม่สิ้นเสียที พรรคภูมิใจไทยถึงไม่โต้ไม่ตอบ ไม่สนใจ เพราะถ้าไปโต้ตอบหรือไปสนใจ ก็จะทำให้มีความรู้สึก และถ้ามีความรู้สึกแล้ว ก็จะต้องโต้ตอบจนเกิดความขัดแย้งไม่จบไม่สิ้น เรามั่นใจว่าทำสิ่งที่ดีที่สุดให้ประชาชนแล้ว เราก็จะเดินถนนของพรรคภูมิใจไทย”

เมื่อถามว่า หากผลเลือกตั้งออกมาเป็นไปตามกระแส จะทำให้ทิศทางของประเทศเปลี่ยนไปหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า กระแสไหนล่ะ หากเป็นกระแสของพรรคภูมิใจไทยเราก็เชื่อมั่น ตอนนี้ต่างคนต่างมีแฟนคลับของตัวเอง ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน เวลาตนที่ไปปราศรัยที่ไหน ได้ให้สัญญากับชาวบ้านว่า ถ้าได้กลับเข้ามาทำงานให้ประชาชนอีก ก็จะดำเนินการตามนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประชาชน แม้แต่นโยบายที่ทำมาแล้ว ก็พร้อมที่จะสนับสนุนให้ดำเนินการต่อไป ไม่มีการกีดกัน ตนคิดว่าเราทำงานการเมืองสร้างสรรค์ดีกว่า พอแล้วสำหรับการทะเลาะกัน เพราะผลสุดท้ายคนที่เสียประโยชน์ คือประชาชน นักการเมืองไม่มีใครเสียประโยชน์ การที่จะบอกว่าไม่เอาพรรคนั้นไม่เอาพรรคนี้ หรือต้องการจับมือกับพรรคนั้นพรรคนี้ ก็ต้องถามว่าพรรคการเมืองเป็นของคนใดคนหนึ่งหรือเปล่า เข้ามาได้มามีบทบาท ก็เพราะประชาชนเลือกมา

เปิดแผนไม่ลับ หยุดก้าวไกล-เพื่อไทยแลนด์สไลด์!! “ไม่เลือกลุงมันมาแน่” ปะทะ “มีเราไม่มีลุง” มนต์ไหนขลังกว่า

พรรคเพื่อไทยอุตส่าห์ย้ำแคมเปญผ่านป้ายหาเสียงตามถนนรนแคมและเสาไฟฟ้าทั่วประเทศว่า 'เพื่อไทยแลนด์สไลด์' แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลอะไรมาก สู้กระแสไวรัลปากต่อปากตามสภากาแฟและร้านอาหารที่ไม่ทันหย่อนก้นลงนั่งก็มีเสียงตะโกนถามมาแล้วว่า...พรรคก้าวไกลมาแรงจริงหรือเปล่า จะแลนด์สไลด์แทนเพื่อไทยจริงหรือ..??

ก็ต้องบอกว่าของเขาแรงจริง ๆ แต่ 'เล็ก เลียบด่วน' จะขอหมายเหตุเป็นข้อ ๆ เพื่อกระชับพื้นที่ดังนี้...

ข้อที่หนึ่ง) จุดร่วมที่ผู้บริหารพรรคก้าวไกลประกาศตอนนี้คือ ทะลุ 100 ที่นั่ง ส่วน 160 ที่นั่ง เป็นตัวเลขยุทธศาสตร์ตัวเลขเป้าหมายเท่านั้น

เลือกตั้งปี 2562 พรรคอนาคตใหม่หรือก้าวไกลปัจจุบันได้ ส.ส.รวม 81 ที่นั่ง เป็นส.ส.เขต 30 ปาร์ตี้ลิสต์ 51 ส.ส. เขตส่วนหนึ่งมาจาก 'ส้มหล่น' พรรคไทยรักษาชาติซึ่งเป็นแบงก์ร้อยหรือลูกแบงก์ของพรรคเพื่อไทยถูกยุบก่อนเลือกตั้ง

ข้อที่สอง) กระแสพรรคก้าวไกลมาแรงในขณะนี้มีมาจาก 3 สาเหตุ...1.นโยบายหลายอย่างดี ทันสมัยโดนใจคนรุ่นใหม่และชนชั้นกลางแม้บางประการจะออกอาการสุดโต่ง / 2.ภาพรวมการดีเบตพรรคก้าวไกลดูเด่นกว่าพรรคอื่น ข้อมูลชัดเจน และ 3.จุดยืนเชิงอุดมการณ์มีลุงไม่มีเรา มีเราไม่มีลุง เป็นจุดยืนที่ภาษาทหารต้องเรียกว่า 'สูงข่ม' พรรคเพื่อไทย คะแนนจากเพื่อไทยส่วนหนึ่งจึงเทมา

ข้อที่สาม) ก่อนยุบสภาพรรคก้าวไกล มีส.ส.ในพรรค 50 กว่าคน แนวโน้มการเลือกตั้งหนนี้ที่จะได้เป็นกอบเป็นกำคือ คะแนนปาร์ตี้ลิสต์ ถ้าได้คะแนนเพิ่มจากเดิม 6 ล้านเศษเมื่อปี 2562 เป็น 9 ล้านเสียง ซึ่งถ้า 1 ปาร์ตี้ลิสต์ใช้เสียง 3.7 แสน ก็จะได้ปาร์ตี้ลิสต์ 24 คน สมมติได้ ส.ส.เขตอีก 50 คน ทั้งหมดจะอยู่ที่ 74 คนเท่านั้น...แต่ก็มากพอที่จะเกินครึ่งสภาหรือ 250 คน หากไปบวกรวมกับพรรคเพื่อไทยและพรรคฝ่ายค้านเดิม...

‘สาธิต’ จ่อแจ้งความ ‘ก้าวไกล’ ปมปราศรัยใส่ร้าย ‘ปชป.’ ที่ระยอง ยัน!! ทำหน้าที่ รมต.-ส.ส.เต็มที่ เพื่อช่วยคนระยองผ่านพ้นวิกฤต

‘สาธิต’ แจงยิบ ซัดกลับ ‘ก้าวไกล’ ปราศรัยป้ายสี ยันทำหน้าที่ รมต.-ส.ส.จับมือทุกฝ่ายช่วยคนระยองฝ่า 3 ปัญหาร้อนสำเร็จ โร่แจ้งความบ่ายสอง เร่งเก็บหลักฐานร้อง กกต. ฟันผิด กม.เลือกตั้ง

(8 พ.ค. 66) ที่อาคารกรุงเทพทาวเวอร์ ถนนเพชรบุรี นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้สมัคร ส.ส.ระยอง แถลงว่า กรณีที่พรรคก้าวไกล นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร จัดการปราศรัยหาเสียงที่จังหวัดระยอง เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น ได้มีกล่าวปราศรัยที่เข้าข่ายใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เกิดความเข้าใจผิดต่อตัวตนและ ส.ส.ระยอง ของพรรคประชาธิปัตย์ ว่าพวกตนไม่สนใจทำหน้าที่ใดๆ ใน 3 เหตุการณ์ คือ

1.) เหตุการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 จากบ่อนการพนันแห่งหนึ่งใน จ.ระยอง
2.) เหตุการณ์ทหารอียิปต์ที่ติดเชื้อโควิด-19 เข้ามาใน จ.ระยอง
3.) เหตุการณ์น้ำมันรั่วในทะเลบริเวณ จ.ระยอง ซึ่งยืนยันว่าตนและ ส.ส.ระยอง ของพรรคประชาธิปัตย์ทุกคน ได้ช่วยกันแก้ไขปัญหาเหล่านี้ไม่ได้ละเลย และไม่มีสักวันที่จะไม่คิดถึงประชาชนชาวระยอง

โดยขอชี้แจงว่า การระบาดของเชื้อโควิด-19 จากบ่อนพนันนั้น ตนในฐานะ รมช.สาธารณสุข ได้เร่งลงพื้นที่ควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 จนสามารถคลี่คลายได้ภายใน 14 วัน อีกทั้ง ตนพร้อมด้วย นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ และนายธารา ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ ได้ร่วมมือกับภาคประชาชนในจังหวัดออกมาเรียกร้องให้มีการปิดบ่อน และโยกย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกระดับชั้นที่มีส่วนปล่อยปละละเลย ขณะเดียวกัน ตนได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องเรื่องนี้ และ นพ.บัญญัติ ได้ตั้งกระทู้ถามสดในสภาผู้แทนราษฎรด้วย

จนในที่สุด นายกฯ ได้ดำเนินการให้มีการสั่งโยกย้ายครั้งใหญ่ ทั้งการย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และการย้ายผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง และผู้กำกับ 5 เสือ ใน สภ.เมืองระยอง รวมถึงมีการจับกุมเจ้าของบ่อนใหญ่ใน จ.ระยอง ตนยืนยันได้เลยว่าพวกเราทำงานกันเป็นทีม และทำงานติดต่อกันประสบผลสำเร็จ ดังนั้น คนที่จะอวดอ้างผลงานตรงนี้ได้ไม่ใช่พรรคก้าวไกล แต่เป็นภาคประชาชนใน จ.ระยองที่ร่วมทำงานกับ ส.ส.ระยอง ของเขาอย่างเต็มกำลัง

ส่วนกรณีทหารอียิปต์นั้น ทันทีที่ทราบว่าทหารคนดังกล่าวถูกตรวจพบเชื้อโควิด-19 และมีประวัติว่าเคยเข้ามาใน จ.ระยอง ตนเร่งนำแพทย์และเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขเข้าไปควบคุม และป้องกันการแพร่ระบาดใน จ.ระยอง ด้วยการลงพื้นที่ตรวจจุดเสี่ยงทั้งหมด นำตัวทหารรายนี้ไปตรวจ และนำกลุ่มผู้ใกล้ชิดกับทหารอียิปต์ไปสอบสวนโรค ทำตามกระบวนการทุกอย่าง จนสามารถควบคุมโรคได้ จากนั้นตนได้นำข้าราชการกระทรวงสาธารณสุขที่เป็นแพทย์ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลมาจัดสัมมนาใน จ.ระยอง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นสู่ จ.ระยอง รวมถึงร่วมมือกับทุกฝ่ายเป็นเวลาหลายวันในการคลี่คลายสถานการณ์ และสามารถสร้างความเชื่อมั่นกลับคืนสู่ จ.ระยองได้สำเร็จ

สำหรับเหตุการณ์น้ำมันรั่วในทะเลมาบตาพุด จ.ระยอง ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ม.ค.2565 ตนพร้อมด้วยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เมื่อวันที่ 27 ม.ค.2565 เพื่อบินสำรวจที่เกิดเหตุ และสั่งการให้ผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมต้องแสดงความรับผิดชอบ อีกทั้งได้เรียกบริษัท SPRC ให้เร่งปฏิบัติตามแผนเพื่อแก้ไขปัญหา รวมถึงขอกำลังจากกองทัพเรือมาควบคุมเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหล ต่อมาวันที่ 28 ม.ค.2565 ตนและเจ้าหน้าที่ของหลายฝ่ายได้ลงพื้นที่ต่างๆ ที่เป็นจุดเสี่ยงเพื่อดำเนินการป้องกันไม่ให้คราบน้ำมันไหลเข้าฝั่ง นอกจากนี้ ได้ทำงานอีกหลายอย่าง ทั้งการประกาศแจ้งเตือนและตั้งศูนย์บัญชาการให้ข้อมูลแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวในจ.ระยอง รวมถึงบังคับให้บริษัท SPRC ต้องเยียวยามากที่สุดเท่าที่ทำได้ ซึ่งเขาได้ชดเชยเยียวยาแล้วเกือบ 100% โดยยังขาด 3% ที่กำลังอยู่ระหว่างการฟ้องร้อง

'ชัช เตาปูน' ชวนคนไทยปกป้อง ‘ชาติ ศาสน์ กษัตริย์’ 14 พ.ค. เลือก รทสช. ทั้ง 2 ใบ ดัน ‘ลุงตู่’ เป็นนายกฯ

(9 พ.ค. 66) จากรายการ ‘ถลกข่าว ถลกคน’ รายการที่ล้วงลึกทุกฉากการเลือกตั้ง 2566 โดยสำนักข่าวออนไลน์ THE STATES TIMES ได้เชิญ ‘นายชัชวาลล์  คงอุดม’ หรือที่รู้จักกันในนาม 'ชัช เตาปูน' ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการกำหนดแนวทางยุทธศาสตร์ พรรครวมไทยสร้างชาติ มาร่วมถกประเด็นก่อนการเลือกตั้ง โดยช่วงหนึ่งนายชัชวาลล์ได้พูดถึงการเลือกตั้งใหญ่ในวันที่ 14 พ.ค. 66 พร้อมชักชวนให้คนออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันเยอะ ๆ และลงคะแนนให้พรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อดัน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย 

นายชัชวาลล์กล่าวถึงเหตุผลที่เข้าร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็เพราะเชื่อมั่นในตัว ‘บิ๊กตู่’ พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา โดยระบุว่า…ลุงตู่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และถือว่าเป็นคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน นอกจากนี้ก็ยังซื่อสัตย์ ไม่มีการโกงกินบ้านเมือง 

เมื่อถามถึงนโยบายของพรรคที่ครองใจมหาชนทั่วประเทศที่รับรู้ได้จากการเดินสายหาเสียงตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นายชัชวาลล์ระบุว่า ก็เป็นคนละครึ่งนะ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ชาวบ้านชอบนะ แล้วนโยบายเรามี บัตรสวัสดิการแห่งรัฐพลัส เพิ่มเงินเป็น 1,000 บาท และสามารถเอาไปกู้เงินมาใช้จ่ายได้อีกนะ ดีกว่าไปกู้เงินนอกระบบ เสียดอกเบี้ยแพง ๆ

เมื่อถามถึงเสียงตอบรับในภาคอีสานมีมากน้อยแค่ไหน นายชัชวาลล์ ระบุว่า ต้องบอกแบบนี้ เวลาเขาสำรวจโพลกัน ก็จะสำรวจในโลกโซเชียล ทำให้คนที่เขาไม่ได้เล่นโซเชียลไม่ได้ตอบ เช่น กลุ่มผู้สูงอายุ จึงไม่มั่นใจว่าในภาคอีสานเราจะชนะขาดหรือไม่ อีกทั้งการสำรวจโพลก็สอบถามเฉพาะกลุ่มที่นิยมชมชอบฝั่งนั้นอย่างเดียว ทำให้ผลโพลที่ออกมาเอนเอียงไป แต่ส่วนมากคนสูงอายุจะคิดถึงเรื่องความเป็นอยู่ เขาก็คิดว่ามีกะปิ พริก น้ำปลาติดตู่กับข้าวได้ก็เพราะลุงตู่ แต่สำหรับเด็ก ๆ ก็จะมองต่างออกไป 

เมื่อถามการที่มาช่วยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ จะพบเจอกับความผิดหวังเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีตหรือไม่? นายชัชวาลล์ระบุว่า เชื่อว่าไม่ผิดหวังนะ เพราะพลเอกประยุทธ์จะอยู่เพียงแค่ 2 ปี โดยมีการพิสูจน์มาแล้วตั้ง 8 ปี ทุกอย่างโอเคหมด ผมฟังท่านพูด ผมคิดว่าท่านรู้ทุกอย่างนะ ท่านเข้าใจปัญหาดี ท่านเก่ง แต่เวลาสัมภาษณ์ถูกนักข่าวจี้จุด ก็เลยมีหงุดหงิดไปบ้าง แต่เวลาเราคุยกันท่านก็เฮฮา มีอารมณ์ขัน ไม่เป็นอย่างที่เห็นตามหน้าสื่อเลย

เมื่อถามว่า เชื่อหรือว่าพลเอกประยุทธ์จะอยู่เพียงแต่ 2 ปี นายชัชวาลล์ ระบุว่า ผมเชื่อแบบนั้น ในความรู้สึกผม ถ้าท่านไปได้ก็คงไปแล้ว ที่ผ่านมาโดยสารพัด เพราะคนไม่เข้าใจ แต่พูดตรง ๆ เลยนะ ฝ่ายนั้นกำลังมา ตอนนี้มีคนจ้องจะแก้ม.112 หากแก้ไปแล้วประเทศชาติจะเป็นอย่างไร คนที่รักสถาบันพระมหากษัตริย์คงยอมไม่ได้

‘กรณิศ’ ยัน!! ไม่เอากัญชาเสรี หนุนใช้เพื่อการแพทย์-ศก.เท่านั้น ขอโอกาส ปชช. หนุน ‘ภท.’ เข้าสภาฯ เพื่อเร่งออก กม.ควบคุม

(8 พ.ค. 66) นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตคลองเตย-วัฒนา เบอร์ 1 พรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า ตอนนี้ประชาชนบางส่วนสงสัย และสอบถามกันเยอะว่าพรรค และตนสนับสนุนกัญชาเสรีหรือไม่ เพราะบางพรรคหาเสียงโจมตีนโยบายกัญชาเพื่อการแพทย์ของพรรค จนประชาชนเกิดความสับสน ตนขอย้ำกับทุกฝ่ายว่า ตนและพรรคไม่สนับสนุนกัญชาเสรี เพราะผู้บริหารพรรค สมาชิกพรรค และตนมีจุดยืน คือ สนับสนุนกัญชาเพื่อการแพทย์เท่านั้น สำหรับการดูแลรักษาสุขภาพของประชาชน

“ที่ผ่านมาพรรคได้แสดงจุดยืนด้วยการเสนอร่างพระบัญญัติกัญชา กัญชง เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร เพราะประเทศไทย จะต้องมีกฎหมายควบคุมการใช้กัญชา จึงจะทำให้การใช้และการคุ้มครองผู้บริโภคเกิดความสมดุล แม้ว่าร่างกฎหมายดังกล่าวได้รับการขัดขวางจากกลเกมทางการเมือง และต้องตกไป กรณีนี้คิดว่าสังคมน่าจะเข้าใจได้กับเกมการเมืองในบางช่วงที่เกิดขึ้นเพื่อไม่ให้พรรคได้คะแนนนิยมในเรื่องร่างกฎหมายดังกล่าว” นางกรณิศ กล่าว

‘ชวน’ รับ ผลโพลทำ ‘ปชป.’ เสียขวัญ เร่งทำคะแนนโค้งสุดท้าย เผย ส่งข้อความให้กำลังใจผู้สมัคร อย่าท้อ ทำให้ดีที่สุดจนนาทีสุดท้าย

‘ชวน’ รับ ผลโพลทำ ‘ปชป.’ เสียขวัญ ส่งข้อความถึงผู้สมัคร ทำให้ดีที่สุดจนนาทีสุดท้าย อย่าท้อ เสียดาย โพลชี้ จะได้ปาร์ตี้ลิสต์ไม่ถึง 10 คน เร่งรณรงค์โค้งสุดท้าย ชี้!! เลขขั้วรัฐบาลชัดไม่น่ามีปัญหาตั้งรัฐบาล แต่อาจเป็นปัญหาถ้าพรรคการเมืองไม่ยอมรับ โยน กก.บห.คิด จะจับขั้วใคร

(8 พ.ค. 66) นายชวน หลีกภัย สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์รายการ มุมการเมือง ทางไทยพีบีเอส ถึงปรากฎการณ์ ประชาชนตื่นตัว ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวานนี้ กันมากกว่า เป็นเรื่องดี

เมื่อถามว่า มีประชาชนกังวลเรื่องความพร้อมจัดการเลือกตั้งของกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และห่วงเรื่องการทุจริตนั้น นายชวนกล่าวว่า กกต.คงพยายามจะทำให้ดีที่สุด แต่อาจมีปัญหาเรื่องประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่แต่ละพื้นที่เรื่องความพร้อมและเรื่องการจับทุจริตหรือความไม่ชอบเรื่องการเลือกตั้ง โดยเฉพาะเรื่องการใช้เงินเป็นเรื่องยาก ซึ่งนักการเมืองบ่นกันอยู่ว่า กกต.อาจไม่รู้ แต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความสุจริตยุติธรรม แม้ว่าจะมีกระแสเกิดขึ้นทุกยุคทุกสมัยสำหรับการเลือกตั้ง กรรมการการเลือกตั้งก็น่าจะรู้แต่ในทางปฏิบัติจริงอาจไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีกระบวนการและวิธีการที่นักการเมืองใช้ ไม่ใช่หมาหอนแบบสมัยก่อน แต่อาจเป็นการทำอะไรล่วงหน้าเช่น จดชื่อเอาบัตรประจำตัวประชาชนไปก่อน ต่างจากสมัยก่อน วิธีการยากที่จะไล่จับ อยู่ที่ความจริงจังและประสิทธิภาพของแต่ละคน

เมื่อถามถึงความเข้มข้นในการหาเสียงช่วงสุดท้ายนายชวน กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดีหากหาเสียงโดยวิธีการที่ชอบ เช่น การปราศรัยหรือประชาสัมพันธ์เพื่อเป็นการเตือนให้คนออกมาใช้สิทธิ์ และจนถึงขณะนี้ ประชาชนอาจจะยังไม่ทราบเรื่องตัวเลข เบอร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งถ้ารณรงค์ในช่วงใกล้เลือกตั้งเพิ่มมากขึ้นว่าเปลี่ยนระบบเป็นบัตรสองใบ พรรคเบอร์หนึ่ง ผู้สมัครเขตอีกเบอร์หนึ่ง ก็เป็นเรื่องที่ควรมีการเน้นย้ำ

‘บิ๊กป้อม’ สักการะพระพุทธชินราช ก่อนปราศรัยใหญ่ที่พิษณุโลก ลุยหาเสียงโค้งสุดท้าย ปลื้ม!! แฟนคลับฟันน้ำนมโผกอดให้กำลังใจ

(8 พ.ค. 66) ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค เดินทางมาที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ สักการะพระพุทธชินราช และสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นสิริมงคล ก่อนขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ ที่ลานเอนกประสงค์ เทศบาลตำบลพรหมพิราม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก โดยมีประชาชนมามอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ ทันทีที่ พล.อ.ประวิตร เดินทางมาถึง

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร สักการะรูปปั้นสมเด็จพระนเรศวรมหาราช มีเด็กชายรายหนึ่ง วิ่งเข้ามาหา พล.อ.ประวิตร จึงกวักมือเรียกเข้ามาหา และสวมกอดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม และลูบหัวอย่างเอ็นดู พร้อมถามหยอกล้อว่า “เบอร์อะไรลูก” เด็กชายคนดังกล่าวตอบว่า “เบอร์ 1” ทำให้ พล.อ.ประวิตร อมยิ้มและบอกว่า “เบอร์ 37 สิ” จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้กราบนมัสการพระสงฆ์ในพระอุโบสถ พระสงฆ์ได้พรมนํ้ามนต์ให้พร แก่ พล.อ.ประวิตร

‘กรณ์’ ลุยปราศรัยพัทลุง ปลื้ม!! กระแสแรงแซงพรรคใหญ่ ขอโอกาสคนเมืองลุง หนุน ‘ชพก.’ เข้าสภาฯ แก้ปัญหาให้ ปชช.

(8 พ.ค. 66) นายกรณ์ จาติกวณิช พร้อมด้วย นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค, นายจูรี นุ่มแก้ว ดาวติ๊กต็อกขวัญใจชาวใต้ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 สงขลา และทีมผู้สมัคร จ.สงขลา ได้แก่ นายกัณฑ์ นวกัณฑ์ เขต1, ผศ.ดร.ประสิทธิ รัตนพันธ์ เขต 3 และทนายอาร์ม นายพงศธร สุวรรณรักษา เขต 9 ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงทางการเมืองช่วยนายธนากร บุญสนิท ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 เบอร์ 2 โดยมีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังกันอย่างคึกคัก

นายกรณ์ กล่าวว่า วันนี้ภูมิใจมาก เพราะกระแสในพื้นที่คะแนนของนายธนากรมาแรงแซงพรรคใหญ่ โดยพรรคชาติพัฒนากล้า แม้จะเป็นพรรคใหม่ และผู้สมัครก็หน้าใหม่เกือบทั้งหมด พวกเราตั้งใจที่จะเข้ามาแก้ปัญหาให้กับประชาชน ทุกครั้งที่ลงพื้นที่ ก็มักจะมีพี่น้องประชาชนมาฝากให้พวกเราเข้าไปแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ทั้งราคาน้ำมัน ค่าไฟ ราคาพืชผลทางการเกษตร ซึ่งตราบใดที่พี่น้องยังมีแรง มีเรื่องฝากให้เราทำ แสดงว่าพวกท่านยังมีความหวัง มีความเชื่อและศรัทธาเรา ไม่เช่นนั้นคงไม่เสียเวลา และนี่คือแรงบันดาลใจที่ทำให้พวกเรามุ่งมั่น และทุ่มเทที่ทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน

นายกรณ์ กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์นี้ตนอยู่ใต้ ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหนรู้สึกชื่นใจที่สุด เดินไปเจอใครก็บอกจะเลือกพรรคชาติพัฒนากล้าแน่ เพราะเป็นพรรคแนวกลาง แนวเศรษฐกิจ เดินทางการเมืองในแนวทางที่ใสสะอาด แต่ก็ต้องยอมรับว่า มีอีกหลายคนที่แม้จะอยู่ในช่วงโค้งสุดท้าย อีกไม่กี่วันจะเลือกตั้งแล้ว แต่ยังตัดสินใจไม่ได้เลยว่าจะเลือกยังไงดี เพราะกระแสหลักทางสื่อผลักให้อยู่ใน 2 ขั้ว เหมือนถูกยัดเยียดให้เลือกในสิ่งที่เขาไม่ชอบ เพื่อหนีสิ่งที่เขากลัว เขาไม่ต้องการเปลี่ยนประเทศ แต่ต้องการเปลี่ยนทิศทางของประเทศ ซึ่งตนได้ตอบไปว่า การเมืองมันมีทางเลือกแน่นอน และทางเลือกนั้นคือ ชาติพัฒนากล้า แม้เราจะไม่ใช่พรรคใหญ่ และเป็นพรรคใหม่ แต่ก็เชื่อว่า ใหญ่ เล็ก ใหม่ เก่า ไม่สำคัญ เท่าขนาดของหัวใจ ประชาชนให้โอกาสเรามาแล้ว ทุกนโยบายที่เรานำเสนอ มุ่งเป้าทำให้เศรษฐกิจปากท้องดีขึ้น และเราก็สู้มาตลอด

นายกรณ์ กล่าวว่า พรรคชาติพัฒนากล้า เราเป็นนักสู้ โดยยึดหลักเสรีนิยมประชาธิปไตย เราพร้อมทำงานกับทุกคน เราไม่เป็นศัตรูกับใคร แต่ใครก็ตามที่จะเป็นนายก ต้องรวบรวมเสียงข้างมากในสภาฯ ที่ประชาชนเลือกมา เราไม่เห็นด้วยที่จะใช้เสียง สว.มาเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะนายกฯ ประชาชนต้องเป็นคนเลือก สว.เลือกนายกได้แต่โหวตกฎหมายในสภาไม่ได้ นอกจากนี้ เรายังยึดมั่นในอุดมการณ์ที่จะสู้ เพื่อความมั่นคงในสถาบันหลักของประเทศ ม.112 ต้องมี และเราได้เสนอทางออกให้สังคมด้วยการตั้งคณะกรรมการกรองคำร้องเรียน เพื่อไม่ให้กฎหมายเป็นประเด็นขัดแย้งในสังคม เราเป็นพรรคแรกที่ยืนยันแนวทางนี้

เช่นเดียวกับการแก้ปัญหาราคาน้ำมัน ค่าไฟ เราก็มายืนหยัดสู้กับทุนใหญ่ ซึ่งเป็นทุนผูกขาด นอกจากนี้เรื่องเราได้รับการร้องขอให้ช่วยมากที่สุดคือ การยกเลิกแบล็กลิสต์ ที่ทำให้หลายคนขาดโอกาสในการทำกิน อีกนโยบายที่โดนใจชาวบ้านคือการ ‘หวยจังหวัด’ โดยการเพิ่มรางวัลให้กับประชาชนผู้ซื้อลอตเตอรี่  3 รางวัล ๆ ละ 1 ล้านบาท ในทุกงวด ทุกจังหวัดทั่วประเทศ เลือกพรรคเราไม่ผิดหวัง เราทำได้แน่นอน ทุกนโยบายเราศึกษามาแล้วอย่างละเอียด ทุกคะแนนที่ท่านให้กับพรรคชาติพัฒนากล้า เป็นการเติมพลังให้กับสังคมและบ้านเมือง ทุกคนยืนหยัดต่อสู้เพื่อพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง

เปิดตัวขุนพล ‘พรรคใหญ่’ ชิงชัยเก้าอี้ ส.ส. นครราชสีมาใครได้หมายเลขไหน? อย่าจำผิด!!

สำหรับ 16 เขตของจังหวัดนครราชสีมา ตามการแบ่งเขตของ กกต. มีดังนี้ 

>>เขต 1 อำเภอเมืองนครราชสีมา (เฉพาะตำบลในเมืองตำบลโพธิ์กลาง และตำบลหนองไผ่ล้อม)

>>เขต 2 อำเภอเมืองนครราชสีมา (เฉพาะตำบลโคกสูง ตำบลบ้านโพธิ์ ตำบลตลาด ตำบลหนองไข่น้ำ ตำบลบ้านเกาะ ตำบลพะเนา ตำบลมะเริง ตำบลหนองบัวศาลา ตำบลหนองระเวียง ตำบลหัวทะเล และตำบลจอหอ)

>>เขต 3 อำเภอเมืองนครราชสีมา (เฉพาะตำบลโคกกรวด ตำบลปรุใหญ่ ตำบลหนองจะบก ตำบลสุรนารี ตำบลหมื่นไวย ตำบลบ้านใหม่ ตำบลไชยมงคล ตำบลหนองกระทุ่ม ตำบลพลกรัง ตำบลพุดซา และตำบลสีมุม) อำเภอโนนไทย (เฉพาะตำบลด่านจาก ตำบลกำปัง และตำบลสำโรง)

>>เขต 4 อำเภอสูงเนิน อำเภอขามทะเลสอ อำเภอโนนไทย (ยกเว้นตำบลด่านจาก ตำบลกำปัง และตำบลสำโรง)

>>เขต 5 อำเภอโนนสูง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ (ยกเว้นตำบลพระพุทธ ตำบลหนองยาง และตำบลหนองงูเหลือม) อำเภอพิมาย (เฉพาะตำบลสัมฤทธิ์ ตำบลชีวาน ตำบลกระเบื้องใหญ่ และตำบลท่าหลวง)

>>เขต 6 อำเภอบัวใหญ่ อำเภอแก้งสนามนาง อำเภอสีดา อำเภอบัวลาย

>>เขต 7 อำเภอบัวลาย อำเภอประทาย อำเภอโนนแดง อำเภอลำทะเมนชัย อำเภอเมืองยาง

ชาวสงขลากว่า 6 หมื่น แห่ฟังปราศรัยใหญ่ ปชป. ด้าน 'นิพนธ์' ลั่น!! ประชาธิปัตย์ ไม่มีวันตาย

เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 66 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์, นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และขุนพลฝีปากกล้าพรรคประชาธิปัตย์, นางวทันยา บุนนาค (มาดามเดียร์) ประธานคณะกรรมการการเมืองพรรคปชป. ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ (ดร.เอ้) ประธานการศึกษาทันสมัยพรรคปชป. ร่วมด้วยผู้นำท้องที่ โดยนายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกอบ จ.สงขลา และสมาชิกสภา อบจ.สงขลา ขึ้นเวทีปราศรัยโค้งสุดท้าย ขอคะแนนเสียงช่วย 3 ผู้สมัคร 3 เขตเลือกตั้งที่ 1 นายสรรเพชญ บุญญามณี ผู้สมัคร ส.ส.หมายเลข 4 เขต 2 นายนิพัฒน์ อุดมอักษร ผู้สมัคร ส.ส.หมายเลข 4 และเขต 3 นายสมยศ พลายด้วง ผู้สมัคร ส.ส.หมายเลข 4 และขอเสียงเลือกพรรคประชาธิปัตย์หมายเลข 26 ณ สนามสอนขับรถยนต์ คลอง ร.5 อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

นายนิพนธ์ กล่าวว่า ขอถือโอกาสนี้เรียนกับพี่น้องว่าทำไมต้องเลือกประชาธิปัตย์ เพราะหลายคนมองว่าประชาธิปัตย์ไม่ทำอะไรเลย จึงขอเรียนว่าสิ่งที่ประชาธิปัตย์ทำ อยากให้ทุกคนลองไปทบทวน อย่างน้อยบางสิ่งที่บอกได้คือ เรื่องของนมโรงเรียน ประชาธิปัตย์คิดสมัยท่านชวนเป็นนายก ตั้งแต่ปี 2536 มาถึงวันนี้ ปี 2566 ลูกหลานทุกคนยังได้ดื่มนมโรงเรียน นี่คือนโยบายประชาธิปัตย์ นี่คือสิ่งที่ท่านชวนคิดเมื่อ 30 ปีที่แล้วยังไม่มีใครกล้ายกเลิก ให้ดื่ม 5 วันต่อหนึ่งสัปดาห์ ปีหนึ่งดื่ม 250 วัน รอบนี้ประชาธิปัตย์มาประกาศถ้าได้เป็นแกนนำร่วมรัฐบาลจะให้ลูกหลานพี่น้องดื่มนมตลอดทั้งปีคือ 365 วัน นี่คือสิ่งที่ประชาธิปัตย์ทำในเรื่องสร้างคน และด้วยนโยบายของพรรค ทำให้ลูกหลานได้กินอาหารกลางวันอีก และลูกหลานพี่น้องถ้าจะไปเรียนต่อที่กรุงเทพก็ต้องขายนาขายสวน ส่งให้ลูกเรียน มาวันนี้พี่น้องสามารถส่งลูกเรียนจนจบปริญญาไม่ต้องขายนาขายสวน ซึ่งท่านชวนได้ตั้งกองทุน กยศ.ขึ้นมาเพื่อให้ลูกหลานได้ เรียนหนังสือ ซึ่งปัจจุบันมีเด็กที่จบด้วยทุน กยศ.มีเป็นหกล้านคน นี่คือสิ่งที่พรรคทำ ยังไม่พอสมัยที่ท่านอภิสิทธิ์เป็นนายก นายจุรินทร์เป็นรัฐมนตรีกระทรวงศึกษามีฟรี 5 อย่างคือชุดนักเรียนฟรี กระเป๋าหนังสือฟรี รองเท้าฟรี ทัศนศึกษาฟรี อุปกรณ์การเรียนฟรี ประชาธิปัตย์คิดเพิ่อลดค่าใช้จ่ายให้กับพี่น้องมาถึงวันนี้ก็ยังใช้ฟรี แต่ถ้าไม่มีนโยบายนี้ทุกคนต้องจ่ายเงินเอง 

วันนี้ประชาธิปัตย์คิดต่อ และรอบนี้ถ้าพรรคไปเป็นแกนนำรัฐบาล จะให้ลูกหลานเรียนฟรีถึงปริญญาตรี ในสาขาที่ขาดแคลน นี่คือความหมายสร้างคนของประชาธิปัตย์ คิดเรื่องสร้างคน เมื่อเทียบนโยบายต่อนโยบายว่าพรรคการเมืองเหมือนกับพรรคประชาธิปัตย์เวลาบอกกับพี่น้อง พูดอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้จะไม่พูด นี่คือประชาธิปัตย์ 

พี่น้อง อสม. ก็เช่นกัน ได้ค่าตอบแทนในสมัยที่ท่านอภิสิทธิ์เป็นนายก และเป็นคนแรกที่ให้ค่าตอบแทนแก่ อสม.เพราะนี่เป็นนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ มาถึงวันนี้ยังไม่มีใครกล้ายกเลิกเบี้ยผู้สูงอายุเริ่มตั้งแต่ท่านชวนให้คนละ 200 บาท ไว้ซื้อหมากซื้อพลู ไข่เป็ด ไข่ไก่แต่ให้เฉพาะคนจน ต่อมาเพิ่มเป็น 300 บาท จนถึงพลเอกสุรยุทธ ให้ 500 แต่ยังให้กับคนจน จึงเป็นที่มาที่ว่ากำนัน ผู้ใหญ่บ้านเป็นคนคัดเลือกคนจนเอง จนมีข้อครหานินทาเกิดขึ้น นี่คือความไม่เท่าเทียมจนถึงสมัยท่านอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี ประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล เราคงบอกว่าใครอายุ 60 ปีขึ้นไปได้ทุกคน นี่ก็เป็นนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์

นิพนธ์ กล่าวต่อว่า ประชาธิปัตย์อยู่มา 77 ปี ย่างเข้าปีที่ 78 ประชาธิปัตย์ไม่ตายแล้ว เปลี่ยนหัวหน้าพรรคมา 8 คน ตั้งแต่นายควง อภัยวงศ์, หม่อมเสนีย์ พ.อ.ถนัด คอมันต์, นายพิชัย รัตกุล, นายชวน หลีกภัย, นายบัญญัติ,  นายอภิสิทธิ์ และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ และเป็นรัฐมนตรีมาแล้วหลายกระทรวง ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์จึงไม่มีวันตาย ขอให้เชื่อได้ พรรคบางพรรคขอมาเป็นนายกปีกว่าๆ เท่านั้น แต่ประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมือง จึงไม่เชื่อว่าพวกเราจะไม่เลือกนายชวน เป็นไปไม่ได้เลย ที่จะไม่เลือกนายชวน

นี่คือสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ทำมาแล้ว ซึ่งถ้าวันที่ 14 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ ถ้าพี่น้องเลือกประชาธิปัตย์เป็นแกนนำรัฐบาล ประชาธิปัตย์มีนโยบายอีกหลายเรื่อง 

พี่น้องข้าราชการ เราจะเอาเงินที่เป็นสมาชิก กบข. ที่เป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือของกระทรวงแรงงาน เราจะเอาเงินจากกองทุนสมทบที่มีอยู่ในสองกองทุนนี้ประมาณเกือบสามล้านล้านบาท เราจะเอาออกมาเพียง 10% หรือ สามแสนล้านมาให้พี่น้องไปซื้อบ้านได้ หรือนำไปชำระหนี้ค่าผ่อนบ้านได้ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียน นี่คือทีมเศรษฐกิจประชาธิปัตย์ พี่น้องไม่ต้องเป็นหนี้ไม่ต้องรับภาระเรื่องดอกเบี้ย เงินของพี่น้องที่ฝากอยู่ในกองทุนทุกๆ เดือน เอาเงินนี้มาให้ข้าราชการมาชำระหนี้ได้เลย นี่ประชาธิปัตย์คิดเรื่องแบบนี้ นี่คือสิ่งบอกว่าทำไมต้องเลือกประชาธิปัตย์


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top