‘กรณ์’ ลุยปราศรัยพัทลุง ปลื้ม!! กระแสแรงแซงพรรคใหญ่ ขอโอกาสคนเมืองลุง หนุน ‘ชพก.’ เข้าสภาฯ แก้ปัญหาให้ ปชช.

(8 พ.ค. 66) นายกรณ์ จาติกวณิช พร้อมด้วย นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค, นายจูรี นุ่มแก้ว ดาวติ๊กต็อกขวัญใจชาวใต้ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 สงขลา และทีมผู้สมัคร จ.สงขลา ได้แก่ นายกัณฑ์ นวกัณฑ์ เขต1, ผศ.ดร.ประสิทธิ รัตนพันธ์ เขต 3 และทนายอาร์ม นายพงศธร สุวรรณรักษา เขต 9 ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงทางการเมืองช่วยนายธนากร บุญสนิท ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 เบอร์ 2 โดยมีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังกันอย่างคึกคัก

นายกรณ์ กล่าวว่า วันนี้ภูมิใจมาก เพราะกระแสในพื้นที่คะแนนของนายธนากรมาแรงแซงพรรคใหญ่ โดยพรรคชาติพัฒนากล้า แม้จะเป็นพรรคใหม่ และผู้สมัครก็หน้าใหม่เกือบทั้งหมด พวกเราตั้งใจที่จะเข้ามาแก้ปัญหาให้กับประชาชน ทุกครั้งที่ลงพื้นที่ ก็มักจะมีพี่น้องประชาชนมาฝากให้พวกเราเข้าไปแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ทั้งราคาน้ำมัน ค่าไฟ ราคาพืชผลทางการเกษตร ซึ่งตราบใดที่พี่น้องยังมีแรง มีเรื่องฝากให้เราทำ แสดงว่าพวกท่านยังมีความหวัง มีความเชื่อและศรัทธาเรา ไม่เช่นนั้นคงไม่เสียเวลา และนี่คือแรงบันดาลใจที่ทำให้พวกเรามุ่งมั่น และทุ่มเทที่ทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน

นายกรณ์ กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์นี้ตนอยู่ใต้ ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหนรู้สึกชื่นใจที่สุด เดินไปเจอใครก็บอกจะเลือกพรรคชาติพัฒนากล้าแน่ เพราะเป็นพรรคแนวกลาง แนวเศรษฐกิจ เดินทางการเมืองในแนวทางที่ใสสะอาด แต่ก็ต้องยอมรับว่า มีอีกหลายคนที่แม้จะอยู่ในช่วงโค้งสุดท้าย อีกไม่กี่วันจะเลือกตั้งแล้ว แต่ยังตัดสินใจไม่ได้เลยว่าจะเลือกยังไงดี เพราะกระแสหลักทางสื่อผลักให้อยู่ใน 2 ขั้ว เหมือนถูกยัดเยียดให้เลือกในสิ่งที่เขาไม่ชอบ เพื่อหนีสิ่งที่เขากลัว เขาไม่ต้องการเปลี่ยนประเทศ แต่ต้องการเปลี่ยนทิศทางของประเทศ ซึ่งตนได้ตอบไปว่า การเมืองมันมีทางเลือกแน่นอน และทางเลือกนั้นคือ ชาติพัฒนากล้า แม้เราจะไม่ใช่พรรคใหญ่ และเป็นพรรคใหม่ แต่ก็เชื่อว่า ใหญ่ เล็ก ใหม่ เก่า ไม่สำคัญ เท่าขนาดของหัวใจ ประชาชนให้โอกาสเรามาแล้ว ทุกนโยบายที่เรานำเสนอ มุ่งเป้าทำให้เศรษฐกิจปากท้องดีขึ้น และเราก็สู้มาตลอด

นายกรณ์ กล่าวว่า พรรคชาติพัฒนากล้า เราเป็นนักสู้ โดยยึดหลักเสรีนิยมประชาธิปไตย เราพร้อมทำงานกับทุกคน เราไม่เป็นศัตรูกับใคร แต่ใครก็ตามที่จะเป็นนายก ต้องรวบรวมเสียงข้างมากในสภาฯ ที่ประชาชนเลือกมา เราไม่เห็นด้วยที่จะใช้เสียง สว.มาเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะนายกฯ ประชาชนต้องเป็นคนเลือก สว.เลือกนายกได้แต่โหวตกฎหมายในสภาไม่ได้ นอกจากนี้ เรายังยึดมั่นในอุดมการณ์ที่จะสู้ เพื่อความมั่นคงในสถาบันหลักของประเทศ ม.112 ต้องมี และเราได้เสนอทางออกให้สังคมด้วยการตั้งคณะกรรมการกรองคำร้องเรียน เพื่อไม่ให้กฎหมายเป็นประเด็นขัดแย้งในสังคม เราเป็นพรรคแรกที่ยืนยันแนวทางนี้

เช่นเดียวกับการแก้ปัญหาราคาน้ำมัน ค่าไฟ เราก็มายืนหยัดสู้กับทุนใหญ่ ซึ่งเป็นทุนผูกขาด นอกจากนี้เรื่องเราได้รับการร้องขอให้ช่วยมากที่สุดคือ การยกเลิกแบล็กลิสต์ ที่ทำให้หลายคนขาดโอกาสในการทำกิน อีกนโยบายที่โดนใจชาวบ้านคือการ ‘หวยจังหวัด’ โดยการเพิ่มรางวัลให้กับประชาชนผู้ซื้อลอตเตอรี่  3 รางวัล ๆ ละ 1 ล้านบาท ในทุกงวด ทุกจังหวัดทั่วประเทศ เลือกพรรคเราไม่ผิดหวัง เราทำได้แน่นอน ทุกนโยบายเราศึกษามาแล้วอย่างละเอียด ทุกคะแนนที่ท่านให้กับพรรคชาติพัฒนากล้า เป็นการเติมพลังให้กับสังคมและบ้านเมือง ทุกคนยืนหยัดต่อสู้เพื่อพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง

นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า พรรคชาติพัฒนากล้า เราไม่เน้นประชานิยม ที่เน้นแจกทุกคนเท่ากันหมดโดยไม่รู้ว่าใครรวยใครจน เราไม่ได้แจกถ้วนหน้า แต่เราแจกโอกาส พรรคชาติพัฒนากล้า จึงเสนอแนวทางโอกาสนิยม เสริมลังให้กับคนตัวเล็กให้ยืนได้สูงเท่ากับคนตัวใหญ่ พรรคเรามีนโยบายปรับปรุงบ้านผู้สูงอายุ หลังละ 50,000 บาท เป้าหมาย 1 ล้านหลัง ทั่วประเทศ และนโยบายดูแลผู้สูงอายุ ที่อายุเกิน 60 ปี แต่ยังมีไฟอยากทำงาน เราเสนอให้มีการจ้างงานผู้สูงอายุ โดยรัฐบาลจะช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการรายละ 5,000 บาท เป้าหมาย 5 แสนอัตราจ้าง

ด้านนายจูรี ยังคงเน้นย้ำ ปลุกคนใต้ไม่ซื้อสิทธิ์ขายเสียง โดยกล่าวว่า คนพัทลุง เป็นคนมีคุณภาพ ตื่นรู้ ไม่สามารถให้นักการเมืองคนไหนมาจูงจมูกได้ อย่าให้เป็นเหมือนที่ผ่านมาหลายยุค หลายสมัย ที่นักการเมืองมองประชาชนเป็นคนโง่ จะซื้อเท่าไหร่เขาก็กาให้ หมดยุคที่นักการเมืองสืบทอดทายาทกันทางนามสกุล แต่ควรเปิดโอกาสให้ลูกชาวบ้าน ได้มีโอกาสได้เข้าไปทำงานในสภาฯ เพราะเป็นคนที่เข้าใจหัวอกของชาวบ้านอย่างแท้จริง ตนและนายธนากร และผู้สมัครอีกหลายคน เลือกพรรคชาติพัฒนากล้า เพราะเป็นพรรคที่ให้โอกาสทุกคนได้เข้าสู่เส้นทางทางการเมือง และเป็นพรรคที่สร้างสรรค์ไม่ขัดแย้งใคร

นายจูรี กล่าวด้วยว่า นโยบายเศรษฐกิจสายมูของพรรคชาติพัฒนากล้า เหมาะกับ จ.พัทลุง มากเพราะมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มากมาย และมีความเป็นต้นตำรับมากกว่าหลายจังหวัดในภาคใต้ด้วยซ้ำ ยกตัวอย่างวัดเขาอ้อ ถ้ามีการพัฒนาก็ไม่แพ้วัดเจดีย์ไอ้ไข่ จ.นครศรีธรรมราช ที่ขยายผลไปยังเศรษฐกิจชุมชนประชาชนในท้องถิ่นร่ำรวยเป็นเศรษฐีกันถ้วนหน้า ซึ่งพรรคชาติพัฒนากล้า ได้เสนองบประมาณ 1,000 ล้านทุกจังหวัด เพื่อพัฒนา จ.พัทลุงเองก็ไม่ควรพลาดโอกาสนั้น เพื่อสร้างความร่ำรวยให้เกิดขึ้นในชุมชนอย่างทั่วถึงเลือก ธนากร บุญสนิท เข้าไปเป็น ส.ส.แล้วทุกอย่างที่กล่าวมาจะเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน