Saturday, 4 May 2024
เชียงใหม่

เชียงใหม่ - สสจ.เชียงใหม่ มอบเกียรติบัตร ให้กับเครือข่ายสถานีวิทยุฯ ที่เข้าร่วมโครงการโฆษณาสีขาว ประจำปี 2564

วันที่ 23 กันยายน 2564 ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่  โดยนายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีมอบเกียรติบัตร ให้แก่เครือข่ายสถานีวิทยุฯที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 21 แห่งเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ เชิดชูความดีที่ให้ความร่วมมือและเผยแพร่ความรู้ด้านสุขภาพที่ถูกต้องแก่ประชาชน โดยมีรายการเล่าข่าวเช้านี้ ซึ่งดำเนินรายการโดยชมรมผู้ประกอบการวิทยุกระจายเสียงเขต 9 เชียงใหม่ มีลิงก์สัญญาณ จำนวน 105 คลื่น ได้แก่ เชียงใหม่  ลำพูน ลำปาง พะเยา แม่ฮ่องสอน และเชียงราย  ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07.30 – 08.00 น. และรายการไจ้ไค่เล่า มีลิงก์สัญญาณ 30 สถานี ออกอากาศทุกวันศุกร์ เวลา 18.30-19.00 น. พร้อมกันนี้ภายในช่วงเวลาดังกล่าวยังมีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ความรู้ด้านสุขภาพ การให้ความรู้เกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 การป้องกันตัว

จากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 และการแจ้งเตือนภัยการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่เข้าข่ายโอ้อวด หลอกลวงรักษาโรค เช่น ผลิตภัณฑ์อาหารรักษาโรคความดัน เบาหวาน มะเร็ง หรือแก้ปวดเข่าปวดข้อ เสริมภูมิคุ้มกัน เป็นต้น

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เป็นหน่วยงานรับผิดชอบการกำกับดูแลโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพ ภายใต้การดำเนินงานโครงการโฆษณาสีขาว ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ซึ่งได้ดำเนินการตามแนวทาง 4 ด้าน ได้แก่

1. ด้านการพัฒนากลไกการทำงานร่วมกัน

2. ด้านการบังคับใช้กฎหมาย

3. ด้านการสร้างความตระหนักแก่สื่อมวลชน และ

4. ด้านการเผยแพร่ให้ความรู้แก่ประชาชน

โดยผลการดำเนินงานโครงการโฆษณาสีขาวในการตรวจสอบเฝ้าระวังโฆษณาทางสถานีวิทยุ พบว่า ปี พ.ศ. 2562- 2564 การกระทำผิดด้านการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ไม่ถูกต้องลดลง คิดเป็นร้อยละ 51.81 42.11 และ 26.13 ตามลำดับ ทำให้เห็นว่า แม้ว่ายังมีปัญหาการโฆษณาที่ไม่ถูกต้องแต่มีแนวโน้มลดลง 

ในการจัดการปัญหาไม่สามารถใช้กฎหมายเพียงด้านเดียว ความรู้เท่าทันสื่อของผู้บริโภคก็มีความสำคัญ จึงต้องอาศัยการบูรณาการหลายภาคส่วนเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหา การสร้างเครือข่ายภาคประชาชนในการทำงานร่วมกับภาครัฐในการเฝ้าระวัง การสร้างเครือข่ายสื่อวิทยุรวมตัวกันเพื่อเตือนกันเอง และการมีส่วนร่วมให้ความรู้ประชาชนเลือกบริโภคอย่างเหมาะสม รู้เท่าทันสื่อ จึงเป็นกลไกที่จะเสริมการดำเนินงานแก้ไขปัญหาโฆษณาโอ้อวดหลอกลวงลดลงได้ 

เชียงใหม่ - สดร. คว้ารางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ด้านองค์กรนวัตกรรมดีเด่น ประจำปี 2564

วันที่ 5 ตุลาคม 2564 - สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) คว้ารางวัลอันทรงเกียรติ “รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ด้านองค์กรนวัตกรรมดีเด่น ประเภทองค์กรภาครัฐ ราชการ และประชาสังคม ประจำปี 2564” บทพิสูจน์ความมุ่งมั่นตั้งใจ ใช้ดาราศาสตร์เป็นโจทย์ท้าทายการพัฒนาเทคโนโลยี พัฒนาคน ผลักดันนวัตกรรมล้ำหน้าสู่สังคม สร้างการรับรู้ และมีส่วนร่วมของเยาวชนและประชาชนไทยให้เข้าถึงดาราศาสตร์และเทคโนโลยี ควบคู่กับการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดีเพื่อขับเคลื่อนองค์กรด้วยนวัตกรรมอย่างเข็มแข็งและยั่งยืน


ดร. ศรัณย์ โปษยะจินดา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา
กว่า 12 ปีที่ผ่านมา สดร. มุ่งใช้โจทย์ที่ท้าทายที่สุดทางดาราศาสตร์ เป็นยุทธศาสตร์ผลักดันนวัตกรรมล้ำหน้า ผลักดันเทคโนโลยีที่ต้องคิดค้นขึ้นเพื่อตอบโจทย์วิจัยดาราศาสตร์ การได้รับรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติครั้งนี้ นับเป็นความภาคภูมิใจของบุคลากรทุกคนในสถาบัน และถือเป็นบทพิสูจน์ความตั้งใจของคนทั่วทั้งองค์กร
ที่ต่างมีส่วนร่วมในการสร้างนวัตกรรมในทุกด้าน เราใช้ดาราศาสตร์ซึ่งเป็นโจทย์วิทยาศาสตร์ขั้นแนวหน้าในการพัฒนาคนและเทคโนโลยี จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีที่เปลี่ยนโลกจำนวนมาก มีต้นกำเนิดมาจากการพัฒนาในวงการวิทยาศาสตร์ขั้นแนวหน้า นี่จึงเป็นเหตุผลที่เราลงมือทำ โดยเฉพาะนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ไทยอาจจะยังไม่เคยทำมาก่อน เราขับเคลื่อนองค์กรด้วยความมุ่งมั่นและแรงบันดาลใจของบุคลากร เรามีพื้นที่ให้ทุกคนได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์และลงมือปฏิบัติจริง และไม่ปฏิเสธการร้องขอจากบุคคลหรือหน่วยงานอื่นในเรื่ององค์ความรู้และเทคนิค ส่งผลให้ในช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา งานนวัตกรรมของ NARIT  มีหลากหลายทั้งในระดับโลก ระดับชาติ และระดับองค์กร 


บางชิ้นเป็นต้นแบบเครื่องแรกในโลก เช่น  ระบบถ่ายภาพความละเอียดสูงพร้อมระบบทัศนูปกรณ์แบบปรับได้ เป็นต้น นวัตกรรมดาราศาสตร์ที่เกิดขึ้นในสถาบันยังต่อยอดไปสู่นวัตกรรมในวงการอื่น ๆ ด้วย ได้แก่ อุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ และดาวเทียม ฯลฯ นอกจากนี้ การเข้าร่วมโครงการวิทยาศาสตร์ระดับโลกหลายโครงการ ยังนำมาซึ่งการพัฒนาขีดความสามารถสูงสุดของนักวิจัย วิศวกร ช่างเทคนิค โปรแกรมเมอร์ บุคลากรที่เกี่ยวข้อง นอกจากจะทำให้เกิดคนเก่งแล้ว ยังจะนำไปสู่การพึ่งพาตัวเองได้ในอนาคต นำประเทศไทยให้หลุดพ้นจากประเทศกับดักรายได้ปานกลางอีกด้วย 
 

สกัดแก๊งยา!! ตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมผู้ต้องหา 4 คน “พร้อมยาบ้า 1 แสนเม็ด และไอซ์ 2 กิโลกรัม” ในท้องที่ สภ.ช้างเผือก และสภ.แม่แตง จังหวัดเชียงใหม่

ตามนโยบายของรัฐบาลในการปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติด ซึ่งเป็นภัยคุกคามและอาชญากรรมต่างๆ ที่ได้สร้างผลกระทบต่อประชาชน และสร้างความเสียหายให้แก่สังคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผบ.ตร., พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย  อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./หน.ศอปส.ตร. ได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งรัดติดตามจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดอย่างจริงจัง นั้น

วันที่ 8 ต.ค.64 เวลา 10.30 น. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5 ,พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม แถลงผลการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ ดังนี้

จับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด 4 คน

1. นายกรรณธวุฒิ  เรืองทิพย์  อายุ 30 ปี ที่อยู่ 249/1 ม.4 ต.สะลวง อ.แม่ริม  จ.เชียงใหม่ 

2. นายยุชัย  จะมี  อายุ 30 ปี ที่อยู่ 224 ม.8 ต.ห้วยชมภู อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย 

3. นายจะลอ  จะคือ  อายุ 33 ปี ที่อยู่ 298 ม.8 ต.ห้วยชมภู อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย 

4. นายพิทักศรีรุ้ง  จะแป อายุ 33 ปี ที่อยู่ 296 ม.8 ต.ห้วยชมภู อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย

พร้อมด้วยของกลาง

1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน รวมประมาณ 100,000 เม็ด

2. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) น้ำหนักประมาณ 2 กิโลกรัม 

3. รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว ทะเบียน งจ 2940 เชียงใหม่(พบซุกซ่อนอยู่ในช่องเก็บของด้านหลังรถยนต์เก๋งคันดังกล่าว)

4. รถยนต์กระบะหัวเดี่ยว ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นเรโว่ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน

6. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 ไอ สีส้มดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน

โดยกล่าวหาว่า มีความผิดฐาน “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์และยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”

พฤติการณ์ ด้วยวันที่ (6 ต.ค. 64) เวลาประมาณ 05.00 น. จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า  นายกรรณธวุฒิ (โก๋) เรืองทิพย์ มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด(ยาบ้า) และ เวลาประมาณ 08.00 น. นายกรรณธวุฒิ (โก๋) ได้นัดหมายติดต่อรับยาเสพติด (ยาบ้าและไอซ์) จำนวนมาก จากกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติด นัดกันบริเวณพื้นที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่  จึงได้เดินทางไปบ้านพักของ นายกรรณธวุฒิ (โก๋) เมื่อไปถึงบริเวณใกล้บ้านพัก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม วางกำลังโดยรอบบ้านพักของ นายกรรณธวุฒิ (โก๋) ต่อมา ได้มีรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส  สีขาวออกจากบ้านพัก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขับรถยนต์ สะกดรอยติดตามไปจนถึงบริเวณริมถนนหมายเลข 3038 ก่อนถึงสนามกีฬากลางเทศบาลเมืองแกนพัฒนา ม.7 ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ และรถยนต์ได้เลี้ยวเข้าไปในซอยถนนดินแดงฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด จากนั้นไม่นาน รถคันดังกล่าวได้ ออกมาจากซอยเลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าสนามกีฬากลางเทศบาลเมืองแกนพัฒนา ม.7 ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ชุดที่ 1 จึงได้ติดตาม ไปอย่างใกล้ชิด จากนั้นได้มีชายวัยรุ่นจำนวน 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ สีส้ม ออกมาจากบริเวณซอยถนนดินแดง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดที่ 2 จึงได้ติดตามรถจักรยานยนต์ไปและได้แสดงตัวขอทำการตรวจค้นตัว

เชียงใหม่ - เครือข่ายเกษตรชาวสายใต้ ยื่นหนังสือผ่าน ‘ส.ส.ศรีนวล บุญลือ’ ให้รัฐบาลช่วยเหลือ ราคาข้าวต่ำ!!

ส.ส.ศรีนวล บุญลือ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเชียงใหม่ เขต 8 พรรคภูมิใจไทย รับหนังสือร้องเรียนจากเครือข่ายเกษตรชาวนา สายใต้ อ.สันป่าตอง อ.สารภี อ.แม่วาง อ.ดอยหล่อ อ.จอมทอง ยื่นหนังสือราคาผลผลิตตกต่ำ ถึงคณะกรรมมาธิการฯ สภาผู้แทนราษฎร ถึงรัฐบาลในการช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาผลิตผลราคาตกต่ำ

ขณะที่ราคาต้นทุนการผลิตสูง ปุ๋ยมีราคาแพง ขอให้นายกรัฐมนตรีลงมาช่วยเหลือโดยด่วน และมอบถุงยังชีพผู้ถูกกักตัวเสี่ยงสัมผัสโรคโควิด-19 ม.1 บ้านช่างกระดาษ ต.ทุ่งต้อม อ.สันป่าตอง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนต่อไป ขอขอบคุณ หน่วยงานที่ช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อยเกษตรกรต่อไป

 

เชียงใหม่ - ‘เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี’ ได้รับรางวัลเกียรติยศ!! Hall of Fame ประเภทแหล่งท่องที่ยวในการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (รางวัลกินรี) ครั้งที่ 13

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (รางวัลกินรี) หรือ Thailand Tourism Awards ครั้งที่ 13 ประจำปี 2564 โดยได้รับเกียรติจาก ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธี และทรงพระราชทานรางวัลเกียรติยศ  Hall of Fame ประเภทแหล่งท่องที่ยว แก่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี  โดยมี นายสายสิทธิ์ เจตสิกทัต ปฏิบัติหน้าที่แทน ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร เป็นผู้รับมอบ ผ่านระบบ ZOOM  ในรูปแบบ Virtual Live ซึ่งมี นายยุทธศักดิ์ สุภัสสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เข้าร่วมด้วย

นายสายสิทธิ์ เจตสิกทัต ปฏิบัติหน้าที่แทน ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร เปิดเผยว่า การได้รับรางวัลในครั้งนี้  เป็นการได้รับรางวัลอันสูงสุดจากการเข้าร่วมประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (รางวัลกินรี) หรือ Thailand Tourism Awards  ตั้งแต่ปี พ.ศ.2556 รวมทั้งสิ้น 5 ครั้ง โดยในปีนี้ได้รับรางวัลกินรีทองยอดเยี่ยม สาขาแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้  ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3 (ปี 2560, ปี 2562 และ ปี 2564) ทำให้เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้รับรางวัลเกียรติยศ  Hall of Fame สาขาท่องเที่ยว และได้รับการยกย่องเชิดชูจารึกชื่อไว้ในหอเกียรติยศ  ซึ่งถือเป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่ยิ่งใหญ่ ตอกย้ำคุณภาพสินค้าและบริการที่สร้างความเชื่อมั่น ความไว้วางใจให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ สร้างความภาคภูมิใจ และเป็นกำลังใจให้กับเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเป็นอย่างยิ่ง

เชียงใหม่ - อุตสาหกรรมเชียงใหม่ จัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจ นำเสนอผลงานผู้ประกอบการ กลุ่มอุตสาหกรรมกาแฟในภาคเหนือ สร้างโอกาสการเติบโตในธุรกิจ

อุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ จัดพิธีเปิดกิจกรรมเจรจาธุรกิจพร้อมนำเสนอผลงานผู้ประกอบการกลุ่มอุตสาหกรรมกาแฟในภาคเหนือ ภายใต้โครงการพัฒนาศูนย์กลางอุตสาหกรรมและธุรกิจกาแฟในภูมิภาค (Lanna Coffee Hub) กิจกรรมพัฒนาขีดความสามารถเชิงธุรกิจของเกษตรกรและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมและธุรกิจกาแฟ (Coffee Entrepreneurs Development)

โดยมีนายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธานกล่าวเปิดงาน นายบุญอุ้ม วงศ์บุตร อุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวรายงาน มีผศ.ดร.ธัญญานุภาพ อานันทนะ ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นายจุลนิตย์ วังวิวัฒน์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ และหัวหน้าส่วนราชการ และผู้มีเกียรติร่วมงาน ณ ลานกิจกรรมชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต

โครงการดังกล่าวเปิดโอกาสให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมกาแฟตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ถึงปลายน้ำในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ซึ่งประกอบด้วยจังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และลำพูน ได้รับโอกาส ในการต่อยอดธุรกิจสู่เวทีระดับสากล นอกเหนือจากองค์ความรู้และการพัฒนาทักษะจากการอบรม เพื่อพัฒนาทักษะและขีดความสามารถทางการแข่งขันทางธุรกิจของเกษตรกรและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมและธุรกิจกาแฟ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมกาแฟและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง พร้อมตอบโจทย์กลุ่มตลาดเป้าหมายได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ภายใต้กรอบ BCG Model และเป็นที่รู้จักในวงกว้างอันนำไปสู่การเกิดศูนย์กลางอุตสาหกรรมกาแฟในระดับภูมิภาค     

ทั้งนี้ นายบุญอุ้ม วงศ์บุตร อุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวให้ข้อมูลในฐานะผู้ให้ทุนว่า สำหรับกิจกรรมดังกล่าว จัดขึ้นเป็นเวลา 3 วัน ระหว่างวันที่ 16-18 ตุลาคม 2564  โดยจัดให้มีนิทรรศการแสดงผลงานผลิตภัณฑ์และจำหน่ายสินค้าจากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมกาแฟตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ถึงปลายน้ำจำนวนกว่า 50 บูธ

เชียงใหม่ – เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ชวนขนหัวลุก! ในวันฮาโลวีน พร้อมรับส่วนลด 50% สองวันสุดท้าย 30-31 ตุลาคมนี้

สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) โดยสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จัดกิจกรรมสร้างสีสันในวันฮาโลวีน ชวนกันมาขนหัวลุกกับ เหล่า Monster reptile และผีสาวแสนสวย พร้อมรับส่วนลด 50% สองวันสุดท้าย วันที่ 30-31 ตุลาคมนี้

นายสายสิทธิ์ เจตสิกทัต ปฏิบัติหน้าที่แทน ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร กล่าวเชิญชวนน้องๆ หนูๆ มาร่วมสนุกกับกิจกรรมสร้างสีสันในวันฮาโลวีน ชวนกันมาขนหัวลุกกับเหล่า Monster reptile สัตว์ประหลาดเลื้อยคลาน หน้าตาประหลาด แต่แฝงไว้ด้วยความน่ารัก  พร้อมการแสดงจากผีสาวแสนสวย ที่จะมาสร้างบรรยากาศความสยองขวัญในสไตล์ซาฟารี ให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุกและเรียนรู้ในสถานที่เปิดโล่ง รับอากาศบริสุทธิ์  ที่มั่นใจได้กับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายใต้มาตรฐาน SHA 

สำหรับการสร้างสีสันในวันฮาโลวีน จะจัดขึ้นในวันที่ 30-31 ตุลาคม นี้ เวลา 17.30-20.30 น.  พบกับ Monster reptile สัตว์ประหลาดเลื้อยคลาน อาทิ เตกู  อีกัวน่าหลากสี งูคอร์นเสนค เป็นต้น โดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด และพบกับการแสดงแดนซิ่งโชว์จากเหล่าผีสาวแสนสวย ในรอบเวลา 18.15 น. และ 19.40 น. ซึ่งผู้ที่สนใจจะต้องจองเข้าชมผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้นที่ www.chiangmainightsafari.com (จำกัด รอบละ 250 คน)  และโปรดสวมหน้ากากอนามัยตลอดการเข้าใช้บริการ

'อนุทิน' สั่งเร่ง คุมระบาดเชียงใหม่ จ่อลงตรวจพื้นที่เอง เชื่อ จว.มีความพร้อมรับมือ ยังไม่ถึงขั้นตั้งศบค.ส่วนหน้า 

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ (สสจ.) ได้รายงานสถานการณ์ในพื้นที่อย่างไรบ้าง หลังเพื่อติดเชื้อจำนวนมาก และจำนวนเตียงรองรับคนไข้ไม่พอ ว่า ในจังหวัดเชียงใหม่ ยังมีความพร้อมทางด้านการแพทย์อยู่ มากกว่าหลายๆ จังหวัด และได้เร่งให้เข้าไปแก้ปัญหาให้มากที่สุด เรื่องของวัคซีนก็รีบนำเข้าไปแก้ปัญหาการระบาดให้มากที่สุด เหมือนที่เราได้จัดการในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างของประเทศ

เมื่อถามว่า จำเป็นที่จะต้องตั้งศบค.ส่วนหน้าในพื้นที่ภาคเหนือเพิ่มเติมเพื่อคุมการระบาดใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ให้รอดูสถานการณ์สักพักหนึ่ง อย่างน้อยเรื่องการเตรียมพร้อม เรื่องการดูแลผู้ป่วยก็มีความพร้อมอยู่ ในสัปดาห์หน้าตนคงจะไปดูสถานการณ์ แต่ทราบว่าส่วนใหญ่ติดมาจากคนที่เข้ามาค้าขายในเมือง และกลับออกไปในพื้นที่ก็นำเชื้อไปติด ซึ่งต้องเร่งแก้ไข แต่ในจังหวัดเชียงใหม่มีสถานพยาบาลค่อนข้างที่จะครบถ้วนสมบูรณ์ และโรงบาลสนามก็มีความพร้อมอยู่เรื่องนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขรับทราบแล้ว กำลังเร่งแก้ไขปัญหาอยู่

เชียงใหม่ - สร้างสีสันวัฒนธรรมม หกรรมวิถีล้านนา “งานประเพณีปอยออกหว่า โคมไฟแม่วาง”

กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ประกอบด้วย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปางและแม่ฮ่องสอน โดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับเทศบาลตำบลแม่วาง วัดจำลอง ตลอดจนพุทธศาสนิกชน คณะศรัทธาวัดจำลอง  จัดกิจกรรม“งานประเพณีปอยออกหว่า โคมไฟแม่วาง”กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวประเพณีท้องถิ่นวิถีล้านนา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 โดยมีนายพีระศักดิ์ ธีรบดี นายอำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานพิธีเปิด พร้อมด้วย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ ,ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำพูน แขกผู้มีเกียรติร่วมงาน ณ วัดจำลอง อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่

นายพีระศักดิ์ ธีรบดี นายอำเภอแม่วาง กล่าวว่า งานสีสันวัฒนธรรมมหกรรมวิถีล้านนา “งานประเพณีปอยออกหว่า โคมไฟแม่วาง” ประจำปี 2564 คณะศรัทธาพุทธศาสนิกชน ที่เข้าร่วมในการจัดงาน ร่วมแสดงตนเป็นชาวพุทธศาสนิกชน  ผู้มีความเลื่อมใส  ในองค์สมเด็จ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า การที่ทุกท่านได้มาร่วมกระทำกิจกรรมงานบุญออกหว่าในวันนี้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ชาวพุทธ ควรจะต้องยึดถือและปฏิบัติให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่อนุชนรุ่นหลัง ถือเป็นโอกาสที่ดียิ่ง ที่จะได้แสดงตนให้เข้าถึงแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา

พระพุทธศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ หากชาวพุทธทุกคนได้มีโอกาสทำกิจกรรมทางศาสนาร่วมกันแล้ว ก็ถือได้ว่า เป็นการแสดงตน เพื่อเป็นชาวพุทธมามกะที่ดี จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า พุทธศาสนิกชนที่เข้าร่วมกิจกรรม จะได้รับผลบุญอานิสงส์ในการกระทำของตนเอง ส่งผลให้มีความเจริญผาสุข ต่อตนเอง ต่อครอบครัว ต่อสังคมและประเทศชาติ อย่างเจริญมั่นคงสืบไป

นางประทุม ปิยะพันธ์โอภาส นายกเทศมนตรีตำบลแม่วาง กล่าวว่าเทศบาลตำบลแม่วาง ร่วมกับวัดจำลอง ตลอดจนพุทธศาสนิกชน คณะศรัทธาวัดจำลอง  นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 อันประกอบด้วยจังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปางและลำพูน หน่วยงานภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมจัดกิจกรรมงานสีสันวัฒนธรรมมหกรรมวิถีล้านนา “งานประเพณีปอยออกหว่า โคมไฟแม่วาง” โดยได้กำหนดจัดกิจกรรมขึ้น ระหว่างวันที่ 22 - 24  ตุลาคม 2564 โดยมีวัตถุประสงค์

1. เพื่อเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น ทางพระพุทธ ศาสนาให้คงอยู่สืบไป

2. เพื่อเป็นการส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนทุกหมู่เหล่าได้ยึดถือ ปฏิบัติตามศีลธรรมจารีตประเพณีอันดีงาม 

3. เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเผยแพร่วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของชาวไทยใหญ่

4. เพื่อให้หน่วยงานองค์กรต่าง ๆ ได้ตระหนักถึงความสำคัญและร่วมกันส่งเสริมอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีของท้องถิ่น

จับกุม! ขบวนการ ‘ขนแรงงานต่างด้าว’ หลบหนีเข้าเมือง พบผู้ต้องหาคนไทย 2 คน - ต่างด้าวสัญชาติเมียนมา 32 คน โดยกองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 5 และตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงใหม่

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัย เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย หรือลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม.ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีหมายจับตำรวจสากล หรือมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน หรือเป็นลักษณะการกระทำผิดเข้าข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์  ผบช.สตม. มอบหมายให้ พล.ต.ต.อาชยน  ไกรทอง รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ศุภณัฎฐ์ เจริญเรืองสกุล ผบก.ตม 5 , พ.ต.อ.เอกกร บุษบาบดินทร์ รอง ผบก.ตม.5 , พ.ต.อ.เศรษฐภัทร ณ สงขลา ผกก.สส.บก.ตม.5  และ พ.ต.อ.วีรวัฒน์ นิลวัตร ผกก.ตม.จว.เชียงใหม่ แถลงข่าวจับกุม ดังนี้

เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.ตม.5  , ตม.จว.เชียงใหม่ , กก.3 บก.สส.ภ.5  และ กก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัว นายสาธิตฯ และนายพะลือแควฯ  “ร่วมกันช่วยซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง พ้นจากการจับกุม” และจับกุมตัวนายจ่อฯ คนต่างด้าวสัญชาติเมียนมากับพวกรวม 32 คน “เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต , ฝ่าฝืนข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่งที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1) ข้อ 3 และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อหรือผู้ว่าราชการจังหวัด (คำสั่งจังหวัดตาก ที่ 684/2563) ตามมาตรา 35 (1) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558” บริเวณช่องทางธรรมชาติชายแดน อ.แม่สอด จว.ตาก ต่อเนื่อง บริเวณถนนทางหลวงหมายเลข 108 หลักกิโลเมตรที่ 104 ต.หางดง อ.ฮอด จว.เชียงใหม่

พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีขบวนการขนคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองจากพื้นที่ จว.ตาก เลี่ยงเข้ามาใช้เส้นทางที่เกิดเหตุเพื่อจะเดินทางไปกรุงเทพฯ จึงได้ออกตรวจสอบเมื่อถึงเวลาเกิดเหตุพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทะเบียนเชียงใหม่ (รถคันที่ 1) และรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทะเบียนเชียงใหม่ (รถคันที่ 2)  ลักษณะตรงตามที่ได้รับแจ้งจึงได้เรียกให้หยุดและตรวจสอบ ผลการตรวจสอบพบนายสาธิตฯ เป็นคนขับรถคันที่ 1 และนายพะลือแควฯ เป็นคนขับรถคันที่ 2 จึงได้ทำการตรวจค้นรถ ผลการตรวจค้นรถยนต์คันที่ 1 (รถนำ) ไม่พบคนต่างด้าว ส่วนรถยนต์คันที่ 2 พบนายจ่อฯ คนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองพร้อมพวก รวม 16 คน นั่งโดยสารภายในรถและหลบซ่อนอยู่ในท้ายกระบะโดยมีตาข่าย(แสลม) พลาสติกสีดำคลุมไว้ และในขณะที่กำลังตรวจค้นอยู่นั้นได้มีรถยนต์คันที่ 3 คือรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทะเบียนตาก ขับมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ แต่เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและรถยนต์ของทางราชการ คนขับได้เร่งความเร็วของรถและขับฝ่าหลบหนีไป จากนั้นคนขับทราบภายหลังว่าเป็นชายได้หยุดรถแล้ววิ่งหลบหนีไป

 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top