Sunday, 5 May 2024
พิธาลิ้มเจริญรัตน์

‘พิธา’ ชี้!! กอ.รมน. เบิกงบซ้ำซ้อนหน่วยงานอื่น กร้าว!! หากเป็น รบ. จะโยกงบหนุน ศก. - ศิลปะ

‘พิธา’ ประกาศ ถ้าก้าวไกลเป็นรัฐบาล พร้อมตัดงบ กอ.รมน. โยกไปทำเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ชี้ซอฟต์พาวเวอร์ไทยจะรุ่ง ต้องมีรัฐสวัสดิการให้คนทำงานกล้าลอง-บ้านเมืองมีเสรีภาพ-เป็นประชาธิปไตย

เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2565 ที่จังหวัดเชียงใหม่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ร่วมเวทีและนิทรรศการ ‘เทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ 2022 - Chiang Mai Design Week 2022’ โดยได้ร่วมเสวนาพูดคุยกับศิลปินอิสระ พร้อมชูนโยบายพรรคก้าวไกลในการส่งเสริมวงการศิลปะสร้างสรรค์และซอฟต์พาวเวอร์ในประเทศไทย

พิธากล่าวในการเสวนาช่วงหนึ่งว่า แม้ที่ผ่านมาหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องจะพยายามยกคำว่า ‘ซอฟต์พาวเวอร์’ และคำว่าเศรษฐกิจสร้างสรรค์มาใช้มากมาย แต่ในความเป็นจริง วงการศิลปวัฒนธรรมในประเทศไทยกลับเป็นวงการหนึ่งที่ได้รับการส่งเสริมน้อยที่สุด เห็นได้จากงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ที่อยู่กับหน่วยงานอย่างสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ สศส. กลับได้รับงบประมาณต่อปีเพียง 300 ล้านบาทเท่านั้น หรือกระทรวงวัฒนธรรมเอง งบประมาณกว่า 4 พันล้านบาทจากกว่า 6.7 พันล้านบาท ได้ถูกใช้ไปกับการส่งเสริมวัฒนธรรมแบบแช่แข็ง ตายตัว และรับใช้การเมืองของฝ่ายอนุรักษ์นิยม เช่น เรื่องค่านิยม 12 ประการ ขณะที่งบประมาณเกี่ยวกับซอฟต์พาวเวอร์มีเพียง 60 ล้านบาท และงบเกี่ยวกับการส่งเสริมวัฒนธรรมร่วมสมัยมีเพียง 180 ล้านบาท

พิธากล่าวว่า ที่ผ่านมาวัฒนธรรมที่ได้รับการส่งเสริมจากรัฐ มักเป็นวัฒนธรรมเพื่อการควบคุมประชาชน มีมุมมองต่อวัฒนธรรมไทยว่าเป็นสิ่งตายตัว เปลี่ยนแปลงไม่ได้ และยังใช้โครงสร้างทางสังคมการเมืองมาปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์ของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายอย่าง พ.ร.บ.ภาพยนตร์, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์, พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ รวมถึงกฎหมายที่ถูกใช้เล่นงานคนเห็นต่างทางการเมือง เช่น ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ในทางกลับกัน หน่วยงานที่อยู่ภายใต้สำนักนายกรัฐมนตรีอย่างกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กลับได้รับงบประมาณปีหนึ่งๆ ถึง 8 พันล้านบาท หรือศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ที่มีภารกิจและงบประมาณส่วนใหญ่ซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่น ๆ ได้รับงบประมาณถึง 1,400 ล้านบาท สะท้อนการไม่ให้ความสำคัญกับซอฟต์พาวเวอร์และเศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างจริงจังของผู้มีอำนาจในปัจจุบัน เมื่อเทียบกับต่างประเทศ เช่น เกาหลีใต้ที่ทุ่มงบประมาณมากกว่าไทยอย่างมหาศาล หน่วยงาน KOCCA (Korean Creative Content Agency) ได้รับงบประมาณปีละ 1.5 หมื่นล้านบาท กระทรวงวัฒนธรรมของเกาหลีใต้ได้งบประมาณปีละ 2 แสนล้านบาท ครั้งหนึ่งเกาหลีใต้เคยมาดูงานที่บริษัทชั้นนำของวงการเพลงไทย แต่วันนี้วงการเพลงป็อปของเกาหลีใต้ไปไกลกว่าไทยมากแล้ว

พิธายังระบุต่อไปว่า การผลักดันซอฟต์พาวเวอร์และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในประเทศไทย ต้องเริ่มต้นที่วิธีคิดของผู้มีอำนาจ ที่ต้องไม่ใช่แค่การอนุรักษ์ของเดิม แต่เป็นการปรับตัวตามยุคสมัย สร้างรัฐสวัสดิการเพื่อให้คนทำงานสร้างสรรค์กล้าลองผิดลองถูก และทำให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย ที่ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น

‘พิธา’ ลงพื้นที่ฉะเชิงเทรา เจอประชาชนร้องปัญหาที่ค้าขายตลาดเคหะบ้านโพธิ์ ยก ‘จิรัฏฐ์’ ทุ่มเทงานพื้นที่ ช่วยประสานแก้ไขรวดเร็ว ลั่น ส.ส.ก้าวไกล ทำงานเพื่อคนทุกรุ่น-พร้อมชนกลุ่มทุน

เมื่อวานนี้ (วันที่ 17ธันวาคม 2565 ) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา โดยช่วงเช้าได้ร่วมกิจกรรม ‘พายเรือเพื่อปางปะกง’ จากนั้นลงพื้นที่การเคหะบ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ร่วมกับจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่การเคหะบ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อรับฟังปัญหาของประชาชนและพูดถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาของพรรคก้าวไกล
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนที่อาศัยในการเคหะบ้านโพธิ์ได้ร้องเรียนปัญหาการเช่าพื้นที่เพื่อค้าขาย เนื่องจากตลาดนัดเคหะบ้านโพธิ์จะมีการประมูลใหม่ ทั้งที่ประชาชนใช้พื้นที่ค้าขายมานาน และรายได้จากการเช่า กรรมการชุมชนก็นำมาหมุนเวียนเพื่อดูแลพื้นที่ส่วนกลางของชุมชน หากเปลี่ยนผู้ประมูล อาจทำให้ประชาชนเดือดร้อนราว 400 คน เมื่อเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ประชาชนจึงร้องเรียนไปหลายหน่วยงานแต่ก็ถูกมองข้าม จนกระทั่งร้องเรียนไปยังจิรัฏฐ์ ซึ่งนำเรื่องเข้าคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างรวดเร็ว ทำให้การเคหะฯ ประกาศเลื่อนการประมูลออกไปเพื่อหาทางออกร่วมกัน

พิธา กล่าวว่า การทำงานของจิรัฏฐ์ซึ่งเป็น ส.ส. ในพื้นที่ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า แม้พรรคก้าวไกลถูกมองว่าเป็นพรรคของคนรุ่นใหม่ แต่เราทำงานโดยสนใจชีวิตความเป็นอยู่ของคนทุกรุ่น ส.ส. ของเราจริงจังกับการทำงานทั้งในสภาและในพื้นที่ เชื่อว่าประชาชนได้เห็นแล้ว ว่าการมีผู้แทนที่ต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน มีมูลค่าที่สูงกว่าเงินหลักพันหลักร้อยที่อาจมีคนหยิบยื่นให้ในช่วงเลือกตั้ง และที่พรรคก้าวไกลกล้าชนกับกลุ่มทุน ก็เพราะเราเป็นพรรคที่อยู่ได้จากการสนับสนุนของประชาชน

‘พิธา’ ปลุก 'ยะลา' เปลี่ยนพื้นที่ความกลัวเป็นพื้นที่ความหวัง ชู นโยบายเอาทหารออกจากการเมือง-ยกเลิก กอ.รมน.

ก้าวไกลไปยะลา เปิดเวทีคุยนโยบายสันติภาพก้าวหน้า อัดเป็น 19 ปีแห่งความล้มเหลว เจรจาสันติภาพถึงทางตัน ชู นโยบายเอาทหารออกจากการเมือง-ยกเลิก กอ.รมน.-เปลี่ยน พ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็น พ.ร.บ.ฉุกเฉินฯ ประกาศใช้คราวละ 30 วัน ต้องขออนุมัติสภา ‘พิธา’ ปลุก เปลี่ยนพื้นที่ความกลัวเป็นพื้นที่ความหวัง โยนโจทย์พัฒนาสามจังหวัดชายแดนใต้ แคนดิเดตนายกฯต้องตอบให้ได้ ลั่นปฏิรูปการเมือง-เขียนรัฐธรรมนูญใหม่-ให้ประชาชนเลือกนายกจังหวัด ปลดปล่อยศักยภาพชายแดนใต้ทั้งการท่องเที่ยว-เศรษฐกิจสร้างสรรค์-อุตสาหกรรมแพะ 

วันที่ 18 ธันวาคม 2565 ที่ จ.ยะลา พรรคก้าวไกลจัดเวทีพูดคุยแลกเปลี่ยนนโยบาย 'สันติภาพก้าวหน้า' นำโดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลพร้อมด้วย อันวาร์ อุเซ็ง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ยะลา เขต 1 ณรงค์ อาแว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ยะลา เขต 3 และรอมฎอน ปันจอร์ คณะทำงานนโยบายชายแดนใต้-ปาตานี

รอมฎอน กล่าวว่า กระบวนการเจรจาสันติภาพในปัจจุบัน อยู่ในช่วงยากลำบากและเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญที่ต้องการความมุ่งมั่นทางการเมืองของทุกฝ่าย ที่ผ่านมารัฐบาลทหารและกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)  ทำให้กระบวนการแก้ไขปัญหาทางการเมืองถึงทางตัน วันนี้จึงต้องการการแก้ไขปรับปรุงเพื่อเดินหน้าหาข้อยุติในการอยู่ร่วมกัน เราเชื่อว่าถ้าประเทศไทยเปลี่ยน กระบวนการสันติภาพก็ต้องเปลี่ยน และพรรคก้าวไกลเป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง โดยหลักการพื้นฐานที่ได้วางหมุดหมายไว้ตั้งแต่ครั้งพรรคอนาคตใหม่ คือการมองคุณค่าคนทุกคนเท่ากัน แต่ละคนมีพลังอำนาจในการกำหนดอนาคต ไม่จำเป็นต้องมีการเมืองที่อิงระบบอุปถัมภ์ สิ่งนี้สำคัญมากที่จะทำให้ชายแดนใต้และประเทศไทยไปสู่อนาคต นำมาสู่การพัฒนานโยบายสันติภาพก้าวหน้าซึ่งเป็นส่วนผสมระหว่างนโยบาย 9 เสาหลักของพรรคก้าวไกลและข้อเสนอของคนในพื้นที่ โดยหัวใจของนโยบายนี้ จะล้อไปกับสโลแกนสวยหรูของ กอ.รมน. อย่าง ‘มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน’ โดยเปลี่ยนเป็น ‘ลดความมั่งคั่งทางทหาร เพิ่มความมั่นคงทางอาหาร และสร้างสันติภาพที่ยั่งยืน’

อมรัตน์ กล่าวว่า กอ.รมน. ก่อตั้งขึ้นในปี 2508 จากหน่วยงานที่ชื่อว่า 'กองบัญชาการป้องกันและปราบปรามคอมมิวนิสต์' ทั้งที่ภัยคุกคามคอมมิวนิสต์จากนอกประเทศหมดไปแล้ว แต่ กอ.รมน. ยังคงอยู่ในฐานะที่เป็น 'หน่วยงานพิเศษ' ที่ขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรี เป็นหน่วยงานที่มีที่มาจากทหาร ตรวจสอบไม่ได้ ไม่โปร่งใส ไม่ทันสมัย ที่สำคัญที่สุดคือไม่เข้าใจประชาธิปไตย สิ่งที่พรรคก้าวไกลเสนอ วาระเร่งด่วนคือแก้ไขโครงสร้างของกลาโหมให้มีพลเรือนเข้าไปร่วมตัดสินใจด้วย และในระยะยาว เราเสนอให้ยกเลิก กอ.รมน. ซึ่งจะทำให้เรามีงบประมาณเพิ่มขึ้นอีกปีละ 10,000 ล้านบาท เพื่อนำงบมาเป็นส่วนหนึ่งในการจัดสวัสดิการถ้วนหน้าทุกช่วงวัย เพื่ออนาคตที่ดีของคนไทยทุกคน

ชัยธวัช กล่าวว่า นับตั้งแต่เหตุการณ์ปล้นปืนที่จังหวัดนราธิวาสเมื่อ 2547 ภาครัฐใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 300,000 ล้านบาท เพื่อแก้ไขความขัดแย้งในพื้นที่ชายแดนใต้ มีผู้เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 7,000 คน อีกจำนวนมากบาดเจ็บและสูญหาย เป็นข้อพิสูจน์ว่าวิธีการที่ผ่านมาซึ่งถูกกำกับโดยวิธีคิดแบบทหารนั้นล้มเหลว ดังนั้น ข้อเสนอเพื่อสร้างสันติสุขก้าวหน้าของพรรคก้าวไกล จะยืนบน 3 หลักการ เรียกว่า ‘3D’ ประกอบด้วย Democratization การสร้างประชาธิปไตยต้องเริ่มต้นจากคนทุกคนเท่ากัน อำนาจสูงสุดต้องเป็นของประชาชน Demilitarization เอาทหารออกจากการเมือง การแก้ปัญหาในสามจังหวัดภาคใต้ต้องนำโดยพลเรือน เลิกใช้กฎหมายที่เป็นวิธีคิดแบบทหาร เปลี่ยนเป็นมองความมั่นคงของประชาชนเท่ากับความมั่นคงของชาติ และ Decentralization คือกระจายอำนาจ ยกเลิกโครงสร้างรัฐรวมศูนย์ เอาอำนาจและงบประมาณมาอยู่ที่ท้องถิ่น มีอำนาจตัดสินใจออกแบบสังคมที่รองรับความหลากหลายทางวัฒนธรรม

‘พิธา’ ติง!! น้ำท่วมใต้ฉับพลัน สะท้อนระบบแจ้งเตือนมีปัญหา ฝาก 'รัฐบาล' ช่วยใส่ใจดูแลความเป็นอยู่ประชาชน

(19 ธ.ค. 65) ที่จังหวัดยะลา พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัดทางภาคใต้ เช่น สงขลา นราธิวาส ยะลาว่า...

‘พิธา’ เผย เลือกตั้ง 66 ชี้ชะตาประเทศไทย ยืน!! หากกา ‘ก้าวไกล’ อนาคตสดใสแน่นอน

‘พิธา’ ชี้ เลือกตั้งครั้งนี้สำคัญ ประชาชนต้องเลือกระหว่างอดีตกับอนาคต ปฏิเสธพรรคสืบทอดอำนาจ ทั้งพรรคประยุทธ์-พรรคประวิตร ย้ำ กาก้าวไกล ประเทศไม่เหมือนเดิม แนะ นายกฯ แข่งขันการเมืองแฟร์เพลย์-ร่วมเวทีดีเบต-ยื่นบัญชีทรัพย์สิน

(10 ม.ค. 66) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แสดงความเห็นกรณี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดตัวเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ว่า จริง ๆ พล.อ.ประยุทธ์ และพวก เป็นนักการเมืองตั้งแต่วินาทีที่ตัดสินใจใช้กำลังยึดอำนาจการเมืองการปกครองของประเทศแล้ว ที่แย่ก็คือท่านเป็นนักการเมืองที่ไม่ได้มาตามครรลองประชาธิปไตย ในขณะนั้นประชาชนเลือกอะไรไม่ได้เพราะถูกใช้กำลังบังคับข่มเหง แต่ในเมื่อตอนนี้ ท่านแสดงเจตนารมณ์จะอยู่ต่อให้นานที่สุดเช่นนี้แล้ว ก็เป็นอำนาจของประชาชนที่จะสามารถพิพากษาเอาท่านออกจากการเมืองได้โดยกลไกที่สงบและเรียบง่ายที่สุด นั่นก็คือการลงคะแนนเลือกตั้ง

พิธากล่าวว่า ดังนั้น การเลือกตั้งครั้งนี้จึงสำคัญมาก นั่นคือประชาชนจะเลือกตั้งเพื่อปฏิเสธสิ่งแปลกปลอมออกไปจากการเมือง และยืนยันหลักประชาธิปไตย โดยการไม่เลือกพรรคการเมืองสืบทอดอำนาจ อย่างพรรคสังกัดของ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคณะรัฐประหาร และถึงเวลาแล้วที่ท่านในฐานะนักการเมืองจะมาแข่งขันกับนักการเมืองด้วยกันแบบแฟร์เพลย์ ไม่ใช้เทคนิควิธีการหรือช่องโหว่ที่ตัวเองร่างกฎหมายมาเพื่อให้ตัวเองได้เปรียบมากกว่านักการเมืองคนอื่น และต้องเปิดกว้างต่อการตรวจสอบสาธารณะ ไปร่วมทุกเวทีดีเบตประชันนโยบายและจุดยืนการเมืองให้ประชาชนได้เปรียบเทียบกับพรรคอื่น ๆ อย่างรอบด้าน ยื่นบัญชีทรัพย์สินให้โปร่งใส ตอบคำถามของสังคมให้กระจ่างชัดในหลายกรณีทุจริตที่เกี่ยวพันกับรัฐบาลของท่านและตัวท่านเองด้วย

'ส.ก.ก้าวไกล' เตรียมชง 'กม.รถเมล์อนาคต' เข้าสภา กทม. เปลี่ยนรถเมล์ทั่วกรุงเป็น EV ลดควันเสีย-ฝุ่นละออง

'พิธา' เผย 'ส.ก.ก้าวไกล' เตรียมชง 'กฎหมายรถเมล์อนาคต' เปลี่ยนรถเมล์กทม. ทั้งหมดเป็น EV ภายใน 7 ปี เชื่อสภากทม. ไฟเขียว โว สร้างประวัติศาสตร์ผ่านกม. โดย ส.ก. ครั้งแรกในรอบ 22 ปี 

(22 ม.ค.66) เวลา 13.00 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย น.ส.ภัทราภรณ์ เก่งรุ่งเรืองชัย ส.ก. เขตบางซื่อ และนายพุทธิพัชร์ ธันยาธรรมนนท์ ส.ก. เขตยานนาวา พรรคก้าวไกล แถลงเปิดตัวกฎหมาย 'รถเมล์อนาคต' ซึ่งเป็นข้อบัญญัติของกรุงเทพมหานคร ที่จะกำหนดให้รถเมล์ที่วิ่งในกทม. ต้องเป็นรถไฟฟ้า หรือ EV ทั้งหมด โดยมีระยะเวลาสำหรับการเปลี่ยนผ่าน 7 ปี เพื่อบรรลุเป้าหมายลดฝุ่นละออง PM2.5 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงจะพัฒนาคุณภาพการให้บริการรถเมล์ ซึ่งเป็นระบบขนส่งมวลชนที่มีผู้ใช้งานหลักล้านคน 

โดยนายพิธาได้นำสื่อมวลชนชมรถเมล์สาย 8 แฮปปี้แลนด์-สะพานพุทธ หรือตำนานรถเมล์กรุงเทพ โดยกล่าวว่ารถเมล์คันนี้ แม้สีสันจะดูใหม่ แต่ข้างในเก่า รถคันนี้เดิมเป็นรถเมล์สีครีมแดง ของข.ส.ม.ก. ก่อนจะปลดระวางมาขายต่อให้รถร่วมฯ เปลี่ยนสีใหม่ แต่เครื่องยนต์เก่า พื้นเป็นไม้กระดาน ซึ่งรถคันนี้สร้างเมื่อปี 1960 วันนี้มีอายุ 62 ปีแล้ว ถ้าเป็นคนก็ต้องเกษียณอายุแล้ว แต่กลับยังใช้งาน วิ่งปล่อยควันเสีย ฝุ่นละอองอยู่ทุกวัน เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้กรุงเทพเป็นเมืองที่มีมลภาวะติดอันดับโลก

'พิธา' มั่นใจ ส่ง 'ปารเมศ' เข้าสภาฯ ได้แน่ ยัน!! ไม่จับมือ 'พรรคทหารจำแลง' จัดตั้งรัฐบาล

(22 ม.ค. 66) เวลา 17.00 น. ที่เยาวราช กทม. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) พร้อมด้วยแกนนำพรรคนำทีม พานายปารเมศ วิทยารักษ์สรรค์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม.เขต 1 ก้าวไกล ลงพื้นที่พบปะประชาชน ในย่านเยาวราช โดยนายพิธา ให้สัมภาษณ์ว่า เราส่งนายปารเมศ ลูกหลานคนเชื้อสายจีน มีความเข้าใจบริบทความต้องการพื้นที่นี่เราเคยได้ที่ 2 ตอนปี 62 ส่วนส.ก.เขตพระนครล่าสุดเราก็ได้รับความไว้วางใจมา เรามั่นใจว่าจะสามารถส่งนายปารเมศ เข้าสู่สภาฯ ได้แน่นอน

เมื่อถามว่าส.ส.เจ้าของพื้นที่เดิม ย้ายไปสังกัดเพื่อไทยถือเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งต่อไปไม่มีเจ้าของประชาชน แข่งขันกันที่นโยบายว่าใครจะตอบโจทย์คนในพื้นที่ ไม่ว่าจะย้ายพรรคหรือไม่ย้ายพรรค มาจากพรรคไหน ต้องสู้เต็มที่เพื่อเอาประชาชนเป็นที่ตั้งให้ได้ 

‘พิธา’ ปลุกขวัญเครือข่ายพรรคพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง เดินหน้าล้มระบอบ 3 ป. - สร้างประเทศที่ดีเพื่อทุกคน

พรรคก้าวไกล จัดประชุมใหญ่เครือข่ายทั่วประเทศ ‘พิธา’ ประกาศความพร้อมเข้าสู่เลือกตั้ง ชี้ ความเป็นสถาบันของพรรคอยู่ที่ผู้คนเดินทางร่วมกัน ขับเคลื่อนสังคมไปข้างหน้า ปลุกสมาชิก สิ่งที่ทำไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่เพื่อความเปลี่ยนแปลง-เพื่อเยาวชนได้การเมืองดีโดยไม่ต้องเอาชีวิตเข้าแลก พอแล้วกับระบอบ 3ป. สืบทอดอำนาจผ่านพลังประชารัฐ-รวมไทยสร้างชาติ*

(27 ม.ค. 66) ที่โรงแรมเอเชีย แอร์พอร์ต (ดอนเมือง) พรรคก้าวไกลจัดประชุมเครือข่ายพรรคทั่วประเทศ ก่อนการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคก้าวไกลที่จะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ (28 มกราคม) ที่อุทยานการเรียนรู้ป๋วย 100 ปี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวเปิดการประชุมกับสมาชิกพรรคว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการรวมตัวของตัวแทนเครือข่ายพรรคก้าวไกลทุกจังหวัดทั่วประเทศ รวมทั้งเครือข่ายชาติพันธุ์และแรงงาน ซึ่งปีนี้มีความพิเศษเพราะเป็นปีที่เตรียมความพร้อมในการสู้ศึกเลือกตั้ง ตัวแทนพรรคประจำจังหวัดมีความสำคัญเพราะจะได้เชื่อมโยงการทำงานในสภา-นอกสภาได้จริง เพื่อให้พรรคก้าวไกลเป็นพรรคมวลชนและทำงานเพื่อแก้ปัญหาของประชาชนได้จริงๆ 

“ตัวแทนพรรคประจำจังหวัดของพรรคก้าวไกลที่อยู่ในพื้นที่ต่างๆ มีความสำคัญมากในการคัดเลือกว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. และทำงานเพิ่มจำนวนสมาชิกพรรคก้าวไกลทั่วประเทศ” พิธากล่าว

พิธากล่าวว่า เป้าหมายในการสร้างพรรค ตั้งแต่สมัยพรรคอนาคตใหม่จนถึงพรรคก้าวไกล คือต้องการเป็นพรรคมวลชน โอบรับความหลากหลาย เป็นพรรคที่ดำเนินการด้วยสมาชิกพรรค ไม่ได้เป็นพรรคที่คนใดคนหนึ่งสามารถคิดแทนคนทั้งพรรคได้ ความฝันของเราตั้งแต่เป็นพรรคอนาคตใหม่ คือการสร้างพรรคที่เกิดจากการเดินทางและผู้คน ปัจจุบันพรรคก้าวไกลมีจำนวนสมาชิก 60,284 คน เท่ากับจำนวนสมาชิกสมัยยังเป็นพรรคอนาคตใหม่ ส่วนการเดินทางไปดูปัญหาทั่วประเทศ ตนในฐานะหัวหน้าพรรคได้เดินทางมากกว่า 45,358 กิโลเมตร เพื่อดูปัญหาและขยายแนวคิดก้าวไกลออกไปทั่วประเทศ

พิธากล่าวเพิ่มเติมว่า ปีนี้เป็นปีที่พรรคก้าวไกลมีความพร้อมในการเลือกตั้ง ทั้งจากจำนวนสมาชิกพรรค ว่าที่ผู้สมัคร และอาสาสมัครของพรรคก้าวไกล จากสมัยพรรคอนาคตใหม่ที่เราเน้นการสื่อสารผ่านสื่อเป็นหลัก แต่พรรคก้าวไกลสามารถทำงานเข้าถึงปัญหาในพื้นที่ได้กว้างขวางยิ่งขึ้น ทั้งปัญหาที่ดิน น้ำท่วมน้ำแล้ง ฝุ่น PM2.5 และไฟป่า การทำงานร่วมกับสมาชิกพรรคและว่าที่ผู้สมัครตั้งแต่เหนือจรดใต้ ทำให้เชื่อมั่นว่าสามารถปักธงประเทศไทยให้การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคตได้

‘พิธา’ ยัน!! ‘ก้าวไกล’ ไม่เคยเสนอลดบำนาญ ขรก. ย้ำ!! มีแต่แนะรัฐเพิ่มรายได้ - ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น

(30 ม.ค.66) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีมีข่าวปลอมกลับมาเผยแพร่ในโลกออนไลน์อีกครั้ง บิดเบือนว่าพรรคก้าวไกลมีนโยบายลดเงินเดือนหรือบำนาญของข้าราชการ

โดยนายพิธากล่าวว่า พรรคก้าวไกลขอยืนยันอีกครั้ง ว่าเราไม่มีและไม่เคยมีนโยบายลดเงินเดือนหรือบำนาญของข้าราชการ สิ่งที่เราเสนอคือให้ลดงบประจำ ที่ไม่ใช่เงินเดือนของข้าราชการ เช่นการไปดูงานเมืองนอก โครงการอบรมสัมมนา โครงการที่ซ้ำซ้อน รวมถึงลดงบกลางที่เป็นเงินสำรองที่เปิดโอกาสให้รัฐบาลเอาไปใช้ได้ตามใจชอบ โดยไม่เกิดประโยชน์ พรรคก้าวไกลเสนอว่าควรโยกเงินเหล่านี้มาจัดสวัสดิการที่ดี ให้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศได้มีความเป็นอยู่ที่ดีมากขึ้น เราเชื่อมั่นว่าประเทศไทยดีกว่านี้ได้

‘พิธา’ นำทัพ ‘ก้าวไกล’ ยื่นหนังสือต่อปธ.ศาลฎีกา ปฏิบัติกับผู้ต้องหาคดีการเมือง ตามหลักนิติรัฐ-ยุติธรรม

(31 ม.ค. 66) ที่สำนักงานศาลฎีกา พรรคก้าวไกล นำโดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรค และ ส.ส. พรรคก้าวไกล ยื่นหนังสือถึงประธานศาลฎีกา เพื่อสอบถามประเด็นบรรทัดฐานในการให้ประกันตัวผู้ต้องหาจากคดีการแสดงออกทางการเมือง ขอให้พิจารณาดำเนินการตามหลักนิติรัฐและความยุติธรรม จากกรณีที่ศาลอาญาไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวนักกิจกรรมทางการเมือง ส่งผลให้ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ‘ตะวัน’ และ อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือ ‘แบม’ นักกิจกรรมทางการเมืองที่ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ประกาศถอนประกันตนเองและอดน้ำ-อาหาร เพื่อเรียกร้องต่อกระบวนการยุติธรรมให้สิทธิประกันตัวผู้ต้องหาคดีการเมืองทุกคน ตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม เป็นต้นมา

พิธา ร่วมกับ ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้แถลงข่าวบริเวณหน้าสำนักงานศาลฎีกา โดยพิธาอ่านข้อความในหนังสือ ซึ่งมีเนื้อหาสอบถามไปยังประธานศาลฎีกา ใจความว่า ตามที่ระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ว่าด้วยการรายงานคดีสำคัญในศาลชั้นต้นและศาลชั้นอุทธรณ์ต่อประธานศาลฎีกา และการรายงานคดีและการตรวจสำนวนคดีในสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค พ.ศ. 2562 กำหนดให้ในคดีเกี่ยวกับความมั่นคงของรัฐตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 107 - 135 ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นต้องรายงานคดีต่ออธิบดีผู้พิพากษาภาค และอธิบดีผู้พิพากษาต้องรายงานคดีต่อประธานศาลฎีกา โดยกำหนดให้มีการตรวจร่างคำพิพากษาหรือคำสั่งเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ โดยตามข้อ 14 แห่งระเบียบดังกล่าว ระบุว่า “การตรวจร่างคำพิพากษาหรือคำสั่งตามข้อ 13 ให้ดำเนินการเพื่อรักษาแนวบรรทัดฐานของคำพิพากษาหรือคำสั่ง และให้การใช้ดุลพินิจของศาลเป็นไปโดยถูกต้องในแนวทางเดียวกัน ในกรณีที่ต่างไปจากแนวบรรทัดฐาน ควรมีเหตุผลพิเศษ และให้แสดงเหตุผลไว้ในร่างคำพิพากษาหรือคำสั่งด้วย ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top