Saturday, 18 May 2024
พิธาลิ้มเจริญรัตน์

'ฮุนเซน' ทวีตเย้ยฝ่ายค้านเขมร หลัง 'พิธา' ชวดนั่งนายกฯ ดับฝัน!! แผนใช้ดินแดนไทย รณรงค์ต่อต้านรัฐบาลกัมพูชา

'ฮุนเซน’ ทวีตเย้ยฝ่ายค้านกัมพูชา หลัง ‘พิธา’ พลาดนั่งนายกฯ เหตุหากพิธาได้เป็นนายกฯ กลุ่มเหล่านี้จะใช้ดินแดนไทย รณรงค์ต่อต้านรัฐบาลกัมพูชา

เมื่อวาน (13 ก.ค.66) สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว ภายหลังจาก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี มีมติไม่ได้รับการโหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยระบุใจความดังนี้...

ผมขอประกาศในวันนี้ว่า การที่ พิธา ไม่ได้รับคะแนนเสียงมากพอที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ถือเป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่ของฝ่ายค้านหัวรุนแรงในกัมพูชา

มันไม่ได้หมายความว่าผมแทรกแซงกิจการภายในไทย แต่ในอดีตกลุ่มคนทรยศเหล่านี้มักคาดหวังเสมอว่าหาก พิธา ได้เป็นนายกรัฐมนตรีของไทยเมื่อไหร่ พวกเขาเหล่านี้ จะใช้ดินแดนไทยรณรงค์ต่อต้านรัฐบาลกัมพูชา แต่ตอนนี้ความหวังของกลุ่มผู้ต่อต้านที่น่าเดรัจฉาน ได้เลือนหายไปไม่ต่างจากเกลือในน้ำ

จงอย่าเล่นการเมืองโดยพึ่งพาคนอื่น นี่คือข้อความและคำปรารถนาดีจากผม ถึงพวกกลุ่มหัวรุนแรงในกัมพูชา

กลับมาคว้าโอกาส!! 'หมอตุลย์' แนะ 'พิธา' ดึงดันแก้ 112 ไม่มีประโยชน์ หากหวังเสียงโหวตนายกฯ แบบท่วมท้นจากรัฐสภา

ไม่นานมานี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง นักวิชาการ และ แพทย์ชาวไทย ได้กล่าวถึงเหตุผลที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกฯ ต้องชวดตำแหน่งจากการโหวตของรัฐสภาในหนแรก ว่า...

"โอกาสที่หลุดลอยของพิธา" 

เมื่อวานนี้ (13 ก.ค.66) ในการประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกผู้ที่เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอนายพิธา จากพรรคก้าวไกลเป็น Candidate เพียงคนเดียว ก่อนจะมีการลงคะแนน มีการอภิปรายแสดงความไม่เห็นด้วยที่จะเลือกนายพิธาเป็นนายกฯ โดยมีเหตุผลว่านายพิธามีความตั้งใจที่จะยกเลิกมาตรา 112 ซึ่งเชื่อว่าจะมีผลให้การหมิ่นสถาบันกษัตริย์มีมากขึ้น จึงมีข้อเสนอจากสมาชิกพรรคภูมิใจไทยท่านหนึ่งว่า หาก นายพิธาประกาศว่ายกเลิกความคิดที่จะแก้ไขมาตรา 112 พรรคภูมิใจไทยยินดีที่จะลงคะแนนเห็นชอบให้พิธาเป็นนายกฯ (ส.ว.หลายคนก็คงเห็นชอบด้วยเช่นกัน)

ที่มาของ ‘ส.ว.’ โหวต ‘นายกรัฐมนตรี’

วันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ผู้ลงคะแนนเสียง ‘เห็นชอบ’ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 66 ที่ผ่านมา เคยกล่าวไว้ว่า

เปิดหน้า 13 ส.ว. โหวตให้ 'พิธา'

เมื่อวานนี้ (13 ก.ค.66) ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังผลการลงคะแนนไม่เห็นชอบ ให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ ด้วยคะแนนเห็นชอบ 324 เสียง ไม่เห็นชอบ 182 เสียง งดออกเสียง 199 เสียง ซึ่งถือว่าไม่ถึงกึ่งหนึ่งนั้น ปรากฏว่า ส.ว.ที่เห็นชอบจำนวน 13 คน ได้แก่ 

1. นายไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์ 
2. พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา 
3. นายเฉลา คงมาลัย 
4. นายซากีย์ พิทักษ์คุมพล 
5. พล.ต.ท.ณัฏฐวัฒก์ รอดบางยาง 
6. นายพิศาล มาณวพัฒน์ 
7. นายพีระศักดิ์ พอจิต 
8. นายมณเทียร บุญตัน 
9. นายวันชัย สอนศิริ 
10. นายวุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์ 
11. นายสุรเดช จิรัฐิติเจริญ 
12. นพ.อำพล จินดาวัฒนะ 
13. นางประภาศรี สุฉันทบุตร          

ขณะที่ นายนพดล มาตรศรี ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา ลงมติเห็นชอบ ตอนหลังเมื่อการลงมติเสร็จสิ้น ประธานรัฐสภา ได้เปิดโอกาสให้สมาชิกที่ยังไม่ได้ลงมติ ได้ลงมติ โดยนายพดล ได้ขอเปลี่ยนมติจากเห็นชอบ เป็นงดออกเสียง 

ทำให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ทักท้วงว่า เรื่องการเปลี่ยนมติ ตนเข้าใจว่าประธานฯ อาจจะใช้เหตุผลว่ายังไม่ได้ปิดการลงคะแนนซึ่งถูกต้อง แต่ด้วยกระบวนการสิ่งที่เราทำกันคือการลงมติ ได้ลงมติไปแล้ว และขานผลของตัวเองไปแล้วเป็นเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง แต่มากลับมติ น่าจะทำให้ประเพณีปฏิบัติที่เราทำมาให้เกิดปัญหาได้ ซึ่งไม่เคยทำ และเราก็รู้กันอยู่ว่าการลงมติสำคัญเช่นนี้ มีกลไก วิธีการ การกดดัน อะไรอีกมากมายแล้วมาเปลี่ยนในตอนท้าย ทำให้เราเกิดความสงสัยว่า เหตุใดจึงเปลี่ยนการลงมติ อยากถามประธานฯ ว่าจะเดินเส้นทางนี้ตลอดไปหรือเป็นประเพณีที่เราจะต้องดำเนินต่อไปใน 4 ปีข้างหน้าหรือไม่ และไม่มีข้อบังคับไหนบอกให้เปลี่ยนมติของตนได้ ซึ่งในข้อบังคับข้อที่ 59 ระบุว่าสมาชิกรัฐสภาซึ่งเข้ามาในที่ประชุม ระหว่างการออกเสียงลงคะแนน ออกเสียงลงคะแนนได้ หมายความถึงคนที่ยังไม่ใช้สิทธิ์ ไม่ได้หมายความว่าคนใช้สิทธิ์ไปแล้วอยากจะเปลี่ยนการลงมติของตน อย่างนี้ถ้าคะแนนปริ่มกัน 1-2 คะแนน แล้วมาเปลี่ยนอย่างนี้ ถ้าเป็นเรื่องใหญ่ เราเดินต่อไม่ได้

'ติ่งก้าวไกล' ฟาดเดือด!! ปม ‘พิธา’ รั้นแก้ ม.112  ถามแรง!! ควรแก้ปัญหาปากท้องให้ปชช.ก่อนไหม? 

เมื่อวานนี้ (15 ก.ค. 66) ผู้ใช้ TikTok บัญชี ‘@_breakingnews24’ ได้โพสต์คลิปวิดีโอชายหนุ่มคนหนึ่ง ได้ออกมาพูดเกี่ยวกับประเด็นที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยืนยันจะแก้ ม.112 ในสภาฯ พร้อมบอกว่า ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนควรถูกแก้ไขก่อนเป็นอันดับแรก โดยในคลิปได้ระบุว่า…

“ตกลงพี่พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ต้องการมาเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อมาแก้ ม.112 อย่างนั้นหรืออย่างไร? ผมจะบอกไว้ให้นะคุณทิมพิธา ที่ผมและพี่น้องอีกหลายสิบล้านคนไปเลือกคุณเนี่ย ไม่ได้หวังเพื่อให้คุณไปแก้ ม.112 แต่หวังให้คุณมาแก้เรื่องเศรษฐกิจปากท้อง ให้แก้เรื่องข้าราชการท้องถิ่นคอร์รัปชัน แค่ปัญหาเศรษฐกิจเท่านั้น ไม่ได้หวังให้ไปแก้ ม.112 เลย นี่คือเสียงของผม ที่ผมได้ออกไปเลือกคุณ”

“ปัญหาบ้านเมือง หรือปัญหาความยากลำบากของประชาชนควรมาก่อนเรื่องอื่น ทำไมถึงไม่ยอมเปลี่ยน Mindset ของตัวเอง จะเอาอกเอาใจติ่งส้มมากมายขนาดนั้นเชียวหรือ? กลัวขนาดนั้นเลยหรือ? คุณพิธา วันนี้คุณมีโอกาสได้เข้าไปอยู่ในสภาฯ ทำไมถึงไม่ประกาศว่าตัวเองและพรรคก้าวไกลจะไม่ไปยุ่ง ไม่แก้ ม.112 ทำไมถึงไม่พูดแบบนี้ ทั้งๆ ที่ ส.ว.ได้พูดออกมาแล้วว่าหากยังยืนยันจะดื้อด้านเพื่อแก้ ม.112 อยู่ ส.ว.นั้นจะไม่โหวตให้ ซึ่งเขาจะไม่โหวตให้ก็รู้กันอยู่ แล้วเพราะอะไรคุณถึงยังดึงดันจะทำอยู่ ทำไมคุณถึงมาทำลายความหวังของประชาชน คุณต้องการเข้าไปเป็นนายกฯ เพื่อไปแก้ ม.112 อย่างเดียวหรือ? ไม่ต้องไปพูดอะไรมากหรอก ผมจะพูดประเด็นนี้ ทัวร์จะลงผมก็ช่าง ผมไม่สน”

“คุณเห็นไหม? สมัยก่อนที่ ‘คุณทักษิณ’ เขาได้เป็นรัฐบาล ได้เป็นนายกฯ เขาไปพูดเรื่องนี้หรือเปล่า แน่นอนว่าเขาไม่เคยไปพูดหรือเข้าไปยุ่ง ทำให้เขาได้คะแนนท่วมท้นจนแลนด์สไลด์ และที่ผ่านมาไม่เคยมีรัฐบาลไหนที่จะมีนโยบายไปแก้ ม.112 แม้แต่รัฐบาลเดียวเลย แล้วคุณเป็นใคร? ประชาชน 14 ล้านเสียง เขาบอกคุณหรือ ว่าให้เข้าไปแก้ ม.112 แล้วทุกคนจะรวยขึ้น จะมีความสุขขึ้น ใครบอกคุณ?”  

‘เสรีพิศุทธ์’ ชี้!! ‘พิธา’ ไม่ค่อยมีจุดยืนเป็นของตัวเอง เหมือนมี ‘คณะฯ’ อะไรมาควบคุม แนะ!! ควรถอยห่างบ้าง จะได้เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น

(17 ก.ค. 66) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวในรายการ ‘เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand’ ระบุว่า…

“ตั้งแต่ได้รู้จักคุณพิธามา เป็นคนดี น่ารัก มีความรู้ แต่พูดตรงๆ ภาพที่ออกมาแบบทุกวันนี้ เพราะไม่ค่อยมีจุดยืนเป็นของตัวเอง มีอะไรมาคุมข้างหลัง มี คณะฯ อะไร มาคุมพรรคก้าวไกล จับซ้ายก็ได้ ขวาก็ได้ คณะฯ พวกนั้นควรถอยไปบ้าง และให้คุณพิธาเป็นตัวของตัวเองจะดีกว่า”

‘พิธา’ ลั่น!! เป็นฝ่ายค้านก็พร้อม และทำประโยชน์ให้ ปชช. ได้เยอะเหมือนกัน

(18 ก.ค. 66) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ในรายการ Suthichai Live โดยบางช่วงบางตอนได้ระบุว่า…

"ผมได้รับเลือกตั้งมาเป็นอันดับ 1 ใจคอจะผลักผมไปเป็นฝ่ายค้านเลยหรือ แต่ถ้าคุณคิดว่าไม่สนใจ ไม่เห็นหัวประชาชนเลย เลือกมาเป็นอันดับ 1 ก็ยังให้เป็นฝ่ายค้าน ผมก็พร้อม ผมเชื่อว่าเป็นฝ่ายค้านก็ทำประโยชน์ให้ประชาชนได้เยอะ"

‘พิธา’ ลุกขึ้นกล่าวอำลา หลัง ศาล รธน. สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ชี้!! ตั้งแต่ 14 พ.ค. ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม

(19 ก.ค. 66) หลัง ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์รับคำร้องวินิจฉัยคุณสมบัติ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากเหตุมีชื่อถือครองหุ้นสื่อบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวน 42,000 หุ้น พร้อมมีคำสั่งให้นายพิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค.66 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย

ในช่วงบ่วยวันเดียวกัน มีหนังสือจาก นายวรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ส่งถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อแจ้งให้ทราบว่าศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้ถูกร้องหยุดปฎิบัติหน้าที่ ส.ส. ชั่วคราว นับตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2566 จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย

ล่าสุด ที่รัฐสภา นายพิธา ขออนุญาตประธานสภาฯ ลุกขึ้นพูด ระบุว่า ตอนนี้มีเอกสารจากศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ คงจะขออนุญาตพูดว่ารับทราบคำสั่ง และจะปฏิบัติตามจนกว่าจะมีคำวินิจฉัยเป็นอื่น

นายพิธา กล่าวต่อว่า ขอใช้โอกาสนี้อำลาท่านประธานจนกว่าเราจะพบกันใหม่ และขอฝากเพื่อนสมาชิก ในการใช้รัฐสภาดูแลพี่น้องประชาชน คิดว่าประเทศไทยเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว

ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค. 66 ที่ผ่านมา ถ้าเกิดประชาชนชนะมาแล้วครึ่งทาง เหลืออีกครึ่งทาง ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่แต่ขอให้เพื่อสมาชิกทุกคนช่วยกันดูแลประชาชนต่อไป

โดยหลังพูดจบมี ส.ส.จาก 8 พรรค ลุกขึ้นปรบมือให้กำลังใจนายพิธา

สภาฯ เคาะ!! ไม่เสนอชื่อ ‘พิธา’ ชิงนายกฯ ซ้ำ สรุปคะแนนโหวต 394 ต่อ 312 คะแนน

(19 ก.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศของการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม ระหว่างที่เปิดให้สมาชิกรรัฐสภาอภิปรายแสดงความเห็นก่อนลงมติในประเด็นที่เสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้รัฐสภาเห็นชอบเป็นนายกฯ อีกครั้งจะทำได้ หรือขัดข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อ 41 หรือไม่

จนกระทั่งเวลา 17.00 น. นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานที่ประชุม ได้ยุติการอภิปรายเพื่อให้สมาชิกลงมติ ผลปรากฏว่า ที่ประชุมร่วมรัฐสภา ลงมติญัตติส่งนายพิธาชิงนายกฯ ซ้ำไม่สามารถทำได้ (ขัดข้อบังคับการประชุมข้อ 41) โดยเห็นด้วย (ส่งซ้ำไม่ได้) 394 คน ไม่เห็นด้วย (ส่งซ้ำได้) 312 คน งดออกเสียง 8 คน ไม่ลงคะแนนเสียง 1 คน

มติดังกล่าว ส่งผลให้นายพิธาหมดสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี และต้องจับตาการเปิดโอกาสให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลต่อไป


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top