เปิดหน้า 13 ส.ว. โหวตให้ 'พิธา'

เมื่อวานนี้ (13 ก.ค.66) ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังผลการลงคะแนนไม่เห็นชอบ ให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ ด้วยคะแนนเห็นชอบ 324 เสียง ไม่เห็นชอบ 182 เสียง งดออกเสียง 199 เสียง ซึ่งถือว่าไม่ถึงกึ่งหนึ่งนั้น ปรากฏว่า ส.ว.ที่เห็นชอบจำนวน 13 คน ได้แก่ 

1. นายไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์ 
2. พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา 
3. นายเฉลา คงมาลัย 
4. นายซากีย์ พิทักษ์คุมพล 
5. พล.ต.ท.ณัฏฐวัฒก์ รอดบางยาง 
6. นายพิศาล มาณวพัฒน์ 
7. นายพีระศักดิ์ พอจิต 
8. นายมณเทียร บุญตัน 
9. นายวันชัย สอนศิริ 
10. นายวุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์ 
11. นายสุรเดช จิรัฐิติเจริญ 
12. นพ.อำพล จินดาวัฒนะ 
13. นางประภาศรี สุฉันทบุตร          

ขณะที่ นายนพดล มาตรศรี ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา ลงมติเห็นชอบ ตอนหลังเมื่อการลงมติเสร็จสิ้น ประธานรัฐสภา ได้เปิดโอกาสให้สมาชิกที่ยังไม่ได้ลงมติ ได้ลงมติ โดยนายพดล ได้ขอเปลี่ยนมติจากเห็นชอบ เป็นงดออกเสียง 

ทำให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ทักท้วงว่า เรื่องการเปลี่ยนมติ ตนเข้าใจว่าประธานฯ อาจจะใช้เหตุผลว่ายังไม่ได้ปิดการลงคะแนนซึ่งถูกต้อง แต่ด้วยกระบวนการสิ่งที่เราทำกันคือการลงมติ ได้ลงมติไปแล้ว และขานผลของตัวเองไปแล้วเป็นเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง แต่มากลับมติ น่าจะทำให้ประเพณีปฏิบัติที่เราทำมาให้เกิดปัญหาได้ ซึ่งไม่เคยทำ และเราก็รู้กันอยู่ว่าการลงมติสำคัญเช่นนี้ มีกลไก วิธีการ การกดดัน อะไรอีกมากมายแล้วมาเปลี่ยนในตอนท้าย ทำให้เราเกิดความสงสัยว่า เหตุใดจึงเปลี่ยนการลงมติ อยากถามประธานฯ ว่าจะเดินเส้นทางนี้ตลอดไปหรือเป็นประเพณีที่เราจะต้องดำเนินต่อไปใน 4 ปีข้างหน้าหรือไม่ และไม่มีข้อบังคับไหนบอกให้เปลี่ยนมติของตนได้ ซึ่งในข้อบังคับข้อที่ 59 ระบุว่าสมาชิกรัฐสภาซึ่งเข้ามาในที่ประชุม ระหว่างการออกเสียงลงคะแนน ออกเสียงลงคะแนนได้ หมายความถึงคนที่ยังไม่ใช้สิทธิ์ ไม่ได้หมายความว่าคนใช้สิทธิ์ไปแล้วอยากจะเปลี่ยนการลงมติของตน อย่างนี้ถ้าคะแนนปริ่มกัน 1-2 คะแนน แล้วมาเปลี่ยนอย่างนี้ ถ้าเป็นเรื่องใหญ่ เราเดินต่อไม่ได้

นายวันมูหะมัดนอร์ ชี้แจงว่า ดำเนินการตามข้อบังคับ ว่าถ้าต้องเปลี่ยนในช่วงที่ยังไม่ปิดการลงคะแนนสามารถทำได้ และยืนยันด้วยเกียรติของตนว่าข้อบังคับอนุญาตให้ในกรณีที่ยังไม่ปิดการลงคะแนน ถ้าปิดการลงคะแนนแล้วก็ไม่ได้ เมื่อข้อบังคับให้แก้ไขได้ ตนจึงอนุญาตให้แก้ไขได้ 

ทำให้นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา ชี้แจงว่า ตนอยู่ในเหตุการณ์ทราบว่าหลังลงมติ นายพดล ได้ทำหนังสือถึงเลขาธิการสภาฯ เพื่อเรียนประธานฯ ว่าเกิดข้อผิดพลาดในการลงคะแนน ขอแก้ไขการลงมติอีกครั้ง และในขณะที่ลงคะแนนนายนพดลเหลือบไปเห็นการขึ้นจอด้านหน้าคำว่า เห็นชอบ นายนพดล จึงขานคำว่า เห็นชอบ และนายนพดลไม่มีใครบังคับ หรือดำเนินการใด ๆ กับนายนพดลทั้งสิ้น มีเจตนาขอแก้ไขเอง

สุดท้ายนายวันมูหะมัดนอร์ ได้ให้ดำเนินการไปตามเดิม 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเป็นที่น่าสังเกตว่า ส.ว. มีผู้ลงชื่อร่วมประชุม เพียง 216 คน จากจำนวนที่มีทั้งหมด 249 คน ขณะที่ส.ส.มีผู้ร่วมลงชื่อเข้าประชุม 499 คนจากจำนวนทั้งสิ้น 500 คน โดยมีรายงานจากห้องประชุมแจ้งว่า ส.ส.ที่ลาประชุมคือ นายศักดิ์ ซารัมย์ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย เนื่องจากป่วยนอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล