Thursday, 2 May 2024
พรรคพลังประชารัฐ

'ชาวนครพนม' ปลื้ม!! แห่ต้อนรับ 'ลุงป้อม' งานบุญวัดโฆสมังคลาราม หลังเป็นประธานกฐินฯ พร้อมร่วมสืบทอดพุทธศาสนาให้ยั่งยืน

(25 พ.ย.66) ณ วัดโฆสมังคลาราม บ้านโคกสว่าง ต.โคกสว่าง อ.ปลาปาก จ.นครพนม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานในพิธีทอดกฐินสามัคคี เพื่อสมทบทุนจัดหาสิ่งของพัฒนาวัด และปรับปรุงพระมหาธาตุเจดีย์โฆสปัญโญศรีพนม โดยมี น.ส.ตรีนุช เทียนทอง สส.จังหวัดสระแก้ว และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, นายวิรัช รัตนเศรษฐ, พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา, พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ, นางรัชนี พลซื่อ สส.จังหวัดร้อยเอ็ด, น.ส.กาญจนา จังหวะ สส.จังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยคณะพลังศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทุกหมู่เหล่า ประกอบด้วย ข้าราชการทหาร ตำรวจ พลเรือน และหัวหน้าส่วนราชการ ตลอดจนผู้นำชุมชน ท้องถิ่น ร่วมทำบุญทอดถวายกฐินสามัคคีประจำปี ในโอกาสนี้ มากกว่าปีที่ผ่านมา

ภายหลังเสร็จพิธีทอดกฐิน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้เป็นประธานเปิดศาลาอเนกประสงค์บริเวณหน้าพระมหาธาตุเจดีย์โฆสปัญโญศรีพนม พร้อมทั้งถวายผ้าห่มพระประธานและสักการะพระประธานในพระมหาธาตุเจดีย์ฯ เพื่อความเป็นสิริมงคล

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรฯ ได้ทักทายประชาชน สาธุชน ที่มาร่วมทำบุญในโอกาสอันเป็นมงคลนี้ ท่ามกลางบรรยากาศให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเองและอบอุ่น ในปีนี้นับเป็นปีที่ 9 ที่ได้ทำบุญทอดถวายกฐินมาต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2558 ซึ่ง พล.อ.ประวิตรฯ ยังได้มีความศรัทธาต่อองค์หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ เป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบสายวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งเคยมาปฏิบัติธรรม ณ วัดแห่งนี้ด้วย ในสมัยที่ พล.อ.ประวิตรฯ เดินทางมาปฏิบัติราชการ เมื่อหลายปีก่อน

‘บิ๊กป้อม’ ส่ง ‘สส.นราธิวาส พปชร.’ รุดช่วยผู้ประสบอุทกภัย ชายแดนใต้ หลังฝนตกหนักทำน้ำท่วมหลายพื้นที่ พร้อมติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด

(17 ธ.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายวานจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ติดตามสถานการณ์พายุฝน เข้าพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เนื่องจากมีความห่วงใยในสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ ที่มีฝนตกหนักต่อเนื่อง โดยเฉพาะ 4 จังหวัด คือ จังหวัดยะลา, จังหวัดนราธิวาส, จังหวัดสงขลา และจังหวัดปัตตานี โดยได้ประสานงาน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค, นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 3 และ นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 2 เข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน พร้อมติดตามสถานการณ์และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเฝ้าระวัง และให้ความช่วยเหลือ ผ่านทีมงาน สส.ในพื้นที่พปชร.อย่างต่อเนื่อง

โดยล่าสุด นายสัมพันธ์ และนายอามินทร์ ได้ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดและเข้าช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง เนื่องจากปีนี้ พายุฝนตกชุกเข้ามาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทำให้พี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งในวันนี้ ก็เตรียมระดมทีมเจ้าหน้าที่ ส่งถุงยังชีพ เพื่อช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับพี่น้องประชาชนใน จ.นราธิวาส พร้อมสอบถามปัญหาความเดือดร้อน เพื่อนำไปสู่การประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป

‘บิ๊กป้อม’ กางผลงาน ‘พปชร.’ 3 เดือน ผ่าน 3 กระทรวงหลัก ลั่น!! ใช้สติปัญญาแก้ปัญหาให้ ปชช. มากกว่าสร้างวาทกรรม

(29 ธ.ค. 66) นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า พรรค พปชร.ภายใต้การนำของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรค พปชร. ที่เข้าร่วมรัฐบาลครบ 3 เดือน ได้ขับเคลื่อนนโยบายของพรรคที่สอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลผ่าน 3 กระทรวงหลัก คือ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ กระทรวงสาธารณสุข ได้สานต่อนโยบายเรื่องที่ทำกิน ยกระดับราคาสินค้าเกษตร บริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน และดูแลสิ่งแวดล้อมที่มุ่งเน้นการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 รวมถึงการยกระดับสุขอนามัยขั้นพื้นฐานให้ประชาชน

พรรค พปชร.สามารถดำเนินการประสบความสำเร็จในหลายเรื่อง ทำให้พี่น้องประชาชนสามารถเข้าถึงการดูแลในด้านต่างๆ ได้เป็นรูปธรรม อาทิ กำหนดให้การแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 เป็นวาระแห่งชาติ และนำเสนอร่าง พ.ร.บ.บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. … ที่กำหนดกลไกในการบริหารจัดการและควบคุมกิจกรรมต่างๆ เพื่อลดมลพิษทางอากาศในทุกมิติที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ ก่อนจะส่งกลับให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา เพื่อส่งให้รัฐสภาต่อไป

นอกจากนั้น ยังร่วมกับกระทรวงที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการลดฝุ่นละออง จากแหล่งกำเนิด ควบคุมการเผาป่า ร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านลดปัญหาหมอกควันข้ามแดน และยังมีแผนรับมือปัญหาภัยแล้ง โดยเร่งรัดการดำเนินโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริกว่า 47 โครงการ 48 แห่ง

พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ส่วนกระทรวงเกษตรฯ ได้ผลักดันนโยบายเปลี่ยนเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. 4-01 เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร ขณะนี้มีเกษตรกรยื่นเจตจำนงเป็นจำนวนมาก และผลักดันการช่วยเหลือเยียวยาให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2566/67 เพื่อสนับสนุนค่าบริหารจัดการและคุณภาพผลผลิต ให้เงินอุดหนุน 1,000 บาทต่อไร่ ไม่เกิน 20 ไร่ต่อครัวเรือน มีเกษตรกรกว่า 4.68 ล้านครัวเรือนที่ได้รับการเยียวยา นอกจากนั้นมีมาตรการปราบปรามสินค้าเกษตรเถื่อน ทั้งห้องเย็นด้านปศุสัตว์ 2,437 แห่ง ด้านประมง 2,062 แห่ง และใช้มาตรการกฎหมายจับกุมผู้กระทำผิดลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรจากต่างประเทศจำนวนมาก ในอนาคตจะขยายผลให้ครอบคลุมสินค้าเกษตรอื่นๆ ทั้งพืชและประมงเพิ่มเติม

ขณะที่การดำเนินงานด้านสาธารณสุข ได้ผลักดันการบริการเข้าถึงระบบสาธารณสุขระดับชุมชนทั่วประเทศ เพื่อลดค่าใช้จ่ายและความแออัดในการเดินทางมาใช้บริการในเมือง ยกระดับมาตรฐาน รพ.สต.ทั่วประเทศ ให้มีคุณภาพเทียบเท่าโรงพยาบาลขนาดใหญ่ โดยมีเทคโนโลยีเชื่อมต่อการรักษาจาก รพ.สต.ถึงโรงพยาบาลใหญ่ พร้อมสนับสนุนทุนการศึกษาสำหรับบุตรหลาน อสม. หรือเด็กในชุมชน ให้ได้เรียนแพทย์ เรียนพยาบาล เพื่อกลับมาดูแลชุมชน และขยายหมอชุมชน หรือ ‘อสม.’ ให้เพียงพอกับประชาชนในพื้นที่ และผลักดันส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุให้ดำรงชีวิตประจำวัน และสามารถรับบริการด้านสาธารณสุขถึงที่บ้านได้อย่างสะดวกสบาย รวมถึงส่งเสริมสตรีมีบุตรเพื่อเพิ่มประชากรให้ทันต่อการพัฒนาประเทศ

พล.อ.ประวิตรกล่าวด้วยว่า สำหรับงานนิติบัญญัติ สส.ของพรรค ได้ผลักดันกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน เพื่อเสนอกฎเข้าสู่ที่ประชุมสภา และทำหน้าที่กรรมาธิการในคณะต่างๆ เพื่อนำปัญหาของประชาชนในพื้นที่เข้าสู่การแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม โดยทำหน้าที่อย่างสร้างสรรค์ มีวุฒิภาวะ เน้นใช้ข้อมูล สติปัญญามากกว่าวาทกรรม

‘บิ๊กป้อม’ นำทีม พปชร.สัญจร เยือนถิ่นมะขามหวาน พบปะปชช. เผย ผอมลง เพราะงดข้าวเย็น แต่ออกกำลังกาย จึงดูสดใสขึ้น

(7 ม.ค.67) หอประชุมเทศบาลเมืองวิเชียรบุรี (หลังใหม่) บริเวณศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานกิจกรรมพรรคพลังประชารัฐสัญจร ครั้งที่1/2567 โดยมีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรค น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รองหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค และ สส.เพชรบูรณ์ทั้ง 6 เขต  และ สส.พรรคพลังประชารัฐ ร่วมกิจกรรม

โดย พล.อ.ประวิตร ได้ทักทายสื่อมวลชนว่า เป็นยังไง พร้อมระบุว่า ตนเองสบายดี ผู้สื่อข่าวจึงถามว่า ไม่ได้เจอกันนาน แต่ยังดูสดใสแข็งแรง ผอมลงใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบกลับว่า อดข้าว งดข้าวเย็น เมื่อถามว่า สีหน้าดูสดใสขึ้นมาก พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็สบายดี เมื่อถามอีกว่า สื่อคิดถึง ไม่ได้เจอนาน พล.อ.ประวิตร ได้ตอบกลับว่า “คิดถึง”

ผู้สื่อข่าวถามถึงการแจ้งบัญชีทรัพย์สินของ พล.อ.ประวิตร หลังจากที่มีหนี้สินปรากฎ 757.26 บาท คืออะไร เหตุใดไม่ชำระหนี้ แต่พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้ ต้องไปถามคนทำ เราก็ไม่รู้เหมือนกัน

จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้ขึ้นรถยนต์ ก่อนที่จะเปิดประตูรถ มาคุยกับผู้สื่อข่าวอีกครั้ง โดยยอมรับว่าสุขภาพดีขึ้น ผอมลง เพราะว่าอดข้าว แต่ไม่ได้ทำ IF อดข้าวเย็น และข้าวเช้าอย่างเดียว มีออกกำลังกายนิดหน่อย ทำหน้าตาดูสดใสขึ้น

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประวิตรมีน้ำหนักลดลง 14 กิโลกรัม หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจเลือกตั้งที่ผ่านมา

‘ลุงป้อม’ ลงพื้นที่ หนองคาย รับฟังปัญหา ปชช. เพื่อแก้ไขภัยแล้ง-ยากจน-ยกระดับการขนส่ง-พัฒนาฝีมือแรงงาน

(3 มี.ค.67) เมื่อเวลาประมาณ 09.10 น.ที่รร.พันล้าน อ.เมือง จ.หนองคาย พล.อ.ประวิตรวงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เดินทางถึงจ.หนองคาย โดยนั่งรถยนต์โตโยต้า อัลพาร์ด สีขาว ทะเบียน กม 8888 ขอนแก่น เมื่อเดินทางถึงมีตัวแทนกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ต้อนรับและให้กำลังใจ ถูกผ้าขาวม้าแดง และสส. นำพระพุทธรูปมามอบให้เป็นที่ระลึก ทั้งนี้พล.อ.ประวิตร มีสีหน้าแจ่ม แต่งกายด้วยสีแดงสดใสทั้งตัว โดยสวมเสื้อฮาวายสีแดง ทับด้วยแจ็กเก็ตสีแดง กางเกงสแลคและรองเท้าผ้าใบแดง สีสันแปลกตาว่าทุกครั้ง 

จากนั้นเวลา 09.30 น. พล.อ.ประวิตร เป็นประธานเปิดเวทีวิชาการรับฟังปัญหาและความคิดเห็นของประชาชน ผู้ประกอบการเอกชน กลุ่มจ.หนองคาย อุดรธานี บึงกาฬ หนองบัวลำภู และจ.เลย ทั้งเรื่องของการแก้ปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำ การยกระดับอุตสาหกรรมและสร้างระบบเศรษฐกิจบีซีจี ยกระดับโครงสร้างการขนส่งและ
คมนาคมของประชาชน พัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน รวมถึงปฏิรูปรัฐราชการและการแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรคในการดำรงชีวิต มีแกนนำ กรรมการบริหารพรรค ส.ส. เข้าร่วม อาทิ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง นายวราเทพ รัตนากร นายอุตตม สาวนายน โดยผู้สื่อข่าวเอ่ยแซวว่าวันนี้สวมเสื้อแดงทั้งชุดพล.อ.ประวิตร หันมามองสื่อโดยไม่ได้แสดงท่าทีหรือกล่าวสิ่งใดสิ่งใด

พล.อ.ประวิตร กล่าวเปิดสัมมนา  พรรคพปชร.ขอบคุณทุกคนที่ร่วมสัมมนา และเสียสละเวลามาร่วมเวทีรับฟังความคิดเห็น เพื่อจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาภาคอีสาน พรรคพลังประชารัฐ รู้สึกยินดีที่มาเปิดเวทีรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อรับฟังทุกปัญหากับประชาชนในพื้นที่โดยตรง ตลอดเวลาที่ผ่านมาพรรคพลังประชารัฐ ขับเคลื่อนแก้ปัญหาความยากจน การลดความเหลื่อมล้ำ โดยเพิ่มสิทธิและสวัสดิการความเป็นอยู่ให้ประชาชนส่งเสริมที่ดินทำกินและเร่งรัดการพัฒนาแหล่งน้ำระบบชลประทาน การแก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง ให้เบ็ดเสร็จที่ทำมาต่อเนื่องทั่วประเทศ ตลอดเวลา 8 ปีที่ผ่านมาโดยพรรคตระหนักดีว่าจะแก้ไขปัญหาและพัฒนาประเทศ โดยคำนึงถึงบริบทความต้องการที่แตกต่างกันของแต่ละจังหวัดและภูมิภาคที่จะจัดทำภูมิศาสตร์หลายภาคขึ้น

พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า ดูข้อมูลที่ได้รับจากทุกภาคส่วนคณะกรรมการยุทธศาสตร์จะนำไปจัดทำเป็นยุทธศาสตร์พัฒนาภาคอีสาน ให้ทันสมัยและยึดโยงความต้องการของคนในภาคอีสาน โดยยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การฟังความคิดเห็นในแต่ละภาคส่วนทุกพื้นที่จะนำมาจัดทำเป็นยุทธศาสตร์ของพรรคต่อไป ทั้งนี้ภาคอีสานมีหลายเรื่องที่มีศักยภาพในการพัฒนาที่แตกต่างกันออกไปเช่น กลุ่มจังหวัดอีสานเหนือเป็นศูนย์กลางการลงทุน ขนส่งและการค้าชายแดน ของอนุภูมิภาคแม่น้ำโขง และเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านที่ต้องยกระดับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่งให้เชื่อมโยงรถไฟจีน-ลาว ส่วนกลุ่มจังหวัดอีสานกลางเป็นกลุ่มการค้าอินโดจีนและอีสานใต้โดดเด่นอุตสาหกรรมชีวภาพเกษตรและอาหาร แต่ละพื้นที่มีบริบทต่างกัน ใครมีความคิดเห็นอย่างไร ขอให้แสดงความคิดเห็นมาเพื่อเราจะนำไปพัฒนาภาคอีสานให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป

หลังจากนั้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็ได้เป็นประธาน เพื่อชมการลงทะเบียนของเกษตรกร เพื่อเปลี่ยนส.ป.ก.4-01 เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร 

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ  กล่าวขณะ ลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้าน ที่ จ.หนองคาย 

(3 มี.ค.67) เมื่อเวลาประมาณ12.52 น. ที่จังหวัดหนองคาย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ส.ส.ฝ่ายค้าน ระบุว่าไม่เจอ พล.อ.ประวิตร ในสภาฯ ว่า “แล้วเกี่ยวอะไรกับพวกคุณ ผมจะไปหรือไม่ไป มันผิดหรือเปล่า”

เมื่อถามย้ำว่า สส.พรรคก้าวไกล ประกาศถามหา พล.อ.ประวิตร กลางสภา พล.อ.ประวิตร ย้อนถามว่า “ถามหาทำไม ถ้าอยากมาหา ก็มาหาที่บ้านสิ”

 

‘พปชร.’ เดินหน้าวางยุทธศาสตร์ขับเคลื่อน หวังเป็นที่ยอมรับของ ปชช. เตรียมให้ สส.ลงพื้นที่มากขึ้น - จ่อเป็นคนกลางเชื่อมการเมือง 2 ฝ่าย

(11 มี.ค. 67) สิ้นเสียงของ ‘ลุงป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของ พปชร. ประกาศปรับลุคเคลื่อนทัพทางการเมืองใหม่ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาถูกสังคมส่องสปอตไลต์ตลอด ไปถอดรหัสผ่านมุมมองของนักการเมืองระดับเก๋าเกม โลดแล่นอยู่บนถนนเส้นนี้กว่า 30 ปี โดย นายวราเทพ รัตนากร ผู้อำนวยการ พปชร. และแกนนำอีกคนของ พปชร. สะท้อนให้เห็นถึงจุดประสงค์ของการประกาศดังกล่าว เพื่อให้เกิดความชัดเจนกับผู้สนับสนุนพรรค พปชร.

ขณะนี้กำลังวางยุทธศาสตร์ทำให้เป็นที่ยอมรับของประชาชนมากขึ้น ทั้งฐานะพรรคร่วมรัฐบาล มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการ พปชร. เป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้า พปชร. เป็น รมช.สาธารณสุข พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ประธานที่ปรึกษา พปชร. เป็น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

โดยเฉพาะ 2 กระทรวงหลัก เกี่ยวข้องกับประชาชนจำนวนมาก ทั้งหมดขึ้นอยู่กับนโยบายนำเสนอไปแล้วถูกใจประชาชนหรือไม่ แต่ไม่ได้ทิ้งด้านเศรษฐกิจ พลังงาน ท่องเที่ยว

ซึ่งมีผู้มีประสบการณ์ผ่านมาแล้วหลายกระทรวง มีผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน เข้ามาดูควบคู่กันไป อาจเรียกได้ว่าด้านเศรษฐกิจมีผู้เชี่ยวชาญไม่น้อยไปกว่าพรรคอื่น ไม่อยากพูดว่าเหนือกว่าพรรคอื่น

บนเป้าหมายสร้างความเข้มแข็งให้ พปชร. เพื่อกลับมาในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

ซึ่งเป็นเรื่องปกติของทุกพรรคการเมืองต้องมีความพร้อม ซึ่งอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมตลอดเวลา เพราะไม่มั่นใจการเมืองในวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่ไม่ถึงขั้นว่าพร้อมวันนี้

ฉะนั้นเป้าหมายปี 67 ทำยุทธศาสตร์ขับเคลื่อน เพื่อให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมคิดนโยบาย ปี 68 ประกาศชัดเจนเดินไปข้างหน้าอย่างไรให้ประชาชนยอมรับมากขึ้น

โดยให้ผู้สมัคร สส.ที่ไม่ได้รับเลือก ติดพื้นที่ใกล้ชิดประชาชน หลายเขตเป็นผู้ที่มีศักยภาพ มีโอกาสในการเลือกตั้งครั้งหน้า และ สส. 39 เขต กระจายทั่วทุกภาค ไปขยายฐานเพิ่ม

โดยเฉพาะความเห็นที่แตกต่างอย่างสุดขั้ว ยังมองไม่เห็นคนกลางที่สามารถเชื่อมทั้ง 2 ฝ่าย และอาจมีฝ่ายที่ 3 ที่คิดว่าทั้ง 2 ขั้วก็ไม่ถูกต้อง

แต่รัฐบาลมีความตั้งใจ ถ้าไม่สำเร็จ ขอแค่ได้เริ่มสัก 50%

วางให้ชัดเจนในส่วนที่สามารถยอมรับกันได้ โดยเฉพาะการแก้ไขรธน. กติกาในการ บริหารประ เทศที่ออกมาเป็นที่ยอมรับแค่ไหน

ทั้งนี้ การสลายขั้วทางการเมืองกับการแสดงความคิดเห็นต้องแยกกัน สลายขั้วอาจเป็นพรรค และผู้สนับสนุน แต่สลายขั้วทางความคิด อาจเป็นเรื่องยาก

ฉะนั้นความคิดต่างกันได้ แต่ต้องยอมรับกติกาเลือกตั้ง ปล่อยฝ่ายชนะได้บริหารประเทศ ฝ่ายแพ้ก็สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ ยกเว้นเกิดทุจริต คงต้องปล่อยให้ระบบจัดการ

ขณะนี้เริ่มเห็นปรากฏการณ์ที่ฝ่ายค้าน และรัฐบาลยอมรับในบางเรื่องที่ถูกต้อง ยอมรับความเห็นของพรรคตรงข้าม ตรงนี้ขึ้นอยู่กับสังคมที่สามารถชี้นำ และบีบฝ่ายที่ไม่มีเหตุผลหรือทำไม่ถูกต้อง

ภาพรวมรัฐบาลอยู่ตลอดรอดฝั่งครบเทอม 4 ปี หรือไม่ นายวราเทพ บอกว่ารัฐบาล พรรคการเมือง สส. ล้วนอยากให้อยู่ครบวาระ รวมถึงผมด้วย เพื่อทำให้การเมืองต่อเนื่อง

เชื่อว่าทุกคนอยากเห็นสภาฯ และรัฐบาลได้ทำงานแก้ไขปัญหาให้ประชาชน มากกว่าต้องเปลี่ยนแปลงอะไรเร่งด่วนในขณะนี้

“ขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาณที่มีผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงก่อน 4 ปี พรรคร่วมรัฐบาลยังสามัคคี ไม่มีความขัดแย้ง

แต่ปัจจัยภายนอกที่คนเห็นอยู่ และคิดได้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ด้วยโครงสร้างปัจจุบันบอกว่าพรรคการเมืองยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เพราะพรรคแกนนำมีเสียงไม่เกินกว่าครึ่งหนึ่ง”

‘รัฐบาลสลายขั้ว’ ตรงกับนโยบาย พปชร. ‘ก้าวข้ามความขัดแย้ง’ ทั้งรัฐบาล และ พปชร.ต้ องปรับบทบาทอย่างไร เพื่อให้เดินไปสู่รัฐบาลสลายขั้ว สร้างความปรองดอง นายวราเทพ บอกว่า เราเป็นพรรคอันดับ 3 สนับสนุนเต็มที่ และมีจุดยืน ทำให้สังคมเกิดความสงบ

แต่การขับเคลื่อนต้องรอพรรคเพื่อไทย แกนนำอันดับ 1 โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี (นายเศรษฐา ทวีสิน) ที่กำลังดำเนินการรับฟังความเห็นเกี่ยวกับการแก้ รธน.หรือการทำประชามติแก้ รธน.

การเคลื่อนไหวของ ‘ลุงป้อม’ ยังถูกจับตามีโอกาสกลับมาเป็นรองนายกฯ เพราะตามโควตาพรรค พปชร.เหลืออีก 1 เก้าอี้รัฐมนตรี นายวราเทพบอกว่า มองเชิงการเมืองอาจคาดการณ์ได้ อาจมีการวิพากษ์วิจารณ์

แต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของหัวหน้า พปชร. และต้องหารือตกลงร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคแกนนำ ที่ยังไม่มีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ หรือเป็นกิจจะลักษณะ

กระแสที่จะกลับมาเป็นนายกฯ ช่วงหลังวุฒิสภาอภิปรายทั่วไปรัฐบาล นายวราเทพบอกว่า เรื่องนี้ไม่น่าจะมี อาจมีคนคิด แต่ในส่วนของ พปชร.ผมไม่เคยได้ยิน

เพราะทางการเมืองกำลังจะเกิดปรากฏการณ์ยุบ 2 พรรค มีการทาบทาม สส.ของทั้ง 2 พรรคเข้าร่วมงานกับพรรค พปชร.อย่างไร นายวราเทพ บอกว่า เรื่องนี้อยู่นอกเหนือจากความเป็นทางการ
ผมยังไม่ได้ยินกรณีนี้ มีหรือไม่มี เราพูดยาก อาจมีก็ได้ แต่เขาคงไม่อยากให้มีการพูดถึง มันเป็นเรื่องอนาคต ยังไม่รู้ผลจะเป็นอย่างไร

‘ลุงป้อม’ เคลื่อนไหวทางการเมืองลักษณะนี้ ได้รับสัญญาณพิเศษอะไร นายวราเทพ บอกว่า ไม่มีสัญญาณพิเศษ แต่อยากเห็นพรรคต่างจากในอดีต เมื่อเป็นรัฐบาลแล้วทิ้งงานของพรรค ไม่มีใครรับผิดชอบ พอยุบสภาฯ ถึงกลับมาหาประชาชน หากผลงานรัฐบาลดีอาจได้รับการรับเลือก แต่ถ้าผลงานไม่ดีอาจแพ้เลือกตั้ง

คราวนี้เราต้องทำงานคู่ขนานกับการร่วมรัฐบาล พปชร.ต้องเคลื่อนไหวตลอดให้ประชาชนสัมผัสได้

‘บิ๊กป้อม’ อวยพรชาวไทยมุสลิม เนื่องในวันอีฎิ้ลฟิตริ  ขอทุกท่านสุขภาพแข็งแรง มีแต่ความสันติสุขตลอดไป

(10 เม.ย. 67) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวเนื่องในโอกาสวันอีฎิ้ลฟิตริ ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1445 ว่า 

“เนื่องในโอกาสวันสำคัญทางศาสนาอิสลาม วันอีฎิ้ลฟิตริ ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1445 ขอร่วมอำนวยพรแก่พี่น้องชาวไทยมุสลิมทุกท่าน และเชื่อมั่นว่าผลบุญที่ได้จากการบำเพ็ญศาสนกิจตามบทบัญญัติของศาสนาอิสลาม ด้วยความศรัทธาอันแรงกล้า มั่นคงและอดทน เพื่อน้อมถวายจิตใจอันบริสุทธิ์แด่องค์พระผู้อภิบาลจะบำรุงให้ท่านทั้งหลายมีความอิ่มเอมใจ และมีความสันติสุขตลอดไป ในวาระนี้ขอพระผู้เป็นเจ้าได้โปรดประทานความเมตตา ความสุขสวัสดี ความเจริญรุ่งเรือง และกำลังใจ กำลังกายที่สมบูรณ์แข็งแรงแก่พี่น้องชาวไทยมุสลิมทุกท่านโดยทั่วกัน”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top