Thursday, 2 May 2024
พรรคประชาธิปัตย์

'นิพนธ์' เชื่อมั่น ได้ สส.ใต้ 35-40 ที่เหลือ 18 ที่นั่ง แบ่งปันให้พรรคอื่น คาดหวัง จชต.ได้ไม่ต่ำกว่า 5 ที่นั่ง หมัดเด็ดคือ 'ยุทธศาสตร์ 3 สร้าง' ที่โดนใจ ประชาชน

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค และผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการ เลียงตั้ง ที่จะมาถึงในปี 2566 ว่า หลังจากที่ได้จัดทัพผู้สมัครได้ครบทั้ง 58 เขต และผู้สมัครได้ลงพื้นที่เพื่อการขับเคลื่อนนโยบายในการหาเสียง ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ ประชาธิปัตย์ คืนฟอร์ม ในการเป็นพรรคการเมืองของคนใต้ ทำให้ มั่นใจยิ่งขึ้นว่า ที่ ประชาธิปัตย์ ตั้งเป้าได้ สส. 35-40 ที่นั่ง เป็นความจริงแน่นอน ตัวเลข 35-40 ที่นั่ง เป็นเรื่อง ปกติ ที่ ประชาธิปัตย์ ตั้งเป้าไว้ เพราะในอดีตในปี 2548 ประชาธิปัตย์เคยได้ สส. 52 ที่นั่ง จากจำนวนทั้งหมด 54 ที่นั่ง และในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มี สส. จำนวน 12 ที่นั่ง ประชาธิปัตย์ เคยได้ สส.ถึง 11 ที่นั่ง ครั้งนี้ในพื้นที่ของ ปัตตานี,ยะลา,นราธิวาส จากการวางตัวผู้สมัคร และการกลับมาให้การสนับสนุนของคนในพื้นที่ ซึ่งเป็นกระแสที่ดีมาก รวมทั่งการเสนอนโยบายเฉพาะ พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประชาธิปัตย์ในการแก้ปัญหาความไม่สงบด้วยการ”สร้างสันติภาพ สู่ สันติสุข ซึ่งหลังจากมีการนำเสนอ ได้มีภาคประชาสังคม และภาคประชาชน เห็นด้วยและร่วมเสนอรายละเอียดเพื่อให้พรรคพิจารณา ทำให้เราเชื่อมั่นว่า จะได้ สส.4-6 ที่นั่ง  เลือกตั้งครั้งนี้ ประชาธิปัตย์ มีความมากที่สุด โดยในวันที่ 11-12 กพ.นี้ จะมีการ สัมมนา ผู้สมัคร และ ผอ.เขตเลือกตั้งของพรรคในภาคใต้ ก่อนที่จะทำในภาคอื่นๆต่อไป

นิพนธ์ ติวเข้มแกนนำ ปชป. เขต2 เทศบาลนครหาดใหญ่ ยันนโยบายสร้างเงินภาคเกษตรทั้ง 8 นโยบาย ทำได้ไว ทำได้จริง

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวพบปะกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคปชป. เขต 2 สงขลา(นายนิพัฒน์ อุดมอักษร) พร้อมด้วยแกนนำพรรคและสมาชิกพรรคปชป.ร่วม 100 คนที่เข้าประชุมเพื่อรับทราบนโยบาย และแนวทางในการหาเสียงเลือกตั้งของว่าที่ผู้สมัครในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 2 จังหวัดสงขลา

นายนิพนธ์กล่าวว่า วันนี้ต้องขอย้ำว่า ทำไมต้องเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ทุกคนคงรู้จักพรรคปชป.ที่มีอายุมายาวนาน ท่านชวนก็ยังเป็นหลักสำคัญของพรรคโดยเฉพาะความซื่อสัตย์สุจริต กว่า 77 ปีที่พรรคปชป.ยังคงอยู่ เพราะนี่คือสถาบันทางการเมือง โดยเฉพาะในสมัยของท่านชวนเป็นนายกรัฐมนตรี ในเรื่องของนมโรงเรียนที่ลูกหลานของพวกเราได้กินมาตั้งแต่ปี 36 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบันปี 2566 นโยบายนี้ก็ยังคงอยู่ นี่คือนมของท่านชวนซึ่งเป็นความคิดของพรรคประชาธิปัตย์ในการสร้างคน เพราะเห็นความสำคัญของเด็กเล็กในการพัฒนาให้เด็กมีร่างกายที่แข็งแรงเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กเล็ก เรื่องของอาหารกลางวันก็เป็นอีกนโยบายหนึ่งของพรรคปชป. รวมถึงกองทุนเพื่อการศึกษา เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในเรื่องการศึกษา ซึ่งพรรคจะเน้นในเรื่องของการสร้างคนก่อน  

มาวันนี้พรรคปชป.เดินหน้าชู ยุทธศาสตร์ 3 สร้าง คือสร้างเงิน สร้างคน สร้างชาตินี่คือห้วใจของปชป. พร้อมนโยบายรายละเอียดเฉพาะเรื่องที่แยกออกมาจาก 3 ยุทธศาสตร์หลักอีก ที่จะออกตามมาเร็วๆนี้และในเรื่องของนมโรงเรียนนี้ พรรคจะเดินหน้าต่อประกาศกินนมโรงเรียน 365 วัน ซึ่งจะเป็นนโยบายเดินหน้าต่อ นโยบายต่อไปที่จะประกาศคือการกระจายเงินลงไปยังฐานราก ซึ่งพรรคปชป.ประกาศแล้ว โดยจัดตั้งธนาคารหมู่บ้าน หรือชุมชนละ 2 ล้านบาท ต่อธนาคาร และต่อชุมชน แต่ต้องจดทะเบียนกับทางภาครัฐ อีกนโยบายหนึ่งคือในเรื่องของโฉนดที่ดินที่ไม่ใช่ที่ดินของรัฐ ซึ่งผมได้ทำมาแล้ว หนึ่งแสนสองหมื่นแปลง ในสมัยที่เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และได้แน่นอนทั่วประเทศ ซึ่งต่อไปครั้งหน้าถ้าปชป.ได้เป็นรัฐบาล จะทำให้ได้ถึง1 ล้านแปลง ภายใน 4 ปีหรือ 250,000 แปลงต่อปี ทั้งเรื่องของโฉนดและที่ทำกิน รวมถึงจะดูแลในเรื่องของการบุกรุก ในที่ดินหลวง ในเรื่องของประมงก็เช่นกัน นี่ชี้ให้เห็นว่าปชป.ดูแลในเรื่องของเศรษฐกิจฐานราก อีกเรื่องในเรื่องของสร้างคน รอบหน้าถ้าปชป.เป็นแกนนำรัฐบาลจะประกาศให้ลูกหลานเรียนฟรีถึงระดับปริญญาตรี ในเรื่องของการศึกษา โดยเฉพาะสาขาวิชาที่ขาดแคลนคือวิชาช่าง เพราะเห็นถึงความล้มเหลวของการศึกษาแบบเก่า ที่จบออกมาแล้วไม่มีงานทำ จึงอยาดให้ลูกหลานมี่อจบออกมาแล้ว มีงานรองรับและอีกหลายๆนโยบายที่จะตามมา

จุรินทร์ฯ เซ็นตั้ง นิพนธ์ฯ นั่งประธานสร้างเศรษฐกิจ ท้องถิ่น พัฒนาการค้า การลงทุน การเชื่อมโยงการตลาด พร้อมจับคู่ธุรกิจให้พื้นที่จังหวัดชายแดนใต้

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ลงนามหนังสือแต่งตั้งคณะทำงานกำหนดแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ กระทรวงพาณิชย์ โดยได้แต่งตั้งนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานคณะทำงานฯ เพื่อกำหนดแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงติดตามและขับเคลื่อน การแก้ไขปัญหากทางเศรษฐกิจ และสร้างความเข้มแข็ง ด้านเศรษฐกิจของพื้นที่ ให้เกิดการยกระดับการค้า และการตลาด ให้กับกลุ่มเกษตรกร และผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้มีโอกาสเข้าถึงการสนับสนุนจากภาครัฐ ทั้งด้านผลผลิต การพัฒนาผลผลิต เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมทั่วไปและอุตสาหกรรมฮาลาล พร้อมการเชื่อมโยงการตลาด โดยการจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ กับผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ 

'อารยะ ชุมดวง' อดีต ส.ส. 5 สมัยร่วมทัพ ปชป. ยึด 4 ที่นั่ง 'ฟูลทีม' สุโขทัย เผยถูกใจนโยบายที่ดินทำกิน 'จุรินทร์' เปิดตัวสวมเสื้อสีฟ้าชื่นมื่น

ที่ พรรคประชาธิปัตย์ นายอารยะ ชุมดวง อดีต ส.ส. สุโขทัย 5 สมัย พร้อมทีมงาน ได้เข้าพบนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค ผู้อำนวยการเตรียมการเลือกตั้ง เพื่อแสดงความจำนงสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมกับเสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. สุโขทัย ซึ่งนายจุรินทร์ได้ให้การต้อนรับและแสดงความยินดีกับการเข้าร่วมทำงานกับพรรค พร้อมกับมอบบัตรสมาชิกพรรคและมอบเสื้อแจ็คเก็ตพรรคให้

สำหรับนายอารยะ ชุมดวง เกิดที่อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย สำเร็จการศึกษา สาขาการปกครอง จากวิทยาลัยเคอร์รี่ สหรัฐอเมริกา ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. สุโขทัย สมัยแรกในปี 2526 จากนั้นได้รับเลือกต่อมารวม 5 สมัย เคยเป็นผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย  ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นอกจากนี้ นายอารยะยังเป็นนักการเมืองที่ทำงานใกล้ชิดกับชาวบ้านในพื้นที่ จ.สุโขทัย มาโดยตลอด

นายอารยะ กล่าวถึงสาเหตุที่มาสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ว่า นอกจากความศรัทธาในพรรคประชาธิปัตย์แล้ว ยังเห็นว่าทีมงานประชาธิปัตย์ที่จังหวัดสุโขทัยมีความเข้มแข็งและสนิทสนมกับตนเป็นอย่างดี จึงต้องการมาช่วยกันทำให้ทีมประชาธิปัตย์สุโขทัยมีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น  รวมทั้งพรรค ปชป. มีนโยบายโดนใจ ทั้งนโยบายแจกโฉนดที่ดิน 1 ล้านแปลงภายใน 4 ปี และนโยบายออกกรรมสิทธิ์ทำกิน ให้ผู้ทำกินในที่ดินของรัฐ เพราะเรื่องที่ทำกินถือเป็นสิ่งสำคัญที่ถูกใจประชาชนเป็นอย่างมาก และยังมีรายละเอียดนโยบายอีกหลายอย่างที่ทราบว่าประชาธิปัตย์กำลังจะทยอยออกมา 

ปชป.เปิดแนวรุกภาคตะวันตก ! 'เฉลิมชัย-อลงกรณ์' นำทัพประชาธิปัตย์เปิดตัวผู้สมัครส.ส. เพชรบุรี 24 ก.พ. นี้เป็น จว.แรก มั่นใจปักธงสีฟ้าแม่พระธรณีทั้ง3เขต

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์เปิดเผยวันนี้(23 ก.พ.)ว่า พรรคประชาธิปัตย์พร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้งครั้งหน้าโดยจะส่งผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกเขตทุกจังหวัดซึ่งได้ทะยอยเปิดตัว ผู้สมัครส.ส. เป็นระยะ ๆ พร้อมกับประกาศนโยบายฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากชุดแรกไปแล้ว

สำหรับภาคกลางตะวันตกจะมีการเปิดเวทีปราศรัยเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ของจังหวัดเพชรบุรีเป็นจังหวัดแรกในวันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ เวลา 16.00-18.00 น. ที่สนามหน้าโรงเรียนเบญจมเทพอุทิศโดยดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคและตนจะเปิดแนวทางการทำงานการเมืองและการพัฒนามิติใหม่ภายใต้ยุทธศาสตร์ "ก้าวใหม่เพชรบุรี ก้าวใหม่ประชาธิปัตย์" พร้อมด้วยคำประกาศเจตนารมณ์ของ 4 หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้แก่นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะและนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคคนปัจจุบันเพื่อแสดงความมุ่งมั่นในการทำงานเพื่อจังหวัดเพชรบุรี และขอโอกาสให้อดีต ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์คือนายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ อดีต ส.ส.เพชรบุรี และส.ส. บัญชีรายชื่อ 6 สมัย  ดร.กัมพล สุภาแพ่ง อดีต ส.ส.เขต 2 เพชรบุรี 3 สมัย และนายอภิชาติ สุภาแพ่ง ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยพาณิชย์และอดีต ส.ส.เขต 3 เพชรบุรี 4 สมัยลงสมัคร ส.ส.เขต1-2-3และ นายอรรถพร พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยสาธารณสุขอดีต ส.ส.เขต 1 และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 2สมัยลงสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อได้กลับมาเป็นปากเสียงและตัวแทนของคนเมืองเพชรฯ.อีกครั้งหนึ่งดังเช่นที่ผ่านมา

'อลงกรณ์' ป้อง 'ไตรรงค์' ติงโลก โซเชียลอย่าซ้ำเติม

กรณีที่ ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี กล่าวปราศรัยผิดพลาดบนเวทีพรรครวมไทยสร้างชาติที่โคราชให้สนับสนุนพรรคไทยรักไทยจนเกิดการแชร์และวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียล อย่างกว้างขวาง

ล่าสุดวันนี้ นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์ได้เขียนในเฟสบุ๊คและไลน์ส่วนตัวแก้ต่างให้กับ ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรีมีข้อความว่า

“…เห็นในโลกโซเชียลแชร์คลิปท่านอาจารย์ไตรรงค์พูดผิดพลาดในการปราศรัยที่โคราชและมีการแชร์มีการเขียนทำนองเยาะเย้ยถากถางด้วยความขบขันบ้างด้วยการดูแคลนบ้าง 

ผมอ่านแล้วไม่สบายใจ

'สมชัย' ได้เวลาสางแค้น 'ราเมศ' ชี้ MV พรรคปชป. น่าจะเข้าข่ายผิดระเบียบหาเสียง

‘สมชัย’ ได้เวลาเอาคืน หลังก่อนหน้านี้ ‘ราเมศ’ ติงเป็นอดีต กกต.ที่แย่ที่สุด งัดระเบียบการหาเสียงข้อ 18 ย้อน MV พรรคประชาธิปัตย์ น่าจะเข้าข่ายผิดระเบียบการหาเสียงของ กกต.

จากกรณี นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะเลขานุการประธานรัฐสภา ซัด นายสมชัย ศรีสุทธิยากร เป็นอดีต กกต.ที่แย่ที่สุด พร้อมไล่ไปเรียนหลักรัฐธรรมนูญใหม่หลังพาดพิงนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา สั่งหยุดถกพระราชกำหนดอุ้มหาย

เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 66 นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า มีผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ท่านหนึ่งกล่าวว่า ผมเป็นอดีต กกต.ที่แย่ที่สุด ไม่รู้เรื่องราว กฎหมายใด ๆ แล้วชอบออกมาแสดงความคิดเห็น ให้กลับอ่านกฎหมายเยอะ ๆ

ผมน้อมรับคำแนะนำ เลยกลับไปอ่านกฎหมายให้มากขึ้น พอไปอ่านระเบียบการเลือกตั้ง ของ กกต. ก็เลยพบว่า MV ของพรรคประชาธิปัตย์ น่าจะเข้าข่ายผิดระเบียบการหาเสียงของ กกต.

ระเบียบการหาเสียงข้อ 18 บอกว่า ห้ามผู้สมัคร ที่เป็นนักร้อง ใช้ความสามารถทางวิชาชีพของตนเพื่อเอื้อประโยชน์หาเสียงให้แก่ผู้สมัครอื่นหรือพรรคการเมือง แต่ยกเว้นให้กรณีไม่มีอุปกรณ์การแสดง

ลูบคมนายหัวตรัง รทสช. ฉก 'หลีกภัย' ชน ปชป. จับตา 'โกหน่อ' ช่วยใคร?

พลันที่นายหัวชวน 'ชวน หลีกภัย' ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแฉว่า มีมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่วิ่งหาคนนามสกุล 'หลีกภัย' มาลงแข่งที่ตรัง ด้วยความอยากช่วยนายกฯ จึงต้องสืบค้นว่า นายตำรวจใหญ่คือใคร ไปทาบทามใคร

สนามการเมืองจังหวัดตรัง ถือเป็นเมืองหลวงของประชาธิปัตย์ ถิ่นกำเนิดของ 'ชวน หลีกภัย' ที่ทุกคนยอมรับในความซื่อสัตย์สุจริต เป็นนักการเมืองมือสะอาดคนหนึ่งของประเทศไทย ที่อยู่ยงคงกระพันบนเวทีการเมืองมาตั้งแต่ปี 2512 จนถึงปัจจุบัน และในการเลือกตั้งสมัยหน้ายังจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ หนุนหลัง 'จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์' หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แบบเต็มกำลัง

'ประชาธิปัตย์' ยึดครองสนามตรัง 3-4 ที่นั่งมายาวนาน เพราะชื่อชั้นของ 'นายหัวชวน' เป็นเครื่องหมายการค้า ที่ประชาชนยอมรับ ดังนั้น ไม่ว่าประชาธิปัตย์จะส่งใครลงสนามตรัง ประชาชนชาวตรังก็ยินดีที่จะเลือกให้เป็นผู้แทนโดยไม่มีข้อกังขา แต่ในการเลือกตั้งปี 2562 ในเขตเลือกตั้งที่ 1 ซึ่งเป็นเขตเลือกตั้งของ 'นายหัวชวน' ถูกนักเลงดีจากพรรคพลังประชารัฐ 'นิพันธ์ ศิริธร' อดีตรองผู้ว่าฯ ตรัง มาแย่ง 'หมอสุกิจ' นพ.สุกิจ อัตโถปกรณ์ ส.ส.หลายสมัยจากประชาธิปัตย์ ปาดหน้าเข้าวินเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี ทำให้ประชาธิปัตย์ได้แค่ 2 ที่นั่งในจังหวัดตรัง จาก 3 ที่นั่ง

กล่าวสำหรับการเลือกตั้งในปี 2566 จ.ตรัง ได้ ส.ส.เพิ่มจาก 3 เขตเป็น 4 เขต โดยเขต 1 'นพ.สุกิจ อัตโถปกรณ์' ปฏิเสธลงสมัคร จึงไปคว้า 'นพ.ตุลกานต์ มักคุ้น' คนใกล้ชิดคนในครอบครัว 'หลีกภัย' ลงแทน ซึ่งในเขตนี้ 'พลังประชารัฐ' อาจจะส่ง 'กิตติพงษ์ ผลประยูร' อดีตที่ดินจังหวัดตรังลงแทน 'นิพันธ์ ศิริธร' ที่ทำท่าว่าจะไม่ไปต่อในการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ในการเปิดตัวผู้สมัครของพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ยังปรากฏชื่อนิพันธ์ ศิริธร อยู่

ส่วนรวมไทยสร้างชาติ ฮึดสู้ในสนาม 'หลีกภัย' #นายหัวไทร ทราบว่า มีการส่งนายตำรวจใหญ่ชื่อเสียงโด่งดัง ไปทาบทาม 'ถนอมพงษ์ หลีกภัย' รองนายกเทศมนตรีนครตรัง' ให้มาลงสมัครรับเลือกตั้ง ผ่านกำนันคนดังเจ้าของบ้านทรงไทย นี่แหละคือประเด็นที่นายหัวชวน กล่าวถึง

เขต 2 ประชาธิปัตย์ยังคงส่ง 'เสี่ยตาล' สาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.หลายสมัย อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงรักษาแชมป์ มี 'ทวี สุรบาล' เจ้าเก่าในนามพลังประชารัฐลงท้าชิง

เขต 3 ประชาธิปัตย์ส่ง 'สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ' ทายาทของ 'โกหน่อ' สมชาย โล่สถาพรพิพิธ อดีต ส.ส.ตรังหลายสมัยลงรักษาแชมป์ โดยมี 'พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ เรืองนัฐพงษ์' ลงชิง และมี 'อำนวย นวลทอง' เพื่อนซี้โกหน่อ ลงประชันด้วยในนามรวมไทยสร้างชาติ

เขต 4 ประชาธิปัตย์ โดย 'โกหน่อ-สมชาย โล่สถาพรพิพิธ' หักด่านคนในตระกูล 'หลีกภัย' ผ่านผลโพลล์ไม่ส่ง 'สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล' เลขานุการประธานสภาฯ 'ชวน หลีกภัย' ซึ่งเคยเป็น ส.ส.เขตนี้ ส่ง 'สท.กานต์ ตั้งปอง' ซึ่งเป็นนักการเมืองท้องถิ่น สายเลือดใหม่ลงในเขตนี้แทน เป็นเหตุให้ 'สมบูรณ์' ลาออกจาก 'ประชาธิปัตย์' และลงสมัครรับเลือกตั้งในนามรวมไทยสร้างชาติ 'พลังประชารัฐ' ส่ง 'พล.ต.ต.บรรลือ ชูเวทย์' อดีตผู้การจังหวัดตรัง ลงแข่ง

3 หมื่นคนต้อนรับจุรินทร์ นำประชาธิปัตย์บุกพัทลุงเปิดตัว 3 ผู้สมัครส.ส. ขอทวงเก้าอี้คืน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า 4 มี.ค.2566 เมื่อเวลา 18.00 น. ที่สนามหน้าโรงเรียนพัทลุง จ.พัทลุง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำขุนพลปักษ์ใต้ ตั้งแต่ นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีต รมช.มหาดไทย นายเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรค นายชัยชนะ เดชเดโช รองเลขาธิการพรรค นายนริศ ขำนุรักษ์ รมช.มหาดไทย นายสาธิต วงค์หนองเตย ร่วมกันเปิดตัว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พัทลุง ทั้ง 3 เขต พร้อมกับปราศรัย ประชาธิปัตย์ ยุคใหม่ โอกาสใต้บ้านเรา ที่สนามโรงเรียนพัทลุงต.คูหาสวรรค์ อ.เมืองพัทลุง โดยผู้สมัครเขต 1 น.ส.สุพัชรี ธรรมเพชร อดีต ส.ส.พัทลุง 2 สมัย  ผู้สมัครเขต 2 ดร.เดย์ ปิยะกาญจน์ สุพรรณชนะบุรี ผู้สมัครเขต 3 นายร่มธรรม ขำนุรักษ์


ทั้งนี้ นายจุรินทร์ ได้ปราศรัยตอนหนึ่งว่า เลือกตั้งเที่ยวนี้ พรรคประชาธิปัตย์พร้อมที่สุดพรรคหนึ่งในประวัติศาสตร์จังหวัดพัทลุง เพราะอย่างน้อยที่สุดเลือกตั้งเที่ยวหน้าจะเป็นการผนึกกำลังกันของ 4 ตระกูลสำคัญในจังหวัดพัทลุง 1. ตระกูลธรรมเพชร 2. ตระกูลขำนุรักษ์ 3. ตระกูลสุพรรณชนะบุรี และ 4. ตระกูลพัทลุงสามัคคี ซึ่ง 4 ตระกูลนี้ จะทำให้การเลือกตั้งเที่ยวหน้า ประชาธิปัตย์ยกทีม


และขอบคุณทุกกำลังใจ และอยากบอกว่าเลือกตั้งเที่ยวหน้ามีความหมายอย่างยิ่ง เพราะเป็นการกู้ศักดิ์ศรีของคนพัทลุงคืนมา ผมอยากจับมือกับพี่น้องทุกคน สู้กับสิ่งที่เราจำเป็นต้องสู้ในการเลือกตั้ง เพื่อพิสูจน์ว่าคนพัทลุงยังมีศักดิ์ศรี และคนพัทลุงจะไม่เลือกเงิน เพราะเชื่อว่า เงิน จะเป็นสิ่งที่เราต้องสู้ต่อไป และคนพัทลุงจะกินเหยื่อแต่ไม่กินเบ็ด เพราะถ้าเราเลือกเงิน เราก็จะได้แต่เงิน ไม่มีวันได้ผู้แทนที่มีคุณภาพ และเราจะไม่มีทางกู้ศักดิ์ศรีของคนพัทลุงคืนมาได้ ถ้าเลือกเงิน เราก็จะได้การเมืองแบบถอนทุนคืน เราจะได้การเมืองคอร์รัปชั่นทำลายประเทศและทำลายพัทลุง ที่เป็นอนาคตของพวกเราทุกคน
 วันนี้ขอแรงคนพัทลุงทุกคนมาจับมือกับประชาธิปัตย์ช่วยสนับสนุนคนดี ช่วยสนับสนุนนักการเมืองคุณภาพทั้ง 3 คน ที่เสนอตัวรับใช้พี่น้อง และมาช่วยกันสนับสนุนการเมืองสะอาด ประชาธิปไตยสุจริต ด้วยการเลือกทั้งคนทั้งพรรคของประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งที่จะมาถึง” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

‘ประชาธิปัตย์’ พัทลุง ส่งเลือดใหม่สู้ศึกเลือกตั้ง มั่นใจกวาดเก้าอี้ ส.ส.ยกจังหวัด หลังเสียงตอบรับท่วมท้น

เวทีปราศรัยใหญ่ พร้อมเปิดตัว 3 ผู้สมัครคนรุ่นใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์พัทลุง ที่โรงเรียนพัทลุงคึกคักสุดเหวี่ยงกับรูปแบบการปราศรัยที่เปลี่ยนไปจากเดิม ที่เสริมเติมด้วยความสุขความสนุกผสมกับเนื้อหาเชิงนโยบายของพรรค

สนามกีฬาโรงเรียนพัทลุงเนืองแน่นไปด้วยแฟนคลับประชาธิปัตย์ร่วม 30,000 คน เก้าอี้ที่เตรียมไว้ 9,000 ตัวไม่พอนั่ง เสริมเข้ามาอีก 3,000 ตัวก็ยังเต็ม รอบๆสนามก็นั่งมีคนนั่งฟังก็เต็ม ถนนรอบโรงเรียนรถจอดยาวหลายกิโลเมตร ภาพที่ปรากฏสะท้อนถึงการกลับมาฟื้นคืนของประชาธิปัตย์ในสนามภาคใต้

พัทลุงถือเป็นอีกจังหวัดที่ประชาธิปัตย์ยึดครองมายาวนานแบบ ‘ยกจังหวัด’ เพิ่งจะเมื่อการเลือกตั้งปี 62 ที่เสียที่นั่งให้กับภูมิใจไทย 2 ที่นั่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว ‘นริศ ขำนุรักษ์’ ไว้รักษาหน้าประชาธิปัตย์ไว้ได้บ้าง

‘เรารู้แล้ว เราเข้าใจแล้ว การเลือกตั้งครั้งที่แล้ว เราเผลอไปหน่อย ก็ถูกเพื่อนโจมตี ก็เป็นบทเรียนที่เรารู้แล้ว เราเข้าใจแล้ว’นิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปราศรัยบนเวทีพัทลุง

การเลือกตั้งครั้งที่จะมาถึงประชาธิปัตย์เฟ้นหาหน้าใหม่ - คนรุ่นใหม่เข้ามาเสริมทัพลงสู้ศึกเลือกตั้ง เขต 1 สุพัชรี ธรรมเพชร อดีต ส.ส.ที่ครั้งที่แล้วพลาดไป คราวนี้เอาใหม่กับความขยันลงพื้นที่พร้อมกับการหอบหิ้วสายเลือด ‘ธรรมเพชร’ เต็มตัวลงสู้ศึก ที่พ่อ ‘สุพัฒน์ ธรรมเพชร’ ไม่น่าจะให้ลูกพลาดอีกแล้ว แม้บางคนบอกว่า ‘บ้านใหญ่ธรรมเพชร’ ไปอยู่รวมไทยสร้างชาติก็ตาม

“ธรรมเพชร ต้อง ‘เสถียร ธรรมเพชร’ พี่เถียรอยู่นี่ นั่งอยู่หลังเวทีเราเนี่ย พี่เถียรคือธรรมเพชรของแท้” นิพนธ์ กล่าวปราศรัยเพื่อยืนยันว่า ธรรมเพชรของจริงยังอยู่กับประชาธิปัตย์

ส่วนเขต 2 ก็เป็นสายเลือดนักการเมืองรุ่นเก๋า ‘ดร.เดย์-ปิยะกาญจน์ สุพรรณชนะบุรี’ ลูกสาวของ ‘สานันท์ สุพรรณชนะบุรี’ อดีต ส.ส.คุณภาพสองสมัยของพัทลุง และอดีตนายก อบจ.พัทลุงสองสมัย ที่บอกกับตัวเองว่า “พอแล้ว” ในวัย 70 ปี พร้อมส่งไม้ต่อให้ ‘ดร.เดย์’ อาจารย์ มอ.ตรัง ผู้รับเลือดพ่อมาเต็มเปี่ยม

เขต 3 ก็เป็นคนรุ่นใหม่กิ๊ก ‘ร่มธรรม ขำนุรักษ์’ ลูกชายของ ‘นริศ ขำนุรักษ์’ ส.ส.5 สมัยของพัทลุง ที่สังกัดประชาธิปัตย์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง และยังนั่งเป็นรัฐมนตรีช่วยมหาดไทยอีกด้วย ‘ร่มธรรม’ เป็นนักเรียนทุนไปศึกษาต่อที่ประเทศจีน จบแล้วไปเป็นอาจารย์สอนหนังสืออยู่ในต่างประเทศหลายประเทศ เช่น รัสเซีย

ประชาธิปัตย์เห็นแววมาตั้งแต่เด็ก เมื่อถึงเวลาก็ดันพ่อขึ้นบัญชีรายชื่อแล้วส่งลูกลงสมัครรับเลือกตั้งแทน

นี่คือสามผู้สมัครคุณภาพของประชาธิปัตย์พัทลุงที่ล้วนเป็นคนรุ่นใหม่ เป็นรุ่นทายาทที่ได้สายเลือดนักการเมืองมาเต็มๆที่ได้เวลาลงสู่สนามด้วยตัวเองกับประสบการณ์ที่เดิมตามหลังพ่อหาเสียงมายาวนาน

แม้บนเวทีปราศรัย ‘แทน-ชัยชนะ เดชเดโช’ ส.ส.นครศรีธรรมราช รองเลขาธิการประชาธิปัตย์จะพลั้งเผลอไปบ้าง ไปกล่าวพลาดพิงถึง ม.ทักษิณ แต่ทันทีเจ้าตัวก็ออกมายอมรับผิด และขอโทษ ก็ถือว่าเป็นลูกผู้ชายพอ “ผิดแล้วยอมรับผิด”

“ผมกราบขอโทษคณะอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน มหาลัยทักษิณ ทุกคนด้วยครับ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top