Thursday, 2 May 2024
พรรคประชาธิปัตย์

‘ประชาธิปัตย์’ เคาะแล้ว!! ส่ง “ดร.เอ้ สุชัชวีร์” ชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.

พรรคประชาธิปัตย์ แถลงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารวันนี้

>> เห็นชอบ “ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์”ป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในนามพรรคประชาธิปัตย์ และให้ความเห็นชอบผู้ที่จะลงสมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) ทั้ง 50 เขต 50 คน

>> เห็นชอบ “นายอิสรพงษ์ มากอำไพ” เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมเขต 1 จังหวัดชุมพร และนางสาวสุภาพร กำเนิดผล เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. สงขลา เขต 6

>> เห็นชอบให้จัดตั้งสาขาพรรคเพิ่มเติม 2 สาขา คือ จังหวัดนครนายก เขต 1 และสาขาพรรคจังหวัดสงขลา เขต 2

13 ธันวาคม 2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคภาคกทม.ได้แถลงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ว่า การประชุมในวันนี้มีวาระสำคัญ 2 วาระ ประกอบด้วย วาระที่ 1 การพิจารณาให้ความเห็นชอบผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในนามพรรค และพิจารณาผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) 50 เขต 50 คน วาระที่ 2 การพิจารณาให้ความเห็นชอบผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดชุมพร เขต 1 และจังหวัดสงขลา เขต 6

โดยในวาระแรก ที่ประชุม กก.บห.พรรค มีมติเห็นชอบให้ ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เป็นผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในนามพรรคประชาธิปัตย์ และให้ความเห็นชอบผู้ที่จะลงสมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) ทั้ง 50 เขต 50 คน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นอดีต สก. 13 คน และเป็นคนรุ่นใหม่ เลือดใหม่ ที่ก้าวเข้ามาร่วมงานกับพรรค 37 คน รวม 50 คน

สำหรับ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์นั้น จบปริญญาเอกด้านวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อม จากสถาบัน MIT สหรัฐอเมริกา เป็นอดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เป็นนายกสภาวิศวกรสมัยที่ 7 เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านระบบรถไฟฟ้าในคณะกรรมการดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าระดับประเทศ เป็นประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยในอดีต เป็นประธานกรรมการการเคหะแห่งชาติ เคยได้รับรางวัลเกียรติคุณระดับนานาชาติ ซึ่งเป็นเจ้าของรางวัล President Eisenhower Fellowships 2012 เป็นประธานการประชุมงานอุโมงค์โลก 2012 (World Tunnel Congress 2012) นอกจากนั้นเป็นวิศวกรดีเด่นแห่งอาเซียน ปี 2012

“พรรคประชาธิปัตย์ภูมิใจที่ได้ต้อนรับเลือดใหม่คุณภาพ อย่าง ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในนามพรรค นับจากนี้ถือว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้เสนอทางเลือกที่ดีที่สุดให้กับชาวกรุงเทพ และเราหวังว่า ดร.เอ้ จะนำชัยชนะมาสู่พรรค นำชัยชนะมาสู่พี่น้องชาวกรุงเทพมหานครทุกคน ถ้าได้รับเลือกตั้งหรือได้รับโอกาสผมมั่นใจว่า ดร.สุชัชวีร์ และทีมงานพรรคประชาธิปัตย์ สามารถเปลี่ยนกรุงเทพเราทำได้อย่างแน่นอน” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

พร้อมกับให้กล่าวถึงผลการพิจารณาให้ความเห็นชอบผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม จังหวัดชุมพร เขต 1 และจังหวัดสงขลา เขต 6 ว่า ที่ประชุมได้มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ความเห็นชอบ นายอิสรพงษ์ มากอำไพ เป็นผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม ในนามพรรคประชาธิปัตย์ เขต 1 จังหวัดชุมพร ซึ่งนายอิสรพงษ์ จบปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ปริญญาโท Coventry university ลอนดอน ประเทศอังกฤษ มีประสบการณ์ทางการเมือง เคยเป็นเลขานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร และเป็นผู้ช่วย ส.ส. นายจุมพล จุลใส จังหวัดชุมพร 

 

‘ดร.เอ้’ ยัน เชื่อโดยบริสุทธิ์ใจตามรุ่นพี่ ปม ‘เฮอเบิร์ต ไอน์สไตน์’ เป็นหลาน ‘อัลเบิร์ต’

‘ดร.เอ้’ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ แจงเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจตามรุ่นพี่ กรณีกล่าวถึง ‘เฮอเบิร์ต ไอน์สไตน์’ เป็นหลาน ‘อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์’ อ้างนักวิชาการไทยก็เชื่ออย่างนั้น

เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า ดร.เฮอร์เบิร์ต ไอน์สไตน์ ศาสตราจารย์จากภาควิชาวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อม สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (เอ็มไอที) ประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่ได้เป็นญาติกับ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ อัจฉริยะด้านวิทยาศาสตร์ชื่อดังระดับโลก ตามที่นายสุชัชวีร์กล่าวอ้างว่า ตนขอชี้แจงว่าเมื่อครั้งที่ตนไปเรียนที่เอ็มไอที ก็ได้รับคำบอกเล่าจากรุ่นพี่ที่เรียนอยู่ก่อนว่าตนโชคดีมากที่ได้เรียนกับอาจารย์คนนี้ เพราะเขาเป็นหลานของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ซึ่งตนก็เชื่อโดยบริสุทธิ์ใจมาตลอด ไม่ได้มีเจตนาจะยกเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อใช้ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ทั้งนี้ ถ้าใครได้ติดตาม จะทราบว่าตนได้พูดถึงเรื่องนี้ในการบรรยายมาตลอด 4-5 ปีที่ผ่านมา เพราะตนเชื่ออย่างนั้นโดยบริสุทธิ์ใจจริง

เปิดใจ ‘เอ้ สุชัชวีร์’ ศึกชิงผู้ว่ากทม.! | Click on Clear THE TOPIC EP.110

📌เปิดอกหมดเปลือก!! ไปกับ ‘ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์’ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในนามพรรคประชาธิปัตย์!!

📌ใน Topic : เปิดใจ ‘เอ้ สุชัชวีร์’ ศึกชิงผู้ว่ากทม.!

จับประเด็น เน้นความรู้ในรายการ Click on Clear THE TOPIC

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา PROGRAM DIRECTOR THE STATES TIMES

.

.

“ดร.พิสิฐ” ขอให้คลังจัดหมวดหมู่กองทุนหมุนเวียนให้รวมเฉพาะส่วนที่เป็นงานของราชการ เพื่อความโปร่งใสทางการคลัง

ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายในวาระรับทราบรายงานผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน ประจำปีบัญชี 2562 ว่า กองทุนต่างๆ ที่มีอยู่ 115 กองทุนนี้ เป็นส่วนหนึ่งของระบบการคลัง และเป็นส่วนเสริมของระบบงบประมาณแผ่นดิน  ซึ่งมีวงเงินประมาณ 3 ล้านล้านบาทต่อปี แต่ยอดรวมกองทุนที่รวบรวมมานำเสนอนี้ มีตัวเลขที่สูงถึงกว่า4 ล้านล้านบาท ดูประหนึ่งว่าเงินในกองทุนเหล่านี้มีมากมายมหาศาล และเป็นที่เพ่งเล็งกันว่าน่าจะนำมาใช้จ่ายเพื่อประโยชน์ทางการกระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่านี้ 

ดร.พิสิฐ ชี้ว่า ตัวเลขที่ได้รวบรวมมาเสนอต่อสภานี้ แม้ได้ทำไปตามกฎหมายกองทุน ที่จะต้องนำเสนอภาพรวมต่อครมและสภา แต่หากทำในลักษณะนี้จะทำให้เกิดความไขว้เขวว่าเรามีเงินเยอะ ความจริงแล้วในบรรดา 4 ล้านล้านบาทที่ปรากฎในรายงาน กว่าครึ่งหนึ่งเป็นของกองทุนประกันสังคม ซึ่งเงินกองทุนประกันสังคมก็เป็นเงินของลูกจ้างที่ได้จ่ายสะสมและนายจ้าง กับรัฐได้จ่ายสมทบให้ทำให้เงินกว่าครึ่งหนึ่งหรือสองล้านล้านบาทเราจะไปแตะต้องไม่ได้ และไม่ควรนำมารวมอยู่ในรูปของกองทุนณ ที่นี้ นอกจากนี้ยังเงิน กองทุน กบข. ก็เป็นเงินออมของข้าราชการที่สะสมเก็บเพื่อใช้ยามเกษียณ มียอดเกือบ1 ล้านล้านบาท ก็เป็นอีกก้อนหนึ่งที่แตะต้องไม่ได้ ดังนั้นจะเห็นได้ว่า จากยอด 4 ล้านล้านบาทที่ได้รวบรวมมา มีถึง 3 ใน 4 ที่ไม่ใช่เงินของรัฐบาลโดยตรง แต่เป็นเงินที่มีกฎหมายรองรับอยู่ว่าเป็นของผู้อื่น ยังมีเงินกองทุนที่มีจำนวนเงินไม่มาก ตัวอย่างเช่นกองทุนผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภาเป็นต้นก็อยู่ในลักษณะเดียวกัน

แม้กระทั่งเงินที่มีฐานะเป็นนิติบุคคลต่างๆเช่น เงินกองทุนน้ำมัน ที่มีกว่า 4 หมื่นล้านบาท ที่ฝากไว้ที่กระทรวงการคลัง และกระทรวงการคลังเก็บเป็นส่วนหนึ่งของเงินคงคลัง ก็เป็นอีกก้อนหนึ่งที่แตะต้องไม่ได้ เพราะมีกฎหมายบังคับเฉพาะอยู่แล้วว่าไม่อาจใช้เพื่อการอื่นได้ แต่ใช้เพื่อพยุงราคาน้ำมันเท่านั้น 

ดังนั้น ดร.พิสิฐ จึงได้เน้นถึงเรื่องการแยะแยะเงินเหล่านี้ โดยจัดหมวดหมู่ของกองทุนต่างๆให้ชัดเจน 
แต่ที่คลังได้จัดหมวดหมู่มา 5-6 ประเภทในรายงานนั้น ไม่น่าจะเกิดประโยชน์ในการวิเคราะห์ หรือประเมินภาพรวมเงินกองทุนตามเจตนารมย์ของกฎหมายกองทุนควรเลือกเฉพาะกองทุนที่มีลักษณะคล้ายกับงบประมาณรายจ่ายแผ่นดินคือมีแหล่งรายได้หลักมาจากรัฐบาล หรือเป็นรายได้ที่รัฐบาลกำหนดให้ และเป็นงานที่มีลักษณะส่งเสริมสนับสนุนนโยบายส่วนกองทุนอย่าง กองทุนประกันสังคม กองทุน กบข. ที่มีกฎหมายรองรับอยู่แล้ว มีเจ้าของเงินชัดเจนก็จะต้องจัดไว้อีกหมวดหมู่หนึ่ง เพราะถือว่ามีลักษณะเชานเดียวกับรัฐวิสาหกิจที่มีเงินมาก แต่แยกตัวออกไปไม่ใช่กองทุน ซึ่งหากได้จะจัดหมวดหมู่ให้ชัดเจนตามที่เสนอนี้ เราก็จะได้ประโยชน์ มีความชัดเจนโปร่งใส ได้ข้อมูลเงินนอกงบประมาณที่ช่วยนำมาใช้วิเคราะห์งบประมาณรายจ่ายและหนี้สินทรัพย์สินในะบบการคลังได้

ทุกวันนี้มีปัญหาว่า จะมีความพยายามใช้เงินในระบบงบประมาณแผ่นดิน แต่เมื่อจ่ายไปแล้ว เงินอาจไม่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ แต่อาจจะไปจมอยู่ในกองทุนต่างๆ และไม่ออกไปนอกระบบการคลังทำให้กองทุนเหล่านี้กลายเป็นบ่อพักของเงินงบประมาณแผ่นดิน และไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของการใช้จ่ายของรัฐบาล

ขณะเดียวกัน หากจะวิเคราะห์ลึกลงไป ก็พบว่ายังมีเงินอีกหลายประเภทที่มีลักษณะคล้ายเงินกองทุนดังกล่าว เช่น เงินทุนหมุนเวียนในหน่วยงานต่างๆ ที่เรียกรวมๆว่าเงินนอกงบประมาณ จะมีวิธีการใดหรือไม่ที่จะสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ให้มาแสดงภาพรวมด้วยกัน เพื่อจะได้เห็นว่าเงินแผ่นดินเหล่านั้นมีจำนวนเท่าใด  เช่น เงินที่เกี่ยวกับการศึกษา ซึ่งมหาวิทยาลัยต่างๆ โรงเรียนต่างๆ ของรัฐได้จากค่าเล่าเรียนที่เป็นเงินนอกงบประมาณ ซึ่งต้องถือว่าเป็นบัญชีเงินทุนหมุนเวียนเช่นกัน 

'มิสเตอร์เอทานอล' เชื่ออะไรก็เกิดขึ้นได้ หลัง 'ดร.เอ้' ชู!! กทม.เจ้าภาพโอลิมปิก 2036

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์ เจ้าของฉายา “มิสเตอร์เอทานอล” เขียนข้อความในเฟซบุ๊กเรื่อง “ฝันของ ดร.เอ้กับ โอลิมปิก 2036”

"No Dream No Possibility" ซึ่งเป็นการให้ข้อคิดต่อข้อเสนอเชิงนโยบายของ ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ (เอ้) สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่ากรุงเทพมหานคร

โดยนายอลงกรณ์นำเสนอมุมมองต่อเรื่องนี้ว่า หลังจาก ดร.เอ้ สุชัชวีร์ ผู้สมัครผู้ว่ากทม. พรรคประชาธิปัตย์ ประกาศนโยบายเสนอกรุงเทพเป็นเจ้าภาพจัดโอลิมปิก 2036 ก็มีการวิจารณ์ฮือฮาในโลกโซเชียลมีเดียทั้งเชิงบวกเชิงลบ รวมทั้ง Blockdit ก็ยังให้ความสำคัญกับกรณีนี้ ส่วนหนึ่งคิดว่าเป็นฝันลมๆ แล้งๆ แต่ไม่น้อยมั่นใจว่าเป็นฝันที่เป็นจริง

“ผมจึงนำประสบการณ์ส่วนตัวมาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับความฝัน ผมก็เคยฝันจะให้ประเทศไทยผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงเอทานอลจากพืชเพื่อลดการนำเข้าเมื่อปี 2543 หรือ 20 ปีที่แล้ว ตอนนั้นคนส่วนใหญ่ไม่เชื่อและไม่ยอมรับรวมทั้งอุตสาหกรรมน้ำมันและอุตสาหกรรมรถยนต์ แม้แต่เจ้าของรถก็เกรงว่าเอทานอลจะทำให้เครื่องยนต์เสียหาย”

เราฝันและลงมือทำงานเพียง 10 เดือนก็สามารถเสนอผ่านมติคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลประชาธิปัตย์สมัยท่านชวน หลีกภัยเป็นนายกรัฐมนตรี

'ซูเปอร์โพล' เผยผลสำรวจนักการเมืองน่าประทับใจที่สุดแห่งปี 2564 ฝั่งรัฐบาล 'บิ๊กตู่-จุรินทร์' ฝ่ายค้าน 'พิธา-สุทิน'

เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 64 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ เรื่อง ที่สุดแห่งปี 2564 ด้านการเมืองภาพใหญ่ กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศโดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,086 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 11-17 ธ.ค.ที่ผ่านมา พบว่า ที่สุดแห่งปี 2564 ด้านการเมืองภาพใหญ่ ผลสำรวจพบ นักการเมืองฝ่ายรัฐบาล ที่น่าประทับใจ และน่าพอใจที่สุดแห่งปี 2564 โดย 3 อันดับแรก ได้แก่ 

อันดับ 1 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ร้อยละ 31.6 
อันดับ 2 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร้อยละ 22.4 
และอันดับ 3 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร้อยละ 8.8 ตามลำดับ 

ส่วนนักการเมืองฝ่ายค้าน ที่น่าประทับใจ และน่าพอใจที่สุดแห่งปี 2564 ใน 3 อันดับแรก ได้แก่ 
อันดับ 1 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ร้อยละ 32.9 
อันดับ 2 นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 15.0 
และอันดับ 3 นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 5.1 ตามลำดับ

สำหรับผลงานของรัฐบาลที่น่าประทับใจ และน่าพอใจที่สุดแห่งปี 2564 ใน 3 อันดับแรก ได้แก่ 
อันดับ 1 โครงการคนละครึ่ง ร้อยละ 50.4 
อันดับ 2 เพิ่มกำลังซื้อบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ร้อยละ 12.6 
และอันดับ 3 โครงการประกันรายได้เกษตรกร ร้อยละ 11.4 ตามลำดับ 

ส่วนพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล ที่น่าประทับใจ และน่าพอใจที่สุดแห่งปี 2564 ใน 3 อันดับแรก พบว่า 
อันดับ 1 ยังคงเป็น พรรคพลังประชารัฐ ร้อยละ 30.3 
อันดับ 2 พรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 23.9 
และอันดับ 3 พรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 17.4 ตามลำดับ 

ขณะที่พรรคการเมืองฝ่ายค้านที่น่าประทับใจ และพอใจที่สุดแห่งปี 2564 ใน 3 อันดับแรก ได้แก่ 
อันดับ 1 พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 41.6 
อันดับ 2 พรรคก้าวไกล ร้อยละ 32.5 
และอันดับ 3 พรรคเสรีรวมไทย ได้ร้อยละ 11.3 ตามลำดับ

‘อลงกรณ์’ เปิดวิสัยทัศน์ ลุยปฏิรูปเกษตรไทย ชี้ ต้องปลดกระดุมทุกเม็ดแล้วกลัดใหม่

วันที่ 4 ม.ค. 64 นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารมว.เกษตรและสหกรณ์ รองหัวหน้าพรรค และประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อดีต ส.ส. 6 สมัย และอดีตรัฐมนตรี เขียนบทความผ่านเฟซบุ๊ก เรื่อง “ปฏิรูปเกษตรไทย อนาคตประเทศไทย” “ปลดกระดุมทุกเม็ดแล้วกลัดใหม่” เป็นตอนที่ 2 ของซีรีส์ ”ก้าวใหม่ประเทศไทย” โดยระบุว่า องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) โครงการอาหารโลก (World Food Program) องค์การสหประชาชาติ (UN) และองค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานผลการประชุมสุดยอดระบบอาหารโลก (UN Food System Summit 2021) โดยสรุปว่า โลกกำลังเผชิญภาวะขาดแคลนอาหารจากประชากรโลกที่เพิ่มขึ้นและการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ประชากรโลกประสบปัญหาการเข้าถึงอาหารและราคาอาหารจะแพงขึ้นเป็นวิกฤติของโลกแต่ก็เป็นโอกาสของไทยในฐานะประเทศผู้ผลิตและส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารชั้นนำของโลก 

ประเทศไทยของเรามีศักยภาพการผลิตและการตลาดด้านเกษตรและอาหารสูงมาก
ปี 2560 เราเป็นประเทศผู้ส่งออกอาหารอันดับ 14 ของโลก
ปี 2561 ขึ้นเป็นอันดับ 12 ของโลกซึ่งมีเพียง 2 ประเทศเท่านั้นที่ปีเดียวขึ้น 2 อันดับและเป็นครั้งแรกที่ขึ้นเป็นที่ 2 ของเอเชียรองจากประเทศจีนเท่านั้น
ปี 2562 ขยับต่อเนื่องขึ้นเป็นอันดับ 11 ของโลกและยังครองอันดับ 2 ของเอเชีย
นับเป็นประเทศ “หนึ่งเดียวในโลก” ที่ 2 ปีขึ้น 3 อันดับ
ไทยแลนด์ โอนลี่ครับ

หลังโควิดคลี่คลาย เราจะสานฝัน “ครัวไทย ครัวโลก” สู่อันดับท็อปเท็นของโลกตามนโยบายของรัฐบาล

วันนี้สินค้าเกษตรสินค้าอาหารและสินค้าเกษตรอุตสาหกรรมของไทยติดท็อปเท็นของโลกจำนวนไม่น้อย เช่น ยางพารา ยางรถยนต์ ถุงมือยาง น้ำตาล ทุเรียน ข้าว สับปะรดกระป๋อง อาหารทะเล ทูน่ากระป๋อง อาหารสัตว์เลี้ยง เอทานอล มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน ฯลฯ

ส่วนใหญ่ส่งออกในรูปวัตถุดิบและสินค้าแปรรูปขั้นต้นมูลค่าต่ำแบบที่เรียกว่า “ทำมากได้น้อย (More for Less)” ประเทศและเกษตรกรจึงมีรายได้น้อยมาอย่างยาวนาน เราจึงต้องเปลี่ยนใหม่สู่การ “ทำน้อยได้มาก (Less for More)”

ถ้าทำแบบเดิมๆ จะไม่สามารถยกระดับอัปเกรดภาคเกษตรเทคออฟสู่เพดานใหม่ได้

อย่างไรก็ตามแม้โจทย์จะชัดเจนในตัวเอง แต่คำถามคือ แล้วเราจะทำอย่างไร

ผมจะยกตัวอย่างการถอดสมการนำมาสู่การออกแบบโมเดลการปฏิรูปภาคเกษตรไทย

ถ้าเราย้อนมองบริษัท เช่น Amazon Alibaba Google Apple Tesla จะได้คำตอบว่าทำไมบริษัทเหล่านี้จึงสามารถทะยานขึ้นสู่บริษัทแนวหน้าของโลกภายในเวลา 20 ปี โดยเฉพาะ Apple เป็นบริษัทแรกของโลกที่มีมูลค่าตลาดทะลุ 3 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (มากกว่างบประมาณไทย 30 ล้านเท่า)

คำตอบคือ วิสัยทัศน์ เทคโนโลยีและการบริหารจัดการใหม่ๆ

อีกตัวอย่างเช่น ประเทศจีนที่พัฒนาตัวเองจากประเทศยากจนด้อยพัฒนาสู่ประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับ 2 และมหาอำนาจด้านเทคโนโลยีภายใน 30 ปี

คำตอบก็เหมือนกัน

การถอดบทเรียนจากตัวอย่างเหล่านี้ช่วยให้การดีไซน์การปฏิรูปง่ายขึ้น

การปลดกระดุมแล้วกลัดใหม่จึงเกิดขึ้นที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

เป็นกระบวนการปฏิรูปการบริหารจัดการเชิงโครงสร้างและระบบ โดยใช้เทคโนโลยีเป็นแก่นกลาง

2 ปีที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เร่งรัดการปฏิรูปภาคเกษตรเดินหน้าภายใต้ 5 ยุทธศาสตร์ของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ. (จบปริญญาเอกด้านยุทธศาสตร์โดยตรง) และนโยบายของรองนายกรัฐมนตรี จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีพาณิชย์ (เจ้าของสโลแกน “ทำได้ไวทำได้จริง”) ด้วยการสร้างกลไก 4 แกนหลัก คือภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ และภาคเกษตรกร เป็น 4 เครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต ยุทธศาสตร์เทคโนโลยีเกษตร 4.0 ยุทธศาสตร์ 3S (Safety-Security-Sustainability) เกษตรปลอดภัย เกษตรมั่นคง เกษตรยั่งยืน ยุทธศาสตร์เกษตรกรรมยั่งยืนและยุทธศาสตร์บูรณาการทำงานเชิงรุก นโยบายโลจิสติกส์เกษตร นโยบายอาหารแห่งอนาคต รวมทั้งการปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดินและการบริการ 22 หน่วยงาน เพื่อยกระดับศักยภาพองค์กรและพัฒนาต้นน้ำการผลิตด้วยการเพิ่มผลิตภาพ (productivity) ลดต้นทุน การพัฒนาคนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน (Competitiveness) ของประเทศ

สงขลา - “นิพนธ์” เสริมทัพช่วย ‘สุภาพร’ หาเสียงเลือกตั้งซ่อมเขต 6 มั่นใจ!! ชาวสงขลาไม่ทอดทิ้งพรรคประชาธิปัตย์

ที่สนามกีฬาสุขภาพ ต.พะตง บ้านทุ่งครุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งซ่อมส.ส. เขต 6 จังหวัดสงขลา นำทีมโดย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ พร้อมด้วย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค นายเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคใต้  นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช ในฐานะรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล และส.ส.คนรุ่นใหม่ อาทิ น.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งซ่อมส.ส. เขต 6 จังหวัดสงขลาเพื่อขอเสียงประชาชนให้สนับสนุน น.ส. สุภาพร กำเนิดผล ผู้สมัครส.ส.สงขลา เขต 6 เบอร์ 1 โดยมีประชาชนมาร่วมฟังปราศรัยจำนวนมาก

นายนิพนธ์ ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า วันนี้เหลืออีก 7 วัน จะถึงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งซ่อม ตนขอฝากคนที่มาแอบถ่ายคลิปการปราศรัยของพรรค ขอให้ไปรายงานให้ถูก ๆ หน่อยว่าคนมา 3 หมื่นกว่า ไม่ใช่ 5 พันคน วันนี้ตนมาหาเสียงพี่น้องชาวทุ่งลุงชาวสงขลา เขต 6 ซึ่งอีก 7 วันสุดท้ายนี้ใครมี รถมอเตอร์ไซค์ รถยนต์ นับแต่พรุ่งนี้เอารถออกจากบ้านมาช่วยหาเสียงให้กับ น.ส.สุภาพร กำเนิดผล ผู้สมัครส.ส.สงขลา เขต 6 เบอร์ 1 ช่วยกันบอกกับญาติพี่น้องให้ช่วยเลือกน้องเบอร์ 1 เข้ามาเป็นส.ส. ส่วนใครที่ไม่มีรถมอเตอร์ไซค์ และรถยนต์ แต่มีโทรศัพท์มือถือก็ขอให้ใช้สังคมโซเชียลมีเดียช่วยรณรงค์หาเสียงเลือกพรรคประชาธิปัตย์เข้ามา

 

นโยบายไม่ขายฝัน!! ‘ประกันรายได้’ ชุบชีวิตเกษตรกร 7.8 ล้านราย นโยบาย ปชป.ยุคใหม่ เน้นทำได้จริง

อย่างที่รับทราบกันดีว่า ประเทศไทย คือ ประเทศเกษตรกรรม เป็นแหล่งผลิตอาหารสำคัญของโลก ขณะที่อาชีพเกษตรกร คือ อาชีพหลักของคนไทยมาช้านาน เป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยสร้างผลผลิตให้กับคนไทยและอีกหลายล้านคนบนโลกได้มีอาหารดีๆ 

แต่ทว่า อาชีพเกษตรกร กลับเป็นอาชีพที่มีความเสี่ยงด้านรายได้เพื่อยังชีพและเลี้ยงครอบครัว นั่นเพราะการทำเกษตรมักจะไม่สามารถรับรู้ได้ว่า ผลผลิตที่ออกมานั้น จะมีราคาที่คุ้มกับที่ลงทุนไปหรือไม่ เนื่องจากมีตัวแปรจำนวนมากเข้ามาเกี่ยวข้อง 

ที่ผ่านมา พรรคการเมืองส่วนใหญ่ มักจะกำหนดนโยบายด้านราคาสินค้าเกษตรเป็นตัวชูโรง เพราะทราบดีว่า เกษตรกรเป็นฐานเสียงสำคัญ บางนโยบายสามารถจับต้องได้อย่างเป็นรูปธรรม ขณะที่นโยบายอีกจำนวนมากเป็นเพียงการขายฝัน สุดท้ายก็ทำไม่ได้ตามที่รับปากชาวบ้าน

แต่หนึ่งในนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลชุดนี้ ที่อาจกล่าวได้ว่า โดนใจเกษตรกรไทยเต็มๆ คงหนีไม่พ้น ‘นโยบายประกันรายได้เกษตรกร’ นั่นเอง

สำหรับนโยบายประกันรายได้เกษตรกร ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นนโยบายหลักของพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่เมื่อครั้งรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา และภายหลังได้เข้าร่วมรัฐบาล ทางจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ก็ได้ผลักดันนำเสนอต่อรัฐบาล เพื่อนำไปเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล โดยเริ่มจากการประกันรายได้ของพืช 5 ชนิด คือ ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และข้าวโพด 

สงขลา - “จุรินทร์” ย้ำชัด! ”น้ำหอม” สส.หญิงคนแรกของสงขลา ตำหนินักการเมืองบางคนไร้สติ ยกเงินสำคัญกว่าจรรยาบรรณ

บรรยากาศช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งซ่อมสส.เขต 6 สงขลา ค่ำคืนนี้ 12 ม.ค.64  หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ พร้อมด้วยขุนพลพรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ช่วยผู้สมัคร”น้ำหอม’ นางสาวสุภาพร กำเนิดผล ผู้สมัครของพรรคเป็น ส.ส.หญิงคนแรกของสงขลา โดยเปิดเวทีที่อาคารผู้สูงอายุ เทศบาลเมืองสะเดา จ.สงขลา โดยมีประชาชนเข้าร่วมหลายพันคน

ประเด็นสำคัญที่เป็นไฮไลต์ของทุกเวทีปราศรัยใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ในการลุยหาเสียงนั้นคือความพยายามในการสร้างประวัติศาสตร์หรือตำนานบทใหม่ให้ผู้หญิงเป็นสส.คนแรกของจังหวัดสงขลา โดยผู้หญิงคนนั้นชื่อ “น้ำหอม” สุภาพร กำเนิดผล ผู้สมัครสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งขุนพลหลายคนที๋ขึ้นเวทีพูดตรงกันว่าค่ำคืนนี้ไม่ได้มาหาเสียงแต่มาขอคะแนนเสียงจากประชาชนโดยตรง และไม่พลาดที่จะเอ่ยถึงพรรคร่วมรัฐบาลที่กลายเป็นคู่แข่งสำคัญของสนามเลือกตั้งครั้งนี้ โดยเฉพาะข้อความที่พูดโจมตีกันในเรื่องของความร่ำรวยเงินทองของผู้สมัคร

 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top