Thursday, 2 May 2024
พรรคประชาธิปัตย์

นิพนธ์ ลั่น จุรินทร์พร้อมนั่งนายกฯหากประชาชนให้ความไว้วางใจ เชื่อมั่น ผ่านงานหลายกระทรวง เป็นนักบริหารรัฐกิจมืออาชีพ และส.ส.หลายสมัย

เมื่อวานนี้ (19 มี.ค.66) บนเวทีปราศรัยใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่สนามช้างเผือก อ.เมือง จ.ยะลา นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์/ผอ.เตรียมการเลือกตั้งพรรคฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า พรรคประชาธิปัตย์เลือกหัวหน้าพรรคมานั้นคน ๆ นั้นต้องพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี โดยขอยืนยันกับพี่น้องประชาชนว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคปชป.นั้น เป็นผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมของการเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดี เพราะจากการที่ไปนั่งบริหารงานในฐานะรัฐมนตรีหลายกระทรวงก็สามารถจัดการแก้ไขปัญหาที่ค้างคาสะสมได้ทั้งหมด 

นายกชายมั่นใจ สงขลา 'ประชาธิปัตย์' สู้ได้ทุกเขต

นายเดชอิศม์ ขาวทอง ( นายกชาย ) สส.เขต 5 จ.สงขลา และ รองหัวหน้าประชาธิปัตย์ ที่รับผิดชอบการเลือกตั้งในภาคใต้ เปิดเผย หลังมีการประกาศยุบสภาฯ ว่า ในส่วนของ 'ประชาธิปัตย์' มีความพร้อมที่สุด เพื่อเข้าสู่การเลือกตั้งอย่างเต็มที่ ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี่ในพื้นที่ภาคใต้ ตนและนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคและผู้อำนวยการเลือกตั้ง ร่วมกันในการรับผิดชอบ  ที่ผ่านมาพรรคฯได้มีการเปิดตัวผู้สมัคร และลงพื้นที่พบปะ ประชาชน ในแต่ละเขตเลือกตั้งตั้งแต่ก่อนหน้านี้ มีการจัดปราศรัยไปแล้วมากกว่าทุกพรรคที่ส่งผู้สมัครในภาคใต้ พรรคมีกระแสตอบรับที่ดี และดีขึ้นโดยตลอด ทั้งกระแสพรรคกระแสผู้สมัครและหัวหน้าพรรค

การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคมีความพร้อมทั้งหัวหน้าพรรค เลขาพรรค และรองหัวหน้าพรรคที่รับผิดชอบ ไม่หนักใจและยอมรับว่าเหนื่อย เพราะทุกพรรคที่เป็นคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็น รวมไทยสร้างชาติ พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ต่างหวังที่จะ เจาะที่นั่งในภาคใต้ให้มากที่สุด แต่เราก็สู้สุดฤทธิ์ ทั้งในการรักษาที่นั่งเดิม และเอาที่นั่งที่เสียไปเมื่อการเลือกตั้งในปี 2562 กลับคืนมา ให้ได้มากที่สุด ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ภาคใต้มี สส.เพิ่มขึ้นจำนวน 60 เขต เรายังมั่นใจเต็มร้อยว่าจะได้อย่างต่ำ 40 เขต ส่วนอีก 20 เขต เป็นการชิงกัน ระหว่าง ประชาธิปัตย์ กับพรรคอื่นๆ ซึ่งเรายังอาจจะได้จำนวน สส.ใน 20 เขตนี้เพิ่มขึ้นก็ได้

นิพนธ์ฯ ย้ำ กระจายอำนาจ DNA ปชป. 'ชูกระจายอำนาจลดเหลื่อมล้ำ' พร้อมยกระดับอบต. ตั้งธนาคารท้องถิ่น เดินหน้าเมืองขนาดใหญ่สู่เมืองมหานคร ย้ำ!! ไม่ตัดเสื้อโหลบังคับท้องถิ่นให้ทำเหมือนกัน

'เครือเนชั่น' ร่วมกับ สมาคมสันนิบาตเทศบาล จัดเวทีสัมมนา 'ท้องถิ่นมั่งคั่ง ประเทศมั่นคง' พร้อมการแสดงวิสัยทัศน์จากตัวแทนพรรคการเมือง ในการเพิ่มศักยภาพท้องถิ่น เพื่อความมั่นคงของประเทศ ที่ ห้องบอลรูมชั้น 5 รร.ไฮแอทรีเจนซี กรุงเทพ สุขุมวิท 

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า การกระจายอำนาจ ถือเป็นดีเอ็นเอของประชาธิปัตย์ วันที่คิดตั้งพรรคประชาธิปัตย์เมื่อ6เม.ย.2489 วันนั้นประกาศอุดมการณ์ 10 ข้อโดยเฉพาะข้อ 5 คือพรรคจะกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะท้องถิ่นอยู่ใกล้ชิดประชาชนมากกว่าส่วนกลางโดยเฉพาะอุดมการข้อ 5 จึงไม่ต้องแปลกใจว่าไม่ว่ายุคใดที่ประชาธิปัตย์มาเป็นรัฐบาลเราเป็นคนเสนอกฎหมายกระจายอำนาจ โดยเฉพาะกฏหมายเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ตั้งแต่ปี 2528 รวมทั้งในยุคที่ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อปี2537 เราได้ยกร่างกฏหมายในการยกฐานะสภาตำบลให้เป็นองค์การบริหารส่วนตำบลจนถึงทุกวันนี้

นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า ในปี 2542 เราได้มีการจัดทำกฎหมายแผนขั้นตอนการกระจายอำนาจซึ่งจนถึงขนาดนี้เรากระจายอำนาจไปแล้วสองแผนแผนแรกคือการกระจายภารกิจให้ท้องถิ่น 245 ภารกิจแต่มีการถ่ายโอนไปแล้วกว่า 180 ภารกิจ ขณะที่แผนที่สองมีกว่า 100 ภารกิจกระจายไปแล้วกระจายไปแล้ว 77 ภารกิจขณะที่แผนที่สามกำลังจะตามมานี่คือนี่คือสิ่งที่ประชาธิปัตย์ทำเรื่องการกระจายอำนาจ

การกระจายอำนาจเป็นหนทางที่จะลดความเหลื่อมล้ำระหว่างเมืองกับชนบทเมื่อปี 2523 ในยุคที่พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้มีการจัดทำแผนพัฒนาชนบท เราเห็นความแตกต่างระหว่างเมืองกับชนบทแต่ทันทีที่เราใช้การกระจายอำนาจมาแก้ปัญหาวันนี้เราไม่มีชนบทในประเทศไทย ไม่มีตำบลไหนที่ไม่มีถนนราดยาง การกระจายอำนาจจึงมีความสำคัญต่อประเทศ และเป็นการยืนยันว่าวันนี้เรามีการกระจายอำนาจได้แล้ววันนี้เรามีแต่เมืองขนาดเล็กขนาดกลางและขนาดใหญ่

นอกจากนี้พรรคประชาธิปัตย์ จะขับเคลื่อนเดินหน้าเมืองขนาดใหญ่ไปสู่เมืองมหานคร โดยเฉพาะเทศบาลนคร วันนี้หากเทศบาลนครใดมีความพร้อม พรรคมีความพร้อมที่จะยกฐานะให้เป็นเทศบาลมหานคร หรือหากจังหวัดไหนมีความพร้อมพรรคประชาธิปัตย์เรายืนยันที่จะให้เดินหน้าไปสู่จังหวัดจัดการตนเองอย่างแน่นอน"นี่คือสิ่งที่เรากล้าบอกกับพี่น้องประชาชนนี่คือแนวทางการกระจายอำนาจและลดความเหลื่อมล้ำที่เป็นรูปธรรมชัดเจนที่สุด"

อดีต รมช.มหาดไทย กล่าวด้วยว่า มักจะมีคำครหาบอกว่ากระจายอำนาจไปมากเท่าไหร่การทุจริตมากขึ้นนั้น ขอยืนยันว่า ไม่จริง ตนในฐานะเคยเป็นนายกอบจ.มาก่อน "ผมสู้เรื่องนี้มายาวนานมากเวลาใครพูดเรื่องท้องถิ่นโกง ตนจะอ้างตัวเลขปี 2552-2559 ที่มีการประกาศว่ามีการทุจริตคอรัปชั่นในประเทศไทย 400,000 กว่าล้าน เชื่อหรือไม่ 200,000 กว่าล้าน กลับอยู่ที่ส่วนกลาง 100,000 กว่าล้านอยู่ที่รัฐวิสาหกิจ ขณะที่ท้องถิ่น164 ล้านเท่านั้น ที่กล่าวหาท้องถิ่นทุจริตจึงเป็นไม่เป็นความจริง"

'ตั๊น จิตภัสร์' ลูกหม้อ ปชป. ส่อย้ายพรรค หลังโพสต์เป็นนัย “อยู่ที่ไหนก็ได้ถ้าเห็นคุณค่า”

'ตั๊น จิตภัสร์' ส่อโบกมือลา ปชป. หลังโพสต์ข้อความเป็นนัย บอกอยู่ที่ไหนก็ได้ถ้าเห็นคุณค่า ไม่ยึดติดต้องอยู่บ้านหลังใด

(28 มี.ค.66) เมื่อช่วงดึกของคืนวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อและรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว มีใจความว่า “อยู่ที่ไหนก็ได้ ที่เค้าเห็นคุณค่าและผลงานของเรา 13 ปี กับ พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่อายุ 25 ปี ลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งแรก ในนามพรรคประชาธิปัตย์ รู้สึกเสมอมาว่าเป็นความภาคภูมิใจของตัวเราเองที่ได้ลงในนามพรรค เป็นพรรคที่สอดคล้องกับอุดมการณ์เพื่อพี่น้องประชาชนตามความตั้งใจของตั๊นตั้งแต่เด็ก วันนี้ตั๊นไม่ได้ยึดติดว่าจะต้องเป็นบ้านหลังไหน ขอเพียงมีอุดมการณ์เดียวกัน และให้โอกาสเราได้ทำงาน เพราะตั๊นยังยึดมั่นผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน และ ประเทศชาติเป็นหลัก”

‘มาดามเดียร์’ ควง ‘แนน-ศิริภา’ ลุยหาเสียงตลาดวงเวียนใหญ่ ชี้!! ฐานเสียงฝั่งธนฯ เข้มแข็ง มั่นใจ!! ประชาชนยังสนับสนุน

(28 มี.ค. 66) ที่ตลาดวงเวียนใหญ่ น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย น.ส.ศิริภา อินทวิเชียร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตคลองสาน-ธนบุรี-ราษฎร์บูรณะ พรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่บริเวณตลาดวงเวียนใหญ่ เขตคลองสาน พบปะพ่อค้าแม่ค้า และประชาชนที่เดินทางมาจับจ่ายซื้อของในช่วงเช้า เพื่อแนะนำตัว แนะนำนโยบายของพรรค รวมถึงขอเสียงสนับสนุนให้ผู้สมัครและพรรคประชาธิปัตย์

โดย น.ส.ศิริภา กล่าวว่า การลงพื้นที่วันนี้แม้จะเป็นวันแรกของย่านวงเวียนใหญ่ หลังจากมีการปรับเปลี่ยนพื้นที่เขตเลือกตั้ง แต่ก่อนหน้านี้ก็มีผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของพรรคประชาธิปัตย์ได้ลงพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง และส่วนตัวได้ทำงานในพื้นที่ กทม. มาโดยตลอดอยู่แล้ว รวมถึงยังมี ส.ก.ของพรรคฯ ในพื้นที่ ที่มีความเข้มแข็งและทำพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง เมื่อมาลงพื้นที่ก็ทำให้สัมผัสได้ว่าเสียงตอบรับจากประชาชนค่อนข้างดี สมาชิกที่อยู่ในพื้นที่ก็ยังเหนียวแน่นและรักษาพื้นที่ไว้ได้เป็นอย่างดี เพราะทุกคนของพรรคก็ทำงานหนัก และดูแลพื้นที่ ดูแลประชาชนมาโดยตลอดช่วง 4 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะช่วงที่มีสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 และถึงแม้จะมีการปรับเปลี่ยนพื้นที่เขตเลือกตั้งแต่ตนก็ยังสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง และพรรคประชาธิปัตย์ก็ทำงานกันเป็นทีมไม่ว่าจะอยู่พื้นที่ไหนก็ยังทำงานได้

ขณะที่น.ส.วทันยา กล่าวว่า การลงพื้นที่วันนี้ได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี โดยเฉพาะแฟนคลับของพรรคประชาธิปัตย์ที่ยังคงมีความเหนียวแน่น โดยเฉพาะพื้นที่เขตคลองสาน ที่มี ส.ก. ของพรรคฯ ที่เป็นตัวแทนลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง มีความเข้าใจ และเข้าถึงพื้นที่ ส่วนกรณีที่มีการปรับเปลี่ยนตัวผู้สมัครนั้น ไม่รู้สึกกังวล เพราะเชื่อมั่นว่าการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์มีการทำงานเป็นทีม และในส่วนของ กทม. นั้นไม่ว่าจะพื้นที่ไหน กทม. ก็เปรียบเสมือนเป็นเขตเดียวกัน เนื่องจากผู้คนใน กทม. มีการเคลื่อนไหวไปในเขตต่างๆอยู่ตลอดเวลา 

‘ปชป.’ เปิดตัว ‘ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.106 เขต’ สู้สนามภาคกลาง พร้อมปรับยุทธศาสตร์หาเสียง เน้นโซเชียลฯ หวังเข้าถึง ปชช.

(28 มี.ค.66) เวลา 13.30 น. ที่ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคฯดูแลภาคกลาง ร่วมกันเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. ภาคกลาง รวม 26 จังหวัด 106 เขต โดยในช่วงเช้า พรรคฯภาคกลาง ได้เชิญคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) มาให้รายละเอียดเกี่ยวกับกฎหมายพรรคการเมือง กฎหมายเลือกตั้ง และกฎระเบียบต่างๆ ของ กกต. ให้กับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ภาคกลาง เพื่อเป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจ และเป็นเจตจำนงสำคัญของพรรคฯที่ต้องการให้ผู้สมัครทุกคนได้ปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบของ กกต. โดยเคร่งครัด 

นอกจากนั้นได้มีการซักซ้อมถึงยุทธศาสตร์ นโยบายของพรรค เพื่อให้ว่าที่ผู้สมัครได้นำไปใช้ในการหาเสียงและสื่อสารกับประชาชน หรือเพื่อไปทำหน้าที่ ‘ลำโพงประชาธิปัตย์’ ในแต่ละพื้นที่ อีกทั้งเข้ารับเอกสารรับรองการเป็นผู้สมัครของพรรคปชป. ซึ่งลงลายเซ็นโดยหัวหน้าพรรค สำหรับนำไปยื่นสมัครรับเลือกตั้งในวันที่ 3 เม.ย.นี้

ทั้งนี้นายจุรินทร์ กล่าวว่า ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 106 เขต ล้วนเป็นบุคลากรที่มีศักยภาพ และพรรคได้คัดสรรมาแล้วเป็นอย่างดี หากพี่น้องประชาชนให้โอกาสก็พร้อมจะทำหน้าที่ ส.ส.ที่ดีได้ต่อไป ซึ่งผู้สมัครดังกล่าว ประกอบไปด้วย คนรุ่นใหม่ นักธุรกิจ ผู้นำเกษตรกร นักวิชาการ สื่อสารมวลชน รวมทั้งผู้นำสตรี ซึ่งในจำนวน 106 คน เป็นสตรีถึง 11 คน และในจำนวนนี้ เป็นรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรี 3 คน คือ นายสาธิต  ปิตุเตชะ รมช. สาธารณสุข เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 ระยอง นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีต รมช.พาณิชย์ เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 เพชรบุรี นายธีระ สลักเพชร อดีต รมว.วัฒนธรรม เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ตราด นอกจากนี้ ยังมีอดีต ส.ส. ของพรรค 13 คน ไม่ว่าจะเป็น นายกัมพล สุภาแพ่ง นายอภิชาติ สุภาแพ่ง จ.เพชรบุรี นายฉัตรพันธ์ เดชกิจสุนทร จ.กาญจนบุรี นายยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา จ.จันทบุรี นางพจนารถ แก้วผลึก จ.ชลบุรี นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ จ.นครนายก นายมนตรี ปาน้อยนนท์ นายจักรพันธ์ ปิยพรไพบูลย์ นายประมวล พงศ์ถาวราเดช จ.ประจวบคีรีขันธ์ นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ นายธารา ปิตุเตชะ จ.ระยอง นายนิติรัฐ สุนทรวร จ.สมุทรสาคร และ นายปรพล อดิเรกสาร จ.สระบุรี 

“ทั้งหมดนี้เป็นทัพหน้าของประชาธิปัตย์ ที่จะลงพื้นที่บุกเขตเลือกตั้ง เพื่อนำชัยชนะมาสู่พรรคในพื้นที่ภาคกลางในการเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้ ผมขอฝากไว้กับพี่น้องภาคกลางทุกจังหวัด ขอให้ช่วยสนับสนุนประชาธิปัตย์ ทั้งคนทั้งพรรคในการเลือกตั้งที่จะมาถึง” นายจุรินทร์กล่าว 

นายสาธิต กล่าวว่า ขณะนี้ภาคกลางมีความพร้อม 100% เพื่อเดินหน้าไปสู่การรับสมัครในวันที่ 3 เม.ย.นี้ โดยผู้สมัครของพรรค มีความหลากหลายตั้งแต่ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำเกษตรกร ผู้นำสตรี อดีตรัฐมนตรี นอกจากนี้ยังมีคนรุ่นใหม่ที่จะมีส่วนในการสร้างอนาคตอีกด้วย ดังนั้นถือว่าพรรคประชาธิปัตย์ของเรามีความพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้งแล้วอย่างเต็มที่ 

จากนั้นนายสาธิตให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า วันนี้เปิดตัวทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงอีก 4 เขต คิดว่าไม่มีปัญหา โดยในวันพรุ่งนี้ (29 มี.ค.) จะทำไพรมารีและส่งให้คณะกรรมการสรรหารับรองต่อไป ซึ่งถือว่าทุกคนเป็นคนรุ่นใหม่มีความสามารถ โปรไฟล์ดี พร้อมที่จะต่อสู้ในสนามเลือกตั้งครั้งนี้แน่นอน

เมื่อถามว่า การปรับยุทธศาสตร์ในการหาเสียง เนื่องจากพื้นที่ภาคกลางมีการต่อสู้กันสูง นายสาธิต กล่าวว่า มีการอบรมกติกาและระบบการเลือกตั้งให้กับว่าที่ผู้สมัคร ซึ่งทุกเขตต้องมีศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง ซึ่งการหาเสียงจะใช้วิธีเดิมไม่ได้ จะต้องมีทั้งระบบเครือข่ายอยู่ในทุกพื้นที่ เพื่อนำข้อมูล ผลงานของพรรคฯและผู้สมัครเข้าถึงประชาชนให้ได้มากที่สุด รวมถึงการใช้โซเชียลมีเดียเพื่อให้ข้อมูลผู้สมัครอยากนำเสนอเข้าถึงประชาชนให้มากที่สุด ซึ่งเป็นระบบที่พรรคฯได้วางให้ผู้สมัครทุกคนได้ทำในแพตฟอร์มเดียวกัน ถือว่าเป็นการวางระรบบให้เข้าถึงเพื่อจูงใจประชาชน ในเขตเลือกตั้งนั้นๆ

เมื่อถามว่าในส่วนของภาคกลางได้ตั้งเป้าว่าจะได้ส.ส.เท่าไหร่ นายสาธิต กล่าวว่า เดิมในพื้นที่ภาคกลางพรรคปชป.ได้ 8 คน ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้ตั้งเป้าว่าจะได้ส.ส.ให้มากที่สุด เพราะการประเมินยังทำได้ยาก เนื่องจากเวลาเราลงพื้นที่แม้จะมีคนตัดสินใจไปแล้ว นับตั้งแต่วันที่ผู้สมัครได้เบอร์ ยังมีผู้ยังไม่ได้ตัดสินใจเยอะ จึงมั่นใจว่าความขยัน และระบบการหาเสียงที่ใช้เทคโนโลยีรูปบบแบบใหม่ จะจูงใจให้คนที่ยังไม่ตัดสินใจมาสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์และผู้สมัครของเราได้ ทั้งนี้การหาเสียงรูปแบบใหม่เวลาปราศรัยไม่จำเป็นต้องมีคนเยอะ และจะไม่ทำผิดกฎหมายเพราะขณะนี้มีการไลฟ์สดออกโชเชียลมีเดียได้ ถ้าเราโพสต์ในเฟสบุคก็ซื้อไลฟ์ได้ แต่ต้องแสดงค่าใช้จ่ายทั้งหมด ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีที่เราต้องนำมาใช้ให้ทันยุคสมัย

“นิพนธ์” มั่นใจ สงขลา เขต 1 เขต 2 เขต 3 ประชาธิปัตย์มาทั้งแผง

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค และ ผู้อำนวยการเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่ง เป็นผู้รับผิดชอบเขตเลือกตั้งที่ 1 ที่ 2 และ 3 ของ จ.สงขลา เปิดเผยว่า จากการที่ผู้สมัครทั้ง 3 เขต  ได้ทำการลงพื้นที่พบปะกับประชาชนในเขตเลือกตั้งอย่างต่อเนื่อง ตั้งปี 2565 เป็นต้นมา ได้รับกระแสตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี เวลาทีเหลือก่อนที่จะถึงวันเลือกตั้ง ผู้สมัครทุกเขตและผู้ให้การสนับสนุนทั้งในพื้นที่และของพรรค จะช่วยหาเสียงอย่างเต็มที่  ในฐานะที่ทำงานการเมืองมานาน มีประสบการณ์ ทำให้เชื่อมั่นว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เขตเลือกตั้งทั้ง 3 ได้ ผู้สมัครของพรรคจะได้เลือกกลับเข้ามาอย่างแน่นอน


ในการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ มีนโยบายที่นำเสนอต่อประชาชนที่ชัดเจน ทั้งในเขตเมืองใหญ่ เมืองขนาดกลางและเมืองเล็ก เพราะวันนี้ประเทศไทยภายใต้ นโยบายการกระจายอำนาจ ที่พรรคประชาธิปัตย์ทำสำเร็จ ทำให้ประเทศไทยไม่มีเขตชนบทอีกต่อไป นโยบาย” “สร้างคน  สร้างเงิน สร้างชาติ “ ที่เป็น นโยบายหลักของพรรค เป็นนโยบายที่ทำได้จริง และหลายอย่างทำสำเร็จมาแล้ว เช่นการ ประกันรายได้ให้เกษตร การแจกโฉนดที่ดิน ซึ่งตนเป็น รมช. มหาดไทยมา 3 ปี สามารถแจกโฉนดที่ดินถึง 400,000 ฉบับ ถ้าประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาลอีก จะแจกโฉนดให้ได้ 1 ล้านฉบับในเวลา 4 ปี

ปชป.ส่งผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต ครบทั้ง 9 เขต ในวันแรกของการรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.จังหวัดสงขลา

วันนี้ 3 เม.ย.66 นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรค ปชป. เข้าสังเกตการณ์และให้กำลังใจแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จากพรรคประชาธิปัตย์แบบแบ่งเขตทั้ง 9 เขตเป็นวันแรก ในการเปิดรับสมัคร ณ อาคารศูนย์กีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา โดยมีกรรมการสาขาพรรคทั้ง 9 เขต พร้อมแกนนำพรรค  เดินทางมาให้กำลังใจแก่ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งทั้ง 9 เขตอย่างเนืองแน่น บริเวณอาคารศูนย์การกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ซึ่งผลการรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคประชาธิปัตย์ เขตเลือกตั้งที่ 1 นายสรรเพชญ บุญญามณี หมายเลข  4

 

เขต 2 นายนิพัฒน์ อุดมอักษร หมายเลข 4  
เขต 3 นายสมยศ พลายด้วง หมายเลข 4
เขต 4 นายชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว หมายเลข 6
เขต 5 นายเดชอิศม์ ขาวทอง หมายเลข 3
เขต 6 นางสาวสุภาพร กำเนิดผล หมายเลข 2
เขต 7 นายศิริโชค โสภา หมายเลข 2
เขต 8 พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ หมายเลข 7
เขต 9 นายศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง หมายเลข  1

‘จุรินทร์’ ขอทวงคืนเก้าอี้ ส.ส. กทม. เชื่อคนกรุงให้โอกาส เพราะ ปชป. ไม่เคยทิ้งพื้นที่

‘จุรินทร์’ ขอคืนที่นั่ง ส.ส.กทม. ชี้กรุงเทพฯ คือลมหายใจของปชป.เตรียมเปิดปราศรัยใหญ่ที่ลานคนเมืองศุกร์นี้ ปัดวิจารณ์ นโยบายเติมเงินดิจิทัลของ ‘เศรษฐา’ 

(6 เม.ย. 66) เวลา 09.20น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงพรรคประชาธิปัตย์ครบรอบ 77 ปี ในฐานะผู้นำพรรคฯ จะนำพาพรรคฯเดินต่อไปอย่างไร ว่า อย่างน้อยที่สุดในสถานการณ์นี้ก็จะต้องนำพรรคเข้าสู่การเลือกตั้ง ขอเรียนว่าพรรคประชาธิปัตย์พร้อมทั้งคนทั้งนโยบายและพร้อมทั้งหัวหน้าพรรคที่จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีต่อไป ทั้งนี้มั่นใจว่าพรรคประชาธิปัตย์ จะได้รับเสียงตอบรับที่ดีขึ้นจากพี่น้องประชาชนทุกภาคทั่วทั้งประเทศ จากการที่ลงพื้นที่มาตลอดอย่างต่อเนื่อง และขอวิงวอนประชาชนชาวไทยทั้งประเทศโปรดช่วยสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งชาวประชาธิปัตย์จากทั่วประเทศที่มีอยู่จำนวนมากมายมหาศาล รวมทั้งคนที่เคยเลือกเรา ก็ขอให้สนับสนุนพรรคฯต่อไป ส่วนคนที่ทิ้งเราไปในคราวที่แล้ว คราวนี้ขอเรียกร้องให้กลับมาช่วยกันจับมือกับประชาธิปัตย์เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเพื่อพาพรรคฯไปสู่ความสำเร็จในการเลือกตั้ง ไม่ใช่เพื่อเราแต่เพื่ออนาคตที่ดีกว่า

เมื่อถามว่าจากการเป็นสถาบันการเมืองที่ผ่านมา 77 ปีแล้วในขณะที่พรรคอื่นล่มสลายและแปลเป็นพรรคอื่นตรงนี้จะเป็นจุดขายของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า นี่คือจุดขายสำคัญที่ตนคิดว่าถ้าประชาชนเลือกเราจะไม่ผิดหวังเพราะไว้ใจได้ ประชาธิปัตย์เป็นสถาบันการเมืองที่อยู่มาตั้งแต่อดีต ปัจจุบันและจะอยู่จนอนาคตเพื่อรับใช้ประชาชน ดังนั้นถ้าประชาชนเลือกประชาธิปัตย์ ครั้งหน้าประชาธิปัตย์ยังอยู่ ทำผิดทำถูกก็สามารถมาทวงทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งทวงนโยบายและความรับผิดชอบ และขอเรียนว่านโยบายในการขับเคลื่อนประเทศและหาเสียงอยู่บนพื้นฐานความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เราคิดและทำมาแล้ว และตกผลึกเพื่อที่น้องคนไทยทั้งประเทศอย่างแท้จริง

‘เฉลิมชัย-นริศ’ นำดอกไม้ร่วมยินดี 15 ปี ‘ภูมิใจไทย’ ด้าน ‘อนุทิน’ ลั่น ความสัมพันธ์ยังเหนียวแน่น

‘เฉลิมชัย-นริศ’ นำดอกไม้ร่วมยินดี 15 ปี  ‘ภูมิใจไทย’ ลั่นเป็นมหามิตร ด้าน ‘อนุทิน’ ย้ำ สัมพันธ์เหนียวแน่น บอกรอดูตัวเลขก่อนจับมือร่วมรัฐบาล 

(6 เม.ย. 66) พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นำโดย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และนายนริศ ขำนุรักษ์ รมช.มหาดไทย นำแจกันดอกไม้ มาอวยพรพรรคภูมิใจไทย เนื่องในโอกาสก้าวเข้าสู่ปีที่ 15 ณ ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย (ภท.) โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบรมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรค นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีต ส.ส.อุทัยธานี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย มาให้การต้อนรับ โดยทันทีที่มาถึงนายอนุทิน และนายศักดิ์สยาม ได้เข้าสวมกอดนายเฉลิมชัย เพื่อตอกย้ำความสัมพันธ์ระหว่าง 2 พรรค ต่อหน้าสื่อมวลชน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top