Saturday, 18 May 2024
พรรคประชาธิปัตย์

สรรเพชญ ประชาธิปัตย์ พบ ไอติมก้าวไกล ถนนคนเดินสงขลาฯ ย้ำ ยึดมั่นอุดมการณ์พรรคปชป. คงไว้ซึ่งประโยชน์สูงสุดของประชาชนและประเทศชาติ

นายสรรเพชญ บุญญามณี ผู้สมัครส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขต 1 จังหวัดสงขลา หมายเลข 4 ลงพื้นที่ถนนคนเดินสงขลาแต่แรก ในเขตเทศบาลนครสงขลา  จังหวัดสงขลา เพื่อแนะนำตัวและ ประชาสัมพันธ์นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ให้เป็นที่รับรู้ของพี่น้องประชาชน โดยในการเลือกตั้งครั้งนี้ นายสรรเพชญ บุญญามณี ได้หมายเลข 4 ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้หมายเลข 26 

โดยบรรยากาศในช่วงการเดินพบปะเพื่อขอคะแนนเสียงจากพี่น้องประชาชนที่มาเที่ยวชมตลาดถนนคนเดินฯนั้น ได้มีการพบกับ ไอติม พริษฐ์ จากพรรคก้าวไกล ที่เดินทางมาช่วยผู้สมัครในพื้นที่อีกด้วย ซึ่งทั้งนายสรรเพชญ และ ไอติม พริษฐ์ นั้นเคยอยู่ในกลุ่มการเมือง New Dem กลุ่มคนรุ่นใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ด้วยกัน แต่ในการเลือกตั้งครั้งนี้ อยู่ต่างพรรคกัน 

โดยนายสรรเพชญ กล่าวในช่วงที่มีการพบปะกับไอติม ว่า “ขอให้กำลังใจกับไอติม พริษฐ์ และ พรรคก้าวไกล ในการลงพื้นที่หาเสียงแข่งขันเพื่อนำเสนอสิ่งที่ดีๆให้แก่พี่น้องประชาชน และขอให้ต่างฝ่ายต่างมีโอกาสได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนในการเข้าไปทำหน้าที่เป็นตัวแทนประชาชนเพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่ให้เจริญรุ่งเรือง เป็นที่พึ่งของประชาชนในฐานะส.ส.”

รู้จัก 'เท่ห์-พิทักษ์เดช' เบอร์ 1 เขต 3 เมืองคอน ขอเชื่อมทุกความร่วมมือ พาความเจริญสู่พื้นที่

หลายคนสอบถามมาว่า “เท่ห์-พิทักษ์เดช เดชเดโช' เป็นใครมาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.เขต 3 (หัวไทร-ปากพนัง) สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ 

ก็บอกตามตรงว่า “ส่วนตัวไม่รู้จักกัน” แต่ผมรักพ่อเขา “วิฑูรย์ เดชเดโช” อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช (ผู้ล่วงลับ) กับ “กนกพร เดชเดโช” นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช คนปัจจุบัน

เท่ห์ เป็นทายาทคนที่ 3 จาก 4 คนพี่น้อง “เดชเดโช” จบมัธยมปลาย จากโรงเรียนเบญจมราชูทิศ นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโรงเรียนชายอันดับหนึ่งของนครศรีธรรมราช ถ้าเป็นโรงเรียนหญิงก็จะเป็นโรงเรียนกัลยาณี 

ระบบการศึกษาแบบ “แพ้คัดออก” เมื่อเท่ห์ของเข้ามหาวิทยาลัยระบบปิดไม่ได้ จึงมุ่งหน้าสู่มหาวิทยาลัยเปิด “ตลาดวิชา” อย่างมหาวิทยาลัยรามคำแหง เข้าเป็น “ลูกพ่อขุน” ตามพี่ชาย “แทน-ชัยชนะ เดชเดโช” เข้าเลือกเรียนนิติศาสตร์ และจบเป็นนิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง และต่อด้วยปริญญาโทนิติศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง 

ขณะกำลังศึกษา ได้เข้าร่วมกับกลุ่มเพื่อนนักศึกษา ทำกิจกรรมทางการเมือง ออกให้ความรู้ทางด้านกฎหมายกับพี่น้องประชาชนที่ขาดความรู้ในทางด้านกฎหมาย ถือว่าเป็นนักศึกษากิจกรรมคนหนึ่ง

เท่ห์ เกิดในครอบครัวนักการเมือง เลือดในกายจึงผสมด้วยกลิ่นอายทางการเมือง เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาปัญหาการดำเนินงานในการบริหารจัดการทรัพย์สินและการบริหารจัดการหนี้ ปัญหาหนี้สินจากการบังคับคดี และปัญหาหนี้นอกระบบ

“พูดจริงๆ เท่ห์ เขาไม่อยากเข้ามาทำงานการเมืองมากนัก เขาอยากอยู่เบื้องหลัง ดูแลพี่ๆ น้องๆ ดูแลธุรกิจมากกว่า แต่ทางครอบครัวขอร้องว่าถึงเวลาแล้ว และเขาก็ตัดสินใจด้วยตัวเองเอง” แทน กล่าวถึงน้องชาย

ช่วงเปิดตัวใหม่ๆ เท่ห์ประสงค์จะลงเขต 1 (เมือง) แต่เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ได้ “ราชิต สุดพุ่ม” อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี มาลงสมัคร เท่ห์จึงเปิดทางให้ และขยับไปเขต 2 ซึ่งเดิมจะติดอำเภอปากพนังไปด้วย แต่เมื่อ ส.ส.เพิ่มเป็น 10 กกต.แบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ ปากพนังทั้งอำเภอถูกจัดให้เป็นเขต 3 ร่วมกับอำเภอหัวไทร เท่ห์จึงขอลงเลข 3 

เมื่อได้รับมอบหมายให้ดูแลพื้นที่เลือกตั้ง เขาก็ทำหน้าที่ได้ดี และตั้งใจ ขยันลงพื้นที่ พวกเราก็ไม่ผิดหวัง และเชื่อว่า ถ้าเขาได้รับเลือกตั้งก็จะทำหน้าที่ได้ดีเช่นกัน

อยากให้พี่น้องประชาชนได้ผู้นำที่เข้าใจ เข้าถึง รู้ถึงปัญหาของพื้นที่อย่างแท้จริง และ ต้องการให้การบริหารและการพัฒนาเท่าเทียมกันอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อสนองความต้องการของพี่น้องประชาชนในแต่ละพื้นที่ โดยที่จะต้องได้คำว่า “ผู้นำแห่งความร่วมมือ” นี้เป็นเจตนารมย์ของเท่ห์ในการตัดสินใจกระโดดเข้าสู่เวทีการเมือง

กล่าวสำหรับเขตเลือกตั้งที่ 3 แล้ว เดิมทีก่อนหน้านี้ น้อย-วิทยา แก้วภารดัย จากพรรคประชาธิปัตย์ เป็น ส.ส.อยู่ แต่ในการเลือกตั้งปี 2562 น้อยแพ้ให้กับสัญหพจน์ สุขศรีเมือง จากพรรคพลังประชารัฐ แบบ “หักปากกาเซียน” พูดได้ว่าเป็นเขตล้มช้าง ล้มอดีตรัฐมนตรีว่าการกนะทรวงสาธารณะสุข ดีกรี ส.ส.เขตนี้ 8 สมัย แต่เลือกตั้งครั้งครานี้ “น้อย-วิทยา” แยกตัวไปจากประชาธิปัตย์ ไปร่วมกับพรรค “ลุงตู่-รวมไทยสร้างชาติ” ส่ง “นนทิวรรธน์ นนทภักดิ์” คนสนิทมาลงสมัครรับเลือกตั้งแทน

‘ชวน’ ลุยหาเสียงคลองท่อม ช่วย ‘พิมพ์รพี’ หาเสียง ยอมรับ!! หนักใจ-วิตกกังวล เหตุผลโพลพรรครั้งท้าย

ชวน ลงพื้นที่ตลาดคลองท่อม ช่วย ผู้สมัคร ส.ส. กระบี่ เขต 3 หาเสียง ยอมรับหนักใจ ผลโพลพรรครั้งท้าย พร้อมวิตกกังวล มีการเงินอย่างหนักมาก

(14 เม.ย. 66) ตลาดคลองท่อม อำเภอคลองท่อมจังหวัดกระบี่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร และที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นางสาวพิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล นายสาคร เกี่ยวข้อง และนายธวัช ภูเก้าล้วน ผู้สมัคร ส.ส. ในพื้นที่ จ.กระบี่ ทั้ง 3 เขต

ลงพื้นที่หาเสียงในตลาดคลองท่อม อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ พบปะชาวบ้านพี่น้องประชาชนในเขต 3 ท่ามกลางบรรยากาศตลาดนัดยามเช้าในพื้นที่ซึ่งมีประชาชนเดินทักทายหาเสียงช่วย นางสาวพิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 3

นิพนธ์ ลั่นกลางเวที “คนใต้ไม่เลือกท่านชวนได้อย่างไร” พร้อม ชี้ 4 เหตุผลที่ต้องเลือกประชาธิปัตย์ ทั้งพรรค ทั้งคน  

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำขุนพลพรรคประชาธิปัตย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงาน กทม. นางวทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง และเมธี ลาบานูน รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เดินหน้าแบบดาวกระจายขึ้นเวทีปราศรัยขอคะแนนเสียงเลือกพรรคประชาธิปัตย์แบบบัญชีรายชื่อเบอร์ 26 พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขต 1 นายสรรเพชญ บุญญามณี เบอร์ 4 ณ โรงยิมเนเซี่ยม สนามกีฬาติณสูลานนท์ และนายสมยศ พลายด้วง ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 เบอร์ 4 ณ สนามวัดเทพลีลา ตำบลบ้านพรุ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

โดยสลับกันเดินสายขึ้นเวทีทั้งสองเวทีปราศรัย ท่ามกลางบรรยากาศ พี่น้องประชาชน แกนนำพรรค กรรมการสาขาพรรค ที่หลั่งไหลเข้ามานั่งตั้งแต่ช่วงบ่ายอย่างแน่นขนัด แม้อากาศจะไม่เป็นใจเท่าไหร่ในวันนี้ พร้อมมอบดอกไม้และพวงมาลัยเป็นกำลังใจแก่ขุนพลพรรคปชป. และผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์อย่างล้นหลามทั้งสองเวทีปราศรัย นายนิพนธ์ รองหัวหน้าพรรคกล่าวถึง  4 เหตุผลทำไมต้องเลือกทั้งคน ทั้งพรรคว่า นี่คือสิ่งบอกว่า ปชป.อุดมการณ์ทันสมัย ปชป.แม้ตั้งมา 77 ปี แต่ไม่ล้าสมัย ความเป็นประชาธิปัตย์เราเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่มาสืบทอดความเป็นประชาธิปัตย์ เราจะสร้างคนรุ่นใหม่มารับผิดชอบเป็นรุ่นๆ ที่จะมีอนาคตทำให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้าได้ นี่คือคลื่นลูกใหม่ ประชาธิปัตย์77 ปีทำไมต้องเลือกพรรค เลือก ส.ส. เพราะ ปชป.อยู่มาถึง 77 ปี

วันนี้นายจุรินทร์ เป็นหัวหน้าพรรคคนที่ 8 ซึ่งมีหัวหน้าพรรคที่เป็นนายกมาแล้ว 4 คน ทั้งม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช นายชวน หลีกภัยซึ่งเป็นถึงสองสมัย และเป็นประธานรัฐสภาสองครั้ง จนมาถึงนายอภิสิทธิ์ และนายจุรินทร์ซึ่งพร้อมเป็นนายกนัฐมนตรี ด้วยความรู้ความความสามารถในการทำงาน ผมอยู่ในประชาธิปัตย์มาอย่างยาวนาน ทุกครั้งที่ประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล นายจุรินทร์ จะเป็นรัฐมนตรีทุกครั้ง จึงไม่ลังเลที่จะเสนอชื่อนายจุรินทร์เป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้นจึงต้องเลือกประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 และ ผู้แทนเขตเบอร์ 4 ทั้งเขต 1 และเขต 3 ฉะนั้นจึงขอบัตร สีม่วงเลือกเบอร์ 4 เขต 1 นายสรรเพชญ บุญญามณี และ เบอร์ 4 เขต 3 นายสมยศ พลายด้วง ส่วนบัตรสีเขียวเลือกเบอร์ 26 จะได้ทั้งนายชวน นายบัญญัติ นายจุรินทร์ คุณหญิงกัลยา และนายนิพนธ์ และอีกหลายๆคน นี่คือเหตุผล ทำไมต้องเลือกทั้งพรรคทั้งคน รวมถึงดร.เอ้ และมาดามเดียร์  ดังนั้นคนบ้านเราถ้าไม่เลือกนายชวน จะเป็นไปได้ไง นมโรงเรียนเกิดขึ้นสมัยท่านชวนเป็นนายกรัฐมนตรี วันนี้ปชป.คิดต่อให้ดื่มนมทุกวัน ทั้ง 365 วัน

‘ปชป.’ เตรียมแถลงนโยบายด้านพลังงาน 19 เม.ย.นี้ ยัน!! ไม่กระทบต่อภาพรวมอุตสาหกรรมพลังงานของประเทศ

(17 เม.ย. 66) นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยว่า พรรคประชาธิปัตย์มีทีมเศรษฐกิจที่มีความแข็งแกร่งประกอบด้วยผู้มีชื่อเสียง มีความเชี่ยวชาญหลายด้าน มีผลงานในอดีตถือว่าเป็นทีมที่แข็งแกร่งมากที่สุด มีความโดดเด่นระดับแนวหน้าของประเทศมากกว่าพรรคการเมืองอื่น ๆ ภายใต้การนำของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคฯ และพร้อมเดินหน้านโยบายด้านเศรษฐกิจภายใต้แนวทาง สร้างเงิน-สร้างคน-สร้างชาติ ที่มีความชัดเจน เป็นไปได้ ไม่เป็นภาระงบประมาณของประเทศ และไม่มีผลกระทบความเสี่ยงในการดำเนินนโยบาย

‘ชวน’ ปลื้ม!! 3 อดีต ส.ส.เพชรบุรี มั่นคงอุดมการณ์ ไม่ทิ้งพรรค  วอนคนเพชรฯ เลือก ‘อลงกรณ์-กัมพล-อภิชาติ’ เบอร์ 7 ทั้ง 3 เขต 

เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 66 นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่หาเสียงที่ อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี ขึ้นรถแห่ปราศรัยหาเสียง พร้อมด้วย นายอลงกรณ์ พลบุตร ผู้สมัคร ส.ส.เพชรบุรี เขต 1 นายกัมพล สุภาแพ่ง ผู้สมัคร ส.ส.เพชรบุรี เขต 2 และนายอภิชาติ สุภาแพ่ง ผู้สมัคร ส.ส.เพชรบุรี เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 7 ทั้ง 3 เขต จากนั้นจึงเดินทักทายประชาชน ในตลาดบ้านลาดมีประชาชนให้การต้อนรับอย่างคึกคัก

‘จุรินทร์’ ลุยฝั่งธนฯ ช่วย ‘แนน ศิริภา’ เบอร์ 11 หาเสียง ลั่น!! ปชป.ไม่เคยทิ้งพื้นที่ เชื่อ อยู่ในสายตา ปชช.มาตลอด

‘จุรินทร์’ ควง ‘วิลาศ เบอร์ 2’ ลุยฝั่งธน หาเสียงช่วย ‘แนน ศิริภา’ เบอร์ 11 พบแฟนคลับ FC แน่น เตรียมเปิดปราศรัยใหญ่เปิดจุดยืน ประชาธิปไตยเต็มใบ ไม่โกง ที่วงเวียนใหญ่ 23 เม.ย.นี้

(17 เม.ย. 66) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.), นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค, นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม., ดร.รัชดา ธนาดิเรก นายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ ผู้สมัครบัญชีรายชื่อของพรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 และนายวิลาศ จันทรพิทักษ์ ผู้สมัครเขตเลือกตั้งที่ 32 เขตบางกอกน้อย บางกอกใหญ่ ภาษีเจริญ ตลิ่งชัน ธนบุรี เบอร์ 2 ได้มาช่วยกันขอเสียงสนับสนุนให้กับ น.ส.ศิริภา อินทรวิเชียร ผู้สมัครเขตเลือกตั้งที่ 24 เขตธนบุรี คลองสาน ราษฎร์บูรณะ เบอร์ 11 โดยมี น.ส.รัศมี ทองสิริไพรศรี หรือ ‘ลูกหมี’ ซุปเปอร์โมเดล, นายสมชาย เต็มไพบูลย์กุล หรือ ‘บ๊วย’ ส.ก.เขตคลองสาน และอดีตผู้สมัคร ส.ก.รวมถึงผู้สนับสนุนพรรคร่วมกันสักการะอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสิน เนื่องในการครบรอบวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งตรงกับวันที่ 17 เมษายน ของทุกปี ก่อนเดินทักทายพี่น้องย่านฝั่งธนบุรี ซึ่งพี่น้องประชาชนชาวฝั่งธนส่วนใหญ่ต่างยืนยันว่า เลือกประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 แน่นอน

นายจุรินทร์ ให้สัมภาษณ์ถึงกลยุทธ์ในการหาเสียงว่า ประชาธิปัตย์เดินหน้าทุกวันด้วย 3 ทัพ ทั้งทัพหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และอดีตหัวหน้าพรรค ทั้งท่านชวน ท่านบัญญัติ ท่านอภิสิทธิ์ ต่างมาช่วยกัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ประชาธิปัตย์สู้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ด้วยความตั้งใจจริงและรวมกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

“ผมถือโอกาสขอบคุณอดีตหัวหน้าพรรคทั้ง 3 ท่าน ท่านชวน ท่านบัญญัติ ท่านอภิสิทธิ์ และสมาชิกพรรคทุกคนที่ช่วยกันคนละไม้คนละมือ อย่างสุดกำลังความสามารถในการรณรงค์หาเสียงให้กับพรรค สิ่งนี้จะเป็นกำลังใจให้กับผู้สมัครของพรรค เป็นกำลังใจให้พวกเราชาวประชาธิปัตย์ เพื่อเร่งเดินหน้าหาเสียง และเป็นการเพิ่มแรงสนับสนุนจากพี่น้องคนไทยทั้งประเทศด้วย สำหรับในกรุงเทพมหานคร ที่แม้การเลือกตั้งคราวที่แล้วประชาธิปัตย์ไม่มีที่นั่ง ส.ส. เลย แต่พวกเราไม่เคยทิ้งพื้นที่ เชื่อว่าพี่น้องชาวกรุงเทพฯ เห็นประชาธิปัตย์อยู่ในสายตามาตลอดระยะเวลา 4 ปีเต็ม เชื่อว่าในการเลือกตั้งที่จะมาถึง พี่น้อง กทม.จะให้โอกาสประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 มากขึ้น” นายจุรินทร์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงการรับมือกับกระแสทางการเมือง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะนำพาให้พรรคประชาธิปัตย์ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งครั้งนี้นั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องนี้มี 2 ด้าน ตนอยากให้ชาว กทม.ได้พิจารณาว่าพรรคการเมืองใด และผู้สมัครของพรรคการเมืองใด มีความจริงใจกับพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ซึ่งเรื่องนี้ประชาธิปัตย์ไม่แพ้ใคร พวกเราทำงานอย่างต่อเนื่องมาตลอด 4 ปีเต็ม โดยเฉพาะช่วงโควิด ประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองหนึ่งในไม่กี่พรรคที่มีศูนย์ ศปฉ.ปชป.เพื่อช่วยจัดหาเตียงได้ถึง 5 - 6 พันเตียง และยังมีข้าวกล่องดีลิเวอรี่ ส่งตรงถึงบ้านยามประเทศล็อคดาวน์ รวมถึงถุงน้ำใจ ปชป.ที่ทำมาต่อเนื่อง

‘บัญญัติ-กัลยา-ไชยยศ-จิตภัสร์’ ขนคาราวาน ปชป.สู่อีสาน  ยิงตรงนโยบายตอบโจทย์ชาวบ้าน ประชาธิปไตยท้องอิ่ม 

(17 เม.ย.66) นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วย คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช, นายไชยยศ จิรเมธากร รองหัวหน้าพรรคดูแลพื้นที่ภาคอีสาน, น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร รองเลขาธิการพรรค และนายภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ที่ปรึกษาคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ภาคอีสาน และผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ร่วมเปิดศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง เขต 2 อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี ของนายวุฒิพงษ์ นามบุตร ผู้สมัคร ส.ส. อุบลราชธานี เขต 2 เบอร์ 4 และศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง เขต 3 อำเภอม่วงสามสิบของนายศุภชัย ศรีหล้า ผู้สมัคร ส.ส อุบลฯ เขต 3 เบอร์ 2 โดยมีพี่น้องประชาชนในพื้นที่ร่วมงานคับคั่ง

โดย นายบัญญัติ กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า จุดแข็งของ ปชป. คือ เราเป็นสถาบันพรรคการเมือง ข้อ 2 คือ มีอุดมการณ์ มีความซื่อสัตย์สุจริต มีความจริงจังต่อการแก้ปัญหาให้กับชาติบ้านเมืองและประชาชน และจุดแข็งข้อ 3 คือ ผลงานรัฐมนตรีของ ปชป. อาทิ นโยบายประกันรายได้ช่วยประคับประคองเกษตรกรให้ลืมตาอ้าปากได้ ในช่วงเศรษฐกิจของประเทศตกต่ำจากวิกฤตโควิด-19 พิสูจน์ได้จากยอดส่งออก ตนจึงมั่นใจว่า การเลือกตั้งครั้งนี้พรรค ปชป.จะไม่ผิดหวัง ขอย้ำว่าแม้จะมีคนออกไปจากพรรคไป แต่เราก็ยังมีคนไหลกลับเข้ามาอีกเป็นจำนวนมาก

‘ดรุณวรรณ’ เผย ‘จุรินทร์’ เตรียมนำ ผู้สมัครส.ส. ออนทัวร์ 19 เม.ย. นี้ ตระเวนพบปะปชช. วันเดียว 3 จังหวัด ‘ราชบุรี-สมุทรสงคราม-เพชรบุรี’

‘จุรินทร์’ ออนทัวร์ 19 เม.ย. นี้ วันเดียวสามจังหวัด ราชบุรี-สมุทรสงคราม- เพชรบุรี ตระเวนเดินสายพบประชาชน 

(18 เม.ย. 66) นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในวันพุธที่ 19 เมษายน 2566 นี้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เตรียมนำ ‘จุรินทร์ออนทัวร์’  ลงพื้นที่ในจังหวัดราชบุรี -สมุทรสงคราม- เพชรบุรี เพื่อพบปะกับพี่น้องประชาชนพร้อมเปิดเวทีปราศรัยย่อย

‘ปชป.’ ลุยดอนเมือง อ้อน ปชช.หนุน ‘ธัญญ์นิธิ’ เข้าสภาฯ เผย พรรคทำงานหนักต่อเนื่อง เชื่อ ทุกคนเห็นความตั้งใจ

ทีม ปชป. กทม. ลุยหาเสียงเขตดอนเมือง ช่วย ‘ธัญญ์นิธิ’ ด้าน ‘องอาจ’ วิงวอน ปชช.หันกลับมาเลือกประชาธิปัตย์ ขณะที่ ‘มาดามเดียร์’ ยืนยัน เดินหน้าลงพื้นที่-จัดเวทีปราศรัย หลังคะแนนนิยมพรรคยังเป็นรอง

(18 เม.ย. 66) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ดูแลพื้นที่กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง และ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม.ลงพื้นที่เขตดอนเมือง ช่วยหาเสียงให้ นายธัญญ์นิธิ ชวรัตน์นิธิโชติ ผู้สมัคร ส.ส.เขตดอนเมือง หมายเลข 7 โดยเริ่มต้นด้วยการขึ้นรถแห่รอบถนนสรงประภา และพื้นที่ใกล้เคียง ก่อนจะลงเดินทักทายรับฟังปัญหา และแนะนำผู้สมัคร ส.ส.ที่บริเวณตลาดโกสุม

นายองอาจ กล่าวว่า ผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นคนเดิมตั้งแต่ปี 2562 และอยู่ในพื้นที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับประชาชนมาโดยตลอด เชื่อว่าจะทำให้ประชาชนเห็นว่านายธัญญ์นิธิ เป็นที่ไว้วางใจและเป็นตัวเลือกเข้ามารับใช้ประชาชนในพื้นที่ต่อไป ซึ่งปกติแล้วทุกพื้นที่ก็จะมีอดีต ส.ส.ที่มีฐานเสียงเดิมอยู่แล้ว คนใหม่ก็ต้องทำงานหนักขึ้น

เมื่อถามว่าเขตดอนเมือง ถือเป็นเขตที่ยากสำหรับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายองอาจ กล่าวว่า ในการเลือกตั้ง อยู่ที่ช่วงจังหวะเวลาการเมืองในขณะนั้นมีหลายเงื่อนไข หลายปัจจัย ที่จะมีส่วนในการตัดสินใจของประชาชน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าทีมงานพรรคประชาธิปัตย์และผู้สมัคร ทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประชาชนเห็นความตั้งใจจริง และจากการลงพื้นที่มาตลอดเชื่อว่าประชาชนจะให้โอกาส ผู้สมัครเขตดอนเมือง พรรคประชาธิปัตย์

นายองอาจ ยังกล่าวถึงภาพรวมของพรรคจากการลงพื้นที่ว่า ประชาชนให้การตอบรับดี และมีประชาชนหลายคนเข้ามาพูดว่าขอโทษที่ครั้งที่แล้วไม่ได้เลือกพรรคประชาธิปัตย์และจะกลับมาเลือกซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี ว่าประชาชนที่คอยสนุบสนุนพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะใน กทม.ที่พรรคประชาธิปัตย์มีมากกว่า 1,000,000 เสียงมาโดยตลอด แต่การเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์เหลือคะแนนเพียง 390,000 เสียง

เพราะฉะนั้น คราวนี้ขอร้องวิงวอนพี่น้องประชาชน ที่เคยสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ขอให้กลับมาเลือกผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเชื่อว่าเสียงที่เคยสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่ กทม.แล้วไปเลือกพรรคอื่นในการเลือกตั้งปี 62 หากกลับมาสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ จะได้ ส.ส.ใน กทม.อย่างแน่นอน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top