Friday, 17 May 2024
พรรคประชาธิปัตย์

'สรรเพชญ' พบประชาชน ไม่ 'ขายฝัน' ทุกนโยบายทำได้จริง เน้น การศึกษา,ท่องเที่ยว และ สถาปัตยกรรม ในการ สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ

นายสรรเพชญ บุญญามณี ผู้สมัคร สส.เขต 1 สงขลา หมายเลข 4 เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่พบปะ ประชาชนในเขตเลือกตั้งมาเป็นเวลาถึง 4 ปี ดังนั้นจึงถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่ตนเองมีความพร้อมที่สุด มีการพบปะประชาชนในเขตเลือกตั้งอย่างทั่วถึง ดูแลทุกข์ สุขกันมา แบบ ญาติพี่น้อง หลังจากที่ได้เบอร์ผู้สมัคร หมายเลข 4 และได้เบอร์พรรคหมายเลข 26 จึงใช้เวลาที่เหลืออยู่ 30 กว่าวัน ลงพื้นที่ เพื่อทำความเข้าใจในเรื่องหมายเลขผู้สมัคร และหมายเลขของพรรค เพื่ออย่าให้ประชาชนสับสน โดยจะใช้เวลาที่เหลืออยู่ให้คุ้มค้าที่สุด

ส่วน นโยบายในการหาเสียง จะเน้นใน 3 ประเด็น เรื่องแรกคือเรื่องของส่งเสริมการศึกษา ให้คนใน จ.สงขลา และจากจังหวัดอื่นๆที่เดินทางศึกษาที่ จ.สงขลา ต้องได้รับโอกาส มีความเท่าเทียมในกาศึกษาเท่ากับคนที่อยู่ในกรุงเทพฯ ความเหลี่ยมล้ำในเรื่องของกาศึกษาต้องไม่เกิดขึ้น ต้องมีการกระจายอำนาจของการศึกษาอย่างเท่าเทียม ประเด็นที่ 2 คือจะทำให้ อ.เมืองสงขลา เป็นเมืองท่องเที่ยว ที่ไม่ใช่เมืองผ่าน เพราะ สงขลา มีแหล่งท่องเที่ยว ทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และ อื่นๆ 

นักท่องเที่ยวที่เข้ามาใน จ.สงขลา ต้องทำให้มาแวะพักที่ อ.เมืองสงขลา อย่างน้อย 1 คืน เพราะเม็ดเงินจากการท่องเที่ยว คือการสร้างงาน สร้างเงิน ให้กับคนใน อ.เมืองสงขลา ที่ดีกว่ารอการขายฝัน หรือรอ “เมกะโปรเจกส์ใหญ่ๆ ที่อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์ ในการแก้ปัญหาปากท้อง และความยากจนของคนในพื้นที่ ประเด็นที่ 3 ต้องการให้ อ.เมือง สงขลา เป็นศูนย์กลางทาง สถาปัตยกรรม ที่มีความสำคัญของชาติ เพราะ สงขลา เป็นเมืองเก่าแก่ มีสถาปัตยกรรม ที่ทรงคุณค่า เป็นจำนวนมา ที่จะเป็นการหนุนเสริมการท่องเที่ยว รวมทั้งในเรื่องของ คมนาคม ที่เชื่อมต่อระหว่าง หาดใหญ่ กับ สงขลา ที่ต้องมีความสะดวก และมีราคาที่ไม่แพง เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับการท่องเที่ยว นี้คือ นโยบายการ สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นการตอบโจทย์ทางการเมืองและการพัฒนาท้องถิ่น

ประชาธิปัตย์ ก้าวเข้าสู่ปีที่ 78 'จุรินทร์' ชวนสนับสนุนสถาบันการเมืองให้เติบโตก้าวหน้ารับใช้พี่น้องประชาชนต่อไป

เมื่อวานนี้ (6 เม.ย. 66) เวลา 08.00 น. ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ พรรคประชาธิปัตย์จัดพิธีทำบุญครบรอบ 77 ปี ของการก่อตั้งพรรคขึ้นที่สำนักงานใหญ่ งานดังกล่าวจัดขึ้นทุกปีโดยเริ่มจากช่วงเช้าจะมีการเริ่มพิธีทางศาสนาอิสลาม ต่อด้วยพิธีพราหมณ์เพื่อบวงสรวงพระแม่ธรณีบีบมวยผม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของพรรค จากนั้นจะได้ประกอบพิธีทางศาสนาพุทธ 

สำหรับช่วงทำพิธีศาสนาอิสลามมีแกนนำพรรค อาทิ นายชวน หลีกภัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ นายนิพนธ์ บุญญามณี นายสุทัศน์ เงินหมื่น ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ไปจนถึงผู้สมัคร ส.ส. ทั้งจาก กทม. และต่างจังหวัดเข้าร่วมพิธีอย่างคับคั่ง โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานในพิธีของทุกศาสนา

หลังเสร็จพิธีทางศาสนาอิสลาม นายจุรินทร์ได้กล่าวกับพี่น้องมุสลิมที่ร่วมในพิธีว่า พี่น้องชาวประชาธิปัตย์ทุกท่าน วันนี้ถือว่าเป็นวันมงคลยิ่งอีกวันหนึ่งของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเป็นวันคล้ายวันเกิดของพรรคซึ่งเวียนมาบรรจบครบ 77 ปีบริบูรณ์ในวันนี้ และกำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 78 ซึ่งทุกปี เราก็ทำพิธีศาสนาทั้ง 3 ศาสนา คือทั้งศาสนาอิสลาม ศาสนาพราหมณ์และศาสนาพุทธ เป็นดังนี้นับเนื่องมาตลอดระยะเวลาอันยาวนาน ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าประชาธิปัตย์ให้ความสำคัญกับทุกศาสนาเพราะว่าทุกศาสนาล้วนสอนคนให้เป็นคนดีและซื่อสัตย์สุจริต ดังเช่นที่ประชาธิปัตย์ก็ได้ยึดมั่นต่อเนื่องตลอดมา

อย่างไรก็ตาม ขออนุญาตเรียนกับพวกเราว่าก้าวที่เราเดินข้ามปีที่ 77 หลังจากนี้ไปสู่ปีที่ 78 นั้น เราไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้ ผมยังมั่นใจว่าภายใต้อุดมการณ์ ภายใต้ผลงาน ภายใต้ความซื่อสัตย์ สุจริต ที่พวกเรายึดมั่นเสมอมาตลอดระยะเวลาตั้งแต่บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งพรรค มาจนวันนี้และวันหน้า จะทำให้เราก้าวต่อไปไม่มีวันสิ้นสุดสำหรับความเป็นพรรคประชาธิปัตย์ 

และสำหรับการเลือกตั้งที่จะมาถึง ภายใต้ความเป็นเอกภาพ ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของพวกเรา ผมมั่นใจว่าเราสามารถที่จะจับมือกันขับเคลื่อนพรรคไปสู่ความสำเร็จในการเลือกตั้งได้อย่างแน่นอน พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศทั้งที่เคยเลือกเรา แล้วก็ไม่เคยเลือกเรา ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ผมต้องขอถือโอกาสนี้ขอบคุณด้วยความจริงใจจากพวกเราชาวประชาธิปัตย์ทุกคน และขอถือโอกาสนี้เชิญชวนพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศได้โปรดช่วยกันสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ พรรคการเมืองที่เป็นสถาบันทางการเมืองที่ยั่งยืนที่สุดของประเทศ พรรคการเมืองที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ความซื่อสัตย์ สุจริต การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และการทำทุกอย่างเพื่อส่วนรวมและประเทศอันเป็นที่รักยิ่งของเรา

‘ปชป.’ เล่นใหญ่!! ปราศรัยใหญ่ครั้งแรกลานคนเมือง จัดเวทีแบบ 360 องศา ขอเดินทักทายปชช. แบบใกล้ชิด

(7 เม.ย.66) ที่ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)เปิดปราศรัยใหญ่ครั้งแรก หลังสมัครรับเลือกตั้ง โดยมีแกนนำพรรค ทั้ง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคฯ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคฯ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคฯดูแลกทม.นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคฯ น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง พรรคฯ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. รวมทั้งผู้สมัครส.ส.กทม.ทั้ง 33 คน และผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ  โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

การปราศรัยครั้งนี้ปชป. จัดเวทีแบบ 360 องศา เพื่อให้ผู้สมัครส.ส.ใกล้ชิดกับประชาชน เพราะประชาชนเท่ากับประชาธิปัตย์ และเก้าอี้จำนวน 5,000 ตัว และจัดเวทีปราศรัยลักษณะตัวที ยื่นเข้าไปหากลุ่มประชาชนที่มาฟังการปราศรัย โดยให้ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 33 คน เดินโชว์ตัวที่ละคนคล้ายกับการเดินแบบ และทักทายประชาชน รวมทั้งให้ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ร่วมเดินโชว์ตัวและทักทายประชาชนด้วย นอกจากนั้นยังใช้ 3D Mapping ซึ่งเป็นการนำเอาเทคโนโลยีการและศิลปะมาผสมผสาน แล้วฉายไปยังตึกของศาลาว่าการกรุงเทพให้เป็นฉาก แทนการใช้จอภาพหรือฉากหลังแบบเดิม ๆ 

ไพฑูรย์ - นราพัฒน์ นำทีม ประชาธิปัตย์พิจิตรเปิดเวทีปราศรัยเห็นกองเชียร์ก็รู้ว่าไม่ใช่มวยรอง

วันอาทิตย์ที่ 9 เมษายน 2566 ความคืบหน้าบรรยากาศทางการเมืองของจังหวัดพิจิตร ที่แบ่งเขตการเลือกตั้งออกเป็น 3 เขต ซึ่งขณะนี้ผู้สมัครจากพรรคการเมืองต่างๆ เริ่มมีการติดป้ายโฆษณาหาเสียงเดินลงพื้นที่ขอคะแนนเสียงจากชาวบ้านกันแล้วอย่างคึกคัก

ล่าสุด นายไพฑูรย์ แก้วทอง อดีตรัฐมนตรีในหลายกระทรวงและเป็นผู้อาวุโสของพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นอดีต ส.ส.พิจิตร หลายสมัย พร้อมด้วย นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ และเป็น ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 7 ของพรรคประชาธิปัตย์ ได้เป็นผู้นำในการจัดเวทีปราศรัยย่อย ขึ้นที่อาคารชมรมผู้สูงอายุสากเหล็ก เพื่อช่วยหาคะแนนเสียงให้กับ พ.ต.ท. สามารถ แก้วทอง ผู้สมัคร ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 6  พิจิตรเขต 2 ซึ่งเป็นหลานชายของ นายไพฑูรย์ แก้วทอง โดยภายในงานนี้มี FC แฟนคลับ ของพรรคประชาธิปัตย์เกือบพันคนมาร่วมฟังการปราศรัยในครั้งนี้ โดยมีผู้ดำเนินรายการปราศรัยต่างสลับสับเปลี่ยนกันเล่าถึงนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองและเป็นสถาบันการเมืองที่เก่าแก่อยู่คู่กับระบอบประชาธิปไตยมายาวนานถึง 77 ปี อีกทั้งมีนโยบายต่างๆที่ดูแลประชาชนตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยรุ่น วัยเรียน วัยทำงาน วัยชรา จนกระทั่งเสียชีวิต ซึ่งล้วนแต่เป็นนโยบายที่ทำมาแล้วอย่างต่อเนื่อง

‘จุรินทร์’ นำทีม ‘ปชป.’  อ้อนชาวพิษณุโลก กาเบอร์ 26 ย้ำจุดยืนประชาธิปไตยไม่โกง ไม่เอาระบอบประธานาธิบดี

‘จุรินทร์’ นำทัพปชป. บุกพิษณุโลก ขอเสียงกาเบอร์ 26 ย้ำจุดยืนประชาธิปไตยไม่โกง เป็นระบบ ‘รัฐสภา’ ไม่ใช่ ‘ระบอบประธานาธิบดี’ โนคอมเมนท์ปม ‘บิ๊กตู่’ ถ้าเป็นนายกฯ ก็อีก2ปี ชี้เป็นไปตามข้อเท็จจริง-ศาลวินิจฉัยแล้ว สุดท้าย ‘พรรคยั่งยืน’  คือทางรอดประเทศ

(9 เม.ย.66) ที่ ที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาพาณิชยการ จ.พิษณุโลก นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ม.ร.ว.ศศิพฤนท์ จันทรทัต  และ นายอรัญ วงศ์อนันต์ ผู้สมัครบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 26 เดินทางมาปราศรัยย่อยให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อแนะนำผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดพิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ที่ประกอบด้วย เขต 1 นายจักษ์ พันธ์ชูเพชร เบอร์ 5 เขต 2 น.ส. ปุญชรัสมิ์ ศิริสวัสดิ์ เบอร์ 7 เขต 3 นายวิมล สารมะโน เบอร์ 1 เขต 4 น.ส.มุธิตา ทองคำนุช เบอร์ 6 เขต 5 นายพริ้ง บุญแสงสวัสดิ์ เบอร์ 4 และนำเสนอนโยบายที่มาพร้อมด้วยความรับผิดชอบ ตั้งแต่นโยบาย “ประกันรายได้ จ่ายเงินส่วนต่าง” “ชาวนารับ 30,000 ต่อครัวเรือน” “โฉนดที่ดิน 1 ล้านแปลงภายใน 4 ปี” “กรรมสิทธิ์ที่ดินทำกินให้กับผู้ทำกินในที่ดินของรัฐ” “เรียนฟรีถึงปริญญาตรีในสาขาที่ตลาดต้องการ” “Startup – SME ต้องมีแต้มต่อ” “ตรวจสุขภาพฟรี รักษาฟรี ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” “ชมรมผู้สูงอายุรับ 30,000 บาทต่อชมรม” “ธนาคารหมู่บ้าน/ชุมชนแห่งละ 2 ล้านบาท” เป็นต้น โดยมีพี่น้องประชาชนทุกช่วงวัย สนใจเข้ารับฟังการปราศรัยเต็มห้องประชุม และร่วมถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขอบคุณผู้สมัครทุกคนที่ยืนหยัดหนักแน่น มั่นคงกับประชาธิปัตย์ ไม่เปลี่ยนแปลงอุดมการณ์ ซึ่งปัจจัยนี้ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญที่คนพิษณุโลกจะพิจารณาตัวผู้สมัคร และตัวผู้สมัครทุกคนของเราก็มีความตั้งใจ มุ่งมั่นในการเข้าไปทำหน้าที่เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน พร้อมกับหวังว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้ ประชาธิปัตย์จะปักธงที่จังหวัดพิษณุโลกได้ นอกจากนี้ตนมีความเชื่อมั่นว่าพรรคประชาธิปัตย์สามารถอยู่ในใจของประชาชนได้ เพราะนอกจากอุดมการณ์ที่เป็นจุดเด่นสำคัญของพรรคแล้ว ยังมีผลงาน และนโยบายที่โดนใจ ซึ่งเป็นทั้งจุดเด่น และจุดแข็งของประชาธิปัตย์ รวมถึงแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี ที่ได้สั่งสมประสบการณ์มา ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหาร พร้อมเข้าไปทำหน้าที่ได้ จึงเชื่อมั่นว่าขณะนี้ประชาธิปัตย์มีเสียงสนับสนุนจากทั่วประเทศดีขึ้นเป็นลำดับ

เมื่อถามว่า จากการที่ภาคเหนือกำลังผจญกับฝุ่นพิษ PM 2.5 พรรคประชาธิปัตย์มีแนวทางในเรื่องนี้อย่างไร นายจุรินทร์ กล่าวว่า การแก้ปัญหามลพิษนั้น ต้องแก้ไขที่จุดนั้น หากเป็นมลพิษที่เกิดจากรถยนต์ก็ต้องแก้ที่ควันรถ รวมทั้งเร่งส่งเสริมการใช้รถ EV ให้มากขึ้น และส่งเสริมการใช้รถสาธารณะเพื่อลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์มีนโยบายสนับสนุนให้ประชาชนใช้รถ EV ให้มากขึ้น รวมถึงการเป็นฮับในการผลิตรถยนต์ EV ในภูมิภาคได้ต่อไป ส่วน PM 2.5 ที่เกิดจากการเผาป่าหรือเผาไร่ ในแต่ละพื้นที่ก็ต้องเคร่งครัดการใช้กฎหมายมากขึ้น รวมทั้งต้องเดินหน้าในการเจรจาระหว่างประเทศ เพราะปัญหาดังกล่าวไม่ได้เกิดเฉพาะที่บ้านเรา รวมทั้งการที่จะต้องไปเจรจาร่วมกับกลุ่มประเทศอาเซียนด้วย นอกจากนี้พรรคประชาธิปัตย์จะขับเคลื่อน พ.ร.บ.อากาศสะอาด เพื่อให้แก้ไขปัญหามลพิษ และ ปัญหา PM 2.5 แบบครบวงจร

เมื่อถามถึงกำหนดการหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์กล่าวว่า วันนี้ในช่วงบ่าย ตนจะนำจุรินทร์ออนทัวร์ ไปจังหวัดนครสวรรค์ เพื่อพบปะพี่น้องประชาชน รวมทั้งเปิดตัวทีมเศรษฐกิจ 4 ปี ประกันรายได้ของประชาธิปัตย์ เกษตรกรได้อะไร” ส่วนในวันพรุ่งนี้(10เม.ย.) ทีมเศรษฐกิจ ประชาธิปัตย์ จะได้เปิดนโยบายการอัดฉีดเม็ดเงิน 1 ล้านล้าน เข้าสู่ระบบ ขณะที่ทัพหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะมีกำหนดการไปอีกหลายพื้นที่

เมื่อถามว่าขณะนี้มีหลายพรรคการเมืองหาเสียงด้วยการชูเรื่องประชาธิปไตย นายจุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ มีความชัดเจน ตนได้ประกาศไปแล้วว่า จุดยืนสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะเป็นทางรอดให้กับประเทศก็คือ ประเทศไทยหนีไม่พ้นที่จะต้องเดินหน้าการปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และต้องไม่เป็นประชาธิปไตยครึ่งใบ เพราะหลายปีที่ผ่านมาประชาธิปไตยครึ่งใบ ต้องประสบแรงเสียดทาน ประสบปัญหาไม่มีที่สิ้นสุด

“ทางเดียวที่จะต้องขับเคลื่อนประเทศด้วยประชาธิปไตยเต็มใบ ระบบรัฐสภา ไม่ใช่ระบบประธานาธิบดี และเท่านั้นยังไม่พอ จะต้องเป็น ประชาธิปไตยไม่โกงด้วย เพราะถ้าโกงเมื่อไหร่ เราก็สูญเสียประชาธิปไตยเมื่อนั้น จากหลายยุคที่เกิดการยึดอำนาจ รัฐประหาร ก็เพราะรัฐบาลก่อนหน้านั้นทุจริต คอร์รัปชัน ดังนั้นเราต้องนำสิ่งเหล่านี้มาเป็นบทเรียน” นายจุรินทร์ กล่าว

‘จุรินทร์’ นำทัพ ‘ปชป.’ มั่นใจ!! ปักธงนครสวรรค์ โว!! ผู้สมัครทุกคนมีคุณสมบัติพร้อมเป็นส.ส.

‘จุรินทร์’ มั่นใจ 'ปชป.' ปักธงนครสวรรค์ได้ โวผู้สมัครทุกคนคุณสมบัติเยี่ยม พร้อมเป็นส.ส. เชื่อนโยบายโดนใจชาวปากน้ำโพ

(9 เม.ย.66)  ที่จ.นครสวรรค์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำคณะผู้สมัคร ส.ส.ใน 6 เขตเลือกตั้งของ จ.นครสวรรค์ ประกอบด้วย เขต 1 นายสงกรานต์ จิตสุทธิภากร เบอร์ 9 เขต 2 นายจรูญ ลาโพธิ์ เบอร์ 7 เขต 3 นายมารุต โมราสุต เบอร์ 8 เขต 4 นายไพรัช ฤทธิ์บำรุง เบอร์ 7 เขต 5 นางคณิฏฐ์ษา ทองวงศ์พิทักษ์ เบอร์ 11 เขต 6 น.ส.สิริรักษ์ บัณฑิตศิละศักดิ์ เบอร์ 7 เดินทางไปที่วัดวรนาถบรรพต (วัดกบ) จ.นครสวรรค์ เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และกราบนมัสการเจ้าอาวาสวัดดังกล่าว โดยเจ้าอาวาสอวยพรให้นายจุรินทร์ได้เป็นนายกรัฐมนตรี รวมถึงให้กำลังใจนายจุรินทร์ในการบริหารประเทศเพื่อเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และชาวไทยทุกคน พร้อมกับขอให้ทุกคนเชื่อมั่นในนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์และประสบความสำเร็จ 

จากนั้น นายจุรินทร์ ให้สัมภาษณ์ถึงความมั่นใจในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ว่า เรามั่นใจว่าเที่ยวนี้ทีมพรรคประชาธิปัตย์ใน จ.นครสวรรค์สามารถปักธงได้ เพราะผู้สมัครทุกคนมีคุณสมบัติที่จะเป็นส.ส.ได้ และมีหลายคนที่ยืนหยัดอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นายสงกรานต์ จิตสุทธิภากร ที่เคยเป็นส.ส. 2 สมัย ส่วนจะได้มากน้อยแค่ไหนนั้น เราจะพยายามอย่างสุดกำลังและสู้ทุกเขต

เมื่อถามถึงการที่มีคนที่มั่นคงอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ได้ สะท้อนถึงเรื่องใด นายจุรินทร์ กล่าวว่า ได้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ อุดมการณ์ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อุดมการณ์แห่งความซื่อสัตย์ สุจริต ซึ่งในยามนี้ ตนเชื่อว่าประชาชนมีความเข้าใจมากขึ้น เรียกร้องมากขึ้น และต้องการเห็นบ้านเมืองเดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตยสุจริต ประชาธิปไตยไม่โกง มิฉะนั้นบ้านเมืองจะไปต่อไม่ได้ และประชาธิปไตยก็ไปไม่รอด เพราะฉะนั้นสิ่งเดียวที่จะพาประเทศไปข้างหน้าได้ คือต้องเป็นประชาธิปไตยเต็มใบ และประชาธิปไตยไม่โกง

‘นิพนธ์’ ขึ้นปราศรัย อ้อนชาวสงขลา เทคะแนนให้ ‘ปชป.’ ลั่น!! เลือก ‘ปชป.’ นโยบายที่ปชช. คาดหวังจะเป็นจริง

(9 เม.ย.66) ที่เวทีปราศัยย่อย ต.บ้านไร่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ผอ.เลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปราศรัยช่วงหนึ่งว่า หากเลือกพรรประชาธิปัตย์สิ่งที่พี่น้องประชาชนคาดหวังนั้นจะเป็นจริงอย่างแน่นอน ทั้งนโยบายเรียนฟรีจนจบปริญญาตรี นโยบายออกโฉนดที่ดิน 1 ล้านแปลง รวมทั้งนโยบายที่ดำเนินการมาในช่วงที่เป็นรัฐบาลคือการประกันรายได้เกษตร ในพืชเศรษฐกิจ 5 ชนิด ซึ่งถือเป็นนโยบายที่ครองใจเกษตรกร และจะต่อยอดไปยังการประกันรายได้อาชีพอื่น ๆ นอกจากเกษตรกร ตลอดจนการประกันรายได้ให้แก่ประเทศ

นายนิพนธ์ ยังกล่าวอีกว่า ขอให้พี่น้องประชาชนได้เชื่อมั่นในพรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 26 ว่า นโยบายที่ประกาศไปทุกนโยบายนั้น ทำได้จริงอย่างแน่นอน ขอพี่น้องประชาชนได้ให้ความไว้วางใจเลือกทั้งพรรคทั้งคน เพื่อให้ได้ส.ส.และเป็นฝ่ายบริหารไปขับเคลื่อนนโยบายที่จะเกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง

'อลงกรณ์' เชื่อมั่นนโยบาย 'ธนาคารหมู่บ้าน ธนาคารชุมชน' ของ 'พรรคประชาธิปัตย์' ดีกว่ายั่งยืนกว่านโยบาย 'เงินดิจิตอล1หมื่น' ของ 'พรรคเพื่อไทย'

กรณีการวิพากษ์วิจารณ์นโยบายแจกเงินดิจิตอล1 หมื่นของพรรคเพื่อไทยทั้งแง่บวกแง่ลบอย่างกว้างขวาง วันนี้นายอลงกรณ์ พลบุตรรองหัวหน้าพรรคและทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์เป็นอีกคนหนึ่งที่ออกมาให้ความเห็นในอีกแง่มุมที่น่าสนใจโดยเขียนบทความสั้นในเฟสบุ้ค 'อลงกรณ์ พลบุตร' และไลน์ส่วนตัวเรื่อง 'เงินดิจิตอล & ธนาคารหมู่บ้าน-ชุมชน: ความต่างของนโยบายพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์' เป็นการนำเสนอวิสัยทัศน์และนโยบายธนาคารหมู่บ้าน-ธนาคารชุมชนของพรรคประชาธิปัตย์ในเชิงเปรียบเทียบกับนโยบายเงินดิจิตอลของพรรคเพื่อไทยไว้อย่างชัดเจนพร้อมเปิดโอกาสนายเศรษฐา ทวีสินโต้แย้งชี้แจงแลกเปลี่ยนมุมมอง โดยนายอลงกรณ์เขียนไว้ดังนี้

“เงินดิจิตอล VS 
ธนาคารหมู่บ้าน-ชุมชน
ความต่างของนโยบายพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์”

กรณีมีการวิจารณ์กันมากเรื่องนโยบายแจกเงินดิจิตอล1 หมื่นของพรรคเพื่อไทยนั้น ผมสงวนความเห็นไม่กล่าวถึงประเด็นทำได้หรือไม่ ขัดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ แต่จะเสนอนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ให้เห็นเป็นการเปรียบเทียบ นั่นคือ นโยบายธนาคารหมู่บ้านธนาคารชุมชนทุกหมู่บ้านทุกชุมชนใน77 จังหวัด เป็นการจัดตั้งระบบธนาคารท้องถิ่นเพื่อให้บริการเงินฝากและสินเชื่อรวมทั้งบริการอื่นๆใช้เทคโนโลยีธนาคารดิจิตอล(Fintech) ปัญญาประดิษฐ์(AI)และบล็อคเชน (Blockchain)แบคอัพการบริหาร โดยใช้เงิน 2 แสนล้าน เป็นทุนประเดิมเริ่มต้นเป็นเงินหมุนเวียน ไม่ใช่จ่ายครั้งเดียวจบแบบเงินดิจิตอล1หมื่นของพรรคเพื่อไทย

สรุปคือ ธนาคารหมู่บ้านและธนาคารชุมชน

1.เป็นการปฏิรูประบบธนาคารใหญ่ที่สุดโดยให้มีระบบธนาคารหมู่บ้านธนาคารชุมชนเป็นครั้งแรกในรอบกว่า100ปีที่มีแต่ระบบธนาคารพาณิชย์ระดับชาติ
2.เป็นสถาบันการเงินเพื่อสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ชุมชนและครัวเรือนเพื่อแก้ปัญหาการเข้าถึงสินเขื่อและทุนของชาวบ้านทั้งในชนบทและในเมือง

‘จุรินทร์’ นำทีม ‘ปชป.’ บุกปักธงฟ้า ที่เมืองกาญจน์  อ้อนปชช. เลือกเบอร์ 26-ผู้สมัครทั้ง 5 เขต เชื่อนโยบายโดนใจ

เดินสายไม่หยุด ‘จุรินทร์’ บุกเมืองกาญจน์ เชื่อผู้สมัครทั้ง 5 เขต มีโอกาสปักธงฟ้าแน่นอน

(10 เม.ย. 66) ที่ จ.กาญจนบุรี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ออกเดินทางจากตลาดมหาชัย จ.สมุทรสาคร เพื่อไปพบปะพี่น้องประชาชนที่ตลาดท่าม่วง ต.ท่าม่วง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี พร้อมกับแนะนำ ผู้สมัคร ส.ส. กาญจนบุรี เขต 1 นายธนพัต ทองใบ เบอร์ 2 เขต 2 นายฉัตรพันธ์ เดชกิจสุนทร เบอร์ 6 เขต 3 นายสมปอง คำเที่ยง เบอร์ 8 เขต 4 นายอนุกูล แพรไพศาล เบอร์ 1 และเขต 5 นายชัยวัฒน์ ไกรฤกษ์ เบอร์ 1 โดยมีชาวบ้านมารอพบเป็นจำนวนมาก พร้อมกับระบุว่า พวกเรารักประชาธิปัตย์เต็มร้อย และอยากให้นายจุรินทร์ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายจุรินทร์ ได้ฝากให้พี่น้องชาวตลาดท่าม่วงให้กาบัตรใบที่ 1 เลือกผู้สมัครของพรรค และใบที่ 2 ให้เลือกพรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 เพื่อให้ทั้งคนและพรรคได้มีโอกาสเข้าไปทำงานเป็นตัวแทนชาวกาญจนบุรีต่อไป

ทั้งนี้นายจุรินทร์ ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในสนามการเลือกตั้ง จ.กาญจนบุรีว่า ความจริงเราเคยมี ส.ส. มาหลายสมัย เที่ยวนี้ก็เป็นอีกครั้งที่เราเชื่อว่าจะสามารถปักธงที่กาญจนบุรีได้หลายเขต ซึ่งพรรคฯส่งผู้สมัครครบทุกเขตและลงพื้นที่มาแล้ว โดยเฉพาะที่ อ.ท่าม่วง ซึ่งเป็นเขตของ นายฉัตรพันธ์ ซึ่งเป็นอดีต ส.ส. ของพรรค และมีความหนักแน่นมั่นคงอยู่กับพรรค ซึ่งต้องถือว่านายฉัตรพันธ์เป็นนักการเมืองที่มีอุดมการณ์ประชาธิปัตย์ตัวอย่างคนหนึ่งของพรรคฯ ที่พวกเราชื่นชม และตนสนับสนุน รวมทั้งอยากเห็น นายฉัตรพันธ์ มีโอกาสได้รับเลือกตั้ง กลับมารับใช้พี่น้องชาวท่าม่วงอีกครั้ง

“เที่ยวนี้แมนเป็นคนที่ลงพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ 4 ปีเต็มไม่ไปไหน คลุกอยู่ในพื้นที่ดูแลพี่น้องประชาชนที่เขตนี้อย่างต่อเนื่อง ต้องถือว่ามีเสียงตอบรับดีมาก ขอความกรุณาพี่น้องชาวกาญจนบุรี และสมาชิกพรรคทุกคน ได้ช่วยกันสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 และผู้สมัครทั้ง 5 เขตด้วย ผมเชื่อว่าเมืองกาญจน์เที่ยวนี้ฟื้นดีขึ้นกว่าการเลือกตั้งหลายครั้งที่ผ่านมา” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top