Wednesday, 22 May 2024
ประยุทธ์จันทร์โอชา

‘บิ๊กตู่’ หวั่นยอด ‘โควิด-19’ พุ่ง!! ห่วงกลุ่มเสี่ยง 608 ขอเร่งให้รับวัคซีน กำชับ สธ. ติดตามการระบาดสายพันธุ์ XBB.1.16 ใกล้ชิด คาดยอดเพิ่มช่วงหน้าฝน

(26 เม.ย.66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์โควิด 19 ในประเทศไทยขณะนี้ และรับทราบสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ภายในประเทศรายสัปดาห์ (วันที่ 16-22 เมษายน 2566) ตามรายงานของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีห่วงใยประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 608 ขอให้รีบเข้ารับวัคซีนที่สถานพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขใกล้บ้านโดยเร็ว พร้อมสั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขติดตามสถานการณ์โรคโควิด 19 และการระบาดของเชื้อสายพันธุ์โควิด XBB.1.16 อย่างใกล้ชิด 

นายอนุชา กล่าวว่า จากข้อมูลกรมควบคุมโรค ผู้ป่วยโควิด 19 ภายในประเทศสัปดาห์ที่ผ่านมา (วันที่ 16 - 22 เมษายน 2566) พบผู้ป่วยรายใหม่ 1,088 ราย เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน ผู้ป่วยปอดอักเสบ 73 ราย ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 35 ราย และผู้เสียชีวิต 5 ราย เฉลี่ยน้อยกว่า 1 คนต่อวัน ผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล สะสม 6,571 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2566) ผู้เสียชีวิต สะสม 278 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2566) ผู้ป่วยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนกว่า 2 เท่า พบกระจายในหลายจังหวัดโดยเฉพาะเมืองใหญ่ที่มีประชากรหนาแน่น เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ ชลบุรี เป็นต้น ส่วนใหญ่เป็นการติดเชื้อในสมาชิกครอบครัว และการร่วมกิจกรรมที่รวมกลุ่มคนจำนวนมาก สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ราย พบว่าเป็นกลุ่ม 608 อายุเฉลี่ย 75 ปี โดย 4 รายที่เสียชีวิตเป็นผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนมาก่อน และอีก 1 ราย ยังไม่ได้รับเข็มกระตุ้น ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เมื่อติดเชื้อแล้วเกิดอาการรุนแรง ดังนั้น การฉีดวัคซีนหรือวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันจึงยังมีความจำเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง 608 จะช่วยลดอาการหนักและเสียชีวิตได้ ส่วนผู้ที่มีปัญหาเรื่องการสร้างภูมิคุ้มกัน สามารถฉีดภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป หรือ LAAB ได้เช่นกัน โดยติดต่อขอรับบริการได้ที่สถานบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขใกล้บ้าน 

นายอนุชา กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขได้เผยข้อมูลของเชื้อโควิด XBB.1.16 ซึ่งเป็นลูกผสมของสายพันธุ์โอมิครอน BA.2.10.1 และ BA.2.75 การระบาดมีแนวโน้มพบเพิ่มขึ้น มีความสามารถในการแพร่กระจายได้ดีกว่า XBB.1.5 มีความสามารถในการหลบภูมิคุ้มกันได้ดี ยังไม่มีหลักฐานแสดงว่าทำให้โรครุนแรงขึ้น อาการที่พบคือ มีไข้ ไอ เจ็บคอ น้ำมูก อาจพบเยื่อบุตาอักเสบ คันตา ตาเหนียวร่วมด้วย แต่ยังไม่มีข้อมูลชี้ชัดว่าอาการดังกล่าวเป็นลักษณะจำเพาะที่เกิดจากสายพันธุ์ XBB.1.16 

นายอนุชา กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขชี้แจงว่ากรณีเชื้อสายพันธุ์ใหม่ XBB.1.16 ที่มีการเผยแพร่ข้อมูลและหลายคนวิตกนั้น เป็นธรรมชาติของเชื้อไวรัสที่จะมีการกลายพันธุ์ตลอดเวลา แต่ยังคงเป็นลูกผสมของสายพันธุ์โอมิครอนเดิม และไม่ได้มีความรุนแรงไปกว่าสายพันธุ์เดิม ขณะที่สถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดเพิ่มขึ้น เป็นไปตามการคาดการณ์ของกรมควบคุมโรค และไม่ได้มีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกัน ทั้งจากการติดเชื้อและการได้รับวัคซีน 

‘บิ๊กตู่’ ชี้ คดี ‘แอม ไซยาไนด์’ เป็นหน้าที่ของ ตร. ขอให้ฟังจากทาง ผบ.ตร. แต่ถ้าผิดก็ต้องลงโทษเด็ดขาด!!

(27 เม.ย.66) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ครั้งที่ 2/2566 และเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 4/2566 ถึงกรณี ‘แอม ไซยาไนด์’ หรือ นางสรารัตน์ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” ว่า ในเรื่องดังกล่าวเป็นหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่แล้ว 

นายกฯ ส่งความปรารถนาดีถึงผู้ใช้แรงงานทั่วไทย ย้ำ!! ทุกคนล้วนมีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ

(1 พ.ค. 66) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวปราศรัยเนื่องในโอกาสวันแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2566 ซึ่งตรงกับวันที่ 1 พฤษภาคมของทุกปี เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ใช้แรงงานทุกคน เผยแพร่ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยและสถานีโทรทัศน์ต่างๆว่า เนื่องในโอกาสวันแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2566 ขอส่งความระลึกถึงและความปรารถนาดีมายังผู้ใช้แรงงานทุกคน ย้ำผู้ใช้แรงงานทุกคนถือเป็นบุคลากรที่มีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาประเทศที่ต้องได้รับการดูแลเพื่อยกระดับคุณชีวิต พร้อมทั้งพัฒนาทักษะในด้านต่าง ๆ เพื่อรองรับกับความต้องการของตลาดแรงงาน และสร้างความพร้อมในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างทันท่วงที

ในนามของรัฐบาลขอชื่นชมทุกภาคส่วนและขอบคุณผู้ใช้แรงงานทุกคน ที่ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจ ตลอดจนมุ่งมั่นในการพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถของตน เพื่อเป็นแรงงานฝีมือที่มีคุณภาพและเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยทั้งในภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตรกรรม และภาคธุรกิจบริการมาโดยตลอด จนทำให้ประเทศของเราเจริญก้าวหน้าทัดเทียมนานาประเทศ พร้อมทั้งสามารถยืนหยัดได้อย่างมั่นคงท่ามกลางวิกฤติการณ์ของสังคมโลก

กระแส 'ลุงตู่' ช่วยดัน ส.ส.เขต 'รทสช.' โดดเด่น เชื่อ!! 'ทำแล้ว-ทำอยู่-ทำต่อ' ช่วยปักธงได้แน่

ในวันที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางไปช่วยหาเสียงที่จังหวัดตรัง ซึ่งมี 4 เขตเลือกตั้ง

พลันที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ลงจากเครื่องบินที่สนามบินตรัง นอกจากจะมีผู้สมัครในจังหวัดตรัง เช่น สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล จากเขต 4, อำนวย นวลทอง จากเขต 3 ไปต้อนรับแล้ว ได้มีมวลชนจำนวนมากที่ทราบข่าว เดินทางไปต้อนรับ และให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ถึงสนามบินตรังกันแน่นขนัด

หลังจากนั้นคณะของ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งมีทั้งพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ, เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค, อนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เดินทางต่อไปยัง อ.กันตัง เพื่อช่วยหาเสียงให้กับสมบูรณ์ ซึ่งมีมวลชนจำนวนมากแห่ไปต้อนรับให้กำลังใจเช่นกัน ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ได้อธิบายถึงแนวทาง 'ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ' ให้ประชาชนเข้าใจ

คณะ พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางต่อไปในตลาดทับเที่ยง ช่วยถนอมพงศ์ หลีกภัย หาเสียง ซึ่งต้องเสียเวลาไปมาก เนื่องจากมีผู้คนแห่ต้อนรับหน้าแน่นจนไม่มีเวลาทานข้าว เวลาล่วงมาถึงบ่ายสองถึงจะได้ทานข้าว

เสร็จจากทานข้าวเที่ยงเดินทางต่อไปยังอำเภอนาโยง เพื่อช่วย 'อำนวย นวลทอง' หาเสียง โดยก่อน พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินทางไปถึง 'อำนวย นวลทอง' ได้กล่าวปราศรัยก่อนแล้วถึงความมุ่งมั่น-ตั้งใจในการลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้

“ผมลงสมัครรับเลือกตั้ง เพื่อชัยชนะ และจะสู้ไม่มีถอย โดยตั้งใจจะเข้าไปแก้ไขปัญหา 3 อย่าง อย่างแรกคือปัญหาเรื่องการบริหารจัดการน้ำ บ้านเรามีฝนมาก เพราะอยู่ใกล้ภูเขา จึงเกิดปัญหาน้ำท่วมบ่อย แต่น้ำท่วมไม่นานก็จะเกิดปัญหาน้ำแล้งตามมา ที่ผ่านมาไม่มีใครคิดวางโครงสร้างใหญ่ในการแก้ไขปัญหาน้ำ”

อำนวย กล่าวอีกว่า อีกปัญหาที่ต้องการเข้าไปแก้คือปัญหาเอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกิน ที่ชาวบ้านถูกครหาว่าบุกรุกอุทยานบ้าง บุกรุกทุ่งเลี้ยงสัตว์บ้าง ทั้งๆ ที่สภาพของที่ดิน ไม่มีต้นไม้ไม่มีทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์แล้ว ชาวบ้านเข้าไปอยู่อาศัยมานานแล้ว แต่ไม่มีการยกเลิกความเป็นทุ่งเลี้ยงสัตว์ และ/หรือเขตอุทยาน ชาวบ้านจึงโดนขับไล่มาโดยตลอด เป็นปัญหาที่ต้องแก้ไข

‘2 พ.ค. 66’ เมืองชลขนลุก มืดฟ้ามัวดิน อิทธิฤทธิ์ ‘ลุงตู่’ ยังขลัง ดึงพลังเงียบฟื้น

ถ้าลืมกันไปแล้ว ก็คงต้องนำกลับมาทบทวนกันอีกครั้ง สำหรับทวิตเตอร์ของคนแดนไกล ที่ประกาศจะกลับบ้านประมาณครั้งที่ 20...เข้าไปแล้ว!!

“เช้าวันนี้ (1 พ.ค.) ผมดีใจมากที่ได้หลานคนที่ 7 เป็นชาย ชื่อ ธาษิณ จากน้องอิ๊งค์ แพทองธาร หลานทั้ง 7 คนคลอดในขณะที่ผมต้องอยู่ต่างประเทศ ผมคงต้องขออนุญาตกลับไปเลี้ยงหลาน เพราะผมอายุจะ 74 ปีในเดือนกรกฎานี้แล้ว พบกันเร็ว ๆ นี้ครับ ขออนุญาตนะครับ…”

จะเป็นเพราะทวิตเตอร์ร้อน ๆ ของคุณพ่อ หรือเป็นเพราะกระแสร้อนแรงของพรรคก้าวไกล หรืออาจจะทั้งสองอย่างก็มิทราบได้ ทำให้ก่อนหน้า ‘เล็ก เลียบด่วน’ จะเขียนเรื่องนี้สัก 1-2 ชั่วโมง คุณอุ๊งอิ๊งพร้อมสามีต้องนัดสื่อมวลชนแถลงใหญ่…

ทวิตเตอร์ของ ‘โทนี่ วู้ดซัม’ หรือ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ รอบนี้ ถูก ‘จตุพร พรหมพันธุ์’ อดีตแกนนำ นปช. คนที่รู้ทางมวยทักษิณถอดรหัสว่า...คำว่า “ผมขออนุญาต” ของทักษิณนั้นหมิ่นเหม่และบังอาจเป็นอย่างมาก...ว่าแล้วจตุพรก็ชี้เปรี้ยงว่า แผนการของทักษิณที่จะกลับบ้านโดยการกลับมารับโทษ แต่ถูกคุมขังที่บ้านได้ตามกฎกระทรวงที่อดีต รมว.ยุติธรรม สมศักดิ์ เทพสุทินแก้ไขไว้นั้น อย่าคิดว่าทำกันได้ง่าย ๆ…

ย้อนไปเมื่อ 25 มี.ค. 2566 ทักษิณ ชินวัตร เคยให้สัมภาษณ์สื่อญี่ปุ่นด้วยความอหังการว่า...”.ตอนนี้ผมเหมือนติดอยู่ในคุกขนาดใหญ่มา 16 ปีแล้ว เพราะพวกเขากีดกันไม่ให้ผมอยู่กับครอบครัว ผมทรมานมามากพอแล้ว ถ้าผมต้องทนทุกข์ทรมานอีกครั้งในคุกที่เล็กกว่านั้นก็ไม่เป็นไร...เพราะผมอยากอยู่กับหลาน ๆ”

ต้องขยายความ เบื้องต้นว่า...ขณะนี้นายทักษิณมีคดีถึงที่สุดแล้วง 3 คดีรวมโทษจำคุก 10 ปี...ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่มีใครห้ามไม่ให้เขากลับบ้าน กลับมารับโทษตามกระบวนการยุติธรรม...ถ้าใจถึงจริง ๆ ก็คงกลับมาแล้ว   

ดังนั้นใช่หรือไม่ ว่าระดับนี้หากจะกลับมาก็คงเตรียมการกันหลายชั้น เช่น การขอรื้อฟื้นคดี และอย่างน้อยก็เชื่อมั่นกฎกระทรวง 2 ฉบับของกระทรวงยุติธรรมที่ออกมาเมื่อปลายปี 2563 โดยอาศัยมาตรา 33 มาตรา 40 และมาตรา 41 ของ พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 จะเป็นที่รองรับได้

ไฮไลต์ของกฎกระทรวง 2 ฉบับ อยู่ที่ตรงที่วิธีการและสถานที่คุมขัง...ซึ่งสามารถตีความสุดโต่งได้ว่าสามารถใช้บ้านหรือเซฟเฮ้าส์เป็นที่คุมขังก็ได้...!!

ฝันของคนแดนไกลดังว่ามาจะเป็นจริงหรือเข้าใกล้ความเป็นจริงได้ก็ต่อเมื่อ...พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและเป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น...

‘ลุงตู่’ ชื่นชมนายสถานีรถไฟบ้านส้อง ช่วยชีวิตหญิงชรา ยกเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคม ขอให้ทำความดีต่อไป

‘พล.อ.ประยุทธ์’ แวะให้กำลังใจนายสถานีรถไฟบ้านส้อง จ.สุราษฎร์ธานีเสี่ยงชีวิตช่วยหญิงชราเป็นใบ้หูหนวก ให้รอดพ้นจากการถูกรถไฟชน พร้อมชื่นชมเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคม

(3 พ.ค. 66) ที่สถานีรถไฟบ้านส้อง ต.บ้านส้อง เขตเทศบาลเมืองเวียงสระ อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ พรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ดร.ธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรค นายอนุชา บูรพชัยศรี และคณะผู้บริหารพรรคเดินทางให้กำลังใจ นายฐิติพงศ์ พิริพล นายสถานีรถไฟบ้านส้อง อ.เวียงสระ ที่เสี่ยงชีวิตเข้าช่วยหญิงสูงอายุที่พิการทางการได้ยินและเป็นใบ้ เดินข้ามตัดหน้าขบวนรถไฟล่องใต้ ขบวนที่ 85 กรุงเทพอภิวัฒน์-นครศรีธรรมมราช ที่กำลังแล่นเข้าเทียบชานชาลาสถานีรถไฟบ้านส้อง จนรอดชีวิตจากการถูกชนอย่างหวุดหวิด เป็นการมาให้กำลังใจระหว่างลงพื้นที่หาเสียงในจังหวัดสุราษฎร์ธานี

‘รทสช.’ ปล่อยคลิปสั้น ‘คุยกับลุง’ เผยอีกแง่มุมชีวิตของ ‘ลุงตู่’ พร้อมเล่าที่มาของชื่อ ‘ประยุทธ์’ ที่แปลว่า ‘ต่อสู้’ เพราะตนสู้มาตลอดชีวิต

‘รทสช.’ ปล่อยคลิป ‘คุยกับลุง’ วิดีโอสั้นพูดคุยกับ ‘พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา’ อย่างเป็นกันเองในเรื่องราวเบาๆ ทั้งเรื่องชีวิตวัยเด็ก งานอดิเรก ชีวิตครอบครัวและการทำงาน ที่แตกต่างกับบุคลิกที่สังคมเคยเห็นมาก่อน ทำให้หลังเผยแพร่คลิปไม่นานก็ถูกแชร์ไปจำนวนมาก พร้อมแฟนคลับขอให้ผลิตต่อเนื่อง เพราะได้เห็น พล.อ.ประยุทธ์ ในตัวตนที่แท้จริง ที่ไม่ได้ดุเหมือนที่เห็นในข่าว และพร้อมที่จะสนับสนุนเสมอ

(5  พ.ค. 66) เพจเฟซบุ๊ก พรรครวมไทยสร้างชาติเผยแพร่คลิป ‘คุยกับลุง’ คลิปวิดีโอสั้นๆ ประมาณ 7 นาที เป็นการพูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประธานกำหนดยุทธศาสตร์และนโยบายพรรครวมไทยสร้างชาติ ในบรรยากาศสบายๆ โดย พล.อ.ประยุทธ์ สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ลายใบไม้สีเหลือง กางเกงสแล็กสีดำ พูดคุยอย่างเป็นกันเองกับทีมงาน โดยเนื้อหาการสนทนาส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของตนเอง ตั้งแต่วัยเด็ก งานอดิเรก กีฬา และชีวิตครอบครัวน่ารักๆ

เนื้อหาเริ่มต้นคลิป พล.อ.ประยุทธ์ เล่าถึงที่มาของชื่อ ‘ประยุทธ์’ โดยระบุว่ามีที่มาจากระหว่างที่ตนเกิดในค่ายทหารที่ จ.นครราชสีมา มีการซ้อมรบบิดาจึงตั้งชื่อตนว่า ‘ประลองยุทธ์’ แต่เมื่อบิดาไปหาหมอพระ ได้ขอให้เปลี่ยนเป็น ‘ประยุทธ์’ เท่านั้น ตนจึงได้ชื่อนี้มาตั้งแต่เกิด และจากวันนั้นถึงวันนี้ก็ต้องต่อสู้มาตลอด ตามความหมายของชื่อที่แปลว่า ‘ต่อสู้’ นั่นเอง

พล.อ.ประยุทธ์ ยังเล่าด้วยว่าในสมัยเด็กตนก็เป็นเด็กซนๆ คนหนึ่ง จนถูกบิดาลงโทษ ถูกตี รู้สึกเจ็บมาก ตอนนั้นอายุสิบกว่าขวบ ตัดสินใจหนีออกจากบ้านด้วยการถีบรถจักรยานออกไปในเวลาเย็น แต่เมื่อออกไปสักพักก็คิดว่าจะไปไหนดี แต่หาคำตอบไม่ได้ว่าจะไปไหน จึงตัดสินใจกลับบ้านมาเอง โดยบิดายืนรออยู่พร้อมกับถามว่าออกไปไหนมา ตนก็แค่บอกว่าออกไปเล่นมา แต่ทราบดีว่าบิดารู้ว่าตนงอนที่ถูกทำโทษ ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ในสมัยเด็ก พร้อมกับเล่าว่าบิดาเป็นคนที่เป็นหลักของครอบครัว ดุ แต่ก็ใจดีและมีเหตุผล ส่วนมารดาเป็นคนใจดี

พล.อ.ประยุทธ์ ยังตอบคำถามเกี่ยวกับการออกไปเล่นสงกรานต์กับประชาชนที่ ถ.ข้าวสาร เมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาว่า ที่จริงแล้วตั้งใจจะไปเยี่ยมตำรวจเพื่อให้กำลังใจและกำชับให้ดูแลประชาชนให้ดี แต่เมื่อเข้าไปแล้วก็เลยได้เล่นน้ำสงกรานต์กับประชาชนจริง เพราะส่วนตัวแล้วตนไม่ได้เล่นสงกรานต์มาตั้งแต่เด็ก ทำให้เผลอตัวไป ขาไปผมเรียบหล่อ แต่กลับออกมาผมฟู จนถึงวันนี้ยังเมื่อยอยู่

ทีมงานถามว่า มีคนนำไปพูดว่านายกฯ กราดยิงประชาชนในวันสงกรานต์ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าก็เป็นการยิงน้ำที่ใส่ความเป็นมงคลไปให้ ตนไม่เคยไปให้ร้ายกับใคร เป็นเรื่องธรรมดาที่คนเรามักจะมีทั้งคนเกลียดและคนรัก จึงไม่ได้คิดอะไร

เมื่อถามว่าเคยดูซีรีส์บ้างไหม พล.อ.ประยุทธ์  กล่าวว่า ตนก็ดูซีรีส์เหมือนกัน แต่ดูไม่เคยจบ เพราะไม่สนุก ทำให้มีซีรีส์ค้างจออยู่หลายสิบเรื่อง แต่เรื่องที่ดูจนจบคือ ซีรีส์เกาหลี ‘Desendents of the Sun’ ที่พระเอกเป็นทหาร และเรื่อง ‘Crash Landing on you’ และยังดูซีรีส์ย้อนยุคของเกาหลี หรือภาพยนตร์เก่าอื่นๆ ด้วยเช่นกัน เพราะดูแล้วสนุก โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับการทหาร ที่มีการรบกัน แต่ไม่ได้อยากให้เกิดขึ้น เพราะเป็นเหตุการณ์ที่โหดร้าย ทารุณ แต่ก็ดูไปหมด

‘เพจเชียร์’ ปลุกพลังเงียบ หนุน ‘ลุงตู่’ อยู่ต่อ เพื่อประเทศสงบ-มั่นคง ไม่แคร์ผลโพล-เสียงโซเชียล ชี้!! ผลงานตลอด 8 ปี เป็นที่ประจักษ์

(6 พ.ค. 66) แฟนเพจเฟซบุ๊ก ‘ลุงตู่ตูน’ ซึ่งเป็นเพจสนับสนุนการทำงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้โพสต์คลิปวิดีโอพูดคุยกับประชาชนถึงความรู้สึกที่มีต่อ พล.อ.ประยุทธ์ โดยต่างชื่นชมผลงานตลอด 8 ปีที่ผ่านมาของรัฐบาล รวมไปถึงนโยบายต่าง ๆ ที่หากเข้าใจ และนำไปสู่การปฏิบัติจริงแล้วจะเป็นประโยชน์อย่างมาก เพราะจับต้องได้ และครอบคลุมถึงคนทุกกลุ่มทุกอาชีพ

รวมไปถึงบุคลิกของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เป็นนักการเมืองที่ปากกับใจตรงกัน รวมทั้งเรียกร้องให้พลังเงียบออกมาช่วยกัน เพื่อจะได้สนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป เพราะหาก พล.อ.ประยุทธ์ ได้เป็นนายกฯ ต่อ ประเทศไทยไปไกลกว่านี้แน่นอน

“โซเชียล คือเรื่องของโซเชียล แต่เรื่องของความเป็นจริงเราต้องจับต้องได้ เราตัดสินใจได้ง่ายในการที่จะเลือกตั้งครั้งนี้ เราไม่ได้สนใจว่า โซเชียลจะเป็นอย่างไร โพลจะเป็นยังไง เพราะว่ามองเห็นความโดดเด่นของผลงาน 8 ปีที่ ลุงตู่ ทำมา ทำให้รู้สึกว่า ลุงตู่คือคนเดียวที่จะนำพาประเทศไปได้ ทำให้ประเทศเราเจริญรุ่งเรือง” ประชาชนรายหนึ่ง ระบุ

ด้าน ประชาชนอีกรายหนึ่ง ได้กล่าวถึงโครงการอุโมงค์ยักษ์ผันน้ำแม่แตง-เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลลงสู่เขื่อนแม่กวงอุดมธารา ซึ่งแก้ปัญหาน้ำภาคการเกษตร และน้ำท่วม ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และลำพูน ว่า เป็นผลงานที่ชัดเจนของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ รวมไปถึงการลงพื้นที่พบปะและตรวจเยี่ยมประชาชน เป็นสิ่งที่ทำให้ตนประทับใจ

‘บิ๊กตู่’ สั่งเข้ม!! ป้องกัน-ปราบปราม-แก้ไขปัญหา ‘ยาเสพติด’ ภายใต้วิสัยทัศน์ ‘สังคมไทยปลอดภัยจากยาเสพติดฯ’

(7 พ.ค. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสั่งการ เน้นย้ำ ให้ความสำคัญการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ขจัดยาเสพติดให้หมดสิ้นไปจากสังคมไทย เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยให้มีความมั่นคงปลอดภัย เป็นสังคมปลอดยาเสพติด สู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ภายใต้วิสัยทัศน์ “สังคมไทยปลอดภัยจากยาเสพติด ด้วยมาตรการทางเลือกใหม่ สู่การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน”

นายอนุชา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลได้กำหนดและดำเนินการอย่างแข็งขันภายใต้นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด (พ.ศ.2566 - 2570) ซึ่ง ครม. เห็นชอบเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2566 มีแนวทางการดำเนินงาน 6 ด้าน ดังนี้

1. การป้องกันยาเสพติด เสริมสร้างความรู้เท่าทันและป้องกันยาเสพติดในเด็กและเยาวชน และสร้างความตระหนักและจิตสำนึกร่วมในการป้องกันปัญหายาเสพติด รวมทั้งพัฒนาระบบเฝ้าระวังและควบคุมปัญหายาเสพติดในพื้นที่สื่อสังคมออนไลน์ 

2. ด้านการปราบปรามยาเสพติดมีเป้าหมาย สกัดกั้นยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ไม่ให้เข้าสู่ประเทศและถูกใช้เป็นเส้นทางนำผ่านไปยังประเทศที่สาม ปราบปรามเครือข่ายการค้ายาเสพติด และเนินการทางวินัยและบังคับใช้กฎหมายลงโทษเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด 

3. ด้านการยึดทรัพย์สินคดียาเสพติด ทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดด้วยมาตรการทางทรัพย์สิน 

4. ด้านการบำบัดรักษายาเสพติด การบำบัดรักษาและฟื้นฟูสภาพทางสังคมของผู้เสพยาเสพติดและผู้เสพยาเสพติดมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 

5. ด้านความร่วมมือระหว่างประเทศ ไทยมีบทบาทในการเสริมสร้างความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน และพัฒนาสู่การเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพให้กับบุคลากรด้านยาเสพติดระหว่างประเทศ 

6. ด้านการบริหารจัดการ นำนโยบายไปสู่การปฏิบัติอย่างบูรณาการในทุกระดับ บุคลากรภาครัฐที่ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดมีทักษะและสมรรถนะสูงพร้อมรับมือกับภัยคุกคามของปัญหายาเสพติดในยุคดิจิทัล พัฒนากลไกอำนวยการ ระเบียบ กฎหมาย เสริมสร้างสมรรถนะของบุคลากรภาครัฐที่ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด และการควบคุมและใช้ประโยชน์จากพืชเสพติด และพืชในการกำกับควบคุมดูแลพิเศษของรัฐ

นายอนุชา กล่าวว่า ขอยกตัวอย่างถึง ชุมชน “สินไหโมเดล” จ.ระนอง ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวอย่างชุมชนที่ดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งเป็นการบูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิด ทั้งในระดับส่วนกลางและในพื้นที่ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งภาคประชาชน ทุกภาคส่วนร่วมกันป้องกัน แก้ไข และหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด อาทิ การให้ความรู้ การบำบัดรักษาผู้เสพยาเสพติด และการสร้างอาชีพ ตามนโยบายและเจตนารมณ์มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาผู้ติดยาเสพติดของรัฐบาล 

'ลุงตู่' ลงหาเสียงนราฯ ขอเป็นบังตู่ อ้อนประชาชน เลือก ส.ส.พรรค รทสช. คุยช่วยชาติได้จริง

เวลา 13.00 น.วันที่ 8 พ.ค.2566 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ลาราชการ สวมเสื้อพรรครวมไทยสร้างชาติ กางเกงสีเขียวขี้ม้า รองเท้าผ้าใบ ON Cloud 5 Men ลงพื้นที่หาเสียงต่อเนื่องในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง โดยออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง พร้อมแกนนำพรรค เพื่อลงพื้นที่หาเสียงพบปะประชาชน จ.นราธิวาส และ จ.ปัตตานี

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกฯ พรรครวมไทยสร้างชาติ ควงบ้านใหญ่นราธิวาส นำนายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส พร้อมลูกชาย นายวัชระ ยาวอฮะซัน ผู้สมัคร ส.ส.เขต1 และหลานเขย นายอามีน โต๊ะนากายอ เขต 5 รวมถึง ผู้สมัครทั้ง 4 เขต นายสารี สะมะแอ เขต2 นายมะหามัด ฮามิ เขต 3 นายอิสฮาม มูซอ เขต 4 ลงพื้นที่พบปะประชาชน ที่ อำเภอเมืองนราธิวาส และอำเภอสุไหงโก-ลกจังหวัดนราธิวาส


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top