Friday, 4 July 2025
ประยุทธ์จันทร์โอชา

24 สิงหาคม พ.ศ. 2557 โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ‘พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา’ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ของประเทศไทย

หากย้อนกลับไปวันนี้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ในหลวงรัชกาลที่ 9 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ของไทย

ประกาศราชกิจจานุเบกษา พระบรมราชโองการ ประกาศแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี มีเนื้อหาดังนี้

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า

โดยที่ได้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 ได้บัญญัติให้พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งตามมติของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาว่า สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ลงมติเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เห็นชอบด้วยในการแต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

จึงทรงพระราชดำริว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้ที่สมควรไว้วางพระราชหฤทัยให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 19 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี บริหารราชการแผ่นดินตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ 24 สิงหาคม 2557 เป็นปีที่ 69 ในรัชกาลปัจจุบัน
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

🙏 ‘เศรษฐา’ นายกฯ ไทยผู้พกพาความนอบน้อมไปทุกๆ ที่

แม้จะร่ำเรียนต่างประเทศอยู่หลายปี แต่คุณลักษณะเด่นอย่างหนึ่งซึ่งเห็นได้จากนายกฯ 'เศรษฐา ทวีสิน' ก็คือ ความเคารพนบนอบอย่างไทย ไม่ว่าผู้อาวุโสกว่า ผู้สูงศักดิ์กว่า หรือแม้ชาวบ้านผู้เฒ่าผู้แก่ยามลงพื้นที่เยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชน ดังคำกล่าวที่ว่า "...คุณต้องรู้จักให้เกียรติ และให้ความเคารพ อีกฝ่ายหนึ่งเสียก่อน เขาจึงจะเกิดความเชื่อถือในตัวคุณ"

หรือภาพการให้ความเคารพต่อ 'ผู้มาก่อน' ก็เห็นเป็นประจักษ์โดยทั่วไป

การแสดงความเคารพ ถือเป็นมารยาทไทยอย่างหนึ่ง ซึ่งแสดงความอ่อนน้อมถ่อมตนของผู้เยาว์ที่มีต่อผู้ใหญ่ ของผู้ด้อยอาวุโสต่อผู้อาวุโสกว่า ขนาดสภาวิจัยแห่งชาติ ยังได้เคยสำรวจและประมวลไว้เกี่ยวกับลักษณะนิสัยประจำชาติของคนไทยว่า

"รักสงบ เคารพอาวุโส"

ทว่าความ 'อ่อนน้อม' มิได้หมายถึง 'อ่อนแอ' และ 'นอบน้อม' ก็ไม่ใช่ 'พินอบพิเทา'

2 ธันวาคม พ.ศ. 2566 ในหลวง - พระราชินี พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พล.อ.ประยุทธ์ องคมนตรีใหม่ เฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ

วันที่ 2 ธันวาคม 2566 หรือวันนี้ เมื่อปีที่แล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี นำ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่

‘พล.อ.ประยุทธ์’ ตรวจเยี่ยม โรงเรียนบ้านหลวง จ.น่าน ใต้ร่ม ‘กองทุนการศึกษา’ ที่ในหลวง ร.9 วางเป็นต้นแบบสร้างคนดี

(30 ม.ค.68) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี ในฐานะกรรมการโครงการกองทุนการศึกษา พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและรับฟังผลการดำเนินงานของโรงเรียนบ้านหลวง โรงเรียนในโครงการกองทุนการศึกษา ณ ห้องประชุมโรงเรียนบ้านหลวง อำเภอบ้านหลวง จังหวัดน่าน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะทำให้โรงเรียนเป็นต้นแบบในการสร้างคนดีให้บ้านเมือง ส่งเสริม สนับสนุนและปลูกฝัง ค่านิยม การยึดมั่นในคุณธรรมจริยธรรม เพื่อให้เด็กเติบโตเป็นพลเมืองที่มั่นคงอยู่ในคุณงามความดี และสนับสนุนเด็กที่มีความประพฤติดี ให้ได้รับการศึกษาจนสำเร็จการศึกษา โดยมีนายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พร้อมด้วยศาล ทหาร ตำรวจ ศึกษาธิการจังหวัดน่าน ผู้บริหาร สพม.น่าน นายอำเภอบ้านหลวง หัวหน้าส่วนราชการ และคณะครู นักเรียนให้การต้อนรับ

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี ในฐานะกรรมการโครงการกองทุนการศึกษา พร้อมคณะ ได้รับฟังการรายงานผลการดำเนินงานของโรงเรียนบ้านหลวง โรงเรียนในโครงการกองทุนการศึกษา ในหัวข้อเรื่อง การพัฒนาและการจัดการตามแนวทาง 3 เสาหลัก 5 กลยุทธ์ โดยมีจุดเน้น ดังนี้ 1.การพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียน โดยขอให้ระบุถึงอัตลักษณ์ คุณธรรมและจริยธรรมที่โรงเรียนได้เลือก รวมถึงกิจกรรมโครงงานของนักเรียน เพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์คุณธรรมและจริยธรรมดังกล่าว ตลอดจนปัญหาและอุปสรรคที่ประสบ 2. บทบาทของครูในการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมของนักเรียน 3. การพัฒนาทักษะชีวิต ทักษะอาชีพของนักเรียน โดยโรงเรียนบ้านหลวง โรงเรียนในโครงการกองทุนการศึกษา ได้รายงานผลความคืบหน้าการดำเนินงานตามจุดเน้นและรายงานปัญหาอุปสรรคที่พบให้กับทางองคมนตรีและคณะได้รับทราบ 

โอกาสนี้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี ในฐานะกรรมการโครงการกองทุนการศึกษาได้กล่าวสรุปผลการตรวจเยี่ยมและรับฟังผลการดำเนินงานของโรงเรียนในโครงการกองทุนการศึกษา และให้ข้อเสนอแนะในการดำเนินงานของโรงเรียนในโครงการกองทุนการศึกษา เพื่อให้เป็นไปตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะทำให้โรงเรียนเป็นต้นแบบในการสร้างคนดีให้บ้านเมือง ส่งเสริม สนับสนุนและปลูกฝัง ค่านิยม การยึดมั่นในคุณธรรมจริยธรรม เพื่อให้เด็กเติบโตเป็นพลเมืองที่มั่นคงอยู่ในคุณงามความดี และสนับสนุนเด็กที่มีความประพฤติดี ให้ได้รับการศึกษาจนสำเร็จการศึกษา

น้องนักเรียน เป็นปลื้ม!! ได้เจอ ‘องคมนตรีลุงตู่’ ขณะมาตรวจเยี่ยมโรงพยาบาล รีบเข้าไป!! ขอถ่ายรูปเซลฟี่ ก่อนส่งให้แม่ ด้วยความประทับใจ ในความเป็นกันเอง

(15 มี.ค. 68) เพจ ‘ขนมหวาน คอฟฟี่’ ได้โพสต์ข้อความประทับใจ เกี่ยวกับ ‘ลุงตู่’ โดยมีใจความว่า …

ส่งรูปมาให้แม่ดู บอกว่าหนูดีใจมากค่ะแม่ที่ได้เซลฟี่กับลุงตู่ค่า ท่านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี ประธานกรรมการ และคณะ ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชกุฉินารายณ์ 12 มีนาคม 2568

‘ธนกร‘ ออกโรงประท้วงป้อง ’ลุงตู่’ หลังถูก สส.ฝ่ายค้านอภิปรายพาดพิง

(24 มี.ค. 68) นายธนกร วังบุญคงชนะ สส. บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ลุกขึ้นประท้วงกรณี สส.พรรคประชาชนอภิปรายพาดพิง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า อยู่ในสภาแห่งนี้ ไม่คิดว่าจะประท้วงใครเลย เพราะให้เกียรติสส. ทุกท่าน แต่การเอ่ยถึงบุคคลภายนอก ถือว่าเป็นการไม่เหมาะสม และวันนี้เป็นการอภิปรายนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ไม่ใช่การอภิปรายนายกรัฐมนตรีท่านที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรเอ่ยชื่อบุคคลภายนอก โดยเฉพาะบุคคลที่คนไทยคิดถึงท่านอยู่ ซึ่งได้สร้างคุณงามความดีไว้เยอะแยะ

ดังนั้น ขอให้ใช้คำอื่น ไม่เช่นนั้นสภาก็ไม่ราบรื่น เพราะ สส.รวมไทยสร้างชาติ ทั้ง 36 ก็จะลุกขึ้นประท้วงไม่หยุด การประชุมในวันนี้ก็จะไม่ราบรื่น 

7 มิถุนายน พ.ศ. 2564 ‘พล.อ.ประยุทธ์’ ประกาศวันประวัติศาสตร์ ‘วัคซีนวาระแห่งชาติ’ ไม่ยอมแพ้ให้โควิด-19

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2564 ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นโครงการฉีดวัคซีนทั่วประเทศ พร้อมประกาศให้การฉีดวัคซีนเป็น 'วาระแห่งชาติ' เพื่อพลิกสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยระบุว่า “วันนี้คือหมุดหมายสำคัญในสงครามไวรัสที่คนไทยทั้งประเทศจะร่วมกันโต้กลับอย่างพร้อมเพรียง”

อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าวย้อนถึงสถานการณ์ตั้งแต่พบผู้ติดเชื้อรายแรกในไทยเมื่อ ม.ค. 2563 จนต้องใช้มาตรการเข้มงวดควบคุมโรค ทั้งการปิดเมือง ปิดประเทศ และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม ไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ดีในช่วงแรก และได้รับการยกย่องจากนานาชาติ 

โดย พล.อ.ประยุทธ์ชี้ว่า 'วัคซีน' คืออาวุธสำคัญที่จะช่วยลดการเจ็บป่วย เปิดทางให้เศรษฐกิจฟื้นตัว และเป็นพลังขับเคลื่อนประเทศในระยะยาว รัฐบาลได้จัดหาวัคซีนทั้งจากแอสตร้าเซเนก้าและซิโนแวค รวมถึงแผนผลิตในประเทศโดยสยามไบโอไซเอนซ์ 

ท้ายที่สุด พล.อ.ประยุทธ์กล่าวขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ ผู้ว่าราชการจังหวัด และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่มีบทบาทสำคัญในการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน พร้อมให้กำลังใจทุกคนในการต่อสู้กับโควิด-19 โดยย้ำว่าวันนี้จะถูกจารึกเป็นวันสำคัญอีกวันในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย

ย้อนคำพูด ‘พล.อ.ประยุทธ์’ ปมชายแดนไทย-กัมพูชา กองทัพพร้อมเสมอและต้องเหนือกว่า เมื่อมีใครมารังแก

(21 มิ.ย. 68) เฟซบุ๊ก Watthana Saen-u-dom แชร์คลิปที่ครั้งหนึ่ง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เคยกล่าวถึงสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ท่านบอกว่าแม้ไม่ใช่การรบใหญ่โตเหมือนสงคราม แต่เป็นการสู้กันเป็นครั้งคราวตรงชายแดนที่ตึงเครียด ก็เพื่อทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้นมา โดยมีจุดประสงค์อื่นและจบลงที่การเจรจา

พลเอกประยุทธ์บอกว่า ถ้าเราปล่อยให้เรื่องที่ชายแดนเกิดขึ้นแล้วไม่จัดการให้จบตั้งแต่แรก เราจะไม่มีทางไปต่อรองอะไรกับเขา (กัมพูชา) ได้เลย เราจะพูดกับเขาแต่เขาก็ไม่ฟัง 

สุดท้าย ‘ลุงตู่’ กล่าวว่าการมีกำลังทหารและความพร้อมที่จะสู้ ก็เพื่อให้ประเทศอื่นเขาเกรงใจเรา ถ้าถึงเวลาที่จำเป็นจริง ๆ เราก็ต้องแสดงให้เห็นว่า เราพร้อมและเหนือกว่า เพื่อให้เขาไม่กล้าทำอะไรที่ไม่ถูกต้องกับเราอีก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top