Monday, 6 May 2024
นครพนม

นักเขียนซีไรต์ซัดคนจิตใจต่ำทรามไม่สร้างสรรค์เอาแต่เลียน้ำลายคนอื่นมาพูดพล่อยๆ เอาเท่

(24 ต.ค.65) นายวิมล ไทรนิ่มนวล นักเขียนรางวัลซีไรต์ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า *จะวิ่งจะว่ายอีกกี่ร้อยครั้ง​ ได้เงินบริจาคกี่พันล้านก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้น​ ถ้าไม่แก้ปัญหาที่โครงสร้าง*

เมิงพูดกี่ครั้งก็ดูเท่ทุกครั้งแหละ​ แต่เมิงต้องรู้ก่อนว่า​"โครงสร้างสังคมที่เป็นอยู่นี้เป็นแบบไหน​ อย่างไร" แจกแจงให้ชัด และเมิงต้องการให้เป็นแบบไหน​ อย่างไร​ อย่าเลียน้ำลายคนอื่นมาพูดพล่อยๆ เอาเท่

เมิงต้องรู้ต่อไปอีกว่า... โครงสร้างสังคมแม้จะเลอเลิศแค่ไหน​ แต่ถ้าคนชั่ว​ คนถ่วงความเจริญ​ คนจิตใจต่ำ​ คนไม่มีจิตสำนึกรับผิดชอบ​ ไม่มีสำนึกสาธารณะ​ ไม่มีน้ำใจ​ ไม่มีความเป็นมนุษย์ โครงสร้างที่เลอเลิศนั้นก็ช่วยอะไรไม่ได้​ เหมือนคฤหาสน์หรู​ แต่คนอยู่กักขฬะโสมม​ คฤหาสน์ก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้น

เมิงต้องการโครงสร้างสังคมแบบไหน​ อย่างไร​ เมิงต้องมี​ "โครงสร้างจิตสำนึกและเนื้อหาจิตสำนึก" ของเมิงก่อน​ เหมือนเมิงจะสร้างคฤหาสน์อันโอฬารตระการตา​ มึงต้องมีพิมพ์เขียวก่อน

ชาวนครพนม ปลื้ม 'เบลล่า' ไม่เคยลืมกัน มอบเงินแสนสร้างสนามฟุตซอล รร.ปลาปากวิทยา

เรียกได้ว่า สวย เก่ง ครบเครื่องจริง ๆ สำหรับดาราสาวอย่าง 'เบลล่า ราณี แคมเปญ' นักแสดงมากฝีมือ เจ้าของบทบาท 'แม่หญิงการะเกด' จากละคร 'บุพเพสันนิวาส' ที่ดังเปรี้ยงแบบถล่มทลาย นอกจากจะเก่งแล้ว เบลล่ายังชอบทำกิจกรรมจิตอาสา ช่วยเหลือสังคม ทำบุญ รวมถึงบริจาคเงิน เพื่อสาธารณะประโยชน์อยู่เสมอ

ล่าสุด สาวเบลล่าได้บริจาคเงิน จำนวน 100,000 บาท ให้แก่ โรงเรียนปลาปากวิทยา ตำบลปลาปาก อำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม เพื่อใช้สำหรับสร้างสนามฟุตซอลภายในโรงเรียน

คนเสื้อแดงนครพนม จวก 'หมอชลน่าน' ปมวางตัวผู้สมัคร ส.ส. ไม่ถามชาวบ้าน

บรรยากาศความเคลื่อนไหวทางการเมืองในพื้นที่จังหวัดนครพนม เริ่มมีแนวโน้มการแข่งขันมากขึ้น ทั้งที่ยังไม่มีการยุบสภาหรือครบวาระ 4 ปี โดยพรรคการเมืองใหญ่ต่างทยอยพากันเปิดตัวว่าที่สมัคร ส.ส. ทั้ง 4 เขต ส่วนใหญ่เป็นการแข่งขันระหว่าง 3 พรรคใหญ่ คือ พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย และพรรคเพื่อไทย

โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ถือเป็นพรรคที่มีฐานที่มั่น เคยเป็นแชมป์ชนะการเลือกตั้งทั้ง 4 เขตมาหลายครั้ง แต่การเลือกตั้ง ส.ส. ปี 2562 ที่ผ่านมา ได้เสียที่นั่ง ส.ส.ในเขตเลือกตั้งที่ 1 โดยนายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว ที่พรรคภูมิใจไทยส่งเข้าประกวด ชนะเลือกตั้งสามารถล้ม นายยุทธจักร เรืองวรบูรณ์ อดีต ส.ส.นครพนม เขต 1 พรรคเพื่อไทย ทำให้พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.เพียง 3 เขตเท่านั้น

แม้เขตเลือกตั้งที่ 4 ครอบคลุมพื้นที่ อ.นาแก อ.วังยาง อ.ปลาปาก และ ต.บ้านผึ้ง,ต.กุรุคุ อ.เมืองนครพนม จะถูกพลังดูดจากพรรคพลังประชารัฐ ทำให้ นายชูกัน กุลวงษา อดีต ส.ส.นครพนม เขต 4 พรรคเพื่อไทย เปลี่ยนใจไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐ แต่พ่ายแพ้ให้กับนายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ที่หันมาลงสมัคร ส.ส.เขตฯ ชนะการเลือกตั้ง คะแนนนำโด่งเกินคาดหมาย แสดงถึงกระแสความนิยมพรรคเพื่อไทย สูงกว่าคะแนนนิยมตัวบุคคล

ทั้งนี้ การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปี 2566 นี้ เป็นที่น่าจับตามองตั้งแต่ปี 2565 ทั้งที่เจ้าของพื้นที่นายชวลิต วิชยสุทธิ์ มีข่าวลือว่าจะย้ายไปซบพรรคไทยสร้างไทย มีคุณหญิงหน่อย-สุดารัตน์ เกยุราพันธ์ เป็นหัวหน้าพรรค เพื่อตอบแทนบุญคุณทางการเมือง ส่วนทางด้านพรรคภูมิใจไทยนายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม เขต 1 ได้ย้ายลงสมัครเขตเลือกตั้งที่ 2 ชนกับ ดร.มนพร เจริญศรี ส.ส.ฯ พรรคเพื่อไทย โดยพรรคภูมิใจไทยหวังให้ครูแก้วโค่นแชมป์เก่า และล้มแลนด์สไลด์พรรคเพื่อไทย พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครพนม เขต 1 หน้าใหม่คือนางพูนสุข โพธิ์สุ ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นภรรยาของครูแก้วนั่นเอง 

จนกระทั่งช่วงต้นสัปดาห์ พรรคเพื่อไทยในพื้นที่จังหวัดนครพนม กลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมืองขึ้นมาทันที เมื่อนายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกมาแถลงการณ์เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครพนม ทั้ง 4 เขต ประกอบด้วย เขตเลือกตั้งที่ 1 คือ ดร.ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ มีดีกรีเป็นอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย, เขตเลือกตั้งที่ 2 แชมป์เก่า ดร.มนพร เจริญศรี, เขตเลือกตั้งที่ 3 ได้แก่แชมป์ตลอดกาล 12 สมัยคือ ดร.ไพจิต ศรีวรขาน ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 4 ถือเป็นการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร เกินความคาดหมาย หลังพรรคประกาศรายชื่อนายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย, พรรคเพื่อคนไทย และ อดีตผู้สมัครนายก อบจ.นครพนม ที่ล่าสุดหันมาซบพรรคเพื่อไทย และมีชื่อเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 4 นครพนม ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีชื่อ ดร.สมชอบ นิติพจน์ อดีตนายก อบจ.นครพนม รวมถึง นายชาญชัย คำจำปา นายกเทศมนตรีตำบลพระซอง อ.นาแก จ.นครพนม ที่มีฐานสร้างครอบครัวเพื่อไทยได้มากเป็นอันดับต้น ๆ ของภาคอีสาน

'โรม' ปราศรัย 'นครพนม' ชูนโยบายสวัสดิการถ้วนหน้า วอน 'อีสาน' กาก้าวไกลให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม

'โรม' ปราศรัยนครพนม ชูนโยบายสวัสดิการถ้วนหน้า-แก้ปัญหาเกษตร-คืนที่ดินให้ประชาชน ยกย่องคนอีสานต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ขอกาก้าวไกลให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม

(4 ก.พ.66) ที่วัดโพธิ์ศรี อ.บ้านแพง จ.นครพนม รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล ปราศรัยแนะนำ เทิดศักดิ์ แพงสาร หรือ ‘ทนายเก๋’ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครพนม เขต 1 (อ.บ้านแพง, อ.ศรีสงคราม, อ.นาทม, อ.นาหว้า) พรรคก้าวไกล พร้อมนำเสนอนโยบายพรรค มีประชาชนร่วมรับฟังราว 300 คน

รังสิมันต์ กล่าวว่า พรรคก้าวไกลมีนโยบายเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศในทุกด้าน และยืนยันว่าทุกนโยบายทำได้จริง ด้านการเมือง เริ่มต้นที่การปฏิรูปกองทัพ จัดการงบประมาณที่ใช้ไม่ถูกจุด นำมาจัดสรรใหม่ให้เกิดความเป็นธรรมแก่ประชาชนทุกพื้นที่และเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ ด้านเศรษฐกิจ เราต้องการยุติทุนผูกขาดเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถแข่งขันและเติบโตได้ สร้างสวัสดิการถ้วนหน้าครบวงจร ทั้งเงินเด็กเล็กเดือนละ 1,200 บาทต่อเดือน เงินผู้สูงอายุ 3,000 บาทต่อเดือน ค่าแรงงานขั้นต่ำ 450 บาททันทีพร้อมระบบปรับขึ้นทุกปี ช่วยค่าเช่าบ้านหรือค่าเช่าห้องพักเพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย จึงขอให้พี่น้องประชาชนกาพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งที่จะมาถึง เปลี่ยนประเทศไทยให้ไม่เหมือนเดิม

“การจะแก้ปัญหาของประเทศ ต้องชนกับผู้มีอำนาจ พรรคก้าวไกลพร้อมเคียงข้างประชาชนและพร้อมชนกับโครงสร้างอำนาจเหล่านั้น ตั้งแต่อดีตพี่น้องคนอีสานเป็นนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เช่นยุค 4 รัฐมนตรีอีสาน ที่ต่อสู้กับระบอบเผด็จการและความอยุติธรรม ผมชื่นชมยกย่องการต่อสู้ของพวกเขาและยึดเป็นแบบอย่าง ทำให้การอภิปรายมีลักษณะทะลุฟ้าทะลุแผ่นดินอย่างที่ผ่านมา และพร้อมจะทำหน้าที่เพื่อประชาชนอย่างตรงไปตรงมาต่อไป” รังสิมันต์กล่าว

ระหว่างการปราศรัย ได้เปิดโอกาสให้ประชาชนที่มารับฟังปราศรัยถามคำถาม ส่วนมากเกี่ยวกับปัญหาการเกษตร ปัญหาปากท้องและที่ดินทำกิน โฆษกพรรคก้าวไกลจึงกล่าวถึงแนวทางการลดต้นทุนและการเพิ่มมูลค่าแก่สินค้าเกษตร เช่น จะทำอย่างไรให้พี่น้องเกษตรกรสามารถเข้าถึงปุ๋ยราคาถูก หรือการนำผลผลิตทางการเกษตรที่ราคาตกมาเพิ่มมูลค่าด้วยการผลิตสุรา กลายเป็นสินค้าที่มีราคาสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องปลดล็อกการแข่งขันให้มีความเป็นธรรมระหว่างผู้ผลิตรายใหญ่กับผู้ผลิตรายย่อย ซึ่งพรรคก้าวไกลเคยเสนอร่างกฎหมายสุราก้าวหน้า แต่ไม่ผ่านความเห็นชอบของสภาฯ

โรงเรียนเล็กๆ มีเด็กแค่ 51 คนในนครพนม ชนะเลิศการแข่งขันหนังสั้น 'ระดับชาติ'

(7 ก.พ. 66) นายอรินทร์ ใจแน่น ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสีชมพูมิตรภาพที่ 164 หมู่ที่ 2 บ้านโพนสนุก ตำบลสีชมพู อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 1 (สพป.นครพนม เขต 1) ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กชื่อ Rong Arin Jainan ว่า....

“ผมคงอดที่จะดีใจและภาคภูมิใจไม่ได้ เมื่อประกาศผล การแข่งขันภาพยนตร์สั้น ระดับ ป.1-6 ระดับชาติ ครั้งที่ 70 จ.ร้อยเอ็ด ที่ภาพยนตร์สั้น เรื่อง Need Phone : #เยาวชนรู้ทันห่างไกลภัยโซเชียล ผลงานของโรงเรียนบ้านสีชมพูมิตรภาพที่ 164 โรงเรียนเล็ก ๆ มีเด็กแค่ 51 คน และบุคลากรรวม 9 คน สามารถ #คว้ารางวัลชนะเลิศ เหนือโรงเรียนอื่น ๆ จาก 61 ทีมตัวแทนเขตพื้นที่ ใน 20 จังหวัดทั่วภาคอีสาน

จริง ๆ แล้วการทำภาพยนตร์สั้น ไม่ใช่ครั้งแรกของ มิตรภาพ 164 เราเคยร่วมแข่งขัน ภาพยนตร์สั้นโรงเรียนคุณธรรม สพฐ.ระดับเขตพื้นที่ แม้จะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่ครั้งนั้นคือจุดเริ่มต้น ที่ผลักให้เราก้าวต่อ

#หายเหนื่อย เป็นคำที่ดีและน่าจะเหมาะสมที่สุดในเวลานี้ ผมในฐานะผู้อำนวยการฯ และยังทำหน้าที่ผู้ฝึกสอน ได้เห็นความตั้งใจของครู บุคลากร และที่สำคัญคือนักเรียน ทั้ง #ทีมสร้าง #ทีมแสดง #ทีมสนับสนุน ความร่วมมือจากชุมชน ผู้ปกครอง ทั้งร่วมแสดง เอื้อเฟื้อสถานที่ถ่ายทำ ผลการแข่งขันออกมาแบบนี้ ทุกคนย่อมดีใจ และน่าจะส่งเสริมความร่วมมือที่ดีขึ้นไปอีกระดับ ระหว่างชุมชนและโรงเรียน

ที่ผ่านมาหลายอย่างตัดสินใจทำไปก่อน บอกครูทีหลัง เพื่อให้งานเดิน ซึ่งเกิดมาจากมุมมอง ประสบการณ์ที่พอมีอยู่บ้าง ทั้งหมดนั้นเพื่อให้งานออกมาดีที่สุด พร้อมที่สุด และแตกต่างจากทีมอื่นที่สุด

สุดท้ายแล้ว คืนนี้ ครู นักเรียน ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ผู้ปกครองทุกคน ชุมชนและคนที่รักเรา คงสุขเล็ก ๆ ในมุมเล็ก ๆ ของพวกเรา #ขอบคุณทุกๆคนครับ”

ทั้งนี้ ภาพยนตร์สั้น เรื่อง Need Phone : #เยาวชนรู้ทัน ห่างไกลภัยโซเชียล เป็นผลงานของ รร.บ้านสีชมพูมิตรภาพที่ 164 อ.นาแก จ.นครพนม เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก มีเด็กนักเรียนแค่ 51 คน และบุคลากรรวม 9 คน แต่ด้วยความวิริยะอุตสาหะจึงสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศ เหนือโรงเรียนอื่น ๆ จาก 61 ทีม ตัวแทนเขตพื้นที่ ใน 20 จังหวัดทั่วภาคอีสาน

ซึ่งก่อนจะเดินมาถึงวันนี้ โรงเรียนบ้านสีชมพูมิตรภาพที่ 164 เคยฝึกซ้อมนักเรียนและส่งผลงานเข้าแข่งขัน การทำภาพยนตร์สั้นโรงเรียนคุณธรรม สพฐ.ระดับเขตพื้นที่ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 1 แม้จะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่ครั้งนั้นคือจุดเริ่มต้น ที่ผลักดันให้ครูและนักเรียน โรงเรียนบ้านสีชมพูมิตรภาพที่ 164 ศึกษาแนวทางการสร้างภาพยนตร์สั้น เพื่อแข่งขันในรายการอื่น ๆ จนประสบความสำเร็จในที่สุด

โดยโรงเรียนบ้านสีชมพูมิตรภาพที่ 164 'อนุสรณ์นายสุนันท์ ขันอาสา' ตั้งอยู่ในเขตบ้านโพนสนุก หมู่ 2 ต.สีชมพู อ.นาแก จ.นครพนม ซึ่งในอดีตอยู่ใกล้เทือกเขาภูพานน้อย เป็นพื้นที่สีแดงในการสู้รบระหว่างรัฐบาลไทยกับคอมมิวนิสต์ เดิมนักเรียนในหมู่บ้านต้องไปเรียนกันที่โรงเรียนบ้านเหล่าทุ่ง ต่อมาเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2516 ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมในขณะนั้น คือ นายสุนันท์ ขันอาสา ได้มีโครงการออกเยี่ยมประชาชนในเขตตำบลพิมาน ซึ่งจุดนัดพบ ณ โรงเรียนบ้านเหล่าทุ่ง และเป็นโอกาสดีของคณะกรรมการหมู่บ้านเหล่าทุ่ง นำโดยท่านพระครูบุญกิจโกศล ได้นำเสนอโครงการแยกโรงเรียนบ้านเหล่าทุ่งออกเป็น 2 แห่ง เนื่องจากหมู่บ้านโพนสนุกห่างจากโรงเรียนบ้านเหล่าทุ่งมากกว่า 2 กิโลเมตร

'ครูแก้ว' ส่งภรรยาชิงเขต 1 จ.นครพนม ท้าชน 'ภูมิพัฒน์' ปักธงชัยพื้นที่เสื้อแดง

(24 ก.พ. 66) ความเคลื่อนไหวทางการเมืองของจังหวัดนครพนม มีดีกรีความเข้มข้นเพิ่มขึ้นแทบทุกวัน หลังมีการวางปฏิทินการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่จะครบวาระ 4 ปี ในวันที่ 23 มีนาคม 2566 บวกกับมีกระแส พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อาจจะยุบสภาราวกลางเดือนมีนาคม ทำให้พรรคการเมืองใหญ่ต่างเอียงหูฟังเกี่ยวกับข่าวลือดังกล่าว พร้อมเร่งวางตัวผู้สมัคร และสร้างฐานการเมือง เพี่อสู้ศึกเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้

สำหรับเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดนครพนม ประกอบด้วย อ.ศรีสงคราม, อ.บ้านแพง, อ.นาทม และ อ.นาหว้า ถือเป็นฐานที่มั่นของ 'สหายแสง' นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือ 'ครูแก้ว' พรรคภูมิใจไทย ที่สอดแทรกชนะการเลือกตั้งผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา โดยก่อนนี้ครูแก้วเคยพ่ายแพ้ให้กับนายยุทธจักร เรืองวรบูรณ์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย หลังจากยุบพรรคพลังประชาชน นายศุภชัย โพธิ์สุ ทนแรงจีบของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยไม่ไหว จึงย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย โดยมีตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นของขวัญ หลังหมดวาระเมื่อปี 2554 จึงถูกประชาชนพิพากษาด้วยการเข้าคูหากาพรรคเพื่อไทย ครูแก้วหรือสหายแสงจึงกลายเป็นผู้แทนสอบตกพักงานยาวกว่า 7 ปี ภายหลังกลับมาชนะการเลือกตั้งอีกครั้งในปี 2562

ส่วนการเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2566 ที่จะมาถึงนี้ ต้องยอมรับว่า 'สหายแสง' นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือ ครูแก้ว ส.ส.เขต 1 จ.นครพนม พรรคภูมิใจไทย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง พกความเชื่อมั่นในศักยภาพของตน หวังล้มช้างอย่างพรรคเพื่อไทย เพื่อดับฝันแลนด์สไลด์ โดยประกาศตัวข้ามจากเขต 1 นครพนมอันเป็นฐานที่มั่นเดิม ย้ายไปลงสมัคร ส.ส. เขต 2 นครพนม ชิงตั๋วเข้าสภากับ ดร.มนพร เจริญศรี หรือ 'เดือน' แชมป์เก่าจากพรรคเพื่อไทย โดยมีพื้นที่ อ.ท่าอุเทน, อ.โพนสวรรค์ และอำเภอเมืองนครพนม (เฉพาะตำบลในเมือง ต.หนองแสง, ต.อาจสามารถ, ต.นาราชควาย, ต.หนองญาติ และตำบลท่าค้อ) โดยปูฐานทางการเมืองกับกลุ่มองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และ อสม. รวมถึงพ่อค้า นักธุรกิจภาคเอกชน

ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 1 ครูแก้วส่งภรรยาคู่ชีวิต คือ นางพูนสุข โพธิ์สุ หรือ 'ครูตุ่น' อดีตข้าราชการครู อดีตรองนายก อบจ.นครพนม ลงสมัครแทน โดยชิงชัยกับ ดร.ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ อดีต ส.ส.แบบสัดส่วน พรรคภูมิใจไทย และในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เคยเป็นเลขาธิการพรรคเพื่อชาติ ภายหลังหันมาสังกัดพรรคเพื่อไทย ลงสมัครชิง ส.ส.เขต 1 นครพนม แทนนายยุทธจักร เรืองวรบูรณ์ ที่ยอมถอยจากการถูกชกใต้เข็มขัดเมื่อครั้งที่ผ่านมา

ดังนั้น ในการเลือกตั้งที่จะมาถึง ถือเป็นการวัดบารมีครั้งสำคัญ ว่า พรรคภูมิใจไทยจะปักธงชัยล้มแลนด์สไลด์พรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ หากไม่สามารถฝ่าด่านความรักความผูกพันของประชาชน งานนี้ปัญหาต้องตกมาที่พรรคภูมิใจไทยในพื้นที่ จ.นครพนม อย่างแน่นอน อีกทั้ง ครูแก้วจะต้องฝ่ากระแสดรามา เพราะภาษาพาไปในการปราศรัยกล่าวหา ส.ส.พื้นที่จังหวัดใกล้เคียงที่ไม่เลือกภูมิใจไทย ว่า 'ไอ้โง่' เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565

รวมถึงประเด็นการตรวจสอบ เรื่องการครอบครองป่าดงพะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ที่ถูกตรวจสอบเรื่องจริยธรรม ถึงแม้เจ้าตัวยืนยันในการครอบครองชอบด้วยกฎหมาย แต่จะต้องพิสูจน์ตัวเองให้ถึงที่สุด เพราะยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงของหน่วยงานเกี่ยวข้อง ที่อาจจะกระทบต่อความเชื่อถือของพี่น้องประชาชน

ทั้งนี้ ตัวชี้วัดสำคัญในทิศทางความได้เปรียบเสียเปรียบ เชิงการเมือง ต้องยอมรับว่า พรรคภูมิใจไทยมีความเสี่ยงสูง ที่จะถูกกระแสต้าน ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ที่เลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเคยประกาศจะไม่ร่วมกับฝ่ายเผด็จการ สุดท้ายต้องมาร่วมจับมือกับพลังประชารัฐ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยต้องทำความเข้าใจกับประชาชน ให้เข้าใจถึงอุดมการณ์การเมือง แต่ที่แน่ ๆ พรรคภูมิใจไทยใช้มุกเก่าไม่ได้อีกแล้ว

นอกจากนี้ สหายแสง นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือ ครูแก้ว ต้องยอมทิ้งฐานคะแนนถิ่นเก่า มาสร้างฐานคะแนนใหม่ในเขตเลือกตั้งที่ 2 ชนกับแชมป์เก่า คือ ดร.มนพร เจริญศรี หรือเดือน พรรคเพื่อไทย ที่ครูแก้วจะต้องมีทั้งคะแนนนิยม ทั้งส่วนบุคคลและทั้งพรรค เนื่องจากเป็นฐานที่มั่นของพรรคเพื่อไทยมาตลอด ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 3 นครพนม อ.เมืองนครพนมบางส่วน อ.ธาตุพนม และ อ.เรณูนคร พรรคภูมิใจไทยส่ง นายแพทย์ อลงกต มณีกาศ ชนกับ ดร.ไพจิต ศรีวรขาน แชมป์ 12 สมัย พรรคเพื่อไทย ที่มีทั้งคะแนนนิยมพรรค และคะแนนนิยมส่วนบุคคล โอกาสที่พรรคภูมิใจไทย จะชิงความได้เปรียบคงมีโอกาสน้อย

‘นครพนม’ เดือด!! ‘ณพจน์ศกร’ ร้องทุกข์!! ‘เพื่อไทย’ โดน ‘ไอ้โม่ง’ ตระเวนกรีดป้าย ชี้!! เป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรเอาอย่าง เร่งตามตัวดำเนินคดี

‘นครพนม’ ส่อเดือด! ‘เพื่อไทย’ โดนแล้ว ‘ไอ้โม่ง’ ตระเวนกรีดทำลายป้ายนับสิบจุด

(10 มี.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครพนม ว่า นายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 นครพนม พร้อมทีมงานเดินทางไปยัง สภ.หนองฮี อ.ปลาปาก จ.นครพนม เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา โดยนำหลักฐานภาพถ่ายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ต.กังวาน โคตรตะวงศ์ สว. (สอบสวน) หลังถูกผู้ไม่หวังดีป่วนทำลายป้ายแนะนำตัว และป้ายของ “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ในฐานะประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย ได้รับความเสียหายหลายจุด

จุดแรกเป็นป้ายนายณพจน์ศกร ถ่ายคู่กับ น.ส.แพรทองธาร ติดตั้งไว้ริมถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2033 สายหนองญาติ-นาแก ป้ายนี้คาดว่าคนร้ายใช้มีดคัตเตอร์หรืออาจเป็นสปาร์ตากรีดทำลายตรงภาพจนเสียหาย , จุดที่สองอยู่ริมถนนทางหลวงชนบทหมายเลข 2276 สายหนองฮี-ปลาปาก , จุดที่สามอยู่หน้าตลาดชุมชน ต.หนองฮี โดนทำลายถึง 2 ป้าย และจุดที่สี่อยู่ปากทางเข้าวัดป่าเมธาวิเวก รวม  6 ป้าย

จากนั้นนายณพจน์ศกร เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.บรรจบ แสนศรี รอง สว.(สอบสวน) สภ.พระซอง อ.นาแก แจ้งความเอาผิดกับผู้ทำลายป้ายที่ปักไว้ริมถนนทางหลวงชนบทหมายเลข 2031 สายพระซอง-เรณูนคร จุดแรกหน้าโรงสี ส.อำนวยค้าข้าว , จุดที่สองหน้าโรงเรียนมัธยมพระซองสามัคคี และจุดที่สามบริเวณสามแยกบ้านนาเหนือหน้าวัดศรีสว่าง ป้ายตรงจุดนี้ถูกมือดียกป้ายแนะนำตัวอันตรธานหายไป 3 ป้าย และเป็นที่น่าสงสัยคือมีป้ายแนะนำตัวของนายณพจน์ศกร ซึ่งติดตั้งอยู่ใกล้ๆกับเทศบาลตำบลพระซอง ก่อนหน้านี้ได้ถูกคนร้ายยกหายไปแล้ว พอวันนี้ป้ายดังกล่าวถูกนำมาปักไว้คืนที่เดิม

จากนั้นนายณพจน์ศกรได้เข้าพบ พ.ต.ท.สังเวียน ศรียศ สว.(สอบสวน) สภ.นาแก หลังป้ายแนะนำตัวถูกทำลาย 1 จุด บริเวณริมถนนบ้านต้นผึ้ง ทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 223 สายนาแก-ธาตุพนม รวมเสียหายทั้งหมด 10 ป้าย มูลค่าความเสียหายรวมค่าติดตั้งป้ายละ 700 บาท รวมเป็นเงิน 7,000 บาท  เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

สำหรับป้ายแนะนำตัวของนายณพจน์ศกร ที่ถ่ายคู่กับ หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ตรวจสอบพบว่าคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุครั้งนี้ มีลักษณะคล้ายคลึงกัน โดยใช้คัตเตอร์ หรือมีดสปาต้า กรีดสับที่ใบหน้าของ น.ส.แพทองธาร และนายณพจน์ศกร จนไม่เห็นโครงป้าย โดยที่หน้าโรงเรียนมัธยมพระซองสามัคคี คนร้ายถึงขนาดถอดป้ายไวนิลไป เหลือแต่โครงไม้ให้ดูต่างหน้า ส่วนที่พบว่าหนักสุดคือจุดหน้าตลาดชุมชนหนองฮี เสียหายถึง 6 ป้าย

‘ครูแก้ว’ นำทีม ‘ภูมิใจไทย’ สู้ศึกเลือกตั้ง ‘นครพนม’ เชื่อผลงานเข้าตาชาวบ้าน มั่นใจชนะทั้ง 4 เขต

(6 เม.ย. 66) บรรยากาศการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดนครพนมนับวันยิ่งเข้มข้น หลังมีการเปิดรับสมัครส.ส.ทั้ง 4 เขต เมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา โดยพรรคใหญ่ 2 พรรคที่มีคะแนนนิยมสูงคือ พรรคภูมิใจไทย ที่มี นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว ผู้สมัคร ส.ส.นครพนม เขต 2 เบอร์ 3 อดีต ส.ส.แชมป์เก่าเขต 1 นครพนม ที่ย้ายมาลงเขต 2 เป็นแม่ทัพ

ล่าสุด ครูแก้ว ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า แจ้งข่าวญาติพี่น้องนครพนม ภูมิใจไทยนครพนม 4 เขต
เขต 1 ครูพูนสุข โพธิ์สุ  เบอร์ 5
เขต 2 ครูแก้ว ศุภชัย โพธิ์สุ  เบอร์ 3
เขต 3 หมออลงกต มณีกาศ เบอร์ 4
เขต 4 นายชูกัน กุลวงษา เบอร์ 8

‘ตร.นครพนม’ รวบ ‘นักบินข้ามโขง’ วัย 56 พร้อมเมียเด็กท้อง 3 เดือน ขนยาบ้ากว่าล้านเม็ด อ้างตกงาน หวังรวยทางลัดหาเลี้ยงครอบครัว

เมื่อวันที่ 7 เม.ย.66 ที่ผ่านมา ที่หน้ากองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม (กก.สส.ภ.จว.ฯ) พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม (ผบก.ภ.จว.ฯ) มอบหมายให้ พ.ต.อ.กฤติน กอร์ปกุลหิรัญ ผกก.กก.สส.ภ.จว.ฯ, พ.ต.อ.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ ผกก.สืบสวน 1 บก.สส.ภาค 4, พ.ต.อ.หญิง จิรนันท์ ธนะสิงห์ ผกก.พิสูจน์หลักฐานฯ, พ.ต.ท.ชัชวาลย์ รัชตะประกร รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองนครพนม ร่วมกับชุดสืบสวนปราบปรามยาเสพติด แถลงการณ์จับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ คือ นายอุดมสิน (สงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี เจ้าของฉายา ‘นักบินข้ามโขง’ ชาวอำเภอน้ำโสม จังหวัดอุดรธานี พร้อมภรรยา นางเจนจิรา (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี พร้อมตรวจยึดรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด สีดำ ทะเบียน กทม. ตรวจค้นภายในรถยนต์พบกระสอบบรรจุยาบ้า จำนวน 6 กระสอบ ตรวจนับได้จำนวนทั้งสิ้น 1,012,000 เม็ด โดยบรรจุแยกเป็นแพ็กเกจกันชื้น มีตัวอักษรภาษาอังกฤษ สีเขียว Y1

จากข้อมูลพบว่าเป็นสัญลักษณ์ยาบ้าเกรดต่ำ ราคาเม็ดละประมาณ 10 บาท ลักษณะยาบ้าเป็นเม็ดสีส้ม มีตัวอักษร WY คาดว่า กลุ่มผู้ผลิตใช้สารฆ่าแมลงผสมเป็นสารตั้งต้นแทนแอมเฟตามีน เพื่อลดต้นทุน และกำลังระบาดทะลักมาจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อส่งขายในพื้นที่ตอนในอีสาน อาศัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ลำเลียง โดยจะใช้กองทัพมดลักลอบขนข้ามแม่น้ำโขงมาทางเรือหางยาว ก่อนนำมาพักไว้ตามแนวชายแดนพื้นที่อีสาน รวมถึงจังหวัดนครพนม

การจับกุมครั้งนี้เป็นการสืบสวนขยายผลจากผู้ต้องหา ที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ว่า ชาวลาวชื่อ ท้าวบัวพา อายุ 25 ปี ร่วมกับเพื่อนชื่อท้าวอ้วน อายุ 26 ปี มีพฤติกรรมค้ายาเสพติด ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.นครพนม จึงวางแผนร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ติดตามความเคลื่อนไหวของบุคคลทั้งสองอย่างใกล้ชิด โดยมี พ.ต.ท.จิรเดช อัตตพงษ์ สว.กก.สส.จวฯ เป็นหัวหน้าชุดวางกำลังไว้ตามจุดต่าง ๆ กระทั่งช่วงเช้าของวันที่ 6 เมษายน สายสืบรายงานว่าพบกระสอบปุ๋ย จำนวน 6 กระสอบ คาดว่าภายในบรรจุยาบ้าซุกซ่อนไว้ในป่าหญ้าริมถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 (นครพนม-ท่าอุเทน) จึงซุ่มเฝ้าเพื่อรอว่าจะมีใครมาขนกระสอบปุ๋ยต้องสงสัย

เวลาผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมง ก็มีรถยนต์กระบะสีเทายี่ห้อมิตซูบิชิขับเข้ามาจอด และชายคนขับคือท้าวอ้วน ได้ลงมาแบกกระสอบปุ๋ยใส่ท้ายกระบะ ชุดเฝ้าซุ่มจึงจู่โจมล็อกตัวจับกุม ท้าวอ้วนจำนนต่อหลักฐานจึงรับสารภาพว่า ได้รับท้าวบัวพา โพทิลาด ใช้ให้ขับรถมาขนกระสอบบรรจุยาบ้า จากบริเวณดังกล่าว เพื่อนำไปไว้ที่ท่าทรายร้างแห่งหนึ่งอยู่ บ้านยางนกเหาะ หมู่ 2 ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน ระหว่างนั้นเองท้าวบัวพาได้ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้ามาจอดเทียบรถยนต์ของท้าวอ้วน เพื่อจะสอบถามถึงผลการทำงานลุล่วงหรือไม่ จึงถูกจับกุมตัวได้โดยละม่อม

จากนั้นชุดปฏิบัติการ กก.สส.จว.นครพนม ได้ซ้อนแผนให้ผู้ต้องหาทั้งสองคน นำของกลางยาบ้าที่อยู่ท้ายรถกระบะท้าวอ้วนมาจอดที่ท่าทรายร้าง เพื่อรอผู้ที่จะมารับยาบ้าตามที่นัดหมายกันไว้ ต่อมามีรถเก๋งฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด สีดำ ขับเข้ามาที่ท่าทรายดังกล่าว ชายคนขับเดินลงมาเปิดฝาท้ายแล้วตรงดิ่งไปที่ท้ายรถกระบะขนกระสอบยาบ้าใส่ฝาท้ายรถเก๋ง ตำรวจที่ซุ่มอยู่จึงเข้าจับกุมทันที ทราบว่าชายดังกล่าวชื่อนายอุดมสิน ส่วนภายในรถเก๋งพบนางเจนจิรา ภรรยาของนายอุดมสินนั่งรออยู่ จึงควบคุมตัวผู้ต้องหารวม 4 คนไปสอบสวนขยายผล

เปิดตัวขุนพล ‘พรรคใหญ่’ ชิงชัยเก้าอี้ ส.ส. นครพนม ใครได้หมายเลขไหน? อย่าจำผิด!!

สำหรับ 4 เขตของจังหวัดนครพนม ตามการแบ่งเขตของ กกต. มีดังนี้ 

>>เขต 1 อำเภอศรีสงคราม อำเภอนาหว้า อำเภอบ้านแพง อำเภอนาทม

>>เขต 2 อำเภอเมืองนครพนม (เฉพาะเทศบาลเมืองนครพนม, ตำบลท่าค้อ, ตำบลนาราชควาย,  ตำบลหนองญาติ และตำบลอาจสามารถ) อำเภอท่าอุเทน อำเภอโพนสวรรค์

>>เขต 3 อำเภอเมืองนครพนม (เฉพาะตำบลขามเฒ่า, ตำบลคำเตย, ตำบลนาทราย, ตำบลดงขวาง, ตำบลบ้านกลาง และตำบลโพธิ์ตาก) อำเภอธาตุพนม อำเภอเรณูนคร

>>เขต 4 อำเภอเมืองนครพนม (เฉพาะตำบลกุรุคุ, ตำบลบ้านผึ้ง และตำบลวังตามัว) อำเภอนาแก อำเภอปลาปาก อำเภอวังยาง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top