Thursday, 2 May 2024
ตำรวจ

‘ตร.’ บุก มาบุญครอง ทลายเครือข่ายมาเฟีย ‘บาบู’ ปลอมสินค้าแบรนด์ดัง หลอกขายนักท่องเที่ยว

(22 มี.ค. 66) สืบเนื่องจากศูนย์ปรายปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปลป.ตร.) ได้รับรายงานว่า มีเครือข่ายขบวนการมาเฟียเชื้อสายอินเดียชื่อว่า ‘บาบู’ ลักลอบนำสินค้าแบรนด์เนม รองเท้า, กระเป๋า, เสื้อผ้า, นาฬิกา เลียนแบบสินค้าแบรนด์ดัง มาหลอกขายให้คนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในมาบุญครอง และย่านปทุมวัน โดยหลอกลวงว่าเป็นสินค้าหิ้ว หรือ สินค้า Outlet โดยเครือข่ายนี้ส่งของกว่า 30 ร้านค้าในบริเวณใกล้เคียง

กระทั่งเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) พร้อมชุดทำงานชุด ศปลป.ตร. ขออนุมัติหมายค้นจากศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ประสานสนธิกำลัง 191 ปอศ. และพื้นที่เข้าตรวจค้นห้องเช่าอเนกประสงค์ ขั้น 3 ของศูนย์การค้า เอ็มบีเค เซ็นเตอร์

ผบช.ภ.5 มอบเกียรติบัตรให้กับหน่วยงานที่มีผลงานดีเด่นฯ

ผบช.ภ.5 เป็นประธานในพิธีมอบเกียรติบัตรให้กับหน่วยงานที่มีผลงานดีเด่นด้านการลดอุบัติเหตุบนถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 และ "โครงการทำดีมีรางวัล"ประจำเดือน กุมภาพันธ์ 2566  ณ ห้องประชุมอาคารสโมสรคุ้มแก้วขวัญดาว ตำรวจภูธรภาค 5 อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

วันที่ 23 มีนาคม 2566 เวลา 09.30 น.
พล.ต.ท.ปิยะ  ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 เป็นประธานในพิธีมอบเกียรติบัตรให้กับหน่วยงานที่มีผลงานดีเด่นด้านการลดอุบัติเหตุบนถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 และ "โครงการทำดีมีรางวัล"ประจำเดือน กุมภาพันธ์ 2566  ในการประชุมบริหารตำรวจภูธรภาค 5 ครั้งที่ 5/2566 โดยมี พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร รอง ผบช.ภ.5 ,

พล.ต.ต.เฉลิมพล จินตรัตน์ รอง ผบช.ภ.5 , พล.ต.ต.พิเชษฐ  จีระนันตสิน รอง ผบช.ภ.5 และ พล.ต.ต.นพดล กรึงไกร รอง ผบช.ภ.5 พร้อมด้วย ผบก., รอง ผบก., ผกก.และ หน.สภ.ในสังกัด ภ.5 และ หัวหน้าหน่วยงานในสังกัด ตร.ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ ภ.5 รวม 13 หน่วย เข้าร่วมในพิธีดังกล่าว  โดยมีรายชื่อผู้รับมอบใบประกาศเกียรติคุณดังต่อไปนี้ 

 

ด.ต.น้ำใจงาม เจอชายไร้บ้านคุ้ยขยะหาข้าวกิน ไม่รอช้าพาเลี้ยงข้าว เผยอยากให้สังคมดูแลกัน

‘คนเราต้องหิวขนาดไหน ถึงทำแบบนี้’ เปิดใจ ด.ต.น้ำใจงาม เจอชายไร้บ้านหาเศษอาหารในถังขยะกิน พาไปเลี้ยงข้าว บอก ‘แค่นี้พอแล้วครับ’ โซเชียลแห่ชื่นชม

เมื่อไม่นานมานี้ กรณีที่ ด.ต.เจริญ จันทร์รักษ์ โพสต์คลิปวิดีโอและข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า “คนเราต้องหิวขนาดไหน ถึงทำแบบนี้” วันนี้ผมเรียนเสร็จก็มาออกกำลังกาย เจอน้องคนนึงกำลังยืนเลือกอะไรสักอย่างอยู่ที่ถังขยะ ทีแรกผมนึกว่าน้องเขามาเก็บขวดพลาสติก จึงยืนดูน้องเขา น้องผู้ชายเลือกที่จะหยิบแต่ถุงอาหาร ขึ้นมาดมดูว่าอันไหนบูดหรือไม่บูดเท่านี้ล่ะครับผมก็ตัดสินใจเดินเข้าไปถามน้องเขาว่า

“น้องทานข้าวหรือยัง น้องตอบว่ายังครับ ผมบอกแล้วว่าเอาทิ้ง เอาทิ้ง มันบูดแล้ว ตามพี่มาเดี๋ยวพี่ซื้อให้กินไหม ผมพาน้องเดินมาที่ตู้ขายบะหมี่ขายขนม ซึ่งอยู่ห่างจากพี่น้องอยู่ไม่กี่เมตร บอกผมว่าเอาบะหมี่ต้มยำ 1 ถ้วย ผมบอกน้องคนขายว่า เอาบะหมี่ต้มยำ 2 ถ้วย

ผมถามน้องว่า เอาอะไรเพิ่มอีกไหม น้องตอบผมว่า ไม่เอาแล้วครับพอแล้วครับ เอา 2 ถ้วยพอ ผมก็เลยสั่งบะหมี่ที่ยังไม่แกะเพิ่มให้อีก 4 ถ้วย ผมขอแม่ค้าว่า ให้น้องเขามากดน้ำร้อนที่ร้านได้ไหม คนขายบอกว่าได้ครับพี่ สิ่งที่ผมตั้งคำถามกับตัวเองว่า คนเราต้องหิวขนาดไหน ถึงต้องมาหาอาหารที่ถังขยะแบบนี้”

หลังจากที่คลิปเผยแพร่ออกไปได้มีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นชื่นชมกันจำนวนมาก

(28 มี.ค.66) ผู้สื่อข่าวเดินทางไป หนองประจักษ์ศิลปาคม หลังสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ถนนเทษา เขตเทศบาลนครอุดรธานี พบกับ ด.ต.เจริญ จันทร์รักษ์ ผบ.หมู่งานจราจร สภ.เมืองอุดรธานี พาไปดูบริเวณถังขยะที่พบชายเร่ร่อนเดินมาหาของกินในถังขยะ

‘ตร.นครพนม’ รวบ ‘นักบินข้ามโขง’ วัย 56 พร้อมเมียเด็กท้อง 3 เดือน ขนยาบ้ากว่าล้านเม็ด อ้างตกงาน หวังรวยทางลัดหาเลี้ยงครอบครัว

เมื่อวันที่ 7 เม.ย.66 ที่ผ่านมา ที่หน้ากองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม (กก.สส.ภ.จว.ฯ) พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม (ผบก.ภ.จว.ฯ) มอบหมายให้ พ.ต.อ.กฤติน กอร์ปกุลหิรัญ ผกก.กก.สส.ภ.จว.ฯ, พ.ต.อ.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ ผกก.สืบสวน 1 บก.สส.ภาค 4, พ.ต.อ.หญิง จิรนันท์ ธนะสิงห์ ผกก.พิสูจน์หลักฐานฯ, พ.ต.ท.ชัชวาลย์ รัชตะประกร รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองนครพนม ร่วมกับชุดสืบสวนปราบปรามยาเสพติด แถลงการณ์จับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ คือ นายอุดมสิน (สงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี เจ้าของฉายา ‘นักบินข้ามโขง’ ชาวอำเภอน้ำโสม จังหวัดอุดรธานี พร้อมภรรยา นางเจนจิรา (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี พร้อมตรวจยึดรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด สีดำ ทะเบียน กทม. ตรวจค้นภายในรถยนต์พบกระสอบบรรจุยาบ้า จำนวน 6 กระสอบ ตรวจนับได้จำนวนทั้งสิ้น 1,012,000 เม็ด โดยบรรจุแยกเป็นแพ็กเกจกันชื้น มีตัวอักษรภาษาอังกฤษ สีเขียว Y1

จากข้อมูลพบว่าเป็นสัญลักษณ์ยาบ้าเกรดต่ำ ราคาเม็ดละประมาณ 10 บาท ลักษณะยาบ้าเป็นเม็ดสีส้ม มีตัวอักษร WY คาดว่า กลุ่มผู้ผลิตใช้สารฆ่าแมลงผสมเป็นสารตั้งต้นแทนแอมเฟตามีน เพื่อลดต้นทุน และกำลังระบาดทะลักมาจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อส่งขายในพื้นที่ตอนในอีสาน อาศัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ลำเลียง โดยจะใช้กองทัพมดลักลอบขนข้ามแม่น้ำโขงมาทางเรือหางยาว ก่อนนำมาพักไว้ตามแนวชายแดนพื้นที่อีสาน รวมถึงจังหวัดนครพนม

การจับกุมครั้งนี้เป็นการสืบสวนขยายผลจากผู้ต้องหา ที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ว่า ชาวลาวชื่อ ท้าวบัวพา อายุ 25 ปี ร่วมกับเพื่อนชื่อท้าวอ้วน อายุ 26 ปี มีพฤติกรรมค้ายาเสพติด ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.นครพนม จึงวางแผนร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ติดตามความเคลื่อนไหวของบุคคลทั้งสองอย่างใกล้ชิด โดยมี พ.ต.ท.จิรเดช อัตตพงษ์ สว.กก.สส.จวฯ เป็นหัวหน้าชุดวางกำลังไว้ตามจุดต่าง ๆ กระทั่งช่วงเช้าของวันที่ 6 เมษายน สายสืบรายงานว่าพบกระสอบปุ๋ย จำนวน 6 กระสอบ คาดว่าภายในบรรจุยาบ้าซุกซ่อนไว้ในป่าหญ้าริมถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 (นครพนม-ท่าอุเทน) จึงซุ่มเฝ้าเพื่อรอว่าจะมีใครมาขนกระสอบปุ๋ยต้องสงสัย

เวลาผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมง ก็มีรถยนต์กระบะสีเทายี่ห้อมิตซูบิชิขับเข้ามาจอด และชายคนขับคือท้าวอ้วน ได้ลงมาแบกกระสอบปุ๋ยใส่ท้ายกระบะ ชุดเฝ้าซุ่มจึงจู่โจมล็อกตัวจับกุม ท้าวอ้วนจำนนต่อหลักฐานจึงรับสารภาพว่า ได้รับท้าวบัวพา โพทิลาด ใช้ให้ขับรถมาขนกระสอบบรรจุยาบ้า จากบริเวณดังกล่าว เพื่อนำไปไว้ที่ท่าทรายร้างแห่งหนึ่งอยู่ บ้านยางนกเหาะ หมู่ 2 ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน ระหว่างนั้นเองท้าวบัวพาได้ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้ามาจอดเทียบรถยนต์ของท้าวอ้วน เพื่อจะสอบถามถึงผลการทำงานลุล่วงหรือไม่ จึงถูกจับกุมตัวได้โดยละม่อม

จากนั้นชุดปฏิบัติการ กก.สส.จว.นครพนม ได้ซ้อนแผนให้ผู้ต้องหาทั้งสองคน นำของกลางยาบ้าที่อยู่ท้ายรถกระบะท้าวอ้วนมาจอดที่ท่าทรายร้าง เพื่อรอผู้ที่จะมารับยาบ้าตามที่นัดหมายกันไว้ ต่อมามีรถเก๋งฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด สีดำ ขับเข้ามาที่ท่าทรายดังกล่าว ชายคนขับเดินลงมาเปิดฝาท้ายแล้วตรงดิ่งไปที่ท้ายรถกระบะขนกระสอบยาบ้าใส่ฝาท้ายรถเก๋ง ตำรวจที่ซุ่มอยู่จึงเข้าจับกุมทันที ทราบว่าชายดังกล่าวชื่อนายอุดมสิน ส่วนภายในรถเก๋งพบนางเจนจิรา ภรรยาของนายอุดมสินนั่งรออยู่ จึงควบคุมตัวผู้ต้องหารวม 4 คนไปสอบสวนขยายผล

รองโฆษก ตร. เตือน “น้องกี้ และ ผู้” สวมหมวกกันน็อกก่อนออกเดินทาง ไม่ว่าใกล้แค่ไหน ชี้สถิติ ทุก 1 ชั่วโมง จะมีคนตาย 1 คน จากการขับขี่จักรยานยนต์

วันนี้ (13 เม.ย.66) เวลา 10.00 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.ท.หญิง ดร.ณพวรรณ ปัญญา รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประชาสัมพันธ์ เตือนผู้ขับขี่และคนซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ให้สวมหมวกนิรภัยตามกฎหมายทุกครั้งเพื่อลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บและการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ อัตราโทษสำหรับการไม่สวมหมวกนิรภัย ปรับสูงสุดถึง 2,000 บาท ชักชวนให้มีการแข่งรถในทาง จำคุกสูงสุด 6 เดือน ปรับสูงสุด 20,000 บาท แข่งรถในทาง จำคุกสูงสุด 3 เดือน ปรับสูงสุด 10,000 บาท เมาแล้วขับ จำคุกสูงสุด 1 ปี ปรับสูงสุด 20,000 บาท ทำผิดซ้ำซ้อน เพิ่มโทษ 

พ.ต.ท.หญิง ณพวรรณฯ กล่าวว่า อุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นปัญหาสำคัญที่สร้างความสูญเสียเป็นอย่างมาก ข้อมูลจาก ศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุเพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน เผยให้เห็นยอดผู้เสียชีวิตสะสมในปี 2566 (1 ม.ค.66-11 เม.ย.66) มีจำนวนสูงถึง 4,478 ราย เป็นเพศชาย 77% และเพศหญิง 23% โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงอายุ 36-60 ปี (39%) และ 25-35 ปี (21%) โดยผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนร้อยละ 79 เป็น “ผู้ขับขี่หรือผู้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์” ในภาพรวม ตามสถิติ ทุก 1 ชั่วโมง จะมีคนตาย 1 คน จากการขับขี่จักรยานยนต์  

รองโฆษกฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องในเทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง ประชาชนมีการสัญจรบนท้องถนนเพิ่มมากขึ้น ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยในความปลอดภัยของประชาชน จึงขอรณรงค์และขอความร่วมมือให้ผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์สวมหมวกนิรภัย โดยการสวมหมวกกันน็อกที่ได้มาตรฐาน สามารถช่วยลดความรุนแรงต่อการบาดเจ็บที่ศีรษะได้ถึง 72% ลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตได้ถึง 39%  จึงมีข้อแนะนำในการเลือกหมวกนิรภัยที่ปลอดภัย ดังนี้
.
1. เลือกชนิดปิดเต็มหน้าหรือชนิดเต็มใบ เพื่อปกป้องศรีษะและใบหน้าให้มากที่สุด
2. เลือกที่ได้รับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม มีสัญลักษณ์ มอก.
3. เลือกขนาดของหมวกนิรภัยให้กระชับ พอดีกับขนาดของศรีษะ 
4. เลือกสีสันสดใส มองเห็นชัดเจนแม้ในเวลากลางคืน
5. เปลี่ยนหมวกใบใหม่ทุก 3-5 ปี หรือเปลี่ยนทันทีเมื่อหมวกได้รับการกระแทก 

พ.ต.ท.หญิง ณพวรรณฯ กล่าวว่าอีกว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีความห่วงใยความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยได้สั่งการให้หน่วยปฏิบัติในพื้นที่ทั่วประเทศและกำลังพลกว่า 100,000 นาย ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน พร้อมอำนวยความสะดวกการจราจร ให้กับประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา รวมถึงการป้องปรามไม่ให้มีการฝ่าฝืนกฎหมายการบังคับใช้กฎหมายเพื่อลดอุบัติเหตุ โดยจะปฏิบัติงานตลอดช่วงเทศกาลไม่มีวันหยุด ประชาชนสามารถแจ้งเหตุร้ายที่สายด่วน 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สุโขทัย ตร.เจ๋ง ฝากบ้านยุค IT 4.0 plus Smart Safety Zone Sukhothai

  ใกล้ถึงวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ หลายคนอยากจะไปเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ แต่ก็อดเป็นห่วงบ้านและทรัพย์สินในบ้านไม่ได้ ทำให้เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ไม่กล้าเดินทางไปเที่ยวไหนไกลบ้าน วันนี้ สภ.เมืองสุโขทัย ปิ๊งไอเดีย ปลดล็อคความกังวล ของประชาชน ที่อยากจะไปเที่ยวต่างจังหวัดหลายวันแต่ก็เป็นห่วงบ้าน ด้วยโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ ที่เสริมระบบไฮเทคโนโลยี่  แบบ 4.0 plus Smart Safety Zone Sukhothai ที่นอกจากจะมีการติดตู้แดงไว้สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจมาลงเวลาในการตรวจบ้านของประชาชนแล้ว ยังประสานกับเจ้าของบ้านที่มีการติดกล้องวงจรปิดไว้ที่บ้าน สามารส่งรหัสไอพี เข้ามาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุโขทัย ที่ศูนย์ ccoc ของ Smart Safety Zone Sukhothai  และจะมีทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยตรวจสอบ ตลอด 24 ชม. อีกทั้งยังมีระบบตรวจสอบความเคลื่อนไหวให้ด้วยว่า มีอะไรเคลื่อนไหวภายในบ้านยามวิกาลหรือไม่ หากพบเห็นก็จะส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจเข้าตรวจสอบทันที

สืบเมืองกรุงรวบตำรวจเก๊ ทหารปลอมกรรโชก 3 ล้านกว่าบาท

สืบเนื่องเมื่อวันที่ 11 เม.ย. 66  ได้มีชายจำนวน 4 คน แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. กับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามเข้าขอทำการตรวจค้นบ้านที่เกิดเหตุ และได้แจ้งผู้เสียหายว่าได้กระทำความผิดฐาน ยักยอกพร้อมแสดงหมายทิพย์  และกลุ่มคนร้ายได้ร่วมกันกรรโชกเงินจากผู้เสียหายเป็นจำนวนเงิน 3,100,000 บาท (สามล้านหนึ่งแสนบาทถ้วน)  โดยภายในบ้านมีผู้หญิง เด็กอายุ9 ปี 6 ปี  ผู้เสียหายจึงยินยอมมอบเงินจำนวนดังกล่าวไป  และได้มาแจ้งความต่อ สน.หัวหมาก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล  รอง ผบ.ตร.สส. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.สุระพรรณ นาทวรทัต ผบก.น.4 ร่วมกันเร่งรัดสืบสวนจับกุมกลุ่มคนร้ายให้ได้โดยเร็ว

เมื่อวันที่ 21-22 เมษายน 2566  พล.ต.ท.ธิติ  แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.,พล.ต.ต.สุระพรรณ นาทวรทัต ผบก.น.4

พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระรองออย รอง ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.สุพล  ค้ำชู รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผกก.สส.บก.น.4 ,พ.ต.ท.จักรพงษ์ กิ่งแก้วรอง สส.บก.น.4 ,พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1 บช.น. , พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1 บช.น. , พ.ต.ต.คณิตนนท์ ถนอมศรี สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ต.กฤตวัฒน์ ขุนอินทร์ สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. ,เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนครบาล (บก.สส.บช.น.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน บก.น.4  เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หัวหมาก  และ  ร.ท.เอกชาติ อ่อนทา

หัวหน้าชุดพัฒนาสัมพันธ์มวลชน ที่ 4110 จว.สงขลานำกำลังสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา 3 คน คือ

1.นายยะฝาด ชุมประมาณ อายุ 59 ปี ที่อยู่ 98 ม.4 ต.ทุ่งหมอ อ.สะเดา จ.สงขลา 
2.นายธนพัฒน์ เล็กมณี อายุ 26 ปี ที่อยู่ บ้านเลขที่ 175/8 แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กทม.
3.นายธนมงคล ชาวสมุทร อายุ 38 ปี 175/8 ตรอกวัดพระยาทำ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กทม. 

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันกรรโชกทรัพย์และร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น ฯ”  พร้อมด้วยของกลาง รวม 25 รายการ คือ
1.หมวกแก๊ปสีดำ มีตราสัญลักษณ์กองทัพบก มีตัวอักษร ROYAL THAI ARMY
2.เสื้อคลุมแจ๊กเก็ต มีตราสัญลักษณ์ กอ.รมน.
3.กางเกงแทคติคอลสีดำ
4.เสื้อโปโลสีดำ
5.กระเป๋าหนัง มีตราสัญลักษณ์ กอ.รมน.
6.รองเท้าหนังสีน้ำตาล (ของกลางลำดับที่ 1-6 ยึดจากผู้ต้องหาที่ 1)
7. รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น เอ็นแมกซ์  หมายเลขทะเบียน 1ขท 2103 กรุงเทพมหานคร
8. เสื้อกันลมสีดำ มีอักษรปักด้านหลังว่า “เอกสยาม” 1 ตัว
9. รองเท้าบู้ทสีน้ำตาลจำนวน 1 คู่

10. หมวกกันน็อคยี่ห้อ LUCKY สีดำ จำนวน 1 ใบ
11. หมวกแก็ปสีดำยี่ห้อ SPORTS จำนวน 1 ใบ
12. แว่นตากันแดดสีดำจำนวน 1 อัน
13. ทองคำรูปพรรณ ห้างขายทอง ทองใบเยาวราช หนัก 2 บาท  จำนวน 1 เส้น

14. สร้อยข้อมือทองคำ ห้างขายทอง ทองใบเยาวราช หนัก 2 บาท จำนวน 1 เส้น
15. แหวนทองคำห้างขายทองทองใบเยาวราช หนัก 2 สลึง จำนวน 1 วง
16.เงินสดจำนวน 200,000 บาท (สองแสนบาทถ้วน) (ของกลางลำดับที่ 7-16 ยึดจากผู้ต้องหาที่ 2)
17. เสื้อแขนยาวสีดำ 1 ตัว
18. กางเกงยีนส์สียีนส์ 1 ตัว
19. รองเท้าบู้ทสีน้ำตาลจำนวน 1 คู่
20. หมวกกันน็อคยี่ห้อ INDEX สีดำแดง จำนวน 1 ใบ
21. กระเป๋าสะพายข้างสีน้ำตาล 1 ใบ
22. ทองคำรูปพรรณ ห้างขายทอง ทองใบเยาวราช น้ำหนัก 2 บาท  จำนวน 1 เส้น
23. สร้อยข้อมือทองคำ ห้างขายทอง ทองใบเยาวราช น้ำหนัก 2 บาท จำนวน 1 เส้น
24. แหวนทองคำห้างขายทองทองใบเยาวราช น้ำหนัก 2 สลึง จำนวน 1 วง
25. เงินสดจำนวน 50,000 บาท (ห้าหมื่นบาทบาทถ้วน) (ของกลางลำดับที่ 17-25 ยึดจากผู้ต้องหาที่ 3)

โครงการฝึกอบรมหลักสูตรการเพิ่มและพัฒนาศักยภาพการใช้ยุทธวิธีตำรวจเกี่ยวกับ การต่อต้านการก่อการร้าย กรณีมือปืนยิงกราด และการบริหารเหตุการณ์วิกฤตกรณีมือปืนยิงกราด (Active Shooter)

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.(ในฐานะรับผิดชอบดูแลกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว) ในเรื่องของการสร้างความรู้และการรับมือกับเหตุการณ์วิกฤต กรณีมือปืนยิงกราด เนื่องในปัจจุบันมีการก่อเหตุอาชญากรรมในลักษณะดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเหตุกราดยิงที่จังหวัดนครราชสีมา หรือ เหตุกราดยิงที่จังหวัดหนองบัวลำภู จึงจำเป็นที่จะต้องถ่ายทอดความรู้ สร้างแนวความคิด ทักษะ และวิธีการปฏิบัติตาม SOP เพื่อเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชนเมื่อเผชิญเหตุ

วันนี้ 27 เมษายน 2566 พล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (ผบช.ทท.) ประธานในพิธี พร้อมด้วย พ.ต.อ. ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.1 บก.ทท.1, พ.ต.ท.ณัฐพล คนหลัก รอง ผบก.1 บก.ทท.1, พ.ต.ต.กฤตพร แสงสุระ สว.กก.1 บก.ทท.1, พ.ต.ต.วรกิจ วรรณสอน สว.ส.ทท 3 กก.1 บก.ทท.1 เข้าร่วมในพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมหลักสูตรการเพิ่มและพัฒนาศักยภาพการใช้ยุทธวิธีตำรวจเกี่ยวกับการต่อต้านการก่อการร้ายกรณีมือปืนยิงกราด และการบริหารเหตุการณ์วิกฤต กรณีมือปืนยิงกราด (Active Shooter)

สำหรับโครงการฝึกอบรมหลักสูตรการเพิ่มและพัฒนาศักยภาพการใช้ยุทธวิธีตำรวจเกี่ยวกับ การต่อต้านการก่อการร้าย กรณีมือปืนยิงกราด และการบริหารเหตุการณ์วิกฤตกรณีมือปืนยิงกราด (Active Shooter) เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และผู้บังคับบัญชา ประกอบกับเหตุการณ์ การก่ออาชญากรรมใน ปัจจุบัน มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในหลายๆเหตุการณ์จะพบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อเข้า เผชิญเหตุ ไม่สามารถเข้าระงับเหตุเบื้องต้น ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงบานปลายขึ้นได้ ต้องขอ หน่วยปฏิบัติการพิเศษ หรือหน่วยอาวุธและยุทธวิธีพิเศษ (SWAT) มักไม่ทราบขั้นตอนปฏิบัติ เมื่อมีเหตุการณ์ยังตัวประกัน หรือเหตุที่ต้องแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด ผู้ปฏิบัติยังไม่มีความมั่นใจ กล้าตัดสินใจ จึงได้จัดโครงการดังกล่าวข้างต้น โดยวัตถุประสงค์ของหลักสูตร ดังนี้

‘บิ๊กโจ๊ก’ เผยความคืบหน้าคดี ‘แอม ไซยาไนด์’ พบว่ามี ‘ตำรวจ’ 1 นาย เอี่ยวเรื่องนี้ด้วย!!

(2 พ.ค. 66) ที่สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยก่อนเข้าประชุมคณะตำรวจคลี่คลายคดีการเสียชีวิตวางยาฆ่าชิงทรัพย์ จากนางสรารัตน์ หรือแอม รังสิวุฒาภรณ์ ว่าในช่วงที่ 3-4 วันที่ผ่านมาคดีมีความคืบหน้าไปอย่างรวดเร็ว การประชุมในวันนี้เป็นการประชุมเพื่อเร่งรัดสำนวนการสอบสวนที่เหลืออยู่ ตอนนี้ตัวเลขผู้เสียชีวิตทั้งหมดอยู่ที่ 14 คน 14 คดี มีผู้รอดชีวิต 1 คน ซึ่งตอนนี้ขอศาลอนุมัติออกหมายจับไปแล้ว 10 คดี และแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้วพร้อมอายัดตัวผู้ต้องหา ซึ่งตอนนี้ผู้ต้องหาอยู่ที่เรือนจำ ส่วนอีก 4 คดีที่เหลือวันนี้จะมาไล่เรียงทั้งหมดเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาให้ครบถ้วนทั้งหมด 14 คดี และตอนนี้ต้องมาดูพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงไปถึงบุคคลใกล้ชิด ซึ่งยังไม่ขอเอ่ยชื่อ และวันนี้พบพยานหลักฐานแล้วว่ามีบุคคลใกล้ชิดเข้าไปเกี่ยวข้องและร่วมกันกระทำความผิด

ส่วนไซยาไนด์ตอนนี้พบแหล่งที่มาแล้ว อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร วันนี้ได้ประสานอธิบดีกรมอุตสาหกรรมที่รับผิดชอบและดูแลเรื่องการอนุญาตการนำเข้า ซึ่งเมื่อนำเข้ามาแล้วจะต้องมีวิธีการควบคุมไม่ให้กระจายออกไป ไม่ให้มีการนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง และต้องใช้ตามวัตถุประสงค์ที่นำเข้ามา โดยวันนี้ได้ขออนุมัติหมายค้นเข้าตรวจค้นแหล่งที่มาของไซยาไนด์แล้ว เบื้องต้นมีรายงานว่าเป็นโรงงานแห่งหนึ่งย่านลาดกระบัง ถ้าพบการกระทำผิดในส่วนนี้ก็จะดำเนินคดีด้วย และวันนี้ได้ประสานอธิบดีกรมโรงงานและเลขาธิการสำนักงานอาหารและยา (อย.)

ส่วนการประชุมในวันนี้เป็นการตรวจสอบพยานหลักฐานและเรียบเรียงสำนวนทั้ง 10 สำนวน เพื่อเพิ่มความแน่นหนาของพยานหลักฐานต่าง ๆ ให้สำนวนมีความรัดกุมที่จะสามารถให้ศาลพิพากษาลงโทษผู้กระทำความผิดได้ ส่วนอีก 4 คดี ก็จะเร่งรัดดำเนินการเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับให้ครบถ้วน ในส่วนทั้ง 10 คดี พยานหลักฐานจะแตกต่างกันบางส่วน แต่หลักการสำคัญคือความเชื่อมโยงในการกระทำความผิดของนางแอม ซึ่งยืนยันว่าเป็นคนลงมือและก่อเหตุในลักษณะคล้ายกัน คือนำไซยาไนด์มาให้เหยื่อกิน ถึงแม้การชันสูตรพลิกศพจะพบสารไซยาไนด์ในร่างผู้เสียชีวิตเพียง 2 ราย แต่แผนประทุษกรรมพบว่าสามารถเชื่อมโยงไปถึงกรณีอื่นได้ ภายใน 1-2 วัน จะรวบรวมหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมได้

‘บิ๊กโจ๊ก’ มอบรางวัล ‘ผู้สื่อข่าวดีเด่นภาคสนาม-ทุนการศึกษาแก่บุตรหลานสื่อ’ พร้อมเชิดชู 18 ตร.ผ่านรางวัลต้นแบบผู้พิทักษ์สันติราษฏร์

สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมฯ มอบรางวัลเชิดชูเกียรติต้นแบบผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ และผู้สื่อข่าวดีเด่นภาคสนาม พร้อม มอบทุนการศึกษาบุตร-ธิดา สมาชิกสมาคม

(6 พ.ค. 66) ที่กองบังคับการปราบปราม ถนนพหลโยธิน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานมอบทุนการศึกษาแก่บุตรหลานของนักข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย ร่วมมอบทุนจำนวน 120 ทุน

นายไพโรจน์ กล่าวว่า การมอบทุนการศึกษานี้นั้น มอบให้ตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนจบ ป.ตรี เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้ผู้สื่อข่าวและผู้ประกาศข่าวที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในภาคสนาม นอกจากนี้ ทางสมาคมพิจารณารางวัล และรางวัลเชิดชูเกียรติผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ และรางวัลคนดีศรีสังคม ทั้งหมดนี้ เป็นการยกย่องการปฏิบัติหน้าที่ของท่านที่ทำความดีให้สังคม

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ได้เห็นการทำงานของสมาคมตลอด และสมาคมจะเป็นตัวชี้วัดการทำงานของตำรวจทุกปี สะท้อนภาพรวมการทำงานทั้งด้านบวกด้านลบ อีกทั้งสมาคมฯ ยังมีการจัดงานมอบทุนการศึกษาประจำทุกปี เป็นสิ่งที่น่ายินดีอย่างยิ่ง

สำหรับรางวัลเชิดชูเกียรติต้นแบบผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ 18 นาย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีผลงานดีเด่นเป็นที่ประจักษ์ต่อสังคม อาทิ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สาขาปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ดีเด่น, พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด สาขาปราบปรามยาเสพติดดีเด่น, พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาคเจ็ด สาขาปราบปรามอาชญากรรมดีเด่น, พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว สาขาป้องกันปราบปรามคอรัปชันดีเด่น, พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนนครบาลสาขา สืบสวนอาชญากรรมดีเด่น, พ.ต.อ.ภูภณ ทัพเจริญ ผกก.สภ.เมืองนครปฐม สาขาจิตวิญญาณผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ดีเด่น, พ.ต.ต.ประเวศน์ แสงพรม สว.กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ สาขาจิตวิญญาณผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ดีเด่น


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top