Thursday, 2 May 2024
ตำรวจ

เปิดคำพูด ‘หนุ่มสิงคโปร์’ เพื่อนดาราสาวไต้หวัน ชี้!! ตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน จำใจจ่ายเงินให้ตำรวจ

กัญชาขายได้ไม่ผิด ไม่รู้จริงๆ ว่าบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายไทย ‘สกาย’ หนุ่มสิงคโปร์เผยตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน พยายามพูดขอโอกาส แต่ ตร.ขู่จะพาไปโรงพัก ต้องอยู่ต่ออีก 2 วัน จำใจจ่ายค่าปรับบุหรี่ไฟฟ้า คนละ 8 พัน กับค่าไม่พกพาสปอร์ต ซ่อนไว้ 3 พัน ควักจ่าย 2.7 หมื่น ระบุไม่อยากเอาเรื่อง ตร.ก็มีคนดี คงไม่ซวยเจอทุกครั้ง 

ตำรวจรีดเงิน วันนี้ (1 ก.พ.66) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นัดเปิดตัว ‘สกาย’ นักท่องเที่ยวหนุ่มชาวสิงคโปร์ กลุ่มเดียวกับดาราสาวชาวไต้หวัน พยานปากสำคัญ ซึ่งเป็นผู้จ่ายเงิน 27,000 บาท ให้กับตำรวจ สน.ห้วยขวาง กรณีครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า

ต่อมาเวลา 14.20 น. ‘สกาย’ นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ เริ่มแถลงข่าว เพื่อพูดให้สังคมไทยได้รับฟังว่า ในวันเกิดเหตุพวกเขาไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดเพื่อนที่ “ออนิก” อาร์ซีเอ ไม่ได้จ่ายเงิน จากนั้นเรียกแกร็บแท็กซี่ไปห้วยขวาง จะไปนั่งกินเหล้าชิวๆ  เนื่องจากใกล้กับที่พัก ซึ่งเป็นโรงแรมในย่านห้วยขวาง ภายในรถแท็กซี่มีอยู่ 4 คน เมื่อมาเจอด่านตรวจ มีไฟฉายส่องเข้ามา ตำรวจแจ้งให้เปิดกระเป๋าให้ดูสิ่งของในกระเป๋า สั่งให้ถอดรองเท้า และขอดูพาสปอร์ต พวกตนจึงเปิดให้ดูรูปถ่ายพาสปอร์ตที่บันทึกไว้ในโทรศัพท์

ระหว่างนั้นชาร์ลีนถ่ายรูปตำรวจ ตำรวจทำเหมือนเป็นเรื่องใหญ่ เหมือนทำอะไรผิด สั่งให้ลบภาพ 2-3 ครั้ง บอกว่าไม่ได้ถ่าย เพื่อนในกลุ่มใช้โทรศัพท์คุยกับเมีย ตำรวจก็บอกไม่ให้คุย ตำรวจถามว่ารู้ไหมว่าทำอะไรผิด ไม่มีวีซ่า ผมก็บอกว่าสิงคโปร์เข้าไทยไม่ต้องทำวีซ่า ตร.บอกมีบุหรี่ไฟฟ้าต้องจับ ตร.พูดคล้ายกับว่าอย่าเถียง ผมก็ถามว่าบุหรี่ไฟฟ้าผิด ทำไมในตลาดเปิดขายทั่วไป ทุกคนใช้อยู่ไม่มีใครบอกว่าผิดกฎหมาย เพราะขนาดกัญชายังถูกกฎหมาย เปิดร้านขายได้ ตร.บอกว่าจะพาไปโรงพัก ผมไม่รู้ว่าเขาจะพาไปไหน บอกตำรวจว่าพาสปอร์ตอยู่ที่โรงแรม ขอให้ตำรวจไปดู เขาก็ไม่ไป ผมไม่เคยเจอสถานการณ์อย่างนี้ ก็ได้แต่ถามเขาว่าขอโอกาสได้ไหม บุหรี่ไฟฟ้าทิ้งไปได้เลย ตร.ก็บอกถ้าอย่างนั้นต้องไปโรงพัก

สกาย ยืนยันว่า ในวันเกิดเหตุ ชาร์ลีนไม่มีบุหรี่ไฟฟ้า ชาร์ลีนสูบบ้างแต่ไม่บ่อยมาก และวันนั้นชาร์ลีนไม่ได้เอาบุหรี่ไฟฟ้ามา ตร.บอกว่า ปรับบุหรี่ 8,000 บาท ต่อ 1 อัน มี 3 อัน กับไม่พกพาสปอร์ต เขาให้นับเงินส่งไปให้ 27,000 บาท แอบเก็บไว้ 3 พัน เพราะต้องเรียกแกร็บกลับสนามบิน ผมพูดกับเขามีมารยาทมาก แต่เขาขู่ ถ้ามีทางเลือกก็ไม่อยากให้เงิน ตอนที่เอาเงินให้ เขาสั่งให้นับและบอกว่ามีกล้องอยู่ ให้เพื่อนบังกล้องไว้ ผมไม่กล้าท้าทายเขา หลังจ่ายเงินเขาก็ปล่อยตัว แล้วเรียกแท็กซี่ให้ 

สกาย ชี้แจงถึงรูปถ่ายชาร์ลีนถือบุหรี่ไฟฟ้าว่า ตร.สั่งให้ถือบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อถ่ายรูปไว้ ทำให้มีรูปถ่ายถือบุหรี่ไฟฟ้ารวมถึงตนด้วย

'ชูวิทย์' แฉยับ ตำรวจทำ 'พนันออนไลน์' เสียเอง เตือน!! ผบ.ตร. ต้องกล้าฟัน ยังมีเว็บพนันเอี่ยว ตร. อีก

(9 ก.พ. 66) ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า ‘มาเก๊า 888’ ตายเพราะนารีพิฆาต ไม่ใช่ตำรวจ เว็บพนันออนไลน์เฟื่องฟู รายได้มากมายมหาศาลมีสารพัดเว็บ แค่เปิดดูในเน็ตก็เจอแล้วว่าเว็บพนันไหนยอดนิยม

มาเก๊า 888 เป็นเว็บที่มีเงินหมุนเวียน 5,000 ล้าน มีครอบครัวพี่น้องชายล้วน 4 คน เกี่ยวข้อง คนแรกชื่อ เบนซ์ (แฟนเก่าดิว) คนรอง บอส, บิ๊ก และไบร์ทที่เป็นตำรวจ

หาก ผบ.ตร. จะจัดการ ‘พนันออนไลน์’ ง่ายมาก ทุกวันนี้ตำรวจเป็นคนทำเองเสียส่วนมาก พวกนี้งานตำรวจไม่ทำ ขับรถซุปเปอร์คาร์ร่อนไปมา แต่ปรากฏว่า ‘มาเก๊า 888’ ของ 4 พี่น้อง ไม่ได้โดนตำรวจจับ แต่ดันไปโดน ‘นารีพิฆาต’ เข้าให้

ดิวออกมาแฉ เพราะโดนทำร้ายหน้าแหกตอนเป็นแฟนต่อหน้าคนในครอบครัว ไม่มีใครห้าม เลยอดไม่ไหว เมื่อเลิกกันแล้ว แค้น 10 ปี ยังไม่สาย ออกมาแฉทีเดียวพังเป็นแถบ ตำรวจจึงต้องขยับตามนารี ไล่จับ ไล่กดดัน ทั้งๆ ที่รู้อยู่ รับส่วยกันประจำ แล้วดันให้เวลา 4 พี่น้อง หนีไป

'ตร.สงขลา' จับมือ 'ป.ป.ส.' นำทีมจับยาบ้า 8 แสนเม็ด ไอซ์ 30 กก. จนท.เร่งขยายผลหาเอเย่นต์ใหญ่

(20 ก.พ. 66) เปิดภาพเบื้องหลังปฏิบัติการจับกุมยาบ้า 8 แสนเม็ด และไอซ์ 30 กิโลกรัม ที่ใส่กล่องพัสดุ นำมาวางไว้ริมถนนในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ และขยายผลจับกุม 3 ผู้ต้องหา ยึดทรัพย์รถยนต์ 3 คัน บัญชีธนาคารรวมมูลค่า 3 ล้านบาท

จากกรณีตำรวจสงขลาและเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภาค 9 จับกุมยาเสพติดล็อตใหญ่ ซึ่งเป็นยาบ้าจำนวน 8 แสนเม็ด และไอซ์ 30 กิโลกรัม มูลค่ารวมกันกว่า 11 ล้านบาทในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งซุกซ่อนมาในกล่องพัสดุ และสามารถขยายผลจับกุมผู้ต้องหาที่มารับของได้ 3 คนและยึดรถยนต์ 3 คันมูลค่า บัญชีธนาคาร รวมมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 3 ล้านบาท และทาง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้ลงพื้นที่มาแถลงข่าวคดีนี้ ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ล่าสุดวันนี้ (20 ก.พ. 66) ทีมข่าวมีภาพเบื้องหลังเหตุการณ์ปฏิบัติจับกุมยาบ้า ยาไอซ์และเครือข่ายค้ายากลุ่มนี้ได้ทั้ง 3 คน โดยเริ่มจากเมื่อเวลาประมาณ 4 โมงเย็นวันที่ 16 กุมภาพันธ์ตำรวจ สภ.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ ได้รับแจ้งพบกล่องพัสดุต้องสงสัยจำนวน 10 กล่องถูกนำไปวางไว้ในพงหญ้าริมถนนเส้นทางออกจากนิคมอุตสาหกรรมฉลุง หมู่ 4 ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จึงประสานตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ชุดสืบสวนภาค 9 และฝ่ายปกครองอำเภอหาดใหญ่ เข้าทำการตรวจสอบและเก็บไปตรวจลายนิ้วมือแฝงที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 พบว่าภายในกล่องพัสดุมียาบ้าอยู่ 8 แสนเม็ด และไอซ์อีก 30 กิโลกรัม

'กรมศุลฯ' จับมือ 'ตร.' เตรียมทำลายบุหรี่ไฟฟ้า ทลายโกดังสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ มูลค่า 150 ล้านบาท!!

(23 ก.พ. 66) ที่อาคารสโมสร ศุลกากร กรมศุลกากร นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ รองอธิบดีกรมศุลกากร รักษาราชการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการพัฒนา และบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลการทำลายบุหรี่ไฟฟ้าของกลางที่คดีสิ้นสุด และผลการตรวจยึดสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า พร้อมของกลาง น้ำยา-อุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมาก รวมมูลค่ากว่า 72 ล้านบาท และสินค้าแบรนด์เนม อาทิ กระเป๋า, เสื้อผ้า, พรม, รองเท้า, น้ำหอม แบรนด์ดัง รวมมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 150 ล้านบาท

นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ รองอธิบดีกรมศุลกากร รักษาราชการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการพัฒนา และบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า...

คดีแรก คือ การระดมการกวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้า และทำลายของกลางในความผิดตามกฎหมายศุลกากรที่คดีสิ้นสุดแล้ว มูลค่ากว่า 72 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้ กรมศุลกากรทำงานร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ และกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

ได้จับกุมและตรวจยึดสินค้าจากห้างร้าน ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ รวมถึงโกดัง ซึ่งประกอบด้วย เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า หัวบุหรี่ไฟฟ้าที่ใช้สำหรับดูด และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่มีการลักลอบนำเข้ามาในประเทศไทยมาโดยตลอด และมีการดำเนินคดีจนถึงที่สุด ซึ่งของกลางดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดินและรอการทำลาย โดยของกลางที่นำไปทำลายครั้งนี้ ประกอบด้วย เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า หัวบุหรี่ไฟฟ้าที่ใช้สำหรับดูด และอุปกรณ์อื่น ๆ รวมทั้งสิ้น 874,535 ชิ้น มูลค่าความเสียหาย 72,019,523.46 บาท

โซเชียลอาลัย ‘ส.ต.อ เศรษฐการ ลอยขามป้อม’ ถูกเก๋งพุ่งชนเสียชีวิต ขณะปฏิบัติหน้าที่

(24 ก.พ. 66) โซเชียลแห่แชร์คลิปภาพระทึก รถเก๋งคันหนึ่งซิ่งชนรถจักรยานยนต์ตำรวจทางหลวงเสียชีวิต บนทางต่างระดับลำลูกกา มุ่งหน้าบางปะอิน โดยหลังเกิดเหตุคนขับได้จอดรถทิ้งไว้แล้วหนีไป ซึ่งจากลักษณะเบี่ยงรถหักหัวเข้าหารถตำรวจทางหลวงนายนี้แล้วพุ่งชน ลักษณะเหมือนจงใจขับชนหรือไม่

นี่เป็นคลิปภาพที่ได้มาจากกล้องติดหมวกของ สิบตำรวจเอก เศรษฐการ ลอยขามป้อม ผู้บังคับหมู่สถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง บันทึกเอาไว้ได้ตั้งแต่ช่วงแรกที่ สิบตำรวจเอก เศรษฐการ ขอตรวจค้น แต่คนขับไม่ยอมหยุดรถให้ตรวจ กลับเร่งเครื่องขับหลบหนีอย่างรวดเร็ว เรื่อยมาจนถึงบริเวณสะพานต่างระดับ บนถนนกาญจนาภิเษก ด้านตะวันออก (บางปะอิน-บางพลี) หรือมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 30 ตำบลบึงคำพร้อย อำเภอลำลูกกา โดย รถเก๋ง สีดำ ได้ขับเบียดแล้วหักหัวรถพุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ สิบตำรวจเอก เศรษฐการ ขี่มาจนล้มคว่ำ เป็นเหตุให้เสียชีวิตทันที เหตุการณ์เกิดช่วงเย็นเมื่อวานนี้

หลังเกิดเหตุตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าตรวจสอบในจุดเกิดเหตุ พบร่าง สิบตำรวจเอก เศรษฐการ สวมเครื่องแบบตำรวจ นอนหงายหน้าอยู่บนพื้นถนนน สภาพที่ศีรษะมีบาดแผลฉีกขาด และห่างไปประมาณ 100 เมตร พบรถจักรยานยนต์ สีขาว ซึ่งเป็นรถที่ตำรวจนายนี้ขี่มาก่อนจะถูกชน ด้านหน้าพังเสียหาย และอีกจุดไม่ไกลกันพบรถเก๋ง สีดำ คันก่อเหตุถูกจอดทิ้งไว้ แต่ไม่พบตัวคนขับ โดยมีพยานเห็นว่า คนขับเป็นผู้ชาย สวมเสื้อสีดำ ลงรถแล้ววิ่งหนีไปทางถนนลำลูกกา จากนั้นตำรวจเข้าตรวจภายในรถเจอขวดเบียร์ สภาพถูกเปิดฝาดื่มแล้ว แต่ยังดื่มไม่หมดขวด

เบื้องต้นได้สอบถามข้อมูลจากพนักงานของกรมทางหลวง ซึ่งเป็นคนที่โทรศัพท์แจ้งเหตุกับตำรวจ เล่าว่า ขณะพวกตนปฏิบัติงานอยู่บนถนนฝั่งตรงข้าม ก็ได้ยินเสียงคล้ายรถชนกัน เมื่อหันมามองเห็นฝุ่นตลบและมีรถเก๋งสีดำ จอดอยู่ 1 คัน จึงขับรถวนมาตรวจสอบถึงได้เห็นตำรวจนายนี้นอนเสียชีวิตแล้ว 

ระหว่างตำรวจกำลังสืบสวนควานหาตัวคนขับรถเก๋ง สีดำ ปรากฏว่าเวลาประมาณ 20.30 น. เมื่อคืนนี้ (23 ก.พ.) นายกิตติรัช คนขับรถเก๋ง สีดำ ที่ขับชนรถจักรยานต์ของ สิบตำรวจเอก เศรษฐการ เสียชีวิต โผล่เข้ามอบตัวกับตำรวจที่สถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง โดยตลอดช่วงที่ถูกสอบปากคำนานเกือบ 4 ชั่วโมง สังเกตว่าผู้ก่อเหตุมีสีหน้าเคร่งเครียด เบื้องต้นเจ้าตัวให้การว่า ก่อนเกิดเหตุจอดรถไว้ริมมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 เพื่อตกปลาในหนองน้ำ ระหว่างนั้นมีตำรวจทางหลวงมาไล่ เพราะเป็นจุดที่ไม่ให้จอด แต่เมื่อตำรวจพยายามขอตรวจค้น จึงพยายามขับรถหนี เพราะมีขวดเบียร์ และบุหรี่ไฟฟ้าอยู่ในรถ จึงกลัวว่าจะถูกจับดำเนินคดี ส่วนสาเหตุที่ตนเองหักรถชนรถตำรวจนั้น นายกิตติรัช ผู้ก่อเหตุอ้างว่าตกใจ และพยายามขับรถหนี ซึ่งตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ ส่วนผลการตรวจแอลกอฮอล์และสารเสพติดในร่างกายของผู้ก่อเหตุเบื้องต้นยังไม่พบ

ขณะที่ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้ตรวจสอบเก็บหลักฐานรถเก๋งของผู้ก่อเหตุ และรถจักรยานยนต์ของตำรวจที่เสียชีวิต เบื้องต้นตรวจสอบพบว่าในรถเก๋งมีนามบัตรของผู้ก่อเหตุ ระบุว่ามีอาชีพเป็นครูสอนขับรถ ส่วนขวดเบียร์และบุหรี่ไฟฟ้าที่พบในรถเจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐานไปก่อนหน้านี้แล้ว จากนั้นได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ลำลูกกา ดำเนินคดีต่อเลยทันทีเมื่อคืนนี้

ระหว่างที่ตำรวจควบคุมตัว ผู้ก่อเหตุออกจากอาคารมาเจอกลุ่มคนขี่รถบิกไบก์จำนวนนับ 10 คน ซึ่งคนเหล่านี้ทราบว่าเป็นเพื่อนร่วมก๊วนขี่รถบิกไบก์และเคยเข้าร่วมอบรมการขับขี่ปลอดภัยกับตำรวจที่เสียชีวิตนายนี้ด้วย โดยมายืนรอดูหน้าผู้ก่อเหตุ ทันทีที่เห็นหน้าวิ่งกรูเข้าไปรุมประชาทัณฑ์ มีรายงานข่าวตำรวจนายนี้กำลังจะแต่งงานกับแฟนสาวอีกด้วย    

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันไม่มีการดำเนินคดีกับเรือประมงพื้นบ้าน ที่ทำประมงในเขตพื้นที่ทับซ้อนอุทยานฯ

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันไม่มีการดำเนินคดีกับเรือประมงพื้นบ้าน ที่ทำประมงในเขตพื้นที่ทับซ้อนอุทยานฯ เพราะเป็นการทำประมงเพื่อการยังชีพ แต่ที่ต้องจับประมงพาณิชย์ 27 ลำ โดยไม่อาจผ่อนผันได้ เพราะเป็นการทำประมงรุกล้ำและใช้เครื่องมือ ที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมรอบพื้นที่ท่องเที่ยว

จากกรณีเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 ที่มีเรือประมงพื้นบ้านออกมาชุมนุมประท้วงปิดปากอ่าวจนส่งผลกระทบต่อการนำเรือเข้าออกของเรือท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดสตูล ทำให้มีนักท่องเที่ยวตกค้างจำนวนมาก 

โดยเรือเหล่านี้ อ้าง เหตุผลของการชุมนุมปิดปากอ่าวว่า กังวลจะถูกดำเนินคดี หลังจากที่ตำรวจได้ร่วมกับกรมอุทยานฯ แจ้งดำเนินคดีกับเรือประมง 27 ลำที่ทำประมงในพื้นที่เขตทับซ้อนก่อนหน้านี้ 

สุดว้าว ฝีมือแม่บ้านตำรวจ OPOP สินค้าขวัญดาว ต่อยอดสร้างอาชีพอย่างยั่งยืนของครอบครัวข้าราชการตำรวจชายแดนใต้ 

วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.ท.หญิง ณพวรรณ ปัญญา รองโฆษกตำรวจ เปิดเผยว่า สมาคมแม่บ้านตำรวจ โดย คุณสุมนา กิตติประภัสร์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ พร้อมด้วย คุณอุชัญญา ปราสาททองโอสถ อุปนายกสมาคมฯ และที่ปรึกษาโครงการ OPOP ภาค 6 - 9 - ตชด. ตรวจเยี่ยมโครงการ OPOP และกิจการชมรมแม่บ้านตำรวจภูธร ภ.9 ที่โรงแรมเบดเวเคชั่น จังหวัดสงขลา 

โดยมี พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 คุณณฤดี ย้อยนวล ประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 9 รองประธานชมรมฯ ให้การต้อนรับ และนำชมผลิตภัณฑ์ opop ของกลุ่มแม่บ้านและข้าราชการตำรวจในสังกัด ภ.9 จำนวน 9 บูธ ได้แก่

บูธที่ 1 จังหวัดสงขลา ผลิตภัณฑ์ผ้าบาติกจากครอบครัวเด็กพิเศษ หมอนอิง ผลิตภัณฑ์งานถัก
บูธที่ 2 จังหวัดสตูล ขนมผูกรัก
บูธที่ 3 จังหวัดยะลา โรตีกรอบ,โรตีแช่แข็ง
บูธที่ 4 จังหวัดปัตตานี ขนมอาลัว
บูธที่ 5 จังหวัดตรัง ไตปลาคั่วกลิ้ง 
บูธที่ 6 บก.สส.ภ.9 สบู่น้ำมันมะพร้าวสูตรส้มแขก,กุ้งแห้ง, มันกุ้งทำจากกุ้งสดทะเลเกาะยอ, น้ำปลาหวาน, ขนมทองม้วน 
บูธที่ 7 จังหวัดพัทลุง กระเป๋าสานพลาสติก กล้วยเมืองลุง 
บูธที่ 8 จังหวัดนราธิวาส น้ำปลาร้าจากปลากะตักทะเลใต้ น้ำปลาหวานแฮนด์เมด แบรนด์ "ของโปรด"
บูธที่ 9 งานปักผ้าขวัญดาว จากกลุ่มแม่บ้าน ตำบลละเวง จังหวัดนราธิวาส

“ผู้ว่า” นั่งหัวโต๊ะประชุม คณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจจังหวัดสมุทรปราการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ภายในอาคารห้องประชุม ชั้น 3 อุทยานการเรียนรู้และหอชมเมือง ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ได้มีการกำหนดการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจจังหวัดสมุทรปราการ 

โดยภายในการประชุมครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากท่าน ศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ในฐานะ ประธาน กต.ตร.จังหวัดสมุทรปราการ ให้เกียรติมาเป็นประธานในการประชุม โดยมี นายสุดใจ จิรยาภากร ผู้บริหาร บริษัท โคมอส คอร์ปอเรชั่น จำกัด และ ประธานที่ปรึกษา กต.ตร. จังหวัดสมุทรปราการ ดร.พัชรางสุ์ ชัยวรมุขกุล อัยการจังหวัดสมุทรปราการ ในฐานะ รองประธาน กต.ตร.จังหวัดสมุทรปราการ พล.ต.ต. ดร.พัลลภ แอร่มหล้า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ในฐานะ รองประธาน กต.ตร.จังหวัดสมุทรปราการ ดร.กิตติ ยงค์สงวนชัย ที่ปรึกษา กต.ตร.จังหวัดสมุทรปราการ นายธงชัย อัศวสุขี รองประธาน กต.ตร. สภ.บางพลี นายสมหวัง เกษมโกสินทร์ เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ และคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจจังหวัดสมุทรปราการ (กต.ตร.) เข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียง

โดยก่อนการประชุมจะเริ่มขึ้น ทางคณะเจ้าหน้าที่ได้นำคณะ กต.ตร.เข้าเยี่ยมชมนิทรรศการร้อยเป็นเรื่องเมืองปากน้ำ จากนั้น นายสมหวัง เกษมโกสินทร์ เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ในฐานะ ตัวแทนนางสาวนันทิดา แก้วบัวสาย นายก อบจ.สมุทรปราการ กล่าวให้การต้อนรับทางคณะ กต.ตร.ตลอดจนแขกผู้มีเกียรติ

จากนั้น นายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ให้เกียรติมอบโล่เพื่อขอบคุณในการสนับสนุนสถานที่จัดการประชุม และการเข้าเยี่ยมชมนิทรรศการในครั้งนี้ พร้อมทั้ง ยังได้มอบใบประกาศเกียรติคุณและเงินรางวัลแก่ข้าราชการตำรวจดีเด่น จำนวน 3 นาย เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฎิบัติหน้าที่

โดยระเบียบวาระการประชุม ประกอบไปด้วย การแนะนำและพิจารณาแต่งตั้งที่ปรึกษาคณะกรรมการ กต.ตร.จังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 2 ท่าน พร้อมทั้ง เปิดวีดีทัศน์รับชมผลงานและการปฎิบัติหน้าที่ของทาง กต.ตร.จังหวัดสมุทรปราการ ในช่วงที่ผ่านมา พร้อมทั้ง การรายงานผลการปฎิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการและการติดตามจับกุมในคดีต่างๆ รวมถึงคดีที่สำคัญ 

ตำรวจสายสอบสวน ขอย้ายไม่ได้ ต้องขอลาออก หลังที่ทำงานไกล ‘ไป-กลับ’ 100 กม. เดือดร้อนมาก

(16 มี.ค. 66) Thaicrime Online โพสต์ข้อความ ระบุ...หัวอกคนไกลบ้าน!....ขอย้ายไม่ได้...ขอลาออกแทน!!....สตช....สายสอบสวนสมองไหล.....เรื่องที่แก้ไม่จบ...

พร้อมทั้งโพสต์ จดหมายของเจ้าหน้าที่สายสอบสวนรายหนึ่ง ที่ขอย้ายไปทำงานใกล้บ้าน แต่ไม่ได้รับการพิจารณา ความว่า...

เรียน ผกก.สน.บางโพงพาง

ด้วยกระผม ร.ต.ท. (สงวนชื่อ-สกุล) ตำแหน่ง รอง สว.(สอบสวน) สน.บางโพงพาง ตำแหน่งเลขที่ (สงวน) อัตราเงินเดือน ส.๑ ขั้น ๑๑.๐ ๑๘,๙๕๐ บาท มีความประสงค์จะขอลาออกจากราชการไปประกอบอาชีพอื่น เนื่องด้วยที่ทำงานอยู่ไกลจากภูมิลำเนา จำต้องเดินทางไปกลับประมาณ ๑๐๐ กิโลเมตร ทุกผลัดที่เข้าเวร ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก และขอไปดำรงตำแหน่งใกล้บ้านก็ไม่ได้รับพิจารณให้ไปตามที่ได้ร้องขอแต่อย่างใด

'บิ๊กตู่' ปฏิรูปตำรวจครั้งใหญ่ แก้ไข พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ลดจุดอ่อนกฎหมายเดิม

#จดหมายเหตุลุงตู่ #8ปีที่เปลี่ยนไป #ยุบสภา

'บิ๊กตู่' ปฏิรูปตำรวจครั้งใหญ่ แก้ไข พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ลดจุดอ่อนกฎหมายเดิม
 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top