Thursday, 2 May 2024
ตำรวจ

‘บิ๊กเต่า’ ชี้!! ตำรวจและ ป.ป.ช. ทำงานอิสระต่อกัน ไม่มีการกลั่นแกล้งหรือเล่นนอกเกม

เมื่อวานนี้ (21 ก.พ. 67) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. ในฐานะรองหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคลี่คลายคดีเว็บไซต์พนันออนไลน์เครือข่ายมินนี่ ที่ได้รับการแต่งตั้งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวแบ่งออกเป็นสองสำนวน คือสำนวนแรกที่มีผู้ต้องหาจำนวน 61 ราย สำนวนที่ 2 มีผู้ต้องหาจำนวน 5 ราย โดยหนึ่งในนั้นคือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.

บางช่วงบางตอนของการให้สัมภาษณ์ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. ระบุว่า…"การดำเนินการครั้งนี้ ทำตามพยานหลักฐาน ซึ่งตำรวจและ ป.ป.ช.ได้ทำงานโดยเป็นอิสระต่อกัน ไม่ได้มีการกลั่นแกล้งหรือเล่นนอกเกม แต่ต้องการให้เรื่องนี้จบโดยเร็ว เพราะมีหลายฝ่ายนำเรื่องนี้มาโจมตีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เกิดความเสียหาย"

แฉ ‘บิ๊กโจ๊ก’ เส้นเงินเว็บพนัน ‘มินนี่’ ฟอกเงินผ่านวิธี ‘สังฆทานเวียน’

เปิดปมหลักฐานที่โยงมาถึงตัว 'บิ๊กโจ๊ก' พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. นั่นก็คือ 'เส้นเงิน' หรือเส้นทางการเงิน จากเว็บพนันออนไลน์ เข้ามาถึงตัวบิ๊กโจ๊กจำนวนมหาศาล ประมาณ 300 ล้านบาท ผ่านบัญชีม้า ซึ่งมือขวาของบิ๊กโจ๊ก คือ พ.ต.อ.คริษฐ์ ปริยะเกตุ เป็นคนถือ

ซึ่ง พ.ต.อ.คริษฐ์ ตอนนี้ ก็โดนจับข้อหารับเงินเว็บพนันออนไลน์แล้วถึง 2 คดี ล้วนแต่เป็นเครือข่าย 'มินนี่' อายุน้อยร้อยเว็บ

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน สาวเส้นทางการเงินย้อนไปหลายปี เริ่มตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา เมื่อเงินมาถึงบัญชีม้าในมือของ พ.ต.อ.คริษฐ์ ก็มีการเบิกมาให้บิ๊กโจ๊กใช้ทำคดี ใช้รักษาพยาบาล และอื่น ๆ

โดยมีเทคนิค 'สังฆทานเวียน' กล่าวคือ พ.ต.อ.คริษฐ์ ถอนเงินสดมาให้บิ๊กโจ๊ก บิ๊กโจ๊กเอาไปให้เมีย แล้วเมียเอามาให้ พ.ต.อ.คริษฐ์อีกที เพื่อสร้างเส้นทางการเงินว่า เมียบิ๊กโจ๊ก ให้เงินส่วนตัว สนับสนุนสามีในการทำคดี

ซึ่งบิ๊กโจ๊กก็เคยอ้างถึงเรื่องนี้ว่า เมียตัวเองเป็นนักธุรกิจที่ร่ำรวยเป็นพันล้าน มีธุรกิจเดินรถที่ภาคใต้ ก็เอาเงินส่วนตัวมาช่วยชาติ

แต่ทางพนักงานสอบสวนไม่เชื่อคำกล่าวอ้างดังกล่าว ก็ได้ตรวจสอบประเด็นนี้แล้ว พบว่าธุรกิจเดินรถของเมียบิ๊กโจ๊กที่อ้างถึงนั้น ไม่ได้มีผลประกอบการที่ดีแต่อย่างใด ดูจากการจ่ายภาษี และแสดงงบดุลบริษัท

จุดสลบของบิ๊กโจ๊ก ก็คือ การที่ พ.ต.อ.คริษฐ์ ทำบัญชีรายรับรายจ่ายเงินสกปรกไว้อย่างละเอียดยิบ ไม่มีตกหล่นแม้แต่รายการเดียว เพื่อป้องกันไม่ให้มีใครกล้ายักยอกไปใช้เอง

การยึดคอมพิวเตอร์ของ พ.ต.อ.คริษฐ์ ไปตรวจ แล้วเจอรายการบัญชีเหล่านี้ จึงเป็นหลักฐานที่แน่นหนามาก

‘บิ๊กต่อ’ สั่งเด้ง 8 ตร.คดีเว็บพนันมินนี่ เข้า ศปก.ตร. ให้ขาดจากตำแหน่งเดิม

(24 ก.พ. 67) พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากกรณีคดีเว็บไซต์พนันออนไลน์เครือข่ายมินนี่ ที่มีข้าราชการตำรวจ 8 นายตกเป็นผู้ต้องหา และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามคำร้องขอของอัยการ ขอให้กำหนดมาตรการคุ้มครองความปลอดภัยอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน และอัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 1 ที่เข้าไปให้คำแนะนำสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าวนั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 67 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงนามในคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 106/2567 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจช่วยราชการและรักษาราชการแทน ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งที่ 543/2566 ลงวันที่ 27 กันยายน 2566 ให้ข้าราชการตำรวจ จำนวน 8 ราย ปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ด้วยเหตุกรณีที่มีข้าราชการตำรวจถูกดำเนินคดีในการกระทำความผิดอาญา หากปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานเดิมอาจเกิดความเสียหายต่อทางราชการนั้น

เนื่องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับรายงานกรณีที่ข้าราชการตำรวจดังกล่าว ซึ่งอยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีในการกระทำความผิดอาญา มีพฤติการณ์ไม่เหมาะสมกับเจ้าพนักงานผู้ปฏิบัติหน้าที่ในการให้คำแนะนำปรึกษาการสอบสวนคดีนี้ และขัดขวางกระบวนการสืบสวนสอบสวน ทำให้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ราชการ และการอำนวยความยุติธรรมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยหากให้ปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานเดิมอาจก่อให้เกิดความเสียหาย ประกอบกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งที่ 93/2567 ลงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง กรณีที่ข้าราชการตำรวจดังกล่าวมีกรณีกล่าวหาหรือเป็นที่สงสัยว่ากระทำผิดวินัย

ดังนั้น เพื่อประโยชน์ในการอำนวยความยุติธรรมทางอาญาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และให้การดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวมทั้งเพื่อมิให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 63 และมาตรา 105 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ประกอบระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2566 จึงให้ข้าราชการตำรวจช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาคาร 1 ชั้น 20 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มอบหมายเป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย และให้ข้าราชการตำรวจรักษาราชการแทนในตำแหน่งต่าง ๆ รวมจำนวน 11 ราย

ทั้งนี้ ให้ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ควบคุมดูแลการปฏิบัติของข้าราชการตำรวจที่ช่วยราชการ พร้อมทั้งกำชับการปฏิบัติหน้าที่ให้เหมาะสมต่อไป

ปชช. แห่ไปถ่ายรูป เช็กอิน นั่งเล่นที่บันได จุดเกิดเหตุ ที่หมอถูกฝรั่งทำร้าย จนกลายเป็นข่าวดัง

(2 มี.ค. 67) จากกรณีแพทย์หญิงรายหนึ่งออกมาร้องขอความเป็นธรรม ถูกชายต่างชาติที่เป็นเจ้าของศูนย์อนุรักษ์ช้างเตะหลังขณะนั่งบันไดชมจันทร์หน้าวิลล่าแห่งหนึ่ง บริเวณชายหาดภูเก็ต แถมยังถูกหญิงไทยซึ่งเป็นภรรยาของฝรั่งคนดังกล่าวด่ากราด อ้างมีตำรวจยศใหญ่คอยดูแลอยู่เบื้องหลัง ขณะที่คู่กรณีโต้ลั่นไม่ได้เตะ แค่สะดุดแล้วเท้าไปโดนหลังเท่านั้น

หลังจากเกิดเหตุดังกล่าวจนกลายเป็นกระแสโด่งดัง และเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก จนสู่กระแสนัดรวมตัวขับไล่ ในวันที่ 3 มีนาคม เวลา 09.00 น. นั้น ล่าสุดทางเพจ “โหดจัง จังหวัดภูเก็ต” โพสต์ข้อความ โดยระบุว่า

“สุดจัด #แลนด์มาร์ก แห่งใหม่ของชาวภูเก็ต ใครไม่มาถือว่าพลาดอย่างแรงพี่น้อง ใครไปแล้วบ้าง ถ่ายรูปมาโชว์หน่อย !”

กลายเป็นว่า มีประชาชนจำนวนมาก แห่ไปถ่ายรูปเช็กอิน พร้อมกับนั่งบันได จุดเกิดเหตุที่แพทย์หญิงถูกฝรั่งทำร้ายร่างกาย จนกลายเป็นข่าวดังระดับประเทศ

หลังจากโพสต์ไปไม่นาน มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น พร้อมกับแนบรูปถ่ายเซลฟี่ เช็กอินสถานที่เกิดเหตุระนาว ก็มีทั้งคนมีชื่อเสียง เข้ามาแสดงความคิดเห็นด้วย เช่น หมอแล็บแพนด้า

ขณะที่ นายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล ส.ส.ภูเก็ต เขต 3 พรรคก้าวไกล ประธานคณะอนุกรรมาธิการทะเลสาบสงขลาฯ โฆษกคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเช่นกัน

ตร. เตือนภัยข้าราชการบำนาญ อย่าหลงเชื่อ มิจฉาชีพแอบอ้างเป็นกรมบัญชีกลาง

พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. และ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ. ศปอส.ตร. ได้มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่อาจได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันมีพี่น้องประชาชนจำนวนมากที่ได้รับความเสียหายจากการหลอกลวงบนโลกออนไลน์ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตรวจสอบพบว่ามีเหตุคนร้ายแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลางโทรหาข้าราชการผู้รับบำนาญเพื่อแจ้งให้อัปเดตข้อมูลบัญชีธนาคารแล้วหลอกให้กดลิงก์กรอกข้อมูลส่วนตัว เพื่อขโมยเงินในบัญชีธนาคารทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงขอแจ้งเตือนภัยดังนี้

คนร้ายแอบอ้างเป็นกรมบัญชีกลางหลอกเอาข้อมูลส่วนตัวเพื่อดูดเงิน
คนร้ายโทรศัพท์หาเหยื่อแจ้งว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลางและยังแจ้งเหยื่อว่าทางกรมบัญชีกลางจะมีการปรับเงินเดือนข้าราชการบำนาญเพิ่มอีกร้อยละ 5%  โดยคนร้ายทราบข้อมูลส่วนตัวของเหยื่อที่เกี่ยวข้องกับกรมบัญชีกลางทั้งหมดเหยื่อจึงหลงเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลางจริงๆ  คนร้ายจึงให้เหยื่อเพิ่มเพื่อนไลน์ ส่งลิงก์ให้เหยื่อกรอกข้อมูล พร้อมให้ดาวน์โหลดติดตั้ง Application ควบคุมโทรศัพท์มือถือและเร่งเหยื่อให้ดำเนินรายการให้เร็วที่สุด เหยื่อจึงได้ดำเนินการตามคนร้ายทุกขั้นตอนจนเสร็จสิ้น จนเหยื่อมารู้ตัวทีหลังว่ามีการโอนเงินออกจากบัญชีเหยื่อไป

จุดสังเกต
•คนร้ายรู้ข้อมูลส่วนตัวทั้งหมดจึงทำให้เหยื่อหลงเชื่อได้ง่าย
•คนร้ายให้เพิ่มเพื่อนผ่านไลน์ โดยไลน์ของคนร้ายปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยงาน
•คนร้ายส่งหน้า Website จริงของกรมบัญชีกลางให้น่าเชื่อถือ
•เมื่อเหยื่อเริ่มเชื่อคนร้ายจึงส่งลิงก์ให้เหยื่อกดติดตั้ง Application
วิธีป้องกัน
•กรมบัญชีกลางไม่มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่โทรติดต่อข้าราชการหรือผู้รับบำนาญ
•หากมีสายติดต่อเข้ามาจากหน่วยงานต่างๆให้วางสายก่อนแล้วโทรกลับไปใหม่ ปกติสายของคนร้ายจะไม่สามารถโทรกลับได้
•หน่วยงานราชการไม่มีการโทรติดต่อไปก่อน และไม่มีการให้ติดต่อผ่านทางไลน์หากไม่มั่นใจให้โทรสอบถามหน่วยงานนั้นๆก่อน
•ตรวจสอบลิงก์ก่อนกดทุกครั้ง ในกรณีนี้เป็นหน่วยงานราชการลิงก์ควรเป็น Domain ลงท้ายด้วย .go.th ถ้าไม่ถูกต้องไม่ควรกดลิงก์ใดๆที่มีคนส่งมาผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ หรือติดตั้ง Application ที่ไม่ผ่านจาก Play Store หรือ App Store

สำหรับช่องทางรับรู้ข่าวสารเพื่อให้รู้เท่าทันภัยออนไลน์ในรูปแบบใหม่ สามารถติดตามข้อมูลการแจ้งเตือนภัยออนไลน์ได้ผ่านทาง www.เตือนภัยออนไลน์.com หมายเลขโทรศัพท์สายด่วน AOC 1441 กรณีถูกคนร้ายหลอกลวงแจ้งความตำรวจผ่านระบบกรณีถูกคนร้ายหลอกลวงแจ้งความตำรวจผ่านระบบ www.thaipoliceonline.go.th
 

2 หนุ่มนิวซีแลนด์ กร่าง ล็อคคอทำร้าย-แย่งปืน เจ้าหน้าที่ เหตุไม่พอใจ ที่ตำรวจ เข้าตักเตือนเรื่อง แว้นมอไซซิ่ง ในเขตชุมชน 

(17 มี.ค.67) เวลาประมาณ 15.50 น. นักท่องเที่ยวต่างชาติเหิมเกริม ฝ่าฝืนกฎจราจร ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ซ้ำหนักเข้าแย่งอาวุธปืน ทำร้ายเจ้าพนักงาน ก่อนเกิดเหตุนั้น ด.ต.สมศักดิ์ หนูเอียด ผบ.หมู่ (จร.) สภ.ฉลอง ขณะออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบ และอำนวยความสะดวก ให้บริการแก่ประชาชน บริเวณถนนเจ้าฟ้าตะวันออก หน้าสภ.ฉลอง

พบชายต่างชาติ ขับขี่รถจักรยานยนต์จำนวน 2 คัน คือ 1. Mr.HAMISH DAY อายุ 36 ปี สัญชาตินิวซีแลนด์ 2. Mr.OSCAR MATTSON DAY อายุ 38 ปี สัญชาตินิวซีแลนด์ โดยผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คัน ขับรถไม่ชิดขอบทางด้านซ้ายและใช้ความเร็วสูงในเขตชุมชน จึงเรียกให้หยุดรถแต่ทั้งสองไม่หยุดและได้หลบหนี

ด.ต.สมศักดิ์ฯ จึงได้ขับรถติดตามเมื่อทั้ง 2 คันจอดได้แสดงอาการโวยวายไม่พอใจเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ได้ทำการถ่ายคลิปเหตุการณ์ผู้ต้องหาทั้งสองคนได้เข้ามาปัดโทรศัพท์เจ้าหน้าที่ขณะถ่ายคลิปและทั้งสองคนได้เข้าทำร้ายและควบคุมตัว ด.ต.สมศักดิ์ฯ และ ได้ยื้อแย่งอาวุธปืนเป็นเหตุให้ปืนลั่นจำนวน 1 นัด เจ้าหน้าที่ในข่ายสภ.ฉลองได้เข้าช่วยเหลือเหตุการณ์ดังกล่าว

และทำการจับกุมผู้ต้องหา ทั้ง 2 ราย สถานที่จับกุม บริเวณริมถนนหน้าร้านกิตติก๋วยเตี๋ยวเป็ด ถนนเจ้าฟ้าตะวันออก ตำบลฉลอง อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต

เจ้าหน้าที่ฯได้แจ้งข้อกล่าวหา ในความผิดฐาน ร่วมกันชิงทรัพย์,ร่วมกันต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่,ร่วมทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่,ร่วมกันพยายามให้ ขอให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงานเพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำการ หรือประวิงการกระทำ อันมิชอบด้วยหน้าที่,ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับรถ

จากนั้น เจ้าหน้าที่ฯควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ฉลองดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ตร.สน.บางซื่อ ใช้เครื่อง AED และ CPR ช่วยคนขับรถตู้หมดสติ ตามนโยบาย ช่วยเหลือ ปชช. เหมือนเป็นคนในครอบครัว

(23 มี.ค.67) ตำรวจ สน.บางชื่อ ได้รับแจ้ง คนขับรถตู้หมดสติคาพวงมาลัย บริเวณแยกกำแพงเพชร แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ด.ต.ไกรศร พลตาล ซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ จึงไปตรวจสอบ พบชายดังกล่าว มีสัญญาณชีพเพียงเล็กน้อย ด.ต.ไกรศร จึง ได้วิทยุแจ้งรถกู้ภัยให้มายังที่เกิดเหตุ ก่อนที่ด.ต.ไกรศร จะทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยไปเอาเครื่องกระตุกหัวใจ(AED) ซึ่งติดตั้งไว้ที่แยกกำแพงเพชร ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 20 เมตร มาทำการช่วยเหลือ และทำการ CPR จนชายคนดังกล่าว เริ่มมีชีพจร จากนั้นได้ประสานศูนย์นเรนทร นำตัวส่ง รพ.ราชวิถี  

จากการสอบถาม ญาติชายคนดังกล่าว ทราบว่าได้ฟื้นแล้ว และทำการฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม ส่วนสาเหตุ เกิดจาก มีโรคประจำตัวหลายโรค พักผ่อนน้อย และสภาพอากาศแปรปรวน จึงทำให้เกิดอาการ 

ทั้งนี้ การช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีของตำรวจ สืบเนื่องจาก เป็นนโยบายของ พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ ผกก.สน.บางซื่อ ที่เน้นย้ำให้ผู้ใต้บังคับบัญชา ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงทีให้เหมือนเป็นญาติของตัวเอง และที่ผ่านมา ได้สนับสนุนให้ผู้ใต้บังคับบัญชาได้เข้ารบกวนการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เพื่อลดการสูญเสีย 

'อ.อุ๋ย-ปชป.' ชี้ ศึกสองบิ๊กตำรวจ แค่ยอดภูเขาน้ำแข็ง  ยังมีปมอีกมากที่อยู่ใต้น้ำ แนะ!! ดึง ปชช.ร่วมตรวจสอบกาะทำงาน 

(24 มี.ค.67) นายประพฤติ ฉัตรประภาชัย หรืออาจารย์อุ๋ย นักวิชาการด้านกฎหมายและอดีตผู้สมัคร ส.ส. กทม เขตบางกะปิ พรรคประชาธิปัตย์ ได้แสดงความเห็นกรณีความขัดแย้งระหว่าง ผบ.ตร และรอง ผบ.ตร. จนสุดท้ายทำให้นายกรัฐมนตรีต้องเข้ามาหย่าศึก โดยการสั่งย้ายทั้งสองคนกลับเข้าสำนักนายก ฯ ว่า...

กรณีการสั่งย้ายดังกล่างเป็นแค่การลูบหน้าปะจมูก เพื่อแก้ปัญหาหาเฉพาะหน้าให้จบ ๆ ไปเท่านั้น เพราะความขัดแย้งระหว่างสองบิ๊กตำรวจ เป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งที่โผล่ออกมาพ้นน้ำให้เห็นเพียงเสี้ยวหนึ่งเท่านั้น ยังมีอีกมากที่อยู่ใต้น้ำ ซึ่งต้องรอการสะสาง ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่ง ปัญหาการรับส่วยสินบน ปัญหาการไม่รับแจ้งความ ปัญหาเกี่ยวกับขอบเขตการใช้กำลังในการปฏิบัติหน้าที่ ฯลฯ ซึ่งตนขอเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น ดังนี้...

1. ค่าตอบแทนและสวัสดิการของตำรวจ ต้องเพียงพอให้ดำรงชีพได้อย่างมีศักดิ์ศรี ไม่ต้องหาเศษหาเลย โดยเฉพาะระดับปฏิบัติการ ค่าใช้จ่ายในการทำงานต้องเบิกได้เต็มจำนวน
2. ต้องใช้ระบบคุณธรรมในการเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง ใครทำดี บำบัดทุกข์บำรุงสุขเพื่อประชาชนต้องได้ดี ใครทำชั่วทุจริตกินสินบาทคาดสินบนต้องได้ชั่ว (ถูกลงโทษ)  
3. กระจายอำนาจให้ท้องถิ่น หรือหน่วยงานอื่นที่เชี่ยวชาญกว่า (Decentralization) เช่น การสอบสวน ควรให้อัยการเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น เพื่อแบ่งเบาภาระและตรวจสอบถ่วงดุล รวมทั้งการย้ายภาระงานบางส่วนให้ อปท. เช่น งานจราจร หรือคดีที่มีโทษเล็กน้อยหรือปรับเพียงสถานเดียว โดยใช้วิธีกระจายอำนาจอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพิ่มอัตรากำลังและค่าตอบแทนพนักงานสอบสวนที่มีความรู้กฎหมายระดับเนติบัณฑิต
4. ออกกฎหมายกำหนดขอบเขตการใช้กำลังและหลักการการใช้กำลังขั้นถึงตาย (Use of Deadly Force) แยกต่างหากไปจากการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายของประชาชน เพื่อคุ้มครองตำรวจจากการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อทำให้ตำรวจมีความมั่นใจในการปฏิบัติหน้าที่มากขึ้นเพื่อคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน
5. เปิดโอกาสให้ภาคประชาชนมีส่วนในการตรวจสอบการทำงานของตำรวจมากขึ้น สร้างระบบให้ประชาชนสามารถรีวิว (Review) การทำงานของตำรวจได้ และมีผลต่อการเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง 

ทั้งนี้ย้ำว่าที่ตนเสนอมาเป็นเพียงข้อเสนอแนะในกรอบกว้าง ๆ เท่านั้น เพราะตนเชื่อว่าทุกคนในแวดวงตำรวจรู้ปัญหาและรู้วิธีแก้ไขอยู่แล้ว เพียงแต่ว่ามีความกล้าที่จะลงมือทำหรือไม่ สุดท้ายแล้วตำรวจต้องตรวจสอบอยู่เสมอว่าประชาชนต้องการอะไรจากตำรวจ จากนั้นตำรวจจะต้องปรับปรุงตนเองเพื่อตอบสนองความต้องการนั้นให้ได้ ต้องพิจารณาให้ดีว่าประเทศไทย คนไทยต้องการอะไร และอยากจะปรับปรุงตำรวจไปในทิศทางไหน แล้วเลือกวิถีทางของตัวเอง

‘บิ๊กโจ๊ก’ ฮึดสู้ครั้งใหญ่!! หลังถูกเด้งแพ็กคู่เข้ากรุ ‘บิ๊กต่อ’ เละเทะ ส่วน ‘บิ๊กต่าย’ ย่องจันทร์ส่องหล้า

ต้องเรียกว่า เปิดสัปดาห์ใหม่สัปดาห์นี้ ‘บิ๊กโจ๊ก’ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ที่ถูกเด้งคู่ไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ฮึดสู้ จัดชุดใหญ่ไฟกะพริบ

1) ยกเลิกการเดินทางไปอังกฤษระหว่างวันที่ 27 มี.ค.-1 เม.ย. 67 พร้อมอ้างว่านายกรัฐมนตรี และรองนายกฯ (ภูมิธรรม เวชยชัย) มอบหมายภารกิจพิเศษให้ทำด่วน

2) ให้ทนายความไปยื่นฟ้องผู้มีคำสั่งแต่งตั้งและพนักงานสอบสวน สน.เตาปูนในคดีเว็บพนัน BNK Master รวม 30 นาย ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง

3) ให้ทนายยื่นหนังสือต่อรักษาการ ผบ.ตร.พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ขอให้ดำเนินการตามคำสั่งของ ผบ.ตร. (พล.ต.อ.ต่อศักดิ์) ที่เคยแถลงร่วมกับบิ๊กโจ๊กเมื่อ 20 มี.ค. โดยสั่งการให้พนักงานสอบสวนรวบรวมสำนวนทั้งหมดส่งให้ ป.ป.ช. เป็นผู้พิจารณา  

4) นายษิธา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ทนายคนดังและเป็นที่รู้กันว่าสนิทสนมกับบิ๊กโจ๊กได้ออกมาแถลงถึงเส้นเงินจากเว็บพนัน ซึ่งเป็นการขยายผลเพิ่มเติมจากที่ทีมทนายเคยแถลงมาครั้งหนึ่งแล้ว

ต้องยอมรับการว่าการแถลงของทนายตั้ม แม้จะเป็นบริบทเดียวกับที่ ‘ผู้การนำเกียรติ’ ลูกน้องบิ๊กโจ๊ก 1 ใน 8 ผู้ต้องหาคดีเว็บพนันมินนี่ แต่ทนายตั้มก็มีตัวละครใหม่ ๆ อย่าง ‘ดาบยาว’ ,'รองฟาง' นายตำรวจคนของบิ๊กต่อ มาขับเน้นสีสัน และกล่าวหาว่าเส้นเงิน ‘พิมพ์วิไล’ แห่งเว็บ BNK Master นั้น มุ่งตรงไปที่ภรรยา พี่ชายของบิ๊กต่อ แบบเต็ม ๆ

ในมุมวิเคราะห์ก็ต้องบอกว่างานนี้…จริง ๆ ทั้งต่อ ทั้งโจ๊ก ก็เสียหายหลายแสน เสียชื่อเสียงอยู่แล้ว จากกรณีถูกเด้งเข้ากรุ แต่ปฏิบัติการของบิ๊กโจ๊กล่าสุดนี้ ยิ่งทำให้ทั้งคู่กอดคอกันจมน้ำนานขึ้น บิ๊กโจ๊กหวานเจี๊ยบนั้นไม่เท่าไหร่ เพราะเป็นแมวสิบชีวิต ต้นทุนไม่สูงมาก แต่บิ๊กต่อหวานแหวว คำก็น้อง สองคำก็พี่นี่สิ…งานนี้ขาดทุนย่อยยับ…

เชื่อกันว่าด้วยชื่อชั้น 2-3 เดือนบิ๊กต่อก็คงได้กลับ สตช. เกษียณที่ตำแหน่ง ผบ.ตร. แต่ก็จะเป็นการเกษียณภายใต้สภาพของ ผบ.ตร. ที่บาดเจ็บ บาดแผลพุพอง

ส่วนตำแหน่ง ผบ.ตร. หากวันนี้ (26 มี.ค.) การประชุม ก.ตร. ไม่มีการพิจารณาอนุมัติให้ใช้ข้อกำหนดการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2566 โดยอนุโลม ก็แปลว่า...จะไม่มีการแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่ง รองผบ.ตร. แทน พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ ที่ไปเป็นเลขาธิการสมช. โอกาสที่ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผช.ผบ.ตร.คนเมืองแพร่ จะขยับเป็น รองผบ.ตร. ในเดือนเม.ย. แล้วผงาดขึ้น ผบ.ตร. เดือนต.ค.2567 ก็ปิดฉาก…

ผบ.ตร.ที่ 15 ‘บิ๊กต่าย’ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ก็แบเบอร์ ข่าวว่าก่อน 20 มี.ค. บิ๊กต่ายได้ไปจันทร์ (ส่องหล้า) มาแล้ว..!!

แต่ตรงข้าม…ถ้าหากมีการอนุโลมข้อกำหนดฯ ก็แปลว่าบิ๊กจวบจะบินเร็วเหนือเสียงเข้าป้าย…

ป่านนี้ก็รู้กันแล้ว หวยออกทางไหน!! ‘เล็ก เลียบด่วน’ นำเสนอเป็นข้อมูลเบื้องต้นเอาไว้แต่เพียงเท่านี้

'ตร.หนุ่ม' สั่งเดลิเวอรีส่งที่โรงพัก แต่เจอไรเดอร์เท บอกให้ยกเลิกหาคนขับใหม่ เพราะ ‘ไม่บริการตำรวจ’

(1 เม.ย. 67) กลายเป็นประเด็นถกเสียงแตกในโลกออนไลน์ หลังจากที่นายตำรวจรายหนึ่ง ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้แชร์เรื่องราวสั่งอาหารผ่านเดลิเวอรี่รายหนึ่ง ให้มาส่งที่โรงพัก ทว่าเมื่อไรเดอร์ทราบว่าเป็นตำรวจ ได้ส่งข้อความขอยกเลิก พร้อมระบุว่า “ขออภัยครับ ขอยกเลิกหาคนขับใหม่ครับ ผมไม่บริการตำรวจครับ”

โดยระบุไว้ว่า “เพิ่งออกเวร หิว สั่งข้าวผ่าน xxx แต่…ก็พอเข้าใจได้ว่าอาจจะมีอคติกับตำรวจ แต่ได้โปรดอย่าเหมารวมได้ไหม ตั้งใจช่วยคนที่เดือดร้อนทุกวัน ถึงไม่ได้รับคำขอบคุณ แต่ขออย่าตั้งอคติได้ไหม ผมก็มีหัวใจ มีกระเพาะที่ต้องการอาหาร #ผมผิดอะไรทิ้งผมทำไมครับพี่ #กลับมาก๊อนนนนน”

ซึ่งภายหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ได้รับความสนใจอย่างมากในโลกโซเชียล รวมถึงมาร่วมแสดงความคิดเห็นอย่างต่อเนื่อง โดยมีทั้งฝ่ายที่เข้าใจนายตำรวจ และเข้าใจไรเดอร์ เช่นว่า เขาอาจจะไม่ได้มีอคติ แต่กลัวโดนล่อซื้อ, เกินปุยมุ้ย, มีงี้ด้วยเหรอ, ตำรวจ ก็หิวข้าว เป็นนะครับ, สุดจัด, สงสัยโรงพักล่อซื้อบ่อย, พลาดแล้วบ่าว ไม่มาแลสารวัตรหล่อก่อน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top