Saturday, 14 December 2024
WORLD

‘อิสราเอล’ เล็งเป้า ‘เลบานอน’ หลังจบศึกทำลายล้างกาซา เมินเสียงเตือน ‘ผู้นำสหรัฐฯ’ ที่หวั่นเหตุลุกลาม-สูญเสีย

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ระบุในวันพุธ (5 มิ.ย.) อิสราเอลเตรียมพร้อมยกระดับปฏิบัติการเข้มข้นขึ้นตามแนวชายแดนติดกับเลบานอน บริเวณที่ทหารอิสราเอลยิงตอบโต้กับพวกนักรบฮิซบอลเลาะห์แทบทุกวัน เมินเสียงทัดทานจาก โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ที่เตือนว่าสถานการณ์ที่ลุกลามบานปลายจะก่อความเสี่ยงด้านความมั่นคงแก่อิสราเอลเอง

(6 มิ.ย.67) เกือบ 8 เดือนแห่งการปะทะกันอย่างต่อเนื่องระหว่างอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์ ขบวนการเคลื่อนไหวที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านและเป็นพันธมิตรของฮามาส การยิงตอบโต้กันไปมาระหว่าง 2 ฝ่ายได้ทวีความรุนแรงขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว โดยที่อิสราเอลโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของเลบานอน

"เราเตรียมพร้อมสำหรับปฏิบัติการที่เข้มข้นอย่างมากในทางเหนือ เราจะกอบกู้ความมั่นคงสู่ทางเหนือของเรา" เนทันยาฮูกล่าวระหว่างเดินทางเยือนพื้นที่ตามแนวชายแดน

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา ฮิซบอลเลาะห์ เปิดฉากโจมตีหลายระลอกใส่ฐานที่มั่นต่าง ๆ ของอิสราเอลในวันเดียวกัน ในนั้นรวมถึงยิงขีปนาวุธนำวิถีเข้าใส่ฐานปล่อยไอรอนโดม ในค่ายทหารรามอต นาฟตาลี

ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา อิสราเอลได้ยกระดับโจมตีเล่นงานเป้าหมายพวกนักรบฮิซบอลเลาะห์และพันธมิตรอย่างพวกกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์และกลุ่มติดอาวุธเลบานอน ที่อยู่ในรถยนต์และกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์ในเลบานอน

อิตามาร์ เบน กาวีร์ รัฐมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ พันธมิตรในรัฐบาลผสมขวาจัดของเนทันยาฮู และเบซาเกล สโมทริช รัฐมนตรีคลัง ต่างเรียกร้องในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ให้ปฏิบัติการอย่างเร่งด่วนเพื่อฟื้นฟูความมั่นคงทางเหนือของอิสราเอล "พวกเขาเผาผลาญเรา ป้อมปราการของฮิซบอลเลาะห์ทั้งหมดต้องถูกเผาผลาญและทำลาย สงคราม!" เบน กาวีร์ เขียนบนเทเลแกรมในวันอังคาร (4 มิ.ย.)

ความรุนแรงที่เริ่มมาตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม สังหารผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 455 รายในฝั่งเลบานอน ส่วนใหญ่เป็นนักรบ แต่ก็มีพลเรือนรวมอยู่ด้วย 88 ราย ส่วนฝั่งอิสราเอลมีทหารอย่างน้อย 14 นาย และพลเรือน 11 คนเสียชีวิต

การเตรียมพร้อมยกระดับปฏิบัติการของอิสราเอล มีขึ้นแม้สหรัฐฯ พันธมิตรสำคัญส่งเสียงเตือนเนทันยาฮูในวันพุธ (5 มิ.ย.) ว่าสถานการณ์ที่ลุกลามบานปลายในเลบานอน อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของอิสราเอลเอง

"เราไม่ต้องการเห็นสถานการณ์ความขัดแย้งลุกลามบานปลาย ซึ่งรั้งแต่จะนำมาซึ่งการเสียชีวิตเพิ่มเติมจากทั้งประชาชนอิสราเอลและประชาชนเลบานอน และจะก่ออันตรายใหญ่หลวงแก่ความมั่นคงโดยรวมของอิสราเอลและเสถียรภาพในภูมิภาค" แมตธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ บอกกับผู้สื่อข่าว

อย่างไรก็ตาม มิลเลอร์ ปฏิเสธข้อสันนิษฐานที่ว่าสงครามกับเลบานอนใกล้เข้ามาแล้ว "ถ้อยแถลงต่าง ๆ จากรัฐบาลอิสราเอล บอกว่าพวกเขาพร้อมสำหรับปฏิบัติการทางทหารถ้าจำเป็น ซึ่งมันมีความแตกต่างจากที่พวกเขาเคยบอกว่าได้ตัดสินใจดำเนินการปฏิบัติการทางทหารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรายังคงอยู่ในขั้นที่เชื่อว่า พวกเขาอยากหาทางออกทางการทูตมากกว่า"

มิลเลอร์ บอกว่าสหรัฐฯ เข้าใจดีถึงสถานการณ์ที่ควบคุมไม่อยู่สำหรับอิสราเอล ตามแนวชายแดนทางเหนือของประเทศ "พลเมืองอิสราเอลหลายแสนคนไม่อาจกลับสู่บ้านพักทางเหนือของอิสราเอล เพราะว่ามันไม่ปลอดภัย เพราะว่าพวกฮิซบอลเลาะห์ยังคงยิงปืนใหญ่ และโจมตีด้วยโดรนเล่นงานพื้นที่ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง"

เปิดภาพ 'ธงชาติจีน' จากยานฉางเอ๋อ-6 บนด้านลึกลับของดวงจันทร์ หนักแค่ 11 กรัม ทอจากเส้นใยหินบะซอลต์ ทนทานนานนับหมื่นปี

(6 มิ.ย. 67) ChinaReport รายงานว่า ธงชาติจีนผืนนี้ ผืนที่กางออกจากยานฉางเอ๋อ-6 บน 'ด้านไกล' ด้านลึกลับของดวงจันทร์

- ยานสำรวจดวงจันทร์ฉางเอ๋อ-6 ของจีน คลี่ธงชาติจีนเมื่อภารกิจเก็บตัวอย่างบนดวงจันทร์ด้านไกลเสร็จสิ้น ธงชาติจีนผืนนี้ไม่ธรรมดา มีความพิเศษ หนักเพียง 11 กรัม ทอจากเส้นใยหินบะซอลต์ เส้นใยมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1/3 ของเส้นผม

- โจว ฉางอี้ หัวหน้าผู้ออกแบบและนักวิจัยของศูนย์วิทยาศาสตร์อวกาศแห่งชาติ สถาบันวิทยาศาสตร์จีน ระบุว่า ธงชาติจีนผืนนี้ สามารถคงทนบนดวงจันทร์นาน 10,000 ปี เพราะทำจากวัสดุที่ทนทานต่อการกัดกร่อน ความร้อน และความเย็น ในสภาวะอวกาศ

- ธงชาติจีนถูกกางออกจากยานอวกาศฉางเอ๋อ-6 ซึ่งทะยานขึ้นจากพื้นผิวดวงจันทร์แล้วช่วงเช้าวันอังคารที่ 4 มิ.ย. พร้อมตัวอย่างที่เก็บจากด้านไกลของดวงจันทร์นำกลับสู่โลก เป็นความสำเร็จอันมิเคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์การสำรวจดวงจันทร์ของมนุษย์

- ยานอวกาศฉางเอ๋อ-6 เดินทางจากโลกสู่อวกาศเมื่อวันที่ 3 พ.ค. ลงจอดที่แอ่งขั้วใต้-เอตเคน ด้านไกลของดวงจันทร์เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.

‘เด็กฉนวนกาซา’ เผชิญวิกฤต ‘ขาดแคลนอาหาร’ รุนแรง เสี่ยงต่อภาวะทุพโภชนาการ ที่เป็นภัยคุกคามถึงชีวิต

(6 มิ.ย.67) กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) ออกมาระบุว่า เด็ก 9 ใน 10 คนในฉนวนกาซาไม่ได้รับประทานอาหารที่มีสารอาหารต่าง ๆ เพียงพอต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่ดีของพวกเขา

“หลายเดือนมาแล้วสงครามและข้อจำกัดด้านการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซาได้พังทลายลง ทั้งระบบอาหารและสุขภาพ ส่งผลให้เกิดหายนะต่อเด็กและครอบครัวของพวกเขา” ยูนิเซฟกล่าว

ทั้งนี้ จากการรวบรวมข้อมูล 5 ชุด ระหว่างเดือนธันวาคม 2023 - เมษายน 2024 และพบว่าเด็ก 9 ใน 10 คนในฉนวนกาซา ซึ่งตกเป็นเป้าโจมตีอย่างหนักจากการรุกรานของอิสราเอลตั้งแต่เดือนตุลาคมปีก่อน กำลังทุกข์ทรมานจากความขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรง ซึ่งทำให้พวกเขาอยู่รอดได้ด้วยสารอาหารเพียง 2 กลุ่มหรือน้อยกว่านั้นต่อวัน

โดยยูนิเซฟระบุว่า นี่เป็นข้อพิสูจน์ถึงผลกระทบอันน่าสยดสยองของความขัดแย้ง และข้อจำกัดที่มีต่อความสามารถของครอบครัวในการตอบสนองต่อความต้องการอาหารของเด็กและความรวดเร็วที่ทำให้เด็กเสี่ยงต่อภาวะทุพโภชนาการที่เป็นภัยคุกคามถึงชีวิต

ด้านอิสราเอลอ้างว่า พวกเขาไม่ได้จำกัดปริมาณสิ่งของด้านมนุษยธรรมของพลเรือนในฉนวนกาซา และกล่าวโทษสหประชาชาติว่าจัดส่งสิ่งของล่าช้า เพราะการดำเนินงานไม่มีประสิทธิภาพ แต่ด้วยความอดอยากมากมายที่เกิดขึ้นในฉนวนกาซา ทำให้เด็กบางคนเสียชีวิตจากภาวะทุพโภชนาการและภาวะขาดน้ำ

กระนั้นก็ดี เพื่อให้เด็กมีความหลากหลายของโภชนาการสำหรับพัฒนาการทางสุขภาพที่ดี เด็ก ๆ จะต้องทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนอย่างน้อย 5 จาก 8 กลุ่มตามความหลากหลายของอาหารที่ยูนิเซฟและองค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนด

ยูนิเซฟบอกด้วยว่า เด็กทั่วโลก 27% ประสบปัญหาความยากจนด้านอาหารอย่างรุนแรงในวัยเด็ก ซึ่งคิดเป็นจำนวนของเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ขวบถึง 181 ล้านคน

โล่งใจ!! 'ทุเรียนไทย' ยังอร่อย-ครองใจชาวจีนเสมอ  แม้มีข่าวกุ 'ทุเรียนเหงียน' ถูก-ดี ไทยซื้อต่อมาส่งจีน

ไม่นานมานี้ นายตฤณ วุ่นกลิ่นหอม นายกสมาคมการค้าดิจิทัลไทยและเคยทำงานในมูลนิธิแจ๊คหม่า อาลีบาบา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ 'วันนี้คุณได้มีส่วนช่วย ดิสเครดิต ประเทศตัวเองรึยัง?' ระบุว่า...

สืบเนื่องจากประชุมออนไลน์กับทีม สภาการค้าจีน มีประเด็นที่ผมโดนถามว่า ทุเรียนไทยที่ส่งออกมาให้จีน เอาของเวียดนามมาสวมจริงไหม 

ผมก็ตอบว่าไม่รู้รายละเอียดทั้งหมด แต่คิดว่ามีใน % น้อย เพราะปกติเราเคยนำเข้าทุเรียนจากเพื่อนบ้านมาทั้งแปรรูป และบริโภค ในภาวะฝนแล้ง อยู่แล้ว แต่ปีนี้อาจจะนำเข้ามามากหน่อย แต่ส่วนใหญ่กว่า 95% ทุเรียนที่ส่งให้จีน จะเป็นของไทยซะส่วนมาก

สืบได้ความว่า สื่อต่างชาติปล่อยข้อมูล ให้สื่อไทยงับ คนไทยแชร์ และเอามาแปลต่อเป็นจีน เพื่อดิสเครดิต และทิ้งทวนว่า ครั้งหน้าคนจีนควรซื้อทุเรียนเวียดนามไปเลยจะได้ราคาดีกว่า เพราะคุณภาพไม่แตกต่างกัน

... พอจบประชุม เพื่อน ๆ ในออนไลน์ฝั่งจีน ก็บอกว่า อย่าคิดมากไป ของไทยอร่อยกว่ามาก แต่จะทำยังไงให้คนจีนที่เหลือเชื่อ ก็คงต้องรอให้กระแสข่าวนี้ตกไปก่อน... 

สงสารชาวสวนทุเรียนปีนี้ โดนภัยแล้ง และโดนคนไทยด้วยกัน ดิสเครดิต โดยไม่รู้ไม่เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมการค้าเพื่อนบ้าน

ทีมผู้สร้างโปรแกรม AI ของ Stanford ยอมรับผิด หลังลอกผลงานของทีมนักพัฒนา AI จากจีน

เรื่องอื้อฉาวของแวดวง AI วันนี้ ต้องยกให้กับข่าวการโพสต์ข้อความขอโทษอย่างเป็นทางการจาก 2 สมาชิกในทีมนักพัฒนาโปรแกรม AI จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด สถาบันการศึกษาระดับโลกในรัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐอเมริกา หลังจากที่ถูกจับได้ว่าลอกงานเขียนโปรแกรมของทีมนักพัฒนา AI ของจีน

2 สมาชิกคนดังกล่าวคือ Siddharth Sharma และ Aksh Garg หนึ่งในสมาชิกทีมพัฒนา Llama3-V ที่ใช้รูปแบบโมเดลภาษาของ Meta AI ซึ่ง มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เคยกล่าวว่าเป็นรูปแบบภาษาที่มีความล้ำหน้า หลากหลาย ที่ใช้ไฟล์ขนาดเล็กกว่า GPT งานของ Open AI ค่ายคู่แข่งหลายเท่า 

ซึ่ง Llama3-V เพิ่งปล่อยออกมาในช่วงเดือนพฤษภาคม 2567 โดยทีม Stanford AI และได้เปิดหลักสูตรอบรม Llama3-V ตัวใหม่ ที่เคลมว่ามีศักยภาพเหนือกว่าโปรแกรมอื่น ๆ อย่าง GPT-4V Gemini Ultra และ Claude Opus ในราคาคอร์สละ 500 ดอลลาร์ 

แต่ต่อมา ผู้ที่เข้าร่วมคอร์ส Llama3-V ได้ตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมโครงสร้างโปรแกรมของ Llama3-V หลายจุด เหมือนกับ โปรแกรม MiniCPM-Llama3-V 2.5 ผลงานของบริษัท ModelBest ที่ร่วมกับทีมนักพัฒนาจาก มหาวิทยาลัยชิงหวาของจีน ไม่มีผิดเพี้ยน และได้นำโค้ดของทั้ง 2 โปรแกรมมาเทียบให้ดู เพื่อให้ชาวเน็ตผู้เชี่ยวชาญด้านโปรแกรมมาพิสูจน์ความเหมือน

จนกระทั่งวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมาบริษัท ModelBest ออกมาพูดถึงกรณีนี้ว่า โปรแกรมที่พัฒนาโดยทีมจากสแตนฟอร์ดนั้น ใช้โค้ดเหมือนกับ MiniCPM ของจีนจริง และยังมีความสามารถที่เหมือนกันคือ สามารถแยกตัวอักษรจีนโบราณได้ และมีจุดบกพร่องในตำแหน่งเดียวกันอีกด้วย จึงยืนยันได้ว่าเป็นการลอกผลงานจริง 

หลี ต้าไห่ ประธานบริษัท ModelBest ยังกล่าวอีกว่า "การได้รับการยอมรับจากทีมพัฒนาระดับนานาชาตินั้นเป็นเรื่องดี และเราเชื่อมั่นในการสร้างสังคมที่เปิดใจกว้าง มีความร่วมมือ และไว้วางใจซึ่งกันและกัน ซึ่งเราก็อยากให้ผลงานของทีมเราได้ถูกค้นพบ และได้รับการยกย่องอย่างที่ควรจะเป็น แต่ไม่ใช่ในลักษณะนี้”

เมื่อหลักฐานชัดเจน 2 สมาชิกจากทีมผู้พัฒนา Llama3-V ก็ได้ออกมาโพสต์ยอมรับความผิด และขอโทษทีมผู้สร้าง MiniCPM ผ่าน X จากการทำงานที่ขาดความรอบคอบ จนสร้างปัญหาให้กับทีมงานทั้งหมดของโปรเจกต์ Llama3-V และกับทีม MiniCPM ของจีน รวมถึงผู้ที่ติดตามผลงานวิชาการของทีมนักศึกษาสแตนฟอร์ด และสถาบัน ที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ข่าวนี้ก่อให้เกิดประเด็นถกเถียงในแวดวงนักพัฒนา AI เป็นวงกว้าง เริ่มจาก คริสโนเฟอร์ แมนนิ่ง ศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์ และ ภาษาศาสตร์ แห่งมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด พ่วงตำแหน่งผู้อำนวยการห้องวิจัยปัญญาประดิษฐ์ของมหาวิทยาลัย ได้ออกมาโพสต์ข้อความประณามผ่าน X ถึงเรื่องอื้อฉาวนี้ว่า "ปลอมตั้งแต่ยังไม่สร้าง ก็เป็นได้แค่สินค้าไร้ราคาในซิลิคอน วัลเลย์" 

ด้าน ลูคัส เบเยอร์ นักวิจัยประจำห้องแล็บ AI DeepMind ของ Google แสดงความเห็นผ่านโซเชียลเช่นกันว่า จากข่าวนี้ทำให้คนในวงการได้รู้จัก MiniCPM-Llama3-V 2.5 ซึ่งถือว่าเป็นโมเดลที่ดีทีเดียว เพียงแค่คนไม่ค่อยสนใจเพราะมองว่าเป็นผลงานของนักพัฒนาจีน ไม่ใช่งานของเด็ก Ivy League เท่านั้นเอง  

หลิว จือหยวน หัวหน้าทีมวิจัยของ ModelBest และรองศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยชิงหวา ได้โพสต์ข้อความผ่าน WeChat เช่นกันว่า ตอนที่เราเริ่มโครงการนี้ เรารู้ถึงช่องว่างที่ห่างมากระหว่างเทคโนโลยี AI ของจีนในตอนนั้น กับ งานพัฒนาชั้นนำของชาติตะวันตกอย่าง Sora และ GPT-4 แต่เราก็พัฒนาได้เร็วมาก จาก Nobody แห่งวงการเมื่อสิบปีก่อนสามารถก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในกุญแจขับเคลื่อนสำคัญของนวัตกรรมเทคโนโลยี AI ได้ในวันนี้

ในขณะที่ข่าวนี้ ทำให้ทีมหนึ่งดับ แต่อีกทีมหนึ่งกำลังจะดัง เป็นที่รู้จักในวงการมากขึ้นว่า 'AI ของทีมจีนนั้นดูแคลนไม่ได้' เพราะยิ่งเทคโนโลยีล้ำหน้ามากเท่าไหร่ ยิ่งพิสูจน์ได้ชัดเจนว่า ทองแท้ย่อมไม่แพ้ไฟ

‘สหรัฐฯ’ จ่อโหวตร่างกม.คว่ำบาตร 'ศาลอาญาโลก' โต้หมายจับ 'เนทันยาฮู' ไม่หวั่น!! แม้ลบหลู่ระเบียบระหว่างประเทศที่ สหรัฐฯมีส่วนช่วยสร้างขึ้นมา

เมื่อวานนี้ (3 มิ.ย. 67) เว็บไซต์ The Hill รายงานว่า คณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกา ได้ผ่านร่างรับตัวกฎหมาย ด้วยคะแนน 9-3 โดยมีวัตถุประสงค์ในการคว่ำบาตร เจ้าหน้าที่ของศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ไอซีซี เป็นการตอบสนองต่อ อัยการศาลอาญาระหว่างประเทศ คาริม เอ. เอ. คาน กับข้อกล่าวหาและความพยายามในการออกหมายจับต่อ นายกรัฐมนตรี นายเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล และ ผู้นำของกลุ่มฮามาส ยายาห์ ซินวา ในฐานะอาชญากรสงคราม

อย่างไรก็ตาม การตอบสนองของทำเนียบขาวก่อนหน้านี้นั้น ไม่ได้สนับสนุนตัวร่างกฎหมาย คารีน ฌอง-ปิแอร์ โฆษกของทำเนียบขาว ได้ออกมาแสดงความเห็นต่อจุดยืนของทำเนียบขาวว่า แม้ว่าจะสนับสนุนการตอบโต้ข้อกล่าวหาที่เสนอโดยไอซีซี แต่ไม่ได้สนับสนุนการคว่ำบาตรต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ

"เราปฏิเสธคำร้องของอัยการไอซีซี ในการออกหมายจับผู้นำอิสราเอล แต่การจะคว่ำบาตรไอซีซีนั้น เราไม่เชื่อว่าเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพหรือเหมาะสม" คารีน กล่าว

นอกจากนี้มีรายงานว่าฝ่ายบริหารในทำเนียบขาว คัดค้านร่างกฎหมายนี้อย่างมาก และมีความเป็นไปได้สูงว่า หากตัวร่างสามารถผ่านสองสภาไปได้จนถึง ประธานาธิบดี โจ ไบเดน มีความเป็นได้สูงว่าประธานาธิบดีไบเดนจะใช้อำนาจวีโต้ของตัวเอง ในการหยุดตัวกฎหมายเอาไว้

ถึงอย่างนั้น มาตรการอื่นที่เป็นตัวเลือกตอบโต้ของสหรัฐฯ ต่อศาลอาญาระหว่างประเทศก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัด เนื่องด้วยสหรัฐฯ ไม่เคยลงสัตยาบันยอมรับอำนาจและหลักการของศาลอาญาระหว่างประเทศมาตั้งแต่ต้น ด้วยเหตุนี้ในทางปฏิบัติแล้ว สหรัฐฯ ไม่เคยอยู่ในอำนาจตุลาการของศาลอาญาระหว่างประเทศ ในขณะเดียวกันรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ก็ไม่ได้มอบเงินทุนสนับสนุนในการปฏิบัติงานของศาลอาญาโลก

โดยรายละเอียดของตัวร่างกฎหมาย ถูกนำเสนอโดยสมาชิกสภาคองเกรส จากรัฐเท็กซัสสังกัด พรรครีพับลิกัน ชิป รอย ด้วยการสนับสนุนจากสมาชิกคองเกรสคนอื่นๆ มากกว่า 60 คน โดยในด้านของรายละเอียดตัวกฎหมายประกอบด้วยมาตรการต่างๆ อย่าง การกีดกันการเคลื่อนย้ายทรัพย์สินในสหรัฐฯ หรือ การเพิกถอนวีซ่าเข้าประเทศสหรัฐฯ และ มาตรการอื่นๆ โดยมีเป้าหมายเป็นเจ้าหน้าที่ของศาลอาญาระหว่างประเทศ ที่ทำการสืบสวน หรือ จับกุม พลเมืองในเขตอำนาจของสหรัฐฯ รวมไปถึงพันธมิตรของสหรัฐฯ

มีรายงานว่า มีการคาดการณ์และคาดหวังว่าตัวร่างกฎหมายจะผ่านการโหวตไปในสภาคองเกรสไปอย่างง่ายได้ ด้วยที่พรรครีพับลิกันครอบครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังมีเสียงสนับสนุนของสมาชิกสภาคองเกรสอีกจำนวนหนึ่ง จากพรรคเดโมแครต ที่แสดงจุดยืนอย่างแข็งกร้าวในการสนับสนุนอิสราเอลในสงครามกับฮามาส แต่ว่าจุดยืนของประธานาธิบดี โจ ไบเดน อาจจะมีอิทธิพลต่อ สมาชิกสภาคองเกรสของพรรคเดโมแครตในการตัดสินใจ

แต่ในสภาสูงนั้นเป็นไปในทางตรงกันข้าม เนื่องด้วยที่สภาสูงของสหรัฐ อยู่ในการควบคุมของพรรคเดโมแครต ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าต่อให้ร่างกฎหมายจะผ่านสภาร่างมาได้ ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าจะถูกปัดตกโดยการโหวตของสมาชิกวุฒิสภา

จิม แมคกอฟเวิร์น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรคเดโมแครตจากมลรัฐแมสซาชูเซตส์ ให้ความเห็นต่อร่างกฎหมายฉบับนี้ว่า เป็นร่างกฎหมายที่แย่ โดยให้เหตุผลว่าศาลอาญาระหว่างประเทศเป็นสถาบันที่สำคัญในการรักษา และ ปกป้องหลักการสิทธิมนุษยชนสากล โดยที่หลักศีลธรรม หรือ หลักการทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ไม่ควรส่งผลต่อการออกแบบนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ในการเข้าไปขัดขวางศาลอาญาระหว่างประเทศในการทำหน้าที่โดยกำเนิดของตัวสถาบัน

โดยแมคกอฟเวิร์น ยังระบุด้วยว่า "ร่างกฎหมายนี้ จะเป็นการลบหลู่ระเบียบระหว่างประเทศ ซึ่งสหรัฐฯ มีส่วนช่วยสร้างมันขึ้นมา"

เรื่องนี้ยังคงต้องจับตา ตัวร่างกฎหมาย ที่จะเข้าสู่การประชุมและโหวตในสภาคองเกรส โดยคาดการณ์ว่าด่านแรกอย่าง สภาคองเกรสจะมีการโหวตภายในสัปดาห์หน้า

‘ไชน่า อีสเทิร์นฯ’ ลุยสร้าง ‘โรงเก็บเครื่องบิน’ ใหญ่สุดในเอเชีย รองรับการซ่อมบำรุงได้ถึง 9 ลำ คาด!! แล้วเสร็จ-ส่งมอบปี 2026

(4 มิ.ย.67) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ ของจีน เริ่มต้นการก่อสร้างฐานการบริการซ่อมบำรุงทางการบินระหว่างประเทศของสายการบินฯ ในเขตสินค้าทัณฑ์บนครบวงจรพิเศษหยางซาน เทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ทางตะวันออกของจีน

ทั้งนี้ ฐานดังกล่าวใช้เงินลงทุน 1.5 พันล้านหยวน (ราว 7.5 พันล้านบาท) และพื้นที่รวมกว่า 110,000 ตารางเมตร จะประกอบด้วยโรงเก็บเครื่องบิน 3 หลัง รวมถึงห้องปฏิบัติงานและสิ่งอำนวยความสะดวกสนับสนุนการซ่อมแซมและปรับแต่งอุปกรณ์เสริม

ด้าน ฟางจ้าวย่า ประธานบริษัทเทคโนโลยีของไชน่า อีสเทิร์น กล่าวว่า โรงเก็บเครื่องบินหมายเลข 1 จะเป็นโรงเก็บเครื่องบินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย โดยมีความยาว 316 เมตร ความลึก 146 เมตร และสามารถรับรองการซ่อมบำรุงเครื่องบินลำตัวกว้างพร้อมกัน 9 ลำ

อย่างไรก็ตาม โครงการฐานการบริการซ่อมบำรุงทางการบินระหว่างประเทศนี้ มีกำหนดเสร็จสิ้นและส่งมอบภายในช่วงครึ่งแรกของปี 2026 และจะให้บริการซ่อมบำรุงเครื่องบิน 1.8 ล้านชั่วโมงต่อปี

‘X’ อนุญาตให้เผยแพร่คอนเทนต์ 18+ อย่างเป็นทางการ ภายใต้เงื่อนไขได้รับความยินยอม - มีเครื่องหมายถูกสีฟ้า

(4 มิ.ย.67) สำนักข่าวอัลจาซีรา รายงานว่า แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเอ็กซ์ (X) ของอีลอน มัสก์ อัปเดตนโยบายใหม่เพื่ออนุญาตเผยแพร่เนื้อหาผู้ใหญ่ได้อย่างเป็นทางการ

โดยภายใต้นโยบายอัปเดตใหม่นี้ อดีตแพลตฟอร์ม X ที่เคยใช้ชื่อว่าทวิตเตอร์ จะอนุญาตให้ผู้ใช้งานเผยแพร่เนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศได้ ตราบใดที่เป็นเนื้อหาที่ได้รับการยินยอมและมี ‘เครื่องหมายถูกสีฟ้า’

นโยบายที่ได้รับการปรับปรุงและอัปเดตมามากกว่า 1 อาทิตย์นั้น ตอกย้ำว่า ผู้ใช้งานสามารถผลิต เผยแพร่ และบริโภคเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศได้ตราบใดที่เป็นเนื้อหาที่ผลิตและเผยแพร่ด้วยความยินยอม

"การแสดงออกทางเพศ ไม่ว่าด้วยภาพหรือการเขียนสามารถเป็นรูปแบบการแสดงออกที่ถูกกฎหมายได้” แพลตฟอร์ม ระบุ

“เราเชื่อมั่นในความเป็นอิสระของผู้ใหญ่ ในการมีส่วนร่วมหรือสร้างเนื้อหาที่สะท้อนความเชื่อ, ความปรารถนา และประสบการณ์ของพวกเขา รวมถึงเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศ”

อย่างไรก็ตาม เนื้อหาเหล่านี้จะระงับไม่ให้เผยแพร่แก่ผู้ใช้งานที่เป็นเด็ก และผู้ใช้งานผู้ใหญ่ที่ไม่ต้องการรับชม อีกทั้งผู้ใช้งานจะไม่ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่เนื้อหาที่ต้องการแสวงหาผลประโยชน์ ไม่ได้รับการยินยอม เป็นที่คัดค้าน เนื้อหาทางเพศหรือเนื้อหาที่เป็นอันตรายต่อผู้เยาว์ และเนื้อหาที่แสดงพฤติกรรมลามกอนาจาร

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาแพลตฟอร์ม X แตกต่างจากอินสตาแกรม, เฟซบุ๊ก, ติ๊กต็อก และยูทูบ เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มที่ไม่ระงับเนื้อหาที่มีภาพเปลือยหรือเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศ และภายใต้การบริหารของมัสก์ ‘X’ ได้ปรับลดการกลั่นกรองเนื้อหา และคืนสถานะบัญชีที่เคยถูกระงับก่อนหน้านี้ รวมทั้งบัญชีของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐโดนัลด์ ทรัมป์ และอเล็กซ์ โจนส์ นักทฤษฎีสมคบคิด 

จากการดำเนินงานดังกล่าว มัสก์ โต้แย้งไว้ว่า เป็นการสนับสนุนเสรีภาพทางการพูด แต่นักวิจารณ์กล่าวโทษประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) เทสลาว่า เป็นการส่งเสริมให้เกิดการพูดที่สร้างความเกลียดชัง และข้อมูลผิด ๆ

‘ญี่ปุ่น’ พบ ‘5 ค่ายรถชื่อดัง’ บิดเบือนผลทดสอบความปลอดภัย ลั่น!! การกระทำนี้เป็นบ่อนทำลายความไว้วางใจผู้ใช้บริการ

(4 มิ.ย. 67) กระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น ประกาศเมื่อวันจันทร์ว่า ผู้ผลิตรถยนต์ 4 ราย และผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ 1 ราย ของญี่ปุ่นยอมรับมีความผิดปกติในการทดสอบความปลอดภัย ส่งผลให้โตโยต้า มอเตอร์, มาสด้า มอเตอร์ และยามาฮ่า มอเตอร์ ต้องระงับชั่วคราวในการจัดส่งรถยนต์ทั้งหมด 6 รุ่น โดยระบุว่าอีก 2 บริษัทที่รายงานว่ามีปัญหาในเรื่องนี้ ได้แก่ ฮอนด้า มอเตอร์ และซูซูกิ มอเตอร์

เพื่อตอบสนองต่อปัญหาก่อนหน้านี้ที่ Daihatsu Motor และ Toyota Industries กระทรวงฯ ได้สั่งให้บริษัท 85 แห่งในอุตสาหกรรม รวมถึงผู้ผลิตรถยนต์และอุปกรณ์ ตรวจสอบว่ามีความผิดปกติใด ๆ ในการสมัครขอใบรับรองรุ่นของตนหรือไม่ ในแถลงการณ์ กระทรวงเรียกความผิดปกติดังกล่าวว่า “การกระทำที่บ่อนทำลายความไว้วางใจของผู้ใช้ และสั่นคลอนรากฐานของระบบการรับรองยานยนต์ ระดับชาติ

กระทรวงจะดำเนินการตรวจสอบสถานที่ของโตโยต้าในวันอังคาร การตรวจสอบของบริษัทอื่น ๆ อีก 4 แห่งจะตามมา

ตามรายงานของกระทรวงฯ โตโยต้า มาสด้า และยามาฮ่า ยืนยันว่า การบิดเบือนการทดสอบได้เกิดขึ้นในการผลิตรถยนต์ที่ยังคงดำเนินการอยู่ กระทรวงสั่งให้บริษัทเหล่านี้ระงับการจัดส่งรุ่นเฉพาะจนกว่าจะยืนยันว่าเป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพ

โตโยต้าประกาศเมื่อวันจันทร์ว่า ได้หยุดการจัดส่งและจำหน่ายในประเทศของโคโรลล่า ฟิลเดอร์, โคโรลลา แอ็กซิโอ และยาริส ครอส โดยกล่าวว่าการสมัครขอใบรับรองรุ่นเหล่านี้มี ‘ข้อมูลไม่เพียงพอในการทดสอบการป้องกันคนเดินเท้าและผู้โดยสาร’

อีกทั้งยังมีการกล่าวถึงรุ่นอื่น ๆ อีก 4 รุ่นที่ไม่ได้ผลิตอีกต่อไปในประกาศของ Toyota ได้แก่ Crown, Isis, Sienta และ RX ซึ่งพบ ‘ข้อผิดพลาดในการทดสอบการชนและวิธีการทดสอบอื่น ๆ’

คำแถลงดังกล่าวต่อไปว่า “เรารับประกันได้ว่าไม่มีปัญหาด้านประสิทธิภาพที่ขัดต่อกฎหมายและข้อบังคับ” โตโยต้ากล่าวว่าได้ตรวจสอบเรื่องนี้เป็นการภายในแล้ว และ “ไม่จำเป็นต้องหยุดใช้ยานพาหนะที่ได้รับผลกระทบ”

“ผมอยากจะขอโทษอย่างจริงใจต่อลูกค้า ผู้ชื่นชอบรถยนต์ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย” อากิโอะ โตโยดะ ประธานบริษัทโตโยต้า กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์

ตามที่บริษัทระบุ บริษัทใช้ข้อมูลที่รวบรวมในกระบวนการพัฒนา ซึ่งบริษัทกล่าวว่าอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่เข้มงวดกว่าข้อกำหนดของกระทรวง และเป็นผลให้ไม่ตรงกับข้อกำหนดอย่างถูกต้อง มีแผนที่จะส่งรายงานฉบับสมบูรณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อกระทรวงภายในสิ้นเดือนนี้

ความผิดปกติดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากกลุ่มบริษัท Hino Motors, Daihatsu Motor และ Toyota Industries รายงานปัญหาที่คล้ายกัน

“ผมมีความรู้สึกที่โชคร้ายมาก” ประธานกล่าว “โตโยต้า ไม่ใช่บริษัทที่สมบูรณ์แบบ เราทราบดีว่ายังมีช่องว่างให้ปรับปรุงอีกมาก” บริษัทกล่าวว่าได้เริ่มปรับปรุงกระบวนการทดสอบความปลอดภัยแล้ว

ไดฮัทสุ หน่วยรถยนต์ขนาดเล็กของโตโยต้า เปิดเผยการบิดเบือนผลการทดสอบผลิตภัณฑ์อย่างกว้างขวางในปี 2566 ส่งผลให้โรงงานทั้งหมดในญี่ปุ่นต้องปิดชั่วคราว Toyota Industries และ Hino ยังรายงานการประพฤติมิชอบเกี่ยวกับการรับรองเครื่องยนต์ในเดือนมกราคมและเดือนมีนาคม 2022 ตามลำดับ

ตามรายงานของกระทรวง มาสด้ารายงานความผิดปกติในรถยนต์ 5 รุ่น รวมถึง 2 รุ่นที่ยังคงอยู่ในการผลิต Yamaha Motor มีโมเดลสามรุ่นที่ค้นพบความผิดปกติ โดยรุ่นหนึ่งยังคงอยู่ในการผลิต

ฮอนด้ารายงาน 22 รุ่นและซูซูกิ 1 รุ่น ไม่มีสิ่งใดเหลืออยู่ในการผลิตมาสด้ากล่าวว่าพบว่าการประมวลผลรถยนต์ทดสอบไม่สม่ำเสมอในการทดสอบการชนที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ 3 รุ่นที่ไม่มีการผลิตอีกต่อไป บริษัทกล่าวว่าการตรวจสอบทางเทคนิคภายในและการทดสอบซ้ำ “ยืนยันว่าโมเดลเหล่านี้มีประสิทธิภาพที่ตรงตามมาตรฐานทางกฎหมายสำหรับประสิทธิภาพการปกป้องผู้โดยสารในกรณีที่เกิดการชนกันทางด้านหน้า”

ฮอนด้า ยามาฮ่า และซูซูกิยังได้ออกแถลงการณ์เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ขับขี่จะไม่มีปัญหากับสมรรถนะของรถ

‘โดนัลด์ ทรัมป์’ เปิดบัญชี TikTok มีผู้ติดตามทันทีกว่า 3 ล้าน คลิปแรกมีคนดูกว่า 56 ล้าน  เผย!! เปิดไว้ใช้สื่อสารกับชาวอเมริกัน ทั้งที่เมื่อก่อนนั้น เคยพยายามสั่งแบน แต่ไม่สำเร็จ

(3 มิ.ย.67) นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา มีผู้ติดตาม TikTokจำนวนมากกว่า 3 ล้านคน ทันทีที่เขาเปิดบัญชีใช้แพลตฟอร์ม TikTok แอปพลิเคชันสำหรับแชร์คลิปวิดีโอสั้นเป็นวันแรก พร้อมกับลงคลิปลงใน TikTok เมื่อช่วงค่ำของวันเสาร์ที่ผ่านมา ตามวันเวลาในสหรัฐฯ โดยอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ วัย 77 ปี เปิดใช้บัญชี TikTok ในชื่อว่า @realdonaldtrump และได้โพสต์คลิปวิดีโอสั้นคลิปแรกลงใน TikTok

เป็นภาพวิดีโอที่เขาพบปะกับเหล่าบรรดาผู้สนับสนุน ขณะไปชมรายการแข่งขันศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานของยูเอฟซี ที่เมืองนวร์ก รัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งปรากฏว่า มีผู้รับชมคลิปดังกล่าวใน TikTok จำนวนมากกว่า 56 ล้านคน พร้อมกันนี้ อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวหลังจากเปิดบัญชี TikTok ว่า ตนจะใช้เครื่องมือทุกประเภทที่มีอยู่ เพื่อสื่อสารโดยตรงกับชาวอเมริกัน สำหรับ ประวัติความสัมพันธ์ของนายทรัมป์ กับ TikTok นั้น ในสมัยที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฐฯ เคยพยายามแบน TikTok เมื่อปี 2020 (พ.ศ. 2563) แต่ถูกศาลขัดขวาง จึงทำให้แบนไม่สำเร็จ

'สิงคโปร์' ยกเลิกงานแสดง NewJeansNim ดีเจแต่งพระ เปิดเพลงแดนซ์กระจายกลางผับ

กลายเป็นประเด็นถกเถียงร้อนแรงในสิงคโปร์มานานนับสัปดาห์ เมื่อ DJ ชื่อดังจากแดนกิมจิ NewJeansNim มีกำหนดการที่จะเข้ามาเปิดการแสดงในผับดังของสิงคโปร์ในเดือนมิถุนายนนี้ ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากชาวพุทธในสิงคโปร์ ถึงความไม่เหมาะสมของการแสดงที่อาจนำไปสู่ความแตกแยกของสังคมชาวพุทธในสิงคโปร์ได้ 

NewJeansNim หรือ ยอน ซุง โฮ นักแสดงตลก เอ็นเตอร์เทนเนอร์ และ ดีเจ ชาวเกาหลีใต้ที่สร้างชื่อเสียงอย่างมากจากการแสดงสุดเฟี้ยว แบบไม่เกรงใจโอวาทปาติโมกข์ ด้วยการแต่งกายคล้ายพระสงฆ์ในเกาหลีใต้ และยังได้ตัดต่อบทสวดมนต์เข้าจังหวะเพลงแดนซ์ ให้วัยรุ่นเต้นกระจายในผับ 
ด้วยกระแสความนิยม ทำให้เขาสามารถเปิดการแสดงในต่างประเทศได้ครั้งแรกที่ไต้หวัน และได้รับการ

ตอบรับอย่างล้นหลาม บัตรขายหมดจนต้องเพิ่มรอบ คลิปลีลาการเปิดเพลงเขย่ากุฏิของเขากลายเป็นไวรัลบนโลกโซเชียลอย่างรวดเร็ว จึงเปิดการแสดงได้เรื่อยๆ ในหลายประเทศ อาทิ มาเลเซีย ฮ่องกง มาเก๊า 

และล่าสุดกำลังจะมาที่สิงคโปร์ ในวันที่ 19-20 มิถุนายน ที่จะถึงนี้ ที่ Club Rich แถมยังหยอดอีกว่า ถ้าเสียงตอบรับดี ก็เพิ่มรอบได้

ร้อนถึงสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งสิงคโปร์ ออกมาโพตต์ข้อความผ่าน Facebook ต่อต้านการแสดงของ DJ NewJeansNim เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า เป็นดีเจไม่ใช่พระ และการสมจีวรเพื่อการแสดงก็ขัดต่อพระวินัย ซึ่งระบุชัดเจนในพระธรรมวินัยของสงฆ์ 

ทางการสิงคโปร์ก็ได้รับเรื่องพิจารณา และประสานงานระหว่าง สมาพันธ์ชาวพุทธ และ ผับ Club Rich ที่ดีเจคนดังมีกำหนดมาแสดง และได้กำหนดให้  NewJeansNim จะทำการแสดงในสิงคโปร์ได้ต่อเมื่อไม่เอาบทสวดมนต์มาทำเป็นเพลงแดนซ์ เพื่อรักษาความเป็นระเบียบในสังคมชาวสิงคโปร์ไม่ให้เกิดประเด็นแตกแยก

และเป็นเงื่อนไขที่ NewJeansNim ไม่สามารถทำตามได้ เพราะนั่นคือจุดขายของเขาที่แฟนคลับคาดหวัง จึงทำให้การแสดงของ NewJeansNim ต้องถูกยกเลิกในสิงคโปร์ด้วยประการฉะนี้ 

แม้การแสดงลักษณะนี้ อาจดูแปลก และเป็นเรื่องต้องห้ามของประเทศชาวพุทธสายหินยาน แต่การแสดงของ NewJeansNim กลับได้รับการตอบรับอย่างดีในกลุ่มประเทศแถบเอเชียตะวันออก โดยเฉพาะในเกาหลีใต้ที่มีกลุ่มแฟนคลับหนาแน่น 

และยังได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจังจากองค์กรพุทธศาสนา นิกายโชเก ซึ่งเป็นนิกายพุทธที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ โดยเห็นว่าการแสดงของ NewJeansNim ช่วยดึงดูดความสนใจของเด็กรุ่นใหม่ยุค Gen Z ได้เป็นอย่างดี และยังจัดงานสวดมนต์ใหญ่กลางสวนสาธารณะ ให้ NewJeansNim มานำสวดด้วยบทสวดทำนองเพลงตื๊ด ที่มีคนรุ่นปู่ย่ามาพนมมือสวดมนต์ตามจังหวะศรัทธาได้อย่างน่าพิศวง

‘จีน’ ส่ง ‘ฉางเอ๋อ 6’ ยานอวกาศไร้ลูกเรือ ลงจอดบริเวณด้านไกลของดวงจันทร์ได้สำเร็จ ชี้!! นี่คือภารกิจครั้งสำคัญ เพื่อเก็บ ‘หิน-ดิน’ จาก ‘ซีกมืดของดวงจันทร์’ เป็นครั้งแรก

(3 มิ.ย.67) จีนนำยานอวกาศไร้ลูกเรือลงจอดบริเวณด้านไกลของดวงจันทร์ได้สำเร็จในวันอาทิตย์ (2 มิ.ย.) ก้าวข้ามอุปสรรคสำคัญในภารกิจครั้งประวัติศาสตร์ของพวกเขา สำหรับเก็บตัวอย่างหินและดินจากซีกมืดของดวงจันทร์กลับมายังโลกเป็นครั้งแรก

การลงจอดครั้งนี้ถือเป็นการยกระดับสถานะมหาอำนาจด้านอวกาศของจีนขึ้นไปอีกขั้น ในความพยายามของโลกในการมุ่งหน้าสู่ดวงจันทร์ ในขณะที่ประเทศต่างๆ รวมถึงสหรัฐฯ หวังว่าการสำรวจแร่ต่างๆ บนดวงจันทร์จะสนับสนุนภารกิจของมนุษย์อวกาศในระยะยาวและจัดตั้งฐานบนดวงจันทร์ภายในทศวรรษหน้า

ยานฉางเอ๋อ 6 ของจีน ติดตั้งเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ และแท่นปล่อยตัวเองลงแตะพื้นในแอ่งขั้วใต้-เอตเคน (South Pole-Aitken Basin) ตอนเวลา 6.23 น.(ตามเวลาปักกิ่ง) จากข้อมูลของสำนักงานอวกาศแห่งชาติจีน

ภารกิจที่ประสบความสำเร็จนี้ถือเป็นภารกิจครั้งที่ 2 ของจีนในบริเวณด้านไกลของดวงจันทร์ ดินแดนที่ยังไม่มีประเทศอื่นๆ ไปถึง ด้านนี้ของดวงจันทร์หันหน้าหนีโลกอยู่ตลอด มันเต็มไปด้วยแอ่งลึกและมืดมิด ทำให้การสื่อสารและปฏิบัติการลงจอดหุ่นยนต์เจองานท้าทายกว่าเดิม

ยานสำรวจฉางเอ๋อ 6 ถูกส่งขึ้นสู่อวกาศโดยจรวดลองมาร์ช 5 ของจีนเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม จากศูนย์ปล่อยดาวเทียมเหวินฉาง บนเกาะไห่หนาน ทางใต้ของประเทศ มันเข้าบริเวณใกล้เคียงกับดวงจันทร์ในอีก 1 สัปดาห์ต่อมา ก่อนกระชับวงโคจรเข้าไปใกล้เรื่อยๆ เพื่อเตรียมการลงจอด

ฉางเอ๋อ 6 ถือเป็นยานอวกาศลำที่ 3 ของโลกที่ลงจอดบนดวงจันทร์ในปีนี้ เริ่มจากยานแลนเดอร์ SLIM ของญี่ปุ่นในเดือนมกราคม ตามด้วยยานแลนเดอร์ของ Intuitive Machines บริษัทสตาร์ปอัปสัญชาติสหรัฐฯ ในเดือนต่อมา

จนถึงตอนนี้สหรัฐฯ ยังเป็นชาติเดียวของโลกที่ส่งมนุษย์ขึ้นไปเหยียบบนดาวจันทร์ในปี 1969

ด้วยการตักและขุดเจาะ ยานฉางเอ๋อ 6 จะมีเป้าหมายเก็บรวมรวบวัตถุดวงจันทร์น้ำหนัก 2 กิโลกรัม ในระยะเวลา 2 วัน และนำมันกลับมายังโลก

ตัวอย่างเหล่านี้จะถูกเคลื่อนย้ายเข้าสู่ตัวบูทเตอร์จรวดที่อยู่ด้านบนสุดของยานแลนเดอร์ ที่จะถูกปล่อยกลับสู่อวกาศ และประกอบร่างเข้ากับยานอวกาศอีกลำในวงโคจรของดวงจันทร์ และเดินทางกลับโลก ทั้งนี้คาดหมายว่ามันจะกลับสู่โลก ลงจอดแถวๆ ภูมิภาคเขตปกครองตนเองมองโกเลียในของจีน ประมาณวันที่ 25 มิถุนายน

ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน ภารกิจนี้จะมอบร่องรอยสำคัญแก่จีน ในประวัติศาสตร์ 4,500 ปีของดาวจันทร์ และให้เงื่อนงำใหม่ๆ เกี่ยวกับรูปแบบระบบสุริยะ และเปิดทางสำหรับการเปรียบเทียบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนระหว่างด้านมืด ภูมิภาคที่ยังไม่เคยมีการสำรวจ กับด้านที่หันหน้ามายังโลกของดวงจันทร์

นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่จีนเริ่มภารกิจเก็บตัวอย่างจากดวงจันทร์ในปี 2020 โดยครั้งแรกยานฉางเอ๋อ-5 นำวัตถุหนัก 1.7 กิโลกรัมกลับมาจากพื้นที่ที่เรียกว่า มหาสมุทรแห่งพายุ (Oceanus Procellarum) ซึ่งอยู่บนด้านใกล้ของดวงจันทร์ซึ่งเผชิญหน้ากับโลกตลอดเวลา

จีนกำลังวางแผนภารกิจยานอวกาศไร้คนขับอีก 3 ภารกิจในทศวรรษนี้ เนื่องจากจีนกำลังค้นหาน้ำบนดวงจันทร์ และสืบเสาะการตั้งฐานถาวรที่นั่น

ยุทธศาสตร์ที่กว้างขวางของรัฐบาลจีน ตั้งเป้าที่จะเห็นนักบินอวกาศจีนเดินบนดวงจันทร์ภายในปี 2030 ขณะที่สหรัฐอเมริกาก็ตั้งเป้าจะนำนักบินอวกาศกลับไปเหยียบดวงจันทร์เช่นกัน โดยนาซาตั้งเป้าที่จะเปิดตัวภารกิจชื่อว่า อาร์เทมิส 3 (Artemis 3) ภายในปี 2026

'ร่างทรง' ผู้รับหน้าที่ในการส่งสารระหว่างเทพและมนุษย์ สิทธิความเท่าเทียมทางเพศ LGBTQ+ ที่ไม่ถูกค้านในเมียนมา

...และแล้ว Pride Month ก็เดินทางมาครบรอบอีกปี  ในขณะที่หลายประเทศมีความเปิดกว้างให้แก่กลุ่ม LGBTQ+ แต่ก็ยังมีอีกหลายประเทศที่ยังไม่ได้ยอมรับตัวตนของกลุ่ม LGBTQ+ สักเท่าไร   

การร่วมเพศของคนเพศเดียวกัน เป็นอาชญากรรมในกว่า 70 ประเทศ และเป็นโทษประหารชีวิตใน 9 ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นประเทศอิหร่าน ประเทศซาอุดีอาระเบีย, ประเทศซูดาน และประเทศเยเมน  

ในขณะที่บางประเทศการมีเพศสัมพันธ์ของคนเพศเดียวกันต้องโทษถึงจำคุกตลอดชีวิต ถึงแม้ในบางประเทศจะไม่บังคับใช้กฎหมายจำกัดสิทธิดังกล่าวอย่างจริงจังเนื่องจากโลกที่เปลี่ยนแปลงไปก็ตาม แต่ในหลายประเทศที่แม้ว่าจะไม่มีกฎหมายแล้ว แต่จารีตประเพณีของคนในประเทศเหล่านั้นก็ไม่ได้ยอมรับตัวตนของการเป็นกลุ่มชาว LGBTQ+ อยู่ดี

เมียนมาเป็น 1 ใน 4 ประเทศในกลุ่มอาเซียนที่มีกฎหมายเอาผิดผู้ที่มีเพศสัมพันธุ์กับคนเพศเดียวกันเช่นกัน โดยมีมาตรา 377 ของเมียนมาระบุว่า...

"การมีความสัมพันธ์ทางเพศแบบผิดธรรมชาติเป็นการก่ออาชญากรรม และผู้ที่กระทำความผิดจะถูกลงโทษโดยการจำคุกไม่เกิน 10 ปี"

โดยกฎหมายดังกล่าวเกิดขึ้นในยุคอาณานิคมเมื่อจักรวรรดิอังกฤษเข้าปกครองพม่าในยุคนั้น ศาลอังกฤษจำคุก ออสการ์ ไวลด์ นักเขียนผู้โด่งดัง เพราะ มีเพศสัมพันธ์กับคนเพศเดียวกัน มันถูกเรียกว่า 'ความรักที่ไม่กล้าเอ่ยนาม' และทำให้มีการนำกฎหมายนี้มาใช้ทั้งในอินเดียและพม่า ซึ่งตอนนั้นถูกผนวกเป็นมณฑลหนึ่งของอินเดีย

นักสิทธิมนุษยชนชาวเมียนมาพยายามจะรณรงค์ให้ยกเลิกกฎหมายมาตรา 377 โดยในปี 2001 กลุ่มผู้พลัดถิ่นแนวร่วมประชาธิปไตยนักเรียนพม่าได้ทำเรื่องขอให้ยกเลิกกฎหมายดังกล่าวแต่ก็ไม่มีผลอะไร

แม้กระทั่งในปี 2015 เมื่อพรรคสันนิบาตชาติประชาธิปไตยหรือ NLD ที่มีนางอองซานซูจีเป็นผู้นำชนะการเลือกตั้ง ซึ่งมีการเรียกร้องจากพรรคฝ่ายค้านให้ยกเลิกกฎหมายฉบับนี้และรณรงค์ให้คนในชาติยุติความชิงชังในกลุ่ม LGBTQ+ แต่ทว่ารัฐบาลของนางซูจีก็ไม่ได้สนใจคำขอและไม่ได้ปรับปรุงหรือยกเลิกกฎหมายฉบับนี้เลย

ในปี 2020 เป็นจุดเปลี่ยนของกลุ่ม LGBTQ+ ทางการเมืองเมื่อพรรค People Pioneer Party (PPP) ซึ่งเป็นพรรคที่สมาชิกในพรรคแตกแยกออกจากพรรค NLD เดิมได้ส่งนักการเมืองเกย์คนแรกลงสมัครชิงเก้าอี้ในสภาในเมืองมัณฑะเลย์ โดยคาดหวังว่าจะเข้าไปปรับปรุงสิทธิทางกฎหมาย และการยกเลิกมาตรา 377 เพื่อประโยชน์ของชาว LGBTQ+ ในเมียนมา แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อพรรค PPP พลาดที่นั่งในสภาในการเลือกตั้งในปี 2020

ประเด็นหนึ่งที่สำคัญคือ สังคมของเมียนมาเป็นสังคมปิด คนส่วนใหญ่ยังไม่ได้ยอมรับการมีอยู่ของกลุ่ม LGBTQ+ ในเมียนมา และหลายครั้งก็เกิดโศกนาฏกรรมขึ้นจากการบูลลี่ของคนในครอบครัวและคนใกล้ตัวเอง อีกทั้งกลุ่มชายรักชายยังถูกห้ามไม่ให้บวชพระในเมียนมาเพราะถือว่าเป็นบัณเฑาะก์ โดยมีการตีความคำว่าบัณเฑาะก์จากคัมภีร์อรรถกถาได้ความว่า บัณเฑาะก์นั้นคือ...

• อาสิตตบัณเฑาะก์ คือ ชายที่อมอวัยวะเพศของชายอื่น
• อุสุยยบัณเฑาะก์ คือ ชายที่ชอบพอใจในการดูกิจกรรมร่วมเพศระหว่างชายกับชาย
• โอปักกมิยบัณเฑาะก์ คือ บุคคลที่ถูกตอน เช่น ขันที และรวมถึงบุคคลที่ผ่าตัดแปลงเพศในปัจจุบัน
• ปักขบัณเฑาะก์ คือเป็นบัณเฑาะก์ในช่วงข้างแรม (มีอารมณ์กำหนัดบางวัน) แต่ช่วงข้างขึ้นไม่เป็น
• นปุงสกัปบัณเฑาะก์ คือ ผู้มีความบกพร่องทางเพศสภาพ ไม่ปรากฏเพศที่แน่ชัด นับเป็นความบกพร่องทางร่างกายแต่กำเนิด

แม้ในประเทศไทยจะมีการตีความบัณเฑาะก์ว่า 'อาสิตตบัณเฑาะก์' และ 'อุสุยยบัณเฑาะก์' สามารถบวชได้ 'ปักขบัณเฑาะก์' สามารถบวชได้ในวันที่ไม่มีกำหนัด ส่วน 'โอปักกมิยบัณเฑาะก์' และ 'นปุงสกัปบัณเฑาะก์' นั้น ไม่สามารถบวชได้ ... แต่ในเมียนมานั้น ชาวเมียนมาจะไม่อนุญาตให้บัณเฑาะก์บวชเลย เพราะเกรงกลัวความเสื่อมเสียในพุทธศาสนาและความอับอายทางสังคมที่จะตามหาหลังจากเกิดเรื่อง

แม้กลุ่มชายรักชายจะถูกขัดขวางลิดรอนสิทธิในทางสังคมและการเมือง แต่ในทางความเชื่อเรื่องการทรงเจ้าจะพบว่า 'ร่างทรง' หรือ 'นัตกะด่อว์' ในเมียนมานับวันจะมีกลุ่มคนข้ามเพศมากขึ้น โดยในทุกปีจะมีเทศกาลทรงเจ้าของเมืองต่องปะโยง ในเมืองมัณฑะเลย์ โดยสมาชิกเกินกว่า 90% เป็นกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ โดยเฉพาะกลุ่มหญิงข้ามเพศและกลุ่มเกย์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นคนทรงเจ้า จนถูกขนามนามว่า 'เทศกาลชาวเกย์' เพราะคนเมียนมาเชื่อว่าร่างทรงที่เป็นกลุ่มเพศทางเลือกจะมีพลังสูงกว่าเพศหญิงหรือชาย เนื่องจากกลุ่มเพศทางเลือกไม่ใช่หญิงและชาย จึงทำให้ร่างทรงที่เป็นกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1960 เป็นต้นมา 

นัตกะด่อว์ ถือว่าเป็นร่างทรงที่ได้รับการเคารพนับถือและยังสร้างความบันเทิง โดยทำหน้าที่ในการส่งสารระหว่างเทพและมนุษย์ ภาพของนัตกะด่อว์ มักเป็นกะเทยหรือผู้หญิงข้ามเพศ เพราะคนพม่าเชื่อว่ามีพลังอำนาจมากกว่าคนปกติทั่วไป 

ตำแหน่งนัตกะด่อว์ เป็นตำแหน่งของอำนาจและศักดิ์ศรีที่ได้รับการยอมรับในสังคม ทุกปีจะมีการเฉลิมฉลองของกลุ่มนัตกะด่อว์ 

ดังนั้นพื้นที่ของนัตกะด่อว์ จึงกลายเป็นพื้นที่ที่แสดงตัวตนของกลุ่ม LGBTQ ในเมียนมาที่ยิ่งใหญ่และได้รับการยอมรับจากสังคม 

ในปัจจุบันกลุ่ม LGBTQ+ ในเมียนมาถูกเปิดมากขึ้นตามสังคมที่เปลี่ยนไป แต่อย่างไรก็ดีหากมองข้ามกฎหมายที่ทุกวันนี้แทบจะไม่ได้บังคับใช้เหล่ากลุ่ม LGBTQ+ ก็สามารถอาศัยและทำงานในเมียนมาอย่างปกติสุข

แผ่นดินไหว 5.9 แมกนิจูด เขย่าภาคกลาง ‘ญี่ปุ่น’  ‘โรงไฟฟ้านิวเคลียร์’ ปลอดภัย ไม่มีเตือนภัยสึนามิ

(3 มิ.ย.67) กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) เปิดเผยว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.9 แมกนิจูดบริเวณคาบสมุทรโนโตะ จังหวัดอิชิคาวะทางตอนกลางฝั่งตะวันตกของประเทศ เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (3 มิ.ย.) รายงานระบุว่า เหตุแผ่นดินไหวครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อเวลา 06.31 น.ตามเวลาท้องถิ่น และความรุนแรงของแผ่นดินไหวอยู่ที่ระดับ 5 จากทั้งหมด 7 ระดับ ซึ่งระดับ 7 เป็นระดับรุนแรงที่สุด และตามมาด้วยแผ่นดินไหวอีกครั้งขนาด 4.8 แมกนิจูด เมื่อเวลา 06.40 น.ตามเวลาท้องถิ่น อย่างไรก็ดีไม่มีการเตือนภัยสึนามิ และไม่มีรายงานความเสียหาย ผู้เสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว

บริษัทโตเกียว อิเล็กทริกพาวเวอร์คอมพานี หรือ เทปโก (TEPCO) กล่าวว่า ไม่พบความผิดปกติใดๆ ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์คาชิวาซากิ-คาริวะ ในจังหวัดนีงาตะ ที่อยู่บริเวณใกล้เคียง

‘ศธ.จีน’ ขอความร่วมมือโรงเรียน กำหนดบทลงโทษ ‘การบูลลี่’ ชี้!! ควรมี ‘สายด่วน-อีเมล’ พร้อมรับเรื่อง ติดตั้งวงจรปิด ดูแลใกล้ชิด 

(2 มิ.ย.67) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กระทรวงศึกษาธิการของจีนออกหนังสือเวียนขอความร่วมมือโรงเรียนในจีนให้กำหนดบทลงโทษสำหรับการกลั่นแกล้งรูปแบบต่างๆ ในสถานศึกษา และจัดตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อจัดการกรณีการกลั่นแกล้งตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง

หนังสือเวียนระบุว่าโรงเรียนควรตั้งสายด่วนสาธารณะ มีอีเมลสำหรับรายงานเหตุกลั่นแกล้ง ให้หมายเลขโทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารโรงเรียนที่รับผิดชอบแก้ไขปัญหาดังกล่าว รวมทั้งติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดครอบคลุมสถานที่ที่ไม่เป็นเป้าสายตาทั้งหมด

เมื่อเดือนมีนาคม กระทรวงฯ ได้เริ่มโครงการรณรงค์ให้โรงเรียนจัดกิจกรรมการศึกษาเพื่อเพิ่มความตระหนักรู้ด้านความปลอดภัยของนักเรียนและความสามารถในการปกป้องตนเอง

ในปี 2021 สำนักงานอัยการประชาชนสูงสุดของจีน ระบุว่าจำนวนการจับกุมและการตั้งข้อกล่าวหาอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการกลั่นแกล้งและความรุนแรงในโรงเรียนในจีนระหว่างปี 2017-2020 ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top