Friday, 26 April 2024
WORLD

‘แมทธิว เพอร์รี่’ ดาราดังจากซีรีส์ ‘เฟรนส์’ เสียชีวิตแล้วในวัย 54 ปี หลังถูกพบร่างในอ่างน้ำที่บ้านพัก ในนครลอสแอนเจลิส สหรัฐฯ

(29 ต.ค. 66) สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า แมทธิว เพอร์รี่ หนึ่งในดารานักแสดงจากซีรีส์ชื่อดัง ‘เฟรนส์’ (Friends) ถูกพบเสียชีวิตในบ้านพัก เมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะมีอายุได้ 54 ปี

โดยแหล่งข่าวด้านกฎหมาย เปิดเผยกับลอสแอนเจลิสไทม์สว่า เพอร์รี่ ถูกพบอยู่ในอ่างน้ำร้อน ภายในบ้านพักที่นครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา และผู้ที่พบร่างของเพอร์รี่ ไม่สามารถช่วยชีวิตเขาเอาไว้ได้

ทั้งนี้ แอลเอไทม์ส และทีเอ็มซี เป็นสองสื่อแรกที่รายงานข่าวเรื่องดังกล่าว ซึ่งอ้างจากแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยตัวตนว่าเป็นใคร

ทั้งนี้ เพอร์รี่ เป็นที่รู้จักจากการแสดงในบทบาท ‘แชนด์เลอร์ บิง’ ผู้ชาญฉลาดในซีรีส์ชื่อดัง ‘เฟรนส์’ ของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี ที่ฉายนานถึง 10 ซีซั่น ตั้งแต่ปี ค.ศ.1994-2004

ข่าวระบุว่า เพอร์รี่ ต่อสู้กับภาวะติดยาแก้ปวดและติดแอลกอฮอล์มานานหลายปี โดยต้องเข้าร่วมในคลินิกฟื้นฟูหลายครั้ง

นอกจากนี้ ในการพบกันอีกครั้งของกลุ่มนักแสดง ‘เฟรนส์’ ครั้งล่าสุด เพอร์รี่ได้ยอมรับกับเพื่อนนักแสดงด้วยกันเป็นครั้งแรกว่า ระหว่างการถ่ายทำเฟรนส์นั้น เขามีอาการวิตกรุนแรงทุกคืน

อย่างไรก็ตาม ทีเอ็มซีรายงานว่า ในที่เกิดเหตุที่พบเพอร์รี่เสียชีวิต ไม่พบยาเสพติดอยู่แต่อย่างใด

นอกเหนือจากซีรีส์ ‘เฟรนส์’ แล้ว เพอร์รี่ยังแสดงภาพยนตร์เรื่อง ‘Fools Rush In’ และ ‘The Whole Nine Yards’ อีกด้วย

อุตสาหกรรมการบิน ‘อิหร่าน’ ก้าวหน้า แม้ถูกคว่ำบาตร สามารถซ่อมบำรุงเครื่องบินได้เอง โดยผู้เชี่ยวชาญในประเทศ

เมื่อไม่นานมานี้ ผู้อำนวยการองค์การการบินพลเรือนแห่งอิหร่าน เปิดเผยว่า แม้จะมีการคว่ำบาตร แต่อุตสาหกรรมการบินของประเทศก็มีความก้าวหน้าเป็นอย่างมากและการซ่อมบำรุงเครื่องบินที่มีอยู่ก็สามารถดำเนินการต่อไปได้โดยผู้เชี่ยวชาญในประเทศ ปัจจุบันไม่มีการส่งเครื่องบินของอิหร่านไปซ่อมในต่างประเทศ การดำเนินการที่เรียกว่า กระบวนการซ่อมแซมชิ้นส่วนของเครื่องบินที่ต้องซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ เพื่อฟื้นฟูสภาพสำหรับการบินในช่วงสองปีที่ผ่านมา 

เครื่องยนต์เครื่องบิน 31 เครื่องได้รับการซ่อมแซมโดยบริษัทดาเนชบุนยอน โดยวิศวกรอากาศยานผู้เชี่ยวชาญชาวอิหร่าน จนเครื่องบินแบบ ATR จำนวน 3 ลำ และเครื่องบิน A 319 จำนวน 1 ลำ สามารถกลับคืนสู่วงจรการบินปฏิบัติงานได้แล้ว

Mohammad Mohammadi Bakhsh ผู้อำนวยการองค์การการบินพลเรือนแห่งอิหร่าน

โดยเฉลี่ยแล้วการซ่อมเครื่องยนต์เครื่องบินในอิหร่านจะใช้เวลาประมาณ 10 วัน ในขณะที่การส่งเครื่องยนต์ไปซ่อมในต่างประเทศจะใช้เวลามากกว่าสองเดือน ตามที่ผู้อำนวยการองค์การการบินพลเรือนแห่งอิหร่านระบุว่า 

ในช่วง 20 เดือนที่ผ่าน มีการนำเข้าเครื่องบิน 60 ลำ เข้ามาในประเทศ จนถึงขณะนี้มีการใช้งานไปแล้ว 30 ลำ เน้นว่า ไม่ว่าจะมีการคว่ำบาตรอย่างไรก็ตาม เราต้องพอเพียงและสร้างศักยภาพความสามารถให้กับตนเอง นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้กับอุตสาหกรรมการบินของอิหร่าน วันนี้เรายืนหยัดด้วยลำแข้งของตัวเอง และสำหรับประเทศที่เป็นมิตรบางประเทศที่เราได้ซ่อมเครื่องบินของพวกเขาในประเทศของเราเองหรือแม้แต่เป็นประเทศที่ใหญ่ๆก็ตาม จึงทำให้เรามีความหวัง ผู้อำนวยการองค์การการบินพลเรือนแห่งอิหร่านยังชี้ให้เห็นว่า ก่อนหน้านี้เราประสบปัญหาร้ายแรงในด้านน้ำมันหล่อลื่นหรือน้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องบิน บริษัทที่มีชื่อเสียงของโลกไม่ยอมขายน้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องบินให้กับอิหร่าน แต่ด้วยความร่วมมือของบริษัทดาเนชบุนยอน ในช่วงเวลาอันสั้นเราไม่เพียงแต่เป็นผู้จัดหาสำหรับความต้องการของเราเพียงเท่านั้น แต่เรากลายเป็นผู้ส่งออกน้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องบินอีกด้วย

'หวังอี้' เยือนวอชิงตัน ส่งสารผู้นำจีนถึง 'ไบเดน' ตอกย้ำ 3 พันธกิจ 'เคารพ-สันติ-ร่วมมือกัน'

(28 ต.ค.66) สำนักข่าวซินหัว เผย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ได้พบปะกับ หวังอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันศุกร์ (27 ต.ค.)

หวัง ซึ่งเป็นกรรมการกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) ได้ถ่ายทอดคำทักทายของสีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ต่อไบเดนเป็นลำดับแรก

หวัง ระบุเพิ่มเติมว่าการเดินทางเยือนสหรัฐฯ ของเขาในครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายสื่อสารกับฝ่ายสหรัฐฯ เพื่อดำเนินการตามความเข้าใจร่วมกันที่สำคัญซึ่งบรรลุโดยประธานาธิบดีของสองประเทศ อีกทั้งสานต่อการดำเนินการจากการประชุมสุดยอดที่บาหลีระหว่างสีจิ้นผิงและไบเดนสู่การประชุมสุดยอดที่ซานฟรานซิสโก เพื่อป้องกันไม่ให้ความสัมพันธ์ทวิภาคีเสื่อมถอยอีกต่อไป และนำพาความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ กลับสู่เส้นทางการพัฒนาที่แข็งแกร่งและมั่นคงในเร็ววัน

หวัง กล่าวว่า หลักการจีนเดียวและแถลงการณ์ร่วมจีน-สหรัฐฯ (China-U.S. joint communiqués) 3 ฉบับ เป็นรากฐานทางการเมืองที่สำคัญที่สุดสำหรับความสัมพันธ์ทวิภาคี ซึ่งต้องยึดมั่นโดยปราศจากการแทรกแซง

หวัง กล่าวว่า จีนใส่ใจกับความหวังของสหรัฐฯ ในการรักษาเสถียรภาพและปรับปรุงความสัมพันธ์กับจีน พร้อมเสริมว่าทั้งสองฝ่ายจำเป็นต้องดำเนินการด้วยความรับผิดชอบต่อโลก ต่อประวัติศาสตร์ และต่อประชาชน และผลักดันการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ที่มั่นคงและแข็งแรง โดยสอดคล้องกับหลักการ 3 ประการที่นำเสนอโดยสีจิ้นผิง ได้แก่ การเคารพซึ่งกันและกัน การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน

หวังชี้ว่าประเด็นดังกล่าวไม่เพียงเป็นผลประโยชน์ขั้นพื้นฐานของสองประเทศและประชาชนของทั้งสองฝ่ายเท่านั้น แต่ยังเป็นปณิธานร่วมกันของประชาคมระหว่างประเทศด้วย

ด้าน ไบเดน ได้ส่งมอบคำทักทายไปยังประธานาธิบดีสีจิ้นผิง

ไบเดน กล่าวอย่างชัดเจนว่าเขาให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีน พร้อมแสดงความหวังว่าสหรัฐฯ ยินดีรักษาการติดต่อสื่อสารกับจีนเพื่อร่วมกันจัดการกับความท้าทายระดับโลก

อนึ่ง หวังได้หารือกับแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ สองครั้ง และจัดการสื่อสารเชิงยุทธศาสตร์กับเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ระหว่างการเดินทางเยือนวอชิงตัน ดี.ซี.

‘จีน’ เดินหน้าขุด ‘หลุมยักษ์’ ลึกกว่า 10,000 เมตร ในซินเจียง หลังตั้งเป้ามุ่งสำรวจ ‘ใต้โลก’ ล่าสุดขุดได้ถึง 8,000 เมตรแล้ว

เมื่อไม่นานมานี้ สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า วันพฤหัสบดี (26 ต.ค.) บ่อน้ำมันทาริม สังกัดบริษัทปิโตรเลียมแห่งชาติจีน (CNPC) ผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซรายใหญ่ที่สุดของจีน เปิดเผยความคืบหน้าล่าสุดในการขุดเจาะหลุมลึกสำหรับการสำรวจทางวิทยาศาสตร์แห่งแรกของจีน ที่จะมีความลึกกว่า 10,000 เมตร บริเวณแอ่งทาริม เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน

หวังชุนเซิง ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคที่มีส่วนร่วมในการสำรวจ ระบุว่า ปัจจุบันงานขุดเจาะได้ขุดลึกลงไปถึงระดับ 8,000 เมตรแล้ว โดยอยู่ที่ความลึก 8,056 เมตร ซึ่งหลังจากผ่านระดับ 8,000 เมตรไปแล้ว เครื่องจักรจะต้องเผชิญสารพัดความท้าทาย อาทิ อุณหภูมิที่มากกว่า 155 องศาเซลเซียส และความดันที่มากกว่าความดันบรรยากาศ 1,100 เท่า

อนึ่ง หลุมเจาะนี้มีความลึกออกแบบ 11,100 เมตร ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลของทากลิมากัน ทะเลทรายขนาดใหญ่ที่สุดของจีน

รายงานระบุว่า ชุดอุปกรณ์ อาทิ หัวเจาะและท่อเจาะ ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่า 2,000 ตัน จะทำการเจาะลึกลงไปในพื้นโลกจนทะลุผ่านชั้นหินภาคพื้นทวีปมากกว่า 10 ชั้น อาทิ ชั้นหินครีเทเชียส ในระหว่างกระบวนการขุดเจาะ

ทั้งนี้ แอ่งทาริมจัดเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ยากที่สุดสำหรับการสำรวจเนื่องจากสภาพแวดล้อมพื้นดินอันทุรกันดารและสภาพแวดล้อมใต้ดินที่ซับซ้อน

‘มือปืนกราดยิง’ 18 ศพ ในรัฐเมน เสียชีวิตลงแล้ว หลังถูกพบศพอยู่ใกล้แม่น้ำ คาด!! ลั่นไกปลิดชีวิตตัวเอง

(28 ต.ค.66) เอพี รายงานกรมตำรวจรัฐเมน สหรัฐอเมริกา แถลงข่าวพบศพ นายโรเบิร์ต คาร์ด ทหารกองหนุนสหรัฐฯ วัย 40 ปี มือปืนที่ก่อเหตุกราดยิงในเมืองลูอิสตัน รัฐเมนทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 13 คนเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม โดยพบศพอยู่ใกล้แม่น้ำในรัฐเมนเมื่อค่ำวันศุกร์ที่ 27 ตุลาคม

ไมค์ เซาส์ชัค ผู้บัญชาการด้านความปลอดภัยรัฐเมน แถลงว่าพบศพของคาร์ดอยู่แม่น้ำแอนโดรสก็อกกิน แถวลิสบอน ฟอลส์ ในรัฐเมนเมื่อเวลา 19.45 น. มีบาดแผลที่เชื่อว่าเป็นการยิงปลิดชีวิตตัวเอง แต่ปฏิเสธที่จะให้ที่อยู่เฉพาะเจาะจง

อย่างไรก็ตาม เอพีอ้างได้ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ที่ไม่เปิดเผยนามเล่าว่า พบศพของโรเบิร์ต คาร์ดที่โรงงานรีไซเคิล ซึ่งโรเบิร์ต คาร์ด เพิ่งทำงานอยู่

‘แก๊งเพื่อนมัธยม’ ช่วยกันดูแล-คอยให้ตังค์ ‘ชายพิการ’ มาตลอด 18 ปี พร้อมสัญญาจะไม่ทิ้งไปไหน จนชาวเน็ตซึ้งใจ บอก!! ญาติยังไม่ทำเท่านี้

เมื่อวานนี้ (27 ต.ค.66) เว็บไซต์ jeenthainews.com ได้รายงานเรื่องราวดีๆ น่าประทับใจระหว่างเพื่อนว่า…

ว่ากันว่าเพื่อนแท้หายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร แต่เป็นโชคดีของชายพิการคนหนึ่งที่ได้เจอ ‘เหล่าเพื่อนแท้’ ที่ไม่เคยทิ้งเขาไป และยังคอยดูแลช่วยเหลือมาตลอด 18 ปี

ย้อนไปเมื่อปี 1995 หลังจากเรียนจบโรงเรียนมัธยมในเมืองฉางเต๋อ มณฑลหูหนาน ชายจีนนาม สยงเฉียนจิ้น ประสบอุบัติเหตุรถยนต์ สมองของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส อยู่ในอาการโคม่านานถึง 58 วัน ทำให้ร่างกายพิการตลอดชีวิตไม่สามารถใช้ชีวิตด้วยตนเองได้ รวมถึงความจำเสื่อม บางส่วน แต่โชคดีที่สยงยังคงจำเพื่อนๆ ในชั้นเรียนและชื่อของพวกเขาได้

หลังออกจากโรงพยาบาลเขาใช้ชีวิตกับแม่เพียงสองคน โดยมีแค่เงินบำนาญของแม่เลี้ยงชีพ เมื่อได้ทราบเรื่อง เพื่อนในชั้นเรียนทั้ง 49 คนรวมตัวกันช่วยบริจาคเงินให้เขา 12,000 หยวน (ราว 60,000 บาท) ทุกปี รวมถึงคอยซื้อของใช้จำเป็น ไปเยี่ยมเยียน และเชิญเขามาร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ต่างๆ

สยง บอกว่า ตนรู้สึกสบายใจที่ได้พูดคุย แบ่งปันเรื่องราวในวันวานกับเพื่อนสมัยเรียน และได้รู้สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของพวกเขา เขายังพูดต่อว่าหากไม่มีเพื่อนคอยอยู่ด้วย ตนคงจะจบชีวิตไปแล้ว พร้อมขอบคุณเพื่อนที่คอยช่วยเหลือมาตลอด และเขาอยากจะรักษา มิตรภาพนี้ไว้ตลอดไป ส่วนเพื่อนๆ ก็สัญญาว่าจะดูแลเขาไม่ทิ้งไปไหนแน่นอน

ชาวเน็ตต่างรู้สึกประทับใจในมิตรภาพของสยงและเพื่อน บางคนบอกว่าขนาดญาติพี่น้อง ยังทำให้ได้ไม่เท่านี้เลย

‘อิหร่าน’ ส่งออกอาหาร-สินค้าทางการเกษตรเพิ่มขึ้นร้อยละ 21 ยก ‘อิรัก-อัฟกัน-UAE-รัสเซีย-ปากีฯ’ คู่ค้าด้านอาหารที่สำคัญ

สภาอุตสาหกรรม เหมืองแร่ และการพาณิชย์ของอิหร่าน ประกาศว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปีปฏิทินอิหร่าน 1402 (21 มีนาคม - 22 กันยายน 2566) มีการส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ปศุสัตว์ การประมง และอาหารมากกว่า 3.5 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่าราว 2,428 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 21 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ไซยิดรูฮุลลอฮ์ ลาตีฟี โฆษกคณะกรรมการพัฒนาการค้า Khaneh Sanat กล่าวว่า ร้อยละ 94 ของน้ำหนัก และร้อยละ 84 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารของประเทศได้ส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านในช่วงเวลาดังกล่าว โดยมี อิรัก อัฟกานิสถาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รัสเซีย และปากีสถาน เป็นจุดหมายปลายทางการส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารที่สำคัญที่สุดของอิหร่าน 

ลาตีฟี กล่าวด้วยว่า สินค้าส่งออกที่สำคัญที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์เกษตรและอาหาร ได้แก่ ผลิตภัณฑ์นมที่มีมูลค่า 345 ล้านดอลลาร์ มะเขือเทศ มูลค่า 159 ล้านดอลลาร์ และผลิตภัณฑ์ประมงที่มีมูลค่ามากกว่า 140 ล้านดอลลาร์ สินค้าส่งออกอื่น ๆ ของอิหร่านในภาคส่วนนี้ ได้แก่ ถั่วพิสตาชิโอ, แตงโม, ไข่ไก่, หญ้าฝรั่ง, อินทผาลัม, ลูกเกด, มะเขือเทศเข้มข้น, มันฝรั่ง, แอปเปิ้ล และลูกพีช เป็นต้น

โดย ลาตีฟี ได้เน้นย้ำว่า การส่งออกมีความสำคัญอย่างยิ่งในฐานะที่เป็นแรงผลักดันและกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และบรรดาผู้กำหนดนโยบายและบรรดาผู้ผลิตควรคำนึงถึงคุณภาพ ความต่อเนื่องของอุปทาน, ราคาที่สามารถแข่งขันได้ ตลอดจนรสนิยม และความยืดหยุ่นของตลาดเป้าหมาย การจัดระเบียบองค์กรต่าง ๆ อย่างเหมาะสม และการใช้วิทยาการความรู้ที่ทันสมัย, บรรจุภัณฑ์, การขนส่งที่เหมาะสม และการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก็ให้ความสนใจกับการพัฒนาของตลาดประเทศเพื่อนบ้าน และเพิ่มการส่งออกไปยังตลาดที่ห่างไกล หากดำเนินงานในลักษณะนี้ก็จะสามารถทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเงินตราที่เหมาะสมได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน

‘เสียวหมี่’ เปิดตัว ‘HyperOS’ เป็นระบบปฏิบัติการของตัวเอง เผยข้อดี ‘ลื่นไหล-เสถียร’ มากขึ้น!! พร้อมใช้งาน 31 ต.ค. นี้

(27 ต.ค. 66) สำนักข่าวCNBC รายงานว่า เสียวหมี่ ผู้ผลิตสมาร์ตโฟนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สัญชาติจีน เปิดตัวระบบปฏิบัติการใหม่ เรียกว่า 'HyperOS' และพร้อมให้ลูกค้าใช้งาน 31 ต.ค. นี้ เมื่อโทรศัพท์ อุปกรณ์สวมใส่ เช่น นาฬิกา และโทรทัศน์รุ่นล่าสุดของเสียวหมี่เริ่มจำหน่ายในจีน

เสียวหมี่ ระบุว่า ระบบ HyperOS สร้างโดยลีนุกซ์ และระบบเสียวหมี่ลีลาที่พัฒนาเอง ซึ่งระบบนี้ทำให้ความลื่นไหลของภาพมีความเสถียรมากขึ้น และลดการใช้พลังงานไฟฟ้าเมื่อเทียบกับระบบแอนดรอยด์

เสี่ยวหมี่ ยังเผยเกี่ยวกับความเร็วของระบบประมวลผล ความปลอดภัยของระบบ HyperOS และบอกแนวทางการใช้ระบบในสมาร์ตโฟน รถยนต์ และแล็ปท็อป ซึ่งสามารถแชร์คอนเทนต์และเข้าถึงกล้องของผู้อื่นในระบบใหม่ได้อย่างง่ายดาย

ไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เสียวหมี่ได้พัฒนาธุรกิจอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งมีสัดส่วนสร้างรายได้ประมาณ 22% ของรายได้ทั้งหมดในบริษัทในไตรมาสสอง เป็นรองรายได้จากสมาร์ตโฟนที่มีสัดส่วน 37% และเมื่อวันพฤหัสบดี (26 ต.ค.) บริษัทได้เปิดตัวสมาร์ตโฟน 3,999 หยวน หรือราว 19,900 บาท,เครื่องซักผ้าราคา 1,999 หยวน หรือประมาณ 9,900 บาท, และตู้เย็น 2,999 หยวน ราว 14,800 บาท และมีแอปพลิเคชันให้ลูกค้าควบคุมการตั้งค่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของเสียวหมี่ได้

ด้าน 'เหลย จุน' ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) เสียวหมี่ เผยผ่านโซเชียลมีเดียจีนเมื่อวันพุธ (25 ต.ค.) ว่าบริษัทเตรียมเปิดตัวรถยนต์ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 ด้วย แต่ไม่ได้ระบุว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าหรือไม่

ทั้งนี้ บริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งต่างพยายามสร้างความจงรักภักดีในตัวแบรนด์ หรือสร้างความเชื่อมั่นต่อสินค้าด้วยการมีระบบปฏิบัติการเป็นของตัวเอง เช่น ระบบ iOS ของแอปเปิ้ล และแอนดรอยด์ของกูเกิล

ด้านหัวเว่ย บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีนได้พัฒนาระบบปฏิบัติการเป็นของตนเองเช่นกัน เรียกว่า HarmonyOS เพื่อแทนที่แอนดรอยด์ และบริษัทได้ปรับระบบให้เข้ากับสมาร์ตโฟน แล็ปท็อป แท็บเล็ต และชุดโทรทัศน์ ทั้งยังจำหน่ายซอฟต์แวร์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าของพาร์ตเนอร์ด้วย

‘อิสราเอล’ ส่งหน่วยรบภาคพื้นดิน พร้อมด้วยโดรน-เครื่องบินขับไล่ บุกโจมตีตอนกลางของฉนวนกาซา สังหาร ผบ.ระดับสูงฮามาสดับ

(27 ต.ค. 66) สำนักข่าวบีบีซีและเอเอฟพีรายงานว่า ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา กองกำลังภาคพื้นดินของอิสราเอล สนับสนุนด้วยเครื่องบินขับไล่และโดรนหลายลำ ได้บุกเข้าไปโจมตีในพื้นที่ตอนกลางของฉนวนกาซา ซึ่งโจมตีถูกเป้าหมายของฮามาสหลายสิบแห่ง

“ในส่วนหนึ่งของปฏิบัติการดังกล่าว เครื่องบินขับไล่และโดรนของกองกำลังป้องกันอิสราเอล (ดีไอเอฟ) ได้โจมตีหลายเป้าหมายในพื้นที่ชูจาอียาและที่อื่นๆ ในฉนวนกาซา” แถลงการณ์ของไอดีเอฟระบุ และกล่าวว่า เป้าหมายเหล่านั้นรวมถึงฐานยิงจรวดต่อต้านรถถัง กองบัญชาการและศูนย์ควบคุมทางทหารตลอดจนนักรบฮามาส โดยหลังเสร็จสิ้นภารกิจ ทหารอิสราเอลได้ถอนกำลังออกจากพื้นที่ดังกล่าวโดยไม่มีกำลังพลคนใดได้รับบาดเจ็บ

ก่อนหน้านั้น ไอดีเอฟแถลงอ้างว่า เครื่องบินขับไล่ของกองทัพอิสราเอลได้สังหาร ‘ชาดี บารุด’ รองหัวหน้าหน่วยข่าวกรองของกลุ่มฮามาส ที่มีส่วนร่วมกับ ‘ยาห์ยา ซินวาร์’ หัวกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ในการวางแผนบุกโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา

พร้อมกันนี้ ไอดีเอฟยังเผยแพร่คลิปวิดีโอโจมตีทางอากาศที่อ้างว่าได้สังหารนายบารุดเป็นการยืนยันอีกด้วย

หลายรัฐในสหรัฐฯ ยื่นฟ้อง ‘บ.เมตา แพลตฟอร์มส อิงก์’ ชี้!! ปลูกฝังเยาวชนเสพติดโซเชียล เพื่อเพิ่มกำไรให้องค์กร

(27 ต.ค. 66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันอังคาร (24 ต.ค.) ร็อบ บอนตา อัยการสูงสุดประจำรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ ได้ร่วมเป็นผู้นำแนวร่วมที่ประกอบด้วยอัยการสูงสุดระดับรัฐ 33 คน ยื่นฟ้องดำเนินคดีของรัฐบาลกลางต่อเมตา แพลตฟอร์มส อิงก์ (Meta Platforms Inc.) และบริษัทในเครือ โดยระบุว่าบริษัทฯ ออกแบบและปรับใช้รูปแบบบริการที่เป็นอันตรายบนอินสตาแกรมและเฟซบุ๊ก ที่ทำให้เด็กและวัยรุ่นเสพติดจนได้รับผลกระทบทั้งทางร่างกายและจิตใจ

บอนตาระบุผ่านแถลงการณ์ว่าคดีดังกล่าวถูกยื่นฟ้องในศาลชั้นต้นของสหรัฐฯ สำหรับเขตทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยอัยการกำลังสืบหาการใช้คำสั่งห้ามและการช่วยเหลือทางการเงิน เพื่อจัดการกับการประพฤติโดยมิชอบของเมตา

อัยการสูงสุดระดับรัฐ 8 คนได้ประกาศยื่นฟ้องเมตา เมื่อวันอังคาร (24 ต.ค.) ในแต่ละศาลรัฐของตน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามดังกล่าว

อนึ่ง การร้องเรียนของรัฐบาลกลางและรัฐเป็นผลมาจากการสอบสวนทั่วประเทศที่บอนตาประกาศเมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2021

บอนตาระบุว่าการสอบสวนได้ข้อสรุปอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งสรุปได้ว่าเมตา ทำร้ายเด็กและวัยรุ่นด้วยการปลูกฝังการเสพติดเพื่อเพิ่มผลกำไรขององค์กร

ในคดีความข้างต้น เมตาถูกกล่าวหาว่าละเมิดกฎหมายของรัฐบาลกลางและรัฐ โดยคำร้องเรียนของรัฐบาลกลางระบุว่าการประพฤติมิชอบของเมตา อาทิ การสร้างโมเดลธุรกิจที่เน้นให้ผู้ใช้วัยรุ่นใช้เวลาบนแพลตฟอร์มมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ การใช้รูปแบบแพลตฟอร์มที่เป็นอันตรายและชักจูงทางจิตวิทยา ขณะที่ทำให้สาธารณชนเข้าใจผิดเกี่ยวกับความปลอดภัยของรูปแบบเหล่านี้ รวมถึงการเผยแพร่รายงานที่มุ่งแสดงอัตราความเสียหายต่อผู้ใช้ที่อยู่ในระดับต่ำอย่างไม่ถูกต้อง

บอนตาระบุว่าแม้จะมีหลักฐานมากมายว่าแพลตฟอร์มของเมตาเชื่อมโยงกับอันตรายต่อผู้ใช้หนุ่มสาว แต่เมตากลับปฏิเสธที่จะจัดการกับอันตรายเหล่านั้น และยังคงปกปิดและมองข้ามผลกระทบด้านลบของแพลตฟอร์มต่อไป

อนึ่ง ส่วนหนึ่งของรัฐ 33 แห่งที่ร่วมยื่นฟ้องร้องเมตา ได้แก่ แอริโซนา แคลิฟอร์เนีย โคโลราโด คอนเนตทิคัต เดลาแวร์ จอร์เจีย ฮาวาย ไอดาโฮ และอิลลินอยส์ ขณะรัฐฟลอริดากำลังยื่นฟ้องร้องต่อศาลชั้นต้นของสหรัฐฯ ประจำเขตตอนกลางของฟลอริดา

ส่วนโคลัมเบีย แมสซาชูเซตส์ มิสซิสซิปปี นิวแฮมป์เชียร์ โอกลาโฮมา เทนเนสซี ยูทาห์ และเวอร์มอนต์ ได้ดำเนินการยื่นฟ้องที่เกี่ยวข้องในศาลระดับรัฐด้วยเช่นกัน

‘เทศกาลกลองฮ่องกง’ ชูแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมทางดนตรีจากทั่วโลก ปิดท้ายแสง-สี-เสียงแบบจัดเต็ม!! ประทับความสนุกในดวงใจผู้ชมไม่รู้ลืม

เมื่อไม่นานนี้ ‘ไชน่าเคม กรุ๊ป’ (Chinachem Group) ฮ่องกง ได้ร่วมจัดงานเทศกาลกลอง ภายใต้ธีม ‘One Beat, One World : Connecting Through The Drum’ และคอนเสิร์ตดนตรีสด 5G ในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปี ของเทศกาลกลองฮ่องกง ซึ่งเป็นการแสดงที่หาชมได้ยากรายการหนึ่ง จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมเชิงบวก ผ่านพลังของการตีกลอง และทำให้ฮ่องกงเป็นที่รู้จักในฐานะ ‘เมืองหลวงแห่งการจัดงาน’

ศาสตราจารย์หยาน ฮุ่ยชาง ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ และผู้ควบคุมวง ฮ่องกงไชนีสออเคสตรา (Hong Kong Chinese Orchestra) กล่าวว่า วงฮ่องกงไชนีสออเคสตรา ได้นำเสนอการแสดงดนตรีสู่สาธารณชน เพื่อส่งเสริมเรื่องราวของศิลปะจีนและฮ่องกงที่วิจิตรงดงาม และสืบทอดมายาวนาน ผ่านเทศกาลกลองที่มีชื่อว่า ‘One Beat, One World : Connecting Through The Drum’ และคอนเสิร์ตดนตรีสด 5G ซึ่งได้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ ศูนย์วัฒนธรรมอาร์ตปาร์ค เกาลูนตะวันตก โดยภายในงานได้มีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ การตั้งกลองสันติภาพขนาดยักษ์สูง 3.47 เมตรให้ทุกคนได้เล่น, การแสดงบนเวทีโดยทีมที่ชนะการแข่งขันกลอง Hong Kong Synergy, ขบวนพาเหรดที่แสดงโดยทีมตีกลองจำนวน 24 ทีม และการแสดงกลองที่ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรม หรือซอฟต์พาวเวอร์ของจีน ได้แก่ Yan'anCity An'sai Waist Drum Troupe จากมณฑลส่านซี, ทีม Chengnan Zhongjing Yingge จากซัวเถา มณฑลกวางตุ้ง และคณะกลอง Shanxi Jiangzhou

ซึ่งภายในคอนเสิร์ตการแสดงสด 5G ในรอบชิงชนะเลิศสุดอลังการนี้ ยังมีการแสดงกลองอันโดดเด่นจากทั่วโลก นำโดย ยาน ฮุยชาง (Yan Huichang ) ผู้นำวงฮ่องกงไชนีสออเคสตรา (Hong Kong Chinese Orchestra) ร่วมกับศิลปินที่มีชื่อเสียงจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งได้แก่ โดริ (Dori) จากประเทศสาธารณรัฐเกาหลี, โยสุเกะ โอดะ (Yosuke Oda) จากประเทศญี่ปุ่น, อะซากูโน (Azaguno) จากประเทศแอฟริกา, แอปบอส กรุ๊ป (Abbos Group) จากประเทศอุซเบกิสถาน และแอนโทนี เฟอนันเดส (Anthony Fernandes) ผู้มีชื่อเสียงด้านกลองระดับโลก

โดยการแสดงแต่ละชุดได้สะท้อนถึงประเพณีการตีกลองอันยาวนานจากทั่วโลก ที่ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนดนตรีและวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงตีกลองของญี่ปุ่นที่ทรงพลังและสะเทือนอารมณ์ โดนใจผู้ชมอย่างลึกซึ้ง, ซามุล โนริ (Samul nori) เครื่องเคาะจังหวะแบบดั้งเดิมของเกาหลี ที่มีลักษณะเด่นอยู่ที่จังหวะอันทรงพลัง, การเคลื่อนไหวของร่างกายที่กระฉับกระเฉง, การแสดงที่มีชีวิตชีวา และกลุ่มเครื่องเพอร์คัชชัน ของแอปบอสกรุ๊ป จากอุซเบกิสถาน ที่ทำให้ผู้ชมได้มีส่วนร่วม สร้างบรรยากาศโดยรวม ซึ่งรวมถึงกลุ่มเอ้อหูที่ได้จัดแสดงงิ้วกวางตุ้ง ‘The Floral Princess’ ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมอย่างมาก

ซึ่งในคอนเสิร์ตครั้งนี้ได้มีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก ผ่านเทคโนโลยี 5G ที่ได้ดึงดูดให้มีผู้เข้าชมสดและผู้ชมออนไลน์จำนวนกว่า 16,000 ราย เพื่อดื่มด่ำไปกับโลกแห่งเครื่องเพอร์คัชชันอันน่าหลงใหล น่าตื่นเต้น และจังหวะที่น่าเร้าใจบนเวที ซึ่งผู้เข้าชมสดจะได้รับกลองสีน้ำตาล สำหรับการเล่นโต้ตอบกับวงออเคสตราและนักเพอร์คัชชัน ถือเป็นการปิดท้ายคอนเสิร์ตที่เต็มไปด้วยความหลงใหล และมีชีวิตชีวามากที่สุด

ซึ่งในการจัดงานครั้งต่อไป ก็หวังว่าจะมีการแสดงกลองจากประเทศไทย อาทิ กลองสะบัดชัย หรือกลองยาว เดินทางไปร่วมภายในงาน จึงขอฝากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ไปพิจารณากันด้วย

โดยผู้สนใจจะสามารถชมวิดีโอย้อนหลังได้ที่ https://www.youtube.com/live/rohXU0OI8UQ?si=YE-OTyvxwOOnMNv0 ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สอบถามรายละเอียดติดต่อ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โทรศัพท์ 062-7341267 และ 086-4978941

‘คนเมืองผู้ดี’ เผชิญภาวะอดอยากแร้นแค้น 3.8 ล้านคน ผลจากเงินเยียวยาช่วงโควิด-19 ระบาด ไม่พอใช้จ่าย

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันอังคาร (24 ต.ค.66) ที่ผ่านมา มูลนิธิโจเซฟ ราวน์ทรี (Joseph Rowntree Foundation) เผยว่าประชาชนในสหราชอาณาจักรราว 3.8 ล้านคน ซึ่งรวมถึงเด็ก 1 ล้านคน ใช้ชีวิตอยู่กับความอดอยากยากแค้นเมื่อปีก่อน

มูลนิธิข้างต้น ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรการกุศลที่มีชื่อเสียงที่สุดในสหราชอาณาจักร เผยในรายงานว่าจำนวนดังกล่าวคิดเป็นเกือบ 2.5 เท่าของจำนวนคนอดอยากในปี 2017 และเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าในกลุ่มประชากรเด็ก ทำให้การจัดการกับความอดอยากในสหราชอาณาจักรกลายเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน

“ระดับความอดอยากในสหราชอาณาจักรเพิ่มสูงขึ้น โดยผู้คนจำนวนมากขึ้นต้องดิ้นรนหาเงินมาตอบสนองต่อความต้องการทางกายภาพขั้นพื้นฐานที่สุด ทั้งการทำให้ร่างกายอบอุ่น ไม่เปียกฝน สะอาดสะอ้าน และอิ่มท้อง” รายงานระบุ

รายงานเสริมว่าสิ่งนี้มีผลกระทบต่อสุขภาพกาย สุขภาพจิต และโอกาสของประชาชนอย่างลึกซึ้ง และยังสร้างความตึงเครียดให้บริการต่าง ๆ ที่แบกรับภาระมากเกินไปอยู่แล้ว โดยเกือบสามในสี่ของประชาชนที่ประสบกับความอดอยากอยู่ระหว่างการรับเงินประกันสังคม ซึ่งสะท้อนถึงสิทธิประโยชน์ที่ไม่เพียงพอ

ส่วนการสนับสนุนเฉพาะกิจจากรัฐบาลสหราชอาณาจักรซึ่งมีขึ้นครั้งแรกเมื่อช่วงการแพร่ระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) และกำลังช่วยเรื่องค่าครองชีพอยู่ในขณะนี้ ยังไม่สามารถหยุดยั้งระดับความอดอยากที่เพิ่มขึ้นได้

รายงานแนะนำให้มีการปฏิรูประบบประกันสังคมของสหราชอาณาจักรอย่างกว้างขวางขึ้น และรับรองการจัดสรรความช่วยเหลือด้านการเงินฉุกเฉินสำหรับจัดการกับหนี้ก้อนโต สวัสดิการ และปัญหาที่อยู่อาศัยที่ทำให้ประชาชนอดอยาก

‘จีน’ ส่งยาน ‘Shenzhou-17’ ขึ้นสู่สถานีอวกาศเทียนกงสำเร็จ พานักบินอายุน้อยที่สุดเดินหน้าปฏิบัติภารกิจโครงการอวกาศ

(26 ต.ค. 66) สำนักข่าวซินหัว, จิ่วเฉวียน รายงานว่า องค์การอวกาศที่มีมนุษย์ควบคุมแห่งประเทศจีน (CMSA) รายงานการปล่อยยานอวกาศที่มีมนุษย์ควบคุม ‘เสินโจว-17’ (Shenzhou-17) พร้อมทีมนักบินอวกาศ 3 คน เพื่อปฏิบัติภารกิจบนสถานีอวกาศจีนในวงโคจรประมาณ 6 เดือน

รายงานระบุว่า ยานอวกาศฯ ซึ่งติดตั้งอยู่ด้านบนสุดของจรวดขนส่ง ‘ลองมาร์ช-2 เอฟ’ (Long March-2F) ทะยานออกจากศูนย์ปล่อยดาวเทียมจิ่วเฉวียนทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน โดยทีมนักบินอวกาศประจำภารกิจเสินโจว-17 ประกอบด้วยทังหงโป ‘ถัง เซิ่งเจี๋ย’ และ ‘เจียง ซินหลิน’

‘ทัง หงโป’ เกิดปี 1975 รับหน้าที่เป็นผู้บัญชาการภารกิจเสินโจว-17 และเคยเป็นนักบินอวกาศประจำภารกิจเสินโจว-12 ในเดือนมิถุนายน 2021 ส่วนถังเซิ่งเจี๋ย เกิดปี 1989 เป็นนักบินอวกาศหน้าใหม่และนักบินอวกาศอายุน้อยที่สุดที่จะได้เข้าสู่สถานีอวกาศจีน ขณะเจียงซินหลิน เกิดปี 1988 เป็นนักบินอวกาศหน้าใหม่เช่นกัน

ก่อนหน้านี้เมื่อวันพุธ (25 ต.ค.) ‘หลิน ซีเฉียง’ รองผู้อำนวยการองค์การฯ แถลงข่าวว่าทีมนักบินอวกาศประจำภารกิจเสินโจว-17 จะทำการทดสอบและทดลองอุปกรณ์บรรทุก (payload) ทางวิทยาศาสตร์และการใช้งานในวงโคจรหลายรายการ

นอกจากนั้น ทีมนักบินอวกาศทั้งสามจะทำกิจกรรมนอกยานอวกาศ ติดตั้งอุปกรณ์บรรทุกนอกยานอวกาศ ดำเนินการบำรุงรักษาสถานีอวกาศ รวมถึงทดลองทำการบำรุงรักษานอกยานอวกาศเป็นครั้งแรก ซึ่งถือเป็นงานที่มีความท้าทายมาก

หลิน กล่าวว่า ขยะอวกาศที่เพิ่มขึ้นส่งผลกระทบต่อยานอวกาศ ที่ดำเนินงานระยะยาวอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง โดยการตรวจสอบเบื้องต้นพบปีกแผงโซลาร์เซลล์ของสถานีอวกาศจีน ถูกอนุภาคขนาดเล็กในอวกาศพุ่งชนหลายครั้งจนเกิดความเสียหายเล็กน้อย

อย่างไรก็ดี หลิน เสริมว่า องค์การฯ คำนึงถึงกรณีเหล่านี้ตั้งแต่ขั้นตอนออกแบบสถานีอวกาศแล้ว โดยปัจจุบันตัวบ่งชี้การทำงานและประสิทธิภาพทั้งหมดของสถานีอวกาศยังคงเป็นไปตามข้อกำหนด

ทีมนักบินอวกาศประจำภารกิจเสินโจว-17 ยังจะเดินหน้าการประเมินการทำงานและประสิทธิภาพของสถานีอวกาศ ทดสอบการประสานงานและความสอดคล้องของศูนย์สนับสนุนภาคพื้นดิน ในการปฏิบัติการและการบริหารจัดการของสถานีอวกาศ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงาน และความสามารถแก้ไขข้อบกพร่องของสถานีอวกาศ

ระทึก!! สะพานกระจก ‘The Geong’ แตกกะทันหัน ทำนักท่องเที่ยวดิ่งพื้น 15 เมตร ดับสลด 1 ราย

เมื่อวานนี้ (25 ต.ค. 66) สื่อต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุการณ์สลด มีนักท่องเที่ยวพลัดตกสะพานกระจก ‘เดอะ กอง (The Geong)’ ที่มีความสูง 15 เมตร ในเขตป่าสนลิมปาคูวัส เมืองบันยูมาส จังหวัดชวากลาง ของอินโดนีเซีย

ตามรายงาน ขณะเกิดเหตุ มีกลุ่มนักท่องเที่ยว 13 คนเดินไปถ่ายภาพบนสะพาน ทันใดนั้นพื้นกระจกของสะพานที่มีความหนาราว 1 เซนติเมตรได้แตกและร่วงลงไป 1 แผ่น ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยว 4 คนตกเป็นเหยื่อของอุบัติเหตุครั้งนี้

โดยมีนักท่องเที่ยว 2 คนพลัดตกจากสะพาน เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บอีก 1 ราย ขณะที่อีก 2 คนติดอยู่บนสะพานกระจกและได้รับการช่วยเหลือออกมาอย่างปลอดภัย

พยานผู้เห็นเหตุการณ์เปิดเผยว่า ขณะนั้นเขาได้ยินเสียงดังเหมือนระเบิด ก่อนที่จะมีเสียงกระจกแตก เขาจึงรีบขอความช่วยเหลือจากผู้คนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงทันที

“มันเหมือนมีการระเบิด พื้นกระจกตกลงไป ตรงนั้นมีนักท่องเที่ยวไปเซลฟี่ 4 คน มี 2 คนร่วงลงไป ส่วนอีก 2 คนติดอยู่ด้านบน เป็นผู้หญิงทั้งหมด”

ปัจจุบันสะพานกระจกถูกปิดชั่วคราว โดยตำรวจได้ลงพื้นที่เพื่อสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะดำเนินการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยของการก่อสร้างสะพานกระจก รวมถึงสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีกด้วย

‘เวียดนาม’ ยิ้ม!! ‘ทุเรียน’ ผงาด 9 เดือนแรก ปี 66 แหล่งรายได้ใหญ่สุดในหมู่ ‘ผัก-ผลไม้’ ส่งออก

เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 66 สำนักข่าวซินหัว, ฮานอย เผยว่า สำนักข่าวท้องถิ่นของเวียดนามรายงานว่า มูลค่าการส่งออกทุเรียนของเวียดนาม ในช่วง 9 เดือนแรก (มกราคม-กันยายน) ของปี 2023 ทะลุ 1.63 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 5.89 หมื่นล้านบาท) ส่งผลให้ทุเรียนกลายเป็นแหล่งรายได้เงินตราต่างประเทศขนาดใหญ่ที่สุด ในอุตสาหกรรมผักและผลไม้ของเวียดนาม

สำนักงานศุลกากรเวียดนามระบุว่า ตัวเลขข้างต้นสูงกว่าตัวเลขจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าถึง 14 เท่า

รายงานระบุว่า ยอดส่งออกทุเรียนแซงหน้าขนุน, แก้วมังกร, แตงโม, กล้วย และลิ้นจี่ จนขึ้นแท่นเป็นอันดับหนึ่ง ครองสัดส่วนร้อยละ 38.7 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของอุตสาหกรรมดังกล่าว

ปัจจุบัน ‘จีน’ ยังคงเป็นตลาดส่งออกทุเรียนที่สำคัญของเวียดนาม โดยเวียดนามมีพื้นที่เพาะปลูกทุเรียน 422 แห่ง และโรงบรรจุหีบห่อทุเรียน 153 แห่งที่ได้รับสิทธิส่งออกทุเรียนสู่จีน

อนึ่ง มูลค่าการส่งออกผักและผลไม้ของเวียดนาม ช่วงเดือนมกราคม-กันยายน สูงถึง 4.21 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 1.52 แสนล้านบาท) ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 72.5 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top