Friday, 4 July 2025
POLITICS

‘ชัยวุฒิ’ เผย ประสานตำรวจเร่งปราบพนันบอลออนไลน์ รุกหนักวันเดียวรวบเจ้ามือเปิดบ้านหรูชวนแทงบอลยูโรออนไลน์ ได้ 3 รายรวด ยึดของกลางเพียบ พบสมุดบัญชี ATM ซิมการ์ด รถหรู มูลค่าหลายล้านบาท

เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 64 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า จากที่ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ของกระทรวงรวบรวมหลักฐาน ประสานไปยังศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) เพื่อเร่งดำเนินการปราบปรามการกระทำผิดการลักลอบเปิดเว็บไซต์พนันออนไลน์ทุกประเภททันที โดยเฉพาะการเล่นพนันฟุตบอลออนไลน์ ในช่วงที่มีการแข่งขันฟุตบอลยูโร2020 ขณะนี้

ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร. รายงานมาว่าได้เข้าตรวจค้น 2 จุด โดยจุดแรก บ้านหลังหนึ่งย่าน อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จับกุม 2 ผู้ต้องหาชาย เปิดบ้านเป็นสถานที่รับเล่นพนันฟุตบอลออนไลน์, หวย, และการพนันประเภทอื่นๆ พร้อมของกลางคอมพิวเตอร์ สมุดบัญชี ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ. คลองหลวง ดำเนินคดี

ขณะที่ จุดที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร. เข้าตรวจค้นในหมู่บ้านหรู ย่านรามอินทรา ซ.65 เขตบางเขน กทม. จับกุมผู้ต้องหาชายได้ 1 คน พร้อมยึดของกลาง เป็นคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง สมุดบัญชี 5 เล่ม บัตร ATM 14 ใบ ซิมการ์ดอีก 194 ซิม พร้อมรถยนต์หรู 2 คัน และของกลางอีกหลายรายการ รวมมูลค่าหลายล้านบาท เจ้าหน้าที่ส่งตัวให้สน.คันนายาว ดำเนินคดีข้อหาฐานจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน”

นายชัยวุฒิ กล่าวอีกว่า การพนันทุกรูปแบบ สร้างความเสียหายแก่ครอบครัว สังคมและประเทศอย่างมาก ขอเตือนไปยังผู้ใช้โซเชียลมีเดียอย่าใช้โฆษณาเชิญชวนเล่นการพนันออนไลน์ ถือว่าเป็นการกระทำความผิด มีโทษหนัก

ทั้งนี้หากผู้ที่พบเบาะแสการพนันออนไลน์แจ้งเข้ามาได้ที่เพจกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม https://www.facebook.com/prmdes.official/ และสายด่วนกระทรวงดีอีเอส 1212 ตลอด 24 ชม. ข้อมูลจะถูกปิดเป็นความลับ


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“ผอ.ศปก.ศบค.” ย้ำ ต้องฟังสธ. ก่อนคลายกิจการอื่น ก่อนชงศบค.ชุดใหญ่ 18 มิ.ย.นี้ ยัน ศบค.ไม่ได้ชี้นิ้วสั่งอย่างเดียว

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (ผอ.ศปก.ศบค.) ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณามาตรการคลายล็อกให้กิจกรรมและกิจการอื่นๆ เช่น ผู้ประกอบการร้านอาหาร ว่า ต้องรอฟังความเห็นจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เสนอมาตรการเข้ามา ยืนยันว่าที่ผ่านมาการทำงานของศบค. ไม่ใช่เป็นการสั่งการแต่บูรณาการขับเคลื่อนทำงานร่วมกัน หากเป็นเรื่องการควบคุมโรคและรักษาพยาบาลการแพทย์ต้องฟังจากกระทรวงสาธารณสุข และต้องหารือกับกระทรวงอื่นๆที่เกี่ยวข้องด้วย เมื่อมีการเสนอมาตรการมาจาก สธ. ทางศบค. ก็พร้อมพิจารณา

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดในปัจจุบัน มีแนวโน้มที่จะสามารถเปิดร้านอาหารได้ปกติหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ปัจจุบัน ร้านอาหารก็เปิดให้บริการอยู่แล้ว หรือหากจะเปิดเต็มรูปแบบหรือขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็ต้องฟังจากสธ.เป็นหลัก 

ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่ตัวแทนนักดนตรีมาพบเพื่อเสนอให้ผ่อนคลายมาตรการ ได้ยื่นข้อเสนอ อะไรหรือไม่ เลขาฯ สมช. กล่าวว่า เขาก็เสนออยากให้ผ่อนคลาย และได้ตอบไปว่าเราเห็นใจและพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผอ.ศบค. ก็สั่งให้ดูแล แต่อย่างที่บอกต้องดูมาตรการการควบคุมโรคจากสาธารณสุขว่าจะสามารถผ่อนคลายมาตรการได้อย่างไร โดยจะมีการเสนอมาตรการให้ที่ประชุมศบค. ชุดใหญ่ พิจารณาวันศุกร์ที่ 18 มิ.ย. นี้ ทุกครั้งหากมีมาตรการอะไรออกมาจะต้องเริ่มต้นจากสธ. 

“ยืนยันว่าเราทำงานร่วมกันทั้งหมด ไม่ใช่ศบค.คิดสั่งการเองทุกอย่าง หากสธ. เสนอ ก็ต้องดูว่ากระทรวงมหาดไทย (มท.) สามารถดำเนินการตามมาตรการ และบังคับใช้ได้หรือไม่ หรือฝ่ายความมั่นคงสามารถทำงานได้หรือไม่”

“ป.ป.ช.” ขยายเวลา จนท. เวิร์กฟรอมโฮม ถึง 30 มิ.ย.นี้

ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการป.ป.ช. ลงนามในประกาศแนวทางการปฏิบัติตนของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัดสำนักงาน ป.ป.ช. อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 โดยระบุว่าตามที่นายกรัฐมนตรีออกข้อกำหนด ให้หน่วยงานของรัฐพิจารณาดำเนินมาตรการขั้นสูงสุดและเข้มงวด ขณะเดียวกันผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ได้กำหนดให้ จ.นนทบุรีเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดและได้มีคำสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว จัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มของบุคคลให้เหมาะสมตามข้อกำหนดของศบค.

ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องทางสำนักงาน ป.ป.ช. จึงกำหนดแนวทางปฏิบัติของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัด ดังนี้เพื่อลดความเสี่ยง ของบุคลากรสำนักป.ป.ช.ที่จะติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และเพื่อให้การปฏิบัติราชการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงกำหนดแนวทางปฏิบัติงานโดยให้ขยายเวลาการปฎิบัติงาน ณ ที่พักอาศัย หรือ เวิร์กฟรอมโฮม โดยให้ผู้อำนวยการแต่ละสำนักพิจารณาให้มีผู้ปฏิบัติงานวันละ 10% เวิร์กฟรอมโฮม 90% หรือตามความเหมาะสมโดยให้พิจารณาจากภาระงานที่สำคัญและจำเป็นเร่งด่วน รวมถึงต้องสนับสนุน การประชุมของคณะกรรมการ ป.ป.ช. และให้คำนึงถึงผู้ที่เดินทางมาทำงานโดยระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภท ผู้ที่ครอบครัวมีเด็กหรือผู้สูงอายุ ตั้งแต่วันที่  15-30 มิถุนายน 2564 หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

ให้แต่ละสำนักที่จะมีการจัดประชุมหรือจัดกิจกรรมไม่เกิน 20 คนสามารถดำเนินการได้ โดยปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด แต่หากเกินกว่า 20 คนให้ขออนุญาตจากทางจังหวัดนนทบุรี หรือให้ปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็นการประชุมผ่านระบบทางไกล หรือ เว็ปคอนเฟอเร้นซ์ พร้อมย้ำว่าให้ทุกคนถือปฏิบัติตามประกาศสำนักงานป.ป.ช. เรื่องแนวทางการปฏิบัติตนของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัดอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อ โควิด-19 ฉบับก่อนหน้าทุกฉบับ รวมถึงมาตรการในการป้องกันและควบคุมโรคเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่สำนักงาน ป.ป.ช.ได้ประกาศไป

“วิษณุ” ชี้เปรี้ยง ฝ่ายค้านยื่นแก้ 256 ไม่แย้งคำพิพากษา 

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์กรณีที่พรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยว่าการแก้มาตราดังกล่าวเพื่อให้มี สสร. นั้น ต้องทำประชามติก่อน แต่ขณะนี้กฎหมายประชามติยังค้างอยู่ในสภาฯสามารถทำได้หรือไม่ ว่าทำได้ไม่มีปัญหาอะไรเพราะเป็นคนละเรื่องกัน

เนื่องจากกระบวนการแก้ไขมาตรา 256 ยาว มี 3 วาระ และต้องมีการทิ้งระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด ขณะนี้กฎหมายประชามติก็เหลืออีกไม่กี่มาตราก็จะเสร็จในขั้นตอนรัฐสภา และต้องมีขั้นตอนนำขึ้นทูลเกล้าฯ กว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจะถึงขั้นตอนการทำประชามติก็ต้องใช้เวลา คาดว่าจะไปบรรจบกันพอดี การที่ฝ่ายค้านจะยื่นมาตราดังกล่าวถึงไม่ถือว่าขัดแย้งกับคำพิพากษา 

‘มาดามเดียร์’ ประชาชนไม่ควรตกเป็นตัวประกัน แนะภาครัฐเร่งแก้ปัญหาเลิกโยนความผิดไปมา ย้ำหาก สธ.ใช้งบ 45,000 ซื้อวัคซีน จะไม่มีปัญหา

น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “เดียร์ วทันยา วงษ์โอภาสี” เกี่ยวกับการบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 ระบุว่า วันนี้ประชาชนต้องมาลุ้นฉีดวัคซีนของตัวเองจะต้องถูกเลื่อนออกไปมั้ย? ต้องถูกเลื่อนออกไปอีกนานเท่าไหร่?

ไม่มีคำตอบที่ชัดเจนใดๆ โรงพยาบาล และเจ้าหน้าที่ต้องเป็นด่านหน้ารองรับอารมณ์ ความผิดหวังของประชาชน ทั้งที่ไม่ใช่ความผิดของเขา ในขณะที่หน่วยงานของรัฐออกมากดดันปิดปากภาคเอกชน โยนความผิดให้กันและกันแทนที่จะสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องและเร่งแก้ไขปัญหา อย่างตรงไปตรงมา

เหมือนที่เดียร์ได้อภิปรายในสภา หากเราวางแผนการทำงานโดยคาดการณ์ล่วงหน้าโดยใช้อาวุธเงินกู้จำนวน 45,000 ล้านที่ได้รับจัดสรรเพื่อให้นำมาแก้ปัญหาด้านสาธารณสุขโดยเฉพาะให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ชะล่าใจกอดความสำเร็จที่เป็นเพียงอดีตเอาไว้

ปัญหาการขาดแคลนวัคซีนที่มีชีวิตประชาชนเป็นตัวประกันก็คงจะไม่เกิดขึ้นเหมือนที่กำลังเกิดในเวลานี้

#เกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทยของเรา?


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ศบค.แนะ ครู-ผู้ปกครอง ดูแลบุตรหลาน รับเปิดเทอมใหม่ ชี้ โรคต้องไม่ขวางการเรียนรู้ ชี้ เด็กมีโอกาสเรียนรู้รูปแบบใหม่

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธินโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โควิด-19 หรือศบค.แถลงว่า วันที่ 14 มิ.ย. เป็นวันเปิดเทอมวันแรกหลายคนเป็นห่วงการส่งเด็กไปโรงเรียนและมีความเห็นที่ต่างกัน คืออยากและไม่อยากให้ไปเรียน 

แต่เมื่อเราต้องอยู่กับโรคนี้ก็ต้องปรับวิถีชีวิต และด้านหนึ่งเด็กมีโอกาสติดเชื้อได้แต่ความรุนแรงของโรคไม่มาก ดังนั้นคนที่ต้องดูแลคือครูอาจารย์ พ่อแม่พี่น้อง ผู้ปกครองที่ควรจะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดและครูก็เป็นบุคคลเป้าหมายที่ได้รับวัคซีน 

ทั้งนี้การเรียนมีหลายระบบ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ ออกแบบมาโดยพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ยังไม่ให้ไปเรียนที่โรงเรียน แต่ให้เรียนแบบใช้เครื่องมือทางไกลมาช่วย ส่วนพื้นที่ควบคุม 17 จังหวัดสามารถจัดการเรียนได้ที่เช่นเดียวกันพื้นที่ 56 จังหวัด 

จึงฝากผู้ปกครอง ดูแลสุขอนามัยของเด็ก โรคต้องไม่ปิดกั้นการเรียนรู้ของและพัฒนาการทุกคน สิ่งที่เกิดขึ้นล้วนดีเสมอ ขอให้นำทุกเรื่องมาสอนลูกหลานว่าแม้จะเกิดโรคระบาด แต่เด็กก็จะได้เรียนหนังสือในหลายรูปแบบซึ่งล้วนดีทั้งนั้น

กองทัพเรือ จัดกิจกรรม “กองทัพเรือ เพื่อประชาชน ร่วมใจต้านภัย COVID-19” ถวายเป็นพระราชกุศล ตั้งครัวสนามเคลื่อนที่แจกจ่ายอาหารให้กับปชช.

เนื่องในโอกาสมหามงคล ในห้วงเดือนมิถุนายน ถึงเดือนสิงหาคม 2564 เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2564 วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จใพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2564 วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2564 และวันคล้ายวันประสูติ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครรากุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี 4 กรกฎาคม 2564 กองทัพเรือ จึงได้กำหนดจัดกิจกรรม “กองทัพเรือ เพื่อประชาชน ร่วมใจต้านภัย COVID-19” ถวายเป็นพระราชกุศล เพื่อบรรเทาความ เดือดร้อนของประชาชนในค่าครองชีพ จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยกองทัพเรือจัดรถครัวสนาม จัดทำอาหารกล่อง และน้ำดื่ม วันละ 690 ชุด สมาคมภริยาทหารเรือ พร้อมหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน สนับสนุนสิ่งของเครื่องอุปโภค บริโภค นำไปมอบให้ประชาชน

ในทุกวันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ถึงเดือนสิงหาคม 2564 โดยกำหนดให้การช่วยเหลือประชาชนในชุมชนต่างๆ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงกับหน่วยงานของกองทัพเรือ ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งได้ดำเนินการช่วยเหลือประชาชนไปแล้ว จำนวน 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน ที่ผ่านมา ในเขตพื้นที่บางกอกน้อย และเขตบางกอกใหญ่

ที่บริเวณลานจอดรถ นันทอุทยานสโมสร พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร. )พร้อมด้วย คุณจุฬารัตน์ ศรีวรขาน นายกสมาคมภริยาทหารเรือ นายทหารชั้นผู้ใหญ่ และ.อุปนายกสมาคมภริยาทหารเรือ ร่วมมอบอาหารและน้ำดื่มจำนวน 1,380 ชุด พร้อมเครื่องอุปโภค บริโภค ให้แก่ผู้แทนชุมชนนำไปแจกจ่ายประชาชนในเขตบางกอกน้อย และเขตบางกอกใหญ่รวม 10ชุมชน และปล่อยขบวนรถจำนวน 4 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่ นำอาหารและน้ำดื่ม พร้อมเครื่องอุปโภคและบริโภค ไปมอบให้ประชาชนในพื้นที่ เขตบางกอกน้อย 5 ชุมชนและเขตบางกอกใหญ่ 5 ชุมชน

ทั้งนี้ กองทัพเรือได้ตระหนักและปรับการปฏิบัติให้เป็นไปตามแนวทางการระวังป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 โดยการติดตั้งจุดวัดอุณหภูมิ ติดสติกเกอร์ การล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์งดการสัมผัส และเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล

นายกฯ มอบ “บิ๊กป้อม” ประชุม รัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน (ADMM ) ครั้งที่ 15 และการประชุม ADMM - Plus ครั้งที่ 8

ที่กระทรวงกลาโหม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้มอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกัฐมนตรี เป็นผู้แทนเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน หรือ ADMM ครั้งที่ 15 และการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนกับรัฐมนตรีกลาโหมประเทศคู่เจรจา หรือ ADMM-Plus ครั้งที่ 8 ระหว่างวันที่ 15-16 มิ.ย. 64  ที่ศาลาว่าการกลาโหม โดยมี กระทรวงกลาโหม บรูไน เป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ผ่านระบบ VTC  

โดยจะมีการหารือแลกเปลี่ยนมุมมองด้านความมั่นคงของภูมิภาคและระหว่างประเทศร่วมกัน รวมทั้งร่วมกันพิจารณาเอกสารความร่วมมือริเริ่มใหม่  เพื่อกำหนดกรอบแนวคิดความร่วมมือของ กลาโหมอาเซียนด้านต่างๆ ร่วมกัน
 

“บิ๊กตู่” สั่ง เลขา สมช.-บิ๊กวิน-อธิบดี กร.แจง ยันพร้อมเพรียง ไม่มีขัดแย้งได้บิ๊กวินยันไม่มีการเด้งปลัดกทม.ตามข่าวลือ

ที่ศูนย์แถลงข่าว ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล พอ.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคง แห่งชาติ ในฐานะ ผอ.ศปก.ศบค.พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม .นพ.โอภาส อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงข่าวขี้แจง หลังเกิดปัญหาความขัดแย้งการกระจายวัคซีนระหว่าง กทม. กับ กระทรวงสาธารณสุข ที่โทษกันไปมา และโยนมาที่ ศบค. 

ทั้งนี้ พล.ต.อ. อัศวิน ยืนยันไม่มีความขัดแย้งกับ สธ.และต้องขอขอบคุณทาง สธ.ที่มอบหมายให้หน่วยวานต่างๆมาช่วยทาง กทม.ทั้งกระทรวงคมนาคม กระทรวงการอุดมศึกษา เป็นต้น และขณะนี้ที่มีการเลื่อนการฉีดสัคซีนออกไปนั้นตำเป็นต้องปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ และผู้ที่ได้รับการแจ้งเลื่อน ระหว่าง 15-21 มิ.ย.เมื่อกทม.ได้รัยการจัดสรรวัคซีนมาก็พร้อมแจ้งจ้อความแบะให้เข้ามารัยการฉีดได้ทันที ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ ทั้งนี้ยืนยันปฏิเสธไม่มีการเด้งปลัดกรุงเทพมหานครอย่างตามข่าวลือท่านเป็นคนที่ขยันขันแข็งมากเป็นผู้หญิงแกร่งยืนยันไม่มีข่าวนี้ไม่ทราบว่ามาจากไหนที่สำคัญผมกับเขาสนิทกันมาก

ด้าน เลขา สมช.ยืนยันไม่มีความขัดแย้ง ไม่ทีวัคซีนการเมืองที่สร้างความไม่เชื่อมั่นให้กับประขาขน บริการสถานการณ์โควิดมา  14 เดือน มีความภาคภูมิใจอย่าวมาก สิ่งใดที่ทำให้ประชาชนไม่สบายใจก็ต้องกลับขออภัยนะโอกาสนี้

"ทัพเรือ” ส่งทีมแพทย์พยาบาล หนุนราชทัณฑ์" คัดกรองผู้ป่วยในเรือนจำ

เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ (บก.ทร.) นางสาว ปรียาดา บัวสมบุญ (หมอพลอย) ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในพื้นที่เรือนจำ กรมราชทัณฑ์จึงขอรับการสนับสนุนเจ้าหน้าที่เพื่อทำการคัดกรองผู้ป่วยในเรือนจำ ผ่านศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.)

ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง กองทัพเรือ (ศปม.ทร.) จึงได้บูรณาการประสานความร่วมมือกับ ศปม.ทุกเหล่าทัพ จัดบุคลากรทางการแพทย์จำนวน 5 นาย ประกอบด้วยแพทย์ 1 นาย และพยาบาล 4 นาย โดยมี นาวาเอก สุเชษฐ ตรรกธาดา แพทย์ผู้ชำนาญการ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า เป็นหัวหน้าชุดแพทย์ ลงปฏิบัติภารกิจเพื่อทำการคัดกรองผู้ป่วยในพื้นที่เรือนจำกลางบางขวาง โดยเริ่มทำการตรวจคัดกรองตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2564 ไปจนกว่าจะจบภารกิจ

ทบ. สนับสนุนฌาปนสถาน ประกอบพิธีศพโควิด-19 โดยไม่มีค่าใช้จ่าย บรรเทาความเดือดร้อนอย่างเป็นรูปธรรม เดือนเดียวช่วยแล้ว 161 ราย 

ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พ.ท.หญิง พัชรินทร์ บุศยกุล ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้ติดตามภารกิจการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด-19 อย่างต่อเนื่อง และเห็นถึงข้อจำกัดการประกอบพิธีและฌาปนกิจศพของครอบครัวที่สูญเสียญาติพี่น้องจากโรคโควิด-19 จึงมีนโยบายสนับสนุนฌาปนสถานของกองทัพบก ให้กับครอบครัวที่มีความประสงค์ 

โดยกองทัพบกเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้ ตั้งแต่การคลื่อนย้ายศพจากโรงพยาบาลเและการจัดพิธีฌาปนกิจ ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. 64 เป็นต้นมา มีประชาชนประสานขอความช่วยเหลือผ่านศูนย์ประสานงานต้านภัยโควิด ทบ. แล้วมากกว่า 500 ครั้งและมีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งฌาปนสถานของกองทัพบกมีศักยภาพในการช่วยเหลือที่มีมาตรฐานการจัดการและเป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคของสาธารณสุข ทั้งนี้กองทัพบกพร้อมให้การสนับสนุนทั้งกำลังพลและทรัพยากรอย่างเต็มที่เพื่อดำรงการช่วยเหลือตามความเดือดร้อนของประชาชนที่เพิ่มมากขึ้นในสถานการณ์ปัจจุบันนี้ 

ฌาปนสถานของกองทัพบกในพื้นที่ กทม. มี 3 แห่ง ได้แก่ วัดอาวุธวิกสิตาราม เขตบางพลัด, วัดโสมมนัสวรวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย, วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต เขตบางเขน ในส่วนของพื้นที่ภูมิภาค สาขากองทัพภาคที่ 2 อีก 1 แห่ง คือวัดสุทธจินดาวรวิหาร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา รวมทั้งหมด 4 แห่ง โดยตั้งแต่เริ่มดำเนินการจนถึงปัจจุบัน สามารถให้ความช่วยเหลือไปแล้ว 161 ราย (14 มิ.ย. 64) สำหรับประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อ ผ่านศูนย์ประสานงานต้านภัยโควิด ทบ. โทร 0-2270-5685 ตลอด 24 ชม.

คุมร้านอาหารทำมาตรฐานระบายอากาศกันติดโควิด

นายสุวิทย์ วิจิตรโสภา รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแล สคบ. ได้สั่งการด่วนให้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือถึงแนวทางการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในร้านอาหาร โดยเฉพาะการจัดระบบระบายอากาศภายในร้านอาหาร เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคที่จะเข้าไปใช้บริการได้เกิดความมั่นใจว่า เมื่อไปใช้บริการแลวจะไม่มีโอกาสติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และยังเป็นการสร้างมาตรฐานทางด้านสาธารณสุขให้กับร้านอาหารต่างๆ ในประเทศไทยด้วย 

ทั้งนี้ที่ผ่านมา นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการ สคบ. ได้มีการหารือกับหน่วยงานต่างๆ เป็นนัดแรก โดยมีทั้งกรมการส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมอนามัย กรุงเทพมหานคร และวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อมาหารือกันเบื้องต้นถึงลักษณะโดยทั่วไปของร้านอาหาร เช่นเดียวกับเรื่องของกฎหมาย ข้อกำหนด หรือกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการดูแลร้านอาหาร โดยเฉพาะระบบการระบายอากาศและอุปกรณ์ต่างๆ ภายในร้านที่ต้องมีมาตรฐานมากขึ้น  

ขณะเดียวกันในการหารือครั้งนี้ยังมีการกำหนดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่รับผิดชอบในแต่ละเรื่องที่รับผิดชอบ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ต้องพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาด้านต่างๆ ออกมา โดยเฉพาะเรื่องข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการขออนุญาตเปิดร้านอาหาร และการติดตั้งระบบระบายอากาศภายในร้าน ซึ่งที่ประชุมได้มีการเสนอแนวทางในการแก้ปัญหาไว้หลายเรื่อง ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนั้น สคบ. จะหารือกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อหาข้อสรุปอีกครั้ง ก่อนรวบรวมและเสนอรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ รับทราบ พร้อมกับมีหนังสือแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบและดำเนินการแก้ไขต่อไป 

“ศรีสุวรรณ” ยื่นศาลปกครองฟ้องผู้ว่าฯนนท์ ละเลยหน้าที่ปล่อย บ.จัดสรรชื่อดังทำผิดกฎหมายแก้ไขผังโดยไม่ฟังเสียงชาวบ้าน พร้อมขอให้เพิกถอนใบอนุญาต

ที่ศาลปกครองกลาง นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ได้ยื่นฟ้องผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดสรรนนทบุรี คณะกรรมการจัดสรรกลาง คณะกรรมการจัดสรรนนทบุรี และหัวหน้าสำนักงานที่ดินบางใหญ่ ต่อศาลปกครองกลาง ฐานใช้อำนาจโดยมิชอบด้วยกฎหมายและละเลยการปฏิบัติหน้าที่ โดยปล่อยให้ผู้ประกอบการเรียลเอสเตทชื่อดังอักษร “Q” มาก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรรบริเวณ ต.บางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี แต่ไม่บังคับให้เป็นไปจัดผังจัดสรรที่ขออนุญาต ทำให้ชาวบ้านที่มาซื้อโครงการเสียหายกันถ้วนหน้า เมื่อร้องเรียนผู้ว่าฯก็ทำเป็นเพิกเฉย

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากปัญหาการไม่บังคับให้ผู้ประกอบการก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรรให้เป็นไปตามผังจัดสรรที่ขออนุญาต อาทิ การแก้ไขผังจัดสรรมากว่า 11 ครั้งโดยไม่ขอความเห็นชอบจาก คชก. หรือสำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อมแต่อย่างใด ไม่มีการถมพื้นดินหมู่บ้านให้สูงกว่าถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก 60 เมตรตามเงื่อนไขท้ายใบอนุญาต มีการปิดกั้นทางออกของชาวบ้านพื้นที่ด้านในสุดนอกรั้วโครงการฯ ทั้งๆ ที่เคยรับปากว่าจะทำทางออกให้ มีการขยายพื้นที่จัดสรรเป็นเฟส 2 เฟส 3 และเฟส 4 โดยไม่ขอความเห็นชอบจากผู้อยู่อาศัยในเฟส 1 เสียก่อนตามเงื่อนไขท้ายใบอนุญาต ทำให้ผู้อยู่อาศัยเฟส 1 ต้องแบกรับสาธารณูปโภคส่วนกลางโดยลำพัง

นอกจากนั้น การจัดทำระบบบำบัดน้ำเสียไม่เป็นไปตามสเปคที่ EIA เห็นชอบ มีการแอบปล่อยน้ำเสียโดยไม่มีการบำบัดออกมาจากหมู่บ้านจัดสรรลงคลองบางค้อ (บางคูลัด) ไปจนถึงคลองบางคูเวียง ทำให้สภาพน้ำมีกลิ่นเหม็นสีคล้ำดำและมีฟองลอยเต็มคลองไปหมด กลายเป็นแหล่งมลพิษที่เป็นอันตรายต่อสมาชิกในหมู่บ้านต่างๆและผู้อื่น และยังมีปัญหาอื่นอีกมากมายที่ปล่อยให้ผู้ประกอบการเอาเปรียบผู้ซื้อโครงการฯ 

นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า กรณีดังกล่าว สมาคมฯ และชาวบ้านในหมู่บ้านจัดสรรได้ร้องเรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีในฐานะประธานคณะกรรมการจัดสรรที่ดินจังหวัด และยังร้องเรียนไปยังสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในฐานะผู้ให้ความเห็นชอบรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA แล้วหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้ได้ แต่ยังคงอนุญาตให้มีการขยายพื้นที่จัดสรรออกไปอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งปล่อยให้มีการแก้ไขผังจัดสรรโดยไม่มีการรับฟังความติดเห็นของชาวบ้านในโครงการฯเลย อันชี้ให้เห็นถึงการปล่อยปละละเลยการไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขท้ายใบอนุญาตและไม่เป็นไปตามมาตรการที่กำหนดใน EIA ชาวนนทบุรีที่อยู่อาศัยในโครงการดังกล่าว จึงมาร้องขอให้สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนยื่นฟ้องต่อศาลปกครองในวันนี้ เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ผู้ถูกฟ้องทั้งหมดปฏิบัติตามกฎหมาย และเพิกถอนใบอนุญาตจัดสรรต่อไปด้วย และหลังจากนี้จะนำความไปยื่นร้องต่อ ป.ป.ช. เอาผิดผู้ว่าฯ นนทบุรีต่อไป 

"อนุทิน" เปิดใจปมวัคซีน เร่งแก้ปัญหาการสื่อสาร กทม.-สธ. พร้อมขออภัยประชาชน หลังมีปัญหาขลุกขลัก เล็งใช้ศูนย์กลางบางซื่อ ฉีด "หมอพร้อม" คนกรุงฯ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงประเด็นการจัดสรรวัคซีนป้องกันโควิด-19 ว่า 

การทำงานของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เป็นผู้อนุมัติหลักการต่างๆ เพื่อให้หน่วยงสนระดับรองลงมานำไปปฏิบัติ กรณีการจัดสรรวัคซีนโควิด-19 สธ.มีบทบาท จัดสรรวัคซีนตามที่ ศบค.เห็นชอบร่วมกันกับหน่วยงานราชการและการนำเสนอของกรมควบคุมโรค ดังนั้นหน่วยงานข้างต้น ต้องเห็นพ้องต้องกัน จึงสรุปออกมาว่า จะให้ สธ.จัดส่งวัคซีนไปที่ไหน อย่างไร เช่น กรุงเทพมหานคร (กทม.) จังหวัดต่างๆ หน่วยงาน องค์การ หรือสมาคมห้างร้าน 

“กทม. ชัดเจนที่สุด คือว่า ศบค.จะตกลงกับกทม.และกรมควบคุมโรค ว่าเดือนมิ.ย. จะได้ตัวเลขจริงที่ 1 ล้านโดส โดยกรมควบคุมโรคต้องส่งวัคซีนไปตามจุดที่กทม. บอกมา ไม่ใช่ส่งไปที่คลังของกทม.เท่านั้น ยังส่งไปที่โรงพยาบาล (รพ.) เล็ก รพ.น้อย เราก็ส่งไปถึงรพ.นั้นๆ เพราะเราว่าจ้างบริษัทขนส่งให้ดำเนินการจัดส่งตามระบบลูกโซ่คงวามเย็น” 

เมื่อถามถึงการจัดสรรวัคซีนของศบค.ที่ให้กับกทม. ตลอดเดือนมิ.ย. จำนวนเท่าไหร่ นายอนุทิน กล่าวว่า เริ่มต้นจาก 2.5 ล้านโดส แต่ว่ามีการจัดสรรให้กับที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) 11 แห่ง 5 แสนโดส ต่อมามีสำนักงานประกันสังคม ผู้ประกันตนม.33 อีก 1 ล้านโดส ซึ่งทั้ง 2 หน่วยงานนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของกทม. ดังนั้น จะเหลือตัวเลขกลมๆ มาที่ กทม. ประมาณ 1 ล้านโดส โดยตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. กรมควบคุมโรค ส่งวัคซีนไปให้กทม.แล้ว 5 แสนโดสและปลายสัปดาห์นี้ก็จะส่งเพิ่มอีก 5 แสนโดส 

นายอนุทิน กล่าวว่า จะหาทางสื่อสารระหว่าง กทม.และกรมควบคุมโรค ให้ลงรายละเอียดกันมากกว่านี้ ต้องปรับปรุงการสื่อสาร ทั้งนี้ เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า หากกรมควบคุมโรคมีมากก็ส่งให้มาก เพราะจริงๆ ส่งไปสัปดาห์ละ 2.5 แสนก็ได้ แต่มีมากเราก็ส่งไป 5 แสนโดสก่อน 

"จะกำชับกับกรมควบคุมโรคให้แจ้งกับหน่วยงานที่รับวัคซีนให้ชัดเจน เพื่อให้เฉลี่ยวัคซีนแต่ละสัปดาห์ โดยจะต้องหารือกันว่าหากส่งวัคซีนไปเท่าไหร่ ก็ให้บริหารจัดการตามเหมาะสม และอาจให้คาดการณ์จำนวนวัคซีนล็อตถัดไปด้วย แม้จะไม่ทราบวัน เวลาที่ส่งที่แน่นอน แต่ให้บอกช่วงการคาดการณ์ไป 

ซึ่งเหมือนกับที่ไทยรับวัคซีนจากบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ที่แจ้งเป็นรายสัปดาห์ ขณะนี้ 2 สัปดาห์แรก แต่ส่วนกลางต้องบริหารกว่า 100 ล้านโดส อาจขรุขระในช่วงต้นบ้าง ต้องขออภัยประชาชน"

เมื่อถามถึงการจองคิวฉีดวัคซีนในหมอพร้อม ที่มีการระบุในสัดส่วนของ กทม. นายอนุทิน กล่าวว่า ในช่วงแรกของการลงทะเบียนหมอพร้อม ก็เพื่อการฉีดให้ผู้สูงอายุและผู้ป่วย 7 กลุ่มโรค ซึ่งกลุ่มนี้ที่อยู่ในกทม. ดังนั้นวัคซีนจำนวน 1 ล้านโดสของกทม. จะต้องครอบคุลมการฉีดในหมอพร้อมด้วย 

โดยวันนี้ตนจะหารือกับอธิบดีกรมควบคุมโรค เพราะต้องให้ความเป็นธรรมกับประชาชนที่จองผ่านหมอพร้อม โดยมีแนวทางว่าจะให้ไปรับวัคซีนที่ศูยน์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ

พล.อ.ประวิตร ลงพื้นที่ จ.ระยอง ติดตามโครงการส่งน้ำ "คลองสะพาน-ประแสร์ " พอใจได้ผลตามเป้า  เตรียมผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเล เสริมน้ำต้นทุน มั่นใจปชช. มีน้ำใช้เพียงพอภาคตะวันออก สร้างความเชื่อมั่น นักลงทุน รองรับ EEC

พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษกประจำรอง นรม. เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม./ผอ.กอนช.ได้เดินทางไปปฏิบัติราชการ เพื่อติดตามการดำเนินงานมาตรการรับมือฤดูฝนปี 64 ในพื้นที่ภาคตะวันออกโดยมี นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.รง.,ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.กษ.และ ศ.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.รง. ร่วมคณะ ณ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษา ประแสร์ อ.วังจันทร์  จ.ระยอง ทั้งนี้มี นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผวจ.ระยอง ให้การต้อนรับ

พล.อ.ประวิตร และคณะ ได้เดินทางถึง บริเวณโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษา ประแสร์ จ.ระยอง รับฟังการบรรยายสรุปภาพรวม การบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก และการพัฒนาเศรษฐกิจ EEC จากรองเลขาฯสทนช.,เลขาฯ EEC และอธิบดีกรมชลประทาน ตามลำดับ ซึ่งมีความคืบหน้า อย่างน่าพอใจ และเป็นไปตามนโยบายที่เคยมอบไว้ เมื่อครั้งมาตรวจพื้นที่ เมื่อ 15 พ.ค.63 โดยคาดว่าในอนาคตอันใกล้ พื้นที่ภาคตะวันออกจะสามารถพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ และมีน้ำต้นทุนภายใต้ระบบโครงข่ายน้ำต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมที่จะรองรับความต้องการใช้น้ำในพื้นที่ ทั้งภาคประชาชน เกษตรกรรม การบริการ การท่องเที่ยวและภาคอุตสาหกรรม ได้อย่างเพียงพอ ซึ่งจะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่น และเป็นแรงจูงใจให้แก่นักลงทุน ที่จะเข้ามาลงทุนในเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และจะสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ตามนโยบายของรัฐบาลได้ ต่อไป

พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวมอบนโยบายที่สำคัญ ให้แก่ สทนช.,กษ.,ทส.,การนิคมอุตสาหกรรม และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง จะต้องบูรณาการทำงานร่วมกัน อย่างมีคุณภาพ ภายใต้ 10 มาตรการรับมือฤดูฝนปี64 และเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก รวมถึงการกักเก็บน้ำสำรอง ทั้งบนดิน ใต้ดิน ไว้ใช้ในฤดูแล้งหน้า และเตรียมการผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเล เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน จากภัยแล้ง และน้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้น พร้อมทั้งสร้างการรับรู้ เสริมความเชื่อมั่นด้านน้ำ สามารถรองรับให้กับทุกภาคส่วน และ EEC ได้อย่างยั่งยืน ต่อไป

จากนั้น พล.อ.ประวิตร และคณะได้เดินทาง ต่อไปยังบริเวณจุดติดตั้งสถานีสูบน้ำ คลองสะพาน-ประแสร์ โดยได้เยี่ยมชมการทำงานของระบบสูบน้ำ พร้อมกดปุ่มเปิดการทำงานของเครื่องสูบน้ำ และได้กำชับกรมชลประทาน จะต้องดูแลรักษาเครื่องสูบน้ำให้สามารถใช้งานได้ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด และคุ้มค่า ก่อนเดินทางกลับ กทม.


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top