รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กกล่าวถึงฮาร์ท-สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล อดีตนักร้องดังที่ถูกแจ้งความในข้อหา ม.112 ว่าที่จริงผมไม่เคยรู้จักคุณฮาร์ท หรือ คุณสุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุลเลย ไม่เคยเจอตัวจริงแม้สักครั้ง เห็นแต่ในข่าว ในทีวี แต่ผมกลับมีความรู้สึกเหมือนรู้จักและมีความผูกพันกับคุณฮาร์ท เนื่องเพราะได้ยินชื่อคุณฮาร์ทครั้งใด ทำให้ผมนึกถึงความหลังในอดีตครั้งนั้น
คุณพ่อของคุณฮาร์ท ซึ่งปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว เคยรับราชการ เป็นอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เป็นคนชะอำ ชื่อ ร.อ.สุวิทย์ ทัดพิทักษ์กุล
คุณยายผมเคยมีบ้านพักตากอากาศที่หาดชะอำ ชื่อบ้าน “ปลุกปรีดี”
ในวัยเด็ก ช่วงปิดเทอม ผมและพี่ ๆ ก็จะไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านปลุกปรีดี หาดชะอำเป็นเดือน ๆ ส่วนคุณยาย ในช่วงหน้าร้อน จะไปปักหลักที่ชะอำ คอยดูแลหลาน ๆ คุณพ่อ คุณแม่ จะตามไปสมทบในวันเสาร์และอาทิตย์ กลับมาทำงานวันจันทร์ พวกเราจึงรู้จักและใกล้ชิดกับชาวชะอำเป็นจำนวนมาก ชีวิตวัยเด็กที่ชะอำจึงเป็นช่วงชีวิตที่สนุกและมีความประทับใจ เป็นที่จดจำอย่างมาก
วัดเนรัญชราราม เป็นวัดเดียวที่อยู่ที่หาดชะอำ ครอบครัวผมมีความผูกพันกับวัดนี้ ในระดับที่พวกเรานำอัฐิคุณยาย คุณพ่อ คุณแม่ รวมทั้งพี่อีก 2 คน และหลานที่เสียชีวิตแล้วมาบรรจุไว้ที่นี่
ในสมัยนั้น วัดเนรัญฯ มีมัคทายิกา เป็นสุภาพสตรี ชื่อประไพ ซึ่งเราไม่เคยจำนามสกุลได้ แต่เราเรียกคุณประไพตามที่คุณยายและคุณแม่เรียกว่า “แม่ไพ”
แม่ไพ เป็นคนสนุกสนาน อารมณ์ดี มีอารมณ์ขันเป็นเลิศ พวกเราจึงรักใคร่สนิทสนมกับแม่ไพเป็นอย่างมาก แม่ไพ ชอบพูดถึงคุณพ่อของคุณฮาร์ท ให้เราฟังบ่อย ๆ ในน้ำเสียงที่แสดงความภูมิใจว่า
คุณสุวิทย์ ทัดพิทักษ์กุล (คุณพ่อคุณฮาร์ท) เป็นคนชะอำ คุณถนัด คอมันตร์ ซึ่งมีบ้านพักตากอากาศที่หาดชะอำ ช่วยอุปการะ ให้ไปอยู่ที่บ้านกรุงเทพฯ และสนับสนุนให้เรียนหนังสือ ภายหลังรับราชการจนได้เป็นใหญ่เป็นโตในกระทรวงพาณิชย์
เป็นเรื่องแปลก เมื่อผมมาทำงานเป็นอาจารย์ที่คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผมได้รู้จักและมีความสนิทสนมกับอาจารย์รุ่นพี่ในคณะเดียวกันท่านหนึ่ง ซึ่งมีอารมณ์ขันเป็นเลิศเช่นเดียวกับแม่ไพ ท่านชื่อ อ.อำไพ ทัดพิทักษ์กุล ใช่ครับ ท่านเป็นคุณแม่ของคุณฮาร์ท
พี่อำไพ มักชอบเล่าเรื่องต่าง ๆ เกี่ยวกับคุณฮาร์ทซึ่งยังวัยรุ่นในขณะนั้นให้ฟัง ที่ท่านมีความประทับใจมาก และเล่าด้วยความภูมิใจคือ เมื่อคุณฮาร์ทไปเรียนต่อต่างประเทศ กลับมาเยี่ยมบ้าน ความที่คุณฮาร์ทเล่นเปียโนเก่ง ครั้งหนึ่งเมื่อครอบครัวไปทานอาหารที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่กรุงเทพฯ ซึ่งมีคนเล่นเปียโน คุณฮาร์ทจึงได้ขึ้นไปแสดงฝีมือเล่นเปียโนด้วย เล่นได้เก่งจนมีคนเข้ามาฟังเป็นจำนวนมาก และปรบมือให้จนดังสนั่นไปทั้งห้อง ผมได้ฟังแล้วก็อดรู้สึกชื่นชมตามพี่อำไพไม่ได้
พี่อำไพเล่าด้วยความภูมิใจในลูกชายคนนี้มาก เสียดายที่พี่อำไพ ลาออกจากการเป็นอาจารย์ไปก่อนเกษียณอายุหลายปี หลังจากท่านออกไปก็ไม่มีโอกาสได้พบท่านอีกเลย
เป็นเรื่องแปลกอีก เมื่อคุณฮาร์ทเข้าสู่วงการดนตรี ผู้ที่ให้โอกาสให้ “เบิร์ด กะ ฮาร์ท” ได้ออกอัลบั้มชุดแรก ก็เป็นเพื่อนรักและสนิทมากของผมคนหนึ่งชื่อ คุณไชยยงค์ นนทสุต ผู้จัดการใหญ่ของบริษัท ไนท์สปอต โปรดัคชั่น ขณะนั้น ซึ่งปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว
เป็นเรื่องแปลกอีกเช่นกัน ที่เส้นทางของคุณฮาร์ทกับผมไม่เคยได้มาบรรจบกันเลยสักครั้ง แม้จะมีความเกี่ยวพันกันขนาดนี้
เมื่อผมทราบว่าคุณฮาร์ทโพสต์ข้อความที่ค่อนข้างหยาบคาย หมิ่นประมาทท่านทูต นริศโรจน์ เฟื่องระบิล ผมแปลกใจและรู้สึกผิดหวัง ภายหลังเห็นข่าวคุณฮาร์ทนำดอกไม้ไปขอขมาท่านทูต ทำให้รู้สึกโล่งใจ ว่าอย่างน้อยคุณฮาร์ทก็มีจิตสำนึกที่ดี
แต่แล้วโพสต์ล่าสุดของคุณฮาร์ทที่กำลังเป็นข่าวทำให้ผมตกใจและแปลกใจกระทั่งช็อค เพราะเป็นการยกระดับการหมิ่นประมาทที่สูงขึ้นไปอีก สูงจนเข้าข่ายมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ค่อนข้างชัดเจน เพียงแต่ไม่แน่ใจว่าคำว่า “เจ้านาย” นั้นคุณฮาร์ทหมายถึงเจ้านายพระองค์ไหน หรือหมายถึงทั้ง 2 พระองค์
ครั้งนี้คุณฮาร์ทกลับไม่ได้คิดจะไปขอขมาใคร แต่กลับโพสต์ข้อความขอความเห็นใจจากรัฐบาล ขอไม่ให้ยื่นฟ้องตัวเอง ขอให้มาพูดกับตัวเองดี ๆ อธิบายให้ตัวเองเข้าใจว่ากำลังทำอะไรอยู่ ถ้าทำให้ตัวเองเข้าใจได้ก็อาจได้ตัวเองไปช่วยประสานงานให้ก็ได้ แม้ขอความเห็นใจ แต่ยังไม่วายมีเหน็บแนมโดยกล่าวถึงเรื่องฝุ่นเรื่องละอองอีกด้วย
ผมไม่แน่ใจว่า หากคุณพ่อของคุณฮาร์ทยังมีชีวิตอยู่ ท่านจะรู้สึกอย่างไร
ด้วยความผิดหวังอย่างถึงที่สุด จึงอยากถามคุณฮาร์ทด้วยคำถามเดียวว่า
คุณฮาร์ทขอให้ผู้อื่นพูดกับตัวคุณฮาร์ทดี ๆ ให้ทำให้คุณฮาร์ทเข้าใจ แต่ก่อนที่จะโพสต์ข้อความที่พาดพิงถึง “เจ้านาย” ในทางเยาะเย้ย และให้เกิดความเสียหาย ทั้งยังดูหมิ่นดูแคลนแพทย์ใหญ่ แพทย์อาวุโสที่ออกมาช่วยเรียกร้องให้คนมาฉีดวัคซีน ซึ่งคุณฮาร์ทเรียกว่า “ลิ่วล้อ” ทำไมคุณฮาร์ทไม่ถามผู้อื่นให้ดี ๆ ไม่หาข้อมูลให้ดี ๆ และคิดให้ดี ๆเสียก่อนเล่า
คุณฮาร์ทไม่ใช่ตาสีตาสา แต่เป็นคนมีชาติตระกูล มีวัยวุฒิ มีการศึกษาดีเยี่ยม หากจะโจมตีรัฐบาล โจมตีพลเอกประยุทธ์ด้วยเหตุด้วยผล คงไม่มีใครว่า ไม่มีใครยื่นฟ้อง แต่ถึงกับกล้าโพสต์ข้อความแบบนี้เกี่ยวกับเจ้านาย ก็สมควรแล้วที่จะต้องถูกดำเนินคดี
อย่าอ้างโน่น อ้างนี่ อย่าขอความเห็นใจทั้งเหน็บแนมแบบนี้เลยครับ ยอมรับชะตากรรมต่อจากนี้ไป เพื่อเป็นบทเรียนดีกว่า จะดูดีกว่าเยอะ และน่าเห็นใจกว่าเยอะ
รับรองว่า การยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ยังเป็นไปไม่ได้ในระยะ 10 ปีข้างหน้านี้ ดังนั้นอย่าได้มีความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ไปเลยครับ
ที่มา : https://www.facebook.com/100000016923106/posts/4347251238618731/