Sunday, 3 December 2023
NEWS

‘อว.’ ชวนร่วม ‘ไทยโคเซ็น แฟร์ 2023’ วันที่ 2 ธ.ค.นี้ ที่ไบเทคบางนา อย่าพลาด!! กิจกรรมดีๆ พร้อมลุ้นทุนการศึกษา-รางวัลกว่า 1 แสนบาท

‘กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม’ ชวนน้องๆ ทุกคน รวมถึงบุคคลทั่วไปที่สนใจมาร่วมงาน ‘ไทยโคเซ็นแฟร์ 2023’ ⚙️⚒️

รู้จักหลักสูตรทุกสาขาวิชาว่าพี่ๆ เรียนอะไรกันบ้าง แนะนำวิธีเตรียมตัวเพื่อสมัครเข้าศึกษาต่อ และเข้าเยี่ยมชมบูทนิทรรศการของ ‘KOSEN-KMITL’ และ ‘KOSEN KMUTT’ รวมไปถึงบูทภาคอุตสาหกรรมไทย - ญี่ปุ่น 🇹🇭🇯🇵 และพบกับกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย 

เจอกันได้ในวันเสาร์ที่ 2 ธันวาคม 2566 
🕗เวลา 9.00 - 17.00 น.
📍ณ ห้องภิรัช ฮอลล์ 1 ไบเทค บางนา กรุงเทพฯ

Link สำหรับลงทะเบียนเข้าร่วมงาน Thai KOSEN Fair 2023
https://forms.gle/kaUrLAJg7nvER3JZ6

ปล. งานนี้แค่เข้าร่วมงาน ลุ้นชิงรางวัล มูลค่ากว่า 100,000 บาท 🤩🥳

🧡💙อย่าลืมมาร่วมงานกันเยอะๆ นะคะ💙🧡

#ThaiKOSEN #KOSENKMITL #KOSENKMUTT #PracticalEngineering
The new breed of engineers, Thai - KOSEN has arrived.

Don’t miss your chance to learn how to get the Thai KOSEN full scholarship. ⚙️⚒️
Ministry of higher education science research and innovation would like to invite you to attend the Thai - KOSEN Fair 2023. 🧡💙

Get up close and personal with : 
* The curriculums of Thai - KOSEN
* Personal advise on how to prepare for Thai KOSEN
scholarship exams.
* Visiting exhibition boots of KOSEN - KMITL and KOSEN - KMUTT including  many more exhibition booths of Thai - Japanese industries with many enjoyable activities.
See you on December 2nd, 2023 from 09.00 A.M. - 05.00 P.M. at Hall 1 BITEC Bang na, Bangkok.

Please see link for pre-registration of Thai - KOSEN Fair 2023‼️
https://forms.gle/kaUrLAJg7nvER3JZ6

Join us and win a grand prize  with the value of ฿100,000.00‼️🎉🎉🎉
See you there guys!!

ส่องชุดราตรี ‘นางงามเปอร์โตริโก’ Top 5 MU 2023 ผลงาน ‘คนไทย’ สวยหรูโดดเด่นสู่สายตาชาวโลก

(20 พ.ย. 66) การประกวด Miss Universe 2023 จบลงไปแล้ว โดยผู้ที่คว้ามงกุฎ Miss Universe 2023 ไปครอบครอง ได้แก่ ‘เชย์นิส ปาลาซิโอส’ (Sheynnis Palacios) สาวงามจากประเทศนิการากัว 

ส่วน ‘แอนโทเนีย โพซิ้ว’ มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2023 คว้าตำแหน่งรองอันดับ 1 เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของคนไทยในการประกวดครั้งนี้ และรองอันดับ 2 คือ ‘Moraya Wilson’ นางงามจากออสเตรเลีย

ซึ่งนอกจากความภาคภูมิที่ได้รับจากสาว ‘แอนโทเนีย โพซิ้ว’ แล้ว อีกหนึ่งความภาคภูมิใจของคนไทยที่ถือเป็นสีสันของเวที Miss Universe 2023 นี้ ก็คือชุดราตรีไล่เฉดสีน้ำเงิน-ม่วง-ชมพูที่สาวงามจากเปอร์โตริโกสวมใส่ในรอบ 5 คนสุดท้าย สวยสดใสสะดุดตา แท้ที่จริงแล้วเป็นฝีมือแบรนด์คนไทยที่มีชื่อว่า แบรนด์ GL GarlateDesign

โดยเฟซบุ๊ก GL GarlateDesign ได้โพสต์ภาพของชุดราตรีดังกล่าว ที่ยังคงสวมอยู่ในหุ่น พร้อมระบุข้อความว่า "ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน ขอบคุณทุกโอกาสที่เข้ามา ขอบคุณทีมงาน GL GarlateDesign ทุกคน ที่ช่วยกันพัฒนาผลงานเพื่อส่งต่อสู่สายตาชาวโลก ทุกคำติชมทางแบรนด์ขอน้อมรับและพัฒนาแบรนด์ต่อไป ขอบคุณครับ" 

ซึ่งหลังจากที่โพสต์ไปแฟนนางงามต่างเข้ามาชื่นชม และร่วมแสดงความยินดีที่แบรนด์ไทยได้ไปปรากฏสู่สายตาคนทั่วโลก ถือว่าเป็นชุดราตรีที่มีความสวยงามโดดเด่นไม่น้อย โดยแบรนด์ GL GarlateDesign นี้ ยังเคยได้โชว์ฝีมือผ่านเวทีการประกวดมาแล้วหลากหลายเวที เช่น มิสไทยแลนด์เวิลด์ และ มิสแกรนด์ไทยแลนด์ เป็นต้น

‘หลวงพ่อพระครูโพธิวนานุรักษ์’ เจ้าอาวาสวัดป่าวิเวกธรรมชาน์ ประสบอุบัติเหตุ มรณภาพด้วยอาการสงบ สิริอายุ 64 ปี

เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 66 คณะศิษย์แจ้งข่าว หลวงพ่อพระครูโพธิวนานุรักษ์ ประสบอุบัติเหตุกิ่งไม้หล่นใส่ รุนแรงและกะทันหัน อาการทรุดลงตามลำดับ หลวงพ่อมรณภาพด้วยอาการสงบ สิริอายุ 64 ปี ถวายความอาลัย น้อมกราบหลวงพ่อสู่พระนิพพาน ถวายความอาลัย

กรณีหลวงพ่อพระครูโพธิวนนุรักษ์ (พระรรณจิตต์ แสงผา) เจ้าอาวาสวัดป่าวิเวกธรรมชาน์ สาขาที่ 7 วัดหนองป่าพง อำเภอม่วงสามสิบ อุบลราชธานี ซึ่งประสบอุบัติเหตุรุนแรงกะทันหันจากกิ่งไม้หล่นใส่ และหลวงพ่อได้เข้ารับการรักษาที่ รพ.สรรพสิทธิประสงค์อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 66 คณะแพทย์ได้ดูแลรักษาอาการอย่างใกล้ชิด ร่วมกับการใช้เครื่องช่วยหายใจอย่างเต็มความสามารถ แต่หลวงพ่ออาการทรุดลงตามลำดับ จนล่วงเลยถึงวันที่ 17-18 พ.ย.66 พระครูโพธิวนานุรักษ์ มีอาการทรุดลงและได้มรณภาพด้วยอาการสงบ

เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 66 เวลา 18.32 น. สิริอายุ 64 ปี 44 พรรษา วัดป่าวิเวกธรรมชาน์ และคณะแพทย์ผู้ดูแลรักษา จึงขอประกาศแจ้งข่าวการมรณภาพของพระครูโพธิวนนุรักษ์มา ณ ที่นี้ ส่วนกำหนดการอื่นๆ ทางวัดจะได้แจ้งให้ทราบต่อไป คณะศิษย์น้อมกราบส่งหลวงพ่อสู่พระนิพพาน ก่อนหน้านี้

หลังเกิดอุบัติกับหลวงพ่อ คณะศิษย์ได้ขอรับบริจาคโลหิตกรุ๊ปโอในการผ่าตัด โดยขอบอกบุญและเชิญชวนผู้มีจิตเป็นกุศล ร่วมบริจาคเลือดได้โดยตรงที่ ธนาคารเลือดโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี

“ชวน” ชี้กองทัพต้องมีความมั่นคงทางการทหาร การจะซื้ออาวุธต้องเท่าที่จำเป็น ขณะที่หลักสูตร มส.รุ่น 16 เปิดอบรมอย่างเป็นทางการ

วันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่อาคารออดิทอเรียม โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ 

พลเอก จรัล กุลละวณิชย์ ประธานมูลนิธิจัดการเพื่อความมั่นคง เป็นประธานเปิดการอบรมหลักสูตรการบริหารจัดการด้านความมั่นคงขั้นสูง (มส.) รุ่นที่ 16 โดยผู้เข้ารับการอบรมเป็นผู้บริหารระดับสูงจากภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรสาธารณะ จำนวน 150 คน

พลเอก ดร. มารุต ปัชโชตะสิงห์ผู้อำนวยการหลักสูตรการบริหารจัดการด้านความมั่นคงขั้นสูง กล่าวถึงวิสัยทัศน์หลักสูตร มส. 4 สร้าง ประกอบด้วย สร้างความมั่นคงแห่งชาติ สร้างความมั่นคงของมนุษย์ สร้างความรับผิดชอบต่อสังคม และสร้างคุณธรรมและจริยธรรม

ทั้งนี้ ผู้อบรมจะได้ศึกษาและรับทราบข้อมูลใหม่ๆ ที่ทันสมัยเป็นการเสริมสร้างทักษะการวิเคราะห์สภาวะแวดล้อมที่แปรเปลี่ยนในปัจจุบัน เกี่ยวกับความมั่นคงของมนุษย์ในด้านต่างๆ สามารถสังเคราะห์แนวทาง ในการเสริมสร้างปัญญาอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการเสริมสร้างความรับผิดชอบต่อสังคม นำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ ให้เกิดประโยชน์ต่อองค์การ สังคมและประเทศชาติอย่างเป็นรูปธรรม

ด้าน นายชวน หลีกภัย อดีตประธานรัฐสภา กล่าวบรรยายพิเศษตอนหนึ่งถึงความมั่นคงด้านทหาร สมัยที่เป็นรัฐมนตรีกลาโหมมองว่า กองทัพเขามีความจำเป็นที่ต้องมีอาวุธ เพียงแต่ว่าอาวุธนั้นต้องมีคุณภาพ ไม่ใช่ซื้อตามที่พ่อค้าแม่ค้าขายอาวุธมาขอให้ซื้อ แล้วเมื่อซื้อแล้วอีก 10 ปี ก็ไม่ได้ใช้ เพราะมันไม่มีสงคราม และไม่รู้แท้จริงแล้วอาวุธนั้นใช้ได้หรือไม่ 

สมัยนั้นตนได้พูดกลางที่ประชุมสภากลาโหม ตอไปนี้ทำอะไรทุกอย่างต้องตรงไปตรงมา จะไม่มีใครมาวิ่งรัฐมนตรีซื้ออาวุธอีกแล้ว หรือการใช้หน่วยทหารวางแผนโกงเลือกตั้งหรือจะสั่งให้ทหารเวียนเทียนเลือกตั้งจะไม่มี ต้องทำตรงไปตรงมา 

นอกจากนี้ ยังได้ปฏิรูปกองทัพ โดยสั่งยกเลิกนายพลแดดเดียว ขอเปลี่ยนตัว ผบ.ทบ. ที่ถูกเสนอชื่อมา โดยขอเลือกทหารที่สุจริตเชื่อถือได้ คือ พลเอก สุรยุทธ จุลานนท์ มาช่วยปฏิรูปกองทัพ มีการปรับกองทัพ ปรับทูตทหาร รวมสำนักงานให้อยู่ที่เดียวกัน ประหยัดงบประมาณ สิ่งไหนที่ไม่จำเป็นก็ยกเลิกไป

ชลบุรี-ผวจ.ชลบุรี รับรางวัลผู้ว่าราชการจังหวัด "สำเภาทอง" ปี 66 จาก มท.1 

ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้รับรางวัลผู้ว่าราชการจังหวัด "สำเภาทอง" ประจำปี 2566 จากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

วันอาทิตย์ที่ 19 พฤศจิกายน 2566 เวลา 08.45 น. นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เข้าร่วมการสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 41 (90 ปี หอการค้าไทย) และรับฟังการปาฐกถาพิเศษเรื่อง "The time  to act is now พลิกวิกฤต ฟื้นเศรษฐกิจไทยให้ยั่งยืน"  โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ณ ภิรัชฮอลล์ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค (BITEC) กรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้ นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้รับรางวัลผู้ว่าราชการจังหวัด "สำเภาทอง" ประจำปี 2566 จากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย

สำหรับ “รางวัลสำเภาทอง” หอการค้าไทย ได้ดำเนินการมอบรางวัลผู้ว่าราชการจังหวัด ที่มีส่วนร่วมกับภาคเอกชนในการบริหารงานจังหวัด แบบบูรณาการเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นกำลังใจและเป็นเกียรติแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด ที่มุ่งเน้นให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในภาคส่วนต่างๆ มีโอกาสเข้าร่วมใน 4 มิติ ประกอบด้วยมิติ ด้านความร่วมมือและการมีส่วนร่วม ด้านการสนับสนุนการดำเนินงานของหอการค้าจังหวัด ด้านการบริหารราชการจังหวัด และด้านความสัมพันธ์และทัศนคติ 
ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัด นับเป็นผู้มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง ในการเป็นผู้นำพัฒนา และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในจังหวัด ตามยุทธศาสตร์ การบริหารงานราชการแบบมีส่วนร่วม ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี 0909535645

‘พิธา’ หน้าเสีย!! โดนศิษย์เก่า-กองเชียร์กรุงเทพฯ โห่ไล่ รีบแจง!! "ผมไม่เกี่ยว" หลังมี สส.ก้าวไกล หนุนยกเลิกแปรอักษร

(19 พ.ย.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจวันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร โพสต์คลิปเมื่อวันที่ 18 พ.ย. เป็นเหตุการณ์ ขณะที่มีคนกลุ่มหนึ่งส่งเสียงโห่และลุกขึ้นมาชูเสื้อซึ่งเขียนว่า "อย่าเสือ... เรื่องแปรอักษรของพวก..ู..." ใส่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ศิษย์เก่าโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ในงานการแข่งขันฟุตบอลประเพณีจตุรมิตรสามัคคี ครั้งที่ 30 โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย พบ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ณ สนามศุภชลาศัย กรีฑาสถานแห่งชาติ

พร้อมระบุข้อความว่า ทุกคนคะ พิธาถูกโห่ไล่ค่ะ เหตุการณ์เกิดช่วงพักครึ่งแรก ลุงที่เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ลุกขึ้นมาชี้ที่พิธาและโห่ไล่ กองเชียร์ที่นั่งอยู่ก็ร่วมกันโห่ค่ะ สักพักพี่อีกคนเดินมาจากฝั่งเทพศิรินทร์ชูเสื้อที่เขียนว่า "อย่าเสือ...!! เรื่องแปรอักษรของพวก...ู..." มาชูต่อหน้าพิธา ได้รับเสียงเชียร์เป็นอย่างมาก ส่วนพิธาหน้าเสีย และบอกว่าผมไม่เกี่ยว!!

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ สส.พรรคก้าวไกล เคยแถลงเกี่ยวกับกิจกรรม ‘จตุรมิตรสามัคคี’ ว่า มีกลุ่มศิษย์เก่าโรงเรียนเทพศิรินทร์และโรงเรียนสวนกุหลาบ ออกมาเรียกร้องว่า มีการบังคับนักเรียนลงชื่อและเข้าร่วมทำกิจกรรม ละเมิดสิทธิเด็กโดยให้นักเรียนอยู่อย่างแออัด ให้แปรอักษรติดต่อนานหลายชั่วโมงโดยไม่มีเปลี่ยนตัว รวมถึงไม่อนุญาตให้นักเรียนไปเข้าห้องน้ำหรือไปรับประทานอาหาร สถานที่เสี่ยงไม่ปลอดภัย เพราะมีโอกาสที่ส่วนต่อเติมจะทรุดตัวลงหากต่อเติมไม่ดี หรือรองรับน้ำหนักของเด็กมากเกินไป ดังนั้นคณะทำงานการศึกษาก้าวไกลจึงห่วงใยต่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยในชีวิตของเด็กนักเรียน พร้อมโพสต์รูปภาพติดแฮชแท็ก #เลิกบังคับแปรอักษร

‘กัญจนา’ รุดให้กำลังใจสาวพิการตาบอด เล่นดนตรีเปิดหมวกเลี้ยงชีพ หลังถูกมนุษย์ลุงต่อว่าร้องเพลงดัง แนะ!! ปัญหาอยู่ที่เขา ไม่ใช่เรา

(19 พ.ย.66) ที่ตลาดฟู้ดดี้ฟาร์มบางใหญ่ จ.นนทบุรี น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ที่ปรึกษาคณะที่ปรึกษาติดตามและเร่งรัดขับเคลื่อนนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะที่ปรึกษาศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจ กรณีที่สาวพิการทางสายตาร้องเพลงเปิดหมวกเพื่อหาเงินจุนเจือครอบครัว แต่ถูกชายสูงวัยบุกต่อว่าโวยวายว่าเสียงดังรบกวน ขณะเล่นเปิดหมวกหารายได้หน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านรัชดาเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทำเอาเจ้าตัวร้องไห้ รีบเก็บของกลับบ้าน ยุติการเล่น และโพสต์ผ่านเพจส่วนตัว ‘พิมมี่ คีย์บอร์ด’ ระบุ ”เหนื่อยจนแทบกินน้ำตา ชีวิตต้องดิ้นรนแต่บางครั้งก็รู้สึกท้อมาก“

น.ส.กัญจนา กล่าวว่า ตนได้ทราบข่าวน้องมาเล่นดนตรีเปิดหมวก เพื่อหารายได้ดูแลตัวเองและครอบครัว แต่มีบางคนมาไล่น้อง ฟังแล้วสะเทือนใจ วันนี้จึงมาให้กำลังใจน้อง ถึงแม้จะเป็นผู้พิการทางสายตาแต่ก็ไม่ได้งอมืองอเท้า มีความสามารถเล่าเรียนมาทางด้านดนตรี และมาใช้ความสามารถของตัวเองในการทำมามาหาเลี้ยงชีพ ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร จึงมาให้กำลังใจและมาดูว่าจะสามารถให้ความช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง เบื้องต้นที่ทราบจากเจ้าหน้าที่คือน้องต้องการลำโพง ไมค์ ไม้เท้าขาวของผู้พิการทางสายตา ซึ่งตนจะจัดหาให้เอง ขอให้กำลังใจผู้พิการทุกคน ที่พยายามต่อสู้ให้มีที่ยืนและให้มีโอกาสในการดำรงชีวิตอยู่ได้ในสังคมขอให้กำลังใจทุกคน และหน้าที่ของกระทรวงพม. หรือหน่วยงานของรัฐ รวมถึงทุกๆ คนต้องเปิดโอกาสให้มีพื้นที่ยืนในสังคมให้กับผู้พิการ ที่มีความสามารถที่เขาไม่ต้องการเป็นผู้รอรับการสงเคราะห์ แต่เขาต้องการเป็นผู้ที่ที่จะลุกขึ้นมายืนได้ด้วยตัวของตัวเองเพียงแต่ต้องการโอกาสจึงขอให้สังคมมีความชัดเจนเพราะเขายินดีและพร้อมที่จะเป็นผู้ทำรายได้และเสียภาษีให้กับรัฐบาลเหมือนคนปกติทั่วไปเช่นกัน

”ตนขอให้กำลังใจและสนับสนุนผู้พิการทุกคน อย่างการแข่งขันกีฬาที่ผ่านมานักกีฬาคนพิการของไทยทำชื่อเสียงได้อย่างดีมาก ได้เหรียญมาหลายเหรียญ นี่คือศักยภาพของผู้พิการที่คนปกติอย่างเราต้องให้กำลังใจ“ น.ส.กัญจนา กล่าว

น.ส.กัญจนา กล่าวว่า ในมุมของตัวเองขอมองบวก ขอบคุณคุณผู้ชายคนนั้นที่มาต่อว่าน้อง เพราะถ้าไม่มีคนนั้นน้องก็ไม่เป็นข่าว สังคมคงไม่ได้รู้เรื่องของน้อง ผู้คนเข้ามาให้กำลังใจน้องมากมาย เชื่อว่าน้องจะได้รับการตอบรับไม่ว่าจะไปแสดงที่ไหน จึงต้องขอบคุณคุณคนนั้น ที่ทำให้น้องเป็นข่าว ได้บอกน้องไปว่าขอให้ทำความเข้าใจว่าปัญหาอยู่ที่คนคนนั้นไม่ได้อยู่ที่เรา 

อย่างไรก็ตาม ในวันจันทร์ที่ 20 พ.ย.ทางกระทรวงพม. จะไปเจรจากับผู้บริหารจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเพื่อขอพื้นที่แถวสยามให้น้องได้มีพื้นที่ในการแสดงดนตรี

‘The People’ แถลงขอโทษ กรณีเผยแพร่บทความสร้างความขุ่นเคืองใจ หลังเขียนจั่วหัว ‘จตุรมิตรสามัคคี เป็นศูนย์กลางอำนาจ-เครือข่ายการเมือง’ 

(19 พ.ย.66) เพจเฟสบุ๊ก The People ได้ออกมาโพสต์คำชี้แจงจากบรรณาธิการ กรณีบทความเรื่อง ‘จตุรมิตรสามัคคี’ ว่า…

จากบทความเรื่อง ‘จตุรมิตรสามัคคี’ ที่เผยแพร่ในเพจ The People เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2566 ทำให้เกิดข้อวิจารณ์ต่อข้อมูลและความคิดเห็นที่นำเสนอในบทความ

ข้าพเจ้า นายธนพงศ์ พุทธิวนิช ในฐานะบรรณาธิการ The People ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ที่บทความดังกล่าวได้สร้างความขุ่นเคืองใจ และจะระมัดระวังมิให้เกิดความผิดพลาดเช่นนี้อีก

ข้าพเจ้าขออภัยและขอน้อมรับคำวิจารณ์จากทุกท่าน เพื่อนำไปปรับปรุงกระบวนการทำงาน และพัฒนาเนื้อหาให้ดี มีคุณภาพ สมดังที่ท่านผู้อ่านได้ติดตามและให้ความไว้วางใจเสมอมา

ด้วยจิตคารวะ

ธนพงศ์ พุทธิวนิช
19 พฤศจิกายน 2566

ก.แรงงาน ถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ประจำปี 2566 ณ วัดบางพระ วรวิหาร พระอารามหลวง จ.ชลบุรี

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2566 เวลา 10.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานผ้ากระกฐินให้กระทรวงแรงงาน นำไปถวายพระภิกษุสงฆ์จำพรรษากาลถ้วนไตรมาส โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานของกระทรวงแรงงาน ประจำปี 2566 ณ วัดบางพระ วรวิหาร พระอารามหลวง ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อีกทั้งเป็นการสนองสถาบันพระมหากษัตริย์ในการทำนุบำรุงและส่งเสริมพระพุทธศาสนา

ในการนี้มี นายสิรภพ ดวงสอดศรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นายธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายภุชงภ์ วรศรี ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน นายวรรณรัตน์ ศรีสุขใส รองปลัดกระทรวงแรงงาน นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดชลบุรี หัวหน้าส่วนราชการกระทรวงแรงงานในจังหวัดใกล้เคียง และประชาชนชาวจังหวัดชลบุรี เข้าร่วมงานกว่า 10,000 คน ทั้งนี้ ได้มีผู้มีจิตกุศลร่วมถวายจตุปัจจัย บำรุงและบูรณะพระอาราม ทำบุญกฐินพระราชทาน ประจำปี 2566 รวมเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 3,195,295 บาท (สามล้านหนึ่งแสนเก้าหมื่นห้าพันสองร้อยเก้าสิบห้าบาทถ้วน)
พร้อมกันนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบทุนการศึกษาให้กับผู้อำนวยการโรงเรียนในอุปถัมภ์จำนวน 2 แห่ง นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการเปิดโรงทานให้ประชาชนที่มาร่วมทำบุญกฐินได้รับประทานอาหารร่วมกันอีกด้วย

สำหรับวัดบางพระ วรวิหาร พระอารามหลวง ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี วัดบางพระวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดวรวิหาร สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย วัดบางพระตั้งเมื่อ พ.ศ. 2440 แต่สันนิษฐานว่าคงสร้างมาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี หลักฐานทางโบราณคดีที่สำคัญ ได้แก่ พระเจดีย์ และ หอสวดมนต์ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาครั้งหลังสุด เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2507 ปัจจุบันมีโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรมเปิดสอน การก่อสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2507 ตามแบบของกรมศิลปากร แล้วเสร็จเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2510 ปัจจุบันมีพระธรรมวชิราลังการ เจ้าคณะจังหวัดชลบุรี เป็นเจ้าอาวาส

ทั้งนี้ กฐินพระราชทาน เป็นกฐินที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานผ้าของหลวงแก่ผู้กราบบังคมทูล ขอพระราชทานเพื่อไปถวายยังวัดหลวงต่างๆ นอกจากวัดสำคัญที่ทรงกำหนดไว้ว่าจะเสด็จพระราชดำเนินด้วยพระองค์เอง หรือจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระบรมวงศานุวงศ์ หรือองคมนตรี หรือผู้ที่ทรงเห็นสมควรเป็นผู้แทนพระองค์ไปถวาย จึงเปิดโอกาสให้กระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ตลอดจนคณะบุคคลหรือบุคลากรที่สมควรรับพระราชทานผ้ากฐินไปถวายได้ โดยกระทรวงแรงงานได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เนื่องจากเป็นประเพณีที่พุทธศาสนิกชน ได้ยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมาเป็นเวลาช้านาน เพื่อเป็นการอุปถัมภ์พระสงฆ์ที่จำพรรษาครบถ้วนไตรมาสให้ได้รับอานิสงส์ตามพระวินัย และเป็นทุนในการบูรณปฏิสังขรณ์พระอาราม โดยเป็นการรวมพลังแห่งความสามัคคี ทั้งทางกาย วาจา และจิตใจในการสร้างบุญกุศลสร้างความสุขของการอยู่ร่วมกันในสังคม รวมทั้งเป็นการจรรโลงและส่งเสริมพระพุทธศาสนาให้มั่นคงดำรงอยู่เจริญวัฒนาสถาพรสืบไป

‘เพจดัง’ เปิดภาพพร้อมข้อความหลังเสื้อ ที่น้องๆ สวนกุหลาบฝากถึง ‘คนค้านแปรอักษร’

(19 พ.ย.66) เพจดังการเมือง ‘ปราชญ์ สามสี’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า "น้องสวนกุหลาบ #จตุรมิตร เขาบอกแล้วนะ #ก้าวไกล #อย่าเxือกเรื่องแปรอักษร" พร้อมภาพที่น้องๆ สวนกุหลาบ ชูเสื้อที่มีข้อความว่า "อย่าเxือก..!! เรื่องแปรอักษร ของพวกกู"
 

สมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้ ดึงสื่อมวลชนมาเลเซีย อินโดนีเซีย และผู้ประกอบการ ร่วมโครงการเปิดแหล่งท่องเที่ยวแดนใต้ พบผู้บริหารผู้นำองค์กร พร้อมสัมมนาท่องเที่ยวสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ

สมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย จัดประชุมคณะกรรมการสมาคมฯ เพี่อมอบหมายหน้าที่ต้อนรับและเตรียมความพร้อมการต้อนรับคณะสื่อมวลชนจากประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซียและผู้ประกอบการท่องเที่ยว โดยมี นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล  นายกสมาคมฯ เป็นประธานการประชุม ที่ประชุม นายตูแวดานียา มือรีงิง กรรมการบริหาร/ประธานอนุคณะกรรมการฝ่ายต่างประเทศ สมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย ผู้รับผิดชอบโครงการ“สานสัมพันธ์สื่อมวลชนและผู้ประกอบการท่องเที่ยวคาบสมุทรมลายูครั้งที่ 1” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน – 2 ธันวาคม 2566

นายตูแวดานียา กล่าวว่า จังหวัดชายแดนภาคใต้ นราธิวาส ยะลา ปัตตานี สงขลาและสตูล เป็นจังหวัดที่ติดกับชายแดนประเทศมาเลเซีย มีความอุดมสมบูรณ์ด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ  ประเพณีวัฒนธรรม อาหาร แหล่งประวัติศาสตร์ และศาสนสถาน ซึ่งเป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวไม่เฉพาะมาเลเซียเท่านั้น

“จนกระทั่งล่าสุดนิตยสาร Lonely Planet สื่อท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลก จัดอันดับจุดหมายปลายทางที่ดีที่สุดในปีหน้า 2567“Best in Travel 2024" “ภาคใต้ของไทย” ติด Top 10 ในหมวด “#ภูมิภาคที่น่าเที่ยวที่สุดในโลกในปี2024”Lonely Planet ระบุเหตุผลพร้อมอธิบายความโดดเด่น “ภาคใต้ของไทย” ไว้ว่า ยินดีต้อนรับสู่อีกภูมิภาคหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งมีมัสยิดวิจิตรงดงาม และมีศาลเจ้าอันลึกลับที่ซึ่งมีเสียงสวดมนต์อันไพเราะพร้อมเสียงระฆังของวัด

นายตูแวดานียา กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของโครงการดังกล่าวว่า เพื่อเปิดแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มนักท่องเที่ยวมาเลเซียและอินโดนีเซีย โดยเฉพาะเขตพัฒนาเศรษฐกิจ IMTGT  พร้อมกับมีการเชื่อมสัมพันธ์และกระชับมิตรระหว่างสื่อมาเลเซีย อินโดนีเซีย และสื่อไทยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในการแลกเปลี่ยนข่าวสารต่อกัน

“เป็นการเชื่อมสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนแหล่งท่องเที่ยวไทย มาเลเซียและอินโดนีเซีย ระหว่างผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั้งสามประเทศ พร้อมกับเปิดมุมมองหน่วยงานของรัฐในพื้นที่ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อรองรับการท่องเที่ยวในอนาคตและพัฒนาเศรษฐกิจ IMTGT (Indonesia Malaysia Thailand Growth Triangle)อีกด้วย”

“เราเองสามารถขยายพื้นที่การท่องเที่ยวใหม่ๆ ให้กว้างขึ้นแล้ว ยังสร้างรายได้ให้กับพื้นที่ โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่มีงานทำเพิ่มรายได้  รวมถึงเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้  เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลและข่าวสารด้านการท่องเที่ยวระหว่างไทย มาเลเซียและอินโดนีเซียอีกด้วย”

นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย กล่าวว่า กรรมการทุกท่านได้ร่วมคิดร่วมทำในการเตรียมความพร้อมการเป็นเจ้าภาพต้อนรับสื่อมวลชนและผู้ประกอบการจาก 2 ประเทศ สิ่งที่เราทำครั้งนี้เป็นการคืนกำไรให้กับสังคม

“เมื่อเราเชิญเขามาแล้วคนที่ควรจะได้คือ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในมิติของการท่องเที่ยว การลงทุน และเศรษฐกิจ เพ่ราะฉะนั้น โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นได้ วันนี้ในฐานะองค์กรสื่อเรากำลังจะทำและพร้อมที่จะดำเนินการตามโครงการดังกล่าว”

ทั้งนี้ โครงการสานสัมพันธ์สื่อมวลชนฯ เริ่มต้นวันแรกเข้าจากด่านเบตง จ.ยะลา จ.นราธิวาส จ.ปัตตานี จ.สงขลา พบปะเลขาธิการ ศอ.บต. ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บริหารองค์กรการท่องเที่ยว ผู้บริหารองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง

ชมแหล่งท่องเที่ยวอันซีนและแหล่งใหม่ของแต่ละจังหวัด และสัมมนาหัวข้อ”#ความร่วมมือการพัฒนาการท่องเที่ยวและเขตเศรษฐกิจIMTGT” ที่จังหวัดสงขลา ก่อนเดินทางกลับผ่านด่านสะเดา

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

‘มาดามแป้ง’ ยัน!! พร้อมดูแล ‘ชนาธิป-พรรษา’ เต็มที่ หลังบาดเจ็บจากศึกฟุตบอลโลก ย้ำ!! ไม่มีใครอยากให้เกิด

(18 พ.ย.66) ‘มาดามแป้ง’ นางนวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทย ยืนยันพร้อมดูแล ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ พรรษา เหมวิบูลย์ เต็มที่ หลังได้รับบาดเจ็บระหว่างเกมเปิดบ้านพบกับ จีน ในฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย วันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 พร้อมทั้งแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และขอขอบคุณไปยังต้นสังกัดของนักเตะทั้ง 2 คือ บีจี ปทุม และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รวมถึงสโมสรทุกสโมสรที่ให้ความร่วมมือ และสนับสนุนในการปล่อยตัวนักเตะมาร่วมทีมชาติไทยในครั้งนี้

“เรื่องอาการบาดเจ็บเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่ในเมื่อเกิดขึ้นแล้ว แป้ง ในฐานะผู้จัดการทีม แป้งพร้อมดูแลน้องทั้งสองอย่างเต็มที่ เหมือนเช่นที่ดูแลนักเตะทีมชาติไทยทุกคน ในทุกๆ ทัวร์นาเมนต์ที่ผ่านมา เพราะเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบหลักของผู้จัดการทีมในการดูแลทุกข์สุขของทีมให้ดีที่สุด โดยในส่วนของเจ (ชนาธิป) แป้งก็ได้ตามไปดูอาการด้วยหลังจบเกมที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ซึ่งดีที่ผลตรวจออกมาว่า ไม่พบรอยแตกหักใหม่บริเวณข้อเท้าซ้าย และต้องใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 2 สัปดาห์ ทำให้คงไม่ได้เดินทางไปกับทีมที่สิงคโปร์ด้วย”

“เช่นเดียวกับ โย่ง (พรรษา) ที่ได้รับการตรวจตั้งแต่หลังจบเกม ปรากฏว่าพบกระดูกช้ำบริเวณหน้าเข่า และเอ็นอักเสบ ต้องใช้เวลาพักประมาณ 2 สัปดาห์เช่นกัน ซึ่งล่าสุดได้เดินทางกลับไปรักษาตัวต่อที่บุรีรัมย์แล้ว โดยแป้งต้องขอขอบคุณน้องทั้งสอง ที่มุ่งมั่น ทุ่มเทเพื่อทีมชาติไทย รวมถึงขอโทษ และขอบคุณไปยังสองต้นสังกัดของทั้งคู่อย่าง บีจี ปทุม และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ด้วยที่เข้าใจ แป้งหวังว่าทั้งคู่ จะฟื้นตัวกลับมาแข็งแรงโดยเร็ว และแป้งจะคอยติดตามอาการบาดเจ็บของทั้งคู่อย่างใกล้ชิด และพร้อมดูแลทุกด้านอย่างเต็มที่”

“ส่วนผู้เล่นที่จะทดแทน เจ และโย่งนั้น เป็นหน้าที่ของมาโน่ในฐานะโค้ชเป็นผู้ตัดสินใจ เพราะเราได้เตรียมเก็บตัวผู้เล่นและซ้อมกันมา 26 คน คือเรียกเก็บตัวมาเกินไว้ 3 คน เผื่อเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณไปยังทุกสโมสรที่ให้ความร่วมมือและสนับสนุนในการปล่อยตัวด้วยค่ะ” มาดามแป้ง ปิดท้าย

โปรแกรมต่อไป ทีมชาติไทย เตรียมบุกเยือน สิงคโปร์ ในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 เวลา 19.00 น. ช่อง 32 ถ่ายทอดสด

‘สุวัจน์’ อิ่มบุญ ร่วมทอดกฐินวัดทุ่งสว่าง จ.นครราชสีมา ชี้!! โคราชครบ 555 ปี หวังดันเป็น Soft Power ดึง นทท.

(18 พ.ย. 66) ที่วัดทุ่งสว่าง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการฝ่ายฆราวาสและผู้แทนเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคีเทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา ประจำปี พ.ศ. 2565 ถวายองค์กฐินและเครื่องไทยธรรมแด่ พระครูอุดมวรรโณภาส ประธานกรรมการฝ่ายสงฆ์ในฐานะเจ้าคณะตำบลในเมืองเขต 3 เจ้าอาวาสวัดทุ่งสว่าง

โดยมี นายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศบาลฯ นายวัชรพล โตมรศักดิ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พลตรีณรงค์ฤทธิ์ ด่านสุวรรณ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา พร้อมผู้บริหารและสมาชิกสภา พนักงาน ข้าราชการในสังกัด ทน.นครราชสีมา และชาวโคราช 98 ชุมชน ร่วมกิจกรรมงานบุญกันอย่างชื่นมื่น โดยได้รวมยอดเงินทั้งสิ้น 1,007,224 บาท

นายสุวัจน์ กล่าวว่า วันนี้รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติที่ได้มาร่วมทำบุญในพิธีทอดกฐินสามัคคี ที่ทางเทศบาลและพี่น้องประชาชนได้ร่วมกันจัดขึ้นคนแน่นมาก เรียกว่าแย่งกันทำบุญ สมกับคำว่า คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน แม้ว่าเศรษฐกิจยังไม่ดีนัก แต่ในเรื่องบุญเรื่องกุศล เรื่องช่วยเหลือ เรื่องการพัฒนาบ้านเมือง คนโคราชมีน้ำใจตลอด

“ปีนี้เมืองโคราชครบรอบ 555 ปี ถือว่าเก่าแก่มาก แสดงว่าเรามีโบราณสถาน มีหลาย ๆ สิ่งที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องช่วยกันรักษาเอาไว้ให้กับคนรุ่นหลัง อย่างวัดทุ่งสว่างที่มาทอดกฐิน ถือเป็นวัดเก่าแก่เป็นส่วนหนึ่งของการได้ช่วยกันทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และรักษาของเก่าของเมืองโคราช” นายสุวัจน์กล่าว

นายสุวัจน์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของเทศบาลท่านนายกฯ ประเสริฐกำลังทำโครงการอนุรักษ์รักษาเมืองโคราชโบราณสถานต่าง ๆ โดยเฉพาะคูเมืองที่ยาวทั้งหมด 5,400 เมตร ระยะทาง 5.4 กิโลเมตร ทำการทำนุบำรุงรักษา สร้างสวนสาธารณะ สร้างคูคลองกันใหม่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมเฉลิมฉลอง 555 ปี เมืองโคราช

“วันนี้ต้องทำสองเรื่อง คือ ทำเรื่องใหม่ สองทำเรื่องเก่า เรื่องเก่าต้องรักษาประเพณี การต่อยอด เรียกว่า ‘ซอฟต์พาวเวอร์’ การรักษาสิ่งเก่า ๆ ของบ้านเมืองเอาไว้ แต่ขณะเดียวกันของใหม่ ๆ ก็ต้องมา อย่างเช่น รถไฟความเร็วสูง มอเตอร์เวย์ โดยแบ่งหน้าที่กันทำงาน คุณหมอวรรณรัตน์ ชาญนุกูล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พูดในสภาฯ ทุกอาทิตย์ ทวงสิ่งของต่าง ๆ โครงการต่าง ๆ ให้เมืองโคราช คุณเทวัญ ลิปตพัลลภ เข้าไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี คุณวัชรพล โตมรศักดิ์ เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ก็เอาโครงการเกี่ยวกับสุขภาพอนามัยต่าง ๆ มาให้กับพี่น้องประชาชน

“เราต้องร่วมกันทำงานพัฒนาเมืองโคราช ดึงนักท่องเที่ยวมาโคราช รัฐบาลให้ความสำคัญกับซอฟต์พาวเวอร์ กีฬา ประเพณี วัฒนธรรม โอท็อปต่าง ๆ เรียกว่าของเก่า เพื่อที่จะดึงนักลงทุน นักท่องเที่ยวต่าง ๆ เป็นการทำงานที่เป็นทีมเวิร์ก เป็นการทำงานที่ดี” นายสุวัจน์ ระบุ

‘CPF’ อาสาสานฝันเด็กไทย พาไปดูงาน ณ ‘JAXA’ ญี่ปุ่น หลัง 3 การทดลองได้รับเลือกขึ้นทดสอบในสถานีอวกาศฯ

เมื่อวานนี้ (17 พ.ย. 66) เฟซบุ๊ก ‘NSTDA - สวทช.’ โพสต์ข้อความในหัวข้อ ‘🚀CPF อาสาร่วมสนับสนุนเด็กไทยไปองค์การสำรวจอวกาศ JAXA ประเทศญี่ปุ่น’ ระบุว่า…

ตามที่ สวทช. ร่วมกับองค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่น หรือ แจ็กซา (JAXA) ประเทศญี่ปุ่น จัดแข่งขันโครงการ Asian Try Zero-G 2023 และได้คัดเลือกแนวคิดการทดลองทางวิทยาศาสตร์ของตัวแทนเยาวชนไทยที่ผ่านการคัดเลือก จำนวน 3 เรื่อง โดยแนวคิดทั้ง 3 เรื่องนี้จะนำไปทดลองจริงในสภาวะแรงโน้มถ่วงต่ำ โดย นายซาโตชิ ฟุรุคาวะ (Satoshi Furukawa) นักบินอวกาศญี่ปุ่นที่ปฏิบัติการบนสถานีอวกาศนานาชาติ ISS 

ซึ่งในการนี้ น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้กำชับให้ สวทช. ดำเนินการทุกวิถีทางให้เด็กไทยได้ไปร่วมกิจกรรม ณ ประเทศญี่ปุ่น ล่าสุดทีมจัดกิจกรรมของ สวทช. ได้รับการติดต่อจากบริษัท CPF อาสาร่วมให้ทุนสนับสนุนโครงการดังกล่าว

สวทช. ขอขอบคุณ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ที่ได้ติดต่อขอร่วมสนับสนุนในการส่งเด็กไทยไปร่วมโครงการขององค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่น หรือ แจ็กซา (JAXA) ซึ่งนับเป็นโอกาสที่ดีของเยาวชนไทยที่จะได้นำความรู้ความสามารถไปแสดงในเวทีโลก

ด้าน นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF กล่าวว่า "CPF รู้สึกยินดีและร่วมชื่นชมน้อง ๆ เยาวชนไทยที่เก่งและมีความสามารถไม่แพ้ชาติอื่น จนได้รับคัดเลือกจากองค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่น (JAXA) ให้ไปทดลองโครงงานบน Kibo Module สถานีอวกาศนานาชาติ เรา CP แบรนด์อาหารของคนไทย อยากช่วยเติมฝันของน้อง ๆ ในโอกาสนี้ เพราะเราเชื่อในศักยภาพของคนไทย ที่ยังก้าวไปได้อีกไกลในเวทีโลก หากเราร่วมกันผลักดัน"

ทาง สวทช. ยินดีที่ก่อนหน้านี้ CPF ก็ได้ดำเนินโครงการ Thai Food-Mission to Space เพื่อยกระดับมาตรฐานอาหารไทย ก้าวสู่มาตรฐานใหม่ไปพิชิตมาตรฐานอวกาศ (Space Food Safety Standard) ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูง ระดับเดียวกับที่นักบินอวกาศรับประทาน ตามหลักเกณฑ์ขององค์กร NASA มาแล้ว และตอนนี้ได้ขยายโอกาสมาสานฝันน้อง ๆ ให้มีโอกาสในเวทีระดับโลกเพิ่มเติมขึ้นอีก สวทช. ให้ความสำคัญและมุ่งมั่นในภารกิจการสร้างความตระหนักด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในเยาวชนที่เป็นอนาคตของชาติและประชาชนทั่วไป รวมทั้งจะแสวงหาโอกาสให้เยาวชนไทยได้แสดงความสามารถและเข้าร่วมในกิจกรรมสำคัญต่าง ๆ อย่างเต็มกำลัง

สำหรับแนวคิดการทดลอง 3 เรื่อง ได้แก่
1. เรื่อง ‘ก้อนน้ำทรงกลมกับแรงไฟฟ้า’ โดย นายชญานิน เลิศอุดมศักดิ์ นักเรียน ม.5 โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย 

2. เรื่อง ‘การศึกษาการเคลื่อนที่แบบวงกลมของลูกบอลสองลูกบนเส้นเชือกในสภาวะแรงโน้มถ่วงต่ำ’ โดย นายณัฐภูมิ กูลเรือน, นายจิรทีปต์ มะจันทร์, นางสาวฟ้าใหม่ คงกฤตยานุกุล และนายภูมิพัฒน์ รัตนวัฒน์ นักเรียน ม.5 โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย 

3. เรื่อง ‘การออกกำลังกายท่าดาวทะเลภายใต้สภาวะแรงโน้มถ่วงต่ำ’ โดย นางสาววรรณวลี จันทร์งาม และนางสาวพุทธิมา ประกอบชาติ นักเรียน ม.6 โรงเรียนระยองวิทยาคม

อ่านรายละเอียดโครงการเพิ่มที่: https://www.nstda.or.th/home/news_post/sci-news-flash-asian-try-zero-g-2023-result/ 

‘จิตแพทย์’ ห่วงคนไทย ‘ยอดฆ่าตัวตายสำเร็จ’ คาบเส้น WHO กำหนด ชี้ คนร่าเริงก็มีทุกข์ในใจ แนะ!! คนใกล้ตัวจับสัญญาณเปลี่ยนแปลง

(18 พ.ย.66) ที่สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา ในงานสัมมนาวันผู้สูญเสียบุคคลใกล้ชิดจากการฆ่าตัวตายนานาชาติ ครั้งที่ 4 โดยมี ผศ.พิเศษ นพ.ปราการ ถมยางกูร กรรมการสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย นพ.ณัฐกร จำปาทอง ผู้อำนวยการสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ และสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย, สมาคมสมาพันธ์ผู้ดูแลไทย, เครือข่ายก่อการต้านเศร้า ร่วมในเวทีเสวนาด้วย

ผศ.พิเศษ นพ.ปราการกล่าวว่า ข้อมูลของทั่วโลกพบว่า มีผู้ฆ่าตัวตายสำเร็จปีละเกือบ 1 ล้านคน หรือเฉลี่ยเป็นทุกๆ 40 วินาที จะมีผู้ฆ่าตัวตายสำเร็จ 1 คน สำหรับข้อมูลในประเทศไทยมีอัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จเกือบๆ 8 ต่อแสนประชากร ขณะที่ประเทศเกาหลีสูงถึง 24 ต่อแสนประชากร ซึ่งตัวเลขที่องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดไว้ไม่ควรเกิน 8 ต่อแสนประชากร คำถามคืออะไรเป็นเหตุที่ทำให้เขาฆ่าตัวตาย เพราะ 1 คนที่ฆ่าตัวตายสำเร็จ จะมีผู้ได้รับผลกระทบอย่างน้อย 6-10 คน ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ญาติพี่น้องหรือเพื่อน รวมถึงผู้ที่รู้ข่าวอย่างน้อย 100 คนที่ได้ร่วมสูญเสีย เสียใจไปด้วย ทั้งนี้ ประเทศสหรัฐอเมริกากำหนดให้วันหยุดก่อนถึงสัปดาห์วันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving) เป็นวันรำลึกผู้สูญเสียคนใกล้ชิดจากการฆ่าตัวตายนานาชาติ ซึ่งจัดกันมากว่า 20 ปีแล้ว

“การฆ่าตัวตายของคนใกล้ชิด เป็นเรื่องที่หลายคนเองไม่อยากรำลึกถึงสิ่งที่สูญเสีย เพราะว่าเป็นบาดแผลที่ข้างนอกดูดีแล้ว แต่ข้างในอาจจะยังเป็นหนองอยู่ ดังนั้นถ้าเราช่วยกันเยียวยาให้หายสนิท แผลนั้นจะดีมากขึ้น ซึ่งผลของการสูญเสียบุคคลใกล้ชิดจากการฆ่าตัวตาย เป็นเรื่องที่คนใกล้ชิดทำใจได้ยาก และติดอยู่ในใจไม่สามารถทำให้หลุดออกไปได้ ซึ่งการทำกลุ่มบำบัดสามารถช่วยได้จริง ซึ่งประเทศไทยก็จะต้องมีการจัดงานนี้ขึ้นในอนาคต” ผศ.พิเศษ นพ.ปราการกล่าว

ด้าน นพ.ณัฐกร กล่าวว่า สมัยที่ยังไม่มีโลกโซเชียล คนที่คิดจะฆ่าตัวตายจะทิ้งจดหมายลาตาย หรือ Suicide note แต่ปัจจุบันนี้เปลี่ยนเป็นลักษณะของการโพสต์ในสื่อออนไลน์ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณการฆ่าตัวตายผ่านโซเชียล ทำให้ผู้ที่เป็นเพื่อนกันในโลกออนไลน์สามารถมาพบเห็นได้ ซึ่งตรงนี้จริงๆ ทุกคนสามารถแจ้งข้อมูลผ่านสายด่วนกรมสุขภาพจิต 1323 เพื่อแทรกแซงเหตุการณ์ไม่ให้ผู้นั้นฆ่าตัวตายได้สำเร็จ โดยขณะนี้มีเครือข่ายการป้องกันการฆ่าตัวตายร่วมกับตำรวจ ฉะนั้นไม่ว่าคนโพสต์อยู่จุดไหนของประเทศไทย ก็สามารถเข้าถึงจุดเกิดเหตุได้ภายใน 3 ชั่วโมง ทั้งนี้ ตั้งแต่ดำเนินการมา มีการเข้าไปช่วยเหลือกว่า 500 เคส และทุกเคสใช่เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี

“ทุกคนอาจจะไม่ได้มีปรารถนาอย่างแรงกล้าในการปลิดชีพตัวเอง หลายเคสเป็นการส่งสัญญาณ ในสิ่งที่คนอื่นเรียกว่าเป็นการเรียกร้องความสนใจ แต่แท้จริงแล้วเป็นการแสวงหาความช่วยเหลือ ซึ่งเราจะเห็นทุกวันว่าในโซเชียลมีเดียจะมีเรื่องประมาณนี้อยู่ทุกวัน หลายเคสมีเวลาไตร่ตรองอยู่ ซึ่งก็เป็นข้อดีในการให้ตำรวจเข้าไปช่วยเหลือและส่งต่อไปยังสถาบันจิตเวชรับการดูแลรักษาต่อได้” นพ.ณัฐกร กล่าว

นพ.ณัฐกร กล่าวว่า ขณะเดียวกันสื่อที่นำเสนอข่าวก็มีความสำคัญอย่างยิ่ง ตนสงสัยมาตลอดว่าทำไมต้องพูดถึงข่าว เช่น “ดาราดังสวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้นสีแดง กางเกงขาสั้น 3 ส่วนสีดำ มือขวากำแว่นตาไว้แน่น โดยใช้สายสะพายกระเป๋าหนังผูกคอตัวเองไว้ที่ระแนงไม้” ทั้งหมดนี้ไม่ใช่การรายงานข้อมูลที่จำเป็น โดยหลังจากนั้นประมาณ 6 เดือน ตนได้ไปถามตำรวจที่เข้ามาอบรมเรื่องป้องกันการฆ่าตัวตาย ทุกคนจำเหตุการณ์นั้นได้ว่า มือของบุคคลนั้นกำลังกำแว่นตาอยู่ ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่เป็นเรื่องต้องจำ

นพ.ณัฐกร กล่าวต่อว่า ฉะนั้นสื่อที่นำเสนอเรื่องของการฆ่าตัวตาย หรือผู้มีปัญหาสุขภาพจิต ขอให้มีการพูดถึงทางออก เช่นสายด่วนกรมสุขภาพจิต 1323 หรืออธิบายช่องทางการให้ความช่วยเหลือเพื่อให้คนอ่านนั้นได้รับทราบว่ามีทางออกและได้ใช้สติไตร่ตรองในเรื่องนั้นๆ

เมื่อถามถึงการสังเกตผู้ที่มีอารมณ์ดี มีพลังบวกมาก แต่สุดท้ายแล้วเลือกจบชีวิตตนเอง ผศ.พิเศษ นพ.ปราการ กล่าวว่า สัญญาณเตือนเหล่านั้นจะแสดงออกมาทางอารมณ์ มีความซึมเศร้ามีอารมณ์แปรปรวน หรือโมโหง่าย ประกอบกับพฤติกรรมการแยกตัวเอง ในบางรายอาจพูดถึงว่าตนเองอยู่ไปก็เป็นภาระผู้อื่น

“สำหรับผู้ที่ฆ่าตัวตายจะมี 2 ประเด็น คือ 1.ผู้ที่ส่งสัญญาณเตือนมาโดยตลอด ซึ่งคนรอบตัวจะต้องจับสัญญาณมันให้ได้ และ 2.การตัดสินใจด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ที่เกิดจากมีความรุนแรงมากระทบจิตใจหรือความรู้สึก แม้ว่าภายนอกจะดูเป็นคนสดใสร่าเริง ไม่แสดงความทุกข์ที่อยู่ในใจ ดังนั้นการสื่อสารเพื่อให้เขาได้พูดความทุกข์ที่อยู่ในใจก็จะช่วยให้เขาปลดปล่อยความรู้สึกเศร้าออกมาได้” ผศ.พิเศษ นพ.ปราการ กล่าว

ด้าน นพ.ณัฐกรกล่าวว่า สิ่งที่จะต้องดูคือ เขาดูเปลี่ยนไปจากปกติของเขา เช่น ความสัมพันธ์ทางสังคม แม้กระทั่งผู้ที่เป็นคนโลกส่วนตัวสูง (Introvert) ก็ยังจะมีเส้นหนึ่งที่เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างเขากับโลกภายนอก

“ฉะนั้นการดูว่าเขาเปลี่ยนไปนั้นต้องรู้ว่า คนคน นั้นไม่ต้องการที่จะไปเชื่อมต่อกับโลกภายนอก หรือสังคมข้างนอก หรือทำตัวคล้ายมือถือที่ไม่พร้อมรับสัญญาณใด” นพ.ณัฐกรกล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top