Tuesday, 8 July 2025
NEWS

'เสี่ยเฮ้ง' โต้แรงนโยบายหาเสียงเพื่อไทย คิดได้แค่นี้ประเทศไม่รอด ท้า!! แน่จริงขึ้นค่าแรงบริษัทในเครือขั้นต่ำ 600 ให้ดูหน่อย

หลังจากเมื่อวันที่ (6 ธ.ค. 65) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้ประกาศนโยบายหาเสียงเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย ด้วยการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน และจบปริญญาตรีมีเงินเดือน 25,000 บาท ปักธงเป็นรัฐบาลครบวาระ 4 ปี โดย อธิบายว่าประเทศไทยมี 20 ล้านครอบครัว สามารถสร้างงานทักษะสูงได้ 20 ล้านตำแหน่ง และมีรายได้รวมกันถึงปีละ 4 ล้านล้านบาทนั้น ในปี 2570 คนไทยต้องได้ค่าแรงขั้นต่ำให้สมกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนไทย คือ ไม่ต่ำกว่า 600 บาทต่อวัน และเงินเดือนของผู้จบการศึกษาระดับปริญญาตรีอยู่ที่ 25,000 บาทขึ้นไป 

ขณะเดียวกันก็จะใช้ซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) เป็นพลังขับเคลื่อน โดยการดึงศักยภาพของอย่างน้อย 1 คนในทุกครอบครัวให้ได้รับโอกาสในการอบรม บ่มเพาะ ทักษะสร้างสรรค์ที่มีความถนัดให้ดีขึ้น รวมทั้งการสร้างทักษะสร้างสรรค์ Soft Power ด้านต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้มีรายได้คนละไม่ต่ำกว่า 200,000 บาทต่อปี 

จากนโยบายดังกล่าวนี้ทีมข่าว THE STATES TIMES ได้สัมภาษณ์ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ว่ามีความคิดเห็นในนโยบายดังกล่าวอย่างไร?

โดยในประเด็นการสร้างงานทักษะสูง 20 ล้านตำแหน่ง สุชาติ กล่าวว่า “วันนี้มีคนไทยอยู่ในระบบประกันสังคม 11 ล้านกว่าคน แรงงานนอกระบบอีก 20 ล้านคน หาบเร่แผงลอย นายจ้าง ธุรกิจส่วนตัว รวมแล้ว 2 ระบบ ประมาณ 30 ล้านคน ข้าราชการอีกกี่ล้านคน นักศึกษาอีกกี่ล้านคน เด็กที่ยังเรียนอยู่อีกกี่ล้านคน แล้วถ้าบอกว่า 20 ล้านตำแหน่ง คุณจะเอาคนไทยที่ไหนมาทำงาน ผมไม่เข้าใจเลย เพราะเค้าทำงานกันเกือบหมดแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาการบริหารงานของผมในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในช่วงไตรมาสที่ 1 ถึง ไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 หลังจากเศรษฐกิจฟื้นตัวด้วยนโยบายของรัฐบาลต่างๆ เราได้จ้างงานไปกว่า 1,590,000 อัตรา มากกว่าก่อนที่ไม่มีโควิด-19 เพราะฉะนั้นตัวเลขที่บอกว่าสามารถสร้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง มันโอเว่อร์ไป” 

ในส่วนของค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท มีความเป็นไปได้มากน้อยขนาดไหนนั้น สุชาติ แสดงความเห็นว่า “ค่าแรง 600 บาท ผมเรียนอย่างนี้นะครับ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน นำเข้าสู่คณะรัฐมนตรีเป็น ร้อย ๆ อาชีพ ในการปรับค่าแรงให้กับวิชาชีพต่าง ๆ เช่น ช่างปูกระเบื้อง ค่าแรงเกือบ 1,000 บาท ทุกอย่างถ้ามีฝีมือปรับตามกระทรวงแรงงาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงานที่นำเข้าสู่คณะรัฐมนตรีประกาศออกมาใช้แล้ว เป็นร้อยอาชีพ 

"ส่วนค่าแรง 600 บาท กำลังพูดถึงค่าแรงคนที่ไม่มี Skill ไม่มีฝีมือ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าว ที่ค่าแรงส่วนใหญ่ของประเทศเค้ามีค่าแรง 100 บาทต้นๆ และถ้าเกิดปรับค่าแรงเป็น 600 บาท ผมถามว่าแรงงานต่างด้าวก็มาบ้านเราหมด ซึ่งอัตราแรงงานไร้ฝีมือในบ้านเราก็เพียงพออยู่แล้ว ประมาณ 2 ล้านกว่าคน โดยเป็นคนต่างด้าวที่อยู่ในประเทศไทย แบบนี้ก็จะทำให้คนต่างด้าวหลบหนีเข้ามามากขึ้นได้

"ผมขอฝากข้อคิดไว้ข้อคิดหนึ่ง การทำแบบนี้แรงงานไทยที่กำลังทำงานอยู่ จะสุ่มเสี่ยงตกงาน ถ้าเราเป็นเจ้าของกิจการต้องจ้างแรงงาน 25,000 บาท ตามกฎหมายกำหนด แบบนี้ผู้ประกอบการจ้างเหมาดีกว่าไหม มีงานก็จ้างไม่มีงานก็ไม่จ้าง กระทบต่อแรงงานแน่นอน ภาคเอกชนไม่รับคนเพิ่มและอาจใช้วิธีแบบนี้เพื่อลดต้นทุน ส่วนในประเด็นปรับเงินเดือน 25,000 บาท ถ้าคนทำงานเดิมที่มีเงินเดือน 20,000 กว่า และคนใหม่เข้ามาทำงาน เงินเดือนขึ้นไป 25,000 บาท ระบบเงินเดือนจะปรับยังไง ต้นทุนบริษัทจะไปทางไหน นโยบายสุดโต่งแบบนี้ สุ่มเสี่ยงทำให้ลูกจ้าง แรงงานตกงานได้เลยและจะทำให้บริษัทต่างชาติที่จะมาเปิดและใช้แรงงานในไทย ย้ายฐานการผลิตไปประเทศอื่นแน่นอน ตรงนี้คุณคิดหรือเปล่าถ้าคุณเสนอตัวเป็นผู้นำประเทศ” 

เจ้ากระทรวงแรงงานยังกล่าวอีกว่า “คุณอุ๊งอิ๊ง ไม่เคยลำบากยากจนมากก่อน ไม่เคยเป็นนักธุรกิจ ไม่ได้เป็นเจ้าของกิจการที่ก่อร่างสร้างตัวมาด้วยตนเอง เกิดมาก็พ่อรวยแล้ว ถามว่าวันนี้คุณรู้ไหมว่าต้นทุนในแต่ละบริษัท ต้นทุนการตลาดต่างๆ ระบบเงินเดือน มันมีที่มาที่ไปอย่างไร ไม่ใช่อยู่ ๆ อยากจะขึ้นค่าแรงก็พูดได้ คุณรู้ไหมว่าการที่คุณหาเสียงโดยการเอาความยากลำบาก หรือความเสี่ยงปิดกิจการของนายจ้างเอามาเล่นแบบนี้ไม่ได้ คุณกำลังจะทำให้ธุรกิจในประเทศมีปัญหา นายจ้างต้องเลิกกิจการนะ

"คุณกำลังเล่นการเมืองโดยเอาเงินเอกชนมาหาเสียงตัวคุณเอง นักลงทุนที่จะมาลงทุนใน EEC (โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก) หรือต่างชาติ อย่างซาอุดีอาระเบีย จะมาลงทุนในเอเปคที่เราคุยไว้ ใครจะมาลงทุน ผมถามหน่อย คุณอุ๊งอิ๊งรู้ไหมว่าแรงงานขั้นต่ำที่คุณอุ๊งอิ๊งพูดมีคนไทยอยู่ในระบบประกันสังคม ที่เหลือเป็นแรงงานต่างด้าว 1 ล้านคน ที่เหลือก็เป็นระบบเงินเดือนฐานเงินเดือน ถ้าเราทำให้เอกชนแข็งแรง เอกชนที่ไหนเค้าจะปล่อยให้ลูกน้องเค้าเงินเดือนน้อยล่ะ 

"ถ้าคุณมีกิจการดี ส่งออกดี คุณไม่กลัวลูกน้องคุณไปอยู่บริษัทอื่นที่เงินเดือนเยอะกว่าเหรอ คุณก็ต้องปรับ วันนี้บริษัทผลิตรถยนต์ โบนัส 7 ถึง 8 เท่า เพราะนโยบายกระทรวงแรงงานเราแข็งแรงส่งเสริมเอกชน พอเค้าแข็งแรง เค้าก็ดูแลลูกน้องในระบบได้ คุณอุ๊งอิ๊ง พรรคเพื่อไทยออกนโยบายแบบนี้คุณไม่เคยลำบาก คุณรวยแล้ว คุณรู้ไหมความลำบากเป็นอย่างไร การบริหารกระทรวงแรงงานเราไม่ได้ขึ้นที่ค่าแรงงานอย่างเดียว แต่เราลงไปดูแลสวัสดิการต่าง ๆ ด้วย 

เชียงใหม่-อบจ.เชียงใหม่ ชวนเที่ยวงาน 'CHARMING Chiang Mai Flower Festival 2023' แสง สี ศิลป์ มนต์เสน่ห์ดอกไม้งาม

อบจ.เชียงใหม่ แถลงข่าวความคืบหน้าการจัดงาน 'มนต์เสน่ห์เชียงใหม่ เมืองดอกไม้งาม ประจำปี 2565' (CHARMING Chiang Mai Flower Festival 2023) ภายใต้แนวคิด “Miracle Flora” แสง สี ศิลป์ มนต์เสน่ห์ดอกไม้งาม ระหว่าง 16 ธันวาคม 2565 - 2 มกราคม 2566

วันที่ 6 ธันวาคม 2565 เวลา 17.00 น. นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมการแถลงข่าว 'งานมนต์เสน่ห์เชียงใหม่ เมืองดอกไม้งาม ประจำปี 2566' (CHARMING Chiang Mai Flower Festival 2023) 'Miracle Flora' พร้อมด้วย นายอภิชัย เอกวนากุล รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมงาน ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ 82 พรรษา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่เป็นนิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่มีแหล่งท่องเที่ยวหลัก 3 ด้าน คือแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่มีความงดงาม ความโดดเด่น ความล้ำค่าและความเลื่องลือในหลายๆ ด้าน และหนึ่งในนั้นคือ ความงดงาม ทางด้านประเพณีและวัฒนธรรม, แหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ มีชื่อเสียงด้านวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและภูเขาที่ถูกปกคลุม ไปด้วยป่าเขตร้อนที่เขียวขจี เป็นแหล่งที่อยู่ของหมู่บ้านชาวเขาหลายกลุ่ม เป็นเมืองสำคัญทางภาคเหนือและเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางสำรวจจังหวัดอื่น ๆ ต่อไปในภาคเหนือ และแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพที่มีการส่งเสริมและรักษาสุขภาพและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการจัดรายการท่องเที่ยวพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ เพื่อเรียนรู้วิธีใช้พลังงานจากธรรมชาติมาบำบัดรักษาและสร้างเสริมสุขภาพกายและสุขภาพจิต

นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ด้วยนโยบายการบริหารงานขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวได้เน้นการสร้างภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว การประชาสัมพันธ์เชิงรุกและการตลาด จึงเล็งเห็นความสำคัญของการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยว มุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดเชียงใหม่ รวมไปถึงศิลปวัฒนธรรม ประเพณีที่มีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว 

องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้จัดงานมนต์เสน่ห์เชียงใหม่ เมืองดอกไม้งาม ประจำปี 2566 (CHARMING Chiang Mai Flower Festival 2023)  ภายใต้แนวคิด “Miracle Flora” (แสง..สี..ศิลป์ มนต์เสน่ห์ดอกไม้งาม) ระหว่างวันที่ 16 ธันวาคม 2565 – 2 มกราคม 2566 ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ 82 พรรษา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ และบริเวณทิศตะวันออกของหอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา (ด้านหลังศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่) 

เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสภาพลักษณ์ที่ดีงามในวิถีชีวิตและวัฒนธรรมล้านนา รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ให้พัฒนาและเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวที่หลากหลายเหมาะสมกับแต่ละเทศกาลและสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นการสร้างความเชื่อมโยงและส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน สังคม ประชาชน และชุมชนด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่

สำหรับงานมนต์เสน่ห์เชียงใหม่ เมืองดอกไม้งาม ประจำปี 2566 (CHARMING Chiang Mai Flower Festival 2023) พิธีเปิดงานฯ ในวันที่ 16 ธันวาคม 2565 เวลา 18.00 น. ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ 82 พรรษา อำเภอเมืองเชียงใหม่ และบริเวณตรงกันข้ามหอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา (ด้านหลังศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่) งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 ธันวาคม 2565 - 2 มกราคม 2566 ตั้งแต่เวลา 18.00 – 22.00 น. 

กิจกรรมภายในงาน อาทิ งานศิลปาชีพล้านนาไทย ก้าวไกลด้วยพระบารมี ครั้งที่ 4 กิจกรรมดนตรีในสวน กิจกรรมนิทรรศการสวนไม้ดอกไม้ประดับ ซึ่งมีทั้งป่าฝนเขตร้อนแห่งกล้วยไม้นานาพันธุ์ จุดเด่น กล้วยไม้สกุลฟาแลนนอปซิส, แวนด้า และไม้ดอกไม้ประดับชนิดต่างๆ, สวนบุปผาแห่งเหมันต์ แหล่งความงามของดอกไม้เมืองหนาวสีสันสดใส มี ดอกทิวลิป, ดอกไฮเดรนเยีย, ลิลลี่, ไซคลาเมน และไลเซนทัส, พลังแห่งแสงอาทิตย์ ความสวยงามของดอกไม้เขตร้อน ทั้ง ดอกฮอลลี่ฮ็อค, เจอราเนียม, บีโกเนียดอกซ้อน และสับปะรดสี ฤดูกาลที่เปลี่ยนผัน จุดเด่น ดอกไม้ไฟ ประดับไฟแสงสี ที่ให้บรรยากาศสีสันของฤดูกาลทั้ง 4 สวยงามตระการตา และ ทุ่งดอกบลูซัลเวียบานสะพรั่ง ชูดอกสีม่วงสวยสุดลูกหูลูกตา สุดสวยงาม จุดเด่น การแสดงน้ำพุดนตรี วันละ 3 รอบ คือ ในเวลา 19.00 น., 19.45 น. และ 20.30 น. กิจกรรมนิทรรศการส่งเสริมการท่องเที่ยว (ศูนย์เรียนรู้กล้วยไม้) การสาธิตและให้ความรู้ขั้นตอนการขยายพันธุ์ การแสดงกล้วยไม้ที่หาชมได้ยาก

กิจกรรมงานมนต์เสน่ห์สินค้า OTOP และผลิตภัณฑ์ชุมชน จังหวัดเชียงใหม่ (Charming Chiang Mai OTOP and Community Products Select 2023) จำหน่ายสินค้า OTOP และผลิตภัณฑ์ชุมชน 17 จังหวัดภาคเหนือ การจำหน่ายอาหารของสมาคมร้านอาหารและสถานบันเทิงจังหวัดเชียงใหม่ (ซุ้มอาหารและFood Truck)

กิจกรรมงานมนต์เสน่ห์ควายไทยเชียงใหม่ เมืองดอกไม้งามงานมนต์เสน่ห์ควายไทยเชียงใหม่ เมืองดอกไม้งาม กำหนดจัดงาน ระหว่างวันที่ 21 – 27 ธันวาคม 2565  ตั้งแต่เวลา 7.00  น. ถึงเวลา 18.00 น. ณ บริเวณฝั่งตรงข้ามสวนเฉลิมพระเกียรติ 82 พรรษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ รายละเอียดของงานที่น่าสนใจ วันที่ 21 ธ.ค. 65 การประกวดควายงามล้านนา ประเภทควายดำ ประเภทควายเผือก วันที่ 22 ธ.ค. 65 การประกวดควายงามทั่วไป ประเภทควายดำ ประเภทควายเผือกชิงถ้วยรางวัลปลัดกระทรวงมหาดไทยและถ้วยรางวัลนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ อีกกิจกรรมที่น่าสนใจ “ยกทะเลมาสวน” ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พบกับการจำหน่ายสินค้าอาหารทะเล กิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2566 วันที่ 31 ธันวาคม 2565 และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย ให้แวะเวียนมาถ่ายภาพเก็บบรรยากาศสุดประทับใจ

ตม.ชัยภูมิ สนองนโยบายป้องกัน ปราบปรามต่างด้าวหลบซ้อน รวบอินเดียแอบลักลอบอยู่ในราชอาณาจักร เกินกว่า 974 วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามนโยบายของ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ผบช.สตม. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม.กำกับดูแลงานสืบสวน มีคำสั่งให้ทุกหน่วยในสังกัด สตม.ดำเนินการออกระดม กวาดล้างอาญากรรมประเภทต่างๆในพื้นที่รับผิดชอบโดยเฉพาะการอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดอนุญาต(OVERSTAY) รวมถึงสืบสวนหาข่าวคนต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมือง การกระทำความผิดที่มีโทษทางอาญา,ผู้ที่มีหมายจับศาลไทยหรือหมายจับศาลต่างประเทศ

ขณะที่ทางด้านพล.ต.ต.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ ผบก.ตม.4 และ พ.ต.อ.กฤษฎากรณ์ กลิ่นเกสร รอง ผบก.ตม.4 มอบหมายให้ พ.ต.ท.กวีวัฒธ์ อภิวาท สั่งการให้ชุดสืบสวน ตม.จว.ชัยภูมิ ร่วมกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่ สนธิกำลัง กับ กก.สส.ตม.4 สืบค้นหาข่าวจากสายลับโดยได้ร่วมประสานงานกับ จนท. ตร.สภ.เกษตรสมบูรณ์ จนท.ตร ท่องเที่ยวจังหวัดชัยภูมิ ตร.ทางหลวงชัยภูมิ ในพื้นที่ 

จ.ชัยภูมิ คว้า 3 รางวัล จากโครงการแสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาตครั้งที่ 8 เฉลิมพระเกียรติ

วันอังคารที่ 6 ธันวาคม พ.ศ.2565 เวลา 13.00 น. นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้รับเกียรติเป็นประธานคณะเข้ารับมอบโล่รางวัล พร้อมด้วย นางณัฏฐ์ชุดา นันทนิ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชัยภูมิ และนายแพทย์ณรงค์ศักดิ์ บำรุงถิ่น ผอ.โรงพยาบาลชัยภูมิ และนายเกษมสุข กันชัย รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขัยภูมิ เข้ารับมอบโล่รางวัล"โครงการแสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 8 เฉลิมพระเกียรติ" ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมสนับสนุนการขับเคลื่อนการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง โดยจัดให้มีกิจกรรมการแข่งขันออกกำลังกายสะสมแคลอรี่ ผ่านแอปพลิเคชัน Calories Credit Challenge : CCC และกิจกรรม นิทรรศการฯ ในโครงการแสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 8 เฉลิมพระเกียรติ “แผ่นดินไทย ไร้สโตรค” โดยกำหนดระยะเวลาการสะสมแคลอรี่ วันที่ 28 กรกฎาคม- 30 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา จังหวัดชัยภูมิได้รับรางวัลรวมทั้งสิ้น 3 รางวัล ได้แก่ 

..จากกระทรวงมหาดไทย “จังหวัด” ที่ได้คะแนนสูงสุด ด้านการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ อันดับที่ 2 

..จากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารางวัลโล่เกียรติยศ “จังหวัด” ที่จัดกิจกรรมด้านส่งเสริมออกกำลังกาย ผ่านแอปพลิเคชัน “Calories Credit Challenge (CCC)” ประเภทจังหวัดอื่นๆ 61 จังหวัดที่ไม่ใช่เมืองกีฬา ได้รับรางวัล “จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมสูงสุด” อันดับที่ 2 และประเภท “จำนวนแคลอรีสะสมสูงสุด” อันดับที่ 2 

​​​​​​

ผบ.ตร. มอบรางวัล สิบตำรวจเอก จราจร สน.ชนะสงคราม และพลเมืองดี บุกชาร์จสยบชายคลุ้มคลั่งบนสะพานพระปิ่นเกล้า ชื่นชมความกล้าหาญ เป็นแบบอย่างที่ดี

(6 ธ.ค.65) เวลา 13.00 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบรางวัล โครงการ “ทำดี มีรางวัล” กรณี ส.ต.อ.กฤษณชัย ศรีเจริญ ผบ.(หมู่) จร.สน.ชนะสงคราม พร้อม นายบุญสิน ชาวนา 

พลเมืองดี ช่วยชีวิตชายคลุ้มคลั่งใช้มีดจี้คอตัวเองบนสะพานพระปิ่นเกล้า 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ เปิดเผยว่า กรณีปรากฎเหตุการณ์ มีกระแสชื่นชมการปฏิบัติงานของตำรวจ และพลเมืองดี ในโลกโซเชียลมิเดีย เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.65 เวลาประมาณ 08.00 น. โดยมีพลเมืองดีแจ้งว่าพบ "ชายคลุ้มคลั่ง" พยายามใช้มีดจี้คอตัวเอง อยู่บนสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า แขวงอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ ส.ต.อ.กฤษณชัยฯ กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณท้องสนามหลวงที่มีพิธีทำบุญตักบาตรในวันพ่อแห่งชาติ ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ ตอนนั้น ส.ต.อ.กฤษณชัยฯ ตัดสินใจโบกรถจักรยานยนต์ของพลเมืองดี ทราบชื่อในภายหลัง คือ นายบุญสิน ชาวนา ที่ขี่รถจักรยานยนต์ขึ้นมาพอดี จึงได้นั่งรถจักรยานยนต์ของนายบุญสินฯ ขึ้นมาบนสะพานด้วยกัน 

จากนั้นจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 60 ปี สวมเสื้อสีเหลือง นุ่งกางเกงขาสั้นสีเทา ในมือขวาถืออาวุธมีดสั้นจี้ที่คอตัวเอง ส่วนมือซ้ายถืออาวุธมีดข่มขู่ไม่ให้ใครเข้าใกล้ ชายดังกล่าว อยู่ในอาการ คลุ้มคลั่ง มีรอยเลือดที่ลำคอ พูดจาโวยวายไม่ให้ใครเข้าใกล้ตน ซึ่งมีท่าทางจะทำร้ายตนเอง 

ส.ต.อ.กฤษณชัยฯ ร่วมกับนายบุญสินฯ ได้วางแผนโดยจะอาศัยจังหวะที่ชายดังกล่าวเผลอแล้วเข้าชาร์จทันที โดยคว้ามีดไว้ ขณะที่เข้าชาร์จชายคนดังกล่าวเกิดสะบัดไม่ยินยอมให้ควบคุมตัว จึงได้ยื้อยุดฉุดกระชากอยู่กลางถนน ท่ามกลางรถยนต์ที่วิ่งไปมาบนสะพาน ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะล็อคตัวช่วยไว้ได้อย่างปลอดภัย หลังควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ ได้วิทยุแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางยี่ขัน เข้ามารับตัวไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก ทั้ง ส.ต.อ.กฤษณชัยฯ และ นายบุญสินฯ สมควรได้รับการเชิดชูเกียรติ ยกย่องสรรเสริญ เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ข้าราชการตำรวจและสังคม

ขอนแก่น-กฟผ. ร่วม 'สืบสาน รักษา ต่อยอด' วันดินโลก ชูแนวคิด 'อาหารก่อกำเนิด เกิดจากดิน'

จังหวัดขอนแก่น ร่วมกับ กฟผ. มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ และสมาคมดินโลก จัดงานวันดินโลก ประจำปี 2565 “สืบสาน รักษา ต่อยอด” หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวคิด “อาหารก่อกำเนิด เกิดจากดิน” สู่พัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน 

วันอังคารที่ 6 ธันวาคม 2565 จังหวัดขอนแก่น ร่วมกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ และสมาคมดินโลก ร่วมจัดงานวันดินโลก ประจำปี 2565 ณ เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เนื่องในโอกาสวันดินโลก ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 โดยมีนายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ และนายกสมาคมดินโลก นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการ กฟผ. คณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ ชุมชนในพื้นที่ และเครือข่ายพันธมิตรกสิกรรมธรรมชาติ ร่วมเป็นเกียรติในงาน ภายใต้แนวคิด “อาหารก่อกำเนิด เกิดจากดิน” 

นายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ มาจากความร่วมมือกันจาก ทุกภาคส่วน ที่มุ่งเน้นการน้อมนําหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 มาเป็นหลักคิดในการพัฒนาประเทศตามนโยบายของรัฐบาล โดยให้ชุมชนช่วยกันรักษาป่า ฟื้นฟูดิน สร้างแหล่งน้ำไว้ใช้ และขยายความร่วมมือในทุกภาคีเครือข่าย ก่อให้เกิดรายได้กับชุมชนในท้องถิ่น โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง พร้อมมุ่งเน้นรับสนองพระราชปณิธานอันแน่วแน่ของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ตามพระปฐมบรมราชโองการที่จะ “สืบสาน รักษา ต่อยอด” พระราชกรณียกิจของพระบรมราชชนก เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาติและความอยู่ดีมีสุขของประชาชนโดยรวม 

ด้าน นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวเสริมว่า นอกจาก กฟผ. จะมีหน้าที่ผลิตและรักษาความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้า เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศแล้ว ยังให้ความสำคัญกับการดูแลสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม โดยได้ดำเนินโครงการ โคก หนอง นา โมเดล วิถีใหม่ สู่การพัฒนาเพื่อสังคมอย่างยั่งยืน ภายใต้โครงการ 7 เขื่อนพระนาม 3 โรงไฟฟ้า ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์เสริมสร้างคุณภาพชีวิตและสร้างสรรค์สังคมอย่างมีส่วนร่วม กับ 6 เครือข่ายพันธมิตร ได้แก่ กรมการพัฒนาชุมชน สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ มูลนิธิรักษ์ดินรักษ์น้ำ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร  และบริษัท เอื้อสามัคคี วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ในการพัฒนาพื้นที่ 7 เขื่อนพระนาม 3 โรงไฟฟ้าของ กฟผ. เป็นต้นแบบการดำเนินงาน และเป็นสถานที่พัฒนาทักษะให้ความรู้ สร้างความเข้าใจในการประยุกต์ใช้ศาสตร์พระราชา นำมาสู่การฟื้นฟูดิน น้ำ และผืนป่า เพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหาร น้ำ และพลังงาน ตามเป้าหมายความยั่งยืนของโลก หรือ SDGs Goal เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ ทำให้สามารถพัฒนาเศรษฐกิจทั้งในครัวเรือนและชุมชน 

'บลูเทค ซิตี้' ประสานความร่วมมือกับกลุ่มภาคีเครือข่าย ลงนาม MOU สร้างทุ่งสมุนไพรป่าชายเลนแห่งแรกของประเทศไทย

​วันนี้ 6 ธันวาคม 2565 ที่บริเวณทุ่งสมุนไพรป่าชายเลน ภายในนิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) โครงการทุ่งสมุนไพรป่าชายเลน ภายใต้แนวคิดการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวม (BCG Model) โดยมีนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรมบลูเทคซิตี้  และภาคีเครือข่าย 7 สถาบัน ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) โครงการทุ่งสมุนไพรป่าชายเลน ภายใต้แนวคิดการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวม (BCG Model) ได้แก่ เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว

นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้  กล่าวว่า จากสภาวะโลกร้อน ปัญหาสุขภาพคนเมือง และปัญหาเศรษฐกิจในครัวเรือน ปัญหาเหล่านี้ทำให้บลูเทคซิตี้ เล็งเห็นความสำคัญของสุขภาพและสิ่งแวดล้อม จึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจให้ทำโครงการ 'ทุ่งสมุนไพรป่าชายเลนแห่งแรกของประเทศไทย' โดยการเชิญปราชญ์ชาวบ้านมาแนะนำการปลูกสมุนไพรพื้นถิ่นไทย 'ต้นเหงือกปลาหมอ' ที่มีประวัติการนำมาใช้เป็นยาสมุนไพรมาตั้งแต่โบราณกาล โดยมักพบในบริเวณป่าชายเลน สามารถนำเป็นยาและเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง อีกทั้งพื้นที่ดังกล่าวยังเป็นพื้นที่อนุรักษ์ป่าชายเลน สร้างความสมดุลให้กับสิ่งแวดล้อม รวมถึง สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับชุมชนโดยรอบ เป็นแหล่งพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมภายในตำบลเขาดิน ให้เป็นหนึ่งในเมืองอัจฉริยะ เพื่อเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวมได้เป็นอย่างดี โดยร่วมมือกับภาคีเครือข่าย ประกอบด้วย กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง /กอ.รมน.จังหวัดฉะเชิงเทรา มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ มหาวิทยาลัยบูรพา สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดฉะเชิงเทรา และองค์การบริหารส่วนตำบลเขาดิน

‘บิ๊กป้อม’ เผย ทุกหน่วยรับมือฤดูฝนอย่างเคร่งครัด ‘บรรเทาภาระ - ลดผลกระทบ’ ต่อประชาชนได้มาก

พล.อ.ประวิตร เผย ทุกหน่วยงานดำเนินการตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝนอย่างเคร่งครัด ลดผลกระทบต่อประชาชนได้เป็นอย่างมาก

(6 ธันวาคม 2565) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รายงานต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า จากการประชุมคณะอนุกรรมการอำนวยการด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อติดตามการดำเนินการตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝน ในพื้นที่ภาคใต้ และ 10 มาตรการรองรับฤดูแล้ง หน่วยงานได้ดำเนินการอย่างเคร่งครัด ลดผลกระทบต่อประชาชนเป็นอย่างมาก 

เพชรบูรณ์-จัดโครงการเครือข่ายหมู่บ้าน/ชุมชนร่วมใจต้านภัยยาเสพติดจังหวัดเพชรบูรณ์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

ที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ 1 นายชนก มากพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานพิธีเปิดการฝึกอบรม 'โครงการเครือข่ายหมู่บ้าน/ชุมชนร่วมใจ ต้านภัยยาเสพติด จังหวัดเพชรบูรณ์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566' โดยมีนายชัยสิทธิ์ ชัยสัมฤทธิ์ผล ปลัดจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวรายงาน พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ และผู้เข้ารับการฝึกอบรมจาก 11 อำเภอ จำนวน 100 คน เข้าร่วม

นายชัยสิทธิ์ ชัยสัมฤทธิ์ผล ปลัดจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ที่ทำการปกครองจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้จัดทำ โครงการเครือข่ายหมู่บ้าน/ชุมชนร่วมใจต้านภัยยาเสพติด จังหวัดเพชรบูรณ์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 จำนวน 1 รุ่น โดยใช้เวลาการฝึกอบรมจำนวน 2 คืน 3 วัน ระหว่างวันที่ 6-8 ธันวาคม 2565 มีผู้เข้ารับการฝึกอบรมจาก 11 อำเภอ จำนวน 100 คน โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสำรวจกลุ่มเป้าหมาย เยาวชน ที่มีแนวโน้มหรือมีโอกาสที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือสร้างปัญหาในพื้นที่หมู่บ้าน/ชุมชนในอนาคต เพื่อใช้เป็นกลุ่มเป้าหมายในการเฝ้าระวัง เพื่อคัดเลือกประชาชนวัยเสี่ยง ห้วงอายุ 13-29 ปี ที่อำเภอเห็นว่าเป็นผู้ที่จะสามารถนำมาพัฒนาให้เป็นผู้นำ หรือเป็นแนวร่วมทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อป้องกันปัญหายาเสพติดในพื้นที่ได้ตามเป้าหมายที่กำหนด เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและหากิจกรรมการมีส่วนร่วมให้แก่ประชาชนวัยเสี่ยง ห้วงอายุ 13-29 ปี ที่ไม่ได้อยู่ในระบบการศึกษาภาคปกติ หรือกลุ่มว่างงาน หรือเป็นผู้มีจิตอาสาช่วยเหลืองานสาธารณประโยชน์ ได้มีส่วนร่วมในการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับครอบครัวและชุมชน ได้ตระหนักรู้ถึงปัญหายาเสพติด เพื่อลดและป้องกันผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดรายใหม่ โดยการมีส่วนร่วมทำกิจกรรมกลุ่มในชุมชนอย่างต่อเนื่อง และเพื่อเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพการทำงานของอำเภอ ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยการนำประชาชนที่ผ่านการ ฝึกอบรมหลักสูตร มาช่วยเหลืองานของทางราชการ หรือการรวมกลุ่มจัดกิจกรรมรูปแบบต่างๆ ร่วมกัน เช่น ดนตรี กีฬา หรืองานบริการสาธารณประโยชน์ในพื้นที่

'อลงกรณ์' เปิดงานวันดินโลก ปี2565 (World Soil Day 2022) สดุดีพระเกียรติคุณในหลวงรัชกาลที่ 9

'อลงกรณ์' เปิดงานวันดินโลก ปี2565 (World Soil Day 2022) สดุดีพระเกียรติคุณในหลวงรัชกาลที่ 9 ย้ำความสำคัญของดิน ภายใต้คอนเซ็ปต์ 'อาหาร ก่อกำเนิด เกิดจากดิน' (Soils, where food begins)

5 ธ.ค.65 นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังได้รับมอบหมายจาก ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้เป็นประธานเปิดงานวันดินโลก ปี 2565 (World Soil Day 2022) “Soils, where food begins: อาหารก่อกำเนิด เกิดจากดิน” และมอบรางวัล King Bhumibol World Soil Day Award ให้กับผู้ชนะรางวัล โดยมี นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายปราโมทย์ ยาใจ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน นายพิศาล พงศาพิชณ์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) นาย ณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว นางนงลักษณ์ เกตุเวชสุริยา คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายชัยวุฒิ บรรณรักษ์ อดีตรัฐมนตรีอุตสาหกรรมและ ส.ส.จังหวัดตาก นายเธียรชัย สุวรรณเพ็ญ อดีต ส.ส.ตาก นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ผู้แทนหมอดินจากทั่วประเทศ ผู้แทนหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯและส่วนราชการต่าง ๆ ตลอดจนประชาชนเข้าร่วมงาน ณ สถานีพัฒนาที่ดินตาก ตำบลแม่ท้อ อำเภอเมือง จังหวัดตาก 

โดยนายอลงกรณ์กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณแก่ปวงชนชาวไทย พระราชทานแนวพระราชดำริด้านการจัดการทรัพยากรดินเพื่อการเกษตร ผ่านโครงการพระราชดำริต่างๆ จนเป็นที่ประจักษ์ในพระปรีชาสามารถและยอมรับไปทั่วโลก โดยสหภาพวิทยาศาสตร์ทางดินนานาชาติ (IUSS) ได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัล "นักวิทยาศาสตร์ดิน เพื่อมนุษยธรรม (Humanitarian Soil Scientist)"เป็นพระองค์แรกของโลกต่อมาองค์การสหประชาชาติ ได้ประกาศสดุดีพระเกียรติคุณ โดยรับรองให้วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันดินโลกและบรรจุในปฏิทินการปฏิบัติงานขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) และประเทศสมาชิกทั่วโลกจะร่วมกันจัดกิจกรรมในวันสำคัญนี้

ขณะเดียวกันหลังการประชุม APEC ที่รัฐบาลไทยได้เป็นเจ้าภาพที่ผ่านมา ประเทศทั่วทุกภูมิภาคต่างเล็งเห็นถึงความสำคัญของวิกฤติความมั่นคงทางอาหารและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยได้มีการกำหนดเป้าหมายร่วมกัน ใช้โมเดลเศรษฐกิจใหม่ Bio-Circular-Green Economy หรือ BCG Model เข้ามาขับเคลื่อนเป็นหลักในการพัฒนาสู่ “เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” (Sustainable Development Goals: SDGs) สำหรับการจัดงานวันดินโลกกระทรวงเกษตร ฯ ถือเป็นวาระของการรณรงค์ความสำคัญของดินที่เป็นปัจจัยหลักในการผลิตภาคเกษตร เป็นแหล่งกำเนิดปัจจัย 4 และเป็นทรัพยากรที่เมื่อใช้ไปแล้ว หากไม่มีการบำรุงรักษาอย่างถูกวิธีจะเกิดการเสื่อมโทรม และการฟื้นฟูให้กลับคืนความอุดมสมบูรณ์ต้องใช้เวลานับพันปีจึงจำเป็นที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือร่วมใจเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ช่วยรักษาทรัพยากรดินให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน และเป็นรากฐานการผลิตทางการเกษตรที่ส่งผลให้เกิดความมั่นคง ปลอดภัย และยั่งยืน ตามเป้าหมายของการขจัดความอดอยากหิวโหย (Zero hunger) และการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ

สำหรับกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นภายในงานประกอบด้วย นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ นิทรรศการดินโลกนิทรรศการ “มหัศจรรย์พืชพันธุ์ จากดินทั่วถิ่นไทย” จัดแสดงความหลากหลายของทรัพยากรดิน และพืชอาหารทั่วประเทศไทยนิทรรศการมีชีวิต แสดงแปลงองุ่นและเสาวรสปลอดภัย แปลงผักบ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง แปลงข้าวสรรพสี สตรอเบอร์รี่ และกะหล่ำปลี พืชผัก 4 ภาค นิทรรศการนวัตกรรมและเกษตรอัจฉริยะ นิทรรศการวิชาการผลิตผลเกษตรที่สูงเสวนาระดับนานาชาติ เสวนาหมอดินอาสา ฐานเรียนรู้ด้านการปรุงดิน เรื่องอนุรักษ์ดินและน้ำกิจกรรมประกวดแข่งขันต่างๆ อาทิ ประกวดภาพถ่าย ประกวดวาดภาพจากดิน แข่งขันจัดกระเช้าพืชผัก/ผลไม้อินทรีย์แข่งขันทำอาหารเป็นต้น กิจกรรมเดินเทรล เช็คอินกับสัญลักษณ์วันดินโลกขนาดใหญ่ พร้อม “ชิม ช้อป ชา กาแฟ ชนเผ่า” และร้านค้าผลผลิตจากเกษตรกร ขอเชิญชวนคนไทยทั้งประเทศได้เข้าร่วมงานวันดินโลก ประจำปี 2565 ในระหว่างวันที่ 4 - 7 ธันวาคม 2565 ณ สถานีพัฒนาที่ดินตาก อำเภอเมือง จังหวัดตาก

'เสี่ยเทียม' เถ้าแก่ชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ร.9 ตั้งโรงทานปีที่ 19

(5 ธ.ค. 65)  เมื่อเวลา 09.00 น. บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 385-7 ตรงข้ามสำนักงานยาสูบฯ ถนนอภิบาลบัญชา เยื้องทางออกตลาดสดเทศบาลเมืองนครพนม ซึ่งเป็นอาคารร้านเทียมศักดิ์พาณิชย์ โดยมีนายเทียมศักดิ์ เวียงศรีประเสริฐ อายุ 75 ปี และ นางเกตุวดี เวียงศรีประเสริฐ อายุ 73 ปี สองสามีภรรยาชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม เจ้าของผลิตภัณฑ์ข้าวสาร-ข้าวเหนียวตราเรือไฟ ฯลฯ จัดส่งจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ พร้อมลูกหลานญาติมิตรร่วมตั้งโรงทานถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ ประจำปี 2565 ทั้งนี้มีร้านวิทยาอิเล็คทริคเซ็นเตอร์ ผู้แทนจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า ได้นำขนมหวานเป็นลอดช่องรสชาติหวานมันมาร่วมเป็นประจำทุกปี

สำหรับปีนี้ยังคงแจกเป็นข้าวกล่อง เพื่อหลีกเลี่ยงการแออัดป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด มีทั้งอาหารประกอบด้วย ผัดกะเพราะหมู ไก่ผัดขิง พะโล้ไข่ดาว กุนเชียง หมูทอด ผัดเผ็ดถั่วฝักยาวใส่หมูกรอบ ไข่เจียว ใส่กล่องให้ประชาชนที่ผ่านไปมาหยิบไปรับประทานฟรีพร้อมน้ำเต้าหู้ ลอดช่อง และปฏิทินที่เป็นภาพพระบรมฉายาลักษณ์ โดยมีประชาชนเข้าคิวเข้ารับอาหารเป็นแถวยาว โดยครอบครัวเวียงศรีประเสริฐจะตั้งโรงทานเนื่องในวันพ่อแห่งชาติ ตั้งแต่ 09.00-13.00 น.

นายเทียมศักดิ์ เปิดเผยว่า เป็นคนไทยเชื้อสายเวียดนาม บิดามารดาอพยพหนีภัยสงครามมาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร ทำงานรับจ้างเก็บหอมออมริบจนมีฐานะดีขึ้น นายเทียมศักดิ์เล่าว่าช่วงครอบครัวลำบาก พบเห็นความมีน้ำใจของคนไทย หยิบยื่นสิ่งของต่าง ๆ ช่วยเหลือ เมื่อมีฐานะก็อยากทดแทนน้ำใจคนไทย และแทนคุณแผ่นดิน

“ตลอดเวลาผมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในหลวงรัชกาลที่ 9 ยิ่งกว่าสิ่งใด ที่มีฐานะมาถึงทุกวันนี้เพราะยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ท่าน เมื่อมีโอกาสก็ขอทดแทนคุณแผ่นดิน จึงยึดเอาวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันพ่อแห่งชาติ ตั้งโรงทานเชิญชวนประชาชนแวะมาทานอาหารแบบไม่อั้น โดยผมจัดมาตั้งแต่ปี 2546 เรื่อยมาถึงปัจจุบันก็เป็นปีที่ 19 แล้ว ซึ่งผมจะทำเช่นนี้ตลอดไป หมดผมก็มีลูกมีหลานที่จะสืบทอดกิจกรรมนี้ ผมระลึกเสมอว่าครอบครัวเวียงศรีประเสริฐมีธุรกิจใหญ่โตมาได้เพราะบุญคุณแผ่นดินไทย ที่มีพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ด้วยทศพิธราชธรรม และการที่จะรวยไม่ใช่อยู่ที่เงินอย่างเดียว ต้องรวยน้ำใจรวยศีลทานด้วย” นายเทียมศักดิ์ฯ กล่าว

'อ.อ๊อด' ชี้!! วิธีสังเกต อาหารปนเปื้อนสารฟอร์มาลิน แนะ!! สารละลายด่างทับทิมช่วยละลายน้ำได้

จากกรณีกรมปศุสัตว์ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ชลบุรี บุกยึดของกลางชิ้นส่วนเนื้อและเครื่องในสุกรและโค จำนวนกว่า 25,000 กิโลกรัม แช่ในถังน้ำผสมฟอร์มาลินรายใหญ่ ส่งขายร้านหมูกระทะ และร้านอาหารอีสาน กว่า 66 แห่งในพื้นที่ใกล้เคียง มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น 

ล่าสุด รองศาสตรจารย์วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อ.อ๊อด ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า อาหารที่มักพบสารฟอร์มาลินปนเปื้อน ได้แก่อาหารทะเล เนื้อสัตว์ ผักสด และผลไม้ ซึ่งวิธีสังเกตง่าย ๆ คือ

>> ถ้าเป็นเนื้อสัตว์ หากถูกแสงแดด หรือลมเป็นเวลานาน แล้วยังสดอยู่ก็ไม่ควรซื้อ

>> ถ้าเป็นอาหารทะเลที่เนื้อแข็งบางส่วน เปื่อยยุ่ยบางส่วน ไม่ควรซื้อ

>> ถ้าเป็นผัก ผลไม้ที่มีลักษณะแข็ง เขียว กรอบหรือสดผิดปกติ ให้ดมที่ใบ ผลหรือหักก้านดม ถ้ามีกลิ่นแสบจมูกแสดงว่ามีฟอร์มาลินปนเปื้อน

'หมอธีระวัฒน์' ยก 10 เรื่องการันตี 'โควิด' ดีขึ้นจริง แม้ยังติดเชื้อเข้มข้นในหลายประเทศและในไทย

(5 ธ.ค. 65)  ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า โควิดน่าจะดีขึ้นจริง

1. แม้ว่าการติดเขื้อจะเข้มข้นหนาแน่นในหลายประเทศและในไทย

2. แต่ข้อสำคัญ ต้องดูอัตราเข้า รพ. และเสียชีวิต

3. และสาเหตุที่เข้า รพ. และตาย เป็นสาเหตุตรงจากโควิดหรือมีโรคอื่นเป็นตัวการอยู่ แต่ตรวจเจอโควิด?

4. ทั่วโลก ในข้อ 2 ดีขึ้นมาก และมาตรการผ่อนคลายจนเกือบหมดแล้ว ยกเว้น ญี่ปุ่น ที่เข้า รพ. และเสียชีวิตมาก และ เยอรมัน ที่เสียชีวิตมาก แต่คงต้องดู ข้อ 3 ประกอบ ว่าเป็นสาเหตุตรง?

5. จีน ประชากร 1,600 ล้านคน แต่จำนวนเข้า รพ. ไม่ได้มาก และตายน้อยมาก จากข้อมูลจากรัฐบาลจีนที่ตรวจใช้ พีซีอาร์แบบถี่ยิบ

6. ดังนั้น อย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่น่าอธิบาย

>> แอฟริกาใต้ วัคซีนน้อยมาก โรคสงบมานาน

>> ยุโรป เรียบร้อยหมด

>> อังกฤษ สงบ

>> จีน วัคซีนเชื้อตาย 2 – 3 เข็ม ฉีดให้ประชากรมากกว่า 70% และตายน้อยมากในสถานการณ์โอมิครอนปัจจุบัน ที่อาจมี BF.7 ด้วยซ้ำ

>> ญี่ปุ่น เยอรมัน mRNA วัคซีน กันหลายเข็มด้วยซ้ำทั้งประเทศ

>> ญี่ปุ่น กับ อเมริกา เชื้อดูจะใกล้กัน ด้วยแต่ อเมริกากลับดีกว่า

ผบ.ตร.ปรุงอาหาร โรงครัวพระราชทาน 'วันพ่อแห่งชาติ' ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

วันนี้ (5 ธันวาคม 2565) เวลา 09.45 น. ที่วัดปทุมวนารามฯ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร, พล.ต.ท ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ท.โสภณรัชต์  สิงหจารุ พตร., พล.ต.ต.สยาม บุญสม รอง ผบช.น. และจิตอาสา 904 เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาพระราชทาน 'วันพ่อแห่งชาติ' เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 5 ธันวาคม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ส่วนราชการ ภาคเอกชน ผู้มาให้บริการประชาชนในพื้นที่

โดยจัดกิจกรรมจิตอาสา การออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ของโรงพยาบาลตำรวจ ตรวจสุขภาพทั่วไป ตรวจช่องปาก และฟัน ตรวจโรคเกี่ยวกับตา กล้ามเนื้อและกระดูก มีการทำกายภาพบำบัด และฝังเข็ม โดยกลุ่มงานเวชศาสตร์ฟื้นฟู การให้บริการคำปรึกษาด้านต่างๆ โดยกลุ่มงานพยาบาลตำรวจและกลุ่มงานเวชศาสตร์ครอบครัว และมีการสาธิตการทำ CPR

'นายกฯ-ภริยา' เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์-ทำบุญตักบาตร คล้ายวันพระบรมราชสมภพ ในหลวงรัชกาลที่ 9

'บิ๊กตู่' และ 'อาจารย์น้อง' เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตร เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2565 เป็นประธานพิธีวางพานพุ่มและถวายบังคม เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2565

(5 ธ.ค. 65) 7.30 น. ที่พิธีท้องสนามหลวง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และ นางนราพร จันทร์โอชา ภริยา เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตร เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2565 โดยมีคณะองคมนตรีและภริยา ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกาและภริยา ประธานวุฒิสภา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญและภริยา รองนายกรัฐมนตรีและภริยา หน่วยราชการในพระองค์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้บัญชาการเหล่าทัพและภริยา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและภริยา หัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า ปลัดกรุงเทพมหานคร และผู้แทนองค์กรภาคีเครือข่ายภาคเอกชน ร่วมพิธีซึ่งพร้อมใจแต่งกายชุดสุภาพโทนสีเหลือง

เมื่อนายกรัฐมนตรีและภริยาเดินทางถึงปะรำพิธีท้องสนามหลวง พระสงฆ์ จำนวน 10 รูปขึ้นนั่งอาสน์สงฆ์ นายกรัฐมนตรีจุดเทียนบูชาพระรัตนตรัย จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล พระสงฆ์ให้ศีล พระสงฆ์ให้ศีล จบ สวดพระพุทธมนต์

จากนั้น คณะองคมนตรีและภริยา นายกรัฐมนตรีและภริยา ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกาและภริยา ประธานวุฒิสภา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญและภริยา รองนายกรัฐมนตรีและภริยา หน่วยราชการในพระองค์ ถวายเครื่องไทยธรรมแด่พระสงฆ์ จำนวน 10 รูป นายกรัฐมนตรีถวายผ้าไตร จำนวน 10 ไตร พระสงฆ์สดัปกรณ์ อนุโมทนา นายกรัฐมนตรีกรวดน้ำรับพร กราบลาพระรัตนตรัย ถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีและภริยา นำผู้เข้าร่วมพิธีร่วมตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 189 รูป เสร็จพิธี

จากนั้น เวลา 08.30 น. ณ บริเวณพิธีท้องสนามหลวง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา เป็นประธานในพิธีวางพานพุ่มและถวายบังคม เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2565 โดยมีประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกาและภริยา ประธานวุฒิสภา ประธานองค์กรอิสระและคู่สมรส คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้บัญชาการเหล่าทัพและภริยา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและภริยา หัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า ปลัดกรุงเทพมหานคร และภาคีเครือข่ายภาคเอกชน ร่วมพิธี

นายกรัฐมนตรีวางพานพุ่มดอกไม้ในนามนายกรัฐมนตรี 1 พาน และในนามคณะรัฐมนตรี 1 พาน จากนั้น ภริยานายกรัฐมนตรีวางพานพุ่มดอกไม้ในนามคู่สมรสคณะรัฐมนตรี 1 พาน จากนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ความว่า “เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติในวันนี้ ข้าพระพุทธเจ้า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี ข้าราชการ และพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ต่างน้อมจิตมั่นร้อยรวมดวงใจเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาสุดมิได้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top