Sunday, 16 June 2024
NEWS

รมว.แรงงาน เผยโควตา ปี 65  อิสราเอลรับแรงงานภาคเกษตร 6,500 คน

กรมการจัดหางาน เปิดรับสมัคร และคัดเลือกคนหางานเพื่อไปทำงานภาคเกษตรในรัฐอิสราเอล ภายใต้โครงการ “ความร่วมมือไทย – อิสราเอลเพื่อการจัดหางาน” (TIC) ครั้งที่ 16 ระหว่างวันที่ 15 – 25 พฤศจิกายนนี้

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และรองนายกรัฐมนตรี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงานให้ความสำคัญกับการส่งเสริมแรงงานไทยให้เดินทางไปทำงานต่างประเทศ เพื่อมีงานทำ นำรายได้ ประสบการณ์และทักษะที่ได้รับจากการทำงานในต่างประเทศมาพัฒนาตนเองหรือต่อยอดกิจการ โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 รัฐอิสราเอลเพิ่มโควตารับแรงงานภาคเกษตรจากประเทศไทยเป็น 6,500 คน มากกว่าปีที่แล้วที่ให้โควตาไว้ 5,000 คน  ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถสมัครด้วยตนเองได้ที่เว็บไซต์ https://toea.doe.go.th  ระหว่างวันที่ 15 – 25 พฤศจิกายน 2564

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ในเดือนพฤศจิกายนนี้กรมการจัดหางานจะเปิดรับสมัครและคัดเลือกคนหางานเพื่อไปทำงานภาคเกษตรในรัฐอิสราเอล ภายใต้โครงการ “ความร่วมมือไทย – อิสราเอลเพื่อการจัดหางาน” (Thailand-Israel Cooperation on the Placement of Workers : TIC) ครั้งที่ 16 ตำแหน่งคนงานภาคเกษตร (เพศชาย) ซึ่งจะมีระยะเวลาการจ้างงานตามสัญญาจ้าง 2 ปีแต่ไม่เกิน 5 ปี 3 เดือน โดยคนหางานจะได้รับเงินเดือนขั้นต่ำก่อนหักภาษีเดือนละ 5,300 เชคเกลอิสราเอล หรือ ประมาณ 55,954 บาท (อัตราแลกเปลี่ยนเงินวันที่ 11 พฤศจิกายน 2564) คุณสมบัติของผู้สมัคร มีสัญชาติไทย เป็นเพศชายที่พ้นภาระการรับราชการทหาร เกิดระหว่างวันที่ 15 พฤศจิกายน 2525 – 25 พฤศจิกายน 2541 ไม่มีประวัติอาชญากรรม ไม่มีคู่สมรส บุตร หรือบิดาและมารดาพำนักอยู่ในประเทศอิสราเอล และไม่เคยทำงานในประเทศอิสราเอล สุขภาพแข็งแรง ตาไม่บอดสี ไม่เสพสารเสพติด และต้องมีประสบการณ์ทำงานภาคการเกษตร (ปลูกพืช/ เลี้ยงสัตว์) 

“ผู้สนใจสมัครสามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ https://toea.doe.go.th ลงทะเบียนระบบอิเล็กทรอนิกส์ การบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ กรอกข้อมูลเพื่อลงทะเบียนคนหางาน และผู้สมัครงานสามารถตรวจสอบสถานะการสมัครได้ที่ E-Mail ของตนเอง หรือที่เว็บไซต์ https://toea.doe.go.th ในหัวข้อ “ดูรายการสมัครไปทำงานโดยรัฐจัดส่ง”กรณีผู้สมัครไม่สามารถ

“ โฆษกรัฐบาล” สวน “หญิงหน่อย” ถ้านโยบายดีจริง ชาวนาไม่ต้องทนทุกข์ตั้งแต่รัฐบาลก่อน 

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ระบุว่า นโยบายประกันราคาข้าวไม่สามารถแก้ปัญหาข้าวเปลือกตกต่ำ เป็นความทุกข์ซ้ำซากของชาวนา หากพรรคไทยสร้างไทยได้เป็นรัฐบาล จะเร่งแก้ไขปัญหาเพื่อให้ชาวนาหายจนหมดหนี้ มีรายได้อย่างมั่นคง ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ยืนยันมาตลอดว่าจะดูแลเกษตรกรทั่วประเทศ ขณะนี้เร่งให้กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกันวิเคราะห์แนวโน้มราคาพืชผลทางการเกษตร เพื่อหามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเหมาะสม และไม่เป็นการบิดเบือนกลไกตลาด รวมถึงเร่งส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าวอย่างเป็นระบบด้วย

นอกจากนี้มีการจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนการดำเนินโครงการประกันราคาข้าว รวมทั้งยังส่งเสริมการจัดตั้งศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวอินทรีย์ชุมชน และโรงสีข้าวอินทรีย์ของเครือข่าย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ลดต้นทุนราคา ให้ข้าวไทยสามารถแข่งขันกับตลาดต่างประเทศได้ ซึ่งเป็นวิธีที่อาจจะต้องใช้เวลาบ้าง แต่จะเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรอย่างยั่งยืน

นายธนกร กล่าวว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ชี้แจงชัดเจนแล้วว่าราคาข้าวจะขึ้นอยู่กับปริมาณความชื้น ดังนั้นจะเอาข้าวที่มีความชื้นมาเทียบราคาข้าวแห้งที่ไม่มีความชื้นไม่ได้ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลได้อนุมัติโครงการประกันรายได้ ปี 2564/65 และมาตรการคู่ขนานอื่น วงเงิน 18,000 ล้านบาท ขณะที่เงินประกันรายได้นั้นจะจ่ายให้ 33 งวด งวดที่ 1 และ 2 จ่ายไปแล้วเมื่อวันที่ 9-10 พ.ย.ที่ผ่านมา วงเงิน 13,000 ล้านบาท ส่วนงวดที่เหลือจะจ่ายสัปดาห์ละครั้ง แต่จะจ่ายครั้งละเท่าไหร่นั้นขึ้นอยู่กับราคาข้าวที่เป็นจริงในขณะนั้นด้วย ส่วนการแก้ปัญหาระยะกลางและยาวนั้น รัฐบาลได้วางยุทธศาสตร์ข้าวระยะ 5 ปี จะลดต้นทุนการทำนาของชาวนาจาก 6,000 บาทต่อไร่ เหลือ 3,000 บาทต่อไร่ภายใน 5 ปี รวมถึงภายในปี 2567 จะเร่งพัฒนาส่งเสริมในการใช้พันธุ์ข้าว 12 ชนิด ซึ่งเป็นพันธุ์ข้าวที่เป็นไปตามความต้องการของตลาด ซึ่งเป็นไปตามยุทธศาสตร์การตลาดนำการผลิต 

'นายกฯ' ปาฐกถา เวที APEC CEO Summit ย้ำแนวคิด ไทยมุ่งมั่นจะทำให้ APEC เปิดกว้าง-เชื่อมโยง-สมดุล ในทุกมิติ

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เวลา 07.06 น. ตามเวลาประเทศไทย (หรือเวลา 13.06 น. ของเมืองโอ๊คแลนด์) ณ เมืองโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวปาฐกถาในการประชุม APEC CEO Summit ภายใต้หัวข้อ “ประเด็นสำคัญการเป็นเจ้าภาพของไทยในปี 2565” (Thailand’s Priorities for APEC 2022) ผ่านระบบการประชุมทางไกล 

นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความยินดีกับ ABAC นิวซีแลนด์ที่จัดการประชุมครั้งนี้ออกมาได้เป็นอย่างดี โดยในปี 2564 เป็นอีกปีที่ท้ายเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงส่งผลกระทบอย่างรุนแรง อย่างไรก็ดี APEC ภายใต้การเป็นเจ้าภาพของนิวซีแลนด์ และด้วยจิตวิญญาณแห่งความร่วมมือ ได้พิสูจน์ว่า APEC สามารถยืนหยัดเอาชนะความท้าทายต่าง ๆ ฟื้นฟูการสาธารณสุข เปิดพรมแดน และพลิกฟื้นเศรษฐกิจ โดยมีเป้าหมายเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน โลกที่เราอยู่อาศัย และความมั่งคั่งร่วมกัน โดยตัวอย่างความสำเร็จของ APEC คือ ความพยายามร่วมกันในการเพิ่มการเข้าถึงวัคซีน และการอำนวยความสะดวกในการขนส่งวัคซีนและเวชภัณฑ์ ซึ่งในประเด็นนี้ต้องขอขอบคุณการสนับสนุนจากภาคเอกชนด้วย

เวลานี้เป็นโอกาสในการเปลี่ยนทัศนคติไปสู่ “ความพอดี” สร้างสังคมหลังการแพร่ระบาดที่มีความยั่งยืนและสมดุล โดยประเทศไทยได้นำโมเดลการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG) มาใช้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ชาติในการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19 และโมเดลนี้จะขับเคลื่อนประเด็นสำคัญในการเป็นเจ้าภาพ APEC ของไทย นอกจากนี้ ไทยมุ่งมั่นสานต่อการทำงานที่ผ่านมาของ APEC และเชื่อมโยงกับวิสัยทัศน์ปุตราจายา ค.ศ. 2040 โดยแปลงวิสัยทัศน์ไปสู่การปฏิบัติ ผ่านปัจจัยขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ 3 ประการ ได้แก่ 1) การค้าและการลงทุน 2) ดิจิทัลและนวัตกรรม และ 3) ความยั่งยืนและการมีส่วนร่วม โดยการรับรองแผนปฏิบัติการของวิสัยทัศน์ปุตราจายาในคืนนี้จะเป็นความสำเร็จที่สำคัญของนิวซีแลนด์ในการแปลงวิสัยทัศน์ของผู้นำ APEC ไปสู่แผนการทำงานที่เป็นรูปธรรมและปฏิบัติได้จริง

ในปี 2565 ประเทศไทยมุ่งมั่นจะทำให้ APEC “เปิดกว้าง” สำหรับทุกโอกาส “เชื่อมโยง” ในทุกมิติ และ “สมดุล” ในทุกด้าน วาระการเป็นเจ้าภาพ APEC ของไทยจะสอดคล้องกับเป้าหมายและการดำเนินการที่มีอยู่แล้วของ APEC แต่นำเสนอภายใต้แนวคิดแบบใหม่ โดยประเด็นสำคัญมีอยู่ 3 ประการ ดังนี้

ประการแรก การอำนวยความสะดวกการค้าและการลงทุน สานต่อการเปิดตลาดผ่านการส่งเสริมระบบการค้าพหุภาคี พยายามฟื้นการหารือเรื่องการจัดทำเขตการค้าเสรีในเอเชีย-แปซิฟิก (FTAAP) หลังยุคโควิด-19 ส่งเสริมการรวมตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงไปสู่ดิจิทัล และการรับมือกับประเด็นทางการค้าใหม่ ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สาธารณสุข และการพัฒนาที่ครอบคลุม ซึ่งไทยหวังว่าจะได้ทำงานอย่างแข็งขันร่วมกับภาคเอกชนในเรื่องนี้

ประการที่สอง การฟื้นฟูความเชื่อมโยง ไทยให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูการเดินทางข้ามพรมแดนที่ปลอดภัยและไร้รอยต่อ โดยตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ไทยได้เปิดประเทศเพื่อรับนักเดินทางทางอากาศจาก 63 ประเทศและอาณาเขต ซึ่งเขตเศรษฐกิจ APEC ส่วนใหญ่ก็รวมอยู่ด้วย ทั้งนี้ ความเชื่อมโยงเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญที่ไทยจะผลักดัน ไทยจะดำเนินการตามคำแนะนำของ ABAC ในการจัดตั้งคณะทำงานด้านการเดินทางอย่างปลอดภัย เพื่อร่วมมือกันเชื่อมโยงภูมิภาคเข้าด้วยกันอีกครั้ง 

ประการที่สาม การส่งเสริมการเติบโตที่ยั่งยืนและครอบคลุม ไทยยืนยันว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของ APEC จะครอบคลุมและยั่งยืน โดยในที่ประชุม COP26 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้นำประเทศต่าง ๆ ได้ยืนยันความมุ่งมั่นร่วมกันเพื่อนำไปสู่การสร้างความยั่งยืนและการมีสภาพภูมิอากาศที่ดี โดยไทยจะศึกษาโมเดลทางเศรษฐกิจ และการดำเนินการทางเศรษฐกิจต่าง ๆ รวมถึง โมเดลเศรษฐกิจ BCG ซึ่งให้ความสำคัญกับการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมในภูมิภาค ควบคู่ไปกับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่น 

‘Mount Nicholson’ อพาร์ตเมนต์ฮ่องกงสุดพีค ราคาพุ่งเกือบ 6 แสนบาทต่อตารางฟุต

Mount Nicholson ในฮ่องกง กลับมาทวงบัลลังก์เป็นอพาร์ตเมนต์ที่แพงที่สุดในเอเชีย หลังถูกขายไปได้ในราคากว่า 592,000 บาทต่อตารางฟุต

Bloomberg รายงานว่าอพาร์ตเมนต์สุดหรูจากโครงการ Mount Nicholson บนพื้นที่เขตเดอะพีค ซึ่งตั้งอยู่บนระดับความสูงที่สุดในฮ่องกงขายได้ในราคา 640 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือราว 2.7 พันล้านบาท กลายเป็นอพาร์ตเมนต์ที่แพงที่สุดในเอเชีย

โดยบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ Wharf Holdings ร่วมกับ Nan Fung Development ขายอพาร์ตเมนต์สุดหรูขนาด 4,544 ตารางฟุต (442 ตารางเมตร) บนพื้นที่เกาะฮ่องกงพร้อม 3 ที่จอดรถ ไปได้ในราคา 140,800 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 592,000 บาท) ต่อตารางฟุต

ทำลายสถิติอพาร์ตเมนต์ที่แพงที่สุดในเอเชียที่ถูกสร้างไว้โดยโครงการ 21 Borrett Road ของบริษัท CK Asset Holdings ซึ่งเคยขายอพาร์ตเมนต์ในราคา 136,000 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อตารางฟุต เมื่อเดือนก.พ. ที่ผ่านมา

นายกฯ พอใจ เป้าหมาย 100 ล้านโดส หลังฉีดได้เร็วกว่าแผนเดิมถึง 1 เดือน

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พอใจภาพรวมการฉีดวัคซีนโควิด-19 ไทย เดินหน้าได้อย่างรวดเร็วกว่าแผนที่ตั้งไว้เดิม 

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข คาดว่าไทยจะบรรลุเป้าหมายการฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้ 100 ล้านโดส ในปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งเร็วกว่าแผนเดิมถึง 1 เดือน ซึ่งกรมควบคุมโรค ยังเร่งกระจายวัคซีนในสต็อกทั่วประเทศ โดยได้จัดส่งไปเมื่อวันที่ 10 พ.ย. ถึง 11 ล้านโดส เพื่อเร่งให้ทุกพื้นที่ฉีดวัคซีนให้ทุกคนที่อยู่ในประเทศไทย 

โดยหลายพื้นที่มีการฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรผู้สูงอายุและผู้มีโรคเรื้อรังกว่าร้อยละ 80 แล้ว เช่น กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทั้งนี้ แอปพลิเคชัน ‘หมอพร้อม’ รายงานการฉีดวัคซีนสะสม ณ วันที่ 11 พ.ย. เวลา 12.18 น. จำนวน 83,217,981 ล้านโดส แบ่งเป็น

‘จีน’ ส่งฝูงบินรบโฉบใกล้ ‘ไต้หวัน‘ ฉุนสมาชิกสภาสหรัฐฯ เยือนไทเป

ปักกิ่ง/ไทเป (รอยเตอร์ส/ซีซีทีวี/เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์) - จีนส่งฝูงบินรบ 6 ลำเข้าใกล้ไต้หวันอีก พร้อมประณามการเยือนไต้หวันของคณะสมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐฯ ที่เดินทางถึงไต้หวันด้วยเครื่องบินของกองทัพสหรัฐฯ

กองทัพจีนเปิดเผยเมื่อวันที่ 10 พ.ย. ว่า ได้ส่งฝูงบินรบลาดตระเวนแบบเตรียมพร้อมรบ ที่บริเวณช่องแคบไต้หวัน หลังจีนระบุว่า สมาชิกสภาคองเกรสของสหรัฐฯ เดินทางเยือนไต้หวันด้วยเครื่องบินรบจากกองทัพสหรัฐฯ ด้านกระทรวงกลาโหมจีนประณามการเยือนไต้หวันของคณะสมาชิกสภาคองเกรสของสหรัฐฯ ที่เดินทางด้วยเครื่องบินของกองทัพสหรัฐฯ และจีนขอคัดค้านการกระทำดังกล่าวอย่างหนักแน่น และระบุว่า การลาดตระเวนของฝูงบินรบจีนดังกล่าว เพื่อตอบโต้พฤติกรรมและถ้อยคำที่ผิดพลาดอย่างรุนแรง จากหลายประเทศที่เกี่ยวข้อง ในประเด็นเกี่ยวกับไต้หวัน รวมทั้งเพื่อตอบโต้การกระทำของกลุ่มสนับสนุนการเป็นเอกราชของไต้หวันด้วย

ขณะที่กระทรวงกลาโหมไต้หวันยืนยันว่า เครื่องบินรบของกองทัพจีนจำนวน 6 ลำ ได้เข้าสู่เขตป้องกันภัยทางอากาศซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของไต้หวันเมื่อวันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน โดย 4 ลำ เป็นเครื่องบินขับไล่แบบ J-16 ส่วนอีก 2 ลำ เป็นเครื่องบินสอดแนมของกองทัพจีน ส่วน จอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า ไม่ใช่เรื่องผิดปกติเลย ที่สมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐฯ จะเดินทางด้วยเครื่องบินของกองทัพสหรัฐฯ และการเยือนไต้หวันของคณะสมาชิกคองเกรสเมื่อวานนี้ นับเป็นครั้งที่ 2 แล้วในปีนี้ แต่ไม่ยอมเปิดเผยจำนวนของคณะสมาชิกคองเกรสที่เยือนไต้หวันครั้งนี้ และไม่ได้ให้รายละเอียดใด ๆ เกี่ยวกับการเยือนดังกล่าว

เยอรมนี ส่อวิกฤต! โควิดระบาดซ้ำ ชี้! อาจคร่าชีวิตอีกนับแสน หากไม่ลงมือสกัด

นักไวรัสวิทยาระดับสูงของเยอรมนี เตือนว่าอาจมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในประเทศ เพิ่มอีกกว่า 100,000 คน หากไม่ดำเนินการใด ๆ ในการกำหนดข้อจำกัดอันเข้มงวดในทันที เพื่อยับยั้งการจู่โจมของการแพร่ระบาดระลอก 4 ที่กำลังลุกลามอย่างรวดเร็ว

เสียงเตือนจาก คริสเตียน ดรอสเทน หัวหน้าแผนกไวรัสวิทยาแห่งโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยชารีเท ในกรุงเบอร์ลิน มีขึ้นในขณะที่ประเทศแห่งนี้พบเห็นจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่รายวันทุบสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดอีกครั้ง

ดรอสเทน กล่าวว่าจำนวนผู้เสียชีวิต 100,000 คน เป็นการประเมินตัวเลขในเชิงสงวน (conservative estimate) หรือเลี่ยงประเมินด้วยตัวเลขที่สูงเกินไป ท่ามกลางเคสผู้ติดเชื้อที่สูงขึ้น พร้อมระบุว่ามาตรการล็อกดาวน์อีกรอบจะเป็นสิ่งจำเป็น หากไม่สามารถเร่งโครงการฉีดวัคซีนให้คืบหน้าอย่างรวดเร็ว

"ตอนนี้เราอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างแท้จริง" เขากล่าวถึงสถานการณ์ตามห้องไอซียูตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศ "เราจำเป็นต้องทำอะไรบางอย่างในทันที"

จากข้อมูลอย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้น มีผู้คนในเยอรมนีเสียชีวิตจากโควิด-19 ไปแล้ว 96,963 ราย

ดรอสเทน คาดหมายว่าฤดูหนาวปีนี้จะเป็นฤดูหนาวที่เหนื่อยยากมาก ๆ หากการฉีดวัคซีนไม่มีความคืบหน้าอย่างรวดเร็ว และมองว่ารัฐบาลเยอรมนีจะจำเป็นต้องพิจารณาบังคับใช้มาตรการต่าง ๆ นานา

"เป็นไปได้มากว่าเราจำเป็นต้องควบคุมการแพร่ระบาดอีกครั้งผ่านมาตรการป้องกันการสัมผัสใกล้ชิด ไม่ใช่แค่อาจจะ แต่แน่นอนว่าเราต้องทำ" เขากล่าว "เราอยู่ในสถานการณ์ที่แย่ เรามีอีก 15 ล้านคนที่มีสิทธิ์ฉีดวัคซีนและควรฉีดวัคซีน"

ตามข้อมูลอย่างเป็นทางการพบว่าราว 67% จากประชากรทั้งหมด 83 ล้านคนของเยอรมนี ฉีดวัคซีนครบแล้ว และจนถึงตอนนี้รัฐบาลยังไม่มีคำสั่งบังคับฉีดวัคซีนกับกลุ่มอาชีพไหน ๆ

เสียงเตือนอย่างน่ากลัวของนักวิทยาศาสตร์มีขึ้นในขณะที่ศูนย์ควบคุมโรคแห่งชาติของเยอรมนี รายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่รายวันในวันพุธ (10 พ.ย.) ทุบสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด

สถาบันโรเบิร์ต คอช รายงานว่าพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวัน 39,676 คน ทุบสถิติเดิม 37,102 คน ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ (5 พ.ค.) ที่ผ่านมา ขณะที่อัตราการติดเชื้อของเยอรมนี ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 232.1 เคสต่อประชากร 100,000 คน ในช่วง 7 วันหลังสุด

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่รัฐบาลยังคงเน้นย้ำว่าพวกเขาไม่มีเจตนากำหนดมาตรการล็อกดาวน์ และหันไปวิงวอนขอประชาชนให้เข้าฉีดวัคซีนแทน

ปัจจุบันเยอรมนีมีรัฐบาลรักษาการตามหลังศึกเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนกันยายน และ 3 พรรคการเมืองของเยอรมนี ที่อยู่ระหว่างเจรจาจัดตั้งรัฐบาลผสม เห็นพ้องว่าจะไม่ขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินออกไป

‘มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง’ พร้อมด้วยหน่วยงานในเครือ ถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ประจำปี 2564 ณ วัดเจริญสุขารามวรวิหาร จังหวัดสมุทรสงคราม

พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานผ้ากฐินให้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โรงพยาบาลหัวเฉียว มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และคลินิกการประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว นำผ้าพระกฐินพระราชทานประจำปี 2564 ไปถวายพระสงฆ์จำพรรษากาลถ้วนไตรมาส ณ วัดเจริญสุขารามวรวิหาร ตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม

โดยมี นายสัก กอแสงเรือง รองประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายวิชิต ชินวงศ์วรกุล กรรมการ นายอรัญ เอี่ยมสุรีย์ กรรมการ นายชาญกิจ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ และคณะผู้บริหารจากโรงพยาบาลหัวเฉียว มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และคลินิกการประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว เป็นประธานร่วมในพิธี โดยมีนายวุฒิชัย ยามโคกสูง นายอำเภอบางคนที

พร้อมด้วย นางศรีสมร ศรีวิชา ผู้อำนวยการกลุ่มยุทธศาสตร์และเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสงคราม และนางสาวนวพร สิงหกุล ผู้อำนวยการกลุ่มอำนวยการและกิจการพระพุทธศาสนา สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสมุทรสงคราม ร่วมพิธี 

มาสด้าส่งแคมเปญ ‘MAZDA FIGHT TOGETHER’ คนไทยสู้ไปด้วยกัน!! ดอกเบี้ยต่ำสุด 0% ฟรีประกันภัยชั้น 1 ฟรีของพรีเมี่ยมสุดพิเศษทุกรุ่น

มาสด้าปลุกพลังให้คนไทยลุกขึ้นสู้โดยไม่โดดเดี่ยวพร้อมประสานมือผู้จำหน่ายเพื่อให้การส่งเสริมธุรกิจของลูกค้าให้กลับมาเริ่มต้นใหม่ และสู้ไปด้วยกันกับแคมเปญ Mazda Fight Together ดอกเบี้ย 0% พร้อมเผยความสำเร็จของรถอเนกประสงค์เอสยูวีมาสด้า CX-5 เติบโต 222% และมาสด้า CX-8 เพิ่มขึ้น 106% ผลพวงจากการแนะนำ MAZDA FAMILY SUV ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ทั้งสองรุ่น ลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี ส่งผลให้ยอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ตอกย้ำกระแสความร้อนแรงของรถประเภทนี้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างดีเยี่ยม ส่งผลทำให้ยอดขายสะสม 10 เดือน พุ่งทะลุ 28,327 คัน ลดลงเล็กน้อย 6% ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19

เตรียมเปิดเกมส์รุกกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงปลายปีเต็มกำลัง ด้วยการส่งแคมเปญ MAZDA FIGHT TOGETHER ปลุกพลังใจให้คนไทยสู้ไปด้วยกัน ด้วยการขอความร่วมมือให้ผู้จำหน่ายในแต่ละพื้นที่ให้ความช่วยเหลือธุรกิจ SME ของลูกค้าให้กลับมาเริ่มต้นเดินหน้าทำธุรกิจได้อีกครั้งหลังจากต้องเผชิญกับวิกฤตโควิดมาตลอดเกือบ 2 ปี พร้อมมอบข้อเสนอสุดพิเศษเพื่อให้ลูกค้าเป็นเจ้าของยนตรกรรมมาสด้าได้ง่ายขึ้น กับดอกเบี้ยต่ำสุด 0% ฟรีประกันภัยชั้น 1 รับของพรีเมี่ยมสุดพิเศษเมื่อจองภายในงาน ระหว่างวันที่ 6 – 14 พฤศจิกายน 2564 ที่โชว์รูมมาสด้า

โดยเฉพาะในส่วนของลูกค้าปิกอัพ ALL NEW MAZDA BT-50 ทุกท่าน มาสด้าพร้อมมอบความคุ้มค่า ด้วยข้อเสนออุปกรณ์ตกแต่งแท้ ราคาพิเศษเริ่มต้นเพียง 999 บาท และเมื่อรถมาสด้าทุกรุ่นมาเข้ารับบริการ รับข้อเสนอพิเศษผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน ฟรีบัตรเติมน้ำมัน มูลค่า 1,000 บาท เมื่อซื้อโปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพรถ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 – 30 พฤศจิกายน 2564 ที่โชว์รูมมาสด้า

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากสถานการณ์การตลาดที่ยังคงมีความผันผวน จึงทำให้การจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคยังคงชะลอตัว รวมถึงตลาดรถยนต์ด้วยเช่นกัน ซึ่งยอดขายรถยนต์มาสด้าในเดือนตุลาคมที่ผ่านมารวมทุกรุ่นอยู่ที่จำนวน 2,513 คัน ลดลงจากเดือนกันยายนประมาณ 16% โดยแบ่งเป็นมาสด้า2 จำนวน 1,367 คัน มาสด้า3 จำนวน 114 และบีที-50 จำนวน 72 คัน แต่ทั้งนี้แล้ว ก็ยังคงมีสัญญาณบวกที่ดี เนื่องจากรถอเนกประสงค์เอสยูวีของมาสด้าได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น หลังจากที่มีการปรับโฉมและปรับกลยุทธ์ด้านราคา ส่งผลให้ มาสด้า CX-5 เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 222% ด้วยยอดขาย 148 คัน และ มาสด้า CX-8 ก็มียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 106% ด้วยจำนวน 72 คัน ในขณะที่มาสด้า CX-30 มีจำนวน 393 คัน และมาสด้า CX-3 มีจำนวนทั้งสิ้น 347 คัน ซึ่งจากตัวเลขเหล่านี้ ส่งผลให้รถอเนกประสงค์เอสยูวีของมาสด้า มียอดขายรวมอยู่ที่ 960 คัน เพิ่มขึ้น 5% จากเดือนกันยายนที่มีตัวเลขรวม 915 คัน ดังนั้นการเปิดตัวทั้ง 2 รุ่น จึงกลายเป็นแม่เหล็กที่ดึงดูดให้ลูกค้าเดินทางมาที่โชว์รูมมากยิ่งขึ้น

สำหรับยอดขายสะสมรถยนต์มาสด้า 10 เดือน ระหว่างเดือนมกราคม – ตุลาคม 2564 มีจำนวน 28,327 คัน ลดลงเล็กน้อยประมาณ 6% ซึ่งปัจจัยหลักยังคงมาจากการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทำให้กำลังซื้อชะลอตัวลง โดยรถยนต์นั่งมาสด้ามียอดขายรวมอยู่ที่ 16,636 คัน ลดลง 11% แบ่งเป็น มาสด้า2 จำนวน 14,901 คัน มาสด้า3 จำนวน 1,732 คัน และมาสด้า MX-5 จำนวน 3 คัน ในขณะที่รถอเนกประสงค์เอสยูวีกลับเติบโตเพิ่มขึ้นสวนทางตลาด ด้วยจำนวนรวม 10,659 คัน เพิ่มขึ้น 19% (ปี 2563 มีจำนวน 8,929 คัน) แบ่งเป็นมาสด้า CX-30 จำนวน 5,757 คัน เพิ่มขึ้น 36% มาสด้า CX-3 จำนวน 3,493 คัน เพิ่มขึ้น 104% และอีก 2 รุ่นที่เพิ่งแนะนำสู่ตลาด คือ มาสด้า CX-8 จำนวน 717 คัน และมาสด้า CX-5 จำนวน 692 คัน ส่วนรถปิกอัพมาสด้า บีที-50 มียอดขายรวมอยู่ที่ 1,032 คัน

ทั้งนี้ เพื่อให้ลูกค้าใหม่สามารถเป็นเจ้าของรถยนต์มาสด้าได้ง่ายขึ้น และเพื่อช่วยเหลือลูกค้าในช่วงวิกฤต มาสด้าขอมอบข้อเสนอพิเศษ กับแคมเปญ MAZDA FIGHT TOGETHER คนไทย สู้ไปด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น

 

'ฮาร์ท สุทธิพงศ์' เข้ารับทราบข้อหา ม.112 ตามหมายเรียก ปอท.

11 พ.ย. 64 ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี นาย ฮาร์ท สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล อายุ 57 ปี อดีตนักร้อง พิธีกร เดินทางมาบก.ปอท. ซึ่งในวันนี้เมื่อเวลา 10.00 น. พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท.ได้มีออกหมายเรียกมาพบเพื่อรับทราบข้อหาความผิดเกี่ยวกับสถาบันฯ และ พ.ร.บ.คอมพ์ฯ

โดยในช่วงเวลา 09.50 น. นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้พานายฮาร์ท สุทธิพงศ์ เข้าพบพนักงานสอบสวนและไม่ตอบคำถามสื่อฯ ว่าพาใครมา ขณะที่ฮาร์ท เลี่ยงตอบคำถาม แต่ไม่มีอาการวิตก แถมยังยกมือโบกให้กล้องด้วย

“ผอ.อผศ.” เป็นประธาน พิธีบําเพ็ญกุศลระลึกทหารอาสาสงครามโลกครั้งที่ 1 

เนื่องในโอกาสวันที่ระลึกทหารอาสาสงครามโลกครั้งที่ ประจาปี 2564 ในวันพฤหัสบดีที่ 11 พฤศจิกายน 2564 พล.อ.สัณทัศน์ นันทิภาคย์หิรัญ ผู้อานวยการองค์การสงเคราะห์ ทหารผ่านศึก(ผอ.อผศ.) เป็นประธานในพิธี บาเพ็ญกุศลทางศาสนาพุทธ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ดวงวิญญาณทหารอาสาสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยมี คณะผู้บริหารระดับสูงขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก และทายาททหารอาสาสงครามโลก ร่วมในพิธีห้องชาตินักรบ อาคาร 2 ชั้นที่ 2 องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก

นอกจากการจัดพิธีบาเพ็ญกุศลทางศาสนาพุทธแล้ว องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ได้มีการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของวันที่ระลึก ทหารอาสาสงครามโลก ณ ห้องชาตินักรบ อาคาร 2 ชั้นที่ 2 องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก โดยมีวิทยากรบรรยายให้ความรู้ถ่ายทอดสดออนไลน์ผ่านระบบ Zoom Meeting มีผู้เข้ารับชม
ประกอบด้วยพนักงานและลูกจ้างประจาหน่วยงานกิจการพิเศษขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก และนักเรียนจากโรงเรียนดอนเมืองทหารอากาศบารุง นอกจากนี้ ยังมีนักเรียนจากโรงเรียนดอนเมือง จาตุรจินดา จานวน 50 คน เดินทางมาเข้ารับฟังการบรรยายและชมนิทรรศการเนื่องในวันที่ระลึกทหาร อาสาฯ อีกด้วย

ความกังวลเกี่ยวกับการเริ่มต้น - ความขัดแย้ง ในอ่าว “Bengal” หลังจากสันติภาพหลายปี!!

Dhaka / Bangladesh - อ่าวเบงกอล กำลังเผชิญกับการทดสอบจริงเมื่อเผชิญกับภัยคุกคามต่อทรัพยากรธรรมชาติในทะเลจีนใต้ หลังจากที่ปักกิ่งอ้างอธิปไตยเหนือทะเลอย่างกว้างขวาง

ความกังวลได้เพิ่มสูงขึ้นเกี่ยวกับการเริ่มต้นความขัดแย้งในภูมิภาคนี้อีกครั้ง หลังจากที่จีนพยายามขยายอิทธิพลของตนเหนืออ่าวไทยผ่านการเพิ่มกิจกรรมทางทหารและการปรากฏตัวของกองทัพเรือในภูมิภาค

จีนยังคงสร้างด่านหน้าทางการทหารและอุตสาหกรรมบนเกาะเทียมที่สร้างขึ้นในน่านน้ำพิพาทที่มีร่วมกันระหว่างไต้หวัน ฟิลิปปินส์ บรูไน มาเลเซีย และเวียดนาม

ในการให้สัมภาษณ์กับ RuksanaKibria ศาสตราจารย์ภาควิชาวิเทศสัมพันธ์แห่งมหาวิทยาลัยธากา เธอเน้นว่าปัญหาการเดินเรืออ่าวเบงกอลเป็นเรื่องของความขัดแย้งระหว่างประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมาร์และอินเดีย แต่ได้รับการแก้ไขผ่านศาลระหว่างประเทศว่าด้วยกฎหมายแห่งท้องทะเล(ITLOS)

ก่อนหน้านี้ ข้อพิพาททางทะเลในภูมิภาคนี้ได้รับการแก้ไขแล้วภายใต้กฎหมายการเดินเรือ หลังจากที่รัฐบาลบังกลาเทศยื่นฟ้องถึง 2 คดีต่อศาลระหว่างประเทศว่าด้วยกฎหมายทะเลในปี 2009 ซึ่งทั้งสองคดีได้ยุติลงในปี 2012 และ 2014

นับแต่นั้นเป็นต้นมา ประตูสู่ศักยภาพมหาศาลของบังคลาเทศในทะเลได้เปิดออก เสนอโอกาสในการทำงานมากมายตั้งแต่การสกัดน้ำมัน ก๊าซ และทรัพยากรแร่อื่น ๆ จากทะเล ไปจนถึงความมั่นคงด้านอาหาร การประมง การขนส่งผู้โดยสารและสินค้า การท่องเที่ยว และ ความมั่นคงทางทะเล บรรลุรูปแบบเศรษฐกิจแบบบูรณาการที่มีศูนย์กลางอยู่ที่สิ่งที่เรียกว่า “เศรษฐกิจสีน้ำเงิน”

ตามกฎหมายการเดินเรือ ประเทศหนึ่งมีสิทธิได้รับ 12 ไมล์ทะเลจากทะเลอาณาเขตและสูงสุด 200 ไมล์ทะเลจากการผูกขาดทางเศรษฐกิจของสัตว์ทุกชนิดและทรัพยากรที่ไม่ใช่สัตว์

นอกจากนี้ รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ MunshiFaiz Ahmed กล่าวว่า “ในปัจจุบันพรมแดนของบังคลาเทศเกือบจะเท่ากับเขตแดนของอีกส่วนหนึ่ง นี่เป็นประโยชน์มหาศาลสำหรับบังคลาเทศ และด้วยเหตุนี้ " Sunil economy " ที่เรากำลังพูดถึงในวันนี้จึงถูกเปิดเผย และประตูสู่ความเป็นไปได้นั้นก็เปิดออก"

 

เหลือเชื่อ !! นางรำ ร่วม 200 คน รำแก้บนถวาย  หลังสู้ศึกเลือกตั้งชนะขาดนั่งนายกเทศมนตรีเมืองแพรกษาใหม่

ที่ภายในลานสนามกีฬาหญ้าเทียม  เทศบาลเมืองแพรกษาใหม่  ต.แพรกษาใหม่  อ.เมือง  จ.สมุทรปราการ  มีกลุ่มสตรีและประชาชนจำนวนมาก  ร่วม 200 คน รวมถึงประชาชนผู้สูงอายุพร้อมใจกันแต่งชุดไทยพื้นบ้านเดินทางมายังเทศบาลเมืองแพรกษาใหม่  เพื่อร่วมรำวงแก้บนถวายเจ้าพ่อโคกพร้าว  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนชาวแพรกษาใหม่ให้ความเคารพนับถือ  และมีความเลื่อมใสศรัทธาต่อศาลเจ้าพ่อโคกพร้าวมานาน กว่า 100 ปี  ตามความเชื่อหลังจากมีประชาชนได้บนบานขอให้นายก อำนวย  บุญริ้ว ชนะการเลือกตั้งและกับมาเป็นนายกเหมือนเดิม

จากการสอบถาม  ตัวแทนกลุ่มสตรีแพรกษาใหม่  เปิดเผยว่า  เนื่องจากประชาชนในเขตพื้นที่เทศบาลเมืองแพรกษาใหม่  มีความรัก  ความเชื่อมั่นในตัวนายก  อำนวย  บุญริ้ว  เป็นอย่างมากเพราะที่ผ่านมาได้ดูแลแก้ไขปรับปรุงพื้นที่แพรกษาใหม่ให้มีความเจริญขึ้น  และมีการพัฒนาท้องถิ่นในด้านต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง  ช่วยเหลือดูแลประชาชนอีกทั้งไม่เคยถือตัวพูดจริงทำจริงจึงเป็นที่รักของประชาชนจำนวนมาก  กระทั่ง  ที่ผ่านมาได้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นประชาชนจำนวนมากต่างพร้อมใจกันมาบนบานเจ้าพ่อโคกพร้าว  เพื่อขอให้นายอำนวย  บุญริ้ว  ชนะการเลือกตั้งและกับมาเป็นนายกอีกครั้งพร้อมทีมสมาชิกทั้งหมด และในวันนี้จึงได้ร่วมกันรำแก้บนถวายเจ้าพ่อโคกพร้าวตามที่บนบานไว้  พร้อมทั้งมีกลุ่มผู้สูงอายุมาร่วมตีกลองยาวและร่วมรำแก้บนถวายปู่โคกพร้าวอีกด้วย

สองผัวเมีย ร้องทุกข์!! ตาติดเชื้อต้องควักทิ้ง 1 ข้าง เชื่อ!! โดนแหย่จมูกตรวจโควิดซ้ำ!!

สองผัวเมียร้องสื่อฯ ไปโรงพยาบาลผ่าตัดขา เจอตรวจโควิด-19 ถูกแหย่จมูกซ้ำ ๆ จนดวงตาติดเชื้อร้ายจากโพรงจมูก สุดท้ายโดนควักลูกตาซ้ายออกป้องกันลามไปอีกข้าง วอนหน่วยงานหาข้อเท็จจริงและรับผิดชอบ

ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องราวร้องทุกข์จากชาวบ้านในพื้นที่ ต.คลองแม่ลาย อ.เมืองกำแพงเพชร ว่ามีหญิงวัย 60 ปีได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลกำแพงเพชร เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุหกล้มจนกระดูกขาด้านซ้ายหัก ระหว่างเข้าทำการรักษาอาการนั้น เจ้าหน้าที่รพ. ได้ทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยแจ้งว่าเป็นระเบียบของทาง รพ.

คนไข้ที่เข้ามาทำการรักษาในเบื้องต้นจะต้อง swab ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทันที จากนั้นไม่นานดวงตาด้านซ้ายเริ่มมีอาการติดเชื้อรุนแรง ซึ่งคาดว่าเป็นผลพวงที่เกิดจากการแหย่จมูกหาเชื้อโควิด-19 ของเจ้าหน้าที่ รพ. ซึ่งผู้ป่วยวิงวอนขอให้เจ้าหน้าที่รับผิดชอบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนทำให้เสียดวงตาอันเป็นสิ่งสำคัญในการมองเห็นไป อีกทั้งยังทำให้ครอบครัวตนขาดรายได้

เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง ณ บ้านเลขที่ 3 หมู่ 3 ต.คลองแม่ลาย อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ซึ่งเป็นบ้านของนายปาณชัย เย็นมั่น อายุ 60 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป และนางสุนันทา เย็นมั่น อายุ 60 ปี สองสามีภรรยา

พบว่า นางสุนันทา เย็นมั่น ผู้ป่วยในกรณีดังกล่าวต้องใช้เหล็กค้ำยัน 4 ขา (วอล์กเกอร์) พยุงตัวในเวลาเดิน ขาด้านซ้ายมีร่องรอยการผ่าตัด บริเวณใบหน้าโหนกแก้มยุบทั้งสองข้างเนื่องจากไม่มีโครงกระดูกรองรับ ใบหน้ามีแผลเป็น ซึ่งทราบภายหลังว่าเกิดจากการรักษาโรคมะเร็งโพรงจมูกเมื่อหลายปีก่อน

ส่วนดวงตาด้านซ้ายมีสภาพบอดสนิท เนื่องจากแพทย์แจ้งว่าเกิดอาการติดเชื้อรุนแรงจำเป็นต้องนำเอาดวงตาข้างดังกล่าวออก เพราะหากปล่อยไว้จะลุกลามไปยังดวงตาอีกข้าง ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อขึ้นมาอีก

สองสามีภรรยายืนยันต่อผู้สื่อข่าวถึงสาเหตุที่ทำให้ดวงตาด้านซ้ายของนางสุนันทาบอดนั้นเกิดจากการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในช่วงที่เข้าไปผ่าตัดขาตามแพทย์นัดที่ รพ. อย่างแน่นอน เพราะก่อนเข้ารักษาเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปตรวจหาเชื้อโควิดก่อน โดยการใช้อุปกรณ์ตรวจแหย่เข้าไปในรูจมูก (swab)

ขณะที่ก่อนหน้านี้นางสุนันทาได้เข้ารับการรักษาโรคมะเร็งโพรงจมูกจนต้องผ่าตัดเอาโครงกระดูกบริเวณโหนกแก้มออก คาดว่าอุปกรณ์การตรวจที่แหย่เข้าไปในรูจมูกของผู้ป่วยอาจจะเข้าไปกระทบกระเทือนกับระบบประสาทตา จนทำให้ดวงตาเกิดการอักเสบติดเชื้อ กระทั่งแพทย์ต้องนำเอาดวงตาด้านซ้ายออกมา เพื่อป้องกันไม่ให้ลุกลามไปยังดวงตาอีกข้าง

สองสามีภรรยาได้ติงว่าทางเจ้าหน้าที่รพ. น่าจะหาวิธีหลีกเลี่ยงในการตรวจโควิดนางสุนันทา ที่เคยเป็นผู้ป่วยที่ผ่านการรักษาผ่าตัดโครงสร้างของโพรงจมูกมาแล้ว เนื่องจากเป็นโรคมะเร็งผิวหนังบริเวณใบหน้าจนเชื้อกินลึกไปถึงในโพรงจมูก

นายปาณชัย เย็นมั่น สามีนางสุนันทา ผู้ป่วย กล่าวว่า ช่วงที่เจ้าหน้าที่รพ. ตรวจ swab บางครั้งตนไม่ได้เข้าไปดู อยู่มาวันหนึ่งช่วงเที่ยงหลัง swab เสร็จก็เตรียมรับประทานอาหารกัน ขณะนั้นตนสังเกตเห็นมีน้ำขุ่น ๆ ไหลออกมาจากทางจมูก ตอนแรกตนคิดว่าเป็นน้ำมูกก็ไม่ได้คิดอะไร

สถานบริการทางเพศออสเตรีย จัดโปรล่อใจหนุ่มฉีดวัคซีน หลังอัตราฉีดของประเทศยังต่ำกว่าเกณฑ์ 70%

สถานบริการทางเพศในกรุงเวียนนาของออสเตรีย ให้บริการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 และมอบโปรโมชันใช้บริการฟรี 30 นาที

“ฟัน พาลาสท์” (Fun Palast) สถานประกอบการที่ให้บริการค้าประเวณีแห่งหนึ่งในกรุงเวียนนาของออสเตรีย ได้เปิดให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 พร้อมมอบข้อเสนอเป็นบัตรกำนัลห้องซาวน่า มูลค่า 40 ยูโร หรือกว่า 1,500 บาท สำหรับใช้บริการฟรีเป็นเวลา 30 นาที

สถานบริการทางเพศแห่งนี้ จะเปิดให้บริการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เป็นเวลา 4 ชั่วโมงของทุกวันจันทร์ ตลอดเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อกระตุ้นให้ผู้ชายเข้ารับวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสดังกล่าวมากขึ้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top