Tuesday, 8 July 2025
NEWS

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการขนส่งทางบก ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) แถลงข่าวระบบบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับรถ

วันที่ 1 ธันวาคม 2565 เวลา 10.00 น. ณ ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก  นายพงษ์สิทธิ์ ชัยฉัตรพรสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน สายงานกำกับกฎเกณฑ์และกฎหมาย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และพันเอก สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย  พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.วีระ จิรวีระ รอง จตช. และผู้บริหารของทั้ง 4 หน่วยงาน ได้ร่วมกันแถลงข่าวประชาสัมพันธ์ระบบบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับรถ หรือระบบตัดแต้ม และความร่วมมือระหว่างหน่วยงานเพื่อสร้างระบบดังกล่าว ให้ดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมาตรฐานสากล ระบบบันทึกคะแนนความประพฤติ กำหนดไว้ใน “ระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับระบบการบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับรถของผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ พ.ศ.2565” ซึ่งออกตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 142/1 โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 มกราคม 2566 ซึ่งจะเป็นมาตรการเสริมในการสร้างวินัยการขับขี่เพิ่มเติมจากการออกใบสั่งเพื่อบังคับใช้กฎหมายตามปกติ ภายใต้สโลแกน 'มุ่งเน้นการสร้างวินัยการขับขี่ปลอดภัย ให้โอกาสแก้ไขไม่กระทำผิดซ้ำ สร้างความเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย และเป็นมาตรฐานสากล'

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์  กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กล่าวว่า สาระสำคัญของระบบนี้ คือ กำหนดให้ผู้ที่มีใบอนุญาตขับขี่แต่ละราย จะมีคะแนนความประพฤติคนละ 12 คะแนน (ไม่ว่าผู้นั้นจะได้รับใบอนุญาตขับขี่กี่ชนิดก็ตาม) หากทำผิดตามกฎจราจรในข้อหาที่ระบุไว้ จะถูกตัดคะแนนตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด ดังนี้ 
การตัดคะแนน 
1) กลุ่มความผิดหลักที่เป็นปัจจัยในการเกิดอุบัติเหตุ (20 ฐานความผิด) จะถูกตัดคะแนนเมื่อทำผิดทันที โดยความผิดในกลุ่มนี้แบ่งเป็น 4 ระดับ ได้แก่
 - ตัด 1 คะแนน เช่น ขับรถเร็วเกินกำหนด ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย ไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลาย ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ  
 - ตัด 2 คะแนน เช่น ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร (ฝ่าไฟแดง)  
 - ตัด 3 คะแนน เช่น ขับรถชนแล้วหนี 
 - ตัด 4 คะแนน เช่น เมาแล้วขับ ขับรถในขณะเสพยาเสพติด 
2) กลุ่มความผิดอื่นๆ ตามกฎหมายว่าด้วยจราจรทางบก และกฎหมายที่เกี่ยวกับรถหรือการใช้ทาง จำนวน 42 ฐานความผิด ตามบัญชีท้ายระเบียบ ความผิดกลุ่มนี้จะถูกตัดคะแนนเฉพาะกรณีไม่ชำระค่าปรับตามใบสั่งในเวลาที่กำหนดเท่านั้น เช่น ฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจรในทาง จอดในที่ห้ามจอด ไม่แสดงใบอนุญาตขับขี่ขณะขับรถ เป็นต้น 
 วิธีการตัดคะแนนนั้น จะดำเนินการโดยระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้ระบบฐานข้อมูลใบสั่ง PTM ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการบันทึกการทำผิดกฎจราจรและตัดคะแนนในแต่ละครั้ง การสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่
 - หากผู้ขับขี่ถูกตัดคะแนนจนเหลือ 0 คะแนน จะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ หรือห้ามขับรถ (ทุกประเภท) เป็นเวลา 90 วัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นผู้มีหนังสือแจ้งคำสั่งดังกล่าว และหากฝ่าฝืนไปขับรถในขณะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 156  
- หากถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่เป็นครั้งที่ 3 ภายใน 3 ปี อาจจะถูกสั่งพักใช้มากกว่า 90 วัน  และหากยังถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่อีกเป็นครั้งที่ 4 อาจถูกพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ 

การคืนคะแนน แบ่งเป็นการคืนคะแนนโดยอัตโนมัติ และการคืนคะแนนเมื่อผ่านการอบรมจากกรมการขนส่งทางบก ดังนี้   
1) การคืนคะแนนอัตโนมัตินั้น คะแนนที่ถูกตัดไปในแต่ะครั้ง จะได้รับคืนเมื่อครบกำหนด 1 ปี นับแต่วันกระทำผิดครั้งนั้นๆ เว้นแต่เป็นกรณีที่ถูกตัดเหลือ 0 คะแนน จะได้รับคืนเมื่อพ้นกำหนดเวลาการสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ โดยได้รับคืนเพียง 8 คะแนน
2) การคืนคะแนนโดยวิธีการเข้ารับการอบรมกับกรมการขนส่งทางบกอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งมี 2 กรณี 
- กรณีที่คะแนนเหลือน้อยกว่า 6 คะแนน สามารถขอเข้ารับการอบรมจากกรมการขนส่งทางบกได้ แต่อบรมได้เพียงปีละ 2 ครั้ง 
- กรณีที่ถูกตัดคะแนนจนเหลือ 0 คะแนน  และต้องการคะแนนกลับคืนมาทั้งหมด 12 คะแนน  สามารถขอเข้ารับการอบรมจากกรมการขนส่งทางบกได้ เมื่อผ่านการอบรมตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของกรมการขนส่งทางบก ก็จะได้รับคืนคะแนนตามที่กำหนด

สุดปลื้ม!! กรมทะเลและชายฝั่ง พบไข่เต่าทะเลรังที่ 2 คาดเป็นแม่เต่ามะเฟืองตัวเดิม 

วันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า ภายหลังจากที่พบการขึ้นมาวางไข่ของเต่ามะเฟือง บริเวณหาดบางขวัญ หมู่ที่ 8 ตำบลโคกกลอย อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ล่าสุดได้รับรายงานจากสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 ว่าพบร่องรอยการขึ้นวางไข่ของเต่าทะเล ขณะเดินลาดตระเวน จึงประสานเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบนฝั่งตะวันออก และศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนที่ 10 ลงพื้นที่ร่วมกันเพื่อตรวจสอบวัดขนาดพายได้ 220 ซม. อก 110 ซม. และดำเนินการขุดค้นหาไข่เต่าทะเล ซึ่งห่างจากรังฟักไข่เต่ามะเฟืองรังที่ 1 ไปทางทิศใต้ประมาณ 500 เมตร พบไข่เต่าทะเลที่ระดับความลึก 60 ซม. ขนาดไข่ 5.5 ซม. นับได้ทั้งสิ้น 141 ฟอง มีไข่ดี 118 เป็นไข่ลม 23 ฟอง

สันนิษฐานว่าไข่เต่าทะเลที่พบน่าจะเป็นของแม่เต่ามะเฟืองตัวเดิม ซึ่งเจ้าหน้าที่จะย้ายไข่เต่าทะเลไปพักไว้รวมกันกับรังแรกบริเวณคอกเพื่อป้องกันสัตว์มากินไข่ พร้อมทั้งสั่งการให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เต่ามะเฟืองจังหวัดพังงา เพื่อลาดตระเวนและเฝ้าระวังติดตามการขึ้นมาวางไข่เต่าทะเลตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำชับให้ทุกฝ่ายดูแลไข่เต่าทะเลอย่างใกล้ชิด พร้อมเผยความรู้สึกยินดีอย่างยิ่งในการกลับมาของแม่เต่าทะเลครั้งนี้ ซึ่งสะท้อนให้ถึงความสมบูรณ์ของธรรมชาติและความสำเร็จของการทำงานด้านการอนุรักษ์สัตว์ทะเลหายาก เมื่อสภาพแวดล้อมดีและพื้นที่ปลอดภัย ลูกเต่าฟักออกจากไข่ก็จะมีแหล่งอาหารที่สมบูรณ์และสามารถรอดปลอดภัยกลับคืนสู่ธรรมชาติได้ต่อไป

นายอรรถพล กล่าวเพิ่มเติมว่า การขึ้นมาวางไข่ของแม่เต่าทะเลบริเวณจังหวัดพังงารอบนี้นับเป็นหลุมที่ 2 ของปีนี้ที่แม่เต่าทะเลกลับขึ้นมาวางไข่ซ้ำที่เดิม ถือว่าเป็นความสำเร็จที่ทุกภาคส่วนต่างร่วมมือกันฟื้นฟูแหล่งวางไข่เต่าทะเลให้สมบูรณ์ เตรียมพร้อมรับมือกับการกลับมาวางไข่ของแม่เต่าทะเล ซึ่งปัจจัยสำคัญของการอนุรักษ์ คือชุมชนชายฝั่งและอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล ซึ่งเป็นกำลังหลักในการมีส่วนร่วมอนุรักษ์และพื้นฟูทรัพยากรทางทะเลให้คงความสมบูรณ์ดังเดิม ทั้งนี้ กรม ทช. จะดำเนินการประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจด้านการอนุรักษ์ระบบนิเวศธรรมชาติทางทะเล รวมถึงข้อมูลด้านสัตว์ทะเลหายากแก่ผู้ที่เยี่ยมชม ตลอดจนติดตั้งกล้องวงจรปิดเฝ้าระวังติดตามการพัฒนาของตัวอ่อน เมื่อลูกเต่าทะเลฟักเป็นตัว ประชาชนสามารถเข้าร่วมรับชมการถ่ายทอดสดผ่านแอฟพลิเคชั่น CamHipro โดยนำ QR Code มาแสกนเพื่อรับชมบรรยกาศอย่างใกล้ชิด

พม. จับมือสโมสรซอนต้า กรุงเทพ 1 จัดงาน Stop Violence Against Women and Girls รณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี

วันที่ 30 พ.ย. 65 เวลา 11.00 น. 'นายจุติ ไกรฤกษ์' รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานเปิดงานรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ภายใต้ชื่อ 'Stop Violence Against Women and Girls' โดยความร่วมมือระหว่างกระทรวง พม. และสโมสรซอนต้าประเทศไทย โดยสโมสรซอนต้า กรุงเทพ 1 ซึ่งมี 'นางจินตนา จันทร์บำรุง' อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว ดร.อุษณีย์ มหากิจศิริ ลีโอณีโอ นายกสโมสรซอนต้า กรุงเทพ 1 พร้อมคณะกรรมการ และสมาชิก ดร.ลาลีวรรณ กาญจนอารี Past Nominating Committee Member (At Large), Past International Director Zonta International นายธีรภัทร์ สัจจกุล (ตุ้ย) นักร้อง นักแสดงชื่อดัง แขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชน เข้าร่วมงาน ณ บริเวณชั้น G ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ กรุงเทพฯ 

นายจุติ กล่าวว่า ด้วยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2542 เห็นชอบให้เดือนพฤศจิกายนของทุกปี เป็น 'เดือนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี' โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นหน่วยงานหลักของภาครัฐประสานการดำเนินงานดังกล่าวโดยบูรณาการความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนในการประชาสัมพันธ์และจัดกิจกรรมรณรงค์ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค เพื่อสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ที่ส่งกระทบต่อสังคมในวงกว้าง และกระตุ้นให้ภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการรณรงค์ยุติความรุนแรงดังกล่าว ตลอดจนให้เห็นถึงความสำคัญของพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550 

'ชัยวุฒิ' โอด!! เว็บสรรพากรปลอมระบาด ปิดกี่ครั้งก็เจอใหม่ จี้!! ธนาคารเร่งทำระบบกันมัลแวร์ เจาะโมบายแบงก์กิ้ง

'ชัยวุฒิ' เร่งประสาน ตร. สั่งปิดเว็บสรรพากรปลอมระบาด โอด ปิดหลายรอบก็ยังเปิดใหม่ จี้ ธนาคารเร่งทำระบบป้องกันมัลแวร์ เจาะโมบายแบงก์กิ้ง

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส กล่าวถึงกรณี ประชาชน และพ่อค้าแม่ค้าหลายรายโดนแก๊งคอลเซนเตอร์ หลอกให้กดลิงค์เว็บไซต์ กรมสรรพากรจนถูกดูดข้อมูลและถูกเงินเงินออกจากบัญชี ว่า เรื่องนี้ กระทรวงดีอีเอส ไม่ได้นิ่งนอนใจ ที่ผ่านมาได้สั่งปิดเว็บไซต์กรมสรรพกรปลอมมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็พบว่ากลุ่มมิจฉาชีพ มีการเปิด URL ใหม่ขึ้น มาและใช้รูปแบบในการหลอกลวงที่ต่างออกไป ซึ่งกรณีล่าสุดที่เป็นข่าว ได้สั่งการให้กระทรวงดีอีเอส ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขออำนาจศาลสั่งปิดเว็บไซต์ ดังกล่าวแล้ว อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ รวมถึงจะต้องดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างรวดเร็ว

เด็กไทยคว้าแชมป์ หุ่นยนต์นานาชาติ ในรายการ  MakeX International Invitation Tournament 2022

ปีนี้เด็กไทยเก่งคว้าแชมป์ หุ่นยนต์นานาชาติ ในรายการ  MakeX International Invitation Tournament 2022 รายการแข่งขันหุ่นยนต์นานาชาติ ที่มี 8 ประเทศเข้าร่วมการแข่งขัน อาทิเช่น ดูไบ อินโดนีเซีย  อินเดีย จีน ใต้หวัน ฟิลิปปินส์ แมกซิโก และอียิปต์ โดยทำการแข่งขันที่ พาราไดซ์ พาร์ค ช้อปปิ้งเซนเตอร์ ในวันที่ 25 - 27 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา โดยทำการแข่งขัน 3 รุ่น คือ รุ่น Starter ระดับประถมศึกษา , รุ่น Explorer ระดับมัธยมต้น และ Challenge ระดับมัธยมปลาย เด็กไทยทำผลงานได้ดี 

‘บิ๊กป้อม’ กำชับ กกท. ส่งเสริมกีฬาอาชีพ-คนพิการ เน้นใช้วิทยาศาสตร์การกีฬา เพื่อเตรียมพร้อมสู่ระดับสากล

พล.อ.ประวิตร ประชุม คกก. การกีฬาฯ เร่งรัดการพัฒนากีฬาต่อเนื่อง หวังผลเป็นเลิศ ส่งเสริมกีฬาอาชีพ/กีฬาคนพิการ ให้เต็มที่ เน้นย้ำใช้วิทยาศาสตร์การกีฬา

(30 พ.ย. 65) 10.45 น. พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษก รอง นรม. เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 12/2565 ณ ห้องประชุม มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์

ที่ประชุมได้รับทราบ ความคืบหน้าผลการดำเนินงานตามตัวชี้วัดของ กกท.ประจำปี 2565 ภาพรวม สูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ ประกอบด้วยการบริหารจัดการกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ, การบริหารจัดการกีฬาอาชีพและกีฬามวย กีฬาคนพิการ, การบริหารการกีฬาเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ, การมีส่วนร่วมในกิจกรรมและบริการ ทางการกีฬา ของกกท. รวมทั้ง การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการองค์กร 

'อดีตทูตนริศโรจน์' โพสต์เตือนสติผู้ใช้บริการปั๊มน้ำมัน หลังหัวจ่ายน้ำมันไม่ทำงาน แต่จำนวนเงินวิ่งขึ้นตลอด

(30 พ.ย. 65) หลังจากทนายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ได้โพสต์แชร์เรื่องราวเกี่ยวกับธุรกิจรถเช่าตกทรัพย์ผู้ใช้บริการ (https://www.facebook.com/1552216405/posts/pfbid02iBGFZRNcfTnuXL1tXp7z24hvCDvLkvxaPCVqthA3YZCho29YbBdctnhh6hqbPntXl/?mibextid=Nif5oz) ยังได้เตือนสติต่อถึงการใช้เติมน้ำมันด้วย โดยระบุว่า...

นอกจากเรื่องรถเช่านี้แล้ว ปั๊มน้ำมันที่อยู่ใกล้สนามบินเชียงใหม่ก็ต้องระวัง มีครั้งนึงผมต้องคืนรถเช่าก่อนกลับ และไปเติมน้ำมันที่ปั๊มนี้ก่อนคืนรถ ผมใช้น้ำมันไปกว่าครึ่งถัง เลยบอกเด็กปั๊มว่าเติมเต็มถัง ระหว่างที่เด็กเติมผมก็นั่งอยู่ในรถและมองไปที่มิเตอร์ซึ่งจำนวนเงินก็ขึ้นไปจนจบที่ 800 กว่า ซึ่งตอนนั้นก็เอะใจว่า ทำไมน้ำมันแค่ครึ่งถังแต่จำนวนเงินขึ้นไปสูงผิดปกติ  

หลังจากจ่ายเงินเสร็จผมก็ขับรถมาจอดที่หน้าร้าน 7-11 ในปั๊ม ระหว่างนั้นจนท.รถเช่าก็โทร.ถามว่าผมอยู่ตรงไหน ผมก็บอกว่าอยู่ที่ปั๊ม....ใกล้สนามบิน พอจนท.รถเช่ามาถึงก็ตรวจสอบรถก่อนคืน ซึ่งก็ปกติไม่มีเฉี่ยวชน แต่พอเช็คเรื่องน้ำมันที่ผมต้องเติมให้เต็มก่อนคืนรถ ปรากฏว่าจอแสดงถังน้ำมันไม่ขึ้นเลย ยังอยู่ในระดับเดิมคือต่ำกว่าครึ่งถังเล็กน้อย ผมก็รู้สึกว่าผิดปกติแล้ว จึงบอกให้จนท.รถเช่าลองขับรถวนในปั๊มดูอีกที เผื่อบางทีเกจ์วัดน้ำมันอาจยังไม่ขึ้น แต่ผ่านไป 10 นาที เกจ์วัดน้ำมันก็ยังอยู่ที่เดิม

พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดการประชุมการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยอาชญากรรมสัตว์ป่าระหว่างภูมิภาค

กระชับความร่วมมือองค์กรภาคีเครือข่ายในทวีปแอฟริกา เอเชีย และอเมริกาใต้ มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันปราบปรามการลักลอบกระทำผิดเกี่ยวกับสัตว์ป่า ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

วันนี้ (30 พ.ย. 65) ที่โรงแรมพูลแมน คิงเพาเวอร์ เขตราชเทวี กรุงเทพฯ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปทส.ตร.) เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญและต้องการแก้ไขปัญหาการลักลอบกระทำความผิดเกี่ยวกับสัตว์ป่า ตลอดจนการตัดไม้ทำลายป่า ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญเร่งด่วน มีมูลค่าความเสียหายสูง ส่งผลกระทบต่อทรัพยากรของชาติในส่วนรวมและภาพลักษณ์ของประเทศไทยในระดับสากล

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร.(ปป)/ผอ.ศปทส.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศปทส.ตร. เข้าร่วมและเปิดการประชุมการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยอาชญากรรมสัตว์ป่าระหว่างภูมิภาค The Wildlife Inter-Regional Enforcement (WIRE) Meeting ณ โรงแรมพูลแมน คิงเพาเวอร์ เขตราชเทวี กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นการประชุมภายใต้ความร่วมมือของสำนักงานว่าด้วย  ยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก (UNODC) โดยมี ผู้แทนจาก กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช สำนักงานอัยการสูงสุด และกรมศุลกากร ตลอดจนผู้แทนองค์กรต่างประเทศ เช่น อธิบดีอัยการสูงสุดสาธารณรัฐเปรู อธิบดีกรมการศุลกากรสาธารณรัฐมัลดีฟส์ ผู้แทน International Narcotics and law Enforcement พร้อมทั้ง ผู้แทนจากองค์กรที่เกี่ยวข้องจากทวีปแอฟริกา 15 ประเทศ ทวีปเอเชีย 11 ประเทศ และทวีปอเมริกาใต้ 5 ประเทศ เข้าร่วมประชุม              

พล.ต.ท.ประจวบฯ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ความสำคัญในการแสวงหาความร่วมมือจากพหุภาคีทั่วโลก สำหรับการประชุมวันนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนและแลกเปลี่ยน ข้อมูล การจัดการกับอาชญากรข้ามชาติ เพื่อสนับสนุน  การพัฒนาข้อตกลงในการสืบสวนและบังคับคดี และเพื่อระบุวิธีการแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรม ในด้านความร่วมมือด้านการสืบสวน การดำเนินคดีและศุลกากร เพิ่มโอกาสในการสกัดกั้น การสืบสวน การแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และแผนประทุษกรรมของอาชญากรรมเกี่ยวกับสัตว์ป่า

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ประสานทางการลาว จับกุม 2 ผู้ต้องหาปล้นฆ่าพ่อค้ารถหลุดจำนำ

จากกรณีเมื่อวันที่ 9 ต.ค. 65 เวลาประมาณ 05.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านเป็ด ภ.จว.ขอนแก่น ได้รับแจ้งเหตุพบศพผู้เสียชีวิต ทราบชื่อต่อมาคือ นายพนม ทิพย์รัตนมงคล อายุ 40 ปี สภาพศพอยู่ลักษณะนอนหงาย ในมือข้างซ้ายกำสร้อยคอรูปพรรณน้ำหนัก 1 บาท มือขวากำพระเลี่ยมทอง มีบาดแผลถูกยิงที่บริเวณด้านหลังทะลุหน้าอก 1 แผล และพบรอยกระสุนปืนบริเวณโคนอวัยวะเพศ 2 แผล เหตุเกิดที่บริเวณทางเข้าสนามบินขอนแก่น ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียได้รายงานไปแล้ว นั้น

จากกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ดำเนินการควบคุมการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุในคดีนี้มาดำเนินคดีโดยเร็ว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ คนร้ายมีการใช้อาวุธปืนในการก่อเหตุ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น และ พ.ต.อ.สุรศักดิ์ มโนทัย ผกก.สภ.บ้านเป็ด ให้เร่งสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาที่ก่อเหตุในครั้งนี้ให้ได้ 

จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 8 ต.ค. 65 นายพนมฯ ผู้เสียชีวิต ได้มีการเสนอขายรถกระบะยี่ห้ออีซุซุ ดีแม็ก สีขาว ทะเบียน 1ขบ 2903 กทม. ซึ่งเป็นรถหลุดจำนำ ให้กับนายพันธรัตน์ หรือโก้ โดยได้มีการตกลงกันว่า จะมีการโอนเงินค่ามัดจำก่อน 19,000 บาท แล้วจะมีการจ่ายเงินที่เหลือตอนที่มีการนัดรับรถจริง ต่อมาในวันเดียวกัน ได้มีการนัดส่งมอบรถดังกล่าวที่บริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท. อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด โดยนายพนมฯ ได้พาเพื่อนไปด้วย 2 คน ส่วนในฝั่งนายพันธรัตน์ฯ ได้ไปกับนายจิราวุฒิ หรือเบนซ์  แต่เมื่อพบกันแล้ว ทางนายพันธรัตน์ฯ อ้างว่า เงินสดที่เตรียมมาไม่พอจ่าย โดยจะมีเงินโอนจากลาวมาในเช้าวันรุ่งขึ้น จึงเลื่อนการนัดรับรถออกไปและแยกย้ายกันกลับ ต่อมาเช้าวันที่ 9 ต.ค. 65 เวลาประมาณ 05.00 น. นายพันธรัตน์ฯ ได้นัดให้นายพนมฯ ขับรถคันดังกล่าวมาส่งมอบให้ที่บริเวณทางเข้าสนามบินขอนแก่นที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบว่า ทางฝั่งนายพันธรัตน์ฯ มากัน 5 คน โดยขับรถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์วี สีขาว มาด้วย ได้มีการลงไปพูดคุยกัน จากนั้นนายพันธรัตน์ฯได้ชักอาวุธปืนออกมา นายพนมฯ พยายามวิ่งหนี แต่ถูกนายพันธรัตน์ฯ ยิง 3 นัด จนล้มลงและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จากนั้นได้ขับรถกระบะที่นายพนมฯ นำมา หลบหนีไปทั้งหมด

หลังทราบข้อมูลดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน และออกหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 5 ราย ประกอบด้วย
1. นายพันธรัตน์ หรือโก้ อายุ 18 ปี
2. นายจิราวุฒิ หรือเบนซ์ อายุ 26 ปี
3. นายธนพล หรือเอ๊กซ์ อายุ 22 ปี
4. นายเกียรติศักดิ์ หรือบาส อายุ 26 ปี
5. นายอภิชาต หรือฟิว อายุ 22 ปี 

'เสี่ยเฮ้ง' เร่งฝึกช่างขุดเจาะบ่อน้ำมัน ส่งออกแรงงานไทยฝีมือไปซาอุฯ

ขานรับเอเปค

'เสี่ยเฮ้ง' เร่งฝึกช่างขุดเจาะบ่อน้ำมัน ส่งออกแรงงานไทยฝีมือไปซาอุฯ

สวนนงนุชพัทยา ขยายโปรโมชั่นตอนรับวันหยุดยาวและส่งท้ายปี ซื้อ 1 ฟรี 1

สวนนงนุชพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมขยายโปรโมชั่นตอนรับวันหยุดต่อเนื่องในเดือนธันวาคมและส่งท้ายท้ายปี ซื้อบัตรผ่านประตู1 ฟรี 1 ตลอดเดือนตั้งแต่วันที่ 1ธันวาคม ถึง 31ธันวาคม 2565 เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวแบบไทยเที่ยวไทยในเดือนสุดท้ายของปี

สวนนงนุชพัทยา มีการพัฒนาสวนอย่างต่อเนื่องบนพื้นที่ 1,700 ไร่ มีสวนสวย มากกว่า 50 สวน มีการตกแต่งสวนโดยผสมผสานพันธุ์ไม้นานาชนิดจากทั่วทุกมุมโลก จนได้รับการโหวตจากเว็ปไซต์ต่างๆในต่างประเทศให้ติด 1 ใน 10 สวนที่สวยที่สุดในโลก เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งสามารถมาเที่ยวชมเป็นหมู่คณะหรือครอบครัวในช่วงวันหยุดยาวตลอดเดือนธันวาคม

ผบ.ตร.โชว์ผลงานรอบ 2 เดือน เน้นนโยบาย 5 ด้าน เร่งด่วน แก้ปัญหาผู้เสพ- จับกุมปืน- กวาดล้างยาเสพติด-พนันฟุตบอล ทลายเครือข่ายนายทุนจีน แก็งต่างชาติ อาชญากรรมทางเทคโนโลยี สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน

วันนี้ (30 พ.ย. 65 ) เวลา 11.00 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยว่า “ตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาล โดยเฉพาะด้านอาชญากรรม ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน ด้านปัญหายาเสพติด อาวุธปืน สถานบริการ การพนัน คดีออนไลน์ และเครือข่ายคนต่างด้าวที่กระทำผิดกฎหมายในประเทศไทย อย่างเฉียบขาด จริงจัง และต่อเนื่อง โดยบังคับใช้ทุกมาตรการทางกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอแถลงผลการดำเนินการ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. – 28 พ.ย. 65 จำนวน 5 ด้าน ดังนี้

1. สถิติอาชญากรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (1 ต.ค.- 28 พ.ย. 65) รับคำร้องทุกข์ 142,740 คดี จับกุมได้ 131,349 คดี  คิดเป็น ร้อยละ 92
1.1 จับกุม อาวุธปืนและวัตถุระเบิด  22,027 คดี 20,316 คน (ปืนสงคราม 220 คดี, ปืนไม่มีทะเบียน 6,466 คดี, ปืนมีทะเบียน 529 คดี )
1.2 คดีเกี่ยวกับการพนัน 15,407 คดี ผู้ต้องหา 18,170 คน จับกุมกรณี บ่อนการพนัน (20 คนขึ้นไป) 4 คดี ผู้ต้องหา 108 คน
โดยศูนย์ป้องกันและปราบปรามการลักลอบเล่นการพนันทายผลฟุตบอลโลก (World Cup 2022) มีผลปฏิบัติ จับกุมเจ้ามือ จำนวน 104 ราย (เจ้ามือ 57 ราย เจ้ามือออนไลน์ 47 ราย) ผู้เล่น 4,975 ราย (ผู้เล่นทั่วไป 4,559 ราย ผู้เล่นออนไลน์ 416 ราย) เดินโพย 22 ราย รวม จำนวนทั้งสิ้น 5,101 ราย โดยยึดของกลางโพยบอล 7,064 ใบ เงินสด 98,140 บาท รวมมูลค่า 1,268,000 บาท
1.3 จับกุมความผิดเกี่ยวกับสถานบริการ 1,032 คดี ผู้ต้องหา 1,024 คน
2. ด้านการป้องกันปราบปรามยาเสพติด

2.1 ค้นหาและนำผู้สมัครใจเข้าสู่กระบวนการบำบัดฯ จำนวน 72,716 ราย และผู้เสพที่มีอาการ   ทางจิตประสาท จำนวน 21,143 ราย รวมทั้งสิ้น 93,859 ราย
2.2 ผู้เสพไม่สมัครใจบำบัดหรือกระทำผิดซ้ำ จับกุม จำนวน 46,980 ราย (กลุ่มฐานความผิดร้ายแรง (ผู้จำหน่าย ครอบครองเพื่อการค้า ซึ่งทำให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน) จำนวน 9,329 ราย
โดยสามารถนำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย รวมทั้งสิ้น จำนวน 140,839 ราย ระยะเวลา ต.ค.-พ.ย.65 คิดเป็นร้อยละ 54 เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ พ.ศ.2565
2.3 จับกุมยาเสพติด 47,310 คดี  ผู้ต้องหา 46,453 คน ปริมาณของกลางยาบ้า 34,827,953 เม็ด ไอซ์ 67.88 กิโลกรัม เฮโรอีน 125.9 กิโลกรัม เคตามีน 406.5 กิโลกรัม  โคเคน 2.4 กิโลกรัม  และ ยาอี 1,217 เม็ด,ดำเนินการตามยึดทรัพย์ ตามมาตรการฟอกเงิน 3 ราย
2.4 ดำเนินโครงการชุมชนยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรในพื้นที่ 1,483 หมู่บ้าน/ชุมชน จำนวนไม่น้อยกว่า 15,000 ราย โดยจะเริ่มดำเนินการได้ในห้วง ม.ค.-เม.ย.2566
3. ด้านการแจ้งความออนไลน์ และ อาชญากรรมทางเทคโนโลยี
สถิติการรับแจ้งความออนไลน์ตั้งแต่ 1 มี.ค. – 29 พ.ย.65   รับแจ้งความ 134,268 คดี พบว่า ข้อมูล 5 กลโกงที่พบการรับแจ้งมากที่สุด ( 1.คดีหลอกลวงซื้อขายสินค้า 2.โอนเงินเพื่อหารายได้จากกิจกรรม 3. หลอกให้กู้เงินแต่ไม่ได้เงิน 4. หลอกให้ลงทุน 5. หลอกลวงทางโทรศัพท์แบบเป็นขบวนการ/Call Center)

ข้อมูล 5 กลโกงที่พบความเสียหายสูงสุด ( 1.หลอกให้ลงทุน (6.4 ลบ.) 2.หลอกลวงทางโทรศัพท์แบบ เป็นขบวนการ (2.1 ลบ.) 3. โอนเงินเพื่อหารายได้จากกิจกรรม (2.0 ลบ.) 4. หลอกให้รักแล้วลงทุน (0.99 ลบ.) 5. หลอกให้กู้เงินแต่ไม่ได้เงิน (0.67 ลบ.) สามารถติดตามอายัดบัญชี 49,765 บัญชี สามารถอายัดได้ทัน 385,759,583 บาท
4. ด้านเครือข่ายคนต่างด้าวกระทำผิดกฎหมาย ผบ.ตร. สั่งการให้ ผบช.สตม. ดำเนินการเพิ่มความเข้มในการคัดกรอง กวาดล้างและจัดระเบียบ  คนต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย กระทำความผิดลักษณะเป็นเครือข่ายคนต่างด้าวกระทำผิดกฎหมายในประเทศไทย ดังนี้
4.1 คัดกรองคนต่างด้าวมีการปฏิเสธคนต่างด้าวเข้าเมือง จำนวน 3,395 ราย คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง 2,005 ราย ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น 21 ราย และจัดระเบียบคนต่างด้าวในประเทศ ไม่รายงานตัวฯ 582 ราย (มาตรา 37) ไม่แจ้งที่พักอาศัยคนต่างด้าว 8,770 ราย (มาตรา 38) และจับกุมคนต่างด้าวอนุญาตสิ้นสุด (Overstay) จำนวน 1,073 ราย
4.2 ขยายจับกุมเครือข่ายนายทุนจีนผิดกฎหมาย จากกรณี ร้านผับจินหลิง คดีที่เมื่อวันที่ 26 ต.ค.65 เข้าตรวจค้น  พบผู้ใช้ยาเสพติดกว่า 104 ราย และพบยาเสพติดจำนวนมาก พร้อมตรวจยึดรถยนต์หรู จำนวน 35 คัน จากการขยายผลพบเพิ่มอีก 4 กรณี ได้แก่
1. ร้านคลับวันพัทยา พื้นที่ สภ.เมืองพัทยา หลังการตรวจค้น พบยาเสพติดจำนวนมาก ผู้ต้องหา 4 ราย

แม่ทัพภาคที่ 2 ตรวจเยี่ยมหน่วยป้องกันชายแดน อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 พลโทสวราชย์ แสงผล แม่ทัพภาคที่ 2 เดินทางมาตรวจเยี่ยมหน่วยในพื้นที่ชายแดนแม่น้ำโขง อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี โดยมี พลตรี วีระยุทธ รักศิลป์ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี และ ผู้บังคับหน่วยในพื้นที่ให้การต้อนรับ และร่วมปฏิบัติภารกิจ 

'พงศ์พรหม' ห่วง!! บางสื่อโซเชียลชี้คนนิยมหรูเพื่ออวด ก่อวัฒนธรรมเกินตัว!! ลงเอย 'ปล้น-โกง-เครียด-ฆ่าตัวตาย'

นายพงศ์พรหม ยามะรัต รองโฆษกพรรคสร้างอนาคตไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Pongprom Yamarat ระบุว่า...

มีคนรู้จักมาบ่นเรื่องญาติออกรถ G-class รุ่นใหม่ สีดำ ให้ฟังครับ ประเด็นคือเป็นครอบครัว 4 คน ฐานะกลางๆ ค่อนไปทางน้อย แต่ไม่ได้ลำบากอะไร

3-4 ปีมานี้หัวหน้าครอบครัวเสพติดโซเชียลมากขึ้น ตามแนวทาง 'ของมันต้องมี' และ 'ใครๆ เค้าก็มีกัน'

เมื่อต้นปีไปขายที่ดินที่มีอยู่ผืนเดียวในราคา 10 กว่าล้านบาท เอามาซื้อรถราคาเกือบ 10 ล้านบาท คือ G-class รุ่นนี้ สีดำ

แต่ที่ญาติๆ ห่วงคือ ยังให้ลูกเรียนโรงเรียนประชาบาลใกล้บ้าน ชีวิตนี้ลูกไม่เคยได้รู้จักคำว่าพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ไม่สนใจในการลงทุนพัฒนาตัวเอง หรือลูกๆ ไม่มีการคิดว่าจะเอาเงิน 10 กว่าล้านนั้น ไปสร้างคุณภาพชีวิตให้ครอบครัว หรือเก็บออมเพื่ออนาคตการศึกษา หรือยามเจ็บป่วยอย่างไร

แถมยังบอกว่า บ้านอื่น ๆ ตามท้องไร่ท้องนา ก็ขายที่ดินออก Alphard กันตั้งเยอะ

จริงครับ เพื่อนผมขายรถ ปัจจุบัน Alphard กลายเป็นขวัญใจคนภูธรไปเรียบร้อย ต่อจาก Fortuner 

ปัญหาขายที่ดินมาออกรถ เอาเงินอนาคตมาแต่งกระบะบ้าง รถยนต์บ้าง อยากมีของแพง ๆ เหมือนคนอื่นบ้าง กำลังเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมไทยครับ

ปัญหานี้หลาย ๆ คนเรียกว่าการขาด Financial Literacy

10 ล้านไม่ใช่เงินเยอะ ถ้าจะมอง 'ครอบครัว' เป็นตัวตั้ง

ครอบครัวที่ประสบความสำเร็จ และคนในประเทศที่เจริญแล้วในโลกนั้น...

1. ต่อให้มีเงินไม่ถึงแสน เค้าจะคิดถึงการศึกษาก่อน
เพราะการศึกษาสามารถหาเงินได้มากกว่า 10 ล้านบาท

2. ครอบครัวที่ประสบความสำเร็จ จะแบ่งเงินเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยในอนาคต

3. นำเงินมาลงทุนในสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำ แต่ได้ผลตอบแทนบ้าง แล้วค่อยนำผลนั้นมาใช้

4. และเอาเงินส่วนนึง มาซื้อการเรียนรู้ในโลก เช่นไปผจญภัยตามป่าเขา หรือศิลปะ หรือวิทยาศาสตร์อะไรแล้วตามแต่

ส่วนเงินซื้อของฟุ่มเฟือย จะเอามาจาก 'ผลของเงินต้น' เช่น...

เอาเงิน 8 ล้านบาท มาซื้อพันธบัตรคุณภาพดี เอาซัก B+ ก็ได้ เพื่อรับ yield ซัก 4% นั่นคือเงินฟรี ๆ ปีละ 320,000 บาท ที่จะเอาไปเผาทิ้งก็ไม่มีใครว่า

'พิ้งกี้-แม่' ยันในชั้นศาล เป็นเพียงนักลงทุน ไม่เคยชักชวนลงทุน แชร์ FOREX-3D

‘พิ้งกี้-แม่’ ปฏิเสธชั้นศาลไม่เคยชักชวนลงทุน แชร์ FOREX-3D เป็นเพียงนักลงทุนคนหนึ่ง เงินที่ได้รับเป็นผลตอบแทนในการลงทุน ไม่เคยได้รับค่าแนะนำการลงทุน ส่วนพี่ชายพิ้งกี้ ระบุมีชื่อเป็นกรรมการ แต่ไม่มีส่วนร่วมบริหาร 

พิ้งกี้ขึ้นศาลคดีแชร์ FOREX-3D วันนี้ (29 พ.ย.65) ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 701 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายอภิรักษ์ โกฎธิ CEO บริษัท FOREX-3D น.ส.สาวิกา ไชยเดช หรือพิ้งกี้ นักแสดงสาวชื่อดัง นางสรินยา ไชยเดช มารดา นายกิตติเชษฐ์ ไชยเดช พี่ชาย กับพวกที่ตกเป็นจำเลยในคดีฉ้อโกงประชาชน รวม 24 คน ได้ถูกเบิกตัวออกจากเรือนจำมาตรวจพยานหลักฐานในคดี และสอบคำให้การจำเลย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top