Sunday, 16 June 2024
NEWS

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเดินสายบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยน้ำท่วมต่อเนื่อง มอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดนครปฐมและปทุมธานี

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริพร กระจ่างหล้า หัวหน้าแผนกสังคมสงเคราะห์ พร้อมด้วยนายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกสังคมสงเคราะห์ นำทีมเจ้าหน้าที่ และอาสาสมัคร ลงพื้นที่จังหวัดนำเครื่องอุปโภคบริโภคแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่บริเวณศาลาการเปรียญวัดไทร ตำบลท่ากระชับ อำเภอนครไชยศรี  และบริเวณองค์การบริหารส่วนตำบลไทรงาม อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม และบริเวณวัดสามัคคียาราม ตำบลคลองควาย 

บริเวณศาลาริมทางหน้าวัดเจดีย์ทอง อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี รวมทั้งสิ้น 2 จังหวัด รวม 1,000 ชุด  คิดเป็นมูลค่า 350,000 บาท (สามแสนห้าหมื่นบาทถ้วน)  โดยมี สำนักงานกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแต่ละจังหวัดเป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐร่วมในพิธี เมื่อวันที่ 9-10 พฤศจิกายน 64 ที่ผ่านมา

 

Jai Bhim สุดยอดหนังอินเดีย สะท้อน ‘วรรณะ - ความยุติธรรม’ ขึ้นแท่น IMDb เหนือ The Shawshank Redemption

#ถกหนังแขก ‘ตำรวจทุกคนไม่ได้เป็นคนเลวนะ’ … ‘ก็จริง แต่ตำรวจทุกคน ก็ไม่ได้เป็นคนดีหนิ’ … นี่คือเรื่องราวเรียกน้ำย่อยของ Jai Bhim (2021) หนังอินเดียอันดับ 1 ใน Top 250 และ Top 1000 ของ IMDb ที่ทำคะแนนโหวตสูงสุด ที่ 9.6/10 โดยเพจ ‘หลงอินเดีย’ ได้นำมาเผยถึงเหตุผลที่หนังเรื่องนี้ได้คะแนนแซงหน้าหนังอมตะอย่าง The Shawshank Redemption ที่ 9.3 คะแนน และ The Godfather ที่ 9.2 คะแนน ว่า…

#พล็อตเรื่องสั้นๆ
ทนายความ Madras K. Chandru ผู้ที่เข้ามาว่าความต่อสู้ กับคดีที่ดูจะไม่เป็นธรรมแก่ชาวเผ่า Irulas ที่ถูกผู้มีอิทธิพลในชุมชน และบรรดาผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ใส่ความว่าได้เข้าไปขโมยของมีค่า จากบ้านหลังหนึ่ง ทำให้พวกกลุ่มคนชาวเผ่าอิรูลัส ต้องกลายมาเป็นแพะรับบาป และต้องถูกกดขี่ ด้วยการใช้อำนาจที่เกินกว่ากฎหมาย กระทั่งทนายความจันดรู ได้เข้ามาต่อสู้กับคดีนี้เพื่อชาวเผ่า และต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดัน ที่อยู่เหนือกฎหมายมากมาย...และทนายความจันดรู จะสามารถช่วยชาวเผ่าที่เกือบ เป็นผู้ไร้ตัวตนของประเทศอินเดีย ในคดีนี้ได้หรือไม่ เพราะบรรดาผู้มีอิทธิพลทั้งหลาย สามารถทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดถึงได้เลยจริง ๆ

#ความสนุกของหนัง
ช่วงแรกของหนัง อาจจะสร้างความสงสัยให้แก่ผู้ชมมากพอสมควร เพราะหนังเปิดมาด้วยฉาก การคัดแยกคนกระทำผิด ด้วยการให้ขานชื่อของวรรณะ แล้วหลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ได้เลือกปฏิบัติ กับคนกลุ่มหนึ่งทันที

หนังพาเราย้อนไปในเหตุการณ์ปี 1993 ว่า ในประเทศอินเดียนั้น ยังคงมีกลุ่มชาวเผ่าอาศัยอยู่ ซึ่งปัจจุบันก็ยังมี โดยกลุ่มชาวเผ่าต่าง ๆ นี้ มักจะถูกกดขี่ ข่มเหง รวมถึงถูกตั้งชนชั้นวรรณะให้แก่พวกเขา ในลำดับที่เกือบจะต่ำที่สุดด้วย

และเพราะชนชั้นที่สังคมได้ตีตราให้นั้น มันค่อนข้างต่ำมาก จึงทำให้การที่ชาวเผ่า จะกลายเป็น #แพะรับบาป ในกรณีผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัย เป็นการง่าย ที่จะโยนความผิดให้

‘ศ.ดร.กนก’ ห่วง!! ความล้มเหลวการศึกษาไทย เมื่อครูดี ๆ เริ่มทนไม่ไหวกับระบบที่เป็นอยู่

ศ.ดร.กนก ชี้!! ครูโพสต์ใบลาออก ทนภาระงานเอกสารไม่ไหว สะท้อนความล้มเหลวระบบการศึกษาไทย ให้ความสำคัญงานวิชาการ มากกว่าพัฒนาการเรียน การสอน แนะ รื้อระบบแรงจูงใจ เพิ่มค่าตอบแทน ก่อนสมองไหล ไร้คนอยากเป็นแม่พิมพ์ของชาติ

ศ.ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีครูสาวโรงเรียนแห่งหนึ่ง โพสต์ภาพหนังสือลาออก พร้อมข้อความสรุป หมดความอดทนกับการทำเอกสารประเมิน ตั้งใจสอน แต่แพ้คนทำเอกสารปลอม ซึ่งสะท้อนความล้มเหลวระบบการศึกษาไทย ที่ดูเหมือนจะให้แต่ความสำคัญกับงานวิชาการ มากกว่าพัฒนาการเรียนการสอน ว่า…

เป็นการฉายภาพความล้มเหลวของระบบการศึกษาไทย ซึ่งตนเคยสะท้อนไปหลายครั้งแล้ว เกี่ยวกับภาระงานของครู ว่าเป็นกับดักอันตรายที่ฉุดคุณภาพการศึกษาไทย เนื่องจากภาระครูในเรื่องเอกสารไม่เคยลดลง เป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง ที่ระบบกำหนดให้ต้องทำทั้งงานวัดผล งานวิชาการ งานธุรการ งานงบประมาณ ฯลฯ แทนที่จะให้เวลาครูได้ทำงาน ในเรื่องการพัฒนาการเรียน การสอน อาทิ งานหลักสูตร งานแนะแนว ถ้าไม่แก้ไขเรื่องเหล่านี้ จะมีครูดี ๆ อีกจำนวนมาก ที่ทนไม่ไหวกับระบบที่เป็นอยู่ จนต้องเดินจากอาชีพแม่พิมพ์ของชาติ

นอกจากนี้ ศ.ดร.กนก ยังได้กล่าวฝากเกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพครูไว้ 3 ประการ ดังนี้…

1.) ควรมีการรวบรวมข้อมูล ‘การขาดแคลนครู’ ทั้งในสาระวิชาและโรงเรียน มาใช้บริหารบุคลากรทางการศึกษา ความพยายามทางนโยบายในลักษณะนี้จะสำเร็จได้ ต้องปฏิบัติเงื่อนไขสำคัญ คือ หนึ่ง ข้อมูลสถานภาพครู (ทั้งสาระวิชาและจำนวน) ต้องเป็นปัจจุบัน และสามารถบอกได้ว่า บัญชีสถานภาพครูทั้งประเทศที่คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ศ.น.) ถืออยู่ในมือเป็นอย่างไร และการมีครูจริงในแต่ละโรงเรียนตรงกับบัญชีนั้นหรือไม่ เมื่อตรวจสอบข้อมูลจริงแล้ว จะเห็นว่าความเป็นจริงกับข้อมูลไม่ตรงกัน ตั้งแต่จำนวนครูไม่ตรงกัน การบรรจุครูสาระวิชาไม่ตรงกับตำแหน่งที่มี เป็นต้น 

2.) กระทรวงศึกษาธิการ ควรต้องรื้อ ‘ระบบแรงจูงใจ’ และ ‘ค่าตอบแทน’ ใหม่ เพื่อเก็บรักษาครูเก่ง ครูคุณภาพ ไว้กับนักเรียนที่ด้อยโอกาสในที่ทุรกันดารให้นานที่สุด

3.) การร่วมมือกับกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ผลิตครูที่สามารถส่งความรู้และทักษะให้นักเรียนได้ เป็นแนวความคิดที่ดี เพราะการผลิตครูในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา เน้นสร้าง ‘นักบริหารการศึกษา’ มากกว่าสร้าง ‘ครู’ ที่จะสอนนักเรียนให้เกิดการเรียนรู้ ทำให้ ‘คณะศึกษาศาสตร์’ ตามมหาวิทยาลัยจะให้ความสำคัญกับเรื่องเฉพาะทางการศึกษา เช่น การบริการการศึกษา, การวัดประเมินผลการศึกษา, นโยบายการศึกษา เป็นต้น ส่วนหลักสูตรที่เน้นการเรียนการสอนโดยตรงมีน้อยมาก

“ดร.ยงยุทธ” สส.สมุทรปราการ พร้อมด้วย “ผู้การวิชิต” อ่างทอง ตัดริบบิ้นแสดงความยินดีกับครอบครัว ‘จิตต์สงวน’ ถือฤกษ์ดี! เปิดร้าน ตรอ.สาขา 7

ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร สส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.จ.อ่างทอง ให้เกียรติเดินทางมาเป็นประธานตัดริบบิ้นและร่วมแสดงความยินดีกับทางด้าน พ.ต.อ.สาโรช จิตต์สงวน ร.ต.ต.หญิงพวงผกา  จิตต์สงวน เนื่องในโอกาสทำบุญเปิดร้านตรวจสภาพรถมังกร ออโต้ คาร์ (สาขา 7) ตรอ. ตั้งอยู่ภายในซอยวัดหลวงพ่อโต  ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยมี ข้าราชการระดับสูง ผู้ประกอบการร่วมแสดงความยินดีเป็นจำนวนมาก แบบ New Normal

โดยพิธีในช่วงเช้าวันนี้ทางครอบครัว “จิตต์สงวน” ถือฤกษ์ดีประกอบพิธีตั้งศาลเพื่อความเป็นศิริมงคล จากนั้น ในเวลาต่อมาทาง พ.ต.อ.สาโรช จิตต์สงวน ร.ต.ต.หญิงพวงผกา จิตต์สงวน พร้อมทั้งแขกผู้มีเกียรติจำนวนมากร่วมถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์วัดบางพลีใหญ่ใน (พระอารามหลวง) จำนวน 9 รูป พระสงฆ์ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ พร้อมทั้งเจิมป้ายร้านเพื่อความเป็นศิริมงคลให้กับทางครอบครัวจิตต์สงวน อีกด้วย

จากนั้น ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร สส.สมุทรปราการ พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.จ. อ่างทอง ให้เกียรติตัดริบบิ้นเปิดป้ายร้านตรวจสภาพรถมังกร ออโต้ คาร์ (สาขา 7) อย่างเป็นทางการ โดยมีแขกผู้มีเกียรติจำนวนมากร่วมตัดริบบิ้นและร่วมแสดงความยินดี

ด้าน ร.ต.ต.หญิงพวงผกา จิตต์สงวน ผู้บริหารร้านตรวจสภาพรถมังกร ออโต้ คาร์ กล่าวว่า สำหรับร้านตรวจสภาพรถมังกร ออโต้ คาร์ สาขา 7 แห่งนี้ ตั้งอยู่ริมถนนภายในซอยวัดหลวงพ่อโต อีกทั้ง ภายในสถานที่ให้บริการนั้นยังมีร้านอำนวยความสะดวกไว้สำหรับลูกค้าที่มาใช้บริการ อาทิ ร้านอาหาร ร้านเบเกอรี่ ร้านซ่อมรถยนต์ ร้านล้างทำความสะอาดรถยนต์และรถจักรยานยนต์ และร้านอื่น ๆ อีกหลายร้าน

ILINK ครองสถิติโตต่อเนื่อง!! รายได้ - กำไรพุ่งแรงทุกธุรกิจ ตุนกำไร 9 เดือนบวก 27.25%

ผลประกอบการไตรมาส 3/64 ของ ILINK ทำรายได้โต 16.61% แตะ 1,551.77 ล้านบาท พร้อมกำไร 78.85 ล้านบาท พุ่งแรง 44.55% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รับไฮซีซั่น และการเติบโตของเทรนดิจิทัล มั่นใจโค้งสุดท้ายของปีพุ่งสู่เป้า New High 6,000 ล้านบาท

นายสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสายสัญญาณที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน และผู้นำเข้า และค้าส่งอุปกรณ์เครือข่ายส่งสัญญาณ เปิดเผยว่า “ผลประกอบการไตรมาส 3/64 มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,551.77 ล้านบาท เติบโต 16.61% จากทั้ง 3 ธุรกิจ เมื่อเทียบกับ 1,330.79 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะเดียวกันมีกำไรสุทธิ (ส่วนที่มีอำนาจควบคุม) 78.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.55% เมื่อเทียบกับ 54.55 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้มั่นใจได้ว่า แนวโน้มรายได้และกำไรสุทธิปี 2564 นี้ มุ่งสู่จุดสูงสุดในรอบ 5 ปี”

ธุรกิจจัดจำหน่าย (Distribution) ไตรมาส 3/64 มีรายได้จากการขายรวม 597.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.99% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยการเพิ่มขึ้นของรายได้ในงวดนี้ซึ่งเป็นไฮซีซั่นของธุรกิจ เป็นผลมาจากการเติบโตของกระแสดิจิทัล รวมถึงการดำเนินธุรกิจที่ปรับตัวได้เป็นอย่างดี แม้จะประสบกับสถานการณ์ล็อกดาวน์ภายในประเทศจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรง และกระทบต่อหลายธุรกิจทั่วโลก แต่สำหรับธุรกิจจัดจำหน่าย กลับสวนทางตอบรับปัจจัยการสนับสนุนและเติบโตจากเทรนเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งจำเป็นต้องพึ่งพาการเชื่อมต่อสื่อสารผ่านสายสัญญาณ และอุปกรณ์ส่งสัญญาณที่ได้มาตรฐานและมีเสถียรภาพสูงสุด จึงผลักดันให้ความต้องการในสินค้าของธุรกิจจัดจำหน่ายพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง

 

“ผบ.ทร.” ตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญกำลังพลทัพเรือภาคที่ 2 จังหวัดสงขลา

พล.ร.อ.สมประสงค์  นิลสมัย  ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) และคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมกำลังพลทัพเรือภาคที่ 2 ณ กองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา โดยมี พลเรือโท   สุนทร  คำคล้าย ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 ให้การต้อนรับ  โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ  พร้อมทั้งมอบโอวาทแก่กำลังพล  

โดยได้กล่าวชื่นชมทัพเรือภาคที่  2  ว่า เป็นหน่วยกำลังรบหลักของกองทัพเรือในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ได้ปฏิบัติหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตย และรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล รวมทั้งการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดในทะเล  ด้วยความเข้มแข็งตลอดมา  โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความช่วยเหลือพี่น้องชาวประมงไทย การปราบปรามยาเสพติด การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล ตลอดจนการป้องกันการทำลาย และอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  ป้องกันและขจัดมลพิษในทะเลบริเวณชายฝั่ง รวมทั้งการอนุรักษ์และเพาะพันธุ์เต่าทะเล จึงนับว่าเป็นตัวแทนของกองทัพเรือ ที่ได้สร้างชื่อเสียงความภาคภูมิใจจนเป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชนทั่วไป ว่าเป็นกองทัพเรือ เพื่อประชาชนอย่างแท้จริง  


นอกจากนั้น ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กล่าวถึงผลการปฏิบัติงานตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาของทัพเรือภาคที่ 2  ว่า "ผมได้ติดตามการปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิด ท่านทั้งหลายสามารถปฏิบัติภารกิจที่มอบหมายได้เป็นอย่างดียิ่งจนเป็นที่ยอมรับและศรัทธาของพี่น้องประชาชน ตลอดจนหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่เสมอมา แสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพมีการบูรณาการอย่างแท้จริง

ผมขอแสดงความชื่นชมและขอให้ทุกคนตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ดังเช่นที่ผ่านมา ด้วยความรัก ความสามัคคีด้วยความซื่อสัตย์ มีความวิริยะอุตสาหะ จงรักภักดี ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ ด้วยสติรู้ตัว  ด้วยปัญญารู้คิด สุจริตจริงใจ โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าประโยชน์ส่วนอื่น พัฒนาขีดความสามารถให้เป็นมาตรฐานสูงขึ้นไปอีก โดยยึดนโยบายกองทัพเรือ และเจตนารมณ์ผู้บัญชาการทหารเรือ ประจำปีงบประมาณ 2565 ที่ผมให้ไว้เป็นกรอบทิศทางหลักและแนวทางปฏิบัติงานที่สำคัญที่จะดำเนินการเพื่อร่วมกันเสริมสร้างและพัฒนากองทัพเรืออันเป็นที่รักยิ่งของเราให้มีความเจริญก้าวหน้าและมั่นคงสืบไป  "

ทั้งนี้ ทัพเรือภาคที่ 2 มีภารกิจในการป้องกันราชอาณาจักรและรักษาความมั่นคง รวมทั้งผลประโยชน์ของชาติทางทะเลในพื้นที่รับผิดชอบบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง โดยปัจจุบันมีศูนย์ปฏิบัติการต่างๆ ในความรับผิดชอบของทัพเรือภาคที่ 2 ประกอบด้วย ศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 2 ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ทัพเรือภาคที่ 2  ศูนย์ควบคุมชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านมาเลเซีย ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 2  ศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานและเรือที่ประสบภัยในทะเล ทัพเรือภาคที่ 2  ศูนย์ควบคุมการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน ทัพเรือภาคที่ 2 ศูนย์ไทยอาสาป้องกันชาติในทะเลเขตทัพเรือภาคที่ 2 ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง ประจำพื้นที่ ทัพเรือภาคที่ 2 และ ศูนย์ให้บริการด้านการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยโรคติดต่อ Covid - 19  ประจำพื้นที่จังหวัดสงขลา    

ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีผลการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง อาทิ การจับกุมการลำเลียงยาเสพติดทางทะเล   การป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายและเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ  Covid – 19  การให้ความช่วยเหลือประชาชนจากภัยพิบัติต่าง ๆ และจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid – 19   ทัพเรือภาคที่ 2 ได้จัดศูนย์พักคอย (Community Isolation)  สำหรับรองรับผู้ป่วย  การให้บริการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย รวมถึงการจัดกำลังพลอำนวยความสะดวกและจัดนักดนตรีสร้างความผ่อนคลายให้แก่ประชาชนที่เข้ามารับการฉีดวัคซีน ณ สนามกีฬาติณสูลานนท์  ตั้งแต่เริ่มดำเนินการจนถึงปัจจุบัน

 

'นายกรัฐมนตรี' เป็นประธานเปิดศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน สินค้า OTOP อันดามัน 6 จังหวัด แห่งแรกของไทย

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน สินค้า OTOP อันดามัน (ANDAMAN OTOP SHOP) 6 จังหวัด (ระนอง ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล) ณ ศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรมอันดามัน เทศบาลเมืองกระบี่ อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ รวมทั้งได้เยี่ยมชมภายในศูนย์ฯ ทักทายผู้ประกอบการร้านค้า และประชาชนที่มารอต้อนรับ

สำหรับศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนสินค้าโอทอปอันดามันแห่งแรกของไทยนี้ เป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดกระบี่ ที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว สร้างงาน สร้างรายได้กับประเทศชาติและประชาชนในท้องถิ่น เป็นสถานที่จำหน่ายสินค้าที่มีชื่อเสียงกลุ่ม 6 จังหวัดอันดามัน อาทิ น้ำพริกกุ้งเสียบ เม็ดมะม่วงหิมพานต์เผา ปลากรอบ กาแฟชงสำเร็จรูป เครื่องประดับมุข ผลิตภัณฑ์บาติก เรือหัวโทงจำลอง มีดพร้า รูปแกะสลักหนังตะลุง ผลิตภัณฑ์จากเกล็ดปลาและใบยาง ผ่าปาเต๊ะ เป็นต้น

อาคารศูนย์ฯ ดังกล่าวได้รับงบประมาณจากกลุ่มจังหวัดอันดามัน ปี 2561 จำนวน 21 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2561 ถึง 9 กันยายน 2562 จากนั้นจังหวัดกระบี่ส่งมอบให้สำนักงานเทศบาลเมืองกระบี่ เมื่อ 20 มกราคม 2563 ทำการตกแต่งจัดภูมิทัศน์ด้านหน้าและด้านข้างอาคาร เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางในการจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองและสินค้าโอทอปภาคใต้ฝั่งอันดามัน และเป็นหนึ่งในกลุ่มอาคารศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรมอันดามัน ซึ่งประกอบด้วยพิพิธภัณฑ์ลูกปัด หอศิลป์อันดามัน เป็นต้น

 

เยอรมนี ขยายสถานการณ์ฉุกเฉิน คุมเข้มโควิด หลังยอดผู้ป่วยพุ่ง หวั่น!! สธ.รับมือไม่อยู่

สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในเยอรมนีเริ่มเลวร้ายลงต่อเนื่อง ทำให้หลายรัฐออกมากระตุ้นพรรคการเมือง ที่กำลังเจรจาจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ต่อเวลาสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปอีก ขณะที่ผู้ป่วยโควิดเริ่มล้นโรงพยาบาลอีกครั้ง เตียงในห้องผู้ป่วยหนักใกล้เต็มความจุ

รัฐมนตรีสาธารณสุข 3 รัฐ จากทั้งหมด 16 รัฐของเยอรมนี คือ รัฐบาเดิน-เวือร์ทเทิมแบร์ค, รัฐเฮสเซน, รัฐบรันเดินบวร์ค เรียกร้องให้พรรคการเมืองที่กำลังเปิดการเจรจาตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ขยายอำนาจรัฐในการบังคับใช้มาตรการควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ให้เข้มข้นยิ่งขึ้น เช่น การใช้มาตรการจำกัดพื้นที่ หรือการปิดโรงเรียน ขณะอัตราการติดเชื้อในประเทศระยะ 7 วัน ทำสถิติสูงสุดต่อเนื่อง

โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีผู้ติดเชื้อต่อประชากร 100,000 คน เพิ่มขึ้นเป็น 277.4 ซึ่งเป็นข้อมูลจากสถาบัน โรแบร์ท ค็อค หรือ RKI หน่วยงานด้านสาธารณสุขของเยอรมนี ที่เผยแพร่ในวันเสาร์ (13 พฤศจิกายน) ที่ผ่านมา และเพิ่มสูงขึ้นกว่า 500 ในหลายภูมิภาคของประเทศ

มาร์บูร์เกอร์ บันด์ ประธานสมาคมแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนี กล่าวกับสื่อเยอรมนีว่า ห้องฉุกเฉิน หรือไอซียู ที่ผู้ป่วยมากขึ้นจนไม่สามารถรับมือได้ไหว อาจต้องย้ายผู้ป่วยระหว่างภูมิภาค เพื่อไปหาเตียงว่าง ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้

ด้านรัฐบาลกลางและบรรดาผู้นำ 16 รัฐของเยอรมนี เตรียมหารือกันเกี่ยวกับการใช้มาตรการใหม่ในการควบคุมการระบาดของไวรัสในสัปดาห์หน้านี้ แต่ 3 พรรคการเมืองที่กำลังเจรจาต่อรองจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ตกลงที่จะขยายสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งบังคับใช้ตั้งแต่ไวรัสเริ่มต้นระบาด ที่ตามแผน จะสิ้นสุดลงในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้

รัฐมนตรีสาธารณสุขของ 3 รัฐ แย้งว่า รัฐต้องเปิดทางเลือกเพื่อดำเนินการตามนโยบาย ซึ่งบังคับใช้สถานการณ์ฉุกเฉินที่จำเป็น เช่น การห้ามประชาชนออกนอกเคหสถาน หรือเคอร์ฟิว, การจำกัดพื้นที่ หรือปิดโรงเรียน หากสถานการณ์เลวร้ายลง

‘บิ๊กตู่’ เยี่ยมศูนย์พัฒนาประสิทธิภาพสร้างความปลอดภัย พร้อมชมสาธิตช่วยนักท่องเที่ยวประสบภัย “ขอ” ทุกคนรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์  ปลื้มนทท.จองมาไทยแสนกว่าคน ชวนฉีดวัคซีน บอกไม่ต้องกลัว ลั่นพร้อมรับฟังใครทุจริตขอให้บอก ไม่ต้องกลัว 

ที่จ.กระบี่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมคณะ เดินทางถึงตำบลไสไทย อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ เพื่อเดินตรวจเยี่ยมศูนย์พัฒนาประสิทธิภาพการให้ความช่วยเหลือและสร้างความปลอดภัย ทางการท่องเที่ยวจ.กระบี่ พร้อมชมการสาธิตเหตุการณ์จำลองการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวโดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการดังกล่าวถือเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อให้ประเทศปลอดภัยจากภัยพิบัติทั้งภัยธรรมชาติและภัยที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ ทั้งนี้ บ้านเมืองเจริญเติบโตขึ้นทุกวันและมีความเสี่ยง การท่องเที่ยวมีมากขึ้น ปัญหาที่เจอในวันนี้มีทั้งทางบกและทางทะเล ในการท่องเที่ยวทุกประเภทว่าจะดำเนินการส่งข่าวแจ้งเหตุกันอย่างไร จึงจะต้องทำงานแบบบูรณาการไม่ใช่ทำงานแบบของใครของมัน จึงต้องให้ความสำคัญในเรื่องเหล่านี้ รวมถึงเรื่องของเรือรั่วและน้ำมันรั่วจะต้องศึกษาปัญหาต่างๆเหล่านี้ ซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลอยู่แล้ว

แต่สิ่งสำคัญการทำงานจะต้องบูรณาการของทุกหน่วยงาน เราจะมีความพร้อมเพียงหน่วยงานเดียวไม่ได้ แต่จะต้องดูหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการกู้ภัยช่วยเหลือว่ายังมีหน่วยงานอะไรบ้างทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งตนยินดีที่ได้มีการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวเหล่านี้ และวันนี้ต่อไปอาจจะเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนได้เปิดสถานฝึกดังกล่าวเหล่านี้ขึ้นมาบ้าง เพื่อลดปัญหาในเรื่องงบประมาณของภาคราชการแต่สถานที่ฝึกจะต้องมีใบรับรองครบถ้วนสมบูรณ์ เหมือนกับในต่างประเทศที่มีมาตรฐาน ทั้งนี้ภัยต่างๆที่เกิดขึ้นจะประมาทไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงนี้มีการเปิดประเทศ  เราไม่ต้องการที่จะถอยหลังกลับไปที่เก่าอีกเป็นอันขาด สิ่งเหล่านี้ถือเป็นการเตรียมความพร้อมล่วงหน้า 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้บ้านเมืองเจริญเติบโตไปมากแล้ว และที่ตนประกาศเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ทุกคนทราบดีว่าเป็นการประกาศบนพื้นฐานความเสี่ยงสูงสุดของตน ก็ต้องขอบคุณคนไทยที่เกี่ยวข้อง ทั้งข้าราชการ ท้องถิ่น ทหาร ตำรวจ และประชาชน ที่ร่วมมือจนเกิดวันนี้ขึ้นมาได้ และทราบว่านักท่องเที่ยวแสนกว่าคนจองมาเที่ยวประเทศไทย และคาดว่าจะมีมากกว่านี้ในหลายแสนและหลักล้านในโอกาสต่อไป ตนพูดในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค และการประชุมอาเซียนที่ผ่านมา เรากำลังเป็นผู้นำในการเปิดประเทศทุกอย่างจะดีหรือไม่ดีอยู่ที่เราทุกคนจะช่วยกันทั้งในเรื่องการฉีดวัคซีน การดูแลรักษาผู้ป่วยเจ็บ และวันนี้วัคซีนก็ไม่ได้ขาดแคลนจะต้องฉีดให้ทั่วถึง แต่ถ้าเลือกกันมากก็จะทำให้เสียโอกาส ขอให้ประสบความสำเร็จในการทำงานทุกคนต้องปลอดภัย ขอให้เอาแบบการฝึกของต่างประเทศมาดูด้วย เพื่อพัฒนาต่อไป มีภาพยนต์ตัวอย่างหลายเรื่อง ถือเป็นสิ่งที่ดีที่เกิดขึ้นในประเทศไทย 

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ พบปะกับสมาคมกลุ่มแม่บ้าน จ.กระบี่ที่มารอให้การต้อนรับ พร้อมกล่าวย้ำว่าขอให้รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พร้อมเชิญชวนให้ทุกคนร้องเพลง”บ้านเกิดเมืองนอน” ของสุนทราภรณ์ร่วมกัน โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้มาเยี่ยมประชาชนภาคใต้ฝั่งอันดามัน คิดถึงเสมอมา และดีใจที่ได้เห็นการแต่งกายในชุดท้องถิ่น ประเทศไทยมีความหลากหลายอัตลักษณ์ประเพณีเป็นสิ่งสำคัญ ยืนยันว่าประเทศไทยมีศักยภาพในการท่องเที่ยว และการเปิดประเทศแม้มีความท้าทายสูง ประกาศแล้วต้องทำให้ได้ โดยเราจะต้องทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดีเตรียมรับความพร้อมกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นและแก้ปัญหาให้ทันเวลา ไม่เช่นนั้นทุกอย่างจะกลับไปที่เดิม

วันนี้ดีใจเห็นทั้งคนรุ่นสาว รุ่นเด็ก และเยาวชน พร้อมกันนี้ทราบว่ามีการฉีดวัคซีนเกือบครบ 100% แล้ว ขอให้ฉีดวัคซีนไม่ต้องกลัว เพราะเขาฉีดกันทั้งโลกและWTO มีการรับรองวัคซีนแล้วทุกตัว ฉีดเข็ม1-2 ภูมิขึ้นระดับหนึ่ง และฉีดเข็ม 3 ภูมิขึ้นสูง ซึ่งในปี 2565 ถ้าโควิด-19 ยังอยู่เราก็ฉีดแค่เข็มเดียว เหมือนไข้หวัดใหญ่ ไม่ต้องไปกลัวอะไร ต้องปลอดภัยไว้ก่อน เพื่อไม่ให้มีอาการรุนแรงไม่เสียชีวิต  เมื่อวัคซีนครบเศรษฐกิจจะดีขึ้น สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก ถ้าไม่ฉีดวัคซีนคงจะมีมาตรการทางสังคม โดยวันข้างหน้าจะมีพื้นที่สีขาว สีฟ้า จึงขอให้ไปฉีดฉีดวัคซีนกัน ตอนนี้คนฉีดวัคซีนน้อยลงไม่ทราบว่าเพราะอะไร 

ระหว่างนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้พูดคุยกับเด็กนักเรียนจากโรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ ว่า ขอให้สงสัยในเรื่องที่เป็นประโยชน์อย่าไปสงสัยในเรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์กันมากนัก

วันนี้รัฐบาลส่งเสริมธุรกิจสตรี สนับสนุนเอสเอ็มอี ให้เกิดความเข้มแข็ง รัฐบาลดูแลทุกกลุ่มวันหน้าโตมาจะมาแทนลุง วันนี้ลุงคิดให้ล่วงหน้า บางอย่างต้องใช้เวลาศึกษารับฟังความคิดเห็น ถ้าออกมาไม่ได้ก็ทำอะไรไม่ได้ทั้งหมด เพราะเราเป็นประชาธิปไตยต้องรับฟังประชาพิจารณ์ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ อะไรที่เป็นประโยชน์กับพื้นที่ก็ดำเนินการ แต่ถ้าไม่เห็นด้วยอยู่ตลอดมันก็จะไปไม่ได้ อาจารย์ต้องสอนให้เด็กนักเรียนมีกระบวนการในความคิด วิสัยทัศน์และเด็กทุกคนต้องมีกระบวนการคิดในสมองของตนเองและมีวิสัยทัศน์ นายกฯเองก็มีกระบวนการในความคิด ซึ่งต้องมีขั้นตอนนักเรียนต้องเรียนรู้และอ่านหนังสือให้เยอะบ้านเมืองเราไม่ได้ด้อยกว่าใคร คนของเราก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร เพียงแต่ต้องคิดให้เป็นและทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์กับบ้านเมือง ต้องเคารพในสถาบันหลักของชาติ ประเทศไทยนั้นคือประเทศไทย 

โควิดหวนคืนยุโรปเต็มตัว แม้ฉีดวัคซีนได้มาก วีกเดียวติดพุ่ง 2 ล้าน ตายเฉียด 3 หมื่น 

องค์การอนามัยโลก แถลงที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ว่า ยุโรปกำลังเผชิญผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง โดยมีการยืนยันผู้ติดโควิดรายใหม่เกือบ 2 ล้านคนในทวีปยุโรป ตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 7 พฤศจิกายน ถือเป็นตัวเลขสูงสุด ตั้งแต่โควิดเริ่มระบาด

นอกจากนั้น ยังมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีกเกือบ 27,000 คน ในยุโรปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นจำนวนผู้เสียชีวิตที่มากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้เสียชีวิตจากโควิดทั่วโลกในช่วง 1 ถึง 7 พฤศจิกายน

ทีโดรส อัดฮานอม กีเบรเยซุส ผู้อำนวยการอนามัยโลก บอกว่า ขณะนี้ บางประเทศในยุโรป กลับมาใช้มาตรการจำกัดอย่างเข้มงวดอีกครั้ง เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด และลดแรงกดดันต่อระบบสาธารณสุขในประเทศ

“บิ๊กป้อม” ลงพื้นที่ "จ.ระนองและจ.กระบี่” กำชับหน่วยมั่นคง เข้มสกัดแรงงานทะลักเข้าเมือง พร้อมเร่งขับเคลื่อนจัดที่ดินทำกินและดึงภาคประชาชนร่วมแก้ปัญหา  

พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่ภาคใต้ ตรวจติดตามความคืบหน้างานสำคัญตามนโยบายของรัฐบาลในพื้นที่ จ.ระนอง และ จ.กระบี่ โดยรับฟังการบรรยายสรุปจากหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ณ ศาลากลาง จ.ระนอง ถึงการปฏิบัติงานในภาพรวม ด้านความมั่นคง สถานการณ์ด้านแรงงาน ยาเสพติดและมาตรการควบคุมป้องกันโรค 

โดย พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวชื่นชมกับแนวคิด “ระนองโมเดล” ในความเข้มแข็งของมาตรการป้องกันและควบคุมโรคที่อาศัยการมีส่วนร่วมและความใส่ใจร่วมกันของกลุ่มพลังมวลชนในพื้นที่ ร่วมขับเคลื่อนภายใต้การนำของผู้นำท้องถิ่นระดับหมู่บ้าน ซึ่งสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้เร็ว  พร้อมย้ำว่า  จ.ระนอง เป็นเส้นทางผ่านยาเสพติดและการลักลอบเข้าเมืองทั้งทางบกและทางทะเล  จึงต้องคุมเข้มเฝ้าระวังและเข้มงวดกวดขัน เน้นงานเชิงรุกกับการลักลอบเข้าเมือง การใช้แรงงานผิดกฎหมาย การค้ามนุษย์และยาเสพติด รวมทั้งการลักลอบนำเข้ายางพาราผิดกฎหมาย ซึ่งกระทบต่อเกษตรกรโดยตรง  

โดยให้บูรณาการทำงานร่วมกันทั้งจุดผ่านแดน จุดผ่อนปรนและช่องทางธรรมชาติอย่างจริงจังและต่อเนื่อง  พร้อมทั้งย้ำการปฏิบัติต่อผู้หลบหนีเข้าเมืองทางทะเล ขอให้เป็นไปตามหลักสากลบนพื้นฐานของกฎหมายและพันธกิจระหว่างประเทศ คำนึงถึงหลักมนุษยธรรม ผลกระทบต่อเด็ก สตรีและคนป่วยเป็นอันดับแรก 

ทั้งนี้รองนายกรัฐมนตรี ยังแสดงความเป็นห่วงการเข้าถึงวัคซีนของประชาชนและแรงงาน โดยขอให้สร้างการรับรู้และกระจายวัคซีนลงไปอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะกับกลุ่มเสี่ยงและผู้ใช้แรงงาน  พร้อมย้ำว่า การลักลอบเข้าเมืองและแรงงานผิดกฎหมายยังถือเป็นความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่สำคัญที่ต้องเฝ้าระวังสูงสุดร่วมกันต่อไป ทั้งนี้ขอให้สร้างความรู้ความเข้าใจกับแรงงานข้ามชาติและผู้ประกอบการ ให้การสนับสนุนมาตรการควบคุมโรคที่กำหนดไปพร้อมๆกัน 

 

“จุรินทร์” ดันเปิดด่าน ”ตากใบ-บูเก๊ะตา” นราธิวาสสำเร็จ !!! ศอ.บต.ประกาศดีเดย์ 15 พย. นี้!

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ให้สัมภาษณ์ที่สนามบินดอนเมืองก่อนเดินทางไปตรวจราชการที่จังหวัดพังงาและเข้าร่วมการประชุม ครม.สัญจร ที่จังหวัดกระบี่ในวันที่ 15-16 พย.นี้ถึงเรื่องการผลักดันการค้าชายแดนไทยมาเลย์ว่า 

สำหรับด่านชายแดนไทย-มาเลย์มีด้วยกันรวม 9 ด่านใน 4 จังหวัด ได้แก่ สงขลา 3 ด่าน นราธิวาส 3 ด่าน สตูล 2 ด่าน และยะลา 1 ด่าน และปิดอยู่ 2 ด่านเพราะสถานการณ์โควิด ซึ่งภายหลังจากที่ตนได้เดินทางไปประชุมร่วมกับ ศอ.บต.และเอกชนของจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2564นั้น ตนได้มอบหมายให้ทูตพาณิชย์ไทย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศไทย เร่งเจรจาขอเปิดด่านทั้ง 2 ด่านกับรัฐบาลมาเลเซียเพื่อโดยเร็วที่สุดทั้งนี้เพื่อให้การค้าชายแดนระหว่างสองประเทศสามารถเดินหน้าต่อไปได้ โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2564 ประเทศมาเลเซียได้มีหนังสือตอบยืนยันอย่างเป็นทางการมาแล้วว่าไม่ขัดข้องที่จะเปิดด่านทั้ง 2 ด่าน 

ประกอบด้วย (1) ด่านเป็งกาลันกูโบ (Pengkalan Kubor) ตรงข้ามด่านตากใบ และ(2) ด่านบูกิตบุหงา (Bukit Bunga) ตรงข้ามกับ ด่านบูเก๊ะตา จังหวัดนราธิวาส ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไปตามที่ฝ่ายไทยเสนอ 

กัมพูชาเปิดแดน ฉีดวัคซีนครบโดสไม่ต้องกักตัว ดีเดย์ เริ่ม 15 พ.ย. เป็นต้นไป

15 พ.ย. 64 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ออกแถลงการณ์ว่า ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 15 พ.ย. เป็นต้นไป กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการกักตัวนักเดินทางที่ได้รับการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ครบสองโดส และมีผลการตรวจเชื้อในช่วงเวลา 72 ชั่วโมงก่อนออกเดินทางไม่พบการติดเชื้อไวรัส จะสามารถเดินทางในกัมพูชาได้ทั่วประเทศโดยไม่ต้องถูกกักตัวนาน 14 วันเมื่อมาถึง เป็นการยุติมาตรการกักกันของกัมพูชาที่ใช้มานานกว่า 18 เดือน

สะบัดเสื้อ ‘ครุย’ อาภรณ์ศักดิ์สิทธิ์ เปิดกว้างทุกชนชั้นชาวสยาม | MEET THE STATES TIMES EP.38

 ???? สะบัดเสื้อ ‘ครุย’ อาภรณ์ศักดิ์สิทธิ์ เปิดกว้างทุกชนชั้นชาวสยาม!! 

???? "ฉลองพระองค์บรมราชภูษิตาภรณ์" ชุดครุยสีทอง ที่พระมหากษัตริย์ใส่…

???? ในรายการ MEET THE STATES TIMES ข่าวคุยเพลิน

???? ดำเนินรายการโดย หยก THE STATES TIMES

โลกหลังโควิด!! “Tele Health” ใกล้หมอ..แค่ปลายนิ้ว มิติใหม่ของการพบแพทย์ | Knowledge Times EP.36

???? Knowledge Times BizView | EP.36
???? โลกหลังโควิด!! “Tele Health” ใกล้หมอ..แค่ปลายนิ้ว มิติใหม่ของการพบแพทย์

เราอาจจะเริ่มคุ้นหู หรือได้เห็นแพลตฟอร์มเกี่ยวกับบริการสุขภาพทางไกล ที่เรียกว่า “Tele Health” กันมาบ้าง... ซึ่งเจ้า Tele Health นี้ถูกพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่การใช้งานอาจยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่ด้วยช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมานี้ ทำให้ “Tele Health” กลับกลายเป็นตัวเร่งสำคัญ ที่ส่งผลให้ความต้องการในการใช้งานเติบโตอย่างก้าวกระโดดของวงการแพทย์  

กรณีตัวอย่างของสหรัฐฯ ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 รุนแรงมากในปี 2020 ส่งผลให้ผู้บริโภคมีการปรับเปลี่ยนช่องทางการใช้บริการด้านสุขภาพ มาสู่ช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยจากงานวิจัยของ “McKinsey” พบว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ผู้บริโภคในสหรัฐฯ หันมาใช้บริการ Tele Health เพิ่มขึ้นจาก 11% ของผู้บริโภคในปี 2019 มาอยู่ที่ 46% ในปี 2020

เนื่องจาก Tele Health เป็นรูปแบบการให้บริการที่ตอบโจทย์ที่สุดในสถานการณ์โควิด-19 โดยผู้ป่วยมีแนวโน้มหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังโรงพยาบาล ในกรณีที่ไม่ได้เจ็บป่วยฉุกเฉินที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน ส่งผลให้มีการเลื่อนการรักษาพยาบาลในกรณีเจ็บป่วยไม่ฉุกเฉินออกไป

แต่ขณะเดียวกัน ผู้ป่วยบางส่วนยังมีความต้องการคำปรึกษาและคำแนะนำในการรักษาอาการป่วยทั่วไป ทำให้หันมาใช้บริการผ่านแพลตฟอร์ม Tele Health ในการรักษาพยาบาลออนไลน์กันมากขึ้น

สำหรับแนวโน้มในระยะต่อไป แม้ว่าสถานการณ์การระบาดจะคลี่คลายแล้วแต่ Tele Health ยังเป็นรูปแบบของการให้บริการด้านสุขภาพที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งจากผลสำรวจของ McKinsey ดังกล่าวข้างต้นยังพบว่า ผู้บริโภคในสหรัฐฯ ราว 76% ตอบว่ายังสนใจจะใช้บริการ Tele Health ต่อไป แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายแล้ว เช่นเดียวกันกับในหลาย ๆ ประเทศที่ Tele Health เข้ามามีบทบาทมากขึ้น  

ขณะที่ ‘Statista’ ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลการตลาดชั้นแนวหน้าของโลก ได้มีการคาดมูลค่าตลาด Tele Health ของโลกในช่วงปี 2019 ถึงปี 2026 จะเติบโตราว 21% ต่อปี มาอยู่ที่ 1.76 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณเกือบ 6 ล้านล้านบาทไทย

สำหรับในไทย Tele Health ถูกนำมาใช้มากขึ้นโดยเฉพาะในด้านการรักษาพยาบาลทางไกล หรือที่เรียกว่า “Telemedicine” ซึ่งในช่วงแรกจะเน้นไปที่การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยเบื้องต้น รวมถึงการรักษาผู้ป่วยโรคทางจิตเวชที่ต้องได้รับการรักษาและควบคุมอาการอย่างต่อเนื่อง แต่โควิด-19 นับเป็นตัวเร่งที่สำคัญที่ส่งผลให้ Telemedicine เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ไม่เพียงแต่การให้คำปรึกษาการรักษาพยาบาลขั้นต้น เช่น อาการปวดหัว ตัวร้อน ปวดท้อง เท่านั้น

แต่ Telemedicine มีแนวโน้มจะถูกนำมาใช้ในการรักษา สำหรับกรณีที่ต้องมีการติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดัน ไขมันในเลือดสูง ซึ่งผู้ป่วยต้องมีการนัดพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ และจำนวนผู้ป่วยในกลุ่มโรค NCDs (กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง) นี้ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดรับกับเทรนด์การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เพราะฉะนั้น Telemedicine จึงเป็นรูปแบบที่ตอบโจทย์การรักษาอย่างดีในหลายด้าน

นอกจากนี้ยังมีทั้งความสะดวกสบาย ที่ผู้ป่วยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปโรงพยาบาลเกินความจำเป็น และลดความแออัดของสถานพยาบาล โดยเฉพาะสถานพยาบาลของภาครัฐที่มีผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ในต่างจังหวัดที่อยู่ห่างไกลยังสามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้ดียิ่งขึ้นด้วย 

แม้ว่า Tele Health จะมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง แต่ก็ยังมีความท้าทายสำคัญที่ส่งผลต่อการเติบโต เนื่องจากการตรวจของแพทย์ผ่านทาง VDO ยังมีข้อจำกัดในการตรวจวินิจฉัยที่ต้องอาศัยเครื่องมือแพทย์ร่วมด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยสำคัญที่จะส่งเสริมให้ Tele Health ประสบความสำเร็จจากการให้บริการสุขภาพทางไกลแบบครบวงจรอีกด้วย ซึ่งแพลตฟอร์ม “Ping An Good Doctor” เป็นตัวอย่างของแพลตฟอร์มด้าน Health Tech ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในจีน จากการมีบริการที่ครบวงจรครอบคลุมทั้งในด้านการรักษาพยาบาล การดูแลสุขภาพ ตลอดจนการมีเครือข่ายโรงพยาบาลหลายแห่งเพื่อส่งต่อผู้ป่วยในกรณีที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล

นอกจากนี้ ยังมีระบบที่ผู้ป่วยสามารถรับยาได้อย่างรวดเร็วผ่านเครือข่ายร้านขายยาทั่วประเทศด้วย ซึ่งจุดแข็งอีกด้านหนึ่งของ Ping An Good Doctor คือ การมีบริษัทย่อยเป็นบริษัทประกัน ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าของบริษัท สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลที่ใช้บริการผ่านแพลตฟอร์มกับบริษัทประกันได้ ทำให้ผู้ป่วยหันมาใช้บริการมากขึ้น และยังได้มีการนำเทคโนโลยี AI มาประยุกต์ใช้ในการคัดกรองผู้ป่วยในเบื้องต้นอีกด้วย

อย่างไรก็ตามการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะเป็นตัวเร่งให้บริการ Telemedicine ในไทยเกิดเร็วขึ้น และกลายเป็น New Normal ของการให้บริการทางการแพทย์ในอนาคต ซึ่งสิ่งนี้เองภาครัฐจึงควรให้ความสำคัญในการผลักดัน และสนับสนุนให้ประชาชนเข้าถึง “Tele Health” ให้มากขึ้น เพื่อประโยชน์ด้านสาธารณสุขในระยะยาว ลดต้นทุน - ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่ภาครัฐต้องแบกรับภาระสูง และลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการสาธารณสุขโดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top