Friday, 19 April 2024
PRESS

สภาเด็กฯ ยื่นหนังสือให้ กทม. ขอมีส่วนร่วมปรับปรุงงบประมาณ พร้อมปรับแนวประชาสัมพันธ์กิจกรรมให้เด็กรู้ทั่วถึง

สภาเด็กฯ ยื่นหนังสือปฏิรูปเด็กกทม. เผยอยากมีส่วนร่วมปรับปรุงงบประมาณ และปรับโครงสร้างการประชาสัมพันธ์ใหม่

(4 ม.ค. 66) สิบเอกดุษฎี ถิรธนกุล ประธานสภาเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยผู้แทนจากสภาเด็กเยาวชนระดับเขต ได้เข้ายื่นหนังสือกับตัวแทนสำนักงานเลขานุการผู้ว่า กรุงเทพมหานคร ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ในประเด็นเรื่องการนัดหมายหารือ ยื่นข้อเสนอ และแถลงข่าวเกี่ยวกับการปฏิรูปสภาเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร 

ดุษฎี กล่าวว่า วันนี้เรามายื่นหนังสือเพื่อที่จะเข้าพบกับท่านผู้ว่าฯ เพื่อจะมานั่งพูดคุยหารือแล้วยื่นข้อเสนอ รวมถึงนัดแถลงข่าวร่วมกันในวันที่ 11 ม.ค. ที่จะถึงนี้ เราคาดหวังว่าผู้ว่าฯ จะตอบรับกลับมา ซึ่งเราอยากได้รับคําตอบกลับมาว่าข้อเสนอของเราที่รวบรวมมาทั้งปีจะเป็นอย่างไร ซึ่งพวกเราได้สัมผัสจากประสบการณ์ตรง และพวกเราได้มีการพูดคุยกับเพื่อนเด็กและเยาวชนภายในพื้นที่ จากผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่ผ่านมาตลอดช่วงหนึ่งปี เช่น โครงการนิวเจนคลับ, โครงการเวิร์กช็อป และก็ในส่วนที่เป็นสภาเด็กและเยาวชน กรุงเทพมหานคร จากนั้นจึงนำข้อสรุปมารวมกันปรับปรุงข้อเสนอ รวมทั้งได้ศึกษา งานวิจัยของศูนย์นโยบายด้านเด็กและครอบครัว พวกเราก็รวมตัวกันคิดข้อเสนอนี้ออกมา แบ่งออกไปสามหมวดหมู่ นั่นก็คือเรื่องของกระบวนการการสร้างการมีส่วนร่วม ให้เด็กเข้าถึงได้ง่ายขึ้น สองก็คือเรื่องของการปฏิรูปงบประมาณ และสามก็คือในส่วนของการปฏิรูปอํานาจและบทบาทในการบริหารจัดการนโยบายสาธารณะ ที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชน มีอยู่ด้วยกันประมาณ 10 กว่าข้อ ก็จะปรับปรุงข้อเสนอไปเรื่อย ๆ 

'เพื่อไทย' สยบข่าวลือ จับมือบางพรรคตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้ง ลั่น!! ขอเดินหน้าโกย 250 เสียง เพื่อตั้งเป็นรัฐบาลเอง

(4 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 9.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรคเพื่อไทย รวมกันตั้งโต๊ะชี้แจงจากกรณีที่สื่อหลายสำนัก ต่างนำเสนอข่าวว่า พรรคเพื่อไทยจะจับมือ กับพรรคการเมืองบางพรรค เพื่อจัดตั้งรัฐบาลภายหลังสิ้นสุดการเลือกตั้ง โดยทางพรรคเพื่อไทย ได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธชัดเจน พร้อมยืนยันไม่มีการจับมือกับพรรคใดเพื่อตั้งรัฐบาล แต่จะเน้นไปที่นโยบายเดินหน้าแลนด์สไลด์ ซึ่งจำเป็นต้องได้เสียงจากผู้แทนทั่วประเทศมากกว่า 250 เสียง เพื่อตั้งเป็นรัฐบาลเอง ในการอาสาเข้าไปแก้วิกฤตเศรฐกิจให้กับคนไทย 

สำหรับรายละเอียดในแถลงการณ์พรรคเพื่อไทยวันนี้ มี 3 ประเด็นหลักที่น่าสนใจ ประกอบด้วย

‘สร้างอนาคตไทย - ไทยสร้างไทย’ หารือไม่คืบหน้า เผยเป็นพันธมิตรการเมือง แต่ไม่ชัดเจน ‘ควบรวมพรรค’

(29 ธ.ค. 65) จากกระแสการเมือง ซึ่งเป็นที่น่าจับตา กรณีการนัดหารือ ระหว่างพรรคสร้างอนาคตไทย และพรรคไทยสร้างไทย ในช่วงเช้าของวันนี้ นำโดย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย และ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วยนายโภคิน พลกุล ประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยสร้างไทย, นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคไทยสร้างอนาคตไทย ที่ได้ร่วมพูดคุยหารือเกี่ยวกับทิศทางการเมือง 

โดยทันทีที่แกนนำทั้งหมด เดินทางมาถึงร้านอาหาร Corner ซอยสุขุมวิท 26 ได้เข้าไปหารือกันแบบส่วนตัวในห้องอาหาร ก่อนออกมาตั้งโต๊ะนั่งร่วมกันแถลงข่าวให้กับบรรดาสื่อมวลชน จำนวนมากที่มาเฝ้ารอติดตามความคืบหน้า การควบรวมของทั้ง 2 พรรค

โดยนายโภคิน กล่าวเป็นคนแรกว่า ทั้ง 2 พรรคมีการหารือกันมาแล้วเป็นระยะ ในฐานะเพื่อนเก่าที่สนิทคุ้นเคย และทำงานร่วมกันมาตั้งแต่อดีต ซึ่งมีความเห็นตรงกันว่าบ้านเมืองกำลังมีปัญหา คิดว่า อำนาจเงิน อำนาจรัฐ ระบบราชการ ไม่ตอบสนองต่อประชาชน แต่ตอบสนองผู้มีอิทธิพล นักธุรกิจสีเทา 

ทั้งนี้ตลอดเวลาที่ผ่านมา มีแต่ความขัดแย้ง ทำให้ประเทศเดินไปไม่ได้ จึงมองว่า หากปล่อยสถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไป จะทำให้ประชาชนไม่มีอนาคต ประเทศไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ จึงนัดมาพูดคุยหาทางออกให้ประเทศ ควรเอาจริงเอาจริงในการแก้ไขปัญหา และการร่วมแรงร่วมใจ โดยสิ่งแรกที่เห็นตรงกัน คือ การมีรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ไม่เช่นนั้น ประชาชนจะไม่มีส่วนร่วม หรือมีอำนาจอย่างแท้จริงได้ เพราะไม่อยากเห็นทุกคนจำนนต่ออำนาจรัฐ อำนาจเงิน หากเริ่มต้นตรงนี้ได้ เรื่องอื่นจะตามมาเอง

ด้านคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวเสริมว่า ส่วนตัวและนายสมคิด เคยทำงานร่วมกันมานาน หลาย 10 ปี จากประสบการณ์ที่ผ่านมา และเคยทำนโยบายที่สำคัญให้กับประเทศจนสำเร็จ ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ ลูกหลานจะอยู่อย่างไร ดังนั้น ภารกิจครั้งนี้ คือ การสร้างพรรคการเมือง เพื่อส่งมอบประเทศไทยให้คนรุ่นต่อไป 

จึงมาหารือร่วมกันว่าจะร่วมงานการเมืองกันต่ออย่างไร ที่ไม่ใช่การแย่งชิงตำแหน่ง แย่งชิงอำนาจ โดยตกลงกันว่า จะพยายามแสวงหาทางออกให้บ้านเมือง และร่วมมือเป็น ‘พันธมิตร’ ยุติความขัดแย้งทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม

ส่วนนายอุตตม กล่าวว่า ความท้าทายที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้ทั้ง 2 พรรค ต้องมาผนึกกำลังเป็นพันธมิตรเฝ เพื่อบ้านเมือง เพราะปัญหาบ้านเมืองขณะนี้ใหญ่เกินกว่าที่คนไม่กี่คนจะแก้ได้ จึงต้อง ร่วมกันคิด ร่วมกันทำ

ผบ.ตร.สั่งเข้มทุกส่วน ดูแล ปชช. ช่วงปีใหม่ ต้องเดินทางถึงภูมิลำเนา โดยสวัสดิภาพ

(28 ธ.ค.65) ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และคณะ พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชาของศูนย์บริหารงานจราจร (ศจร.ตร.) ร่วมกันเปิด ‘ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2566’ เพื่อกำกับดูแลและสั่งการ ในการอำนวยการจราจรและแก้ไขสถานการณ์อุบัติเหตุ ในช่วง 7 วันควบคุมเข้มข้น ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2565 ถึง 4 มกราคม 2566

โดย ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ได้เตรียมความพร้อม กำลังพลกว่า 50,000 นาย อำนวยความสะดวกด้านการจราจร และดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา รวมถึงการป้องปรามไม่ให้มีการฝ่าฝืนกฎหมายจราจร ด้วยการบังคับใช้กฎหมายเพื่อลดอุบัติเหตุ โดยจะปฏิบัติงานตลอดช่วงเทศกาลไม่มีวันหยุด ซึ่งวันนี้ถือเป็นวันแรกที่เปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนฯ จึงได้สั่งการให้ บช.น., ภ.1-9 และ บก.ทล. ปฏิบัติตามมาตรการ ดังนี้...

1. อำนวยความสะดวกการจราจร เพื่อให้ประชาชนเดินทางอย่างปลอดภัย ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีรถเดินทางเข้า-ออก กทม. มากถึง 7.3 ล้านคัน โดยปริมาณรถขาออกมากที่สุด วันที่ 29 และ 30 ธันวาคม 2565 และปริมาณรถขาเข้ามากที่สุด วันที่ 2 และ 3 มกราคม 2566 จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยประสาน คืนพื้นผิวการจราจร จุดที่มีการก่อสร้าง ซ่อมแซม เป็นเหตุให้รถชะลอตัว โดยสามารถคืนพื้นผิวได้ทั้งหมด 408 จุดทั่วประเทศ พร้อมจัดตำรวจอำนวยการจราจร ตามจุดสำคัญที่มีปัญหาการจราจร รวมถึงแหล่งท่องเที่ยว และในกรณีเกิดอุบัติเหตุ ให้มีชุดเคลื่อนที่เร็วพร้อมอุปกรณ์ เช่น รถยก, รถสไลด์ เข้าถึงที่เกิดเหตุและคลี่คลายการจราจรได้ทันที 

นอกจากนี้ ยังได้ออกข้อบังคับเปิดช่องทางพิเศษ เพื่อเร่งระบายรถ ทั้งขาเข้าและออก กทม. 9 เส้นทาง 10 จังหวัด รวมระยะทาง 450 กม. โดยตำรวจทางหลวงจะเปิดช่องทางพิเศษ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ตามสภาพการจราจร และได้ออกข้อบังคับ ห้ามรถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไป เดินในถนน 7 เส้นทาง เพื่อลดความหนาแน่นของการจราจร รวมระยะทาง 194 กม. สำหรับรถบรรทุกที่มีความจำเป็นต้องเดินรถ เช่น รถขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง, อาหารสด สามารถยื่นคำขออนุญาตผ่านระบบออนไลน์ ของ บก.ทล. ได้ที่ www.hwpdth.com

2. การป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน กำหนดเป้าหมายให้ทุก ภ.จว. ลดจำนวนอุบัติเหตุ, ผู้เสียชีวิต, ผู้บาดเจ็บ จากค่าเฉลี่ยปีใหม่ 3 ปีย้อนหลัง ไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 โดยมีมาตรการให้ทุกหน่วยทำบัญชีกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่เพื่อเข้าไปรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ป้องปรามกลุ่มเป้าหมาย และตั้งจุดตรวจเพื่อกวดขันจับกุม การกระทำผิดกฎจราจร ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ โดยเริ่มบังคับใช้กฎหมาย ตั้งแต่ 22 ธันวาคม 2565 เป็นต้นมา เน้นหนัก 4 ข้อหา ตามนโยบายของรัฐบาล ได้แก่ ขับรถในขณะเมาสุรา, ขับรถเร็วเกินกำหนด, ไม่สวมหมวกนิรภัย และไม่รัดเข็มขัดนิรภัย 


 

‘นายกฯ’ เผย!! ตั้งกรรมการสอบแล้ว ปมอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ เรียกรับเงิน

(28 ธ.ค. 65) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมตัว นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรณีเรียกรับเงินจากหัวหน้าหน่วยงานภาคสนาม โดยมีการล่อซื้อ มีการติดกล้องวงจรปิด ตำรวจตามเข้าไปค้นพบเงินสดบนโต๊ะทำงาน และห้องแต่งตัวประมาณ 5 ล้านบาท ว่า...


 

พปชร. เปิดตัวอีก 10 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ฮือ! ‘คิงก่อนบ่าย’ ลงชิง ประจวบฯ เขต 1

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ (27 ธ.ค. 65) ที่พรรคพลังประชารัฐ(พปชร) นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.กระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค และนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคฯ ร่วมกันแถลงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ใน 5 จังหวัด จำนวน 10 คน ประกอบด้วย จ.สุราษฎร์ธานี 5 คน ได้แก่ นายสุชาติ อินทรมณี เขต 1 นายธนโชติ ติณพันธ์ เขต 2 นายสุริญญา ยืนนาม เขต 3 นายณัฐวรันธร ทองคำ เขต 4 และนายมนู วณิชชานนท์ เขต 5, จ.หนองบัวลำภู 1 คนคือ นายทรงศักดิ์ ศิริสถิตย์ เขต 1, จ.ประจวบคีรีขันธ์ 2 คน ได้แก่ นายณภัทร ชุ่มจิตตรี หรือ คิงก่อนบ่าย เขต 1 นายพิษณุ กล้าขาย เขต 2, จ.นครปฐม 1 คน คือ นายรัฐกร เจนกิจณรงค์ เขต 2, จ.ปทุมธานี 1 คน คือ นายนพดล ลัดดาแย้ม 

นายสันติ กล่าวว่า คนเหล่านี้เป็นผู้ที่มีอุดมการณ์และตั้งใจจะรับใช้ประชาชน การเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 5 จังหวัดเป็นเครื่องมือยืนยันว่า พปชร.มีนโยบายที่เข้มแข็ง เหมือนที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาบ้านเมือง ให้ประชาชนอยู่ดีกินดี เพิ่มศักยภาพให้เยาวชน มีนโยบายเกี่ยวกับพัฒนาสตรี ดูแลผู้สูงอายุ ให้ พปชร.เป็นที่มุ่งหวังของประชาชน และเป็นแกนนำในการพัฒนาประเทศให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ทำเพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์  

‘บิ๊กป้อม’ เจริญพระพุทธมนต์-เจริญจิตภาวนา ถวายพระพรชัยมงคลแด่ ‘พระองค์ภาฯ’

‘พลเอกประวิตร’ นำทีมสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตภาวนา เพื่อถวายพระพรชัยมงคลแด่ ‘พระองค์ภาฯ’ ให้ทรงหายจากพระอาการประชวร และมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง

(27 ธ.ค. 65) เวลา 15.30 น. ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ถนนรัชดาภิเษก พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตภาวนา เพื่อถวายพระพรชัยมงคลแด่ ‘สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา’ ให้ทรงหายจากพระอาการประชวร และมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง

โดยมีนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคฯ, นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคฯ รวมถึงคณะกรรมการบริหารพรรค ส.ส. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ เข้าร่วม

ชัยวุฒิ ชี้!! นายกฯ ตั้งใจทำงานเพื่อบ้านเมือง ควรให้เป็นธรรม หลังสื่อให้ฉายา ‘แปดเปื้อน’

(27 ธ.ค. 65) ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงประเด็นที่สื่อทำเนียบรัฐบาลให้ฉายาท่านนายกฯ ว่า เรื่องแปดเปื้อนตนมองว่ามันก็เหมือนเสื้อผ้า ใช้มานานนานหลายปีมันก็มีรอยเปื้อนบ้าง แต่อยากให้มองว่ารอยเปื้อน มันไม่ใช่รอยที่เกิดจากความตั้งใจหรือความผิดพลาด มันก็เป็นสิ่งที่บางทีในการทํางานของท่านนายกฯ ของรัฐบาล มันจะมีข้อจํากัดบางอย่าง ก็อาจจะไม่ถูกใจประชาชน โดยเฉพาะเรื่อง สินค้าราคาแพง หรือน้ำมันแพง หรือจะเป็นปัจจัยภายนอก เป็นต้นเลย 

“แต่ผมก็ยืนยันว่า ท่านนายกฯ หรือรัฐบาลเขาไม่ได้ทําอะไรให้เปื้อนโดยเกิดจากความผิดพลาดหรือความตั้งใจ คือท่านนายกก็มีความตั้งใจที่ดีที่จะทําเพื่อบ้านเมือง ก็ฝากสื่อมวลชนช่วยให้ความเป็นธรรมกับท่านนายกฯ ด้วยนะครับ” ชัยวุฒิกล่าว

'ชวน' เชื่อประชุมสภาฯ พุธนี้ ราบรื่นไร้ปัญหาองค์ประชุม ตั้งเป้าเคลียร์เรื่องแจ้งเพื่อทราบ-รายงาน กมธ.ให้เสร็จ

'ชวน' เชื่อประชุมสภาฯ พุธนี้ ราบรื่นไร้ปัญหาองค์ประชุม ตั้งเป้าเคลียร์เรื่องแจ้งเพื่อทราบ-รายงาน กมธ.ให้เสร็จ บ่นอุบ!! เสียดายประชุมสภาฯ พฤหัสบดีที่แล้วปิดเร็วไป

(26 ธ.ค. 65) ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ว่า การประชุมสภาฯ เป็นพิเศษ วันที่ 28 ธ.ค. เชื่อว่าจะได้รับความร่วมมือจากสมาชิกและไม่มีปัญหาเรื่ององค์ประชุม เนื่องจากการนัดหมายการประชุมตามวาระนั้น เป็นผลมาจากการหารือของวิปฝ่ายค้านและวิปรัฐบาล ทั้งนี้จะมีวาระพิจารณาร่างกฎหมายที่วุฒิสภาแก้ไขเพิ่มเติม จำนวน 5 ฉบับ อย่างไรก็ดีตนเชื่อว่าจะสามารถผ่านการพิจารณาได้ เพราะมีการแก้ไขจากวุฒิสภาเพียงเล็กน้อย จะมีก็เพียงแต่ร่างพ.ร.บ.กองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่...) พ.ศ... ที่วุฒิสภาแก้ไขในประเด็นดอกเบี้ยและอัตราค่าปรับที่อาจต้องใช้เวลาพิจารณาว่าสภาฯ จะเห็นด้วยหรือไม่

‘อนุทิน’ เปิดอาคารสถาบันโรคผิวหนังหลังใหม่ เผยจะช่วยปชช. เข้าถึงบริการเฉพาะด้านมากขึ้น

วันนี้เวลา 09.30 น. (26 ธ.ค. 65) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดอาคารสถาบันโรคผิวหนังหลังใหม่ ณ ห้องประชุม ชั้น 20 สถาบันโรคผิวหนัง เขตราชวิถี กรุงเทพมหานคร 

นายอนุทิน กล่าวว่า สถาบันโรคผิวหนัง สังกัดกรมการแพทย์ เป็นสถาบันการแพทย์เฉพาะทางด้านโรคผิวหนังระดับติยภูมิ และเป็นศูนย์กลางการศึกษาและวิจัยโรคผิวหนังของประเทศไทย ที่ได้รับความเชื่อมั่นและมีผู้เข้ารับบริการเป็นจำนวนมาก มีแนวโน้มผู้ป่วยสูงขึ้นทุกปี เนื่องจากไทยเป็นประเทศในเขตร้อน โรคผิวหนัง จึงเป็นหนึ่งในปัญหาสาธารณสุขที่พบได้ แม้จะไม่ทำให้ผู้ป่วยถึงแก่ชีวิต แต่สร้างปัญหาด้านสังคม เศรษฐกิจ และส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย การเปิดอาคารหลังใหม่ของสถาบันโรคผิวหนังครั้งนี้ จึงช่วยให้ประชาชนได้เข้าถึงบริการเฉพาะด้านมากขึ้น โดยทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะสาขาและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ดังวิสัยทัศน์ “เป็นสถาบันโรคผิวหนังที่ชาวไทยไว้วางใจและภาคภูมิใจ”

“กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายให้สถานบริการในสังกัดทุกระดับพัฒนาการบริการให้ประชาชนได้รับบริการที่มีคุณภาพมาตรฐาน รวมถึงนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการดำเนินงาน เพื่อยกระดับการให้บริการช่วยอำนวยความสะดวกและเพิ่มการเข้าถึงบริการ ซึ่งสถานบริการของกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่งพัฒนาตามนโนบายเป็นอย่างดี” อนุทิน กล่าว

สำหรับสถาบันโรคผิวหนังมีความมุ่งมั่นพัฒนาสู่การเป็นสถาบันหลักในการดูแลโรคผิวหนังของประเทศ โดยมีภารกิจหลัก 3 ด้าน ได้แก่ 

1. ด้านการบริการ เป็นศูนย์แห่งความเป็นเลิศ (Center of Excellence) ด้านโรคผิวหนัง ให้บริการตรวจรักษาโรคผิวหนังทั่วไป และคลินิกเฉพาะทางที่สำคัญอีกหลายสาขา อาทิ คลินิกโรคสะเก็ดเงิน คลินิกอิมมูนวิทยา คลินิกหลอดเลือดดำ ศูนย์เส้นผมและเล็บ ศูนย์ชะลอวัยเป็นต้น พร้อมระบบให้คำปรึกษาทางไกลกับแพทย์ในโรงพยาบาลต่าง ๆ และการตรวจรักษาทางไกลกับผู้ป่วย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top