Friday, 29 March 2024
PRESS

'บิ๊กป้อม' อวยพร 'ลุงตู่' แม้แยกทางคนละพรรค ยัน!! 'รัก-ผูกพัน' เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

เปิดใจ 'บิ๊กป้อม' แจงความสัมพันธ์ 'ลุงตู่' ยังคงเช่นเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง เพราะอยากทำงานการเมือง แต่ยอมรับ มีทั้งเรื่องที่เห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย 

(13 ม.ค. 66) เพจเฟซบุ๊ก พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งเป็นเพจทางการของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ใช้โพสต์ความเคลื่อนไหวและการปฏิบัติภารกิจของ พล.อ.ประวิตร ได้โพสต์จดหมายเปิดใจ ระบุว่า... 

จดหมายเปิดใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

โดยข้อความต้นฉบับระบุว่า “เป็นที่ทราบกันดีว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไทยครั้งใหญ่ หลังการรัฐประหารโดย คสช. เมื่อ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ด้วยความจำเป็นของกองทัพภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในขณะนั้น ต้องออกจากกรมกองมายุติวิกฤตการณ์ของบ้านเมืองที่ก่อตัวมานานนับปี จนสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจ ชื่อเสียงประเทศ และบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ

ขณะนั้น ผมเกษียณอายุราชการจากตำแหน่ง ผบ.ทบ. ไปตั้งแต่ พ.ศ. 2548 จึงทำได้เพียงเฝ้าติดตามสถานการณ์ด้วยความเป็นห่วง เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จัดตั้งรัฐบาลเพื่อปฏิรูปบ้านเมืองและจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ผมก็ได้ตอบรับเข้าร่วมรัฐบาลในตำแหน่งรองนายกฯ และ รมว.กลาโหม เพื่อหวังจะช่วยประคับประคองสถานการณ์ให้คืนสู่ภาวะปกติโดยเร็ว

ต้องยอมรับความจริงว่า คสช. ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีความรู้ความเชี่ยวชาญทางด้านการเมือง เพราะต่างก็เป็นทหารอาชีพมาทั้งชีวิต ฝึกฝนเรียนรู้มาในด้านการปกป้องอธิปไตยของชาติ ตัวผมเองก็เช่นกัน แม้จะเคยเป็น รมว.กลาโหม ในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่ก็ไม่ได้เชี่ยวชาญด้านการเมือง จึงทำได้เพียงช่วยดูแลเหล่าทัพให้มีเสถียรภาพเท่านั้น

ท่ามกลางเสียงเรียกร้องจากประชาชนให้รีบจัดการเลือกตั้งทั่วไป รัฐบาลในขณะนั้นก็ตระหนักดีถึงความต้องการของประชาชน และความชอบธรรมของรัฐบาลจากการเลือกตั้ง รวมไปถึงการยอมรับจากประชาคมโลก จึงเร่งผลักดันกระบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญเพื่อเปลี่ยนผ่านสู่ระบอบประชาธิปไตยโดยเร็ว

ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกล ซัด ก.พาณิชย์ อย่าเข้าข้างนายทุน จงใจหยุดรับซื้อผลปาล์ม

ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดกระบี่ สังกัดพรรคก้าวไกล เปิดเผยปัญหาหนักใจจากพี่น้องเกษตรกรชาวสวนปาล์มในพื้นที่ หลังโรงงานพร้อมใจกันหยุดรับซื้อผลปาล์มดิบเมื่อช่วงหลังปีใหม่ ส่งผลให้ปาล์มล้นตลาด ทำราคาตก พร้อมซัดหนัก!! กระทรวงพาณิชย์ต้องจัดการ อย่ามัวเข้าข้างนายทุน

(13 ม.ค. 66) นายวศิน สิริเกียรติกุล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดกระบี่ พรรคก้าวไกล ได้กล่าวถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มในพื้นที่ ซึ่งตกต่ำเป็นอย่างมากอยู่ในช่วงนี้ ว่า วิกฤติราคาน้ำมันปาล์มพื้นที่จังหวัดกระบี่ ส่วนตัวคาดว่าเป็นผลมาจากการจงใจหยุดรับซื้อผลปาล์มน้ำมันในช่วงปีใหม่ของโรงงานสกัดนํ้ามันปาล์มในพื้นที่ โดยต่างพร้อมใจกันหยุดรับซื้อผลปาล์มดิบเร็วขึ้นผิดปกติกว่าทุกปี คือ ประกาศปิดพร้อมกัน ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2565 และเริ่มทยอยกลับมาเปิดรับซื้อในวันที่ 2 มกราคม 2566 ส่งผลให้เกษตรกรที่มีรอบเก็บเกี่ยวในช่วงปีใหม่และมีผลปาล์มสุกเต็มที่ ต้องเร่งเก็บเกี่ยว ผลผลิตจึงล้นตลาด ทำให้ราคาร่วงลงเป็นอย่างมาก อีกทั้งโรงงานสกัดบางแห่ง เดินเครื่องสกัดน้ำมันปาล์มไม่เต็มกำลังการผลิต ทำให้เห็นรถบรรทุกปาล์มจากลานเท ต้องจอดคอยแถวยาวกันข้ามวันข้ามคืน ซึ่งยิ่งรอนานก็ยิ่งเสียโอกาสทางราคา

‘ก้าวไกล’ จี้รัฐบาลเช็กบิลคดี ‘เสี่ยเบนท์ลีย์’ เชื่อ!! ปล่อยเป่าเช็กเมา มีระดับ ผบ.หนุน

‘สารวัตรเพียว’ ก้าวไกล ไล่บี้รัฐบาลจี้ตำรวจหาคนผิดช่วยคดี ‘เสี่ยเบนท์ลีย์’ เชื่ออาจมีระดับ ผบ. เอี่ยวด้วย ย้ำ!! ผลตรวจเลือดไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ยื้อเวลาสามชั่วโมง ทำแอลกอฮอล์ในร่างกายหายไปแล้วถึง 60 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

(12 ม.ค. 66) ที่รัฐสภา พ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ (สารวัตรเพียว) ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แสดงความคิดเห็นต่อกรณี สุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์ หรือที่ปรากฏตามหน้าสื่อในฐานะ ‘เสี่ยเบนท์ลีย์’ ที่ก่อเหตุเมาแล้วขับจนชนผู้อื่นได้รับบาดเจ็บเมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (11 มกราคม) พนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อหาเมาแล้วขับ จากการที่สุทัศน์ปฏิเสธไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการทดสอบระดับแอลกอฮอล์ในเลือด ณ จุดเกิดเหตุแล้วนั้น

พ.ต.ต.ชวลิต ระบุว่า สิ่งที่เป็นข้อกังวล คือการสื่อสารของฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่พยายามทำให้สังคมเน้นจับตาไปที่ผลการตรวจระดับแอลกอฮอล์ในเลือด ซึ่งตนขอยืนยันว่าผลตรวจนี้เชื่อถือไม่ได้ ไม่สามารถนำไปสู่ข้อสรุปได้ว่าผู้ต้องหาเมาแล้วขับ ณ เวลาที่เกิดเหตุหรือไม่ สิ่งที่เป็นประเด็นสำคัญจริงๆ ของคดีนี้อยู่ที่ความพยายามของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการให้ความช่วยเหลือผู้ต้องหาเปลี่ยนจากความผิดเมาสุราแล้วขับขี่ชนผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ ที่มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000 – 100,000 บาท หรือทั้งจำและทั้งปรับ มาเป็นการขับรถโดยประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ที่มีโทษจำคุกเบากว่า คือไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้ต้องหาจะพยายามเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงแต่เป็นความโชคดีที่ในกรณีนี้มีหลักฐานเป็นภาพเคลื่อนไหวอย่างชัดเจน จึงไม่เป็นที่ถกเถียงว่าผู้ต้องหามีความผิดแน่ ๆ แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่มีความพยายามถ้าไม่ใช่จากฝ่ายเจ้าหน้าที่ก็ฝ่ายผู้ต้องหา ในการเปลี่ยนข้อเท็จจริงด้วยการยื้อเวลาให้มีปริมาณแอลกอฮอลล์ในเลือดลดลง

'ทิพานัน' เผย ทิศทาง MSMEs ไทยปี 65 ไปได้สวย!! ชี้!! ไม่มี รบ.ไหน ทำได้เหมือน ‘รบ.ประยุทธ์’

(12 ม.ค. 66) น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าปีที่แล้ว รัฐบาลได้ประสบความสำเร็จในการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดย่อมและขนาดกลาง (Micro, Small and Medium-sized Enterprises: MSME) มี 3.21 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 99.55 ของจำนวนวิสาหกิจทั้งหมดของไทยที่ประสบความสำเร็จ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.67 

ทั้งนี้ วิสาหกิจรายย่อยในปัจจุบัน แบ่งเป็นรายย่อย (Micro-sized Enterprises) 2,742,416 รายคิดเป็นร้อยละ 85.74, ขนาดย่อม (Small-sized Enterprises) จำนวน 412,962 รายคิดเป็นร้อยละ 12.91, และขนาดกลาง (Medium-sized Enterprises) จำนวน 43,106 รายคิดเป็นร้อยละ 1.35 

โดยมูลค่า GDP ของวิสาหกิจขนาดย่อมและขนาดกลางมีจำนวน 5.60 ล้านล้านบาท และคาดขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.9 คิดเป็นมูลค่า GDP ของวิสาหกิจขนาดย่อมและขนาดกลางปี 2565 จำนวน 6.02 ล้านล้านบาท

นอกจากมูลค่า GDP ที่เพิ่มขึ้นแล้ว ในปี 2565 กลุ่ม MSMEs วิสาหกิจขนาดย่อมและขนาดกลางยังมีจำนวนการจ้างงานสูงถึง 12.60 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 71.75 ของการจ้างงานทั้งประเทศ รัฐบาลจึงเดินหน้าส่งเสริม MSMEs อย่างเต็มที่เพราะเป็นเครื่องจักรสำคัญในด้านเศรษฐกิจของประเทศ จึงมีมาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ เช่น จัดทำฐานข้อมูล Big Data การสนับสนุนแหล่งทุนในรูปแบบต่าง ๆ การสนับสนุนเชื่อมโยงระหว่างผู้ซื้อรายใหญ่กับผู้ขายรายย่อย และที่สำคัญคือ ความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมเอเปค 2022

'ชูวิทย์' ลั่น!! เรื่องทุนจีนสีเทา อภิปรายเอามันส์อย่างเดียวไม่พอ ต้องแสดงข้อมูลชัด ยก 'รังสิมันต์ โรม' ไม่เลว!!

(10 ม.ค. 66) ที่โรงแรมเดวิส นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง แถลงข่าวพร้อมเปิดคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดภายในผับจินหลิง เหตุการณ์เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา และ สรุปผลพูดคุยกับนายกฯ วานนี้ 

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้เปิดเผยข้อมูลเป็นคลิปวิดีโอซึ่งปรากฏภาพพนักงานไม่น้อยกว่า 10 คน และบุคคลอื่น ๆ เดินไปมาจำนวนมาก แต่ปัจจุบันปรากฏว่าจำนวนพยานในสำนวนคดี เหลือพนักงานเสริฟเพียง 2 คน ไม่มีพยานที่เป็นหญิงขายบริการ หรือบุคคลอื่น ๆ ในที่เกิดเหตุอีก

ส่วนอีกหนึ่งคลิป เป็นคลิปกล้องวงจรปิดบริเวณประตูทางเข้าออกผับจินหลิง มีพนักงานคอยตรวจค้นร่างกาย ซึ่งมีการละเว้นการค้นตัวของหลานชายตู้ห่าว และสิ่งที่นายชูวิทย์ตั้งข้อสงสัยว่าซองสีขาวในมือของหลานชายตู้ห่าวดังกล่าวเป็นซองที่บรรจุยาเสพติด 

ต่อมาชูวิทย์ เปิดแผนผังขบวนการผับจินหลิง ที่มีนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ ตู้ห่าวเป็นหัวหน้าขบวนการ มีผู้ร่วมขบวนการรายสำคัญแยกย่อยออกมารวม 10 คน มีการแบ่งหน้าที่กันดูแลทั้งเรื่องเงิน และเรื่องยาเสพติด

นอกจากนี้ นายชูวิทย์ ได้กล่าวว่าย้อนกลับไปวันที่ได้ทานอาหารร่วมกับ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สอบถามว่า จากนี้จะดำเนินการกับกลุ่มเจ้าหน้าที่ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองต่อไปอย่างไร กระบวนการจะมีความชัดเจนเป็นรูปธรรมหรือไม่ รวมทั้งถามพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้วยว่า จะดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มทุนจีนสีเทาอย่างไร

“ในวันนี้ผมตั้งใจมาเปิดโปงเครือข่ายทุจริตคอร์รัปชันที่พบว่ามีกลุ่มทุน หน่วยงานรัฐ นักการเมืองคอยร่วมสนับสนุน ถ้าประชาชนสังเกตทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่มีการจับกุมผับจินหลิง ที่ผ่านมาตำรวจทำงานตามหลังที่ตนออกมาเคลื่อนไหวตลอด และปัจจุบันอัยการสูงสุด ยังไม่ได้สั่งให้คดีนี้เป็นคดีอาชญากรรมข้ามชาติ 100 เปอร์เซ็นต์ ตนจึงจำเป็นต้องทำบางสิ่งบางอย่าง เพื่อไปสู่เป้าหมาย หากใครจะโทษตนเองก็ยอมรับ” นายชูวิทย์กล่าว

ส่วนเรื่องของวานนี้ (9 ม.ค. 66) ที่ชูวิทย์ได้เข้าไปพูดคุยส่วนตัวกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยหลังจบงานพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ส่งคำถามถึง พล.อ.ประยุทธ์ ที่ด้านหน้าศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมี 2 คำถามคือ พล.อ.ประยุทธ์ทราบหรือไม่ว่าหลานชายมีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจบริษัททัวร์ของตู้ห่าว และถ้าพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องจริงจะดำเนินการตรวจสอบอย่างไร

‘ทนายตั้ม’ แง้ม 3 คำใบ้ อดีตรองนายกฯ ‘เป็นชู้’ ย้ำ!! เหตุเกิดปี 65 จึงไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย

กลายเป็นอีกหนึ่งข่าวร้อน ที่มาแรงกลบทุกกระแสข่าวแรง ๆ ในช่วงนี้ไปเลย แถมยังทำพี่น้องชาวเน็ตไม่ได้หลับไม่ได้นอน เพราะอยากรู้แล้วว่าใครกันนะ!! คือ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่ทนายตั้ม หรือ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพบรรยายไว้อย่างถึงพริกถึงขิง 

ล่าสุด วันนี้ (9 ม.ค. 66) ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ออกมาตั้งโต๊ะแถลง ถึงกรณีดังกล่าว ที่สำนักงาน ‘Sittra Law Firm’ โดยเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม 3 ปมหลัก ให้ชาวเน็ตไปสืบกันต่อว่า อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่เล่นชู้ นั้นคือใคร? 

ปมข้อที่ 1 เป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรี
ปมข้อที่ 2 มีความเกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทย
ปมข้อที่ 3 ชอบตีกอล์ฟ แต่ไม่ชอบสนามกอล์ฟอัลไพน์

‘จุรินทร์’ นำลูกพรรคปชป. ออนทัวร์ กทม. ต่อเนื่อง ลงพื้นที่ชุมชนตลาดเก่า วัดพระยาไกร พร้อมเปิดตัว ‘อภิมุข ฉันทวานิช’ ชิง เก้าอี้ ส.ส. เขตบางคอแหลม - ยานนาวา มั่นใจ นโยบายตอบโจทย์คนกรุง

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 8 ม.ค.2566 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ กทม. ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรค ลงพื้นที่ชุมชนหลังตลาดเก่า วัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม ซอยเจริญกรุง โดยได้พูดคุยทักทายประชาชนที่มารอต้อนรับบริเวณชุมชน พร้อมทั้งแนะนำนโยบายและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ เขตยานนาวา บางคอแหลม คือ นายอภิมุข ฉันทวานิช  

โดยนายจุรินทร์ กล่าวถึงความพร้อมของพรรคประชาธิปัตย์ ในการเลือกตั้ง ส.ส. พื้นที่กรุงเทพฯ ว่า การลงพื้นที่วันนี้เพื่อถือโอกาสสวัสดีปีใหม่ประชาชน และแนะนำ นายอภิมุข ฉันทวานิช  ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตยานนาวา บางคอแหลม ซึ่งเป็นที่อดีต สก. บางคอแหลม 3 สมัย เป็นที่รู้จักของคนในพื้นที่เป็นอย่างดี เพราะเป็นคนที่เกิดในพื้นที่นี้ตั้งแต่เกิด มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาชุมชนเขตนี้ให้มีศักยภาพและความเป็นอยู่ที่สูงขึ้น 

นายจุรินทร์ได้ตอบคำถาม ผู้สื่อข่าวถึงพื้นที่หลักของประชาธิปัตย์ในการหาเสียงว่า กรุงเทพมหานครจะเป็นพื้นที่เป้าหมายอีกพื้นที่หนึ่งของประชาธิปัตย์ เราเพิ่งเสียที่นั่งไปคราวที่แล้ว อย่างน้อยที่สุดพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ก็ต้องเลือกผู้แทนประชาธิปัตย์เข้ามาจำนวนหนึ่ง เพียงแต่คราวที่แล้วมันอาจจะเป็นอุบัติเหตุทางการเมือง แต่เที่ยวนี้ตนมั่นใจว่าเราปักธงได้แน่ 

ตอนนี้วางการเปิดตัวผู้สมัครไว้อย่างไร นายจุรินทร์ กล่าวว่า ภาคอีสานเคาะไปล่าสุดเมื่อวัน สองวันนี้อีก 90 เขต แล้วจะได้ทยอยสรุป ซึ่งเราจะส่งครบทั้ง 400 เขต ทั่วประเทศ รวมทั้งกรุงเทพมหานคร 33 เขตด้วย เพียงแต่รอการแบ่งเขตให้ชัดเจนจาก กกต. สำหรับทุกพื้นที่ กรุงเทพฯ ก็รออีก 3 เขต ทุกอย่างก็เตรียมพร้อม สำหรับนโยบายภาพรวมเราก็ต้องเน้น “สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ” ซึ่งจะมีรายละเอียดตามมา กรุงเทพมหานครก็เหมือนกัน ภาพรวมของนโยบายกรุงเทพฯ ก็คือภาพรวมของนโยบายประเทศ เพราะกรุงเทพฯ เป็นเมืองหลวงของประเทศไทย ส่วนเรื่องรายละเอียด น้ำท่วม รถติดนั้นเป็นเรื่องการปกครองส่วนท้องถิ่นจะเป็นด้านหลักตอนเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. แต่สำหรับการเลือกตั้งระดับชาติ สำหรับประชาธิปัตย์ นโยบายประเทศก็คือนโยบายกรุงเทพฯ ด้วย

เมื่อถามว่า มองเรื่องที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะไปเปิดตัวที่ศูนย์สิริกิติ์ อย่างไรนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนไม่ขอให้ความเห็น แต่ถ้าท่านไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคใดพรรคหนึ่งจริง ก็แปลว่าต่อไปนี้ท่านก็สังกัดพรรคการเมืองที่มีความชัดเจนแล้ว ไม่ใช่เป็นแค่คนกลาง ๆ ที่ได้รับการเสนอชื่อจากพรรคการเมือง หรือพรรคร่วมรัฐบาล แต่ลงลึกไปถึงท่านเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งแล้ว ก็คงมีสถานภาพเหมือนๆ กันกับรัฐมนตรี หรือรองนายกฯ หลายท่านในคณะรัฐมนตรี ที่เป็นสมาชิกพรรคการเมือง หรือเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง หรือดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค หรือเป็นสมาชิกพรรค 

ผู้สื่อข่าวยังถามต่อว่า ถ้า “คนกลางๆ” หายไป จะส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่อย่างไร หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ตนตอบล่วงหน้าอะไรไม่ได้ อยู่ที่ท่านนายกฯ ด้วยว่าจะบริหารจัดการกับรัฐบาลผสมในรูปแบบไหนอย่างไร และมีทีท่าอย่างไร อันนั้นก็ต้องนับหนึ่งที่ตัวท่านด้วย

ปชป. ชี้ต้องมีแผนบูรณาการทุกภาคส่วน เพื่อสร้างเสถียรภาพให้ประเทศ ย้ำ ทุกอย่างต้องมีความชัดเจน

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ กทม. กล่าวเปิดงานเสวนา "เดินหน้าประเทศอย่างไร ในวันที่โควิด(ยัง) กลายพันธุ์" ซึ่งจัดโดยคณะกรรมการยุทธศาสตร์ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ว่า ประเทศไทยมีบทเรียนจากการต่อสู้กับวิกฤติการณ์โควิดมาแล้ว ทำให้คนไทยได้เรียนรู้ และใช้ชีวิตร่วมกับโควิดได้ในระดับหนึ่งแม้จะมีการกลายพันธุ์อยู่บ้าง ขณะที่เมื่อจีนเปิดประเทศให้ทั้งคนจากประเทศต่างๆ เดินทางท่องเที่ยวในจีน และคนจีนเดินทางท่องเที่ยวได้ทั่วโลก ทำให้หลายประเทศตั้งเงื่อนไขและมีปฏิกิริยาต่อจีน ซึ่งในวันที่ 12 มกราคมนี้ จะมีคนจีนชุดแรกเดินทางเข้าประเทศไทย และประเทศไทยมีแนวทางปฏิบัติต่อนักท่องเที่ยวจีนเหมือนกับนักท่องเที่ยวอื่นๆ ทั่วโลก ดังนั้นวันนี้จึงชวนทุกคนช่วยกันขบคิดว่าจะเปิดประเทศอย่างไรเพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้า และทุกคนอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข 

ผู้เสียหายแฉยับ 'เพชรพันปี' จอมจัดฉากขายสินค้าไม่ตรงปก ด้าน 'หมอดูดัง' ลากไส้ซ้ำ หวังทวงคืนความบริสุทธิ์ให้ 'บิ๊กเอ็ม'

(7 ม.ค. 66) เวลา 12.00 น. โรงแรม TK Palace แจ้งวัฒนะ ห้องไอวี่ 3 คุณฝ้ายหนึ่งในผู้เสียหายจากการซื้อเพชรจากคุณเพชรพันปี หรือร้าน พีดับบลิว เจมส์ แอนด์ ไดมอนด์ ซึ่งร้านนี้กำลังเป็นประเด็นกับ 'ณวัฒน์ อิสรไกรศีล' บอสใหญ่แห่งเวทีมิสแกรนด์ไทยแลนด์ และ มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเธอออกมาแฉว่าเพชรที่ซื้อมาจากร้านนี้นั้นได้ไม่ตรงตามสเปก

คุณฝ้ายกล่าวว่า ตนรู้จักกับคุณเพชรพันปีมาสิบกว่าปีแล้ว หากหลายคนจะสงสัยว่าทําไมโดนหลอก ตนรู้จักตั้งแต่สมัยทําเบาะรถยนต์ คุณเพชรพันปีมักจะพรีเซนต์ตัวเองเสมอว่า เป็นสะใภ้แสนล้าน เปิดมูลนิธิ ทําบุญช่วยเหลือผู้คน นี่ทําให้ตนยิ่งเชื่อใจตัวเขาไปใหญ่ โดยการสั่งซื้อสินค้าจากทางร้านช่วงแรก ๆ สินค้าสวยจริงตามที่โฆษณา แต่มันเป็นแค่ช่วงแรกเท่านั้น เวลาผ่านมานานตนก็ยังซื้อสินค้าจากทางร้านต่อเนื่อง และไม่ได้เช็กต่อเนื่องด้วยความไว้ใจ หลังจากร้านนี้เกี่ยวโยงกับคดีดังตนเลยนำเพชรที่ซื้อมาจากร้าน ไปตรวจสอบ ผลปรากฏว่าเพชรที่ซื้อมานั้น เป็นเพชรจริงแต่ไม่ตรงตามสเปกตามที่โฆษณาไว้

“ฝ้ายเป็นหนึ่งในผู้เสียหายที่เป็นคนรวบรวมผู้เสียหาย แล้วก็เป็นคนแรก ๆ ที่ กล้าพูดว่า สินค้าของร้านนี้ ไม่ได้มาตรฐานตามที่โฆษณา ตนมีหลักฐานคือการนําสินค้าที่ได้รับจากร้านไปตรวจ กับสถาบันที่มีคุณภาพน่าเชื่อถือได้หลายชิ้น ผลปรากฏว่าสินค้าของเขาไม่ตรงตามสเปก” คุณฝ้ายกล่าว

คุณฝ้ายยังเผยอีกว่า ไม่นานมานี้คุณเพชรพันปีเพิ่งจะอัดคลิปอธิบายว่า แหวนนพเก้ารุ่นหนึ่ง พลอยตรงกลางจะต้องเป็นพลอยจากแล็บทั้งหมด เนื่องจากวิธีการฝัง มันฝังไม่ได้ เนื่องจากไม่มีหนามเตย ตนจึงตั้งข้อสังเกตว่าหากคุณเพชรพันปีพูดแบบนี้ นั่นหมายความว่ารุ่นนี้ จะต้องเป็นพลอยจากแล็บทั้งหมด แต่บังเอิญมีผู้เสียคนหนึ่ง เขานำเพชรรุ่นเดียวกันไปตรวจมาเมื่อวาน (6 ม.ค. 66) ผลปรากฏว่าพลอยตรงกลางมันเป็นพลอยแท้ นั่นหมายความว่าจากที่คุณเพชรพันปีพูดมันย้อนแย้งหรือเปล่า? 

'ชัยวุฒิ' มุ่ง!! สิงห์บุรี เตรียมความพร้อมกิจกรรม 'ข้าวรักษ์โลก' พร้อม 'เยี่ยมเยียน-รับฟังปัญหา' พี่น้องชาวลพบุรี

วันนี้ (5 ม.ค.65) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พร้อมคณะ ลงพื้นที่ บริเวณ ต.อินทร์บุรี อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี โดยเพื่อตรวจเยี่ยมความก้าวหน้าพื้นที่ก่อสร้างพนังกั้นน้ำ จากนั้นจะออกเดิน ต.น้ำตาล เดินทางต่อไปยังพื้นที่นานำร่อง หมู่ที่ 1 ต.น้ำตาล อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี เพื่อตรวจความเรียบร้อยและรอต้อนรับ นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่จะมาเป็นประธานเปิดกิจกรรม 'ข้าวรักษ์โลก' ในวันที่ 6 ม.ค.65 นี้

"วันพรุ่งนี้ถือเป็นวันสำคัญของชาว จ.สิงห์บุรี จึงจำเป็นต้องมีการตรวจความเรียบร้อยเพื่อต้อนรับ นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายชัยวุฒิ กล่าว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top