ผู้เสียหายแฉยับ 'เพชรพันปี' จอมจัดฉากขายสินค้าไม่ตรงปก ด้าน 'หมอดูดัง' ลากไส้ซ้ำ หวังทวงคืนความบริสุทธิ์ให้ 'บิ๊กเอ็ม'

(7 ม.ค. 66) เวลา 12.00 น. โรงแรม TK Palace แจ้งวัฒนะ ห้องไอวี่ 3 คุณฝ้ายหนึ่งในผู้เสียหายจากการซื้อเพชรจากคุณเพชรพันปี หรือร้าน พีดับบลิว เจมส์ แอนด์ ไดมอนด์ ซึ่งร้านนี้กำลังเป็นประเด็นกับ 'ณวัฒน์ อิสรไกรศีล' บอสใหญ่แห่งเวทีมิสแกรนด์ไทยแลนด์ และ มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเธอออกมาแฉว่าเพชรที่ซื้อมาจากร้านนี้นั้นได้ไม่ตรงตามสเปก

คุณฝ้ายกล่าวว่า ตนรู้จักกับคุณเพชรพันปีมาสิบกว่าปีแล้ว หากหลายคนจะสงสัยว่าทําไมโดนหลอก ตนรู้จักตั้งแต่สมัยทําเบาะรถยนต์ คุณเพชรพันปีมักจะพรีเซนต์ตัวเองเสมอว่า เป็นสะใภ้แสนล้าน เปิดมูลนิธิ ทําบุญช่วยเหลือผู้คน นี่ทําให้ตนยิ่งเชื่อใจตัวเขาไปใหญ่ โดยการสั่งซื้อสินค้าจากทางร้านช่วงแรก ๆ สินค้าสวยจริงตามที่โฆษณา แต่มันเป็นแค่ช่วงแรกเท่านั้น เวลาผ่านมานานตนก็ยังซื้อสินค้าจากทางร้านต่อเนื่อง และไม่ได้เช็กต่อเนื่องด้วยความไว้ใจ หลังจากร้านนี้เกี่ยวโยงกับคดีดังตนเลยนำเพชรที่ซื้อมาจากร้าน ไปตรวจสอบ ผลปรากฏว่าเพชรที่ซื้อมานั้น เป็นเพชรจริงแต่ไม่ตรงตามสเปกตามที่โฆษณาไว้

“ฝ้ายเป็นหนึ่งในผู้เสียหายที่เป็นคนรวบรวมผู้เสียหาย แล้วก็เป็นคนแรก ๆ ที่ กล้าพูดว่า สินค้าของร้านนี้ ไม่ได้มาตรฐานตามที่โฆษณา ตนมีหลักฐานคือการนําสินค้าที่ได้รับจากร้านไปตรวจ กับสถาบันที่มีคุณภาพน่าเชื่อถือได้หลายชิ้น ผลปรากฏว่าสินค้าของเขาไม่ตรงตามสเปก” คุณฝ้ายกล่าว

คุณฝ้ายยังเผยอีกว่า ไม่นานมานี้คุณเพชรพันปีเพิ่งจะอัดคลิปอธิบายว่า แหวนนพเก้ารุ่นหนึ่ง พลอยตรงกลางจะต้องเป็นพลอยจากแล็บทั้งหมด เนื่องจากวิธีการฝัง มันฝังไม่ได้ เนื่องจากไม่มีหนามเตย ตนจึงตั้งข้อสังเกตว่าหากคุณเพชรพันปีพูดแบบนี้ นั่นหมายความว่ารุ่นนี้ จะต้องเป็นพลอยจากแล็บทั้งหมด แต่บังเอิญมีผู้เสียคนหนึ่ง เขานำเพชรรุ่นเดียวกันไปตรวจมาเมื่อวาน (6 ม.ค. 66) ผลปรากฏว่าพลอยตรงกลางมันเป็นพลอยแท้ นั่นหมายความว่าจากที่คุณเพชรพันปีพูดมันย้อนแย้งหรือเปล่า? 

หลังจากนั้นคุณฝ้ายจึงต่อสายหาอดีตพนักงาน ที่เคยทำงานในบริษัท พีดับบลิว เจมส์ แอนด์ ไดมอนด์ จำกัด ซึ่งอดีตพนักงานท่านนี้ได้เปิดเผยว่า แหล่งที่มาของพลอยนพเก้าซื้อจากวัดแขก ฯลฯ แล้วก็ลาซาด้า โดยผ่านการทําพิธีมาแค่รอบเดียวที่วัดดังย่านนครปฐม ซึ่งนานมากแล้วและของล็อตนั้นได้หมดไปนานแล้ว จากนั้นคุณฝ้ายจึงถามว่าแต่ตอนนี้ทางร้านยังมีโฆษณาว่าปลุกเสกทุกรอบอยู่ อดีตพนักงานท่านนี้จึงตอบเสียงแข็งว่า “ไม่มีการปลุกเสกแน่นอน” และเผยว่าต้นทุนของสินค้าจริง ๆ แค่เม็ดละ 3 บาทเอง โดยซื้อมาจากลาซาด้า แต่มาขายหลายหมื่น

“ทางร้านได้หลอกลูกค้ามากี่คนแล้ว? หนูนับไม่ถ้วนจริง ๆ ในส่วนเรื่องทางร้านเริ่มใช้เพชรที่มันไม่ตรงคุณภาพ ไม่ตรงสเปกตั้งแต่เมื่อไหร่นั้น ตอนแรกที่หนูเข้ามาทํางาน เพชรยังสวยอยู่ ยังโอเคอยู่นะคะ แต่พอหลังหลัง เริ่มขายดีขึ้น ก็เริ่มลดสเปกเพชรลง” อดีตพนักงานกล่าว

นอกจากนี้ ด้าน อ.รินรดา ชัยหมื่น หมอดูชื่อดังแห่งบ้านสร้างสุขพยากรณ์ ได้ออกมาเปิดเผยถึงประเด็นหวย 24 ล้าน กับคุณเพชรพันปีด้วยว่า...

ตนเป็นหนึ่งในลูกค้าที่อุดหนุน เพชรพีดับบลิวเจมส์ แอนด์ไดมอนด์ ตนรู้จักกับ ดร.เพชรพันปี จากการที่ตกลงซื้อนาฬิกา Patek ซึ่งนาฬิกา Patek ตนนัดรับกันที่โรงงานเพชร ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 เมื่อตนไปถึงโรงงานก็ทราบว่าเขาเป็นเจ้าของโรงงานเพชร 

โดยส่วนตัวตนเป็นคนที่ซื้อเพชรอยู่แล้ว ชอบเพชรอยู่แล้ว ก็เลยสั่งทํากําไล และนัดรับวันที่ 17 ธันวาคม 2564 ซึ่งในวันที่ 16 ธันวาคม 2564 ได้มีกระแสข่าวคือดร.เพชรพันปีถูกรางวัลที่หนึ่งครั้งแรก พอถึงวันที่ 17 ตนก็ไปรับของปกติ พูดคุยกันแต่ก็ไม่ได้สนิท เพราะเราไม่เคยคบหาเขามาก่อน นี่จึงเป็นการพบกันครั้งที่สอง ได้ก็มีการคุยเรื่องตัวเลข เพราะว่าตนเป็นคนชอบเล่นหวยอยู่แล้ว เขาบอกว่านี่ไงพี่ถูกรางวัลที่หนึ่ง ยังไม่มีเวลาไปขึ้นเงินเลย จากนั้นเขาก็วิ่งไปข้างหลังร้านเอาสลากรางวัลที่หนึ่งมาโชว์ สลากตรงนี้แนบด้วยบัตรประชาชน แล้วมีสลากรางวัลอื่น ซึ่งตนไม่ทราบว่าถูกรางวัลหรือเปล่า 

เขาบอกว่ารินถ่ายรูปไปสิ ถ่ายไปลงเพจก็ได้ มีเหรียญท้าวเวสสุวรรณมีอะไรเอามาวาง หลังจากตนโพสต์รูปลงก็เกิดดราม่าขึ้นว่า อาจารย์รินรดาถูกรางวัลที่หนึ่งจริงหรือเปล่า? จนทําให้ตนเกิดการโพสต์แก้ต่างว่า ไม่ใช่ของตน แต่เป็นของร้านเพชร 

หลังจากนั้นก็มีการซื้อเพชรอีกครั้งสองครั้ง แต่ก็ไม่ได้สนิทกันอีก ไม่เคยมีการนัดกินข้าว หรืออะไรกันแต่อย่างใด จนกระทั่งตนทําธุรกิจทําสบู่กับคุณบิ๊กเอ็ม เขาก็มาบอกว่าขอซื้อสบู่ห้าร้อยก้อน แต่มีเงื่อนไขคือ ต้องพาบิ๊กเอ็มมาด้วย ซึ่งตนก็รู้สึกว่าคนนี้การศึกษาดี ฐานะดี โปรไฟล์ดี เขาบอกว่าเขาเป็นนักธุรกิจ นักธุรกิจพันล้าน ทั้งอสังหาริมทรัพย์ด้วย ในใจจึงมีแต่คิดว่าน่าจะพาน้องบิ๊กเอ็มไปรู้จักกับนักธุรกิจ เผื่อต่อยอดแนะนําน้องในการทํามาหากินได้ 

ตนก็ชวนบิ๊กเอ็มและหุ้นส่วนอีกสองคนไป พอไปถึงทุกคนก็ไม่ได้โฟกัสที่สบู่ เพราะว่าคุณเพชรพันปีเขาจะพรีเซนต์เพชรเขาอย่างเดียวเลย จนหุ้นส่วนทุกคนซื้อเพชรหมดเลย หลังจากนั้นเขาก็นั่งสอนเรื่องธุรกิจว่า ต้องมีเปิดตัวแทนยังไง? เขาบอกว่ามันต้องทําโปรโมชัน เช่น แจกที่ดิน ตนจึงท้วงติงบอกว่าพวกตนลงทุนกันน้อยมากไม่มีที่ดินหรอก หลังพูดจบเขาก็วิ่งไปเอาโฉนดที่ดินมาและบอกว่าเขามีที่ดินเยอะแยะ แนะนำให้ตนเล่นรางวัลไปก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยมาซื้อที่ดินต่อจากเขาก็ได้ ก็เป็นที่มาของการถ่ายรูปโชว์โฉนดที่ดิน 

“จากนั้นเขาก็บอกว่า เนี่ย ร้านเพชรพี่มีโปรโมชันนะ คือแจกที่ดินไม่พอ คือ ยังมีแจกลอตเตอรี่ เขาบอกว่าถ้าพี่ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง พี่จะให้บิ๊กเอ็มหนึ่งใบ ให้รินหนึ่งใบ เราจะได้ดังเป็นข่าว อันนี้คือคําพูดเขาเลยนะคะ” อ.รินรดากล่าว

จากนั้นจึงกล่าวว่าตนกับบิ๊กเอ็มไม่ใช่คนซื้อลอตเตอรี่ ตนไม่รู้จักแอปฯ หงษ์ทอง ซึ่งเขาบอกว่าถ้าถูกรางวัลที่หนึ่ง จะให้บิ๊กเอ็มหนึ่งใบ ให้รินหนึ่งใบ มันเป็นเหมือนสัญญาใจกัน ตนมีความรู้สึกอย่างนั้น และตนเชื่อโดยสนิทใจว่าคนนี้ซื้อเลขเยอะมาก เขาบอกซื้อเป็นสี่พันใบแล้วคนนี้เคยถูกรางวัลที่หนึ่งมาแล้ว ส่วนประเด็นที่ว่า ทําไมเขาถึงไปมอบรางวัลที่สบู่นายา ต้องบอกเลยว่าตนมีการคัดค้าน ไม่ใช่ไม่คัดค้าน 

“หนูบอกที่งานคอนเสิร์ตบิ๊กเอ็มว่า ใช้การเดินเซอร์ไพรซ์ได้ไหม ที่ไม่ต้องตั้งป้ายแถลง เรารู้อยู่แล้วว่ามันมีแบรนด์นายาข้างหลัง เขาบอกว่าไม่เป็นไรสบู่เอ็งจะได้ปังปัง แล้วหนูถามว่าพี่ลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งมันมีจริงไหม เขาบอกมึงจะกลัวอะไร? เงินก็เงินจริง ลอตเตอรี่ก็ลอตเตอรี่จริงไม่เกี่ยว อันเนี้ยคือได้รางวัลจากร้านเพชร” อ.รินรดากล่าว

ทั้งนี้ อ.รินลดา ยังได้พูดขยายประเด็นมอบเงินในงานคอนเสิร์ตบิ๊กเอ็มอีกว่า หากสังเกตดีๆ วันไปมอบเงินที่งานคอนเสิร์ต เขาหอบเงินกลับ ใช่ ซึ่งตนเข้าใจได้ว่าทุกๆ อย่างในนั้นน่ะมันฉุกละหุก แล้วบิ๊กเอ็มต้องซ้อมเต้นต้องอะไร ตนจึงคิดว่า มันคงไม่สะดวกในการรับเงินสด พอวันที่สามเขาบอกว่า รินสี่โมงเย็นนะ เอากระเป๋ามาด้วย มารับเงินสด ตนจึงเอากระเป๋าไปตามในคลิปที่หลายคนอาจจะเคยเห็นกันแล้ว ในวันนั้นพอถ่ายอะไรเสร็จแล้ว เขาก็บอกว่ากลับไปก่อน เดี๋ยวจัดการเอง ตนก็คิดว่าพี่จัดการเอง คือ เขาคงอาจอยากจะถ่ายคอนเทนต์ อัดคลิป ขอบคุณหงษ์ทองอะไรต่อ ถ้ามีหลักฐานก็จะเห็นว่าตนกลับไปก่อนจริง ๆ จากนั้นตนก็เลยเริ่มรู้สึกว่ามันยังไงหนอ 

หากย้อนดูในโพสต์ตนกับบิ๊กเอ็ม จะมีโพสต์รางวัลที่หนึ่งขอบคุณร้านเพชรแค่ครั้งเดียว และไม่ได้มีเอารางวัลที่หนึ่งมาหาผลประโยชน์ในการทํามาหาอาชีพ อันนี้ชัดเจนเพราะว่าตนมีกราฟชัดเจน


เรื่อง: วายุ เอี่ยมรัมย์ Content Editor