เหตุการณ์ในครั้งนี้ เริ่มต้นจากกระแสชาตินิยมอย่างหนัก จนถึงเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2483 คณะนิสิตนักศึกษา จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รวมทั้งประชาชน ร่วมกันเดินขบวนเรียกร้องรัฐบาล ทวงเอาดินแดนคืนจากฝรั่งเศส ที่ถูกยึดไปในเหตุการณ์ ร.ศ. 112 อาทิ เสียมราฐ พระตะบอง จำปาศักดิ์
จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีและผู้บัญชาการทหารสูงสุดในสมัยนั้น ส่งกำลังทหารบุกข้ามพรมแดน เข้าไปยึดดินแดนดังกล่าวคืนทันที ท่ามกลางกระแสชาตินิยมอย่างหนัก เพลงปลุกใจในเวลานั้น ได้ถูกเปิดอย่างต่อเนื่อง เช่น เพลงข้ามโขง เพลงดอกฟ้าจำปาศักดิ์ เพลงเสียมราฐ เป็นต้น
>> จุดเริ่มต้นแห่งสงครามอินโดจีน “สงครามฝรั่งเศส-ไทย” หลังจากฝรั่งเศสแพ้ต่อนาซีเยอรมนีปี 2483 พลตรีแปลก พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีไทยสมัยนั้น ตัดสินใจว่าความพ่ายแพ้ของฝรั่งเศส ทำให้ประเทศไทยได้โอกาสทวงดินแดนที่เคยเสียไป ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว คืนมาจากการปกครองอาณานิคมของอินโดจีนฝรั่งเศส ทั้งฝรั่งเศสวีซีถูกตัดขาดความช่วยเหลือ และกำลังบำรุงจากภายนอก หลังจากญี่ปุ่นบุกยึดครองอินโดจีนเมื่อ กันยายน พ.ศ. 2483 ฝรั่งเศสถูกบีบให้อนุญาตให้ญี่ปุ่นตั้งฐานทัพ
รัฐบาล พลตรีแปลก พิบูลสงคราม เชื่อว่าฝรั่งเศสวีซี คงไม่สามารถต้านทานการเผชิญหน้าอย่างจริงจังกับไทยได้ รัฐบาลไทยในขณะนั้นจึงยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาลฝรั่งเศส ให้ถือเอาแม่น้ำโขงเป็นเส้นพรมแดน และให้ฝรั่งเศสรับรองว่าถ้าฝรั่งเศสไม่สามารถปกป้องดินแดนอาณานิคมได้ ก็ให้คืนดินแดนทั้งลาวและกัมพูชาแก่ประเทศไทย ซึ่งประเทศไทย หรือสยาม เสียให้แก่ฝรั่งเศสในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่ฝรั่งเศสกลับไม่ยินยอม พร้อมส่งเครื่องบินรบล่วงล้ำอธิปไตยเข้ามาทิ้งระเบิดที่จังหวัดนครพนม เป็นเหตุให้มีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ
กองทัพไทยจึงทำการตอบโต้ โดยส่งกำลังทหาร และยุทโธปกรณ์จากทั้งกองทัพบก และกองทัพอากาศ บุกเข้าไปในอินโดจีนทางลาว และกัมพูชา กองทัพอากาศของประเทศไทย ได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐานที่มั่น ของอินโดจีนฝรั่งเศส ของฝรั่งเศสวีซีไปเรื่อยๆ ส่วนกองทัพเรือไทย ส่งกองเรือรบออกไปสกัดกั้น กองเรือฝรั่งเศส ที่ล่วงล้ำอ่าวไทยเข้ามา จนเกิดการปะทะกันที่เกาะช้าง เกิดยุทธนาวี ที่กล่าวขานกันจนถึงปัจจุบัน คือ “ยุทธนาวีเกาะช้าง”