Sunday, 6 October 2024
ECONBIZ

'เพื่อไทย’ สอน ‘ประยุทธ์’ ลดต้นทุนพลังงาน หลัง 'น้ำมัน-ก๊าซ-ไฟฟ้า' ขึ้นไม่หยุด

‘ทีมเศรษฐกิจเพื่อไทย’ สอน ‘ประยุทธ์’ น้ำมัน-ก๊าซ-ไฟฟ้าขึ้นไม่หยุด จัดการให้ถูกลงได้ถ้าคิดเป็น แนะวิธีลดต้นทุนช่วยค่าครองชีพประชาชน

21 มี.ค. 65 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า ราคาน้ำมันได้กลับมาเป็นขาขึ้นใหม่หลังจากราคาลงไปต่ำกว่า $100 ต่อบาร์เรลอยู่ไม่กี่วันแล้วกลับขึ้นมาอยู่ที่ $110 ต่อบาร์เรล และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอีกถ้าสงครามรัสเซียยูเครนยังยืดเยื้อและถ้ามีการแซงชันรัสเซีย รัฐบาลมีแนวโน้มที่จะเลิกพยุงราคาดีเซลต่ำกว่า 30 บาท ในไม่ช้า และค่าไฟฟ้ากำลังจะปรับราคาขึ้นเป็นหน่วยละ 4 บาทเริ่มเดือนพฤษภาคม จากราคาเดิมที่หน่วยละ 3.78 บาท ซึ่งเพิ่มขึ้นมากและเป็นการปรับขึ้นมากที่สุดเท่าที่เคยปรับขึ้นมา ราคาก๊าซหุงต้มจะปรับขึ้นโดยถัง 15 กิโลกรัม. จาก ราคา 318 เป็น 333 บาทในวันที่ 1 เมษายนนี้ และจะปรับทั้งหมด 3 ครั้ง ราคาจะขึ้นไปถึง 363 บาท ซึ่งจะหนักมาก ประชาชนจะอยู่กันได้ยาก ถ้าราคาพลังงานปรับขึ้นสูงมากขนาดนี้ อีกทั้งราคาสินค้ากำลังจะเรียงหน้าขึ้นราคากันอีกจากการแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไม่ไหว โดยเอสเอ็นอีประกาศจะขึ้นราคาแล้วภายใน 3-6 เดือนนี้

สถานการณ์สงครามรัสเซียยูเครนจะกระทบกับห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ในสินค้าจำนวนมากกว่า 200 ชนิด ทำให้ราคาสูงขึ้น ทั้งราคาปุ๋ย ราคาอาหารสัตว์ ราคาแร่ธาตุต่างๆ เช่น เหล็ก นิกเกิล ไททาเนียม อะลูมิเนียม พาลาเดียม ฯลฯ รวมถึง แร่ธาตุหายากที่ใช้ผลิตไมโครชิปด้วย ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะทำให้ระดับราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้น และเงินเฟ้อจะยิ่งสูงขึ้น อีกทั้งสินค้าจำเป็นหลายชนิดได้เริ่มขึ้นราคากันแล้ว เช่น ไข่ไก่ บะหมี่สำเร็จรูป นมข้นหวาน มะนาว ฯลฯ และจะมีสินค้าต่างๆ ขึ้นราคาเพิ่มขึ้นกันอีก

นายพิชัย กล่าวว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องหันกลับมาพิจารณาแล้วว่าจะทำอย่างไรเพื่อช่วยเหลือและลดค่าครองชีพของประชาชนเพื่อให้ประชาชนอยู่รอดได้ คำแนะนำเพียงให้เปิดแอร์ที่ 27 องศา ควบคู่เปิดพัดลม และไม่ใช้เตารีด ไดร์เป่าผมในห้องที่เปิดแอร์ และหมั่นล้างแอร์ รวมถึงใช้รถเท่าที่จำเป็น ก่อนหน้านี้ แม้จะเป็นเรื่องดี แต่เป็นเรื่องที่เก่ามาก และจะไม่สามารถช่วยประชาชนให้มีชีวิตรอดจากภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ในภาวะเช่นนี้ได้

อยากแนะนำให้พลเอกประยุทธ์ ได้พิจารณาลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้กับประชาชนที่เป็นสาเหตุหลักที่ต้นทุนสินค้าต่างๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งสามารถทำได้จริงดังนี้

'มาคาเลียส' จับมือพันธมิตรโรงแรมดังใกล้กรุง อัดโปรโมชั่นแรงดักกำลังซื้อก่อนสงกรานต์

มาคาเลียส (Makalius) สตาร์ตอัปธุรกิจท่องเที่ยวออนไลน์ชั้นนำของประเทศไทย เผยภาพรวมการท่องเที่ยวไทยเริ่มฟื้นตัว ปัจจัยหลักจากภาครัฐคลายล็อกดาวน์ พร้อมเดินหน้าฉีดวัคซีนโควิด-19 เกินกว่าครึ่ง ส่งผลให้คนไทยออกมาท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น เพราะมั่นใจในสถานการณ์ปัจจุบัน เตรียมอัดโปรโมชั่นแรง ดักกำลังซื้อคนไทยเตรียมเที่ยวช่วงสงกรานต์

นางสาวณีรนุช ไตรจักร์วนิช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มาคาเลียส ประเทศไทย จำกัด (Makalius) กล่าวว่า “ภายหลังจากภาครัฐบาลได้มีมาตรการเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 รวมถึงการคลายล็อกดาวน์ในช่วงต้นปี 2565 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนเริ่มเกิดความมั่นใจและออกมาท่องเที่ยวกันเพิ่มมากขึ้น ทำให้ภาพรวมการท่องเที่ยวภายในประเทศเกิดการฟื้นตัวตามลำดับ จากการสำรวจอัตราการซื้อของผู้บริโภคมาคาเลียส พบว่า กว่า 50% เริ่มหันมาจองวอเชอร์ที่พักสำหรับการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น จากเดิมจะเน้นไปที่การจองวอเชอร์รับประทานอาหารบนเรือสำราญ ซึ่งที่พักยอดนิยมส่วนใหญ่จะไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก ได้แก่ เกาะช้าง กาญจนบุรี พัทยา หัวหิน เป็นต้น ส่วนอัตราการซื้อวอเชอร์ในแต่ละครั้งเฉลี่ยที่ 5,000-10,000 บาทต่อครั้ง และยังคงรูปแบบการท่องเที่ยวกับกลุ่มคนใกล้ชิด อย่างคู่รักและครอบครัว อีกทั้งยังเลือกที่พักที่มีบริการครบจบในสถานที่เดียว

'สมอ.'​ เข้ม!! มาตรฐาน 'หน้ากากอนามัยใช้ครั้งเดียว'​ ป้องกันแพร่เชื้อ​ อ้างอิงตามมาตรฐานสากล

สมอ. เข้ม!! มาตรฐานหน้ากากอนามัยใช้ครั้งเดียว ให้สอดคล้องตามสินค้าที่จำหน่ายในท้องตลาด เพิ่มความเข้มข้นในการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคมากยิ่งขึ้น โดยอ้างอิงตามมาตรฐานสากล เพื่อส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ 

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ตนได้กำชับให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เร่งออกมาตรฐานหน้ากากอนามัย รวมทั้งอุปกรณ์ป้องกันอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง หากมาตรฐานฉบับใดไม่ทันสมัยก็ให้ทบทวนแก้ไขปรับปรุง เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ผลิตสินค้าให้มีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐาน มีความปลอดภัยต่อการนำไปใช้ และลดความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อโรค โดยให้ครอบคลุมการใช้งานทุกประเภท ทั้งเพื่อป้องกันฝุ่น pm 2.5 ป้องกันโรคติดต่ออื่นๆ ที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ รวมถึงป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคไปสู่ผู้อื่น โดยเฉพาะโรคโควิด-19 ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกวัน หน้ากากอนามัยจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับประชาชนที่ต้องใส่เมื่อออกนอกเคหสถาน ทำให้ปริมาณความต้องการใช้หน้ากากอนามัยเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย

ดร.จุลพงษ์ ทวีศรี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา กมอ. ได้มีมติเห็นชอบมาตรฐานหน้ากากอนามัยใช้ครั้งเดียว มอก.2424-25xx ที่ สมอ. ได้แก้ไขใหม่ จากมาตรฐานเดิม มอก.2424-2562 เพื่อให้สอดคล้องกับสินค้าที่วางจำหน่ายอยู่ในท้องตลาด ที่มีหลากหลายรูปแบบ และหลากหลายประเภท รวมทั้งสอดคล้องกับมาตรฐานต่างประเทศ เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคทางการค้าการส่งออกของผู้ประกอบการไทยในอนาคต โดยเร่งรัดให้ สมอ. ดำเนินการประกาศเป็นสินค้าควบคุมในคราวเดียวกัน ซึ่งคาดว่าจะประกาศใช้ภายในปีนี้ 

นอกจากนี้ กมอ. ยังได้เห็นชอบมาตรฐานอื่นๆ อีกรวม 49 มาตรฐาน เช่น มาตรฐานมือจับประตูและราวจับสำหรับผู้สูงอายุและผู้พิการ เครื่องชั่งและบรรจุข้าวสาร เครื่องเรียงขวดพลาสติก ดวงโดมไฟฟ้า สายไฟฟ้าสำหรับอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้า น้ำตาลทราย และแป้งมันสำปะหลัง เป็นต้น

ด้าน นายบรรจง สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวเพิ่มเติมว่า มาตรฐานฉบับเดิม มอก.2424-2562 ครอบคลุมเฉพาะหน้ากากอนามัยใช้ครั้งเดียวที่ใช้ป้องกันอนุภาค เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคจากบุคคลหนึ่งไปสู่บุคคลหนึ่ง ได้แก้ไขเป็น มาตรฐานหน้ากากอนามัยใช้ครั้งเดียว มอก.2424-25xx โดยมีสาระสำคัญของการแก้ไข เพื่อให้สอดคล้องกับสินค้าที่มีจำหน่ายอยู่ในท้องตลาด ที่มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบจีบ แบบถุงหรือแบบปากเป็ด และแบบถ้วย โดยเพิ่มความเข้มข้นรายการทดสอบประสิทธิภาพการหายใจมากขึ้น และมีการแบ่งประเภทและระดับการป้องกันใหม่ตามวัตถุประสงค์การใช้งาน  

'เกษตรฯ' ดันแผนบริหารผลไม้ภาคตะวันออกรับฤดูกาลเก็บเกี่ยว

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในช่วงระหว่างนี้เรื่อยไปจนถึงประมาณเดือนกันยายน เป็นช่วงที่ผลไม้ภาคตะวันออกให้ผลผลิต ผลไม้สำคัญหลายชนิดโดยเฉพาะทุเรียน มังคุด และเงาะ ปีนี้ให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา คาดว่าผลผลิตทุเรียนปีนี้อยู่ที่ประมาณ 744,549 ตัน มังคุด 210,864 ตัน และเงาะ 210,646 ตัน 

มีสาเหตุเนื่องมาจากหลากหลายปัจจัย ทั้งสภาพอากาศที่เหมาะสม จำหน่ายได้ราคาดีตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา จูงใจให้เกษตรกรหันมาปลูกและบำรุงรักษาผลไม้ดังกล่าวกันมากขึ้นเพื่อให้ได้ผลผลิตดีมีคุณภาพ และเพื่อเป็นการรักษาคุณภาพมาตรฐานของผลผลิตไม้ผลภาคตะวันออกตลอดทั้งฤดูกาล โดยในปี 2564 ที่ผ่านมานั้นไทยสามารถส่งออกผลไม้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ แม้จะเผชิญกับปัญหาการขนส่งโลจิสติกส์จากค่าระวางที่สูงขึ้น การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และการปิดด่านหลายครั้งจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 

ดังนั้นในปี 2565 นี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงได้กำหนดเป้าหมายในการส่งออกผลไม้ภาคตะวันออกเพื่อเพิ่มศักยภาพการส่งออก สร้างความเชื่อมั่นสู่ผู้บริโภคในประเทศและต่างประเทศและการส่งออกผลไม้ต้อง Zero COVID เท่านั้น โดยกรมส่งเสริมการเกษตร ได้ทำแนวทางและวิธีการปฏิบัติร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับสั่งการให้สำนักงานเกษตรจังหวัดตั้งชุดเฉพาะกิจร่วมกับฝ่ายปกครองในพื้นที่ เพื่อสกัดกั้นทุเรียนอ่อนในจังหวัดแหล่งผลิตที่สำคัญ 

'สภาอุตฯ' ชงรัฐ!! เปิดประเทศ ผ่อนปรนมาตรการรับนทท. เชื่อ!! เกี่ยวรายได้กว่า 6 แสนล้านถึง 1 ล้านล้านบาท

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจะเสนอต่อที่ประชุม ศบศ.ในวันพรุ่งนี้ (18 มี.ค. 65) เพื่อพิจารณามาตรการในการเปิดประเทศ เช่น ยกเลิกมาตรการ Test & Go รวมทั้ง การกักตัวและการตรวจหาเชื้อ COVID-19 ด้วยวิธี RT-PCR (Real Time PCR) โดยปรับมาให้ผู้เดินทางเข้าประเทศแสดงวัคซีนพาสปอร์ต (Vaccine Passport) หรือหลักฐานการฉีดวิคซีน 2 เข็ม ก่อนเข้าประเทศเท่านั้น เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ เสริมสร้างบรรยากาศด้านการท่องเที่ยวของไทย และช่วยดึงเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวเข้ามาประคองเศรษฐกิจในช่วงเวลาเราที่ได้รับผลกระทบทั้งจากการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ที่ผ่านมา และแรงกดดันทางเศรษฐกิจจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่กระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

อย่างไรก็ตามจากผลกระทบของการติดเชื่อโอมิครอนที่มีอาการรุนแรงไม่มากนัก ประกอบกับการปรับกลยุทธ์ของภาครัฐที่เตรียมจะปรับให้ COVID-19 เป็นโรคประจำถิ่น (Endemic) จึงคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2565 จะขยายฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปช่วงครึ่งปีหลัง โดยตลอดทั้งปีจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยอยู่ที่ 5.58 - 6 ล้านคน และหากคิดเร็วๆ จะพบว่า รายจ่ายเฉลี่ยต่อหัวที่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาใช้จ่ายในไทยนั้นอยู่ที่ประมาณ 100,000 บาทต่อหัว ซึ่งเท่ากับว่าเราจะมีรายได้เข้าประเทศถึง 558,000 – 600,000 ล้านบาท โดยเฉพาะระหว่างเดือนมีนาคมจนถึงเมษายนนั้น ถือเป็นช่วง High Season ที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมเดินทางมาประเทศไทย หากเราเร่งปรับเงื่อนไขต่างๆ ให้สะดวกขึ้น รวมทั้ง การผ่อนปรนกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้กลับสู่ภาวะปกติไม่ว่าจะเป็น การประชุม, สัมมนา, การจัดนิทรรศการ และกิจกรรมสันทนาการต่างๆ ก็มีส่วนสำคัญที่จะเสริมสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวได้อีกทางหนึ่ง

กรมบัญชีกลางออกหลักเกณฑ์และอัตราการเบิกค่ารักษาโควิด-19

น.ส.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลาง ยกเลิกหนังสือกรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุด ที่ กค 0416.4/ว 273 ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2563 และกำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการเบิกเงินค่ารักษาพยาบาลสถานพยาบาลของเอกชน กรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
 
กรณีได้รับการประเมินเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต (สีแดงและสีเหลือง) 
-สามารถเข้ารักษาได้ที่สถานพยาบาลเอกชนทุกแห่งทั่วประเทศ โดยอัตราการเบิกจ่ายเงินเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตฯ (UCEP Plus)
- การเบิกค่ารักษาพยาบาลครอบคลุมการรักษาตั้งแต่ต้นจนสิ้นสุดการรักษา 
- หากมีประกันภัย ต้องใช้สิทธิการเบิกจ่ายจากประกันภัยก่อน ส่วนที่เกินจากสิทธิจึงจะสามารถเบิกได้ 

รมว.เฮ้ง ยัน ค่าจ้างขั้นต่ำยังไม่ได้ข้อสรุป ขึ้นเท่าไหร่อยู่ที่ไตรภาคี 

เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2565 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณี
ที่สื่อโซเซียลได้เผยแพร่ข่าวประกาศ!!! เตรียมขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจาก 300 บาท เป็น 492 บาท (รอการอนุมัติตัวเลข) นั้นว่า ข่าวดังกล่าวบิดเบือนไม่เป็นความจริง เนื่องจากข้อเท็จจริงในการพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำแต่ละครั้งนั้น มีคณะกรรมการค่าจ้าง ซึ่งเป็นผู้แทนองค์กรไตรภาคีทั้ง 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายรัฐบาล นายจ้าง และลูกจ้าง พิจารณาและปรึกษาหารืออย่างรอบคอบก่อนจะได้ข้อยุติร่วมกัน แม้ว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในปัจจุบันมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 จนถึงปัจจุบันแล้ว ในปี 2565 คณะกรรมการค่าจ้างได้กำหนดแผนการทบทวนความเหมาะสมของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างขั้นตอนการให้คณะอนุกรรมการพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัดและคณะอนุกรรมการพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำกรุงเทพมหานคร ดำเนินการจัดประชุมเพื่อพิจารณาทบทวนความเหมาะสมของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัดและกรุงเทพมหานครให้แล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2565 ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุปแต่อย่างใด จากนั้นคณะกรรมการค่าจ้างจะพิจารณาข้อมูลทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2565

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า โดยปกติข้อเท็จจริงในการขึ้นค่าจ้างนั้น มีระบบไตรภาคีเป็นผู้พิจารณา ถึงความเหมาะสมตามหลักเกณฑ์สากลของไอแอลโอ ซึ่งเป็นผู้กำหนด ดำเนินการด้วยหลักเกณฑ์ที่มีเหตุมีผลสามารถตอบสังคมได้ ปัจจุบันค่าแรงขั้นต่ำของไทยอยู่ในระดับต้น ๆ ของอาเซียน รองจากสิงคโปร์ สูงกว่าเวียดนาม มาเลเซีย เมียนมา นักลงทุนหลายประเทศจึงเลือกที่จะย้ายฐานการผลิตเพื่อไปหาแหล่งค่าจ้างที่ถูกกว่า ผมในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเคยให้สัมภาษณ์และตอบกระทู้สดในสภาไปแล้วว่า การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นเรื่องของภาวะเงินเฟ้อกี่เปอร์เซ็นต์ บวกกับค่าครองชีพแต่ละจังหวัดนั้น ๆ ถ้าจะขึ้นทั้ง 40% 30% ผมเชื่อว่าไม่มีนักลงทุนเข้ามาลงทุนในประเทศไทย และค่าแรงคนงานของประเทศไทยส่วนมากพี่น้องคนไทยมีทักษะความสามารถได้ค่าแรงสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำอยู่แล้ว ค่าแรงขั้นต่ำที่เราใช้อยู่ในปัจจุบันส่วนมากกว่า 80% เป็นส่วนของคนต่างด้าว 3 สัญชาติที่เข้ามาทำงานเป็นกรรมกร

ถ้าเราจะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจาก 300 กว่าเป็น 400 กว่าเกือบ 40% ผมเชื่อว่าไม่มีบริษัทไหนอยู่รอดในสถานการณ์เช่นนี้ เพราะบริษัทต่างๆ รักษาการจ้างงานมา 2 ปี ขาดทุนจ่ายเงินให้ค่าจ้างแรงงาน เพื่อรักษาการจ้างงาน เมื่อเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวจะตัดทิ้ง 40% มันเป็นไปไม่ได้ ไม่มีเหตุผล การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำมีการปรับแน่นอน แต่จะต้องพิจารณาตามภาวะเงินเฟ้อกับค่าครองชีพแต่ละจังหวัดด้วย ขอให้ทุกคนรอฟังข่าวจากกระทรวงแรงงานเท่านั้น ส่วนข่าวที่ปรากฏออกมาตามสื่อโซเซียลนั้นมาจากกลุ่มเรียกร้องค่าแรง 

ซึ่งเป็นข่าวบิดเบือนไม่เป็นความจริง ผมได้เรียกกลุ่มที่เรียกร้องค่าแรงมาหารือแล้วและได้อธิบายเหตุผลไปทั้งหมดแล้วว่า นายจ้างเคยจ่ายค่าจ้างเดือนละ 1,000,000 บาท ขาดทุนมา 2 ปี พอเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวกลับต้องมาจ่ายค่าจ้างเพิ่มขึ้นเป็น 1.3 - 1.4 ล้านบาท

รู้ไหม? ชื่อเดิมของ 'มาม่า' คือ 'เพรซิเดนท์'

'ยำมาม่า, มาม่าผัด, ลาบมาม่า หรือแม้แต่การต้มมาม่า' นั้น คงเป็นเมนูติดใจของใครหลายคนมานานจากซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อ 'มาม่า'

แต่ทราบหรือไม่ว่าเดิมที 'มาม่า' นั้นชื่อว่า 'เพรซิเดนท์' ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับบริษัทไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ในปัจจุบันที่เป็นผู้ผลิต 'มาม่า'

แล้วชื่อ 'มาม่า' เกิดขึ้นมาได้อย่างไร? 

ย้อนไปเมื่อ ช่วงปี 2500 – 2510 ซึ่งเป็นยุคที่สังคมไทยมีความเป็นเมืองมากขึ้น รสนิยมและวิถีชีวิตด้านการรับประทานอาหารของคนไทยเริ่มเปลี่ยนไปมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น

โดยในช่วงเริ่มต้น 'มาม่า' เป็นสินค้าที่มีราคาใกล้เคียงกันกับอาหารหรือก๋วยเตี๋ยวในช่วงเวลานั้น

'สุริยะ' สั่ง 'ดีพร้อม' ปั้น CIV Leader รับวิถี Now Normal คิกออฟ 'บ้านปลายบาง' ต้นแบบชุมชนนำร่องการท่องเที่ยว

กระทรวงอุตสาหกรรม เดินหน้านโยบายขับเคลื่อนการยกระดับเศรษฐกิจฐานราก ภายหลังอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเริ่มฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง เตรียมพร้อมของวิสาหกิจชุมชนในการเร่งสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวในประเทศ พร้อมสั่งการกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือ ดีพร้อม พัฒนาต่อยอดผู้นำชุมชนให้เป็นผู้นำหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ หรือ CIV Leader นำร่อง 20 ชุมชน เพื่อรองรับวิถีชีวิตปัจจุบันที่สามารถอยู่ร่วมกับสภาพการเปลี่ยนจากโควิด-19 ได้อย่างเป็นปกติ (Now Normal) โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมพัฒนาชุมชนตามสภาพปัจจุบัน ซึ่งคำนึงถึงต้นทุนของชุมชน และศักยภาพของแรงงานที่เดินทางกลับภูมิลำเนา และการส่งเสริมพัฒนาสินค้าชุมชนตามพฤติกรรมลูกค้า พร้อมชู “ชุมชนท่องเที่ยวบ้านปลายบาง” ตัวอย่างชุมชนนำร่องการท่องเที่ยวที่มีการปรับตัวไว พลิกวิกฤตพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์พื้นถิ่น สร้างรายได้อย่างยั่งยืน โดยคาดว่าจะสามารถสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 300 ล้านบาท

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศถือได้ว่าเริ่มฟื้นตัวขึ้น จากปริมาณนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ และอัตราการเข้าพักในโรงแรมในเดือนมกราคมที่เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าตัวเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปีที่ผ่านมา เป็นภาพสะท้อนโอกาสทางธุรกิจที่ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้ามสำหรับหลายกิจการที่รอคอยให้เครื่องจักรการท่องเที่ยวกลับมาเดินเครื่องเต็มกำลังอีกครั้ง ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน เพราะถือเป็นฟันเฟืองชิ้นสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก จึงได้สั่งการกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ขยายผลการดำเนินงานโครงการหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Creative Industry Village : CIV) หรือ หมู่บ้าน CIV ที่ประสบความสำเร็จจากการดำเนินงานตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา สร้างรายได้มั่นคงให้กับ 250 ชุมชน ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ 

ดร.ณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า การขับเคลื่อนหมู่บ้าน CIV ในปีนี้ ดีพร้อมเน้นการดำเนินงานภายใต้นโยบาย “DIProm CARE: ดีพร้อม แคร์” ผ่านกระบวนการวิเคราะห์ปัญหาชุมชนที่จะลงลึกถึงความต้องการเฉพาะในแต่ละพื้นที่ พร้อมการส่งเสริมที่ตรงจุด ด้วยทีมบุคลลากรคุณภาพที่เชี่ยวชาญองค์ความรู้ในด้านการจัดการอุตสาหกรรมและการพัฒนาผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์ อีกทั้ง ได้ปรับรูปแบบเพื่อรองรับวิถีชีวิตปัจจุบันที่สามารถอยู่ร่วมกับสภาพการเปลี่ยนจากโควิด-19 ได้อย่างเป็นปกติ (Now Normal) ประกอบด้วย... 

>> Now Village หรือ การส่งเสริมพัฒนาชุมชนตามสภาพความเป็นปัจจุบัน คือ การสำรวจความพร้อมและผลิตภัณฑ์อัตลักษณ์ของชุมชน ซึ่งถือเป็นต้นทุนเดิมในการพัฒนา และการสำรวจต้นทุนที่เกิดขึ้นใหม่ คือ การเปลี่ยนแปลงของประชากรในชุมชน เพราะในช่วงการแพร่ระบาดที่ผ่านมามีแรงงานฝีมือจำนวนมากที่ตกงานและเดินทางกลับภูมิลำเนาที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชน หากสามารถใช้ศักยภาพของแรงงานเหล่านี้ในการพัฒนาสินค้าและบริการของชุมชน จะทำให้สร้างรายได้เพิ่มขึ้นและชุมชนเกิดความยั่งยืนในอนาคต 

>> Now Customer หรือ การส่งเสริมพัฒนาสินค้าชุมชนตามพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้า หรือนักท่องเที่ยวในปัจจุบันที่หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น และความต้องการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไปด้วยมาตรการการควบคุมโรค ที่เข้มงวดการเดินทางระหว่างประเทศ ทำให้การท่องเที่ยวภายในประเทศเพิ่มขึ้น และนักท่องเที่ยวบางส่วนงดการเดินทางท่องเที่ยว แต่ยังคงมีความต้องการซื้อสินค้าชุมชน หรือสินค้าที่เป็นอัตลักษณ์ท้องถิ่น การพัฒนาสินค้าและบริการในความปกติปัจจุบัน จึงต้องพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในกลุ่มนี้ 

'ศาลปกครองกลาง' มีคำสั่งงดบังคับคดีโฮปเวลล์ รอจนกว่าจะการพิจารณาใหม่เสร็จสิ้น

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงการดำเนินการคดีโฮปเวลล์ระหว่างกระทรวงคมนาคม ผู้ร้องที่ 1 และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ผู้ร้องที่ 2 กับบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด (ผู้คัดค้าน) ว่า เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 2565 ที่ผ่านมา ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งงดการบังคับคดีตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดคดีหมายเลขดำที่ อ.410-412/2557 คดีหมายเลขแดงที่ อ.221-223/2562 ไว้ในระหว่างพิจารณาคดีใหม่

ทั้งนี้ ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้รับคำขอให้รับพิจารณาคดีใหม่ และได้มีการรับพิจารณาคดีใหม่แล้วจึงเข้าเงื่อนไขการงดบังคับคดี ตามข้อ 131 วรรคหนึ่ง (1) แห่งระเบียบที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยการพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2543

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีค่าโฮปเวลล์นั้น สืบเนื่องเมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2565 ศาลปกครองกลางได้อ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุด โดยกลับคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นเป็นให้รับคำขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาใหม่ในคดีโฮปเวลล์ จากนั้น เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2565 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ทำหนังสือถึงศาลปกครองกลาง ซึ่งเป็นศาลชั้นต้นในคดีดังกล่าว ขอให้งดการบังคับคดี พร้อมทั้งแจ้งคำสั่งดังกล่าวให้สำนักงานบังคับคดีปกครองทราบด้วย

สำหรับคดีดังกล่าวนั้น ก่อนหน้านี้ ศาลปกครองสูงสุดพิพากษา กระทรวงคมนาคม และ รฟท.ต้องจ่ายค่าโง่โฮปเวลล์พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี รวม 25,711 ล้านบาท ภายใน 180 วัน ซึ่งเมื่อศาลฯ มีคำสั่งงดบังคับคดี จะส่งผลให้คำสั่งชดใช้ค่าเสียหายข้างต้น รวมดอกเบี้ยจะถูกชะลอออกไปก่อน

บอร์ดรัฐวิสาหกิจเคาะแผนพัฒนา 4 ปี

นางปานทิพย์ ศรีพิมล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นชอบการจัดทำแผนพัฒนารัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2566 - 2570 ซึ่งในแผนดังกล่าวจะมีนโยบายที่จะขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (BCG Model) และสนับสนุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย 

รวมทั้งการปรับรูปแบบธุรกิจ ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงและสามารถสนองต่อวิถีชีวิตถัดไป ภายหลังจากสถานการณ์โควิด-19 และการสร้างความมั่นคงในด้านการค้า การลงทุน การผลิต และการเกษตรของประเทศรองรับจากผลกระทบต่างๆ จากสถานการณ์ในต่างประเทศ นอกจากนี้ ให้สนับสนุน SME และมีการบูรณาการทำงานร่วมกันของรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานภาครัฐอื่น และเอกชนมากยิ่งขึ้น 

‘อลงกรณ์’ เผยขบวนรถไฟสาย ‘จีน-ลาว’ สุดเจ๋ง ขนสินค้าเกษตร 20 ตู้ ถึง ‘นครฉงชิ่ง’ ใช้เวลาแค่ 6 วัน

‘อลงกรณ์’ เผยขบวนรถไฟสาย ‘จีน-ลาว’ ขนสินค้าเกษตรของไทย 20 ตู้ถึงมหานครฉงชิ่งแล้ว ใช้เวลา 6 วัน เร่งดันผลไม้ขึ้นรถไฟให้ทันฤดูกาลผลิต ปี 2565

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ขบวนรถไฟขนส่งสินค้าเกษตรของไทยล็อตแรก 20 ตู้คอนเทนเนอร์ เมื่อวันที่ 27 มกราคม 65 ที่ผ่านมา โดยรถไฟสายจีน-ลาว จากสถานีรถไฟเวียงจันทน์ใต้ สู่ด่านรถไฟโมฮ่านของมณฑลยูนนาน ได้ขนส่งถึงมหานครฉงชิ่ง โดยใช้เวลารวมทั้งสิ้น 6 วัน ตั้งแต่เดินทางออกจากสถานีเวียงจันทน์ใต้ โดยใช้เวลาในสปป.ลาว 3 วัน และการเดินทางในจีนอีก 3 วัน โดยได้สรุปตารางเวลาที่ใช้ในแต่ละขั้นตอนจากไทยผ่านสปป.ลาว ข้ามพรมแดนจีนจนถึงภาคตะวันตกของจีน คือมหานครฉงชิ่ง เชื่อว่าจะสามารถลดเวลาในการขนส่งในอนาคตเหลือเพียง 4 วัน เมื่อมีการปรับตัวการทำงานของทุกฝ่าย เป้าหมายต่อไปคือการเร่งเปิดบริการอย่างเป็นระบบ การลดเวลา การขนส่งตลอดห่วงโซ่โลจิสติกส์เพื่อขยายการขนส่งทางรถไฟสายนี้

สำหรับสินค้าเกษตรที่สำคัญ ได้แก่ ข้าว ยางพารา ผักผลไม้ มันสำปะหลัง ปาล์ม กล้วยไม้ น้ำตาล และสินค้าอุตสาหกรรมอื่นๆ โดยเฉพาะผลไม้ เช่น ทุเรียน มังคุด เงาะ เป็นต้น โดยมีเป้าหมายให้สามารถขนส่งทางรถไฟให้ทันฤดูกาลผลิตปี 2565 ขณะนี้ ฝ่ายไทยและสปป.ลาว พร้อมแล้ว รอทางจีนเปิดทำการด่านตรวจพืช ณ สถานีรถไฟโมฮ่านภายใต้พิธีสารที่ได้ตกลงกันตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว ซึ่งได้ประสานขอความร่วมมือกับทางการจีนให้เร่งดำเนินการหลังเทศกาลตรุษจีนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว 

“นับเป็นขบวนสินค้าปฐมฤกษ์ของไทยที่สามารถเปิดบริการได้เป็นขบวนแรก และเป็นการเปิดศักราชใหม่ของนโยบายอีสานเกตเวย์ เชื่อมอีสานเชื่อมโลกด้วยเส้นทางรถไฟจีน-ลาว ตามนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะนโยบายโลจิสติกส์เกษตรของดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์โดยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน” นายอลงกรณ์ กล่าว

‘บิ๊กตู่’ ปลื้ม ‘Soft Power’ ไทยดังไกลในต่างแดน ยัน เดินหน้าผลักดันเป็นสินค้าหลักสู่ตลาดสากล

นายกฯ ยินดี “Soft Power” ไทย เป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ - ทีมไทยแลนด์ร่วมงานตลาดภาพยนตร์และโทรทัศน์นานาชาติฮ่องกง ประจำปี 2565 

เมื่อวันที่ 15 มี.ค. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีต่อกระแสความนิยมวัฒนธรรมไทยในต่างประเทศที่โดดเด่นมากขึ้นแม้อยู่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทั้งจากรายการโทรทัศน์ งานดนตรี เทศกาลอาหาร นิทรรศการแสดงสินค้าและบริการ รวมถึงสื่อออนไลน์ต่างๆ อาทิ ภาพยนตร์ ละคร ซีรีส์ เพลง และโฆษณา ซึ่งได้รับความสนใจและผลตอบรับจากผู้ชมชาวต่างชาติอย่างล้นหลามโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียซึ่งเป็นตลาดส่งออกความบันเทิงหลักของไทย ทำให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์เป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญที่รัฐบาลเร่งผลักดันเป็นสินค้าหลักในการส่งออกสู่ตลาดสากล

นายธนกร กล่าวว่า จากวิสัยทัศน์ของนายกฯ ที่สนับสนุนการใช้ “Soft Power” นำเสนออัตลักษณ์ไทยสู่สายตาชาวโลก ผสมผสานนโยบายพัฒนาขีดความสามารถด้านการแข่งขันและแนวคิดเศรษฐกิจใหม่ BCG (Bio-Circular-Green) เป็นโจทย์ให้กระทรวงวัฒนธรรมสานต่อแนวทางเพื่อพัฒนาความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ โดยได้จัดงานแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมชุมชนไทย ‘CCPOT (Community Cultural Product of Thailand) GRAND EXPOSITION’ ขึ้นระหว่างวันที่ 16-20 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ซึ่งประสบความสำเร็จในการขยายตลาดผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมไทยทั้งในและต่างประเทศ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจแล้วกว่า 600 ล้านบาท 

SME D Bank ผนึก บสย. จับคู่ กู้พร้อมค้ำ วงเงิน 2 พันล้านบาท เติมทุนเอสเอ็มอีธุรกิจท่องเที่ยว

บสย. - SME D Bank ผนึกความร่วมมือ จับคู่ กู้พร้อมค้ำ “สินเชื่อ SMEs Re-Start” วงเงิน 2,000  ล้านบาท เร่งเติมทุนเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการเอสเอ็มอีธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง

ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เดินหน้าเติมทุนสนับสนุนเอสเอ็มอีท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง (Supply Chain) ผ่านมาตรการทางการเงิน “สินเชื่อ SMEs Re-Start” วงเงินรวม 2,000 ล้านบาท จับมือ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ขยายโอกาสเข้าถึงแหล่งทุน สามารถกู้พร้อมค้ำ ช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว และเกี่ยวเนื่อง 

เช่น โรงแรม ร้านอาหาร บริษัทนำเที่ยว ร้านขายของที่ระลึก ฯลฯ รวมถึงเอสเอ็มอีทุกประเภทที่เป็นคู่ค้ากับกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว เข้าถึงแหล่งเงินทุนนำไปเสริมสภาพคล่อง ลงทุน ขยาย ปรับปรุงกิจการ หรือสำรองเป็นค่าใช้จ่าย ช่วยยกระดับกิจการ รองรับกำลังซื้อนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติที่จะกลับมา สนับสนุนให้ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฟื้นตัวตามนโยบายภาครัฐ  

'บิ๊กตู่' รับทราบ 'Fitch' คาดการณ์ ผลประกอบการไทยฟื้นตัวต่อเนื่องตลอดปี 65 

เมื่อวันที่ 14 มี.ค. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบผลการรายงานผ่านงานสัมมนาแนวโน้มธุรกิจไทย ปี 2565 (2022 Thailand Corporate Credit Outlook) และยินดีผลการคาดการณ์ของบริษัท Fitch Ratings (ประเทศไทย) จำกัด ว่าผลประกอบการของบริษัทในประเทศไทยจะฟื้นตัวต่อเนื่องในปี 2565 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และการเริ่มเปิดประเทศอย่างค่อยเป็นค่อยไป แม้บางภาคธุรกิจจะยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่อันดับเครดิตของบริษัทไทยส่วนใหญ่ยังมีเสถียรภาพ  บริษัทในประเทศไทยที่ Fitch จัดอันดับเครดิตส่วนใหญ่ มีการบริหารจัดการกระแสเงินสดอย่างรอบคอบ ซึ่งในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีความระมัดระวังในการใช้จ่ายและการลงทุนในด้านต่างๆ มากขึ้น 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top