Thursday, 9 May 2024
Hard News Team

'อาร์ต พศุตม์' ยกความหมาย 'พอเพียง' ในมุมตน จนโดนใจชาวเน็ต ไม่ฟุ่มเฟือยจนเกินตัว ไม่อยากได้อยากมีจนเกินกำลัง ไม่คดโกงใคร

(8 พ.ค.67) มุมานะขยันทำมาหากินกตัญญูเลี้ยงพ่อแม่ พระเอกหนุ่ม คุณชายหมูกรอบ ‘อาร์ต พศุตม์’ ที่ตอนนี้กำลังรุ่งกิจการหมูกรอบขายดิบขายดี ออกบูธไม่ได้หยุด

ล่าสุดท่ามกลางกระแสดรามาร้อนแรงประเด็นทอล์กปมพอเพียงของ ‘โน้ส อุดม’ เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ นา ๆ ตอนนี้ หนุ่มอาร์ตก็ได้โพสต์คลิป พร้อมแคปชันว่า…

“ออกบูธ แฟชั่น ไอซ์แลนด์ นะคับ แบบนี้ เค้าเรียก ‘พอเพียง’ จ๊ะ ไม่จำเป็นต้องทำตัวจน ไม่จำเป็นต้องทำไร่ทำสวน ไม่จำเป็นต้องทำตัวให้ลำบาก

‘พอเพียง’ คือ รูัจักประมาณตนเอง พอใจในสิ่งที่มี ไม่ใช่ฟุ่มเฟือยจนเกินตัวเอง ไม่คดโกงใคร ไม่ได้อยากได้อยากมีจนเกินกำลัง”

เป็นคลิปขณะเจ้าตัวให้สัมภาษณ์ เอาจริง ๆ ชาตินี้อยู่สบาย ๆ แล้ว ไม่มีทางที่จะลงทุน 10 ล้าน เพื่อเสี่ยงวัดดวงเอาเงิน 100 ล้าน ไม่เอาเลย แต่ถ้าล้านหนึ่งจะมีเพิ่มมาอีก 5-6 ล้าน โอเค

ขณะที่มีคอมเมนต์ต่างเข้ามาสนับสนุนความคิดเห็น อาร์ต รัว ๆ อาทิ เห็นด้วยค่ะ , ใช่ที่สุดค่ะ , นี่แหละพอเพียง ไม่ใช่พูดพอเพียงและลามไปเรื่องทำเกษตร , ถูกต้องที่สุดค่ะ , ทัศนคติดีรักคุณอาร์ตครับ , ถูกต้องทุกคำ เป็นต้น

ทัพเรือภาคที่ 1 ร่วมกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567

วันที่ 7 พ.ค.67 เวลา 10.00 น. ทัพเรือภาคที่ 1 โดยมี ว่าที่ น.อ.ชิตพงศ์  ช้างงาม ช่วยปฏิบัติราชการทัพเรือภาคที่ 1 เป็นผู้แทน ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 พร้อมด้วยกำลังพลจิตอาสา จำนวน 10 นาย เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาพัฒนากับศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานในพิธี กิจกรรมประกอบด้วยการปลูกป่าชายเลน เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และกิจกรรมทำความสะอาดบริเวณชายหาด ณ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย ม.2 ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จว.ชลบุรี 
นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี 0909535645

#ทัพเรือภาคที่1
#จิตอาสาพระราชทาน
#เทิดทูนสถาบัน_ยึดมั่นระเบียบวินัย_ประชาชนภูมิใจ_ทะเลไทยมั่นคง
#Fit_for_the_Future
 

พิจิตร-มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ พร้อมด้วย หน่วยงานกระทรวงแรงงาน จ.พิจิตร กลุ่มไทยสมายล์ เติมกำลังใจ ให้ผู้พิการและผู้ยากไร้ 

​วันที่ 7 พฤษภาคม 2567 นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ ประธานมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์  ทีมงานมวลชนสัมพันธ์ (CSR) กลุ่มไทยสมายล์ กรุ๊ป  ลงพื้นที่มอบรถเข็นวีลแชร์ และอุปกรณ์เพื่อช่วยเหลือแก่ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ จำนวน 4 ราย และอีก 2 ราย ณ บ้านของผู้แจ้งความประสงค์ ที่อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร   โดย มี นายสมชาติ สุภารี ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน และหัวหน้าหน่วยราชการในสังกัดกระทรวงแรงงาน จ.พิจิตร ให้การต้อนรับ 

​นางเธียรรัตน์ กล่าวว่า ในนามมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ นำอุปกรณ์เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้พิการ 
และผู้ยากไร้ ประกอบไปด้วย รถเข็นวีลแชร์ จำนวน 4 คัน และไม้เท้าพยุงสามขา จำนวน 2 อัน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก กลุ่มไทยสมายล์ (รถและเรือโดยสารสาธารณะพลังงานไฟฟ้า) รวมถึงยังได้รับการสนับสนุนการขนส่งสิ่งของมายัง จ.พิจิตร โดย บริษัท สมบัติทัวร์ จำกัด มามอบให้กับ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ ตามที่ได้รับการประสานจาก หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดพิจิตร ทั้งนี้ได้ส่งมอบรถเข็นวีลแชร์ที่ อาคารสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงาน จังหวัดพิจิตร จำนวน 4 ราย ได้แก่ นางศิริพร บุญยัง (อายุ 39 ปี) นายบรรเจิด บุญเลิศ (อายุ 69 ปี) นางบุญรอด แซ่เจียม (อายุ 81 ปี) และนางถนอมศิลป์ สว่างวงษ์ภักดิ์ (อายุ 82 ปี) นอกจากนี้ยังได้ไปมอบไม้เท้าพยุงสามขา จำนวน 2 ราย ที่บ้านของผู้แจ้งความประสงค์ ณ บ้านของผู้แจ้งความประสงค์ อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เป็นจำนวน 2 คัน ได้แก่ นายดำ คามวาศรี (อายุ 78 ปี) และนางเกศนีย์ แซ่เจียม (อาย 64 ปี) ซึ่งทั้ง 6 ราย เป็นกลุ่มเปราะบาง มีฐานะยากจน และประสบปัญหาความเดือดร้อนทางสังคม การที่มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ได้นำอุปกรณ์เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ มามอบในครั้งนี้ เพื่อต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อน มอบกำลังใจ ให้แก่ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ ซึ่งถือเป็นกิจกรรมหนึ่งซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของมูลนิธิในด้านการสร้างสาธารณประโยชน์ต่อชุมชน สังคม และที่สำคัญจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้ ซึ่งมีความยากลำบากในการดำเนินชีวิต ต้องการอุปกรณ์ช่วยเหลือดังกล่าวมากกว่าบุคคลทั่วไป

5 เดือนแรก ต่างชาติแห่เที่ยวไทย ดันยอดทะลุ 12 ล้านคน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายประมาณ 605,201 ล้านบาท

(7 พ.ค. 67) รายงานข่าวจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยผลการประเมินเบื้องต้นพบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 5 พ.ค. 2567 นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาแตะระดับ 12 ล้านคน ในสัปดาห์ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาลดลงจากการชะลอตัวของกลุ่มนักท่องเที่ยวตลาดระยะใกล้ (Short haul) และตลาดระยะไกล (Long haul) จากการเริ่มเข้าสู่ช่วง Low season โดยเฉพาะภูมิภาคยุโรป ที่ส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียขยับลงมาเป็นกลุ่มที่เข้ามาเป็นอันดับที่ 5 จากเดิมในอันดับที่ 4 ส่งผลให้ในภาพรวมสัปดาห์นี้ไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 639,822 คน ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า 12,419 คน หรือ 1.90% คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 91,403 คน

โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ จีน 161,678 คน มาเลเซีย 84,127 คน อินเดีย 46,561 คน เกาหลีใต้ 31,738 คน และรัสเซีย 27,228 คน โดยนักท่องเที่ยวจีน เกาหลีใต้ อินเดีย และมาเลเซีย มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 9.41% 8.41%  5.96% และ 0.84% ในขณะที่นักท่องเที่ยวรัสเซีย มีการปรับตัวลดลง 9.15%

สำหรับในสัปดาห์ถัดไป คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาลดลงจากการเริ่มเข้าสู่ช่วง Low season แต่ยังคงมีปัจจัยส่งเสริมการเดินทาง ได้แก่ การลงนามยกเว้นวีซ่าระหว่างไทย-จีน และการขยายสิทธิการยกเว้นตรวจลงตรา ที่เดินทางไม่เกิน 60 วัน ให้กับนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ที่มีผลช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยว เพิ่มการอำนวยความสะดวกในการเดินทาง และกระตุ้นให้สายการบิน เพิ่มจำนวนเที่ยวบิน

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมการท่องเที่ยวในปีนี้ โดยข้อมูล ณ วันที่ 6 พ.ค. 67 พบว่า ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 5 พ.ค. 2567 ที่ผ่านมาทั้งสิ้น 12,588,825 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 605,201 ล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน 2,461,620 คน มาเลเซีย 1,634,388 คนรัสเซีย 784,550 คนเกาหลีใต้ 704,427 คน และอินเดีย 677,783 คน

'ญี่ปุ่น' สร้างอุปกรณ์ 'รับ-ส่ง' สัญญาณ 6G ได้เป็นครั้งแรกของโลก เร็วกว่า 5G ถึง 20 เท่า กุญแจสำคัญพายานพาหนะไร้คนขับรุดหน้า

(7 พ.ค. 67) TNN Tech รายงานว่า โดโคโมะ (DOCOMO) เอ็นทีที (NTT Corporation) เน็ก (NEC Corporation) และฟูจิสึ (Fujitsu) ร่วมกันพัฒนาอุปกรณ์ที่สามารถรับและส่งข้อมูลในย่านคลื่นความถี่ 6 กิกะเฮิร์ตซ (GHz) ซึ่งเป็นย่านคลื่นความถี่ที่เชื่อว่าจะถูกนำไปใช้งานกับการสื่อสารยุค 6G ได้เป็นครั้งแรกของโลก โดยมีความเร็วในการส่งสัญญาณที่ 100 กิกะบิตต่อวินาที (Gbps) หรือมากกว่า 5G ถึง 20 เท่า

สำหรับการทดลองส่งข้อมูลด้วยอุปกรณ์ 6G ครั้งแรกของโลก ได้เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปี 2021 โดยออกแบบให้รับและส่งสัญญาณที่ย่านความถี่ 6 GHz ซึ่งมีอีกชื่อว่า ซับเทระเฮิร์ตซ (Sub-terahertz) โดยอุปกรณ์ได้ส่งสัญญาณในช่วงความถี่ (Band) 100 - 300 GHz ต่างจาก 5G ที่มี Band ในการส่งสัญญาณที่ 40 GHz โดยสามารถส่งข้อมูลได้ที่ความเร็ว 100 Gbps รองรับระยะการส่งแบบไร้สายที่ 100 เมตร

การพัฒนาในครั้งนี้ เป็นการนำความสามารถในการวิเคราะห์การตั้งค่าสัญญาณไร้สาย (Wireless system configuration) ที่ DOCOMO เชี่ยวชาญ ร่วมกับการพัฒนาตัวอุปกรณ์ให้รองรับการส่งสัญญาณได้จริงโดย NTT 

ในขณะที่ NEC ได้เข้ามาร่วมวิจัยและพัฒนาเสาสัญญาณแบบใหม่แบบเรียงที่เรียกว่า เอพีเอเอ (APAA: Active Phased Array Antenna) ส่วน Fujitsu มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาชิปเพื่อขยายกำลังคลื่นในการรับและส่งสัญญาณในครั้งนี้

สำหรับอนาคตของ 6G จากฝั่งญี่ปุ่น จากการทดลองนี้ ยังทำให้ Fujitsu มีชิปที่สามารถขยายกำลังสัญญาณ 6G ได้มีประสิทธิภาพมากที่สุดในโลกในปัจจุบันด้วย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาระยะการส่งสัญญาณ 6G ให้ไกลยิ่งขึ้นในอนาคต ในขณะเดียวกัน 6G ยังเป็นเทคโนโลยีที่เชื่อว่าเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาระบบยานพาหนะไร้คนขับ (Autonomous vehicle) อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม การพัฒนาระบบโครงข่ายสัญญาณ 6G จะมีความแตกต่างจากการเปลี่ยนผ่านสมัย 4G มายัง 5G เนื่องจากสัญญาณในระดับ Sub-terahertz จะมีกำลังและรูปแบบคลื่นที่ต่างจาก 5G ส่งผลให้ผู้ให้บริการโครงข่าย 6G ในอนาคตจำเป็นต้องลงทุนอุปกรณ์ในระบบใหม่ทั้งหมด ซึ่ง TNN Tech มองว่านี่อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การพัฒนาโครงข่าย 6G ยังต้องใช้เวลาอีกสักระยะ

‘ไรเดอร์’ เล่านาทีวัดใจ ส่งออเดอร์ให้ลูกค้าหน้าเรือนจำ ก่อนถูกสั่งให้วางไว้-เรียกชื่อ รับ!! เครียด แต่เป็นหน้าที่

(7 พ.ค.67) จากกรณีผู้ใช้ TikTok แม็ก มณฑล นักร้องส้นตีณ แชร์ไลฟ์ในติ๊กต็อกว่า 1 วันพันกว่าเรื่อง ได้รับออเดอร์มาให้มาส่งที่เรือนจำ เราคิดว่าเมียผู้คุมหรือผู้คุมสั่งแต่ไม่ใช่ เขาเขียนมาว่าให้เอาข้าวมันไก่ไปวางไว้ข้างกำแพงแล้วก็ให้เรียกชื่อ…..มากินข้าว โอ๊ยทำไมมันโชคดีตั้งแต่เช้าออเดอร์แรกด้วยครับ

บรรยากาศเรือนจำภูเก็ตสาขาในเมืองร้างไปแล้ว โคตรแจ็คพอตเลยจริง ๆ นี่ไงบรรยากาศคือร้างไปแล้ว ไม่มีนักโทษแล้ว เขาย้ายไปเรือนจำใหม่แล้ว ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องเป็นผม แต่เป็นหน้าที่ผมเข้าใจเครียดเลยไม่รู้จะทำอย่างไรสู้กันต่อไปชีวิต พร้อมข้อความว่า เจอออเดอร์การกุศล ให้วางข้างกำแพงแล้วเรียกชื่อ

หลังจากแชร์ออกไปมีคนเข้ามาวิจารณ์เป็นจำนวนมาก เช่น ป้ายทะเบียนกับเลขออเดอร์อะไร, แกะให้เค้าม้าย เปิดห่อข้าว แล้วเรียกค่ะ, ตอนเด็ก ๆ ตาเป็นผู้คุมที่เรือนจำภูเก็ต ไปทุกปิดเทอม เพิ่งรู้ว่ามันร้างแล้วเพราะกลับมาอยู่สตูล เป็นต้น

ทั้งนี้ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ไรเดอร์ ถูกเรียกให้ไปส่งที่เรือนจำเก่า ตั้งอยู่ที่ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต

‘กัมพูชา’ ลั่น!! หวังจับมือ ‘หัวเว่ย’ บริษัทยักษ์ใหญ่ของจีน เพื่อกระตุ้นโครงการด้าน ‘การท่องเที่ยวดิจิทัล’ ในประเทศ

เมื่อวานนี้ (6 พ.ค.67) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สก โสเกน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวกัมพูชา เผยความคาดหวังว่ากัมพูชาจะได้ดำเนินความร่วมมือกับหัวเว่ย เทคโนโลยี (Huawei Technologies) ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมของจีน เพื่อส่งเสริมโครงการริเริ่มด้านการท่องเที่ยวดิจิทัลของกัมพูชา

โสเกนพบปะกับเถากวงเย่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของหัวเว่ย เทคโนโลยี (กัมพูชา) จำกัด และกล่าวถึงวิสัยทัศน์ของเขาในการเสริมสร้างการทำงานระหว่างกระทรวงฯ กับหัวเว่ย โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาโครงการริเริ่มการท่องเที่ยวดิจิทัล

การท่องเที่ยวเป็น 1 ใน 4 ภาคส่วนสำคัญที่สนับสนุนเศรษฐกิจของกัมพูชา โดยรายงานล่าสุดจากกระทรวงฯ เปิดเผยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.58 ล้านคนในไตรมาสแรก (มกราคม-มีนาคม) ของปี 2024 เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.5 จาก 1.29 ล้านคนในช่วงเดียวกันของปี 2023

ทั้งนี้ กัมพูชามีแหล่งมรดกโลก 4 แห่ง ได้แก่ อุทยานโบราณคดีอังกอร์ หรือนครวัดในจังหวัดเสียมราฐ กลุ่มปราสาทสมบูรณ์ไพรคุก ในจังหวัดกำปงธม รวมทั้งปราสาทพระวิหารและโบราณสถานเกาะแกร์ ในจังหวัดพระวิหาร และมีแนวชายหาดยาวราว 450 กิโลเมตร พาดผ่าน 4 จังหวัดทางตะวันตกเฉียงใต้ ได้แก่ สีหนุวิลล์ กัมปอต แกบ และเกาะกง

‘แอฟริกาใต้’ ตึกก่อสร้างถล่ม ทำคนงานดับแล้ว 4 ศพ ซ้ำ!! ติดใต้ซากกว่า 50 ชีวิต จนท.เร่งดำเนินการช่วยเหลือ

(7 พ.ค. 67) เอเอฟพีรายงานว่า ทีมกู้ภัยยังค้นหาผู้รอดชีวิตในเหตุอาคาร 5 ชั้นที่อยู่ระหว่างก่อสร้างพังถล่มลงมาทำให้คนงานเสียชีวิต 4 ราย และอีก 51 คนยังติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังที่เมืองจอร์จ ห่างจากเมืองเคปทาวน์ไปทางตะวันออกราว 450 กิโลเมตรในประเทศแอฟริกาใต้

โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวันจันทร์ที่ 6 พ.ค.ตามเวลาท้องถิ่น ขณะคนงานก่อสร้างอยู่ในพื้นที่ 75 คน ขณะนี้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือขึ้นมาได้ 24 คน ในจำนวนนี้มีบาดเจ็บสาหัสด้วย ทีมกู้ภัย 3 ทีมกำลังเร่งช่วยคนติดใต้ซาก โดยกระจายงานกันใน 3 พื้นที่ภายในไซต์ก่อสร้างอาคาร 5 ชั้นรวมถึงโรงจอดรถชั้นใต้ดินถล่มลงมา แต่ยังไม่ทราบสาเหตุ

นายมาริโอ เฟอร์เรรา โฆษกมูลนิธิ Gift of the Givers ซึ่งเข้ามาช่วยเหลือในการกู้ภัยระบุว่า ทีมกู้ภัยสามารถติดต่อกับคนที่อยู่ใต้ซากจำนวนหนึ่งได้แล้ว

ภาพไซต์ก่อสร้างพังราบเป็นหน้ากลอง หลังคาที่พังลงมากองอยู่บนสุดของซากหักพัง ทีมกู้ภัยทำงานทั้งคืนโดยฉายแสงไฟสว่างจ้าสาดไปทั่วไซต์ก่อสร้างที่กันไม่ให้คนไม่เกี่ยวข้องเข้ามา อีกทั้งทีมงานใช้เครื่องขุดและสุนัขดมกลิ่นในการกู้ภัยด้วย

“ฉันเห็นชายคนหนึ่งกำลังทำงาน และจากนั้น ‘บูม’ เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ฉันเห็นทั้งตึกพังถล่มลงมา…จิตใจฉันชอกช้ำด้วย” น.ส.เทเรซา เจอี สมาชิกสภาท้องถิ่นกล่าว

‘อ.เฉลิมชัย’ ตะโกนดังๆ จากจอร์เจียถึง ‘โน้ส อุดม’ อย่าดูหมิ่น ‘รุ่นพี่-ครูอาจารย์’ ที่ถากถางทางให้เดิน

(7 พ.ค. 67) เฟซบุ๊กของ ‘นรินทร ทามาส’ ซึ่งเป็นลูกศิษย์คนสนิทของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงราย ปัจจุบันได้ประกาศถอนตัวออกจากกิจกรรมทางสังคมทั้งหมดและหันไปขับขี่รถจักรยานยนต์ท่องเที่ยว ได้เผยแพร่คลิปที่มีความยาวประมาณ 1.56 วินาที พร้อมข้อความว่า…

"ท่านอาจารย์ฝากถึง พี่โน้สอุดม" 

โดยในคลิปอาจารย์เฉลิมชัยบอกว่าปัจจุบันตนไปท่องเที่ยวที่ประเทศจอร์เจีย ในทวีปยุโรป และอยากบอกถึงโน้ส อุดม ว่าตนได้หิวแสงตามที่โน้ส อุดม พูดแต่อย่างใด รวมทั้งโน้ส อุดม ยังพูดพาดพิงไปถึงอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงรายที่ล่วงลับไปแล้ว ขณะที่ตนก็เป็นศิลปินแห่งชาติจึงขอบอกว่าจะพูดสิ่งใดก็ได้แต่อย่าเอื้ออ้างถึงพวกตน

"มึงอย่าบอกว่าเด็กเก่งกว่ากู กูยอมรับว่าเด็กมันเก่งกว่ากู มันหาเงินได้ 100 ล้านได้ภายในวันสองวัน มันก็เก่ง ก็ดีแล้วไง เหมือนกูมึงรู้ไหมสมัยกูเป็นเด็ก กูหาเงินง่ายกว่าทุกคน กูดัง พี่หวันก็เหมือนกัน มึงเข้าใจไหม ทางเดินทุกวันนี้กูได้ดิบได้ดีเพราะพี่หวัน เพราะรุ่นเก่ารุ่นแก่ ครูบาอาจารย์ รุ่นพี่กูทุกคนในวงการศิลปะ ในวงการถากถางหญ้ามาให้กู กูถึงได้มีทุกวันนี้" 

อาจารย์เฉลิมชัย กล่าวและฝากถึงโน้ส อุดม ว่า “ให้ไปถามคนรุ่นใหม่ที่เติบโตกันขึ้นมาแล้วประสบความสำเร็จว่าหากไม่มีพวกตนถากถางเส้นทางให้จะหาเงินได้วันละ 200 ล้านหรือไม่ เด็กเก่งมีมากเท่าไหร่บ้านเมืองเราก็เจริญเท่านั้น ตนจึงขอให้เข้าใจและอย่าบูลลี่คนเก่งที่เป็นศิลปินแห่งชาติ จะพูดเรื่องใดก็ได้แต่อย่าพูดถึงศิลปินแห่งชาติ”

"มึงดูถูกพวกกูไอ้ห่...กูถากถางหญ้าให้มึง กูไม่เคยดูถูกรุ่นพี่กูทั้งหมด ครูบาอาจารย์รุ่นเก่า กูเคารพเขาทั้งหมดเพราะเขาถากถางให้กู มึงเข้าใจไหม กูเดินตามเขา พูดเห..ปากหมาเรื่อยมึง ไอ่สั..ไอ้น้องส้นตี.." อาจาย์เฉลิมชัยพูดถึงโน้ส อุดม ส่งท้าย

นราธิวาส-แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุคนร้ายรอบวางระเบิด กลางเมือง จ.นราธิวาส บริเวณรินเขื่อนท่าพระยาสาย

พร้อมเน้นย้ำเจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบครอบคลุมพื้นที่  และกำชับให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการดูแลเรื่องสิทธิต่างๆแก่ผู้เสียหาย โดยด่วน จากเหตุการณ์คนร้ายได้วางระเบิดแสวงเครื่อง ซึ่งติดตั้งในรถจักรยานยนต์ และจอดไว้บริเวณหน้าเขื่อนท่าพระยาสาย ถนนภูผาภักดี ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส เมื่อคืนของวันที่ 6 พฤษภาคม 2567 เวลา 21.30 น. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเวลาที่พี่น้องประชาชนใช้พื้นที่ดังกล่าวพาบุตรหลานมาพักผ่อน และออกกำลังกาย ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 10 ราย เจ้าหน้าที่ อส. 2 ราย ประชาชนเพศหญิง 3 ราย, ประชาชนเพศชาย 3 ราย และประชาชนเพศหญิง สัญชาติมาเลเซีย 2 ราย

ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบและควบคุมพื้นที่ รวมทั้งได้ทำการปิดกั้นการจราจรโดยประสานชุดหน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด เคลียร์พื้นที่ พร้อมกับชุดพิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อขยายผลติดตามต่อคนร้านมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว ล่าสุดเจ้าหน้าที่ยังคงปิดกั้นการจราจรไม่ให้พี่น้องประชาชนใช้เส้นทางในการสัญจร เพื่อความปลอดภัย ซึ่งพื้นที่โดยรอบยังคงมีร้านค้าของพี่น้องประชาชนที่เปิดให้บริการ ยังคงเปิดทิ้งไว้ไม่มีการเก็บร้านเพราะตกใจจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้

ขณะที่ในวันนี้ 7 พฤษภาคม 2567 เวลา 10.30 น. ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วย พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9  พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส  นาวาเอกสันติ  เกตุศรีพงศ์ษา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ได้ให้การต้อนรับ พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4  ได้ลงตรวจสอบพื้นที่จุดเกิดเหตุ ณ  บริเวณริมเขื่อนท่าพระยาสาย ถนนภูผาภักดี ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส

พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4  ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยกล่าวว่า “จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ แม่ทัพภาคที่ 4, ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส, ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส และส่วนที่เกี่ยวข้องได้พูดคุยและประเมินต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว โดยได้เน้นย้ำส่วนที่เกี่ยวข้องทุกส่วนให้เพิ่มการดูแล และคุมเข้มในพื้นที่ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาเราได้เน้นย้ำเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยช่วงนี้จังหวัดนราธิวาสได้มีการจัดงานประจำปี ทางเจ้าหน้าที่เลยเน้นหนักและมีการคุมเข้มในส่วนของสถานที่จัดงาน ซึ่งมีพี่น้องประชาชนเดินทางมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก อาจทำให้เกิดช่องว่างของการก่อเหตุและเกิดเหตุขึ้นครั้งนี้ หลังจากนี้คงต้องกลับไปวิเคราะห์สถานการณ์ และคุมเข้มให้มากกว่าเดิม จุดไหนที่มีช่องว่างให้ปิดช่องว่างในทุกจุด

อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ไปต้องขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน คงต้องมีการตรวจตราเรื่องยานพาหนะอย่างเข้มงวดมากกว่าเดิม อาจมีผลกระทบเรื่องความล่าช้าในการเดินทางบ้าง แต่อยากขอความร่วมมือให้พี่น้องประชาชนเข้าใจต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วย” นอกจากนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ยังได้กำชับให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการดูแลเรื่องสิทธิต่างๆ และการรักษาเป็นการด่วน ตลอดจนสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพื้นที่ และตั้งจุดตรวจ ด่านตรวจทั้งเส้นทางหลักและเส้นทางรอง ที่คาดว่าคนร้ายจะใช้ในการหลบหนี พร้อมตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในทุกจุด โดยประสานการทำงานร่วมกับผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น เพื่อติดตามคนร้ายให้ได้โดยเร็ว สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน

ทั้งนี้ ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน หากพบเห็นเบาะแสของกลุ่มคนร้ายสามารถแจ้งได้ที่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงประจำพื้นที่ หรือหมายเลขสายด่วนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า หมายเลข 1341 หรือ หมายเลขโทรศัพท์สายตรง แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 หมายเลข 061-1732999 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยทุกเบาะแสที่แจ้งเข้ามาจะถูกปิดเป็นความลับ

ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร / อัสมา บินมะนุ จ.นราธิวาส 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top