Wednesday, 7 May 2025
TheStatesTimes

ผู้ช่วย ผบ.ตร.ลงพื้นที่ตรวจสังเกตการณ์สถานที่เลือก สว.ระดับอำเภอ 3 จุด พบการปฏิบัติหน้าที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เตรียมประเมินการเลือก สว.ทั่วประเทศ เพื่อเตรียมพร้อมดูแลการเลือก สว.ระดับจังหวัด ต่อไป 

วันนี้ (9 มิถุนายน 2567) เวลา 09.00 น. พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ตรวจสังเกตการณ์การรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยของหน่วยเลือกสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. ระดับอำเภอ ในสถานที่เลือก สว. พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งในวันนี้เป็นวันเลือก สว. ระดับอำเภอ โดยดำเนินการพร้อมกันทั่วประเทศ

พล.ต.ท.กรไชยฯ ลงพื้นที่สถานที่เลือก สว. อำเภอเมืองนนทบุรี ณ อาคารสำนักงานเทศบาลนนทบุรี ศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี ชั้น 5 ซึ่งหน่วยนี้มีผู้สมัครรับเลือก สว.จำนวนมาก ใน จ.นนทบุรี มีผู้สมัครรับเลือก 608 คน  จากนั้นเดินทางไปยังสถานที่เลือก สว. อำเภอธัญบุรี จ.ปทุมธานี ณ หอประชุมอาคาร 100 ปี เมืองธัญบุรี เทศบาลนครรังสิต ถ.รังสิต - นครนายก (คลอง 2) ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นหน่วยเลือกในปริมณฑลที่มีผู้สมัครจำนวนมากเช่นกัน จุดสุดท้ายได้ไปตรวจเยี่ยมที่สถานที่เลือก สว. เขตบางกะปิ ณ บริเวณโดม โรงเรียนบ้านบางกะปิ เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นอีกหน่วยที่มีผู้สมัครจำนวนมาก

พล.ต.ท.กรไชยฯ เปิดเผยว่า ทั้ง 3 สถานที่จัดการเลือก สว. ที่ลงไปตรวจสอบสังเกตการณ์เป็นหน่วยที่มีผู้สมัครจำนวนมาก พบว่าการดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สำหรับภาพรวมการเลือก สว.ระดับอำเภอ ทั้งประเทศ มีจำนวน 928 หน่วย มองว่าไม่น่ามีปัญหา เนื่องจากไม่มีประชาชนจำนวนมากเข้าใช้สิทธิ์เลือกตั้งเหมือนกับการเลือกตั้งทั่วไป มีการกั้นพื้นที่และห้ามนำอุปกรณ์สื่อสารเข้าไปในพื้นที่จัดการเลือก สว.อย่างเข้มงวด  โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำทุกสถานที่จัดการเลือก สว.ระดับอำเภอ ทั่วประเทศ ซึ่งใช้กำลังตำรวจทั้งหมดกว่า 17,000 นาย ในภารกิจรักษาความปลอดภัย ความสงบเรียบร้อย และการเคลื่อนย้ายบัตร จากนี้หลังเสร็จสิ้นการเลือก สว.ระดับอำเภอ ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ จะเป็นภารกิจการส่งบัตรเลือก สว. ระดับอำเภอ ไปยังสถานที่เก็บบัตรที่ กกต.กำหนด โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมดูแลความปลอดภัยการขนส่งหีบบัตรตลอดขั้นตอน 

นอกจากนี้ ศูนย์อำนวยการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะตรวจสอบเรื่องการข่าวอย่างต่อเนื่อง และจะรับฟังรายงานผลจากทั่วประเทศ เพื่อนำมาประเมินและปรับแผนในการเลือก สว.ระดับจังหวัดและระดับประเทศต่อไป เน้นย้ำว่ามีการจับตาเรื่องการทุจริตกฎหมายเลือกตั้งอย่างเข้มงวด มีการจัดเตรียมพนักงานสอบสวน ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายที่ กกต.จัดไว้รองรับ หากพบการทุจริตและมีพยานหลักฐานชัดเจนก็จะดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อให้การเลือก สว.ทุกระดับ เกิดความบริสุทธิ์ยุติธรรม

'พิธา' ดิ้นสู้คดียุบพรรค ยัน!! ไม่มีเจตนาล้มล้าง-เป็นปฏิปักษ์ อ้าง!! ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่มีเขตอำนาจพิจารณา-วินิจฉัยคดีนี้

(9 มิ.ย.67) ที่พรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคก้าวไกล แถลงข้อต่อสู้คดียุบพรรคก้าวไกล ว่า จุดประสงค์ของการแถลงเพื่อเน้นข้อเท็จจริงของข้อกฎหมายและคดี เพื่อสอดคล้องกับสิ่งที่เป็นข้อกังวลของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะแบ่งเป็น 9 ข้อต่อสู้ 3 หมวดหมู่

หมวดหมู่ที่ (1.) เขตอำนาจและกระบวนการ 1.ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีเขตอำนาจพิจารณาวินิจฉัยคดีนี้ 2.กระบวนการยื่นคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

หมวดหมู่ที่ (2.) ข้อเท็จจริง 3.คำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 31 มกราคม 67 ไม่ผูกพันการวินิจฉัยคดีนี้ 4.การกระทำที่ถูกกล่าวหา ไม่ล้มล้าง ไม่อาจเป็นปฏิปักษ์ 5.การกระทำตามคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 31 มกราคม 67 ไม่ได้เป็นมติพรรค

หมวดหมู่ที่ (3) สัดส่วนโทษ 6.โทษยุบพรรคต้องเป็นมาตรการสุดท้ายเมื่อจำเป็น ฉุกเฉิน ฉับพลัน และไม่มีวิธีแก้ไขอื่น 7.ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่มีอำนาจตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค 8.จำนวนปีในการตัดสิทธิทางการเมือง ต้องได้สัดส่วนกับความผิด 9.การพิจารณาโทษต้องสอดคล้องกับชุดกรรมการบริหารพรรคในช่วงที่ถูกกล่าวหา

เมื่อถามว่าในข้อต่อสู้มีข้อไหนที่ไม่มั่นใจ นายพิธา กล่าวว่า มั่นใจทุกข้อทั้ง 9 ข้อ แต่ละข้อก็เหมือนด่าน บันไดที่ใช้ต่อสู่ตั้งแต่ของเขตอำนาจของศาล จนถึงบทลงโทษกรรมการบริหาร แต่เรายังเชื่อว่าทั้งเจตนา และการกระทำของ สส.ในการเข้าชื่อแก้กฎหมาย ไม่ได้เป็นการล้มล้าง และไม่อาจเป็นปฏิปักษ์ รวมถึงการกระทำต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเป็นนายประกัน สันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ไว้ก่อน การที่มีผู้ต้องหามาตรา 112 เป็นสมาชิกพรรค เป็น สส.ก็ยังไม่สิ้นสุดคดี รวมถึงการแสดงออกเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ก็กระทำทั่วไปโดยนักการเมืองในตอนนั้น โดยสภาพบังคับที่มีเรื่องเกี่ยวข้องอยู่แล้ว

“สุดท้ายการกระทำทุกอย่างเป็นเรื่องของรายบุคคลที่ขยุมรวมกันเป็นข้อกล่าวหา ไม่ได้มาจากมติพรรค ไม่ได้เป็นเรื่องของนิติบุคคล แต่เป็นเรื่องของปัจเจก ไม่ได้มีความเห็นที่ออกมาจากกรรมการบริหารว่าทั้งหมดเป็นการกระทำของพรรค ต้องแยกระหว่างบุคคลธรรมดากับนิติบุคคล นั้นต่างกัน ซึ่งที่มีเป็นมติของพรรคออกมาคือการบรรจุเป็นนโยบายหาเสียง แต่ไม่อาจเป็นปฏิปักษ์ได้ เพราะกกต.เองก็อนุญาต ซึ่งหลักเดียวกับตอนที่ยุบพรรคไทยรักษาชาติ ก็ไม่ได้มีจดหมายเตือน ไม่มีคำถามมาว่านโยบายนี้มีที่มาที่ไปอย่างไรอย่างที่พรรคอื่นโดน” นายพิธา กล่าว

นายพิธา กล่าวว่า ยืนยันตรงนี้ว่าไม่ได้มีเจตนา และไม่มีข้อกฎหมายที่เอาผิดทั้ง 44 คนที่เข้าชื่อในการแก้ไขกฎหมาย ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นจริง และไม่ได้เข้าสภา และถึงแม้จะได้เข้าสภา ระบบนิติบัญญัติก็มีการเช็คแอนด์บาลานซ์เบรคในตัวเองอยู่ จะเบรคโดยกกต.ก็ได้ จะเบรคโดยสภาในการโหวตวาระ 1 , 2 , 3  หรือขั้น สว. และยังมีเวลาให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยในตอนสุดท้าย เพราะฉะนั้นไม่มีความเร่งด่วนสำคัญอะไรที่ต้องใช้มาตรการรุนแรงอย่างนี้ 

‘มาดามแป้ง’ เยี่ยมช้างศึก เพื่อให้กำลังใจ ก่อนดวลสิงคโปร์

(9 มิ.ย.67) ‘มาดามแป้ง’ นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เดินทางกลับจากยุโรป หลังเสร็จสิ้นภารกิจส่วนตัว เป็นที่เรียบร้อย วันที่ 8 มิถุนายน ที่ผ่านมา ก่อนที่ช่วงเที่ยงวันนี้ จะเข้ามาให้กำลังใจ ทีมชาติไทย ทันที พร้อมรับประทานอาหารเที่ยงร่วมกัน ก่อนเปิดบ้านพบกับ สิงคโปร์ ในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 นัดที่ 6

ทัพช้างศึก เพิ่งบุกไปเสมอกับ จีน 1-1 ทำให้ยังอยู่ในเส้นทางลุ้นเข้ารอบ คัดบอลโลก รอบ 3 หรือ รอบ 18 ทีมสุดท้าย ก่อนเปิดบ้านพบกับ สิงคโปร์ ภายใต้เงื่อนไขต้องชนะเท่านั้น และ ลุ้นให้ จีน บุกไปแพ้ เกาหลีใต้ สถานเดียว พร้อมประตูได้เสียที่ ทีมชาติไทย ต้องดีกว่า

มาดามแป้ง นายกสมาคมฯ กล่าวว่า “ช่วงเดินทางไป ยุโรป แป้ง ก็มีโอกาสพูดคุยกับทีมโค้ชอิชิอิ รวมถึง น้อง ๆ ทุกคนอยู่ตลอด และ ได้ดูเกมที่เราบุกไปเสมอ จีน 1-1 ซึ่งแม้ว่าจะเสียดายที่เราไม่ชนะ จากโอกาสที่มี แต่ 1 แต้มที่ได้ ก็สำคัญมาก และ ทุกคนก็แสดงให้เห็นแล้วว่าสู้เต็มที่ ท่ามกลางบรรยากาศที่กดดันจากแฟนบอลจีน“

"แป้ง เพิ่งกลับมาถึงไทย เมื่อช่วงเย็นวานนี้ และ อยากเข้ามาให้กำลังใจ มาเติมเต็มพลังใจให้น้อง ๆ ทุกคน จะเห็นว่าบรรยากาศ และ สปิริตในทีมตอนนี้ ดีมาก สัมผัสได้ถึงความเชื่อมั่นของทุกคน ว่าเรายังมีโอกาสเข้ารอบ และ วันนี้ มื้อค่ำ แป้ง ก็ถือโอกาสเลี้ยงอาหารพิเศษทุกคนหลังซ้อมที่โรงแรม หวังว่าจะทำให้ทุกคนมีความสุข และ กิน อิ่ม หลับ นอนเต็มที่ ก่อนเกมสำคัญที่คนไทยทุกคนรอคอย“ มาดามแป้ง กล่าวปิดท้าย

สำหรับ ทีมชาติไทย จะลงสนามทำการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 กลุ่ม ซี นัดที่ 6 พบกับทีมชาติสิงคโปร์ ที่ สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันอังคารที่ 11 มิถุนายน 2567 เวลา 19.30 น. ถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐ HD32

ชาวเน็ตแห่แชร์ ‘กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่’ พูดถึงอาชีพ ‘แม่บ้าน-รายได้’ ชี้!! เป็นทัศนคติที่ดีมาก รับภาระแทนสามี ‘ทุกเรื่อง’

(9 มิ.ย.67) กำลังเป็นประเด็นในโลกออนไลน์ ภายหลังนักร้องหนุ่มชื่อดัง ‘หนุ่ม กะลา’ ได้แจ้งทำการยื่นฟ้อง ‘จูน เพ็ญชุลี’ ภรรยา ในนามบริษัท กล่าวหาว่า ภรรยายักยอกเงินของบริษัทจำนวนเงินกว่า 66 ล้านบาท จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

ล่าสุดทำเอาชาวเน็ตหลายคนต่างพากันแชร์โพสต์ข้อความของนักร้องหนุ่ม ‘กอล์ฟ ฟักกลิ้ง ฮีโร่’ เมื่อหลายปีก่อน ที่พูดถึงเรื่องรายได้ครอบครัว พร้อมทั้งชื่นชมทัศนคติดีมาก

โดย ‘กอล์ฟ ฟักกลิ้ง ฮีโร่’ ระบุว่า 

เมียผมไม่ได้ไม่มีรายได้ งานของเธอคืองานของผม งานของผมคืองานของเธอ เราเพียงแต่แบ่งหน้าที่กันทำงาน ผมเพียงแต่เป็นคนไปรับเงินมาในชื่อของผม แต่ผมจะไม่สามารถทำงานนั้น ๆ เต็มที่ได้เลยถ้าไม่มีอีกส่วนคอยดูแลที่บ้าน ลูก และชีวิตส่วนพักใจของผมทั้งหมด

งานของเธอไม่มีวันหยุด ไม่มีเวลาพักแน่นอน และน่าเบื่อยิ่งกว่างานออฟฟิศ โอกาสเจริญเติบโตในงานนี้คือเห็นทุกอย่างในบ้านเรียบร้อย เห็นลูกเติบโต แข็งแรง และมีโบนัสคือของที่เธออยากได้เพียงแค่นั้น

สามี ภรรยาคือร่างกายเดียวกัน วิ่งอาจเมื่อยที่ขา แต่ใจดวงเดียวในร่างกายกลับเต้นแรง กินอาจอิ่มที่ท้อง แต่ใจดวงเดียวในร่างกายกลับมีความสุข

ในวันที่ผมหาเงินมาได้ มันจึงเป็นเงินของเรา เพราะงานที่ทำนั้นคืองานของเรา การที่เธอทำอาชีพแม่บ้านไม่ได้หมายความว่าเธออยู่บ้านเฉย ๆ แต่มันคืออาชีพที่เธอรับภาระอีกส่วนแทนสามีอยู่ และวันนี้ในหัวใจผมมีทีมเวิร์กที่ดีจริง ๆ

‘น้องเลโอ’ นักกีฬาไอซ์ฮอกกี้ ประสบอุบัติเหตุ ต้องการเลือดกรุ๊ป ‘A Rh negative’ เร่งด่วน

‘น้องเลโอ’ นริศพล ไชยจรูญโชติ นักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็ง วัย 11 ขวบ สังกัดทีม แบงคอก ซุส ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ขณะนี้อยู่ห้อง ICU ต้องการกรุ๊ปเลือด A rh negative ด่วน

ล่าสุด (10 มิ.ย.67) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ‘Nattaporn Chaijaroonchot’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า 

“มีใครมีกรุ๊ปเลือด A rh negative บ้างคะ ขอให้ติดต่อ ที่ 081-8743371 ต้องการด่วนนะคะ เพราะเป็น กรุ๊ปพิเศษค่ะ ทาง รพ. กลัวมีไม่พอและค่อนข้างหายากค่ะ รบกวนด้วยนะคะ หรือ ติดต่อที่หนู 085-1629038 ค่ะ ต้องไปบริจาค ที่ สภากาดชาติไทยให้เด็กชาย นริศพล ไชยจรูญโชติค่ะ ตอนนี้น้องกำลังไป ที่ รพ.จุฬา นะคะ”

ซูเปอร์ซอฟต์พาวเวอร์!! ‘หลานม่า’ ทัชใจข้ามชาติ กระแสแรงในประเทศเอเชีย สร้างรายได้ถล่มทลาย จนชาติยุโรปเรียกร้องให้นำไปฉายบ้าง

เมื่อวานนี้ (9 มิ.ย.67) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ‘Watthana Saen-u-dom’ ได้โพสต์ข้อความตอกย้ำกระแสภาพยนตร์ ‘หลานม่า’ หลังโกอินเตอร์ออกไปฉายที่ต่างประเทศนั้น โดยระบุว่า…

*เวียดนามก็ไม่รอด!!! หนัง ‘หลานม่า’ เปิดตัวขึ้นอันดับ 1 Box Office ประเทศเวียดนาม กวาดรายได้ 3 วันไปกว่า 5 พันล้านดอง หรือ ประมาณ 7 ล้านบาท

*มาเลเซีย ฉายไป 1 สัปดาห์ กวาดไป 65 ล้านบาท คาดรายได้แตะ 100 ล้านบาท เร็ว ๆ นี้

*สิงคโปร์ ฉายไป 9 วัน กวาดรายได้ไปกว่า 1 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือกว่า 27 ล้านบาท ล่าสุดเพิ่มโรงฉายเกือบเท่าตัว

*อินโดนีเซีย ยังคงเดินหน้าทำรายได้ต่อเนื่องคาดทะลุ 300 ล้านบาท ในอีกไม่กี่วัน และอาจแซงรายได้รวมในประเทศไทย

*ด้านประเทศจีน ทนกระแสทั่วเอเชียไม่ไหว ซื้อไปฉายอีกประเทศ คาดทุบสถิติหนังไทยทุกเรื่อง ที่ไปฉายในประเทศจีน

*ญี่ปุ่น ไต้หวัน ก็ไม่น้อยหน้า ซื้อไปฉายแล้วต่อจากจีน

*และขณะนี้กระแสเริ่มลามไปทางฝั่งอเมริกา และยุโรป จากไวรัลในโซเชียล เรียกร้องให้ไปฉายเช่นกัน

‘ปาเลสไตน์’ ประณาม ‘อิสราเอล’ หลังถล่มค่ายผู้ลี้ภัยในกาซา สังหารพลเรือนบริสุทธิ์ 274 ราย เพื่อช่วยเหลือ 4 ตัวประกัน

กองทัพอิสราเอลถล่มค่ายผู้ลี้ภัยใหญ่ตอนกลางกาซา ระบุช่วยตัวประกันออกมาได้ 4 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์ระบุในวันอาทิตย์ (9 มิ.ย.67) การโจมตีดังกล่าวทำให้พลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 274 คน และบาดเจ็บอีกเกือบ 700 ซึ่งถือเป็นการโจมตีนองเลือดที่สุดอีกครั้งในสงครามที่ยืดเยื้อมาถึง 8 เดือน

เมื่อวานนี้ (9 มิ.ย.67) การปฏิบัติการช่วยเหลือตัวประกันดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ (8 มิ.ย.67) ในค่ายผู้ลี้ภัยนูเซรัต ตอนกลางของกาซา โดยพลเรือตรีแดเนียล ฮาการี โฆษกกองทัพอิสราเอลอ้างว่า กองทหารรัฐยิวได้เข้าโจมตีกลางย่านที่พักอาศัยซึ่งกลุ่มฮามาสใช้เป็นที่กักขังตัวประกันไว้ในอพาร์ตเมนต์สองหลัง แต่ถูกระดมยิงอย่างหนักจึงตอบโต้ด้วยการโจมตีทางอากาศและจากภาคพื้นดิน ก่อนสำทับว่า กองทัพรับรู้ว่า มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไม่ถึง 100 คน แต่ไม่รู้ว่าในจำนวนดังกล่าวเป็นผู้ก่อการร้ายกี่คน

ด้าน อิสราเอล ยังบอกว่า ตัวประกันที่ช่วยออกมาได้ทั้ง 4 คน ได้แก่ โนอา อาร์กามานี วัย 26 ปี, อัลม็อก เมร์ แจน วัย 22 ปี, แอนเดรย์ คอสลอฟ วัย 27 ปี และชโลมี ซิฟ วัย 41 ปี มีสุขภาพดีและถูกนำตัวไปโรงพยาบาล โดยทั้งหมดนี้ถูกจับจากเทศกาลดนตรีโนวาระหว่างที่นักรบฮามาสบุกเข้าโจมตีอิสราเอลครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1,200 คน อีก 250 คนถูกจับเป็นตัวประกัน และจุดชนวนสงครามในกาซาที่ยืดเยื้อมาจนถึงขณะนี้

ปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลเพื่อตอบโต้และกำจัดฮามาสทำให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 36,801 คนแล้ว

ทางด้านอาบู อูไบดา โฆษกของกองกำลังอาวุธอัล-กัสซัม ซึ่งเป็นกองกำลังของฮามาส อ้างว่า ตัวประกันบางคนเสียชีวิตระหว่างปฏิบัติการของอิสราเอล

ทว่า ปีเตอร์ เลอร์เนอร์ โฆษกกองทัพอิสราเอลอีกคน ตอบโต้ว่า ฮามาสโกหก

เมื่อถูกสอบถามเกี่ยวกับรายงานข่าวที่ว่า หน่วยข่าวกรองของอเมริกาให้การสนับสนุนปฏิบัติการช่วยตัวประกันครั้งนี้ เลอร์เนอร์แบ่งรับแบ่งสู้ว่า อิสราเอลและอเมริกามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดในด้านปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับข่าวกรอง

ทางด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของอเมริกาที่อยู่ระหว่างการเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการ แสดงความยินดีกับการช่วยเหลือตัวประกันในกาซา และย้ำว่า วอชิงตันจะไม่ยุติความพยายามจนกว่าตัวประกันทั้งหมดจะกลับบ้านอย่างปลอดภัย และทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงหยุดยิง

ทว่า บรรยากาศในกาซากลับตรงกันข้าม เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์และหน่วยแพทย์ท้องถิ่นเผยว่า การโจมตีของอิสราเอลในค่ายนูเซรัตทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก

ทั้งนี้ ในวันอาทิตย์ (9 มิ.ย.) กระทรวงสาธารณสุขของกาซา ซึ่งอยู่ในความควบคุมของกลุ่มฮามาส แถลงว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 274 คนจากการบุกโจมตีล่าสุดของอิสราเอลนี้ เป็นเด็ก 64 คน และผู้หญิง 57 คน ขณะที่ในหมู่ผู้ได้รับบาดเจ็บเกือบ ๆ 700 คน ที่เป็นเด็กมี 153 คน และผู้หญิง 161 คน

เจ้าหน้าที่ทีมแพทย์ฉุกเฉินคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในนูเซรัตระบุว่า เป็นการสังหารหมู่อย่างแท้จริง โดยโดรนและเครื่องบินรบอิสราเอลซุ่มโจมตีบ้านประชาชนและคนที่พยายามหนีออกจากบริเวณดังกล่าวตลอดทั้งคืน

เขายังบอกอีกว่า การโจมตีทางอากาศพุ่งเป้าที่ตลาดท้องถิ่นและมัสยิดอัล-ออดา และสำทับว่า อิสราเอลสังหารพลเรือนบริสุทธิ์นับสิบเพื่อช่วยตัวประกัน 4 คน

ค่ายผู้ลี้ภัยนูเซรัต ที่ตั้งอยู่นอกเมืองเดอีร์ อัล-บาลาห์ ตกเป็นเป้าหมายการโจมตีทางอากาศอย่างหนักของอิสราเอลระหว่างสงคราม นอกจากนี้กองทหารอิสราเอลยังยกกำลังบุกภาคพื้นดินเข้าโจมตีทางด้านตะวันออกของค่ายผู้ลี้ภัยแห่งนี้ ไม่เพียงเท่านั้น หน่วยแพทย์ปาเลสไตน์เผยว่า อิสราเอลยังโจมตีทางอากาศใส่ค่ายผู้ลี้ภัยอัล-บูเรจ ซึ่งอยู่ทางตอนกลางกาซาเช่นกันเมื่อคืนวันเสาร์ ทำให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิต 5 คน

ขณะเดียวกัน แม้ข่าวการช่วยตัวประกันล่าสุดสร้างความยินดีให้กับชาวอิสราเอล แต่ยังมีความกังวลเกี่ยวกับชะตากรรมของตัวประกันที่เหลืออยู่ ทำให้ผู้คนนับพันไปชุมนุมกันที่กรุงเทลอาวีฟเพื่อเรียกร้องให้ยุติสงครามในกาซา เนื่องจากเชื่อว่า ปฏิบัติการทางทหารไม่สามารถช่วยเหลือตัวประกันทั้งหมดออกมาได้

นอกจากนั้นยังมีการชุมนุมในลอนดอนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เรียกร้องให้ยุติสงครามในกาซา

วันเดียวกันนั้น ที่สหรัฐฯ ผู้ประท้วงต่อต้านสงครามกาซานับพันชุมนุมใกล้ทำเนียบขาว ในกรุงวอชิงตัน โดยส่วนใหญ่สวมเสื้อสีแดง ชูธงปาเลสไตน์และป้ายที่มีข้อความว่า “เส้นแดงของไบเดนคือคำโกหก” และ “การทิ้งระเบิดใส่เด็กไม่ใช่การป้องกันตัว”

ทั้งนี้ ไบเดนกำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังจากทำเนียบขาวเคยแถลงเมื่อเดือนที่แล้วว่า การโจมตีของอิสราเอลในเมืองราฟาห์ ยังไม่ได้ข้าม ‘เส้นแดง’ ที่ไบเดนระบุไว้เมื่อสองเดือนก่อนหน้านั้นตอนที่ถูกผู้สื่อข่าวถามเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่อิสราเอลจะบุกเมืองดังกล่าว โดยที่เขาบอกว่าหากมีการข้ามเส้นแดง สหรัฐฯก็จะพิจารณางดส่งอาวุธให้อิสราเอล

เปิดบันทึก ‘มีชัย ฤชุพันธุ์’ ต้นคิดที่มา ‘สว.’ มุ่งหวังให้ ‘ภาค ปชช.’ มีส่วนร่วมทางการเมือง

การเลือกตั้ง สว. ที่กำลังจะมาถึงอีกไม่กี่วันข้างหน้า พร้อมด้วยกติกาใหม่ที่หลายคนงง และออกมาวิพากษ์วิจารณ์คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อย่างรุนแรง แต่จะรู้หรือไม่ว่ากติกาที่ว่ามาจากไหน และใครเป็นผู้เสนอ ถ้าไม่ใช่ มีชัย ฤชุพันธ์ุ อดีตประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)

มีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เขียนบทความชื่อว่า ‘บันทึกไว้กันลืม’ ในหนังสือ ‘ความในใจของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ 2560’ โดยกล่าวถึงที่มาที่ไปของรัฐธรรมนูญ 2560 โดยมีการกล่าวถึงเรื่อง ‘ที่มาของสมาชิกวุฒิสภา’ และเชื่อว่าเป็นแนวคิด ‘ฮ้อแร่ด’ หมายถึง ที่สมบูรณ์และยอดเยี่ยม อีกทั้งยังยอมรับว่าคนวิพากษ์วิจารณ์เพราะสร้างความเข้าใจไม่มากพอ

รายละเอียดถึงที่มาที่ไปของสมาชิกวุฒิสภา มีดังนี้

เรื่องที่มาของสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องหนึ่งนั้น เราไม่ได้คิดอย่างหลักลอย หากแต่มีที่มาจากกรอบของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวมาตรา 35 ที่ต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างแท้จริง เราก็เคยคิดว่าทำไมเราไม่แปลงวุฒิสภาให้เป็นองค์กรที่สร้างความมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างนัยสำคัญ

แต่เดิมมานั้น การมีวุฒิสภา มักจะเกิดจากแนวคิดว่าสภาผู้แทนยังไม่พร้อม ควรมีสภาพี่เลี้ยงเพื่อประคับประคองกันไป ต่อมาก็ว่าเป็นสภากลั่นกรองเพื่อให้เกิดความสมดุล ที่มาของสมาชิกวุฒิสภาในตอนต้นจึงมาจากการแต่งตั้ง เพื่อให้ได้คนที่มีคุณวุฒิสูง มีประสบการณ์มาก ๆ ต่อมาก็ให้มาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากแต่ละจังหวัด โดยให้ตัดจากพรรคการเมือง จะได้เป็นอิสระในการกลั่นกรองกฎหมายโดยไม่อยู่ภายใต้อาณัติของพรรคการเมือง แต่มาถึงปัจจุบันต้องยอมรับว่าคนมีความรู้ มีปริญญาสูง ๆ ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมากขึ้น คนที่มิได้มีปริญญาสูง ๆ ก็มีประบการณ์ที่สะสมมามากเพียงพอที่จะไม่ต้องการพี่เลี้ยงอีก

ในขณะเดียวกันในการจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา โดยให้ปลอดจากการเมือง ก็เห็นได้ว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะลำพังผู้สมัครเพื่อรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาถ้าไม่ไปศิโรราบกับพรรคการเมือง หรือนักการเมืองในพื้นที่ ย่อมยากที่จะได้รับเลือกตั้ง ความมุ่งหมายที่จะให้สมาชิกวุฒิสภาไม่อยู่ภายใต้พรรคการเมืองจึงเป็นไปได้ยาก

เราจึงคิดว่า ทำไมเราไม่เปลี่ยนวุฒิสภาให้เป็นสภาที่จะรับรู้ความตองการหรือความเดือดร้อน หรือส่วนได้เสียของคนกลุ่มต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนทุกสาขาอาชีพได้เข้ามามีส่วนร่วมในทางการเมืองอย่างแท้จริงและความต้องการของเขาได้รับการพิจารณาอย่างจริงจัง

นั่นจึงเป็นที่มาของวุฒิสภาที่จะมาจากประชาชนทุกหมู่เหล่า ทุกอาชีพ ทุกลักษณะ

อันที่จริง วุฒิสภาที่เราคิดสร้างขึ้นนั้น ก็คล้ายกับสภาสูงของอังกฤษ เพียงแต่สภาสูงของอังกฤษ เป็นการรักษาประโยชน์ของชนชั้นสูง ส่วนวุฒิสภาที่เราสร้างขึ้น เป็นการรักษาประโยชน์ของคนทุกระดับชั้น

เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ และเป็นการเปลี่ยนโฉมหน้า และแนวคิดอย่าง 360 องศา ไม่น่าเชื่อว่าพอเสนอแนวคิดนี้ขึ้น กรธ.ทั้งคณะร้องฮ้อแร่ด ขึ้นพร้อมกัน ทั้ง ๆ ที่รู้ดีว่าการจะทำให้คนอื่นเข้าใจถึงวัตถุประสงค์ของการมีวุฒิสภาที่เปลี่ยนแปลงไป กับขบวนการในการจัดการเลือกที่จะไม่ให้เกิดการฮั้วกันนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย

ในเรื่องแรก เราออกจะประมาทอยู่ไม่น้อย เพราะไม่ได้ชี้แจงซ้ำแล้วซ้ำอีกให้เห็นถึงแนวคิดของการมีวุฒิสภาที่เปลี่ยนแปลงไปว่าเราไม่ได้มุ่งหมายให้มีผู้ทรงคุณวุฒิมาคอยกลั่นแกล้งงานของสภาผู้แทนราษฎร หรือเป็นพี่เลี้ยงของสภาผู้แทนราษฎรอีกแล้ว เพราะสภาผู้แทนราษฎรมีขีดความสามารถในการปฏิบัติภารกิจของตนได้โดยสมบูรณ์แล้ว (เว้นแต่เป็นกรณีที่จงใจจะใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ส่วนตนหรือพวกพ้อง) สิ่งที่ยังขาดอยู่ก็คือ สภาผู้แทนราษฎรยังปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งเป็นนโยบายที่มาจากพรรคการเมือง ที่อ้าง ๆ กันว่าเรามาจากประชาชน เราเป็นผู้แทนของปวงชนชาวไทยนั้น เอาเข้าจริงบางทีก็มองข้ามความทุกข์ยากของประชาชน ทั้งในระยะสั้นหรือระยะยาว เพราะหลายกรณีมุ่งแต่จะให้พรรคเป็นที่นิยม โดยไม่ได้นึกถึงอันตรายในระยะยาว หรือ ความเดือดร้อนที่จะเกิดขึ้นแก่สังคมหรือประเทศชาติได้ ดังที่เห็น ๆ กันอยู่แต่นั่นก็เป็นระบบที่เรียกว่าประชาธิปไตย เราจึงไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

แนวคิดในเรื่องที่มาของสมาชิกวุฒิสภา จึงมุ่งที่จะทำให้ จึงมุ่งที่การทำให้ประชาชนทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมทางการเมือง ในขณะเดียวกันให้ทุกภาคส่วนสามารถบอกเล่าความคับแค้น อุปสรรค และเสนอแนะแนวทางการแก้ไขในส่วนของเขาได้อย่างมีนัยสำคัญผู้ที่จะมาเป็นสมาชิกวุฒิสภาจึงมิใช่ผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้มีประสบการณ์ล้นฟ้าอีกต่อไป หากแต่เป็นผู้ที่มาจากคนทุกหมู่เหล่าที่ประกอบอาชีพหรือมีคุณลักษณะเฉพาะ เพื่อจะได้สะท้อนถึงความต้องการของเขาอย่างแท้จริง

เราออกจะหย่อนในการทำความเข้าใจในเรื่องนี้ไปหน่อยเพราะเมื่อในเวลาที่เราทำกฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา แม้แต่สภานิติบัญญัติแห่งชาติยังไม่เข้าใจ ยังกังวลว่าด้วยวิธีการเลือกอย่างที่กำหนดไว้ จะทำให้ได้ผู้ทรงคุณวุฒิได้อย่างไร

เราแบ่งกลุ่มออกเป็น 20 กลุ่ม เพื่อให้สามารถกระจายกันไปแต่ละกลุ่มจะมีหลักประกันว่าจะมีตัวแทนของคนอยู่ในวุฒิสภา มีคนตั้งข้อสงสัยว่าการกำหนดไว้ 20 กลุ่ม ไม่มีเหตุผลอะไร ทำไม่จึงไม่เป็น 25 กลุ่ม 30 กลุ่ม หรือ 40 กลุ่ม แล้วเลยเสนอให้ลดลงเหลือ 10 กลุ่ม ซึ่งว่าที่จริง การลดลงเหลือ 10 กลุ่มก็ย่อมต้องเผชิญกับปัญหาอย่างเดียวกันว่าทำไมถึง 10 กลุ่ม

การที่ กรธ. กำหนดไว้ 20 กลุ่ม ไม่ได้เกิดจากการเสี่ยงทาย หรือหยิบขึ้นมาเฉย ๆ หากแต่เกิดจากการพยายามคิดอาชีพและคุณลักษณะทั้งหมดของประชาชนทุกหมู่เหล่า (โดยใช้ข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติเป็นหลัก) และจับอาชีพหรือคุณลักษณะที่ใกล้เคียงมากที่สุดเข้าไว้ในกลุ่มเดียวกัน เมื่อรวมแล้วได้ 19 กลุ่ม บวกกับกลุ่มเผื่อเหลือเผื่อขาด เพื่อให้ทุกคนมีที่ลงได้ จึงเพิ่มอีก 1 กลุ่ม คือ ‘กลุ่มอื่น ๆ’ รวมเป็น 20 กลุ่ม

ถามว่าทำไมไม่เป็น 30 หรือ 40 กลุ่ม คำตอบก็คือเราต้องคำนึงถึงจำนวนที่แต่ละอาชีพหรือแต่ละคุณลักษณะจะพึงมี เพื่อให้ได้สัดส่วนของผู้แทนของแต่ละอาชีพ หรือ คุณลักษณะจะไม่ทัดเทียมกัน ที่สำคัญในระหว่างร่างรัฐธรรมนูญก็ดี เราได้ออกไปรับฟังความคิดเห็นของประชาชนมาทุกภาค ผลการรับฟังความคิดเห็น ประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่าการกำหนดเป็น 20 กลุ่มเป็นจำนวนที่เหมาะสมที่สุด

เรากำหนดกลุ่มสตรีแยกไว้ต่างหาก ก็เพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญมาตรา 27 และมาตรา 90 วรรคสาม จริงอยู่สตรีอาจสมัครเข้าในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งตามอาชีพ หรือคุณลักษณะอย่างอื่นของตนได้ แต่ในการเลือกย่อมยากที่จะกำหนดให้ผู้เลือกต้องเลือกสตรีเพราะจะเป็นการจำกัดสิทธิของคนอื่น การที่จะเกิดความแน่นอนว่ากลุ่มสตรีแยกไว้ต่างหาก แต่ สนช. ไม่เข้าใจเจตนารมณ์ในเรื่องนี้ จึงจับสตรีไปอยู่ในกลุ่มเปราะบาง หรือกลุ่มด้อยโอกาส ซึ่งไม่มีหลักประกันว่าสตรีจะได้รับเลือกมา การกำหนดจำนวนกลุ่มน้อยเท่าไร โอกาสที่คนหลายอาชีพ หลายคุณลักษณะจะไม่มีตัวแทนในวุฒิสภาย่อมมีมากขึ้นเท่านั้น

'สตรีทอาร์ต คิง ภูมิพล’ เนรมิตภาพ ‘ในหลวง ร.9’ บนผนังอาคาร รพ.สุราษฎร์ฯ มอบให้ชาวบ้านได้รำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เป็นจังหวัดที่ 23 จาก 77

เมื่อวานนี้ (9 มิ.ย.67) รายงานข่าวแจ้งว่า สภาอุตสาหกรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมกับทีมงานสตรีทอาร์ต คิง ภูมิพล โดยมูลนิธิสานต่อที่พ่อทำ นำโดย นายชวัส จำปาแสน หรือครูอะไหล่ จัดโครงการจิตอาสาวาดภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ ๙) เป็นจังหวัดที่ 23 จากเป้าหมาย 77 จังหวัด โดยได้สถานที่ผนังอาคารฉุกเฉิน อาคารสูง 6 ชั้น โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อมอบให้ชาวสุราษฎร์ฯ ได้รำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและน้อมนำคำสอนของในหลวง รัชกาลที่ ๙ มาปฏิบัติ

ในวันนี้ได้มีกำลังพลจากมณฑลทหารบกที่ 45 ค่ายวิภาวดีรังสิต มาช่วยสนับสนุนการเตรียมสถานที่ ช่วยจัดการพื้นผิวผนัง รวมทั้งติดตั้งกระเช้ากอนโดลา จากบริษัท โมเดิร์นคิท เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด นอกจากนี้ ยังมีรถเครนจาก บริษัท ดี.เร้นท์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด มาร่วมสนับสนุนอีกด้วย โดยภาพวาดสตรีทอาร์ต คิง ภูมิพล จังหวัดที่ 23 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทั้งนี้ ทีมงานสตรีทอาร์ต คิง ภูมิพล จะลงพื้นที่ในวันพุธที่ 12 มิ.ย. โดยเป็นการวาดภาพพระบรมสาทิสลักษณ์บนผนังทั้งหมด 3 ด้าน โดยมีกำหนดส่งมอบในวันที่ 26 มิ.ย. 2567

สำหรับโครงการสตรีทอาร์ตคิงภูมิพล คือ โครงการจิตอาสาวาดภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ควบคู่กับการเผยแพร่พระราชดำรัส เพื่อมอบให้คนไทยและทั่วโลกได้รำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และน้อมนำคำสอนของพระองค์ท่านไปใช้สานต่อในชีวิตตนเองและส่วนรวม ให้ครบทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย ที่ผ่านมาได้ทำมาแล้ว 22 จังหวัด จำนวน 24 ผลงาน นอกจากนี้ มูลนิธิฯ ยังมีโครงการกิจกรรมสานต่อที่พ่อทำ นำปัญญาสู่เด็กเยาวชน, กิจกรรม คนละก้าว ซ่อมสร้างวัด โรงเรียน โรงพยาบาล สำหรับผู้สนใจสามารถบริจาคได้ที่ ชื่อบัญชี มูลนิธิสานต่อที่พ่อทำ ธนาคารกสิกรไทย เลขที่บัญชี 176-1-37719-8 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก Street Art King Bhumibol และ Line Official : @followroyalfather

‘แม่ฮ่องสอน’ ลั่น!! พบกลโกง เลือกสว. สะพัด!! นักการเมืองจ้างคนของตนลงสมัคร วอน กกต.อย่านิ่ง

เมื่อวานนี้ (9 มิ.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ระดับอำเภอ โดยที่ จ.แม่ฮ่องสอน พบกลโกงของนักการเมืองระดับประเทศ ด้วยการจ้างคนของตัวเองลงสมัคร เพื่อให้เลือกคนของนักการเมืองที่วางตัวไว้ล่วงหน้าแล้ว และคาดว่ามีการส่งคนลงสมัครเพื่อเลือกคนของนักการเมืองทุกอำเภอ

ผู้สมัคร สว.รายหนึ่งใน จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยกลโกงดังกล่าว ว่า ก่อนหน้านี้มีคนของนักการเมืองระดับประเทศรายหนึ่งของ จ.แม่ฮ่องสอน ทำการทาบทามจ้างคนลงสมัคร สว. โดยจ่ายเงินให้หัวละ 5,000 บาท หักค่าสมัคร 2,500 บาท ค่าถ่ายรูปอีกคนละ 400 บาท ทำให้นักรบรับจ้างเหล่านั้นจะได้เงินเข้ากระเป๋า 2,100 บาท รวมถึงถ้างานสำเร็จได้มีการรับปากว่าจะพาไปเที่ยวทะเลอีกด้วย

นักการเมืองเหล่านี้จะมีการส่งคนของตัวเองลงสมัครในแทบทุกสาขาอาชีพ ทั้งนี้ระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการเลือก สว.คือ ในรอบแรก ให้ผู้สมัครเลือกตนเองได้ 1 คะแนน และเลือกคนอื่นได้อีก 1 คะแนน ซึ่ง กกต.ได้วางระเบียบไว้อย่างแน่นหนา แต่พวกนักการเมืองรู้ทัน จึงวางคนไว้ทุกสาขาอาชีพ ถึงแม้จะมีการจับฉลากแบ่งสาย ก็ยังมีคนของนักการเมืองอยู่ในทุกสาขาอาชีพ ซึ่งมีอยู่ 20 กลุ่ม โดยมีการสั่งให้คนที่ถูกจ้างมาให้เลือกคนของนักการเมืองเท่านั้น และไม่ต้องเลือกตัวเอง ทั้งยังพบว่าในวันเลือกวันที่ 9 มิถุนายน ที่ผ่านมา ในสายเดียวกัน มีกลุ่มอาชีพกลุ่มหนึ่งเทคะแนนให้กับผู้สมัครรายหนึ่งที่อยู่ต่างสาขาอาชีพถึง 5 คะแนนเลยทีเดียว

ผู้สมัคร สว.รายนี้ ระบุว่า เมื่อถึงตอนเลือกไขว้ในสายเดียวกัน กกต.ได้มีการวางระเบียบไว้ว่าทุกคนสามารถเลือกผู้สมัครคนอื่นได้ 4 คน ยกเว้นตัวเอง ดังนั้นเมื่อมีการจับคู่ของผู้สมัคร ทุกคนจะได้คะแนนเท่ากันหมด คือ ได้คนละ 4 คะแนน เมื่อได้คะแนนเท่ากัน ทุกคนจะมีการจับสลากเพื่อคัดเอาคนที่ผ่าน รวมรอบระดับอำเภอไม่เกิน 3 คน เพื่อเข้ารอบไปสู่การเลือกระดับจังหวัด ซึ่งในการเลือกตั้งระดับอำเภอแห่งหนึ่งของ จ.แม่ฮ่องสอน พบว่า มีผู้สมัครหลายราย มีคะแนนเกิน 4 คะแนน บางรายสูงผิดปกติ ถามว่าคะแนนที่เกินมาได้มาจากไหน ถ้าไม่มีคนของตนเองส่งเข้าไปในกลุ่มนั้นๆ

ผู้สมัคร สว.รายนี้ กล่าวอีกว่า ที่มาลงสมัคร สว.ในครั้งนี้ พบว่า ไม่ง่ายอย่างที่คิด จากการสังเกตที่คณะกรรมการการเลือก สมาชิกวุฒิสภา ให้เวลาผู้สมัครแนะนำตัวเองเพื่อให้แต่ละท่านได้รู้จักเพื่อที่จะได้ลงคะแนนรับเลือกนั้น ปรากฏว่าบางกลุ่มไม่ได้สนใจในการที่จะไปแนะนำตัว นั่งอยู่กับที่นั่ง จนถึงเวลาเลือก ซึ่งทางคณะกรรมการการเลือกให้ทุกคนสามารถที่จะจดบันทึกหมายเลขที่จะเลือกเข้าคูหาการเลือกได้ บางกลุ่มจะมีหัวหน้าทีมในกลุ่มเขียนโพยให้อยู่แล้ว จึงไม่ได้สนใจ และเวลาเราเข้าไปแนะนำตัว จะไม่ค่อยพูด หรือรับปากส่งเดชว่าจะลงให้ ท้ายที่สุดเวลานับคะแนนมาเรากลับไม่ได้คะแนนจากกลุ่มเขาเลยแม้แต่คะแนนเดียว การจัดตั้งจากนักการเมืองไม่ใช่แค่ที่ จ.แม่ฮ่องสอน เท่านั้น หลายจังหวัดน่าจะเจอปัญหาแบบเดียวกัน แต่พูดอะไรไม่ได้ เนื่องจาก กกต. ไม่จัดการแบบจริงๆจังๆ ได้แต่เพียงบอกว่าไม่มีใครมาร้องเรียน ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจ แต่ทำอะไรไม่ได้ หรือจะปล่อยให้พรรคการเมือง มาครอบงำ สว.


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top