Tuesday, 6 May 2025
TheStatesTimes

‘เต้-มงคลกิตติ์’ ถูก ‘ป.ป.ช.’ เรียกรับทราบข้อกล่าวหา ร่วมชุมนุม ชู 3 นิ้ว เมื่อปี 63 ชี้!! มีวัตถุประสงค์ล้มล้าง ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

เมื่อวานนี้ (7 มิ.ย.67) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ทำหนังสือลงวันที่ 5 มิ.ย.2567 ส่งถึง นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ใจความระบุว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้แต่งตั้งคณะกรรมการไต่สวน เพื่อดำเนินการไต่สวนกรณีกล่าวหาท่านว่ากระทำการอันเป็นการจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีได้เข้าร่วมชุมนุมทางการเมือง เมื่อวันที่ 19 - 20 ก.ย.2563 และได้แสดงสัญลักษณ์ชูสามนิ้ว อันเป็นการสนับสนุนข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมที่มีวัตถุประสงค์ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

บัดนี้ คณะกรรมการไต่สวนได้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงและพิจารณาแล้วเห็นว่า มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะสนับสนุนว่า ข้อกล่าวหามีมูลความผิด

ฉะนั้น เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 คณะกรรมการไต่สวนประสงค์จะแจ้งข้อกล่าวหาให้ท่านทราบ เพื่อให้โอกาสท่านชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาตามมาตรา 70 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าว จึงขอให้ท่านไปพบคณะกรรมการไต่สวน ในวันที่ 18 มิ.ย.2567 เวลา 09.00 น.ที่สำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดนนทบุรี เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา หากจะชี้แจงข้อกล่าวหาก็มีสิทธิที่จะนำพยานหลักฐานไปประกอบการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา และนำทนายความ หรือบุคคลที่ท่านไว้วางใจไม่เกิน 3 คนเข้าฟังการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาได้

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประชุมศูนย์อำนวยการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกสมาชิกวุฒิสภา กำชับปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวด วางตัวเป็นกลาง

เมื่อวานนี้ (7 มิถุนายน 2567) เวลา 15.00 น. พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.รอง ผบ.ตร. ให้ขับเคลื่อนและเป็นประธานการประชุมศูนย์อำนวยการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ณ ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) 

พล.ต.ท.กรไชยฯ กล่าวว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. จัดให้มีการรับสมัครรับเลือกสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. และได้ผ่านพ้นขั้นตอนการรับสมัครดังกล่าวแล้ว โดยในภาพรวมการรับสมัครทั่วประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีผู้มาสมัคร สว. จากทั่วประเทศมากกว่า 48,000 คน ซึ่งขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัย และรักษาความสงบเรียบร้อยประจำสถานที่รับสมัคร รวมถึงผู้บังคับบัญชาที่ควบคุมการปฏิบัติดังกล่าวให้เป็นไปตามแผนด้วยดี , ตำรวจทางหลวงในการนำขบวนรถขนส่งบัตรเลือก สว. , เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องในการรักษาความปลอดภัยประจำรถขนส่งบัตรของบริษัทไปรษณีย์ไทย  และตำรวจพื้นที่ที่มีจุดพักรถในเส้นทางการขนส่งบัตรทุกสาย โดยภารกิจยังคงมีต่อเนื่องจนกระบวนการเลือกในแต่ละระดับจะแล้วเสร็จ โดยการเลือก สว.ระดับอำเภอ ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน 2567 ได้กำชับการทำหน้าที่ และให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องรายงานความพร้อม หรือหากมีข้อมูลการข่าวที่จำเป็น ขอให้หน่วยได้รายงาน เพื่อวางแผนการปฏิบัติให้เหมาะสม

นอกจากนี้ พล.ต.ท.กรไชยฯ กล่าวว่า ในภารกิจรักษาความปลอดภัยและการรักษาความสงบการเลือก สว.ครั้งนี้ ใช้กำลังตำรวจทั่วประเทศเกือบ 2 หมื่นนาย ได้สั่งการกำชับให้ตำรวจทุกหน่วยปฏิบัติตามอำนาจและหน้าที่ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด รวมทั้งวางตัวเป็นกลาง ตามสั่งการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร. สำหรับในส่วนของการจับกุมและการดำเนินคดีผู้กระทำความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือก สว. และการกระทำความผิดอาญาที่เกี่ยวเนื่องกับการเลือก สว.ในทุกระดับ ให้พนักงานสอบสวนประสานการปฏิบัติกับ กกต. ดำเนินการด้วยความรอบคอบ ยึดหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด พร้อมกำชับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ตรวจสอบกระทำความผิดตามกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นบนโซเชียลด้วย ทั้งนี้ กรณีมีเหตุสำคัญที่เกี่ยวข้อง ให้รายงานมาที่ศูนย์อำนวยการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยทันที

ขอนแก่น - 'บิ๊กทิน' ร่วมเปิบข้าวเหนียว ลาบหมู เมนูมื้อเที่ยง ให้กำลังใจ ทหารใหม่ค่าย ร.8

นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางมาในวันนี้ เพื่อรับฟังปัญหาแนวทางปฏิบัติในการช่วยเหลือประชาและเยี่ยมหน่วยฝึกทหารใหม่ พร้อมรับฟังบรรยายสรุปการดำเนินการฝึกทหารใหม่ โดยได้เน้นย้ำถึงการดูแลน้องทหารใหม่เสมือนคนในครอบครัว 

เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดขอนแก่น รายงานว่า ที่กรมทหารราบที่ 8 ค่ายสีหราชเดโชไชย ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วยกรมทหารราบที่ 8 เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปการดำเนินการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติในพื้นที่และตรวจเยี่ยมหน่วยฝึกทหารใหม่ พร้อมรับฟังบรรยายสรุปการดำเนินการฝึกทหารใหม่ โดยมี พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ แม่ทัพภาคที่ 2 , พลโท ณรงค์ สวนแก้ว เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก, พล.ต.นรธิป โพยนอก ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 3 , นายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น, พล.ต. กิตติพงษ์ เนื่องชมภู ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 23, พ.อ. สุพรเทพ ไชยยงค์ รองผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 8 เป็นผู้แทน ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 8, พ.ท.ยุทธพล บิดร ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 3. กรมทหารราบที่ 8, ผู้บังคับกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 8 พร้อมด้วยส่วนราชการในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับ 

นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่าในการเดินทางมาในวันนี้ เพื่อรับฟังปัญหาแนวทางปฏิบัติในการช่วยเหลือประชาและเยี่ยมหน่วยฝึกทหารใหม่ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปการดำเนินการฝึกทหารใหม่ โดยได้เน้นย้ำถึงการดูแลน้องทหารใหม่เสมือนคนในครอบครัว เพราะเขาคือน้องเล็กของกองทัพบก ซึ่งปัจจุบันการฝึกทหารใหม่เน้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ จึงมาดูความคืบหน้าในเรื่องกระบวนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สิ่งแรกคือได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของพลทหาร ซึ่งมีการฝึกเพียง 2 สัปดาห์กว่า

นายสุทิน กล่าวอีกว่าแต่ก็สามารถเปลี่ยนจากพลเรือนเป็นทหารได้รวดเร็ว ทั้งเรื่องวินัยและความพร้อมทาง ถือเป็นความภูมิใจที่ได้เห็นทหารเกณฑ์เหล่านี้เปลี่ยนจากพลเรือนมาเป็นทหารอย่างที่กองทัพต้องการได้ อีกทั้งครูฝึกมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเห็นกระบวนการฝึกที่จัดไว้ให้พลทหารอย่างดี พร้อมเน้นย้ำเรื่องการฝึกทหารใหม่ ให้ดูแลช่วยเหลือ สร้างขวัญกำลังใจ รวมทั้งคุณวุฒิทางด้านการศึกษาให้มีการศึกษาที่เพิ่มขึ้น พัฒนาทักษะวิชาชีพเพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างอนาคตที่ดี สร้างเยาวชนที่เข้มแข็ง มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง หันหลังให้กับยาเสพติด

ต่อจากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้เยี่ยมชมโรงเลี้ยงร่วมรับประทานอาหารกับทหารใหม่ในภาชนะถาดหลุม ซึ่งเป็นอาหารอีสาน ได้แก่ ข้าวเหนียว ลาบหมู ผัดผัก และเมนูของหวาน คือ ทับทิมกรอบ โดยก่อนรับประทานอาหาร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สอบถามทหารใหม่ถึงอาหารมื้อนี้เหมือนกับมื้ออื่นๆ หรือไม่ พร้อมกล่าวอีกว่า ทหารอีสานต้องทานข้าวเหนียวด้วย เพื่อให้อยู่ท้อง บรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และอบอุ่นเป็นกันเอง

‘เศรษฐา’ เปิด ‘เมืองน่าเที่ยว’ เร่งเดินหน้าอย่างเต็มสูบ เพื่อผลักดันให้ไทย เป็นศูนย์กลาง การท่องเที่ยวของโลก

(8 มิ.ย.67) ที่ตลาดจริงใจมาร์เก็ต ต.ป่าตัน อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สวมเสื้อลายช้าง เป็นประธานพิธีเปิดงาน ‘เปิดเมืองน่าเที่ยว’ พร้อมด้วย นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง และคณะ

นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานเปิดเมืองน่าเที่ยว ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายหลัก IGNITE THAILAND ของรัฐบาล เพื่อคืบคลานไปสู่จุดมุ่งหมายหลักให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของโลก เราทราบกันดีอยู่แล้วประเทศไทยเป็นเมืองน่าเที่ยวในหลายๆ โพลหลายสำนักบอกเรามีจุดแข็ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวัฒนธรรม อาหารการกิน เกาะที่มีความสวยงาม วัฒนธรรม ประเพณี ซึ่งเป็นจุดขายหลักของไทยและวันนี้เรามาอยู่จังหวัดเชียงใหม่หรือเป็นเมืองหลวงใหญ่ของการที่เรามีวัฒนธรรม ประเพณี ดีงามมาโดยตลอด ในอดีตเชื่อว่าทุกคนทราบดีอยู่แล้วก่อนที่จะมีโควิด 19 การท่องเที่ยวเป็นธงเรือใหญ่ แต่เหตุการณ์ที่ไม่พึงเกิดขึ้นคือโควิด 19 ทำให้มีปัญหามาอย่างต่อเนื่อง การท่องเที่ยวสะดุดมาโดยตลอด แต่รัฐบาลนี้โดยเฉพาะภายใต้การนำของ นายเสริมศักดิ์ ตระหนักดีถึงความสำคัญที่จะต้องมาช่วยปลุกตลาดการท่องเที่ยวขึ้นมา โดยเรามี 5 กลยุทธ์ ซึ่งคิดตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ

“การท่องเที่ยวของไทยจะเดินหน้าไปอย่างเต็มสูบไม่ใช่มีสถานที่ดีอย่างตลาดจริงใจหรือมีนิทรรศการต่างๆ หรือมีคอนเสิร์ตเฟสติวัลระดับโลกมาเล่นอย่างเดียว การที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาตั้งแต่ก้าวแรกเหยียบแผ่นดินไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสายการบิน ซึ่งปัจจุบันมีราคาแพง ฉะนั้นการท่องเที่ยวก็ลดน้อยลง รัฐบาลให้ความตระหนักดีถึงเรื่องนี้ พยายามลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง วิธีการเข้าเมืองต้องสะดวกสบาย ไม่ใช่เข้ามาถึงแล้วติดอยู่ที่ตรวจคนเข้าเมืองระยะเวลานาน เรื่องนี้เราดูตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ และผมจะเดินทางไปจังหวัดลำพูน ลำปาง ดูการท่องเที่ยวเชิงอารยธรรมศิลปะสร้างสรรค์ และวิถีชีวิตเรามา Kick Off กันตรงนี้ไม่ใช่แค่ภาคเหนืออย่างเดียว ภาคใต้เราก็จะไปใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และภาคอีสานเรื่องของวัฒนธรรมพื้นเมืองของแต่ละภูมิภาค เป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญ“ นายเศรษฐา กล่าว

นายเศรษฐา กล่าวว่า หวังอย่างยิ่งว่าความมุ่งมั่นของรัฐบาลจะส่งผลให้พี่น้องประชาชนที่อยู่ใน ห่วงโซ่การท่องเที่ยวมีรายได้ที่ดีขึ้น มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ถือเป็นการคิดใหญ่ และจะทำอย่างต่อเนื่อง ขอให้ทุกท่านร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการโปรโมทการท่องเที่ยว สุขทันทีที่เที่ยวไทย สร้างความทรงจำที่ประทับใจอย่างไม่รู้ลืมตลอดไป

จากนั้นเวลา 11.00 น. ที่ห้องประชุมตลาดจริงใจมาร์เก็ต นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือ (เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ และน่าน) โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ และน่าน เข้าร่วม นอกจากนี้ยังมี สส.เพื่อไทย นายรังสรรค์ มณีรัตน์ สส.ลำพูน นายธนาธร โล่ห์สุนทร สส.ลำปาง นายทรงยศ รามสูต สส.น่าน นายณัฐพงษ์ สุปริยศิลป์ สส.น่าน น.ส.ศรีโสภา โกฏคำลือ สส.เชียงใหม่ นพ.ทศพร เสรีรักษ์ และนายนิยม วิวรรธนดิฐกุล สส.แพร่

หลังรับฟังรายงานสรุปการท่องเที่ยวจากผู้ว่าราชการจังหวัด เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ และน่าน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความจริงแล้วที่ผู้ว่าฯเชียงใหม่รายงานจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามามากกว่าช่วงก่อนโควิด ระยะเวลาการอยู่ยาวขึ้นเล็กน้อย แต่ส่วนตัวอยากให้อยู่นานขึ้นอีก จ.เชียงใหม่ เด่นด้านวัฒนธรรม ประเพณี เครื่องเขินเครื่องเงิน ต่างๆ เชื่อว่าเราเด่นชัดอยู่แล้ว แต่ในช่วง 7-8 เดือนเปลี่ยนไปเยอะ สนามกอล์ฟเป็นสวรรค์ของนักกอล์ฟ เรามีหลายสนาม ฝากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้ไปดูตรงนี้ด้วย รวมถึงการไปมาหาสู่เป็นเรื่องที่สำคัญ อยากให้มีการประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่าง AOT Airline ต่างๆ ถ้ามีการเข้ามาจากนักท่องเที่ยวประเทศนั้นๆอาจจะเพิ่มสล็อตการบินเข้าประเทศให้ได้มากยิ่งขึ้น เหนือสิ่งอื่นใดเวลาเขาเข้ามาแล้วต้องได้รับความสะดวกสบายและความปลอดภัยด้วย จึงขอฝากไว้มีฝ่ายความมั่นคงเข้ามาประชุมครั้งนี้ ขอเน้นย้ำตรงนี้ให้ดี

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กีฬาปีนเขาที่มีการเสนอ เพราะมีคนนิยมชมชอบสูงมาก ตรงนี้เห็นด้วยและเข้าใจว่าเวลานักท่องเที่ยวมาครั้งหนึ่งนานมาก นอกจากนี้ยังมีที่จ.ราชบุรีอีก ที่ตนไปประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร เขางูก็สามารถทำให้เป็นที่ปีนเขาได้ ทีมงานกำลังทำอยู่ว่าจะสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง แต่ในส่วนของเชียงใหม่ ผู้ว่าฯบอกว่าอยู่ในความดูแลและความรับผิดชอบสามารถที่จะเปิดใหม่ได้ ก็ขอให้ดำเนินการตรงนี้ด้วย

นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่เป็นที่สงสัย จ.ลำพูนมีศักยภาพสูง เข้าใจที่เสนอมาที่มีสถานที่ท่องเที่ยวอันซีนเยอะมาก อัตลักษณ์ วัฒนธรรม มีความโดดเด่น เรื่องของการไปมาหาสู่เราชัดเจน มีสนามบินที่เชียงใหม่ ซึ่งเหนือสิ่งอื่นใดต้องยอมรับและต้องมาดูมหภาพใหญ่ของเศรษฐกิจว่าจริงๆแล้วผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (จีดีพี) ของจังหวัดอยู่ต่ำมาก และตกลงเรื่อยๆ คนก็ย้ายออกเยอะ กลายเป็นเมืองมีแต่คนแก่เหมือนไม่มีชีวิตชีวา ต้องย้ำว่าตรงนี้คือปัญหาใหญ่ของจ.ลำพูน แต่ข้อดีเรามีศักยภาพสูง อาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านโครงสร้าง เชื่อว่าวันนี้หลังจากไปดูพื้นที่พบปะกับผู้ว่าราชการจังหวัดและทีมงานของตนได้ทำการบ้านมา จะมีการเสนออะไร หลายๆอย่างสามารถปรับโฉมจ.ลำพูนให้เป็นเมืองน่าเที่ยวได้ ซึ่งอาจจะต้องทำงานเชิงรุกมากขึ้น อาจต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างหลายอย่าง โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้เชื่อว่าจะมีทางออกมาเสนอกันต่อไป

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงจังหวัดลำปาง ว่า มีศักยภาพสูงแต่เรื่องถนนที่ขอมา ได้มีการพูดคุยแล้วอยู่ในงบฯปี 68 และ 69 ซึ่งเสร็จแน่นอน และขอสนับสนุนให้ฟื้นกิจกรรมสารถีรถม้า ส่วนจ.แพร่ เป็นเมืองเสริมไม่ใช่มาแข่งขันกัน แต่พูดว่าเมืองรองเป็นการได้ค่า ให้เป็นเมืองน่าเที่ยวดีกว่า ดูแล้วมีอัตลักษณ์และวัฒนธรรมที่ดี ตรงนี้ยินดีสนับสนุนอย่างเต็มที่

นายเศรษฐา กล่าวว่า ขณะที่ จ.น่าน ตนสนับสนุนเป็นเมืองมรดกโลกตั้งแต่ตนเป็นแคนดิเดตนายกฯ ก็พยายามจะผลักดันควบคู่กับการอัปเกรดสนามบินให้สามารถบินได้ในเวลากลางคืน เป็นเมืองคู่แฝดหลวงพระบาง นักท่องเที่ยวจะได้มาจากหลวงพระบางและทางเมืองน่านด้วย ตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญนโยบายหลักของรัฐบาลอยากให้คนมาเที่ยวจากลาว กัมพูชา เวียดนาม และมาเลเซียด้วย ทั้งนี้ถ้า จ.น่านเป็นมรดกโลกได้ อย่างอื่นก็จะตามมา โดยเฉพาะสนามบินที่ต้องการให้เป็น International ซึ่งการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งต่อไป อาจจะขอให้ทีมงานสั่งการในที่ประชุมครม.ให้กระทรวงวัฒนธรรม ผลักดันให้จ.น่านเป็นเมืองมรดกโลก ซึ่งเชื่อว่านายเสริมศักดิ์ได้เดินเรื่องไว้แล้ว

“อยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นกลไกหนึ่งขับเคลื่อนและเป็นตัวกลางในการประสานทุกฝ่ายทำงานขับเคลื่อนข้าราชการและส่วนต่างๆ พร้อมฝากองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ซึ่งอบจ. ก็เป็นส่วนสำคัญอยากให้มีการประสานงานให้ดี” นายกรัฐมนตรี กล่าว

‘น้องเอิร์ท’ บัณฑิตใหม่จาก ‘ราชมงคลธัญบุรี’ กราบแทบตัก ป้าเจ้าของวิน ขอบคุณที่ให้ยืม ‘เสื้อวินมอเตอร์ไซค์’ แบบฟรีๆ ขี่ส่งตัวเอง จนเรียนจบปริญญา

เมื่อไม่นานมานี้ เพจ ‘สตาร์วาไรตี้’ ได้โพสต์เรื่องราวดีๆ สร้างรอยยิ้มให้กับทุกคน โดยได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ บัณฑิตใหม่ป้ายแดงจาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี มีใจความว่า ...

ขอชื่นชม ‘บัณฑิตหนุ่ม’ ไม่เคยลืมบุญคุณ กราบแทบตักป้าเจ้าของวิน ขอบคุณที่ให้ยืมเสื้อขับหาเงินส่งตัวเองเรียนจนจบปริญญาตรี

ถือเป็นโมเมนต์ซึ้งใจของ ‘นายธนาคาร ทองสุข’ หรือ ‘น้องเอิร์ท’ บัณฑิตใหม่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

ก้มกราบแทบตักขอบคุณคุณป้าเจ้าของวินมอเตอร์ไซค์ ซึ่งเป็นผู้มีพระคุณเมตตาให้ยืมเสื้อวินมอเตอร์ไซค์แบบฟรี ๆ เพื่อขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างหารายได้ระหว่างเรียน

ในที่สุดก็สามารถส่งตัวเองเรียนจนจบปริญญาตรี

ขอบคุณเรื่องราว : วิรัช โหตระไวศยะ

‘รถถัง จิตรเมืองนนท์’ เผย ไม่ได้ชกมวยมาเกือบปี เพราะ ‘มือขยับไม่ได้’ พร้อมระบาย!! ‘ท้อมาก-รู้สึกกดดัน’ หากแพ้ คงไม่มีที่ยืนบนเวทีอีกต่อไป

(8 มิ.ย.67) ศึก ONE 167: ตะวันฉาย vs โจ II ที่อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.67 คู่ไฮไลต์ที่ได้รับความสนใจ เป็นการกลับมาขึ้นชกในรอบ 9 เดือนของ ‘ดิไอรอนแมน’ รถถัง จิตรเมืองนนท์ ราชันมวยไทย รุ่นฟลายเวต (125 – 135 ป.) ลงดวลกับ เดนิส พูริช ในกติกาคิกบ็อกซิ่ง

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ ในพิธีชั่งน้ำหนัก รถถัง จิตรเมืองนนท์ ทำน้ำหนักไม่ได้ตามกำหนด เกิน 3.5 ปอนด์ ก่อนจะมีการเจรจากันซึ่งรถถัง ออกมาขอโทษ และยอมจ่ายค่าชดเชยให้กับ เดนิส เพื่อชกกันในพิกัด แคตช์เวต หรือ 141.25 ปอนด์ ตามกติกาคิกบ็อกซิ่ง

เริ่มชกยกแรก รถถัง ที่สปีดหมัดดีกว่า สาดอาวุธเข้าใส่ พูริช แบบไม่ยั้ง ทำให้ พูริช เริ่มมีรอยแตกที่บริเวณแก้ม และโงนเงนในช่วงท้ายยก ซึ่ง รถถัง เห็นดังนั้นก็พยายามเร่งเครื่องปิดเกม แต่สุดท้ายมีเสียงระฆังช่วยไว้ก่อน

เข้าสู่ยกสอง รถถัง ยังเดินหน้าออกหมัดบวกเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง ขณะ พูริช เองก็ปักหลักสู้ไม่ถอยเช่นกัน ทำให้จบยกนี้ทั้งคู่แลกกันสนุก

ต่อที่ยกสามทั้งคู่ยังเดินหน้าแลกกันสนุก โดยรถถัง งัดอาวุธมาประเคนใส่ พูริช แบบครบเครื่อง ทั้งตัดลำตัว และใบหน้า ก่อนจะครบ 3 ยก กรรมการชูมือให้ รถถัง จิตรเมืองนนท์ ชนะคะแนนไปแบบสะใจ

หลังการชก รถถัง ได้ร่ำไห้ พร้อมระบายเกี่ยวประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องน้ำหนักเกิน ว่า 

“ก่อนอื่นผมขอระบาย ผมไม่ได้ชกมวยมาเกือบปี น้ำหนักผมก็เกินมาเยอะ เพราะผมรักษามือขยับไม่ได้ คนนอกอาจไม่รู้ เพราะผมปิดบังมาโดยตลอด ก่อนผมมาชกวันนี้ ตั้งแต่ผลน้ำหนักออก ผมเจอดราม่าเยอะมาก ผมเต็มที่ ผมอยากชกมวยมาก แต่ผมมีอาการบาดเจ็บ พอเจอดราม่า ผมท้อมาก ผมรู้สึกกดดัน ถ้าแพ้วันนี้ผมจะยืนบนเวทีนี้ต่อไปได้หรือเปล่าไม่รู้ แต่วันนี้ผมทำสำเร็จแล้ว ขอขอบคุณทุกคนที่รักและชื่นชมผม”

‘สว.วันชัย’ จี้ ‘รัฐบาล’ ควรเร่งออก กฎหมายนิรโทษกรรม ชี้!! ควรอภัยให้ ‘ทุกสี-ทุกฝ่าย’ ให้ถือว่าเป็น เพื่อนร่วมชาติ

(8 มิ.ย.67) นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก เรื่อง นิรโทษกรรม….ควรทำโดยเร็ว โดยระบุว่า 

การให้อภัยต่อกันเป็นการดีที่สุด จบได้ควรจบ เลิกได้ควรเลิก บ้านเมืองจะได้เดินต่อไปได้ ด้วยความปรองดองสมานฉันท์ เกือบ 20 ปี เราทะเลาะกัน ขัดแย้งกัน แล้วได้อะไร มีแต่ความย่อยยับเสียหายทางเศรษฐกิจเป็นแสนล้าน คนบาดเจ็บล้มตายพิกลพิการเป็นจำนวนมาก เข่นฆ่าทุบตีทำร้ายกันทั้งเผาทำลายอาคารสถานที่ มีการชุมนุมประท้วงเดินขบวนปฏิวัติรัฐประหารผ่านกันมาหมดแล้ว เสียหายก็เสียไปแล้ว คนเจ็บก็เจ็บไปแล้ว คนตายก็ตายไปแล้ว คนติดคุกก็ติดไปแล้ว ปฏิวัติก็ปฏิวัติไปแล้ว ทั้งหมดมาจากการเมืองทั้งสิ้น แล้วเราจะปล่อยให้ความขัดแย้งนี้มีอยู่ทำไม ดีที่สุดก็คือ เลิกแล้วต่อกัน เริ่มต้นกันใหม่ไม่ดีกว่าหรือ

1. รัฐบาลเศรษฐาควรรีบออกกฎหมายนิรโทษกรรม กรณีที่มีเหตุจูงใจทางการเมืองโดยเร็ว ไม่ต้องไปรออะไร สถานการณ์นี้เหมาะสมที่สุดแล้ว

2. การนิรโทษกรรมคือการให้อภัยกันทุกฝ่าย ทุกสี ทุกกลุ่ม ทุกเหตุการณ์ และควรเปิดกว้างอย่าไปมองว่าใครได้ใครเสีย ใครเป็นกลุ่มของใคร ไม่ว่าจะเป็นเด็กผู้ใหญ่เยาวชนหนุ่มสาว ให้ถือว่าเป็นเพื่อนร่วมชาติ

3. ควรมีคณะกรรมการซึ่งเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ทำหน้าที่พิจารณาว่ากรณีใด ควรได้รับการนิรโทษหรือไม่อย่างไร โดยเฉพาะ ม.112 กรรมการชุดนี้และผู้มีอำนาจก็ควรจะรู้ได้ว่า ควรจะทำด้วยประการใดอย่างไรหรือไม่ จึงจะมีความเหมาะสมและสมควร

4. ควรมีการออกกฎหมายล้างมลทินประกอบไปด้วยก็จะดี

ผมเห็นตั้งท่ากันมานานแล้วแต่ก็ไปไม่ถึงไหน รัฐบาลเศรษฐารีบทำเสียเถอะ จะเป็นมหากุศลกับทุกฝ่าย และที่สำคัญจะเป็นมหากุศลที่ยิ่งใหญ่กับประเทศไทย….แล้วมาทำบุญที่วัดไก่เตี้ย เขตตลิ่งชัน กันนะครับ

‘ด.ช.ระ-รัน-รอน’ นักเรียนชั้นป.2 เจ้าของชื่อสุดแปลกที่แปลว่า ‘บุคคลผู้เป็นที่รัก’ เผย!! ภูมิใจในชื่อนี้ เพราะแม่ตั้งให้ก่อนจะเสียชีวิต ชี้!! มีความหมายที่ดีมาก

(8 มิ.ย.67) ที่โรงเรียนบ้านน้ำราบ ต.บางสัก อ.กันตัง จ.ตรัง มีเด็กชายอายุ 8 ขวบ เป็นนักเรียนชั้นป.2 มีชื่อที่แปลกกว่าคนอื่น ๆ จนคุณครู นักเรียนและผู้ที่พบเห็น ต่างพากันพยายามสะกดตาม แต่หลายคนก็อ่านชื่อน้องไม่ออก ซึ่งชื่อของน้องคือ ด.ช รรรรรร พระคง (น้องอาซิม) ที่เขียนด้วยพยัญชนะ ร.เรือติดกันถึง 6 ตัว โดย น.สนุชรี ลีลาวรกุล อดีตครูประจำชั้นป.1 ของน้องอาซิม อ่านให้ฟังว่า น้องชื่อ ด.ช ระ-รัน-รอน ซึ่งแปลว่าบุคคลอันเป็นที่รักของครอบครัว โดยชื่อ รรรรรร (ระรันรอน) ถ้าเป็น ร.เรือตัวเดียวอ่านว่า ระ, ร.เรือ 2 ตัวอ่านว่า รัน, ร.เรือ 3 ตัวอ่านว่ารอน

ซึ่งคุณแม่ของน้องอาซิม เป็นคนตั้งให้ ทำให้น้องเป็นที่รู้จักของทุกคนที่พบเห็น ซึ่งต่างฮือฮากับชื่อของน้องมาก แต่ตอนนี้คุณแม่ของน้องเสียชีวิตแล้ว น้องจึงอยู่กับคุณย่า และขาดเรียนบ่อยเพราะร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง แต่เวลามาโรงเรียนก็จะวิ่งเล่นกับเพื่อน ๆ อย่างสนุกสนาน เป็นเด็กตั้งใจเรียน เข้ากับเพื่อนได้ดี และเป็นที่รักของคุณครูทุกคนในโรงเรียน ขณะที่อดีตครูประจำชั้นป.1 ยอมรับว่า ตนเป็นครูสอนนักเรียนทั้งภาคเหนือ ภาคกลางและภาคใต้มานานกว่า 20 ปีแล้ว แต่เพิ่งพบนักเรียนชื่อแปลก แบบนี้เป็นคนแรกในชีวิต

โดยน้องอาซิมฝันโตขึ้นอยากเป็นตำรวจ เพื่อจะได้ปราบโจรผู้ร้าย และไม่คิดจะเปลี่ยนชื่อ เพราะเป็นชื่อที่คุณแม่ตั้งให้ เห็นว่าแปลกดี ความหมายดี แม้จะอ่านยาก จนเพื่อน ๆ พากันขำขัน และตนต้องเป็นคนอ่านและแปลให้ แต่ก็ภูมิใจกับชื่อ ‘รรรรรร’ มาก ซึ่งที่โรงเรียนก็ไม่มีใครมีชื่อที่แปลกเหมือนกับตน

น.ส นุชรี ลีลาวรกุล อดีตคุณครูประจำชั้นป.1 กล่าวว่า ถ้าเพื่อน ๆ เห็นก็จะ ร.เรือ 6 ตัว เพื่อนอ่านไม่ออกว่าชื่ออะไร ระรันรอนจึงต้องเป็นคนตอบว่าชื่อ ระรันรอน แม่เขาเป็นตั้งไว้ให้ ส่วนคุณครูที่เข้ามาใหม่ตอนแรกเห็นปุ๊บ ตอนอยู่ป.1 ก็ถามว่าชื่ออะไร เพราะสามารถอ่านได้ 2 แบบคือ รอนระรัน หรือระรันรอน แต่พอถามเขา เขาบอกว่าชื่อระรันรอน ส่วนตนเพิ่งเคยเจอลูกศิษย์ชื่อแปลกคนนี้คนแรก เขียนชื่อได้เร็ว เพราะ ร.เรือทั้งนั้น

ส่วนชื่อเล่นชื่อน้องอาซิม มีความฝันอยากจะเป็นตำรวจ เพราะจะได้ช่วยเหลือผู้คน ผลไม้ชอบกินแอปเปิ้ล กับข้าวชอบกินผัดกะเพราไข่ดาว ซึ่ง ด.ช ระรันรอน มาเรียนที่นี่ตั้งแต่ชั้นอนุบาล1 จนขั้นป.1 และเพิ่งเปิดเทอมป.2 ได้ 3 สัปดาห์ นิสัยเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยพูด น่ารักไม่เกเร เรียนอยู่ลำดับกลาง ๆของห้องเพราะสุขภาพไม่ค่อยดี ป่วยบ่อยเลยไม่ค่อยได้มาโรงเรียนทุกวันเหมือนคนอื่น

‘รฟท.’ เปิดเส้นทางเดินรถไฟ ‘สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์– เวียงจันทน์’ เพื่อ ‘กระตุ้นเศรษฐกิจ-ส่งเสริมการท่องเที่ยว-ยกระดับโลจิสติกส์’

(8 มิ.ย.67) นายอวิรุทธ์ ทองเนตร รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5-8 มิถุนายน 2567 ตนได้เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนการรถไฟแห่งประเทศไทยเดินทางไปร่วมประชุมกับ Mr.DaochindaSIHARATH Managing Director of LAO NATIONAL RAILWAYS (รัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งชาติลาว) เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดเดินขบวนรถระหว่างสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ที่มีกำหนดเปิดให้บริการเป็นทางการในเดือนกรกฎาคมนี้

ซึ่งจะเป็นการขยายความร่วมมือในการเชื่อมต่อการเดินทางของประชาชน และขนส่งสินค้าของทั้งสองประเทศ ตลอดจนยกระดับระบบโลจิสติกส์ของภูมิภาค โดยมีประเทศไทยเป็นศูนย์กลางตามนโยบาย IGNITE THAILAND ของรัฐบาล

นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การเดินทางไปร่วมประชุมฯ ครั้งนี้เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดเดินขบวนรถระหว่างสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) เป็นไปตามนโยบายของนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ต้องการให้การรถไฟฯ มีการเตรียมความพร้อมขั้นสูงสุดในทุกด้าน ๆ ก่อนที่จะมีเปิดให้บริการเดินรถเต็มรูปแบบในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้

ทั้งนี้ ในการหารือระหว่างการรถไฟฯ กับรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งชาติลาวได้มุ่งเน้นประเด็นหารือใน 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ 

1.แผนการเปิดเดินรถระหว่างสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – อุดรธานี –หนองคาย – เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) รวมถึง แผนการทดลองเดินรถเสมือนจริง ซึ่งกำหนดไว้ในระหว่างวันที่ 13 -14 กรกฎาคม 2567

2.แผนพัฒนาตลาดด้านการท่องเที่ยว 

3.แผนการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ 

4. การเพิ่มศักยภาพด้านการขนส่งสินค้าระหว่าง ไทย – ลาว- จีน 

โดยกำหนดให้มีการจัดตั้งคณะทำงานร่วมเพื่อหารือด้านการขนส่งสินค้าข้ามแดน/ผ่านแดนระหว่างประเทศ ซึ่งการรถไฟฯ ได้ให้ความช่วยเหลือในการให้ความรู้ในการฝึกอบรมแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งชาติลาวในด้านปฏิบัติการเดินรถมาโดยตลอด ทั้งด้านพนักงานขับรถ พนักงานสถานี และพนักงานขายตั๋ว

นอกจากนี้ ที่ผ่านมายังได้ร่วมมือกันทำการทดลองและทดสอบการเดินขบวนรถไฟระหว่างสถานีอุดรธานี-สถานีหนองคาย-สถานีท่านาแล้ง-สถานีเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) แล้วเสร็จไปเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2567 โดยผลการทดสอบเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีปัญหาอุปสรรคในการเดินรถใดๆ

นายเอกรัช กล่าวว่า การเปิดเดินขบวนรถระหว่างสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – อุดรธานี – หนองคาย – เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ในครั้งนี้ จึงนับเป็นการขยายความร่วมมือครั้งสำคัญของทั้ง 2 ประเทศ จากปัจจุบันที่สามารถเปิดเดินรถถึงสถานีท่านาแล้ง (สปป. ลาว) และเมื่อสามารถให้บริการได้เต็มรูปแบบจนถึงสถานีเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) จะก่อให้ประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยวอย่างมหาศาล

โดยสามารถรับส่งผู้โดยสารที่เดินทางโดยเครื่องบิน มาลงยังสนามบินอุดรธานี เพื่อเดินทางต่อเข้าไปนครหลวงเวียงจันทน์ได้ โดยไม่ต้องต่อรถโดยสารอื่น ซึ่งเป็นการยกระดับระบบโลจิสติกส์ของทั้งสองประเทศ สอดคล้องกับนโยบาย IGNITE THAILAND ของรัฐบาลที่ต้องการขับเคลื่อนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว และ โลจิสติกส์ของภูมิภาคอีกด้วย

'รางรถไฟ' ขนส่งหลักของไทยตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 มรดกความเจริญจาก 'รัชกาลที่ 5' ส่งไทยเป็นไทยได้เท่าทุกวันนี้!!

(9 มิ.ย.67) นายยุทธยงศ์ ลิ้มเลิศวาที สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์ข้อควาผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

เส้นทางรถไฟสายใต้จากกรุงเทพไปสถานีบัตเตอร์เวิร์ทรัฐปีนังของประเทศมาเลเซีย ต้องผ่านหน้าบ้านผมคืออำเภอนาบอน 

สะพานเหล็กที่เห็นอายุมากแล้ว ก่อนที่ประเทศไทยจะมีถนนเพชรเกษมสะดวกสบายทุกวันนี้ รางรถไฟเป็นโลจิสติกส์ขนส่งหลักของประเทศตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เพื่อเชื่อมร้อยรัฐสยามให้เป็นหนึ่งเดียว 

ผู้คนคงตั้งคำถามว่า เหล็กรางรถไฟ สะพานเหล็ก ยุคนั้นรัฐสยามเอามาจากไหน? เราผลิตเองไม่ได้?

รัชกาลที่ 5 ทรงสั่งซื้อทั้งหมดมาจากอังกฤษ ล่องเรือขนมาที่ท่าเรือสิงคโปร์ และเข้ามาทางท่าเรือกันตัง จ.ตรัง ปูนซีเมนต์เหล็กรางรถไฟ สะพานเหล็กที่เห็น ต้องใช้ช้าง เรือ ขนผ่านป่าดงพงไพร เพื่อมาให้กุลีชาวจีน และวิศวกรยุโรป นำมาวางสร้างเป็นทางรถไฟตราบเท่าทุกวันนี้ 

การใช้ช้าง ใช้ม้า ใช้เรือขนเหล็กวัสดุสร้างระบบรถไฟขึ้นในรัฐสยามนั้น คิดย้อนไปมันไม่ง่ายเลยกว่าเราจะมีประเทศไทยเท่าทุกวันนี้!!!


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top