Tuesday, 6 May 2025
TheStatesTimes

'รศ.ดร.สุวินัย' มองปรากฏการณ์!! 'อำนาจ-ศรัทธา-อนาคต' ที่บางตา เกม 'ตัดวงจรอำนาจสังคมไทย' ที่ก๊วนส้มเชื่อมไม่ถึงใจด้อมอีกต่อไป

(8 มิ.ย.67) รองศาสตราจารย์ ดร.สุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ในหัวข้อ :วาทกรรม 'ตัดวงจรอำนาจของสังคมไทย' (Breaking the Cycle) กับปฏิทรรศน์ (Paradox) เรื่องการเปลี่ยนแปลงโลกกับการเปลี่ยนแปลงตนเอง' ระบุว่า...

>> การที่มี 'มวลชนส้ม' เข้าไปโรงหนังเพื่อดูหนังสารคดีที่เกี่ยวกับบทบาททางประวัติศาสตร์ของธนาธรและพรรคอนาคตใหม่ภายใต้ชื่อ 'อำนาจ ศรัทธา อนาคต : Breaking the Cycle' ค่อนข้างบางตาอย่างผิดคาด จนถูกอีกฝ่ายเอามาแซะหรือล้อเลียนในโซเชียลนั้น ... มันบ่งชี้ชัดเจนว่า ความสัมพันธ์เชิงจัดตั้งและเชิงปฏิบัติการมวลชน (Mass Action) ระหว่างพรรคก้าวไกลซึ่งเป็นทายาทของพรรคอนาคตใหม่กับมวลชนส้มของพรรคนั้น ... มันบอบบาง ชั่วคราว ไม่ถาวร และเอาแน่เอานอนไม่ได้ ก็เท่านั้นเอง

>> ปรากฏการณ์จุดกระแสไม่ติดครั้งนี้ อาจทำให้มองได้ด้วยซ้ำว่าคะแนนเลือกตั้ง 14 ล้านเสียงที่พรรคก้าวไกลได้มานั้น กว่าครึ่งคงมาจากนโยบายอภิมหาประชานิยม 'แจกเงินคนชราเดือนละ 3,000 บาท' ที่พรรคก้าวไกลออกมาในช่วงเจ็ดวันสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง มากกว่าศรัทธาในแนวทางและอุดมการณ์ปฏิกษัตริย์นิยมของพรรคก้าวไกลเป็นหลัก ... จะว่าไปแล้วนี่คือ 'คุณภาพ' ของคนที่ไปเลือกตั้งจำนวนมากที่ตัดสินใจลงคะแนนตามสิ่งล่อใจจำพวกนโยบายอภิมหาประชานิยมที่พวกนักการเมืองเอามาล่อ มากกว่าจะลงคะแนนตามหลักเหตุผลเพื่อ 'ส่วนรวม' ซึ่งเป็นจิตวิญญาณที่แท้จริงของประชาธิปไตย

>> ถ้าธนาธรหรือพรรคก้าวไกลชูธงว่า 'จะตัดวงจรอำนาจของพวกนักการเมืองที่กินเมืองให้สิ้นซาก' แทนที่จะชูนโยบายปฏิกษัตริย์นิยมที่ตั้งอยู่บนความเชื่อผิด ๆ ของพวกตนว่า "สถาบันกษัตริย์คือต้นเหตุของปัญหาอำนาจทั้งปวงของประเทศนี้ที่จำเป็นต้องตัดวงจรอำนาจนี้ให้ขาดสะบั้น" ... ผู้เขียนคิดว่าพวกเขาคงจะประสบความสำเร็จที่ยั่งยืนกว่าในปัจจุบัน

>> จะว่าไปแล้ว การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอำนาจในสังคมไทย หรือการตัดวงจรอำนาจในสังคมไทย มันเป็นงานใหญ่ระดับพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินก็ว่าได้ ... จริงอยู่มันมิใช่เป็นไปไม่ได้ แต่ประวัติศาสตร์ของทุกประเทศทั่วโลกมันสอนเราว่ามันเป็นเรื่องยากมาก ๆ ระดับร้อยปีหรือหลายร้อยปีถึงจะเกิดสักครั้ง และกว่าจะเกิดขึ้นมาจริง มันจะต้องผ่านสงคราม ผ่านการนองเลือดสละชีวิตผู้คนนับล้าน ๆ คนก็ใช่ว่าจะทำสำเร็จได้ดังใจหวัง มิหนำซ้ำ 'ความจริงใหม่' ที่เกิดขึ้นอาจเลวร้ายยิ่งกว่าเมื่อก่อนด้วยซ้ำ ... คนส่วนใหญ่แน่ใจจริง ๆ หรือว่าอยากได้เส้นทางอนาคตที่ 'พลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน' ภายใต้การนำของพรรคนี้

>> ก็เหมือนอย่างมายาคติ หรือวาทกรรมที่สร้างขึ้นมาว่า "ถ้าปิดสวิตซ์ 3 ป. คือตัดวงจรอำนาจของทหารและการรัฐประหารได้ แล้วเศรษฐกิจจะดีขึ้น คนไทยจะรวยขึ้นอย่างแน่นอน" ... ความจริงใหม่ที่เกิดขึ้นหลังจากที่ปิดสวิตซ์ 3 ป. ได้แล้วเป็นยังไง ก็จงเบิกตาดูความเป็นจริงตรงหน้าตอนนี้ให้ดีเถิด

>> ผู้เขียนซึ่งผ่านวัยหนุ่มวัยสาวที่มีอุดมคติอุดมการณ์ที่ร้อนแรงมาก่อนย่อมตระหนักดีว่า 'การเปลี่ยนแปลงโลก' กับ 'การเปลี่ยนแปลงตนเอง' เป็นสองสิ่งที่ต้องทำไปพร้อม ๆ กัน จะมุ่งแต่การเปลี่ยนแปลงโลกโดยไม่คิดเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อน หาใช่เรื่องที่ควรกระทำไม่ เพราะมันจะนำมาซึ่งความผิดหวังและความสิ้นหวังอย่างแน่นอน

>> พรรคก้าวไกลคงจะถูกยุบค่อนข้างแน่ พรรคใหม่ของคนรุ่นใหม่ที่จะมาสืบทอดแทนพรรคก้าวไกลควรเก็บบทเรียนที่ผิดพลาดและพลาดพลั้งในอดีต เพื่อเติบใหญ่เป็นพรรคการเมืองของคนรุ่นใหม่ที่สามารถตัดวงจรอำนาจของพวกนักการเมืองที่กินเมืองให้สิ้นซากได้จริง

- พรรคใหม่ของคนรุ่นใหม่ ควรชู 'นโยบายปฏิรูปตำรวจ' แบบผ่าตัดใหญ่ เพื่อตัดวงจรอำนาจในวงการตำรวจ เป็นนโยบายหลักของพรรคแทนที่จะชู 'นโยบายปฏิรูปสถาบันกษัตริย์' จากจุดยืนปฏิกษัตริย์นิยม เหมือนอย่างในอดีต

- พรรคใหม่ของคนรุ่นใหม่ ควรชูนโยบายดึง 'เศรษฐกิจใต้ดิน' ที่มีขนาดใหญ่ราว ๆ 60% ของ GDP ไทย ขึ้นมาเป็นเศรษฐกิจบนดินอย่างเป็นทางการ จะได้ 'ปฏิรูปการเก็บภาษี' เพื่อขยายฐานการจัดเก็บภาษีเงินได้ในระบบอย่างทั่วถึง โดยเอาเงินภาษีจำนวนมหาศาลที่รัฐเก็บเพิ่มได้ มาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ และการบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการทั้งระบบ รวมทั้งพัฒนาทักษะดิจิทัลให้คนไทยทั้งประเทศ

‘BENZ BKK บางนา’ ร่วมฉลอง ‘Pride Month’ จัดโชว์รูมต้อนรับทุกเพศ พร้อมจัดแคมเปญให้ ‘เบนซ์คันโปรด’ เป็น ‘พื้นที่ปลอดภัย’ สำหรับทุกคน

เมื่อไม่นานมานี้ เบนซ์ บีเคเค กรุ๊ป-บางนา Mercedes-Benz Experience Center ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย จับมือ สีพ่นรถยนต์ระดับพรีเมียม GLASURIT (สีนกแก้ว) ผู้นำด้านสีพ่นรถยนต์ระบบสีสูตรน้ำสุดยอดเทคโนโลยีสีจากประเทศเยอรมนี ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาล ‘Pride Month’ ด้วยสีสันแห่งความหลากหลาย ภายใต้แคมเปญ Pride Month Pride Ride ยกโชว์รูม และรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์คันโปรด ให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน พร้อมเนรมิตทางม้าลายสีรุ้ง เชื่อมต่อทุกพื้นที่ @โชว์รูมเบนซ์ บีเคเค บางนา 

นางสาวตวงรัตน์ ลิขิตพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เบนซ์ บีเคเค กรุ๊ป กล่าวว่า เพื่อเป็นการตอกย้ำความเป็น Lifestyle Showroom และสร้างให้เกิด Pride vibes จึงตกแต่งโชว์รูมพร้อมเชื่อมความหลากหลายด้วยพื้นที่ปลอดภัยกับ ‘รถเบนซ์คันโปรด’ ทั่วทั้งโชว์รูม โดยเริ่มตั้งแต่ทางม้าลายสายรุ้งด้านหน้า พร้อมด้วยโปรโมชั่น และกิจกรรมพิเศษอัดแน่นตลอดเดือน มิถุนายนนี้ ไม่ว่าจะเป็น

โชว์รูม : ที่โชว์รูมเบนซ์ บีเคเค บางนา เปิดให้บริการทุกวัน มีรถทดลองขับรองรับบริการมากกว่า 15 รุ่น พร้อมผู้เชี่ยวชาญผลิตภัณฑ์ ให้คำแนะนำ และตอบคำถามทุกข้อสงสัย และเพียงนัดหมายทดลองขับ รับฟรี! BKK’s Pride Goodie Bag (Limited Edition)

Benz BKK Certified : MID YEAR DEALS ดีลดีที่สุดกลางปี กับรถเบนซ์มือสอง ไมล์น้อยสภาพนางฟ้า พิเศษ!เมื่อจองและทำสัญญาทางการเงินกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ โมบิลิตี้ภายในงาน ระหว่างวันที่ 1-30 มิถุนายน 2567 รับฟรี!บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท และ 21-23 มิ.ย. 3 วันเท่านั้น!! กับงาน Benz BKK Certified Executive Car Day รับทันที! The New iPAD Air M2 มูลค่า 26,100 บาท เมื่อจองรถในกลุ่ม Mercedes-EQS, S-Class และ Marshall Minor4 มูลค่า 4,990 บาท เมื่อจองรถรุ่นอื่นๆในงาน

ศูนย์บริการหลังการขาย : เพียงนำรถเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการ รับทันที! BKK’s Pride Goodie Bag (Limited Edition), ที่ศูนย์บริการซ่อมสี และตัวถัง เมื่อเปิดใบเคลม มูลค่า 100,000 บาทขึ้นไป รับฟรี! กระเป๋าเดินทางBKK Travel Trunk มูลค่า 7,990 บาท

Workshop : ทุกวันเสาร์ตลอดเดือนมิถุนายน พบกับกิจกรรมเวิร์คชอป Marbling Art Workshop จากร้านดัง @marblinmarblin งานศิลปะบนพื้นผิวน้ำ พิมพ์ลงโมเดล ให้เป็นแรร์ไอเทมตัวเดียวในโลกสำหรับคุณ (สำหรับลูกค้าที่นำรถเข้ารับบริการและมียอดใช้จ่าย 10,000.- บาทขึ้นไป) รวมถึงลูกค้าที่จองรถในงานระหว่างวันที่1-30 มิถุนายน 2567

BKK Café : เมนูพิเศษ ‘BKK Rainbow Cakes’ เสิร์ฟพร้อมเครื่องดื่มแก้วโปรด นอกจากนั้น ก็ยังมีการออกแบบปลอกแก้ว (Cup Sleeve) ลายพิเศษ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองอีกด้วย

‘กรณ์’ โพสต์เฟซบุ๊ก เชียร์ ‘นโยบายหวยเกษียณ’ ชี้!! มีเจตนาที่ดี ทำให้คนไทยมี ‘เงินออม’ มากขึ้น

(8 มิ.ย.67) นายกรณ์ จาติกวณิช โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊ก ‘กรณ์ จาติกวณิช - Korn Chatikavanij’ ระบุว่า

ผมชอบนโยบาย #หวยเกษียณ ของรัฐบาลครับ! 

และชอบมากที่รัฐบาลเลือกที่จะให้สิทธิกับสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) 

ใครถูกรางวัลก็ได้ไป แต่หากใครไม่ถูก ..เงินที่ซื้อหวยรัฐบาลไม่ถือเป็นรายได้รัฐ แต่ชาวบ้านได้เก็บเป็นเงินออมในบัญชีของผู้ซื้อ ซึ่งจะได้รับคืนเมื่อถึงวัยเกษียณ

แรงจูงใจปัจจุบันให้คนออมในกองทุนฯคือ ‘เงินสมทบจากรัฐบาล’ แต่เงินนี้น้อยเกินไป ไม่จูงใจพอ จึงทำให้มีสมาชิกวันนี้เพียง 3 ล้านคน (จริง ๆ ควรมีแล้วอย่างน้อย 10 ล้านคน)

นโยบายนี้จริง ๆ เป็นกุศโลบายที่ดี เพราะรัฐบาลต้องใช้เงินงบประมาณเพียง 700 ล้านบาทต่อปี (เงินรางวัล) น้อยกว่างบเงินสมทบหลายเท่า

อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ รัฐบาลจะให้เจ้าของบัญชีถอนเงินหวยทั้งก้อนได้เมื่ออายุครบ 60 ปี ในขณะที่เงินออม+เงินสมทบปกติตามกฎปัจจุบันจะได้รับตามงวดเป็นบำนาญ - ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่มาจากเจตนาดี แต่ทำให้สมาชิกหลายคนที่อยากได้เงินก้อนรู้สึกอึดอัด

'หวยเกษียณ' จะประสบความสำเร็จหรือไม่ส่วนสำคัญขึ้นอยู่กับว่าเงื่อนไขจะจูงใจคอ ‘หวยใต้ดิน’ ได้หรือไม่ 

ผมหวังว่าจะได้ไม่มากก็น้อย และหวังว่านโยบายนี้ประสบความสำเร็จ เพื่อคนไทยมีเงินออมมากขึ้นในอนาคต 

นโยบายแบบนี้ควรลองทำดู ได้มากกว่าเสีย เชียร์ให้เกิดขึ้นได้เร็วครับ

'เพจดัง' ชี้!! มีเศรษฐีรวยเงียบ ที่ 'ไม่มีเกียรติแต่มีกิน' รอให้เก็บภาษีอยู่อีกมาก ในจังหวะรายได้รายเดือน (ไม่สูง) จากคนที่อยู่ในระบบ เป็น 'เดอะแบก'

(8 มิ.ย.67) จากข้อความของเพจ 'คนงาม ฟินเน่' ซึ่งได้โพสต์เนื้อหา ระบุว่า...

อย่าดูถูกกัน!! #ไม่มีเกียรติแต่มีกิน ผมเคยเห็นคนขายก๋วยเตี๋ยวป๊อกๆ ใต้ทางด่วน 
ขายได้วันละ 7-8 พัน เดือนนึงกำไรไม่ถึงแสนก็เฉียดแสนต่อเดือน
ผมเคยเห็นคนขายไส้กรอกย่างชิ้นละบาท
ปั่นซาเล้งขายตอนกลางคืนขายได้วันละ 4-5 พัน  กลางวันขับรถคันเป็นล้านไปจ่ายตลาด
ผมเคยเห็น คนเข็นรถผลไม้
ขายได้วันละ 2-3 พัน แต่ขอโทษกำไรพวกนี้ 70%  เดือนๆ นึง มีเก็บเฉียดแสน
ผมเคยเห็นคนขายส้มตำไก่ย่าง
ขี่มอร์ไซค์พ่วงขายกับเมียสองคน
จอดตามไซด์งานก่อสร้าง จอดตามปั๊มน้ำมัน 
วันนึงมีกลับบ้าน 6-7 พัน กำไรครึ่งนึง เดือนนึงเกือบแสน
ผมเคยเห็นคนขายซูชิ 5 บาทตลาดนัด
ซื้อบ้านเงินสดหลังละ 5 ล้านมาแล้ว
ก็เล่นขายได้วันละ1-2 หมื่น จะซื้อไม่ได้ ได้ยังไง
5 บาทก็จริง เลือกไปเลือกมาคนเดียวเกือบร้อย!
คนเหล่านี้ รวยเงียบๆ
แม้ไม่ได้ใส่สูททำงานห้องแอร์
แต่ขอโทษ...พวกนี้เดือนนึงหาเงินได้มากกว่า
พนักงานทั่วไปถึง 10 เท่า
อย่าได้ดูถูกอาชีพเหล่านี้
อย่าได้ดูถูกคนที่เสื้อผ้า และสิ่งที่เห็น
คนพวกนี้ไม่มีหรอกนะบัตรเครดิต เขามีแต่เงินสด! คนพวกนี้มนุษย์เงินสด มนุษย์เงินล้าน 
ถ้าไม่ดีจริง เขาไม่ทิ้งนามาเข็นผลไม้ขายเต็มกรุงเทพหรอก
อย่าดูถูกกัน!! #ไม่มีเกียรติแต่มีกิน
ขอบคุณบทความ สิริทัศน์ สมเสงี่ยม
ขอบคุณภาพประกอบจาก สะพานใหม่

***ขณะที่เพจ 'สานต่อเจตนารมณ์ อาจารย์สมเกียรติ โอสถสภา' ก็ได้แสดงความคิดเห็นต่อข้อความจากโพสต์ดังกล่าว ในมุมของเหล่าเศรษฐีรวยเงียบ ไว้ด้วยว่า...

เป็นบทความให้พลังบวกที่อ่านแล้วประทับใจมาก…จนอยากให้สรรพากรหาแนวทางเก็บภาษีจากเศรษฐีรวยเงียบเหล่านี้ซักที

กำไรเป็นแสนต่อเดือนแบบนี้ รายได้ต้องระดับสองแสนต่อเดือน แบบนี้ภาษีเงินได้ขั้น 20% ต้องได้สัมผัสแล้วนะ

ประเทศไทยเป็นประเทศที่หากินเงินภาษีจากคนที่อยู่ในระบบเป็นอย่างมาก ทั้งๆ ที่ส่วนมากแล้วเป็นพนักงานออฟฟิศ ลูกจ้าง ข้าราชการ ที่รายได้ไม่ได้สูงอะไรมากมาย 

เป็นชนชั้นกลางที่ทำงานทั้งเดือนเพื่อรับเงินเดือนมากินสองอาทิตย์แรกของเดือน

เศรษฐกิจใต้ดิน (Black Market) ระดับ 50-70% ของ GDP ของประเทศไทยนี่คือ เงินภาษีอีกมหาศาล 

มีเศรษฐีรวยเงียบรอให้เก็บภาษีอีกเยอะ

States TOON EP.163

ฤดูฝน!!

***สงวนลิขสิทธิ์ภาพดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามมิให้ผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียนแบบ ดัดแปลง หรือนำส่วนใดส่วนหนึ่งไปใช้ แต่อนุญาตให้นำไปเผยแพร่ต่อได้ ตามต้นฉบับนี้ โดยไม่ต้องขออนุญาต 

‘รัฐบาล’ เตรียมดันปีหน้าให้เป็น ‘ปีที่ยิ่งใหญ่การท่องเที่ยวไทย’ มุ่งเน้น ‘คุณภาพ-ภาพลักษณ์’ เพื่อการท่องเที่ยว อย่างยั่งยืน

(8 มิ.ย.67) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าส่งเสริมการท่องเที่ยวสอดรับนโยบาย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อทำให้ปีหน้า (2568) เป็นปีที่ยิ่งใหญ่การท่องเที่ยวไทย พร้อมรองรับการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภูมิภาค (Tourism Hub) โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เชิญชวนร่วมงานส่งเสริมการขายด้านการท่องเที่ยวในรูปแบบ Business to Business (B2B) ในงาน Thailand Travel Mart Plus 2024 (TTM+ 2024) งานระดับนานาชาติที่ใหญ่และสำคัญที่สุดของไทย พร้อมนำเสนอแคมเปญ ‘Amazing Thailand : Your Stories Never End’ ระหว่างวันที่ 5-7 มิถุนายน 2567 ที่เขาหลัก จังหวัดพังงา คาดการณ์ว่า จะสร้างรายได้จากการเจรจาธุรกิจกว่า 3 พันล้านบาท

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุว่า ในงาน TTM+ 2024 นี้ เป็นการรวมตัว และจับคู่เจรจาธุรกิจของผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวกว่า 425 ราย จาก 50 ประเทศทั่วโลก มาร่วมเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการไทย (ผู้ขาย) ที่ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจโรงแรม รวมถึงบริษัทนำเที่ยว สถานบันเทิงและสันทนาการ และธุรกิจด้านคมนาคมขนส่ง โดยคาดว่าในการจัดงานปีนี้ จะเกิดการเจรจาธุรกิจไม่ต่ำกว่า 15,000 นัดหมาย หรือราว 36 นัดหมายต่อราย สร้างรายได้จากการเจรจาธุรกิจมากกว่า 3,000 ล้านบาท และกระจายรายได้สู่จังหวัดพังงา จากการจัดงานครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท

โอกาสนี้ ททท. ยังมุ่งเน้นการท่องเที่ยวที่ผสมผสานแนวคิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ผ่านการยกระดับการท่องเที่ยวทั้งเชิงคุณภาพและภาพลักษณ์ที่ดีให้ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ พร้อมส่งเสริมการมีส่วนร่วมและประสบการณ์การท่องเที่ยว สร้างความประทับใจที่ต่อยอดนำไปสู่การแบ่งปันเรื่องราวการท่องเที่ยวไทยอย่างไม่รู้จบ สอดรับกับแคมเปญ “Amazing Thailand : Your Stories Never End” นอกจากนี้ ยังมีการจัดงานในรูปแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผ่านการลงทะเบียนผู้เข้าร่วมงานในรูปแบบดิจิทัลด้วย E-Badge ลดการใช้กระดาษ มีการใช้ Mobile Application เพื่อการนัดหมายผู้ซื้อและผู้ขาย รวมทั้งบริหารจัดการขยะในพื้นที่จัดงาน การคำนวณ Carbon Footprint และมีการนำอาหารไปบริจาคให้แก่ผู้ขาดแคลนในพื้นที่ พร้อมส่งเสริมการตระหนักถึงปัญหาขยะ นับเป็นการดำเนินการขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนสู่เป้าหมายการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

“นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการสนับสนุนการท่องเที่ยว บูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อส่งเสริมเครือข่ายทางธุรกิจ รวมถึงการพัฒนาคุณภาพ ราคา และบริการด้านการท่องเที่ยว และยกระดับประสบการณ์การเดินทางให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ รัฐบาลยังดำเนินมาตรการอำนวยความสะดวกให้แก่การท่องเที่ยวมาแล้วอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในบางจังหวัดที่มีศักยภาพจะเริ่มกิจกรรมการท่องเที่ยวตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมและส่งต่อให้ปี 2568 เป็นปียิ่งใหญ่ด้านการท่องเที่ยวของไทย” นายชัย กล่าว

เร่งฟื้นฟู ‘สถานีรถไฟสงขลา’ หลังปล่อยร้าง มานานกว่า 40 ปี เตรียมผลักดันให้เป็น โบราณสถานอันทรงคุณค่า เพื่อการท่องเที่ยว

เมื่อไม่นานมานี้ มีการขนย้ายหัวรถจักรและโบกี้ตู้สินค้าเพื่อติดตั้งบริเวณสถานีรถไฟสงขลา ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา ตามโครงการทำการฟื้นฟูร่างรถไฟบริเวณสถานีรถไฟสงขลา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์และพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ชุมชนสถานีรถไฟ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ นอกจากนี้ยังเป็นการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้สอดคล้องกับแผนการพัฒนาเมืองสงขลา ให้เป็นเมืองมรดกโลกอีกด้วย

ปัจจุบันรถไฟสายสงขลาแห่งนี้ ได้ถูกยกเลิกการใช้งานไปตั้งแต่ 1 ก.ค. 2521 โดยสถานีรถไฟแห่งนี้ได้ถูกยกเลิก เนื่องจากเหตุผลว่า มีรายได้น้อยกว่ารายจ่าย รวมทั้งผู้คนใช้บริการน้อยลง หากรถไฟยังวิ่งอยู่อาจต้องขาดทุน เพราะเส้นทางหาดใหญ่-สงขลามีตัวเลือกทั้ง รถตู้โดยสาร รถส่วนตัว

ล่าสุดบรรยากาศที่สถานีรถไฟสงขลา ได้มีการนำขบวนรถไฟเก่ามาวางตั้งโชว์ รวมถึงหัวจักรในหลายขบวนมาตั้งโชว์ให้เป็นอนุสรณ์แหล่งการเรียนรู้ของชุมชน และไว้ให้นักท่องเที่ยวแวะเวียนมาถ่ายรูปกัน บนชานชาลาและทางเข้าหน้าสถานีมีวางของขายนักท่องเที่ยวเดินตลาดแล้วถ่ายรูปกับหัวรถจักรคึกคักกันตั้งแต่เช้า บรรยากาศในช่วงเช้าเต็มไปด้วยความสวยงาม มีตลาดนัดวันอาทิตย์ทำให้ชาวบ้านที่มาเที่ยวจ่ายตลาด สามารถนั่งทานน้ำชากาแฟ โดยจิบกาแฟแลรถไฟไปในตัว

นอกจากนี้ก็ยังมีการอนุรักษ์บริเวณบ้านพัก และบริเวณล้อมรอบก็จะทำเป็นสวนสาธารณะ เพื่อการพักผ่อนและออกกำลังกายของคนในชุมชน สำหรับสถานีรถไฟสงขลานั้น เป็นโบราณสถานแห่งหนึ่งในย่านเมืองเก่า ซึ่งในประเทศไทยมี 3 แห่งที่มีอายุเกิน 100 ปีได้แก่ สถานีรถไฟบางปะอิน สถานีรถไฟกันตัง และสถานีรถไฟสงขลา ซึ่งต้องดำเนินการให้เป็นโบราณสถานอันทรงคุณค่า เป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชน และสถานที่ท่องเที่ยวต่อไป

สำนักงานตำรวจแห่งชาติปิดการแข่งขันกีฬา โครงการจัดเตรียมนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬากองทัพไทย ประจำปี 2567 เสริมความสามัคคีและสมรรถนะร่างกายของตำรวจ

เมื่อวานนี้ (7 มิถุนายน 2567) เวลา 18.00 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผย.ตร.) เป็นประธานปิดโครงการจัดเตรียมนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬากองทัพไทย ประจำปี 2567 ณ สนามศุภชลาศัย เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร โดยมี พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.สกพ. และข้าราชการตำรวจจำนวนมากเข้าร่วมเชียร์กีฬาและร่วมพิธีปิดโครงการ 

ซึ่งในวันนี้มีการแข่งขันกีฬาฟุตบอลนัดชิงชนะเลิศ ระหว่างทีมตำรวจภูธรภาค 2 และทีมตำรวจภูธรภาค 9 ผลการแข่งขันปรากฏว่าทีมตำรวจภูธรภาค 9 สามารถคว้าชัยชนะไปได้ด้วยสกอร์ 4 ต่อ 2 จากนั้นเป็นการแข่งขันฟุตบอลทีมอาวุโส ระหว่างทีมตำรวจภูธรภาค 2 และทีมกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยทีมชนะเลิศได้แก่ ทีมกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ด้วยสกอร์ 2 ต่อ 1

นอกจากนี้ ยังมีการแข่งขันกีฬาสนุกสนานของข้าราชการตำรวจหน่วยต่างๆ และครอบครัวข้าราชการตำรวจ เข่น การแข่งขันวิ่งผลัด 4 สายงาน เป็นการวิ่งผลัดของตำรวจหน่วยงานต่างๆ โดย 1 ทีม จะประกอบด้วยสายงานสืบสวน จราจร ป้องกันปราบปราม และกองร้อยควบคุมฝูงชน แต่งกายในชุดปฏิบัติหน้าที่ โดยทีมที่ชนะเลิศ ได้แก่ ทีมตำรวจภูธรภาค 2 , การแข่งขันวิ่งผลัดสามัคคีครอบครัวตำรวจ ทีมชนะเลิศได้แก่ ทีมครอบครัวตำรวจภูธรภาค 2  

ในช่วงสุดท้ายเป็นพิธีปิดโครงการจัดเตรียมนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬากองทัพไทย ประจำปี 2567 โดยมีผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพลกล่าวรายงานวัตถุประสงค์ โดยการแข่งขันกีฬาภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นกิจกรรมที่สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการเสริมสร้างและพัฒนาสมรรถภาพทางกีฬาและร่างกายให้แก่ข้าราชการตำรวจ ในปีนี้มีการแข่งขันกีฬาทั้งหมด 17 ประเภทกีฬา เริ่มแข่งขันตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จนถึงพิธีปิดในวันนี้ 

จากนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ เป็นประธานมอบถ้วยและเหรียญรางวัลให้แก่นักกีฬาที่ชนะเลิศในการแข่งขันกีฬาประเภทต่างๆ ได้แก่ กรีฑา กอล์ฟ ตะกร้อ ต่อสู้และป้องกันตัว เทนนิส เทเบิลเทนนิส บาสเกตบอล แบดมินตัน เปตอง ฟันดาบ ฟุตซอล มวย ยิงปืน ยูโด วอลเลย์บอล ฟุตบอล และมอบรางวัลให้กับกลุ่มที่ได้รับคะแนนรวมสูงสุด ซึ่งได้แก่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางและกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว รวมทั้ง มอบรางวัลให้กับทีมที่ชนะเลิศวิ่งผลัด 4 สายงาน และวิ่งผลัดสามัคคีครอบครัวตำรวจ ด้วย

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับทีมชนะเลิศในการแข่งขันกีฬาแต่ละประเภท ซึ่งการแข่งขันกีฬานี้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติยินดีส่งเสริมโครงการดังกล่าว เพื่อเป็นการเสริมสร้างความสามัคคี และเพิ่มสมรรถนะร่างกายของตำรวจ ให้มีทักษะและมีประสิทธิภาพ เพื่อความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลพี่น้องประชาชน

กองทัพอากาศจัดกิจกรรมวิ่งการกุศล Air Force Run 2024 (Run to The Sky # I’m Strong)

กองทัพอากาศ ร่วมกับ จังหวัดเชียงใหม่ และ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์) จัดกิจกรรมวิ่งการกุศล Air Force Run 2024 (Run to The Sky # I’m Strong) เพื่อนำรายได้จากการจัดการแข่งขันสมทบทุนมูลนิธิพระมหาธาตุนภเมทนีดล พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ กิจกรรมสาธารณกุศลในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และมูลนิธิผู้พิทักษ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้ประชาชน หันมาสนใจในการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีเพิ่มขึ้นอีกด้วย โดยกำหนดจัดการแข่งขัน ในวันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน 2567 ณ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ 

กิจกรรมวิ่งการกุศล Air Force Run 2024 (Run to The Sky # I’m Strong) เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ และเป็นการผสานความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพื่อเสริมสร้างจิตสำนึกให้กับประชาชนทั่วไป ข้าราชการที่เข้าร่วมกิจกรรม และประชาชน ให้เห็นถึงความสำคัญของการออกกำลังกาย ซึ่งกิจกรรมนี้ กองทัพอากาศมุ่งหวังที่จะได้สร้างการรับรู้ให้กับประชาชนและหน่วยงานอื่น ๆ ให้ทราบถึงบทบาทหน้าที่ของกองทัพอากาศที่ปฏิบัติงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน โดยเฉพาะสถานีรายงานดอยอินทนนท์ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง ในการเฝ้าตรวจการรุกล้ำน่านฟ้าไทย ตลอดจนเพื่อประชาสัมพันธ์กิจการแหล่งท่องเที่ยวในเขตทหารของกองทัพอากาศ และร่วมกันชื่นชมความงดงามของพระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ ซึ่งเป็นพระมหาสถูปเจดีย์ที่ประดิษฐานอยู่บนพื้นที่ที่สูงที่สุด ในประเทศไทย ที่กองทัพอากาศจัดสร้างถวายพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 

สำหรับการแข่งขันวิ่งการกุศล Air Force Run 2024 (Run to The Sky # I’m Strong) แบ่งเป็นสองประเภท คือ ประเภท Sky Breaker ระยะ 16 กิโลเมตร เส้นทางเริ่มต้น ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ กม.31 สิ้นสุดที่สถานีรายงานดอยอินทนนท์ และ ประเภท Sky Touch ระยะ 5 กม. เส้นทางเริ่มต้น ณ พระมหาธาตุ นภเมทนีดล สิ้นสุดที่สถานีรายงานดอยอินทนนท์ ผู้เข้าแข่งขันจะได้รับเหรียญรางวัลสำหรับผู้เข้าเส้นชัยทุกท่าน นอกจากนี้ จะได้รับถ้วยรางวัลสำหรับผู้ชนะเลิศอันดับที่ 1 - 5 ของแต่ละกลุ่มอายุ ชาย-หญิง และรุ่นทั่วไปไม่จำกัดอายุ ชาย-หญิง เงินรางวัลสำหรับผู้เข้าเส้นชัย Over All 30 ท่านแรก ชาย-หญิง อีกด้วย

โดยมีกำหนดการที่สำคัญดังนี้
- วันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายน 2567 เวลา 09.00 น. กิจกรรม Air Force Run Training Camp 2024 ณ โรงเรียนจอมทอง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ 
- วันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน 2567 ณ อาคารศูนย์กีฬา-สวนเฉลิมพระเกียรติฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี
 - เวลา 10.00 น. แจกบิบให้สำหรับผู้สมัครเข้าแข่งขัน
- เวลา 14.30 น. งานแถลงข่าวการจัดกิจกรรมวิ่งการกุศล Air Force Run 2024 (Run to The Sky  # I’m Strong) 
- วันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน 2567 เวลา 09.00 น. แจกบิบให้สำหรับผู้สมัครเข้าแข่งขัน ณ หอประชุมเดชะตุงคะ กองบิน 41
- วันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน 2567 เวลา 10.00 - 18.00 น. แจกบิบให้สำหรับผู้สมัครเข้าแข่งขัน ณ โรงเรียนจอมทอง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
- วันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน 2567 กิจกรรมวิ่งการกุศล Air Force Run 2024 (Run to The Sky # I’m Strong) ณ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ 

สามารถติดตามรายละเอียดได้ทาง Facebook : Air Force Run – Run to the Sky และสื่อประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ของกองทัพอากาศ

ที่มาเว็บไซต์กองทัพอากาศ : https://welcome-page.rtaf.mi.th/blog/khaawedn-19/k-ngthaph-aakaascchadkicchkrrmwingkaarkusl-air-force-run-2024-run-to-the-sky-im-strong-1095

ผู้บริโภคโวยลั่น!! จอด ‘รถไฟฟ้า’ ตากฝนแค่ 20 นาที แบตเตอรี่พัง โชว์รูมแจง ‘ค่าซ่อมเกือบ 1.1 ล้านบาท’ เตรียมเดินหน้าร้อง ‘สคบ.’

เมื่อวานนี้ (7 มิ.ย.67) ในเพจกลุ่ม ‘พวกเราคือผู้บริโภค’ มีเจ้าของรถรายหนึ่งร้องเรียนถึงรถไฟฟ้าจอดตากฝนแค่ 20 นาที ปรากฏว่าแบตเตอรี่พัง ค่าซ่อมล้านกว่าบาท

รายละเอียดในเพจที่เขียนไว้ว่า ขอแจ้งเตือนให้ข้อมูลเพื่อนำความปรารถนาดีต่อผู้บริโภคด้วยกันนะคะ แค่จอดรถหน้าบ้านขณะฝนตกสัก 15-20 นาที แบตเตอรี่ก็พังแล้ว โชว์รูมเขาบอกมา เสนอราคาค่าซ่อมเปลี่ยนแบตเตอรี่รวมอื่น ๆ ต่าง ๆ นานา บอกมาเกือบ 1.1 ล้านเชียวนะคะ

ตอนนี้ยังจอดสนิทอยู่ที่โชว์รูมเป็นซากรถมาเกือบ 30 วันแล้วค่ะ ดิฉันยังไม่ได้รับการติดต่อหรือให้การบริการรถสำรอง เยียวยาใด ๆ ทั้งสิ้นจากโชว์รูม หรือจากประกันชั้นหนึ่งเลยค่ะ ความเสียหายอันแสนเป็นบทเรียนของการตัดสินใจซื้อรถยี่ห้อ ไร้คุณภาพและบริการคันนี้นะคะ ทำให้ตอนนี้คือแจ้งความกับ สคบ. และแต่งตั้งทนายดำเนินการเรียกร้องค่าเสียหายและออกสื่อต่อไปคะ ทุกๆ ทางคะ

อย่างไรเรื่องนี้ ต้องรอ ทาง เรเว่ ออโตโมทีฟ ผู้นำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า BYD ออกมาชี้แจง แก้ไขปัญหาในเคสนี้

สำหรับรุ่นนี้ เป็นรถ BYD SEAL ราคาเริ่ม 1,325,000 -1,599.000 บาท 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top