Sunday, 6 July 2025
NEWS FEED

‘ชาวเกาะปันหยี’ น้อมรับเสียงวิจารณ์ ปมดรามาสินค้า-ของฝากแพง วอนโซเชียลเลิกแชร์ข้อมูลปลอมเรียกยอดไลก์ ลั่น!! ไม่หยุดเจอฟ้อง

หลังจากมีประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ เมื่อแฟน ๆ ได้ดูคลิปล่าสุดในช่อง ‘Cullen Hateberry’ ของ ‘คัลแลน-พี่จอง’ ยูทูบเบอร์หนุ่มชาวเกาหลี ที่ได้ไปเที่ยวที่เกาะปันหยี จ.พังงา ได้เป็นประเด็นร้อนแรงในโลกออนไลน์ ที่ถูกแคปออกมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

ตั้งแต่เรื่องค่าเรือที่เดินทางไปที่เกาะปันหยี ค่าเรือแพง 1,000 บาท ซื้อของฝากพวกเครื่องประดับ หอยมุก สร้อยข้อมือ 300 บาท เปลือกหอยมุก 500 บาท รวมราคาแล้ว 800 บาท และเมื่อขอลดราคา เจ้าของร้านบอกว่า แถมไป 1 อัน รวมเป็น 1,000 บาท จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าการขายของที่ระลึกในราคานี้ มันแพงเกินเหตุไปหรือไม่

และยังพบว่ามีการคอมเมนต์ต่าง ๆ นานา ในลักษณะของการขายของแพงทั้งเรื่องอาหาร ที่พัก ต่าง ๆ ด้วยจนเป็นกระแสสุดฮอต สร้างความเสียหายให้กับชาวเกาะปันหยีและบรรยากาศการท่องเที่ยวของจังหวัดพังงา

ล่าสุด (24 ก.ค. 67) นางยาวาเราะห์ ประสานพันธ์ เจ้าของร้านปันหยีซีฟู้ด กล่าวว่า ขอชี้แจงในเรื่องของอาหารแพงนั้น ทางร้านอาหารส่วนใหญ่ก็จะมีการแจ้งราคาไว้แล้ว ทั้งแบบรายหัวบุฟเฟต์หรือเมนูตามสั่ง ในส่วนของปลาแพงนั้นก็อาจจะเกี่ยวกับการสั่งปลาเป็น ๆ ที่มีราคาสูงในกระชังขึ้นมาปรุงก็ได้ และยืนยันว่าทางร้านไม่มีการบวกราคาเพิ่มกับลูกค้า

ขณะที่ร้านขายของฝากก็เป็นงานฝีมือซึ่งแต่ละร้านก็ตั้งราคากันเอง และมีอยู่หลายร้าน ซึ่งผู้ซื้อผู้ขายต่อรองราคากันตามพอใจ จึงขอเรียกร้องให้โซเชียลหยุดการแชร์การคอมเมนต์ที่สร้างความเสียหายให้กับชาวเกาะปันหยี เพราะหากกระทบต่อการท่องเที่ยวจะสร้างความเสียหายให้กับชาวบ้านบนเกาะที่ต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวและการประมง

ด้านนายประสิทธิ์ เหมมินทร์ รองนายก อบต.เกาะปันหยี เปิดเผยว่า ตนเองเป็นผู้นำในพื้นที่หลังจากได้ทราบข่าวก็รู้สึกไม่สบายใจ จึงรีบสอบถามข้อมูลทันที ซึ่งพบว่าในเรื่องของค่าเรือ 1,000 บาทนั้น พบว่าใช้บริการที่ท่าเรือบ้านในหงบ เป็นการเหมาเรือไปส่งและไปรับกลับอีกวันหนึ่ง ซึ่งขอบอกว่าเป็นราคาปกติ ซึ่งปกติถ้าตนเองใช้บริการเหมาเรือก็จะอยู่ในราคาประมาณนี้ ขณะราคากลางของทางราชการนั้นอยู่ที่ 1,000 บาท จึงขอบอกว่าเป็นราคาปกติ

ส่วนในเรื่องของฝากจากหอยมุกนั้น สอบถามจากคนขายพบว่าคนซื้อเลือก 2 ชิ้น 800 บาทและอยากได้ของแถม จึงเพิ่มสร้อยข้อมืออีก 1 ชิ้น รวมราคา 1,100 บาท และลดเหลือ 1,000 บาท ไม่ได้มีการยัดเยียดขายแต่อย่างใด

สำหรับเกาะปันหยีนั้นเรามีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวมากว่า 70 ปี แต่ละวันจะมีการต้อนรับนักท่องเที่ยวเข้ามาหลายพันคนได้ ทุกคนจึงให้ความสำคัญกับการรักษาภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวเสมอมา ในเรื่องของกินต่าง ๆ ก็ราคาไม่ต่างจากในเมือง เราไม่อยากจะแก้ตัวหรือแก้ต่างกับกระแสดรามาในโลกโซเชียล ถือเป็นบทเรียนที่พวกเราชาวเกาะปันหยีจะต้องทำอย่างไรต่อไป

เราน้อมรับในกระแสข้อวิจารณ์ที่ใช้เหตุผล ส่วนข้อวิจารณ์ที่ไม่เป็นความจริงและกล่าวหามุสลิมเพื่อต้องการเรียกยอดไลก์และสร้างความเสียหายกับพี่น้องชาวไทยมุสลิมบนเกาะปันหยี ทางเราก็อาจจะพิจารณาใช้กฎหมายดำเนินการต่อไป

‘ชายวัย 60 ปี’ ขี่ซาเล้งฝ่าฝน 4 คืน 5 วัน จากตรังมาสุโขทัย กลับมาช่วยดูแลลูกหลาน หลังทราบข่าวว่ากำลังลำบาก

(24 ก.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธนดล หรือลุงสิทธิ์ อายุ 60 ปี ชาว ต.วังทองแดง อ.เมือง จ.สุโขทัย ไปทำงานรับจ้างอยู่ที่ จ.ตรัง นานถึง 16 ปีแล้ว แต่พอรู้ข่าวว่าตอนนี้ลูกสาวกับหลาน ๆ อีก 5 คน กำลังเดือดร้อนอย่างหนัก และไร้ที่อยู่อาศัยของตัวเอง จึงตัดสินใจขี่รถซาเล้ง จากตรังกลับมาอยู่บ้านเกิดที่สุโขทัยอีกครั้ง เพื่อจะได้อยู่ใกล้ชิดลูกหลาน รวมทั้งคอยดูแลช่วยเหลือกันและกันได้บ้าง

ขี่รถซาเล้งมา 4 คืน 5 วัน เจอฝนตกตลอดทาง หมดค่าน้ำมันไป 1,500 บาท ระหว่างทางก็อาศัยนอนตามปั๊มน้ำมัน โชคดีเจอคนขับสิบล้อให้เงินติดตัวมา พร้อมกับซื้อของกินให้ และมีนายตำรวจใจดีตรงด่านตรวจชุมพรให้เงินมาอีก 700 บาท แต่พอมาถึง จ.เพชรบุรี จู่ ๆ ดุมล้อหลังก็แตกต้องเสียเงินเปลี่ยนใหม่ กว่าจะกลับถึงบ้านที่สุโขทัยได้ก็ลุ้นกันตลอดทาง

ลุงสิทธิ์ บอกว่า ตอนนี้มาอาศัยนอนที่บ้านแม่อายุ 80 ปี ส่วนครอบครัวลูกสาวกับหลาน ๆ รวม 7 ชีวิต มีคนใจบุญซ่อมบ้านเก่าให้อยู่ได้ชั่วคราว และตนพอมีความรู้ในการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ก็จะหารายได้จากอาชีพนี้มาช่วยเลี้ยงดูลูกหลานอีกแรง

อย่างไรก็ตาม ใครมีทีวี ตู้เย็น พัดลม เครื่องซักผ้าเก่า ๆ และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เสียหรือทิ้งแล้ว สามารถนำมาบริจาคเพื่อเป็นทุนเริ่มต้นชีวิตใหม่ให้กับลุงสิทธิ์ 

>> ติดต่อได้ที่เบอร์ 080-6864805 

>> หรือส่งของใช้จำเป็นให้เด็ก ๆ ได้ที่ น.ส.พาตีเมาะห์ บ้านเลขที่ 2/2 หมู่ 1 ต.วังทองแดง อ.เมือง จ.สุโขทัย 64210 โทร 088-6961701

‘รวมไทยสร้างชาติ’ นำคนไทย ‘บริจาคเลือด’ ถวายในหลวง ร.10 พร้อมส่งมอบเลือดบริจาคให้แก่สภากาชาดไทยสำเร็จลุล่วง

(23 ก.ค. 67) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วย นายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ, พ.อ.เฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวา รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ, นายชื่นชอบ คงอุดม รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ, นายถาวร เสนเนียม หัวหน้าสถานียุติธรรม พรรครวมไทยสร้างชาติ, นางสาวอรพินทร์ เพชรทัต ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน, ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้อำนวยการพรรครวมไทยสร้างชาติ, นายปรเมษฐ์ จินา สส. จ.สุราษฎร์ธานี, นายสัญญา นิลสุพรรณ สส. จ.นครสวรรค์, นางรัดเกล้า สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและรองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ, ร.ต.อ.หญิงอัยรดา บำรุงรักษ์ รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ, นายทินกร ปลอดภัย หัวหน้าคณะทำงานสถานียุติธรรม, อดีตผู้สมัคร สส. และสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ เข้าร่วมโครงการ ‘เลือดรวมไทย’ ถวายในหลวง ในวันที่ 23 กรกฎาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 09.00 - 15.00 น. ณ ห้องประชุมครองราชย์ 60 ปี โรงเรียนสามเสนนอก (ประชาราษฎร์อนุกูล) กรุงเทพมหานคร

โครงการ ‘เลือดรวมไทย’ ถวายในหลวง จัดขึ้นจากการร่วมแรงร่วมใจของพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยการนำของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ในฐานะประธานเปิดงาน กล่าวว่า “โครงการ ‘เลือดรวมไทย’ ถวายในหลวง ที่จัดขึ้นโดยพรรครวมไทยสร้างชาติในวันนี้ เป้าหมายหลักของเราคือถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 6 รอบ 72 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขณะเดียวกัน ยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคม และการช่วยเหลือแบ่งปันให้กับผู้อื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน รวมถึงการแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนไทย ที่มีความรัก ความสามัคคี ที่เป็นพื้นฐานอันดีภายในจิตใจของคนไทย สมกับที่มีเลือดเดียวกัน ‘เลือดรวมไทย’ ผมต้องขอขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมกิจกรรมบริจาคโลหิตในครั้งนี้ ซึ่งผมถือว่าเป็นกุศลและการให้ที่ยิ่งใหญ่ครับ” 

พร้อมกันนี้ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ได้แสดงความขอบคุณ นางสาวอรพินทร์ เพชรทัต ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน, โรงเรียนสามเสนนอก (ประชาราษฎร์อนุกูล), ศูนย์บริการโลหิต สภากาชาดไทย, สำนักงานเคหะชุมชนห้วยขวาง, สำนักงานเขตดินแดง, ผู้อำนวยการเขตดินแดง, สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง, มูลนิธิร่วมกตัญญู ที่ได้ช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้

ในการนี้ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นตัวแทนมอบโล่ขอบคุณ ให้กับหน่วยงานและผู้สนับสนุนที่ร่วมจัดกิจกรรมในครั้งนี้ พร้อมทั้งได้มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กนักเรียน และเข้าเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการหุ่นยนต์เพื่อการเรียนรู้ (ROBOLAB) โรงเรียนสามเสนนอก (ประชาราษฎร์อนุกูล) อีกด้วย

ด้านนางสาวอรพินทร์ เพชรทัต กล่าวว่า ตนรู้สึกยินดีที่ได้ร่วมสนับสนุนกิจกรรม ‘เลือดรวมไทย’ ถวายในหลวง ในวันนี้ ซึ่งได้รับการตอบรับจากทุกท่านเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีเรื่องต้องสานต่อความช่วยเหลือโรงเรียนสามเสนนอกฯ ตามที่ขอการสนับสนุนอีกหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการติดตั้งโซลาร์เซลล์ เพื่อลดค่าใช้จ่ายจากค่าไฟฟ้าในโรงเรียน ซึ่งเป็นนโยบายพลังงานเพื่อประชาชนของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และจะผลักดันความช่วยเหลือด้านอื่น ๆ เช่น การสร้างโรงอาหารเพื่อรองรับนักเรียนจากที่ปัจจุบันไม่สามารถรองรับนักเรียนที่เพิ่มมากขึ้น และปรับปรุงสระว่ายน้ำ โดยได้ขอการสนับสนุนไปยังหน่วยงานในพื้นที่ เบื้องต้นได้ประสานไปยังสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตดินแดง เพื่อสนับสนุนให้กับทางโรงเรียนในด้านอุปกรณ์ในการเรียนรู้ของนักเรียน อีกด้วย

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการให้ความรู้และสอนวิธีปฐมพยาบาลเพื่อช่วยเหลือผู้ที่หยุดหายใจหรือหัวใจหยุดเต้น หรือ การทำ CPR อย่างถูกต้อง เพื่อที่เวลาเจอสถานการณ์คับขัน จะได้ช่วยผู้ประสบเหตุให้ปลอดภัยได้อย่างทันท่วงที พร้อมทั้งนิทรรศการผลงานต่าง ๆ ของพรรครวมไทยสร้างชาติ 

สำหรับกิจกรรมบริจาคโลหิตในครั้งนี้ ได้ส่งมอบให้กับสภากาชาดไทยเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยในการรักษาพยาบาล รวมถึงนำไปช่วยเหลือทหาร ตำรวจ ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

ตะลึง!! อิทธิฤทธิ์ 'หมอคางดำ' ไม่จบแค่ทางน้ำ-ทางบก แต่พบมาทางอากาศจากนกกินปลา สำรอกสู่แหล่งน้ำใหม่

(23 ก.ค. 67) นายสมยศ จันทร์เกษม อายุ 67 ปี อดีตกำนัน ต.สองคลอง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ได้เปิดเผยว่า การระบาดอย่างรวดเร็วของปลาหมอคางดำในประเทศไทยตามที่กำลังตกเป็นกระแสข่าวใหญ่อยู่ในขณะนี้ นอกจากการแพร่ระบาดจะมาจากคนที่เป็นตัวการนำเข้ามาแล้ว ยังพบว่าการแพร่กระจายเข้ามายังในพื้นที่ ต.สองคลอง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา นั้น มีการไหลมาตามกระแสน้ำในลำคลองที่เชื่อมต่อถึงกัน จากในเขตพื้นที่ ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ รวมถึงยังมีชายฝั่งทะเลอยู่ติดกันอีกด้วยนั้น

ปลาหมอคางดำยังสามารถแพร่กระจายเข้ามาทางอากาศได้ด้วย จากนกกินปลา ทั้งนกกระยางและนกกาน้ำที่สามารถดำดิ่งลงไปงมจับปลาจากได้น้ำขึ้นมากินได้ ก่อนที่จะคาบนำบินขึ้นไปสู่ท้องฟ้า และในขณะที่กำลังลอยอยู่บนอากาศ นกตัวที่กินอิ่มมากจนเต็มท้องแล้ว ยังมีการสำรอกหรือขย่อนตัวปลาที่ยังไม่ตายออกมา จนปลาหลุดจากปากที่กำลังคาบอยู่ ตกลงไปยังในแหล่งน้ำธรรมชาติ และบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของชาวบ้าน จึงทำให้การแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำสามารถกระจายตัวไปได้กว้างไกลมากยิ่งขึ้นด้วย

นอกจากนี้ ไข่ของปลาหมอคางดำ ที่มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมสูง ตามที่มีการเผยแพร่ข่าวกันว่าที่ จ.สมุทรสงคราม เกษตรกรตากบ่อปลาทิ้งเอาไว้เป็นเวลานานกว่า 2 เดือนแล้ว ยังสามารถฟักออกมาเป็นตัวได้อีก จึงเชื่อว่าปลาหมอคางดำที่ถูกนกกระยาง และนกกาน้ำ ซึ่งเป็นนกที่มีอยู่ในพื้นที่ อ.บางปะกง นั้น กินเข้าไปแต่ในตัวปลายังมีไข่อยู่ในท้องด้วย เมื่อนกถ่ายมูลออกมาลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ หรือชายฝั่งทะเลในบริเวณนี้แล้ว ไข่ปลาอาจจะยังไม่ตายและฟักเป็นตัวออกมาก็อาจเป็นไปได้ จึงถือเป็นช่องทางที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดกระจายตัวไปได้ไกลเพิ่มมากขึ้น อีกทางหนึ่งด้วย

โดยเฉพาะพื้นที่ในตำบลสองคลองนั้น ชาวบ้านส่วนใหญ่เกือบทุกครัวเรือน ล้วนแต่ประกอบอาชีพเกี่ยวกับทางด้านประมง และเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ จึงมีแหล่งน้ำทั่วไปอยู่เต็มพื้นที่ และอาจเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของปลาหมอคางดำที่ลอยมาจากบนฟ้าได้ด้วย ซึ่งชาวบ้านแถวนี้เคยพบเห็นกันบ่อยในบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ที่มักจะมีปลาหลงเข้ามาปะปนอยู่ในบ่อเลี้ยง ทั้งที่ไม่ได้เลี้ยงปลา หรือปล่อยปลาลงไปในบ่อเลี้ยง เช่น บ่อเลี้ยงหอยแครง บ่อเลี้ยงกุ้ง จึงเรียกปลาที่หลุดเข้ามาในบ่อจากทางอากาศว่า ‘ปลาลอยฟ้า’

“และเมื่อนำปลาหมอคางดำที่จับมาได้ นำมาผ่าท้องดู แม้จะเห็นว่าเป็นปลาหมอคางดำตัวขนาดเล็กแค่เพียงประมาณ 3 นิ้ว ในท้องก็ยังพบว่ามีไข่อยู่เต็มท้องแล้ว” นายสมยศ กล่าว

สิ้น ‘โนริโกะ โอฮาระ’ นักพากย์การ์ตูนชื่อดัง ต้นตำรับเสียง ‘โนบิ โนบิตะ’ ในวัย 88 ปี

(23 ก.ค.67) โนริโกะ โอฮาระ (ชื่อจริง โนริโกะ โทเบะ) นักพากย์สาว ซึ่งเป็นที่รู้จักจากการพากย์เสียง ‘โนบิ โนบิตะ’ การ์ตูนชื่อดังอย่าง ‘โดราเอมอน’ เสียชีวิตลงแล้วในวัย 88 ปี จากรายงานของ 81 Produce ต้นสังกัดของเธอ

“นักพากย์ของเรา (โนริโกะ) เสียชีวิตแล้ว หลังจากที่เธอต่อสู้กับอาการเจ็บป่วยมาระยะหนึ่ง แม้จะเข้ารับการรักษามาอย่างต่อเนื่อง โดยพิธีการถูกจัดขึ้นเงียบ ๆ เป็นการส่วนตัวในหมู่ญาติ ตามความปรารถนาของครอบครัวเธอ เราจึงขอแจ้งข่าวเศร้านี้ให้แฟน ๆ ของเธอได้รับทราบ” ต้นสังกัดเธอ ระบุ

สำหรับ โนริโกะ เกิดวันที่ 2 ต.ค. 1935 ที่กรุงโตเกียว เธอเริ่มพากย์เสียง โนบิ โนบิตะ ตั้งแต่ปี 1979-2005 ก่อนที่จะเป็น เมงุมิ โอฮาระ ที่รับไม้ต่อจากเธอพากย์เสียง โนบิตะ มาจนถึงปัจจุบัน

นอกจากโนบิตะแล้ว โนริโกะ ยังพากย์เสียงตัวละครอื่น ๆ อีกมากมายตลอดอาชีพของเธอ รวมถึง โคนันในเรื่อง Future Boy Conan เป็นต้น

‘เชอรีน’ แจ้งความ 'อดีตสามี' ทำร้ายร่างกาย ลั่น!! ไม่หยุดคุกคาม 'ดำเนินคดีตามกฎหมาย'

(23 ก.ค. 67) หลังจากที่อดีตนักแสดงสาว เชอรีน ณัฐจารี หรเวชกุล พร้อมทนายแก้ว มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล ได้เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจและให้ปากคำเรียบร้อยแล้ว ทั้งคู่ได้ออกมาเปิดใจอีกครั้ง ถึงข้อหาที่แจ้งดำเนินคดีอดีตสามี บอส อัศม์กรณ์ สิงห์สีกรกุล ที่ สน.ทองหล่อ 

โดย ทนายแก้ว เผยว่า “หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ฟังเรื่องจากผมและคุณเชอรีนแล้ว ทางตำรวจขอนำเรื่องไปปรับดูรายละเอียดก่อน เพราะวันนี้มีเจ้าหน้าที่ นักสังคมสงเคราะห์มาฟังด้วย มีนัดครั้งต่อไป เป็นตามที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกซึ่งเป็นการนัดมาไกล่เกลี่ยก่อน เพราะเป็นไปตามพรบ.การไกล่เกลี่ยความรุนแรงภายในครอบครัว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้ง 3 ข้อหา ได้แก่ มาตรา 295 ทำร้ายร่างกาย ได้รับอันตรายทั้งกายและใจ, ความผิดความรุนแรงในครอบครัว และการข่มขู่คุกคามทำให้ปราศจากเสรีภาพ สำหรับแชทตำรวจขอไปไล่เอารายละเอียดทั้งหมดมาเพิ่ม นัดหมายว่าจะมีการส่งพยานหลักฐานเพิ่มเติม”

>> หลังจากนี้ถ้าเกิดทางอดีตสามีต้องการไกล่เกลี่ยพร้อมไหม? 
เชอรีน – “อยากไกล่เกลี่ยค่ะ เพราะอยากให้เรื่องมันจบ เป็นห่วงลูก ไม่อยากให้มีข่าวกระทบกระทั่งกันรุนแรง สุดท้ายแล้วเราก็อยากให้จบลงด้วยดี เป็นพ่อและแม่ที่ดีของลูกดีกว่า”

>> สำหรับเรื่องความปลอดภัยของเรา ทางตำรวจว่าอย่างไรบ้าง? 
ทนายแก้ว – “ตำรวจบอกว่ามาตรการของเรื่องการที่จะมาข่มขู่คุกคาม ตำรวจจะเรียกเขาเข้ามาซักถาม และมากำหนดนโยบายว่าจะใช้ชีวิตอยู่อย่างไร นักสังคมสงเคราะห์เขาบอกว่าขอไปดูรายละเอียดก่อน”

>> ส่วนตัวตอนนี้ใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวงไหม? 
เชอรีน – “ถ้าต้องกลับคอนโดฯ ที่เกิดเรื่องคิดว่าไม่น่าจะกลับไป ขออยู่บ้านให้เคลียร์เรื่องเรียบร้อยก่อน ถ้าเขาติดต่อมาให้ทนายคุย สำหรับข้อตกลงในการเลี้ยงลูก มีข้อตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงลูก ค่าเทอมเขาเป็นคนดำเนินการ ส่วนค่าใช้จ่ายภายในบ้านเชอเป็นคนดูแล”

>> เราอยากไกล่เกลี่ยมากกว่าเป็นคดีในศาล? 
ทนายแก้ว – “เรื่องคดีก็มีการดำเนินไป ในส่วนของการไกล่เกลี่ยควบคู่กันไปได้ เป็นเรื่องที่ตำรวจบอกว่าให้ลองไกล่เกลี่ยกันก่อน ส่วนเรื่องคดีทางตำรวจก็ต้องดำเนินการต่อไปอยู่แล้ว”

>> ถ้าเขาไม่หยุดคุกคาม? 
เชอรีน – “ดำเนินตามกฎหมาย”

>> ทางครอบครัวฝ่ายชายมียื่นมือมาเป็นคนกลางไหม? 
เชอรีน – “มีบ้าง แต่ไม่สามารถหยุดเขาได้ เลยมาถึงจุดนี้ คือเขาค่อยมาคุย เจรจาให้เรื่องเบาลง แต่การกระทำของเขาทำให้เรารู้สึกไม่ปลอดภัยแล้ว เราขอร้องแล้ว พูดดี ๆ แล้ว อยากให้เรื่องจบ ต่างคนต่างมีชีวิตที่ดี ถ้ามีความสุขเราก็จะเป็นพ่อแม่ที่ดีให้กับลูกได้”

ทนายแก้ว – “วันนี้มาแจ้งความเพื่อให้ตำรวจมาดำเนินการแทนไม่ว่าจะเป็นการสอบสวนว่าเขารู้ข้อมูลเราได้อย่างไร เขาส่งคนมาติดตามหรือเปล่า ส่วนเรื่องการทำร้ายร่างกาย ต้องเอาเอกสารต่าง ๆ เพื่อส่งฟ้องดำเนินคดี ส่วนเรื่องการไกล่เกลี่ยก็เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่คุยกันก็ไม่เสียหาย แต่คดีก็ต้องเดินหน้าไปเหมือนเดิมครับ”

‘อิน-เอม’ 2 พี่น้องนักเรียนไทย รับรางวัลเหรียญทอง ในการประชุมใหญ่วิชาการระดับโลก The 27th IUPAC International Conference on Chemistry Education : ICCE 2024

ไม่นานมานี้ พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดงานการนำเสนอผลงานโปสเตอร์จำนวน 209 เรื่อง ซึ่งเป็นกิจกรรมสำคัญในการประชุมวิชาการระดับโลก The 27th IUPAC International Conference on Chemistry Education : ICCE 2024 ซึ่งสมาคมเคมีแห่งประเทศไทยในพระอุปถัมภ์ของศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ได้รับสิทธิ์ให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมวิชาการระดับโลก 

โดยมีเจ้าภาพร่วม ได้แก่ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยบูรพา โดยมีศาสตราจารย์ ดร.ศุภวรรณ ตันตยานนท์ เป็นประธานคณะกรรมการจัดการประชุมรวมทั้งต้อนรับผู้เชี่ยวชาญรวมทั้งแขกผู้มีเกียรติทุกท่านจากประเทศต่างๆ 56 ประเทศ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 เวลา 17:00 น. ที่ห้อง Royal Summit Chamber AB ณ Royal Cliff Hotels Group พัทยา จังหวัดชลบุรี 

ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้มอบเกียรติบัตรแก่ครูต้นแบบ (Certificate of Honor Presentation to Role-model Teachers) โครงการห้องเรียนเคมีดาว และมอบเหรียญรางวัลให้กับนักเรียนที่เข้าร่วมเสนอผลงาน ตามคุณภาพงานที่นำเสนอ เป็นเหรียญทอง เหรียญเงิน และเหรียญทองแดง ซึ่งเป็นการผลักดัน และส่งเสริมให้นักเรียนมีกำลังใจและมุ่งมั่นในการศึกษาวิจัยต่อไป อีกทั้งเพื่อเป็นกำลังสำคัญของประเทศไทยในอนาคต  

โดยนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมไม่เพียงได้เรียนรู้จากการลงมือทำ (Active Learning) และมีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ ซึ่งถือว่าประสบการณ์นี้ จะช่วยให้พัฒนาศักยภาพของนักเรียนให้มีโลกทัศน์ที่กว้างขึ้น เป็นก้าวสำคัญที่ช่วยส่งเสริมกระบวนการคิดวิเคราะห์ มีตรรกะในการแก้ไขปัญหา สร้างความเข้มแข็งทั้งในด้านวิชาการ บุคลิกภาพ ตามพหุปัญหาความรู้ความสามารถของนักเรียน และ การสร้างเครือข่ายอย่างยั่งยืนในโอกาสต่อไป สอดคล้องกับนโยบายกระทรวงศึกษาธิการของประเทศไทย ที่กล่าวไว้ว่า “เรียนดีมีความสุข” (Happy Leaning) ซึ่งนับได้ว่าเป็นการผลักดัน และส่งเสริมให้นักเรียนมีกำลังใจและมุ่งมั่นในการศึกษาวิจัยต่อไป เพื่อเป็นกำลังสำคัญของประเทศไทยในอนาคต

ในงานประชุมนี้มีหัวข้อหลัก คือ 'Power of Chemistry Education for Advancing SDGs' ซึ่งเน้นการระดมสมองและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในด้านการเรียนการสอนเคมี ให้นักเรียนและเยาวชนพร้อมรับมือกับ การเปลี่ยนแปลง และสถานการณ์รุนแรงต่างๆ ของโลกที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังได้จัดให้มี Symposia และ Workshops ในหัวข้อต่างๆ ที่เป็นที่สนใจและเป็นประเด็นสำคัญในปัจจุบัน เพื่อให้ผู้เข้าประชุมได้คิดแก้ปัญหา อย่างเป็นระบบ ที่เชื่อมโยงระหว่างการศึกษากับการดำเนินชีวิตในโลกที่มีความผันผวนเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ 

นับเป็นโอกาสที่ผู้เข้าร่วมประชุม ซึ่งรวมถึงครูและนักเรียนไทยทั้งในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สังกัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) และสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) กระทรวงศึกษาธิการ และโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทย รวมทั้งผู้เข้าร่วมประชุมจากต่างประเทศ ได้พบกับท่านรัฐมนตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเรียนไทย จะนำเสนอผลงานโปสเตอร์จาก โครงงานวิทยาศาสตร์ในโรงเรียน รวมมากกว่า 70 เรื่อง ในเวทีระดับโลกครั้งนี้ ทำให้นักเรียนได้รับประสบการณ์ในการนำเสนอและตอบข้อซักถามกับผู้เชี่ยวชาญและผู้เข้าร่วมประชุมจากนานาประเทศ

ทั้งนี้ นายอริณชย์ ทองแตง (อิน) อายุ 16 ปี และ น.ส.อริสา ทองแตง (เอม) อายุ 14 ปี สองพี่น้องผู้ก่อตั้ง Below the Tides นักเรียนจากโรงเรียนนานาชาติ Shrewsbury ได้รับรางวัลระดับนานาชาติ (เหรียญทอง) ในการประชุมวิชาการระดับโลก The 27th IUPAC International Conference on Chemistry Education : ICCE 2024 ในครั้งนี้ด้วย

อาลัย ‘ดร.ชูศักดิ์ หิมะทองคำ’ เสียชีวิตในวัย 91 ปี ผู้ริเริ่ม ‘สินเชื่อเกษตรกร’ คนแรกของแผ่นดิน

(23 ก.ค.67) นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และสามีของ ปู มัณฑนา โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว hans_himathongkom

โดยระบุว่า ดร.ชูศักดิ์ หิมะทองคำ บิดา ได้จากไปด้วยโรคชราในวัย 91 ปี เมื่อวันที่ 23 ก.ค. 2567 เวลา 06.09 น. ที่ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท

สำหรับกำหนดการ พิธีรดน้ำศพ สวดพระอภิธรรม และพิธีฌาปนกิจ มีรายละเอียด ดังนี้…

วันพุธที่ 24 ก.ค. 2567 เวลา 16.00 น. พิธีรดน้ำศพ, เวลา 18.00 น. สวดพระอภิธรรม
วันที่ 25 - 31 ก.ค. 2567 เวลา 18.30 น. สวดพระอภิธรรม (วันที่ 28 ก.ค. งดสวด 1 คืน)
วันพฤหัสบดีที่ 1 สิงหาคม 2567 เวลา 17.00 น. พิธีฌาปนกิจ

โดย ‘ดร.ชูศักดิ์ หิมะทองคำ’ พ่อของหาญส์นั้น เป็นผู้ริเริ่มสินเชื่อเกษตรกรคนแรกของแผ่นดิน ได้นำเอาความรู้ความสามารถที่ศึกษามาจากประเทศอังกฤษกลับมาพัฒนาแผ่นดินเกิดของตัวเองด้วยความตั้งใจจริงใจ แม้วันนี้จะเป็นวันและวัยของการพักผ่อน แต่ก็ยังเป็นผู้มากด้วยความคิดอีกมากมาย และได้รับการยกย่องจากบรรณาธิการสื่อสารมวลชนด้านเศรษฐกิจให้เป็น นายธนาคารแห่งปี เป็นคนแรก ประจำปี 2525

และได้รับทุนให้ไปบรรยายในรัฐต่าง ๆ ที่อเมริกา เป็นระยะเวลาถึง 6 เดือนพร้อมภรรยา ซึ่งเป็นโอกาสได้เข้าพบประธานาธิบดี Ronald Reagan ที่ทำเนียบขาว และได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ช้างเผือก

ขอบคุณ ส.ไลออนส์ ภาค 310 C รพ.บ้านแพ้ว รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ รพ.สัตหีบ กม.10 และ จนท.ที่มอบแสงสว่างให้กับผู้ป่วยโรคต้อกระจก

ตามที่ พลเรือตรี ดนัย ปานแดง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ กรมแพทย์ทหารเรือ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการเฉลิมพระเกียรติ ผู้ป่วยผ่าตัดโรคต้อกระจกผู้สูงอายุที่มีปัญหาด้านการมองเห็น ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 ซึ่งเกิดจากความร่วมมือระหว่าง สโมสรไลออนส์กรุงเทพ พระมหานคร 2018 สโมสรไลออนส์กรุงเทพ เจ้าพระยา สโมสรไลออนส์พัทยา สโมสรไลออนส์สัตหีบ ชลบุรี และทุกสโมสรไลออนส์ ในภาค 310 C  โรงพยาบาลจักษุบ้านแพ้ว โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ กรมแพทย์ทหารเรือ และโรงพยาบาลสัตหีบ กม.10 ไลออน สุภา มานะธัญญา อดีตผู้ว่าการไลออนส์ สากล ภาค 310 C ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการฯ กล่าวรายงานถึงความเป็นมาของโครงการฯ ไลออน สุภา มานะธัญญา อดีตผู้ว่าการไลออนส์สากล ภาค 310 C ไลออน ลัดดา วิวัฒน์วานิช ประธานภูมิภาคที่ 1 ปีบริหาร 2566-2567 ไลออน สมหวัง อ่อนแสง ประธานภูมิภาคที่ 5 ปีบริหาร 2566-2567 ไลออน ดร.อภิณะฎา ใสไหม  นายกสโมสรไลออนส์สัตหีบ ชลบุรี ปีบริหาร 2566-2567 และสโมสรไลออนส์ ในภาค 310 C ที่มีมติร่วมกันและประสานงานในการจัดโครงการผ่าตัดโรคต้อกระจกให้กับผู้ป่วย ผู้สูงอายุที่มีปัญหาด้านการมองเห็น ในโครงการพระราชพิธีเฉลิมพระเกียรติฯ ในครั้งนี้

โดยมี นาวาเอกพัลลภ สุภากรณ์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ คุณสุรางค์ รัตนชูวงศ์ หน.งานออกหน่วยผ่าตัดต้อกระจกเคลื่อนที่ รพ.จักษุบ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร คุณ อารีย์ จำปา หัวหน้าตึกผู้ป่วยนอก รพ.สัตหีบ กม.10 ไลออน คำปัน กุดกัญญา รองผู้ว่าการไลออนส์สากลภาค 310 C คนที่ 1 ไลออน สมภพ พิชัยวงศ์ ประธานสภาผู้ว่าการไลออนส์สากลภาครวม 310 ประเทศไทย ไลออน สิทธิชัย ศิริสุทธิวรนันท์ รองผู้ว่าการไลออนส์สากลภาค 310 C นายธณพง โคตรมณี นายกเทศมนตรีตำบลเขาชีจรรย์ นายยุทธนา สร้อยเสนา ปลัดอาวุโสอำเภอสัตหีบ ตลอดจนสมาชิกกิ่งกาชาดอำเภอสัตหีบ สมาชิกแม่บ้านมหาดไทย สมาชิกสโมสรไลออนส์ภาค 310 C และคณะทำงาน เข้าร่วมในพิธีเปิดโครงการจัดกิจกรรมในวันนี้ การจัดโครงการฯ ในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนอย่างดียิ่ง จากทางโรงพยาบาลจักษุบ้านแพ้ว ที่จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่พร้อมทีมแพทย์และพยาบาลผู้เชี่ยวชาญ มาช่วยเหลือและดำเนินการในการผ่าตัดต้อกระจกให้กับผู้ป่วย โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ อำนวยความสะดวกสนับสนุนสถานที่ พร้อมเจ้าหน้าที่ พยาบาล และโรงพยาบาลสัตหีบ กม.10 จัดกลุ่มผู้ที่รอคอยการผ่าตัดต้อกระจก เข้ารับการดำเนินการผ่าตัดในครั้งนี้ เริ่มตั้งแต่การคัดกรองผู้ป่วย จำนวน 225 คน เมื่อวันที่ 7 ก.ค.67 และดำเนินการผ่าตัดต้อกระจกเปลี่ยนเลนส์ตา ในที่ 20 ก.ค.67 จำนวน 165 คน

ซึ่งญาติและผู้เข้ารับการผ่าตัดต้อกระจก ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างหาที่สุดมิได้ และขอขอบคุณทีมงาน แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ให้ความอนุเคราะห์ ในการผ่าตัดต้อกระจก และให้บริการด้านอาหารการกินในวันนี้อย่างสูงยิ่ง มา ณ โอกาสเดียวกันนี้ด้วย

นิราช ทิพย์ศรี รายงาน 0909535646

‘พี่จอง-คัลแลน’ เที่ยวเกาะปันหยี ซื้อเปลือกหอยมุกอันละ 500 บาท ชาวเน็ตเมนต์แรง!! ร้านขายของแพงเกิน - เอาเปรียบนักท่องเที่ยว

(23 ก.ค. 67) โซเชียลคอมเมนต์สนั่น เมื่อยูทูบเบอร์หนุ่มเกาหลีหัวใจไทย คัลแลนและพี่จอง จากช่องยูทูบ ‘คัลแลน Cullen Hateberry’ ไปเที่ยวทริปเกาะปันหยี อำเภอเมือง จังหวัดพังงา

โดยในระหว่างเลือกซื้อของฝากเครื่องประดับและเปลือกหอยมุก ก็เกิดประเด็นดรามาร้านค้าขายของแพง สร้อยข้อมือ 300 บาท เปลือกหอยมุก 500 บาท รวมราคาแล้ว 800 บาท และเมื่อขอลดราคา เจ้าของร้านบอกว่า แถมไป 1 อัน รวมเป็น 1,000 บาท

หลังจากได้ดูวิดีโอนี้ ก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าการขายของที่ระลึกในราคานี้ มันแพงเกินเหตุไปหรือไม่?

นอกจากนี้ ชาวเน็ตก็มีการมาแชร์ประสบการณ์ต่าง ๆ ที่เคยไปเที่ยวเกาะแห่งนี้ และเจอประสบการณ์ที่ไม่ดีกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเรื่องราคาอาหารและสินค้า หลายเสียงพูดตรงกันว่า “ของแพงมากจริง ๆ”

โดยชาวเน็ตรายหนึ่ง ได้แสดงความคิดเห็นว่า “เราพยายามมองข้าม ราคาสินค้า ค่าเรือ และพฤติกรรม ที่ไม่ค่อยน่ารักของแม่ค้าที่นี่ แอบสงสารนักท่องเที่ยวต่างชาตินะ ดูเอาเปรียบพวกเขาเกินไป แต่ EP นี้คัลแลนกับพี่จองน่ารักตลกและสนุกมาก ๆ ยิ่งตอนเล่นกับเด็ก ๆ เราขำและรู้สึกชอบที่สุด อยากฝากถึงพ่อค้าแม่ค้าบนเกาะนะคะ นักท่องเที่ยวต่างชาติเขาตั้งใจไปเที่ยว อย่าไปเอาเปรียบเค้ามากนักเลย เดี๋ยวเวลาไม่มีนักท่องเที่ยวไปพวกคุณจะแย่เอานะ เอาแต่พอดี ๆ เถอะ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top