Sunday, 6 July 2025
NEWS FEED

‘สาว’ อวดแชตคุยกับ ‘เพื่อนตำรวจ’ ช่วยเคลียร์ค่าปรับ 500 บาท หลังโดนข้อหาไม่สวมหมวกกันน็อก โว!! ใช้งานให้เป็นประโยชน์

เมื่อวานนี้ (22 ก.ค.67) เพจ ‘Red skull’ โพสต์ภาพสตอรี่ของสาวรายหนึ่ง โดยเป็นแชตที่เจ้าตัวถูกใบสั่งในข้อหาไม่สวมหมวกกันน็อก ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ก่อนที่เจ้าตัวจะพูดคุยกับเพื่อนที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยบอกว่าตนเองโดนจับ ให้ไปเสียค่าปรับจำนวนเงิน 500 บาท โดยเพื่อนที่เป็นตำรวจได้ตอบกลับไปว่า ให้เอาใบสั่งมาให้ตนเอง ทั้งนี้ สาวเจ้าของโพสต์ได้ระบุข้อความว่า…

“เพื่อนโดนจับหมวก ก็ใช้งานตำรวจให้เป็นประโยชน์ซะเลย“

ทั้งนี้ พบว่ามีชาวเน็ตต่างเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของสาวรายนี้เป็นจำนวนมาก

'กองทัพเรือ' โดยหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ช่วยเหลือประชาชน จากอุทกภัย

เมื่อวานนี้ (22 ก.ค.67) พลเรือโทสมรภูมิ จันโท ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ สั่งการให้ กรมทหารราบที่ 1 กองพลนาวิกโยธิน จัดกำลังพล เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ณ บริเวณ ตลาดเจริญสุข ต.ท่าช้าง อ.เมือง จว.จันทบุรี 

ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ ที่ได้กำหนดเป็น "มอตโต้" แนวทางในการปฏิบัติงานของกำลังพลทุกระดับไว้คือ "เทิดทูนสถาบัน ยึดมั่นระเบียบวินัย ประชาชนภูมิใจ ทะเลไทยมั่นคง" Fit for the Future

‘ตำรวจ’ แจง!! ป้ายโฆษณาจีนชวนซื้อพาสปอร์ตย้ายประเทศ ‘ไม่ผิดกฎหมาย’ เหตุไม่ได้เชิญชวนให้เปลี่ยนเป็นสัญชาติไทย ชี้!! ทุกประเทศซื้อขายเป็นปกติ

(23 ก.ค. 67) จากกรณีป้ายโฆษณาภาษาจีน พบเป็นการชวนซื้อพาสปอร์ตย้ายประเทศถูกติดตั้งอยู่บริเวณแยกห้วยขวาง จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์สนั่นโซเชียล ต่อมาพบว่าเจ้าหน้าที่เขตห้วยขวางทำการรื้อป้ายดังกล่าวออกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ล่าสุด มีรายงานเพิ่มเติมว่า พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. เปิดเผยว่า ข้อสงสัยที่ว่าการติดตั้งป้ายดังกล่าวทำได้หรือไม่นั้น ยืนยันว่าทำได้ ไม่ผิดกฎหมาย เพราะไม่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย และไม่ใช่การโฆษณาว่าจะเปลี่ยนสัญชาติไทย โดยในป้ายจะเห็นได้ว่าทุกประเทศมีการซื้อขายกันปกติ

'ชาวอบต.เกาะยอ' ขอบคุณ!! 'เจือ ราชสีห์' ลุยติดตั้งโซลาร์เซลล์ให้ ช่วยลดต้นทุนพลังงานผลิตน้ำประปาหมู่บ้านลงถึงจุดละ 12,000 บาท

(23 ก.ค.67) นายเจือ ราชสีห์ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ลงพื้นที่พร้อมด้วยตัวแทนพลังงานจังหวัดสงขลาและตัวแทน อบต.เกาะยอ อ.เมืองสงขลา ลงพื้นที่ดูสถานที่ตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดไม่น้อยกว่า 20 kw เพื่อลดต้นทุนด้านพลังงานสำหรับระบบผลิตน้ำประปาหมู่บ้านหมู่ที่ 7 - หมู่ที่ 9 ตำบลเกาะยอ ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ (งบพัฒนาจังหวัด) ประจำปี 2569 จำนวน 470,000 บาท สำหรับติดตั้งเทคโนโลยีโซลาร์เซลล์ Solar cell on-grid ขนาดไม่น้อยกว่า 20 กิโลวัตต์ เพื่อลดรายจ่ายค่าไฟฟ้า

ด้าน ตัวแทน อบต.เกาะยอ กล่าวว่า "ผมขอขอบคุณนายเจือ ราชสีห์ และพลังงานจังหวัดสงขลา ที่ได้ประสานและจะดำเนินการติดตั้งโซลาร์เซลล์ให้กับระบบผลิตน้ำประปาหมู่บ้านในพื้นที่ตำบลเกาะยอในครั้งนี้จนสำเร็จลุล่วง ซึ่งปัจจุบัน อบต.เกาะยอต้องแบกรับจ่ายค่าไฟฟ้าสำหรับการจ่ายน้ำแต่ละจุดประมาณ 12,000 บาทได้ หลังจากที่นายเจือ ราชสีห์ ประสานงบประมาณมาติดตั้งโซลาร์เซลล์ แล้วค่าไฟฟ้าจะลดลงเป็นอย่างมากและพี่น้องประชาชนกว่า 500 ครัวเรือนจะได้ใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพจึงขอขอบคุณนายเจือ ราชสีห์ อีกครั้งหนึ่งครับ"

เลย - รมว.กลาโหม "แถลงข่าว" ตรวจยึดยาบ้าล็อตใหญ่ 1 ล้านเม็ด

เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2567เวลา 18.00 น. นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานแถลงข่าวตรวจยึดยาบ้าล็อตใหญ่ 1 ล้านเม็ด พร้อมด้วย นายจำนงค์ ไชยมงคล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงกลาโหม , พล.ต.นรธิป โพยนอก ผู้บัญชาการ กกล.สุรศักดิ์มนตรี , นายกิตติคุณ บุตรคุณ  รอง ผวจ.เลย , พ.ต.อ.ยุทธวัฒน์ โชคชัย  รอง ผบก.ภ.จว.เลย , พ.ต.อ.นิพนธ์ สมานชาติ ผกก.สภ.ปากชม , นายยศวัฒน์ พัชระศักดิ์สกุล นายอำเภอปากชม , พ.ต.ท.อภิรักษ์ อังคศิริสรรพ รอง ผกก.สส.สภ.ปากชม , พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ ปราบคนชั่ว สว.สส.สภ.ปากชม , พ.อ.คมศักดิ์ พราวศรี รองผู้บังคับการควบคุมที่ 3 (ร.8) กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี , พ.อ.อินทราวุธ ทองคำ ผบ.กรม.ทพ.21 , พ.ต.ต.สุเมธ พลเยี่ยม ผู้บังคับกองร้อย ตชด.ที่246 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจยึดยาเสพติด ที่สถานีตำรวจภูธรปากชม อำเภอปากชม จังหวัดเลย โดยในห้วงที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้รับรายงานจากสายข่าวว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน จนกระทั่งเวลาประมาณ 01.30 น.วันที่ 21 กรกฎาคม 2567 มีรถจักรยานยนต์ 1 คัน และรถกระบะอีซูซุ สีบรอนด์เงิน ทะเบียน ผค 9273 เพชรบูรณ์ ขับมาที่ด่านตรวจลักษณะต้องสงสัย จึงได้แสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้น ทราบชื่อว่า นายถิรายุ (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี คนขับรถกระบะ นายจีรวุธ (นามสมมุติอายุ 23 ปี นายวัชรินทร์ (นามสมมุติอายุ 20 ปี ขี่รถ จยย. จากการตรวจค้นพบยาบ้า 5 กระสอบ รวม 1,000,000 เม็ด จึงได้จับกุมตัวพร้อมของกลาง มาขยายผลที่ สภ.ปากชม

จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้ง 3 ให้ถ้อยคำว่าตนได้มารับยาบ้าของกลางดังกล่าวที่เขตอำเภอปากชม เพื่อนำไปส่งที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าวข้างต้น พร้อมทั้งสิทธิตามกฎหมายให้ผู้ต้องหาทั้งสามทราบ ผู้ต้องหาทั้งสามทราบข้อกล่าวหาและพฤติการณ์ในการกระทำความผิดโดยละเอียดแล้วให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสามพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน  สภ.ปากชม  เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว นายพรพิพัฒน์  เพ็ชรสังหาร
เดวิท โชคชัย มุกดาหารรายงาน 092-5259777

กาฬสินธุ์-ชาวกาฬสินธุ์นับหมื่นรำถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

แห่งแรก! จังหวัดกาฬสินธุ์รวมพลังสามัคคี ภักดี องค์ราชัน นำกลุ่มองค์กรสตรีทั้ง 18 อำเภอ และทุกภาคส่วนกว่า 1 หมื่นคน ประกาศเจตนารมณ์จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ กล่าวสุนทรพจน์"ในหลวงในดวงใจ" พร้อมรำถวายพระพร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยเป็นกิจกรรมที่ไม่ได้ใช้งบประมาณจากทางราชการ แต่เป็นความร่วมมือความจงรักภักดีของชาวกาฬสินธุ์

เมื่อวานนี้ (22 ก.ค.67) ที่สนามกีฬามหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานจัดกิจกรรมโครงการ“กาฬสินธุ์ รวมพลังสามัคคี ภักดี องค์ราชัน” เพื่อเป็นการร่วมแสดงความจงรักภักดี นำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 

โดยมีนายวิรัช พิมพะนิตย์ ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 1 นายรุจติศักดิ์ รังษี รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ นายผดุงศักดิ์ อิ่มเอิบ ปลัด จ.กาฬสินธุ์ นายอุทัย สิงห์ทอง พัฒนาการ จ.กาฬสินธุ์ นางเฉลิมขวัญ หล่อตระกูล นายกอบจ.กาฬสินธุ์ รศ.จิระพันธ์ ห้วยแสน อธิการบดีมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ นายจารุวัฒน์ บุญเพิ่ม นายกเทศมนตรีเมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอทั้ง 18 อำเภอ นักเรียน กลุ่มองค์กรสตรีทั้ง 18 อำเภอ และทุกภาคส่วนร่วมกิจกรรมกว่า 10,000 คน

ทั้งนี้กิจกรรมมีการขบวนธงและพานบายศรีหลวงเดินเข้าสู่สนาม การเป่าแคนลำนำ สำนึกชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จากนั้นนายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ นำเหล่าพสกนิกรชาว จ.กาฬสินธุ์ ประกาศเจตนารมณ์ เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จะจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และเทิดทูนไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยความบริสุทธิ์ใจ จะดำรงตนตามหลักปรัญญาของเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยการสืบสาน รักษา ต่อยอด และจะรู้รักสามัคคี สืบสานประเพณี ทำความดีทุกวัน ก่อนที่จะร่วมกันขับร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงสดุดีจอมราชอย่างกึกก้องทั่วท้องสนาม  

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมแสดงความจงรักภักดีของเครือข่ายพัฒนาชุมชนร้องเพลง “องค์เดียวในโลก” โดยนายธรีเมศท์ พลอาจทัง โรงเรียนเหล่ากลางวิทยายน การกล่าวสุนทรพจน์ หัวข้อ "ในหลวงในดวงใจ"โดยนางสาวทอฝัน อินทสอน ตัวแทนนักเรียนโรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ และนางเฉลิมขวัญ หล่อตระกูล นายกอบจ.กาฬสินธุ์ 

จากนั้นนางรำจากกลุ่มองค์กรสตรีและเครือข่ายสตรีจาก 18 อำเภอกว่า  10,000 คน ซึ่งต่างพร้อมใจกันแต่งกายด้วยชุดผ้าไทยและพื้นเมืองสีเหลืองร่วมฟ้อนรำถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ ยังได้มาให้ความรู้เกี่ยวกับฮีสโตรก และมีการจัดนิทรรการเฉลิมพระเกียรติ และจำหน่ายสินค้าโอทอปอีกด้วย

นายอุทัย สิงห์ทอง พัฒนาการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จ.กาฬสินธุ์ โดยภายใต้การนำของนายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ได้มอบหมายให้สำนักงานพัฒนาชุมชน จ.กาฬสินธุ์ ร่วมกับองค์กรสตรี ภาคีเครือข่ายในงานพัฒนาชุมชน หน่วยงานราชการทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง และผู้นำชุมชนจะจัดกิจกรรม “กาฬสินธุ์ รวมพลังสามัคคี ภักดี องค์ราชัน” เพื่อเป็นการร่วมแสดงความจงรักภักดี และนำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567การ ซึ่งการจัดกิจกรรมรวมพลังในครั้งนี้ เป็นที่น่าจดจำและประทับใจ เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่ไม่ได้ใช้งบประมาณจากทางราชการ แต่เป็นความร่วมมือความจงรักภักดีของชาวกาฬสินธุ์ทุกภาคส่วนที่ได้สนับสนุนการจัดงาน

มุกดาหาร -​กกล.สุรศักดิ์มนตรี ตรวจยึดยาบ้าล็อตใหญ่ 1.2 ล้านเม็ด อาวุธปืน 9 มม 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน 50 นัด และโดรนบิน 1 ลำ

เมื่อวานนี้ (22 ก.ค.67) พ.อ.อุทัย นิลเนตร รองเสนาธิการ กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี (กกล.สุรศักดิ์มนตรี) ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่ามีการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาพักไว้ในบ้านเลขที่ 63 ม.7 บ.ไผ่ล้อม ต.ป่งขาม อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร ได้แจ้ง ร.อ.อนุพงษ์ พรหมส่วน ผู้บังคับกองร้อยทหารราบ กองบังคับการควบคุมที่ 1 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร ประสานกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจังหวัดมุกดาหาร รุดไปตรวจสอบยังบ้านหลังที่ได้รับแจ้ง ขณะเข้าทำการตรวจค้น เจ้าของบ้านหลังดังกล่าวไม่อยู่บ้าน เจ้าหน้าที่สอบถามจากบ้านข้างเคียง ทราบชื่อเจ้าของบ้านคือนายบุญไตร​ (นามสมมุติ)ภรรยาชื่อนาง​นก เป็นชาวลาว 

จากการตรวจค้นที่ห้องนอนภายในบ้านพบกระสอบขนาดใหญ่จำนวน 6 กระสอบ เมื่อเปิดออกดูภายในพบว่าบรรจุยาบ้ากระสอบละ 200,000เม็ด รวมเป็นยาบ้าทั้งหมด 1,200,000 เม็ด นอกจากนั้นยังพบปืนพกขนาด 9 มม. ยี่ห้อ smith and wesson จำนวน 1 กระบอก กระสุน จำนวน 50 นัด พาสปอร์ตสัญชาติลาว 1 เล่ม และ โดรน Dji จำนวน 1 ตัว อยู่ภายในห้องนอนของนายอภิศักดิ์ ธิ์ (หรือแทน)​ ไหวตัวทัน หลบหนีไป ในขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลางทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.หว้านใหญ่ เพื่อสืบสวนสอบสวนขยายผลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นราธิวาส-รมช.มหาดไทย 'ชาดา' ลงพื้นที่นราฯ ชมวิสาหกิจชุมชนแฮนอินแฮนด์รือเสาะ สร้างงานสร้างคุณภาพชีวิต 200 ครอบครัว

ขณะที่ภาคประชาชนนราธิวาส ยื่นข้อเสนอเพิ่มศักยภาพสนามบินฮัจย์นราธิวาส เพิ่มเที่ยวบินลดต้นทุนสร้างเศรษฐกิจให้มั่นคง

ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่โรงงาน ผลิตภัณฑ์วิสาหกิจชุมชน Hand in Hand Ruso (แฮนด์ อิน แฮนด์ รือเสาะ) จังหวัดนราธิวาส นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซีกรัฐบบาล จังหวัด นายวิเชษฐ์ ไทยทองนุ่ม นายกเทศมนตรีตำบลรือเสาะ และเจ้าหน้าที่ส่วนเกี่ยวข้องและพนักงานวิสาหกิจชุมชน Hand in Hand Ruso (แฮนด์ อิน แฮนด์ รือเสาะ) ร่วมให้การต้อนรับ ทั้งนี้ รมช.มหาดไทย ได้เข้าไปรับฟัง การสร้างงานสร้างอาชีพ ของวิสาหกิจชุมชน ที่จ้างงานประชาชนในพื้นที่ จ.นราธิวาส ยะลา ปัตตานี รวม 200 ชีวิต เพื่อประกอบอาชีพตัดเย็บเสื้อผ้าที่ทันสมัย ออกจำหน่ายทั้งภายในและต่างประเทศ ที่มีคุณภาพ ทั้งเสื้อกางเกง สูท ทำงาน เสื้อชุดกีฬา และอื่นๆ อีกจำนวน ด้วยช่างฝีมือดีเป็นคนพื้นที่ สร้างอาชีพรายได้ ได้เป็นอย่างดี

ในการนี้ นายชาดา ไทยเศรษฐ์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงมือโชว์ทดลองตัดเย็บเสื้อผ้า ท่ามกลางรอมยิ้มของพนักงานอย่างเป็นกันเอง และได้ลองใส่เสื้อผ้าหลายแบบๆ ก่อนจะออกปากชมว่า เนื้อผ้าดี ตัดเย็บสวยงามประณีต ราคาจับต้องได้ เป็นวิสาหกิจที่น่าชื่นชม รัฐต้องส่งเสริมสนับสนุน เพื่อให้วิสาหกิจชุมชน Hand in Hand Ruso (แฮนด์ อิน แฮนด์ รือเสาะ)  จังหวัดนราธิวาส เกิดการสร้างงานให้ประชาชนต่อเนื่องและยั่งยืน สร้างงานสร้างอาชีพ สร้างรายได้ นำเงินใช้จ่ายในครอบครัว ปากท้องสำคัญ ตามนโยบายกระทรวงมหาดไทย “บำบัดทุกข์บำรุงสุข เพื่อประชาชน”

ขณะที่ทางด้าน ตัวแทนภาคประชาชนจังหวัดนราธิวาส ได้เข้าพบนายชาดา รมช.มหาดไทย เพื่อส่งหนังสือ ข้อเสนอแก้ปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ 5 ด้าน ซึ่งประเด็นสำคัญ ได้หยิบยกในส่วนของค่าเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ที่ประเทศซาอุดีอารเบีย ราคาที่แพงเกินไป จนปัจจุบันราคาอยู่ที่ 250,000 บาท ที่ไม่หยุดนิ่ง พร้อมให้มีเที่ยวบิน นราธิวาส ซาอุดีอารเบีย เที่วบินฮัจย์ จาก 5 เที่ยว เพิ่มเป็น 8-10 เที่ยวบิน เพื่ลดค่าใช้จ่ายพี่น้องประชาชนที่ต้องเดินทาง ขึ้นที่จังหวัดสงขลา ที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอกนอกพื้นที่ เป็นจำนวนรายได้มหาศาล 

ทั้งนี้นายชาดา รมช.ได้กล่าวว่า เราต้องเอาประเด็นนี้มาพูดคุยกันทำให้เกิดเอกภาพ ซึ่งต้องนำเรียนว่ารัฐบาลไทยที่ผ่านมาทุกรัฐบาล เป็นเวลาหลาย 10 ปีมาแล้วที่รัฐบาลไทยให้เงินกับชาวไทยมุสลิมสนับสนุนเรื่องการไปประกอบพิธีฮัจญ์ ซึ่งผมเองรู้สึกว่าไม่ถึงมือพี่น้องมุสลิม และไม่รู้ว่าไปตกหล่นอยู่ตรงไหน อีกอย่างราคามันก็ขึ้นไปทุกปี และผมเองจะพยายามให้ราคาการไปประกอบพิธีฮัจญ์อยู่ที่ 220,000 บาท และอย่างน้อยให้อยู่ระดับนี้ 4-5 ปี แต่ถึงจะขยับไปก็ต้องดูตามสภาพของเศรษฐกิจต่อไป ซึ่งถือว่าอันนี้เป็นหน้าที่ของผมในฐานะที่เป็นชาวไทยมุสลิมด้วย และเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และเห็นด้วยที่จะผลัดดันเพิ่มเที่ยวบินฮัจย์ที่นราธิวาส ล้วนถึง อีก 4 ข้อเสนอ ของสภาประชาชนจังหวัดจังหวัดนราธิวาส ที่ส่งเป็นหนังสือข้อเสนอ เพื่อพัฒนาและแก้ปัญหา จะนำไปพิจารณาดำเนินการต่อไป

จากนั้นมาวันเดียวกันนายชาดา ไทยเศรษฐ์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้พบปะประชาชนที่สวนกาญจนภิเษก เขตเทศบาลเมืองตำบลรือเสาะ บรรยากาศเป็นกันเอง ซึ่งได้รับการต้อนรับจากประชาชนอย่างคับคั่ง พร้อมกันนี้ รมช.มหาดไทย ได้ร่วมกวน อาซูรอ ร่วมกับประชาชน และมอบเงินรางวัล การแข่งประกวด อาซูรอสัมพันธ์ อ.รือเสาะ รางวัลที่ 1 จำนวน 2 หมื่น รางวัลที่ 2 จำนวน 1 หมื่นบาท และรางวัลที่ 3 จำนวน 5 พันบาท และชมเชย กว่า 20 ตำบล ชุมชนละ 200 บาท พร้อมใบประกาศจาก รมช.มหาดไทย ในส่วนกิจกรรมอาซูรอสัมพันธ์ ต้อนรับศักราชใหม่อิสลาม ฮิจเราะห์ศักราช 1446 เป็นการสืบสานประเพณีสำคัญของมุสลิมพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้สืบไป  

‘เศรษฐา’ ย้ำ!! ต้องดูแลความปลอดภัย ให้เจ้าหน้าที่ ระบุ ‘รัฐบาล’ พร้อมสนับสนุน ทางด้านอุปกรณ์

(22 ก.ค.67) ที่วัดยางสุทธาราม พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผบ.ตร.เปิดเผยหลังการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี ว่า นายกได้เน้นย้ำ เรื่องความปลอดภัย เพราะเป็นห่วง การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งนายกฯ พร้อมสนับสนุนอุปกรณ์ที่ขาดเหลือพร้อมที่จะจัดสรรให้ รัฐบาลมีนโยบายที่จะมอบค่าตอบแทนสำหรับการจับกุมโดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด โดยนายกฯได้เร่งรัดเรื่องนี้ให้ด้วย นอกจากนั้นได้เน้นย้ำยุทธวิธีในการเข้าควบคุมระงับเหตุ ต้องมีความปลอดภัยสูงสุด

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึง กรณีที่โลกโซเชียล เผยแพร่ภาพเสื้อเกราะที่ภายในเป็นไม้อัด ได้หารือกับนายกฯในเรื่องนี้หรือไม่ พลตำรวจโทสำราญกล่าวว่าประเด็นนี้ยังไม่ได้พูดคุยเนื่องจากเห็นผ่านจากโลกโซเชียลเท่านั้น

และเมื่อถามว่ากรณีที่กรรมาธิการตำรวจสภาผู้แทนราษฎรเตรียมเสนอกฎหมายการเข้าระงับเหตุหรือควบคุมสถานการณ์ ตำรวจได้พูดคุยกันเรื่องนี้หรือไม่ พล.ต.ท.สำราญ กล่าวว่า ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะสำเร็จหรือผิดพลาด จะถอดบทเรียนและนำไปอบรมผู้ใต้บังคับบัญชาที่ปฏิบัติหน้าที่

เมื่อถามว่าจะต้องแก้กฎระเบียบการปฏิบัติงานและการเผชิญเหตุหรือไม่ ผู้ช่วยผบ.ตร. กล่าวว่า การปฏิบัติงานทุกครั้งมีแผนรองรับ และทบทวนทุกครั้งไม่ว่าผลจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จก็ตาม

‘เศรษฐา’ บุก!! สน.ห้วยขวาง สั่งตรวจสอบ ป้ายโฆษณา ‘ขายพาสปอร์ต’ กำชับ!! จับ ‘จีนเทา-หนี้นอกระบบ-ยาเสพติด’ หากทำผิด ต้องรีบดำเนินการ

(22 ก.ค.67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปที่ สน.ห้วยขวาง เพื่อติดตามกรณีการขึ้นป้ายโฆษณาที่ประกาศขายพาสปอร์ตและให้สัญชาติ เป็นภาษาจีน โดยติดอยู่บริเวณแยกห้วยขวาง ถนนรัชดาภิเษก จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์ และต่อมาได้มีการถอดป้ายดังกล่าวออกไปแล้ว

โดยนายกฯ ยังได้กำชับผกก.สน.ห้วยขวาง เรื่องทุนจีนสีเทา รวมไปถึงเรื่องปัญหายาเสพติดในพื้นที่ ก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะออกเดินทางมาร่วมพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พล.ต.ท.กิตติ์ชนม์ จันยะรมณ์ รองผกก.ป.สน.ท่าข้าม ที่วัดยางสุทธาราม แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ 

ซึ่งก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะได้เดินทางออกไปนั้น ก็ยังได้สั่งให้มีการตรวจสอบถึงที่มาที่ไปการขึ้นป้ายโฆษณาดังกล่าวและหากมีความผิดตามกฎหมาย ให้ดำเนินการตามกระบวนการ นอกจากนั้น ยังสั่งให้ทางเจ้าหน้าที่เข้มงวด ในพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากเขตห้วยขวางมีการเข้ามาลงทุนทำธุรกิจของชาวจีนจำนวนมาก จึงอยากให้มีการเข้มงวดตรวจสอบทุกอย่างต้องดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย ขณะเดียวกัน ก็ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้มงวดเรื่องของยาเสพติดและเรื่องหนี้นอกระบบในพื้นที่ ที่รับผิดชอบด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top