Saturday, 28 June 2025
NEWS FEED

‘DE-BDI’ โชว์ความพร้อมแพลตฟอร์ม Health Link เชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ ‘โรงพยาบาล - คลินิก - ร้านยา’ มากกว่า 1,500 แห่ง รองรับการเดินหน้าโครงการ ‘30 บาทรักษาทุกที่’ เตรียมเพิ่มระบบ ‘ส่งต่อผู้ป่วย–การเบิกจ่าย’ ยกระดับบริการประชาชน

(27 ก.ย.67) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน 30 บาทรักษาทุกที่ เพื่อคนไทยสุขภาพดีถ้วนหน้า กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม น.ส. ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นพ. พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองประธานที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี 

ซึ่งร่วมให้เกียรติเยี่ยมชมบูทของสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI ภายในงานเปิดตัว 30 บาทรักษาทุกที่ เพื่อคนไทยสุขภาพดีถ้วนหน้า กรุงเทพมหานคร โดยมี รศ. ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ และนายแพทย์ธนกฤต จินตวร First Executive Vice President ให้การต้อนรับ และนำเสนอโครงการจัดทำระบบดิจิทัลและเทคโนโลยีเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพทั่วประเทศ (Health Link) เพื่อแสดงผลการดำเนินงานในส่วนการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพประชาชนของหน่วยบริการภายใต้ความร่วมมือกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และกรุงเทพมหานคร (กทม.) ล่าสุดได้ดำเนินการเชื่อมโยงข้อมูลในพื้นที่ กทม. มากกว่า 1,500 แห่ง ครอบคลุมทั้งโรงพยาบาล ศูนย์บริการธารณสุข คลินิกชุมชนอบอุ่น ร้านยาคุณภาพ และหน่วยนวัตกรรม ณ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า  กระทรวงดีอี ได้มอบนโยบายเชิงรุกเพื่อแก้ไขปัญหาสาธารณสุขที่กำลังส่งผลกระทบต่อประชาชน โดยสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI ที่มีภารกิจหลักในการดำเนินโครงการพัฒนาแพลตฟอร์มเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพระหว่างสถานพยาบาลทั่วประเทศ (Health Information Exchange: Health Link) เพื่อยกระดับการบริการสาธารณสุขและสนับสนุนนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ เพื่อคนไทยสุขภาพดีถ้วนหน้า  

ซึ่งเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลและกระทรวงดีอีที่ต้องการให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้อย่างไร้รอยต่อ ปัจจุบัน Health Link ได้ดำเนินการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพให้กับหน่วยบริการสาธารณสุขได้แล้วกว่า 1,500 แห่ง ในกรุงเทพมหานคร ประกอบไปด้วยโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร ศูนย์บริการสาธารณสุข และคลินิกบริการสุขภาพ อาทิ คลินิกชุมชนอบอุ่น ร้านยาคุณภาพ คลินิกเวชกรรม คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ คลินิกทันตกรรม คลินิกเทคนิคการแพทย์ คลินิกแพทย์แผนไทย คลินิกกายภาพบำบัด เป็นต้น ช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาล สามารถเข้ารับบริการจากหน่วยบริการใกล้บ้านได้อย่างสะดวก รวดเร็ว 

นายประเสริฐ กล่าวว่า กระทรวงดีอีมีความตั้งใจที่จะขยายการเชื่อมโยงไปยังหน่วยบริการในท้องถิ่น เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการสาธารณสุขอย่างทั่วถึง เพิ่มความรวดเร็วในการรักษา ลดความซ้ำซ้อนในการเบิกจ่ายยา และช่วยเหลือชีวิตของผู้ป่วยได้ทันท่วงที ยกระดับระบบสาธารณสุขไทยได้อย่างยั่งยืน จากความสำเร็จของโครงการ Health Link ในวันนี้ กระทรวงดีอีพร้อมสนับสนุนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องของ BDI และภาคีเครือข่าย พร้อมผลักดันเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดียิ่งขึ้น

ขณะที่ รศ. ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า สำหรับโครงการจัดทำระบบดิจิทัลและเทคโนโลยีเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพทั่วประเทศ หรือ ระบบ Health Link เป็นความร่วมมือระหว่าง สปสช. และ กทม. ในการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพประชาชนของทุกหน่วยบริการด้านสุขภาพเพื่อรองรับโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ถือเป็นก้าวสำคัญของการขับเคลื่อนข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อเป็นประโยชน์ และเสริมสร้างประสิทธิภาพด้านสุขภาพสู่ภาคประชาชน โดยได้นำร่องเชื่อมโยงข้อมูลในพื้นที่ กทม.

ทั้งนี้การดำเนินงานไม่ใช่การรวมศูนย์ข้อมูล แต่เป็นการแลกเปลี่ยนเชื่อมโยงภายใต้มาตรฐานกลาง โดยหน่วยบริการสาธารณสุขสามารถเปิดดูประวัติการรักษาที่ได้รับการยินยอมจากผู้เข้ารับการรักษาได้ผ่านระบบสารสนเทศโรงพยาบาล (HIS) และระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพ HIE Web portal ผ่านระบบ Health Link

สำหรับงานเปิดตัว 30 บาทรักษาทุกที่ เพื่อคนไทยสุขภาพดีถ้วนหน้า กรุงเทพมหานคร นอกจาก BDI จะร่วมแสดงผลการดำเนินงานและแสดงแดชบอร์ด (Dashboard) การจัดทำฐานข้อมูลการตรวจสุขภาพอย่างเต็มระบบแล้ว ยังได้สาธิตความพร้อมของระบบเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยบริการเพื่อรองรับโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ ในพื้นที่กรุงเทพฯ พร้อมรายงานภาพรวมการเชื่อมโยงข้อมูล และนำเสนอแผนการดำเนินงานโครงการ Health Link ต่อ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ประกอบด้วยขยายการเชื่อมต่อหน่วยบริการใน กทม. ให้ครอบคลุมทั้งสำหรับหน่วยบริการในปัจจุบันและหน่วยบริการที่สมัครเข้าร่วมโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ในอนาคต , การคืนประวัติการรักษาให้กับประชาชน ผ่านการเชื่อมต่อ API ข้อมูลสุขภาพจาก Health Link ไปยังแอปพลิเคชัน PHR (Personal Health Record – ระเบียนสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ส่วนบุคคล) ของหน่วยงานต่าง ๆ

ทำให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลสุขภาพของตัวเองได้อย่างง่ายดาย , ระบบการรับส่งต่อผู้ป่วย (Refer) เพื่อขยายการเชื่อมข้อมูลสุขภาพให้รองรับการส่งต่อผู้ป่วย เพื่ออำนวยความสะดวกในการส่งต่อการรักษาและประวัติการรักษา นำร่องในพื้นที่เขตกรุงเทพมหานครทั้งคลินิกชุมชนอบอุ่น ศูนย์บริการสาธารณสุข และโรงพยาบาลในสำนักการแพทย์ และเพิ่มประสิทธิภาพระบบเบิกจ่าย ด้วยการพัฒนา AI ช่วยตรวจสอบความผิดปกติของการเบิกจ่าย รวมถึงการเชื่อมข้อมูลจากระบบ Health Link เข้ากับระบบตรวจสอบของ สปสช. เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการตรวจสอบ ส่งผลให้กับหน่วยบริการสามารถเบิกจ่าย (Claim) ได้เร็วขึ้น

“เรามีความพร้อมในการเป็นส่วนหนึ่งของการเชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบ Health Link เพื่อรองรับการให้บริการในโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่กรุงเทพฯ และเราเชื่อมั่นว่าความร่วมมือนี้นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการยกระดับการบริการด้านสุขภาพของคนไทยอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อคนไทยมีสุขภาพดีถ้วนหน้า และแสดงให้เห็นถึงความสำคัญและพลังของ Big Data ที่สามารถนำมาขยายการดำเนินงานให้กับทุกภาคส่วนได้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด นำไปสู่การพัฒนาและขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป” สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) กล่าวย้ำ 

‘มท.1 - ผบ.ทบ.’ ลงนาม MOU ถอนทหารจากพื้นที่ชายแดนใต้ ปี 70 เสริมทักษะกองกำลังอาสาฯ ดูแลความปลอดภัย ปชช. ลดภารกิจทหาร

(27 ก.ย. 67) ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะ รอง ผอ.รมน. ร่วม เป็นประธานร่วมพิธีลงนาม MOU เรื่องเสริมสร้างประสิทธิภาพอาสาสมัครจังหวัดชายแดนภาคใต้ (อส.จชต.) ระหว่างกระทรวงมหาดไทย กับ กอ.รมน.

นายอนุทิน กล่าวว่า การลงนามเอ็มโอยูวันนี้เป็นการแสวงหาความร่วมมือระหว่าง กระทรวงมหาดไทยและ กอ.รมน. ฝึกฝน ทักษะที่กองทัพบกมีให้แก่กองกำลังอาสาของกระทรวงมหาดไทยซึ่งมีแผนให้เข้ามาทำหน้าที่ลดภารกิจของทหาร ดูแลความปลอดภัยประชาชนตั้งแต่ปี 2570 เป็นต้นไป โดยกองกำลังอาสามาจากคนในพื้นที่เพราะมีความคุ้นเคยกับประชาชนอยู่แล้ว

นายอนุทิน กล่าวย้ำว่า กองกำลังอาสาเดิมมีทักษะตัวเองอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องเสริมความสามารถในการป้องกันตัวเองดูแลความสงบเรียบร้อย ซึ่งต้องอาศัยการฝึกฝนและได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองทัพบกจัดส่งครูฝึก ผู้เชี่ยวชาญมาฝึกให้ ตนและ ผบ.ทบ.ลงพื้นที่สังเกตการณ์หลายครั้งมีพัฒนาการดีขึ้นเรื่อย ๆ มีความมั่นใจในการปฏิบัติงาน เมื่อถึงเวลากระจายงานให้ปฏิบัติ โดยมีบทบาทหน้าที่ครอบคลุมทุกด้าน

ด้าน พล.อ.เจริญชัย กล่าวเสริมว่า การปฏิบัติงานพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ดำเนินการร่วมกันระหว่าง พลเรือน ตำรวจ ทหาร ในรูปแบบ กอ.รมน. และเมื่อถึงเวลาเหมาะสมและสถานการณ์เรียบร้อยตามแผนปี 2570 จะมอบพื้นที่ให้กรมการปกครอง อาสาสมัคร ตำรวจ ดูแล ในระหว่างนี้เป็นการเตรียมการไปถึงจุดเราคาดหวังแล้วหรือไม่ หากสถานการณ์ดีขึ้น เหมาะสมเป็นไปตามแผน แต่ให้ไม่ดีขึ้นก็อยู่ที่รัฐบาลจะพิจารณา พร้อมยืนยันว่าอาสาสมัครมีพื้นฐานที่ดี แต่การทำงานร่วมกันต้องฝึกร่วมเพื่อให้คุ้นเคยในการทำงานที่ดี อาสาสมัครเป็นเครื่องมือรัฐบาลในการดูแลความปลอดภัยประชาชนและเป็นที่พึ่งในทุกโอกาสรวมถึงบรรเทาสาธารณภัย

ย้อนคำ 'ชาวเน็ต' ติง 'อาจารย์ มช.' เจ้าของวลี "สี่คนโอบก็งอกใหม่ได้" ทั้งที่กว่าต้นไม้จะโตใหม่ถึง 3-4 คนโอบได้ ต้องใช้เวลา 50-100 ปี

เมื่อวานนี้ (26 ก.ย.67) จากเฟซบุ๊ก 'Pinkaew Laungaramsri' โดย รศ.ดร.ปิ่นแก้ว เหลืองอร่ามศรี อาจารย์ประจำภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้โพสต์ภาพตัวบ้านของตนที่กำลังถูกน้ำท่วมพร้อมข้อความ ระบุว่า..."ข้างบ้านโทรมาให้กลับบ้านด่วน"

ทั้งนี้ หากย้อนไปเมื่อวันที่ 17 มี.ค. 64 ทวิตเตอร์ @pinkaewl ของ รศ.ดร.ปิ่นแก้ว เหลืองอร่ามศรี อาจารย์ประจำภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โพสต์ข้อความระบุว่า “ทีหลังเวลาถ่ายรูปไร่หมุนเวียน อย่าเอาแต่ถ่ายรูปสร้างภาพเฉพาะช่วงเผาไร่ เอาไฟมาสร้างอิมเมจทำลายป่า หัดถ่ายรูปตอนหน้าฝน ที่ชาวบ้านเขาปลูกข้าว ปลูกพืชพื้นเมืองหลายชนิดที่ทรงคุณค่าต่อระบบนิเวศ ส่วนไม้ที่ตัดฟันลงมา เขาเหลือตอไว้สูงพอที่จะแตกหน่อออกใบเป็นป่าในปีต่อ ๆ ไป”

เมื่อมีชาวเน็ตรายหนึ่งถามว่า “ทรงคุณค่าแบบต้องตัดต้นไม้ขนาดสามคนโอบ?” รศ.ดร.ปิ่นแก้วตอบกลับว่า “สี่คนโอบก็งอกใหม่ได้” สร้างความฮือฮาแก่ชาวเน็ตที่พบเห็น เพราะกว่าต้นไม้จะเติบโตขึ้นมาใหม่ให้มีขนาด 3-4 คนโอบ ต้องใช้เวลาเติบโตมากถึง 50-100 ปี

สมุทรปราการ-'สุนทร ปานแสงทอง' อดีตรัฐมนตรีช่วย ส่งใจถึงต่างแดน ทำบุญวันคล้ายวันเกิดให้พ่อใหญ่ 'วัฒนา อัศวเหม'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (26 ก.ย.67) นายสุนทร ปานแสงทอง อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธี จัดพิธีทำบุญเลี้ยงพระเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิด ครบรอบ 88 ปี ท่าน วัฒนา อัศวเหม อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และอดีตหัวหน้าพรรคราษฎร 

ซึ่งพิธีทำบุญเลี้ยงพระเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดของท่าน วัฒนา อัศวเหม ในปีนี้ มีทางผู้นำท้องถิ่น หัวหน้าส่วนราชการ คณะสมาชิกสภาและทีมสมุทรปราการก้าวหน้า ร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก โดยงานถูกจัดขึ้นภายในวัดสร่างโศก ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ โดยได้นิมนต์พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ จากวัดต่างๆ มาร่วมประกอบพิธีเจริญชัยมงคลคาถาเพื่อความเป็นสิริมงคล อาทิเช่น พระครูสุคนธ์กิจจานุยุต เจ้าคณะตำบลบางพลีน้อย เจ้าอาวาสวัดหอมศีล พระครูโสภณสุตาธาร เจ้าคณะตำบลคลองด่าน เขต 1 เจ้าอาวาสวัดปานประสิทธาราม พระครูสังวรวิมลกิจ เจ้าคณะตำบลคลองด่าน เขต 2 เจ้าอาวาสวัดแจ่มราษฎร์ฯ สีล้ง และพระครูปลัดพรชัย เจ้าอาวาสวัดสร่างโศก เป็นต้น 

โดยทางด้านนาย สุนทร ปานแสงทอง อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ในวันนี้ตัวผมและทางครอบครัวอัศวเหม นำโดย นายอัครวัฒน์ อัศวเหม นายต่อศักดิ์ อัศวเหม อดีต สส.สมุทรปราการ นายวรพร อัศวเหม อดีตประธานสภาเทศบาลตำบลบางปู นางสาวนันทิดา แก้วบัวสาย นายก อบจ.จังหวัดสมุทรปราการ นางประภาพร อัศวเหม นายกเทศมนตรีนครสมุทรปราการ และขอขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน อาทิ นายฉะโอด รุ่งเรือง อดีตนายก อบต.บางพลีใหญ่ ดร.พัฒนพงศ์ จงรักดี นายกเทศมนตรีตำบลบางพลี นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก อดีต ส.ส.สมุทรปราการ นางสาวชนม์ทิดา อัศวเหม นางสาวพิม อัศวเหม และคณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ สมาชิกสภา อบจ.สมุทรปราการ สมาชิกสภาเทศบาล กลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า ที่เดินทางมาร่วมในงานทำบุญในครั้งนี้

‘แม่ตั๊ก’ เบี้ยวนัด ‘สคบ.’ ปมขายทอง อ้าง!! รอคืนเงินลูกค้า เตรียมเรียกครั้งที่ 2 หากไม่มาจะดําเนินคดีตามกฎหมาย

(27 ก.ย. 67) นายเลิศศักดิ์ รักธรรม ผู้อํานวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา เปิดเผยกรณีส่งหนังสือให้ ‘แม่ตั๊ก กรกนก’ เข้าพบเจ้าหน้าที่ สคบ. เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นขายทอง ว่า ทาง สคบ. ได้นัดให้ทางแม่ตั๊กเข้ามาพบเวลา 09.00 น. แต่ปรากฏว่ามีตัวแทนแจ้งเข้ามาขอเลื่อนนัด โดยให้เหตุผลว่าต้องการคืนเงินลูกค้าที่นําทองมาขายคืนให้เรียบร้อยก่อน

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะพิจารณาดูความเหมาะสมเหตุที่ขอเลื่อน เพราะการฝ่าฝืนหนังสือเรียกตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภคฯ มีโทษปรับ และจําคุก หลังจากนี้ สคบ. จะส่งหนังสือเรียกรอบที่ 2 หากไม่มาจะส่งดําเนินคดีตามกฎหมาย และจะต้องเดินทางเข้ามาชี้แจงด้วยตัวเอง ไม่สามารถส่งตัวแทนเข้ามาชี้แจงแทนได้

สําหรับผลการเก็บตัวอย่างทองที่ร้านของแม่ตั๊ก คาดว่าจะรู้ผลภายในสัปดาห์หน้า ส่วนจะเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนหรือไม่ อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล ซึ่งมีการทํางานร่วมกับตํารวจ ปคบ. ในการแลกเปลี่ยนข้อมูล

ส่วนของตัวเลขผู้เสียหายนั้น เมื่อวานนี้มีผู้เสียหายประมาณ 45 คน เชื่อว่าหลังจากนี้จะทยอยเดินทางเข้ามาเรื่อย ๆ ซึ่งผู้เสียหายที่อยู่ต่างจังหวัด และต่างประเทศ สามารถร้องเรียนผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ OCPB Connect พร้อมแนบเอกสารการซื้อ-ขายให้ครบถ้วน

สวนนงนุชพัทยา จัดให้อีกนิสิตนักศึกษามหาวิทยาลัยลด50% สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยเข้าชมพิพิธภัณฑ์พระฟรีตลอดเดือนตุลาคม

สวนนงนุชพัทยาโดย นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา มอบสิทธิพิเศษให้นิสิตนักศึกษาระดับอนุปริญญาถึงปริญญาตรี ซื้อบัตรผ่านประตูเที่ยวชมสวน(walk in )ลด 50% อีกหนึ่งเดือน เพียงแสดงบัตรประจำตัวนิสิตนักศึกษา ณ จุดให้บริการ และนักท่องเที่ยวชาวไทยได้สิทธิเข้าชมพิพิธภัณฑ์พระพุทธคุณ แหล่งรวบรวมพระเก่าแก่ล้ำค่าของชาติฟรีตลอดเดือนตุลาคม 2567

พิพิธภัณฑ์พระพุทธคุณมีเจตนารมณ์ในการจัดสร้างเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ ต้องการให้เด็ก เยาวชน และผู้มีความสนใจเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ได้เข้ามาเยี่ยมชมศึกษาพระพุทธรูป พระเครื่อง สมบัติอันเก่าแก่ และเป็นสื่อกลางที่ทำให้เด็กรู้สึกชอบในเรื่องของพระพุทธศาสนา

โปรโมชั่นอื่นเด็กที่มีความสูงไม่เกิน140ซม.ที่มากับครอบครัว และผู้พิการนั่งรถเข็นพร้อมผู้ติดตามเข้าฟรีทุกวัน ผู้สูงอายุ (มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป)เข้าชมสวนฟรีทุกวันศุกร์ สำหรับท่านที่สนใจชมการแสดงนงนุชโชว์ และการแสดงของน้องช้างแสนรู้ มีการแสดงวันละ 4 รอบ ณ โรงละครสกาลานงนุชพัทยาโดยเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ เวลา 08.00-18.00 น. สามารถสอบถามรายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่  www.nongnoochpattaya.com 

สนง. เลขาธิการวุฒิสภา จัดพิธีอำลาราชการ เนื่องในโอกาสเกษียณอายุราชการ ประจำปี 2567

เมื่อวานนี้ (26 ก.ย.67) เวลา 13.30 นาฬิกา ณ ห้องรับรองสมาชิกวุฒิสภา ชั้น 2 อาคารรัฐสภา (ฝั่งวุฒิสภา) สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา จัดพิธีอำลาราชการ เนื่องในโอกาสเกษียณอายุราชการ ประจำปี 2567 ของข้าราชการ และลูกจ้างประจำของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา รวมจำนวนทั้งสิ้น 17 คน โดยมี นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย พลเอก เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง นายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง สมาชิกวุฒิสภา นางสาวนภาภรณ์ ใจสัจจะ เลขาธิการวุฒิสภา และผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ร่วมในพิธี และมีนายรุ่งธรรม เปรมมางกูร ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานกลาง กล่าวรายงาน

โอกาสนี้ ประธานวุฒิสภา พร้อมด้วยรองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง และรองประธานวุฒิสภา คนที่สอง ได้กล่าวให้โอวาทเนื่องในโอกาสเกษียณอายุราชการของเลขาธิการวุฒิสภา และบุคลากรของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา พร้อมทั้งได้มอบพระพุทธรูปปางเปิดโลก และสลากออมสินให้แก่ผู้เกษียณอายุราชการเพื่อเป็นที่ระลึกด้วย

สำหรับในปีนี้มีข้าราชการ และลูกจ้างประจำของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาที่เกษียณอายุราชการ รวมจำนวนทั้งสิ้น 17 คน ประกอบด้วย 
1. นางสาวนภาภรณ์ ใจสัจจะ เลขาธิการวุฒิสภา (นักบริหารสูง) 
2. นายวัลลภ หมู่พยัคฆ์ ผู้บังคับบัญชากลุ่มงาน (นักวิชาการโสตทัศนศึกษาเชี่ยวชาญ) กลุ่มงานโสตทัศนูปกรณ์ สำนักประชาสัมพันธ์ 
3. นายประธาน ทิพยกะลิน ผู้บังคับบัญชากลุ่มงาน (วิทยากรเชี่ยวชาญ) กลุ่มงานวิจัยและข้อมูล สำนักวิชาการ 

4. นางสาวลัดดาวัลย์ สมบูรณ์กิจชัย ผู้บังคับบัญชากลุ่มงาน (นิติกรเชี่ยวชาญ) กลุ่มงานบริการเอกสารอ้างอิงในการประชุมกรรมาธิการ สำนักกรรมาธิการ 1 
5. นางมณฑาทิพย์ กรีมหา ผู้บังคับบัญชากลุ่มงาน (นิติกรเชี่ยวชาญ) กลุ่มงานคณะกรรมาธิการการแรงงานและสวัสดิการสังคม สำนักกรรมาธิการ 3 
6. นางสาวศิริพร ภิญโญสิริธร ผู้บังคับบัญชากลุ่มงาน (วิทยากรชำนาญการพิเศษ) กลุ่มงานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักกรรมาธิการ 3 

7. นายสมชาย ชัยเชษฐ์ดำรงกุล นักวิชาการคอมพิวเตอร์ชำนาญการพิเศษ กลุ่มงานวิทยาการคอมพิวเตอร์ สำนักเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 
8. นายกวี จันทจิราภา นิติกรชำนาญการพิเศษ กลุ่มงานคณะกรรมาธิการวิสามัญ 5 สำนักกรรมาธิการ 3 
9. นางมนทิรา ยอมเจริญ ผู้บังคับบัญชากลุ่มงาน (เจ้าพนักงานธุรการอาวุโส) กลุ่มงานบริหารทั่วไป สำนักกรรมาธิการ 1 
10. นางวิมล แจ้งอัตถะ ผู้บังคับบัญชากลุ่มงาน (เจ้าพนักงานชวเลขอาวุโส) กลุ่มงานชวเลข 2 สำนักรายงานการประชุมและชวเลข 
11. นางสาวภาวิณีย์ ปิ่นอ่อน เจ้าพนักงานธุรการอาวุโส กลุ่มงานโสตทัศนูปกรณ์ สำนักประชาสัมพันธ์ 
12. นายวงศ์วิศว์ ช้างสุวรรณ เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภาอาวุโส กลุ่มงานรักษาความปลอดภัย สำนักบริหารงานกลาง 

13. นางสาวชฎาพันธ์ สุขสัมพันธ์ เจ้าพนักงานธุรการอาวุโส กลุ่มงานบริหารทั่วไป สำนักการคลังและงบประมาณ 
14. นางกิจจา ฟักจันทร์ เจ้าพนักงานธุรการอาวุโส กลุ่มงานบริหารทั่วไป สำนักวิชาการ 
15. นายคมสัน นิคมคณารักษ์ นิติกรชำนาญการ กลุ่มงานบริการเอกสารอ้างอิงในการประชุมกรรมาธิการ สำนักกรรมาธิการ 1 
16. นางสาววรณธร หงส์จรรยา นักทรัพยากรบุคคลชำนาญการ กลุ่มงานส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรม สำนักพัฒนาทรัพยากรบุคคล 
17. นายบุญเสริม ยอดราช พนักงานขับรถยนต์ ระดับ ส2/หัวหน้ากลุ่มงานยานพาหนะ สำนักการคลังและงบประมาณ

'ผู้ช่วยฯไมค์' ตระเวณตรวจเยี่ยม สนองนโยบาย ตร.จัดสรรงบฯ มอบให้ใช้ปรับปรุงห้องเก็บอาวุธให้กับ 3 สภ.

เมื่อวานนี้ (26 ก.ย.67) เวลา 11.30 น. พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร.(บร 1) เปิดเผยว่า ตนพร้อมด้วย- พล.ต.ต.ไพศาล พฤกษจำรูญ ผบก.ภ.จว.อ่างทอง- พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ สว่างงาม รอง ผบก.ฯ ปรก.สง.ผู้ช่วย ผบ.ตร.- พ.ต.อ.สมพล ใจดี รอง ผบก.ฯ ปรก.สง.ผู้ช่วย ผบ.ตร.

ตามที่ ตร. ได้อนุมัติจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 สำหรับใช้ปรับปรุงห้องเก็บอาวุธให้กับ สถานีตำรวจต่างๆ ในสังกัด ตำรวจภูธรจังหวัดอ่างทอง จำนวน 3 สถานี ได้แก่

1.สภ.เมืองอ่างทอง (สถานีตำรวจขนาดใหญ่)ได้รับจัดสรร 495,000 บาท 
2.สภ.ป่าโมก (สถานีตำรวจขนาดกลาง) 
ได้รับจัดสรร 444,000 บาท 
3.สภ.เกษไชโย (สถานีตำรวจขนาดเล็ก) ได้รับจัดสรร 491,000 บาท ซึ่งภ.จว.อ่างทองได้ดำเนินการปรับปรุงเสร็จเรียบร้อยแล้วทั้ง 3 สถานี  

พล.ต.ท.นิรันดร กล่าวว่า ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยม ผลการดำเนินการปรับปรุงห้องเก็บอาวุธของสถานีตำรวจ (ต้นแบบ) ทั้ง 3 สภ. ดังมี สภ.ป่าโมก สภ.เมืองอ่างทอง ,สภ.เกษไชโย 

โดยมี หัวหน้าสถานีตำรวจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าโมก สภ.เมืองอ่างทอง และสภ.เกษไชโย รอรับการตรวจเยี่ยมตามลำดับ จึงได้กำชับให้จัดเก็บอาวุธให้เป็นระเบียบและหมั่นบำรุงรักษาห้องเก็บอาวุธ อาวุธปืน รวมทั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้อยู่ในสภาพที่ดีพร้อมใช้งานอยู่เสมอ 

ต่อนี้หลังจากที่อ่างทองยังมีอีก 24 สภ ใน ภ 2-8 ที่ไดรับจัดสรรงบประมาณไปดำเนินการเป็นนำร่องของภาค ทำแล้วเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่แออัด มีมาตรฐานและมีความปลอดภัยมากขึ้นครับ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากที่ส่งคืนปืนเก่าที่จำหน่ายแล้วไปเก็บรักษาที่คลังอาวุธของ สพ.ที่หุบสบู่ ช่วยลดความแออัดได้มาก ทั้งนี้ยังมีแผนจะเสนอให้ทำเพิ่มเติมในปี งปม 68 อีกจำนวนหนึ่ง และหลังจากนั่นจะทยอยปรับปรุงจนครบตามร้องขอต่อไป” ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าว

'ปตท.' ชวนชมนิทรรศการ 'พลังที่ส่งต่อ' ฟรี!! ตลอดเดือนตุลาคม ส่งเสริมโอกาสด้านศิลปะจากพลังไทยรุ่นใหม่ที่มีคุณค่าต่อสังคม

✨พลังที่ส่งต่อ!! ปตท. มอบรางวัลประกวดศิลปกรรม 'พลังที่ส่งต่อ' ครั้งที่ 39 ส่งเสริมเวทีแห่งโอกาสด้านศิลปะ ก้าวสู่พลังไทยรุ่นใหม่ที่มีคุณค่าต่อสังคม พร้อมชวนร่วมชื่นชมและให้กำลังใจ ผลงานของศิลปินผ่านนิทรรศการ 'พลังที่ส่งต่อ' ได้ที่ PTT Art Gallery ณ บ้านเจ้าพระยา ถ.พระอาทิตย์ กรุงเทพมหานคร ตลอดเดือนตุลาคม 2567 โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม

ไม่นานมานี้ ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดศิลปกรรม ปตท. ครั้งที่ 39 ประจำปี 2567 ในหัวข้อ 'พลังที่ส่งต่อ' รวม 24 รางวัล และรางวัลประติมากรรมสื่อผสมจากวัสดุเหลือใช้ 'ชลวิถี นทีพัฒน์' เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จำนวน 3 รางวัล เพื่อส่งต่อพลังใจให้กับศิลปินที่รังสรรค์ผลงาน ให้เติบโตเป็นบุคลากรชั้นนำในวงการศิลปะ

ดร.คงกระพัน กล่าวว่า ตลอด 39 ปีที่ผ่านมา ปตท. ร่วมกับมหาวิทยาลัยศิลปากร สนับสนุนเวทีแห่งโอกาสในการสร้างศิลปินรุ่นใหม่ผ่านโครงการประกวดศิลปกรรม เพื่อให้เยาวชนรวมถึงกลุ่มคนรักศิลปะได้สร้างสรรค์ผลงานทั้งประเภทจิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ และทัศนศิลป์อื่นๆ ซึ่งในปีนี้ได้กำหนดหัวข้อการประกวดคือ 'พลังที่ส่งต่อ' เพื่อให้ศิลปินได้ถ่ายทอดผลงานที่จะสร้างกำลังใจและพลังให้กับคนไทยในการขับเคลื่อนประเทศและในปีนี้เป็นปีแรกที่เปิดรับผลงานประเภทดิจิทัลอาร์ต 2 มิติ โดยมีผู้ส่งผลงานเข้าประกวดทุกประเภทรวมทั้งสิ้น 1,126 ชิ้น จากศิลปิน 1,065 คน แบ่งเป็นรางวัลยอดเยี่ยม (PTT Art Grand Prize Award) และรางวัลดีเด่น (PTT Art Winner Awards) รวม 24 ผลงาน 

นอกจากนี้ ปตท. ยังได้จัดการประกวดประติมากรรมสื่อผสมจากวัสดุเหลือใช้ 3 มิติ ภายใต้หัวข้อ 'ชลวิถี นทีพัฒน์' เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ที่ทรงสืบสาน รักษาและต่อยอด พระราชทานโครงการพัฒนาแหล่งน้ำแก่ราษฎร พัฒนาสายน้ำหลากหลายสายให้กลับคืนมาใช้ประโยชน์ได้อีกครั้ง เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีศิลปินร่วมส่งผลงาน 81 ราย รวมจำนวนผลงานแบบเดี่ยวและกลุ่ม 41 ชิ้น โดยได้คัดเลือกผู้ชนะจำนวน 3 รางวัล

การประกวดศิลปกรรม ปตท. นับเป็นหนึ่งใน Soft Power ที่ผ่านทัศนคติและการตัดสินจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของวงการศิลปะไทย  ทั้งยังได้ร่วมพัฒนาวงการศิลปกรรมร่วมสมัยของประเทศ ด้วยการเผยแพร่ผลงานการประกวดต่อสาธารณชน เพื่อกระตุ้นให้เกิดความตระหนัก เข้าใจถึงความสำคัญในการร่วมสืบสาน และจรรโลงสังคมไทยให้มีวัฒนธรรมที่ดีงามและยั่งยืน โดย ปตท. ยังเชื่อมั่นว่าศิลปะจะช่วยพัฒนาศักยภาพของเยาวชนให้มีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อก้าวเป็นพลังไทยรุ่นใหม่ที่มีคุณค่าต่อสังคม 

ทั้งนี้ ปตท. ขอเชิญชวนร่วมชื่นชมและให้กำลังใจ ผลงานของศิลปินที่ได้รังสรรค์ผ่านนิทรรศการ 'พลังที่ส่งต่อ' ได้ที่ PTT Art Gallery ณ บ้านเจ้าพระยา ถ.พระอาทิตย์ กรุงเทพมหานคร ตลอดเดือนตุลาคม 2567 โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม

‘สาว’ แชร์ประสบการณ์ช็อก!! เจองู 7 ตัวซุกในแอร์ห้องนอน หลังได้ยินเสียงกุกกักนานนับเดือน แนะ!! หมั่นสังเกตกันบ่อยๆ

(27 ก.ย. 67) ผู้ใช้ติ๊กต็อก @honeybeediary โพสต์แชร์ประสบการณ์เจองูอาศัยอยู่ในแอร์ถึง 7 ตัว หลังจากได้ยินเสียงกุกกักภายในแอร์ห้องนอนนานเป็นเดือน

โดยระบุว่า บันทึกประสบการณ์ตรง! ใครจะเชื่ออะไรมันอยู่ในแอร์ห้องนอนเรา แล้วเค้าอาศัยกันได้ไง 7 ชีวิต omg เรื่องจริง ๆ ของเราที่เจอเองมากับตัว... ตอนแรก ก็อยากบอกให้แค่เพื่อนที่รู้จัก แต่เราคิด ๆ ไป บางทีการที่ได้เแชร์เล่าให้เพื่อน ๆ ใน Tiktok ได้รู้ เพื่อเป็นการเตือนภัย หรือเฝ้าระวัง ใครไม่เคยสังเกตลองมองช่องแอร์ หรือได้ยินเสียงอะไรในแอร์ อย่าปล่อยทิ้งไว้ละเลย หรือรอเก็บหลักฐานจนนานแบบผึ้งนะคะ เหตุการณ์นี้เกิดมานานแล้วครบ ปีพอดี แต่ยังจำฝังใจเสมอมา

เพราะอันตรายมาก ๆ ปกติคือ ใช้อย่างเดียวแค่ เปิด-ปิด นอน ตื่นไปทำงาน เอาตรง ๆ ตอนนี้เราเองก็ยังหลอนไม่กล้านอนเปิดแอร์เลยเพราะ เปิดทีไรก็กลัวทุกที หวังว่า คลิปนี้ที่แชร์จะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ทุกคนนะคะ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top